ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #62 : Ep.62 - Silly

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.88K
      89
      17 ก.พ. 60

    UNagain.62 – Silly

    ทั้งหมดตรง!”

    ฮ่ะห์..!”

    เสียงตอบรับกังวานก้อง เบื้องหน้าเกลตอนนี้คือเหล่าทหารกล้าจำนวนเกือบ 500 นายในชุดเครื่องแบบสีชาแบบเขียวขี้ม้า คนเหล่านี้เป็นทหารยศผู้ตรวจการอันเป็นยศชั้นเลวของที่นี่

    ตรงหน้ากองร้อยนี้เผยให้เห็นผู้นำหญิงคนหนึ่ง เธอมีผมสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าเต่ง คิ้วเรียวดูอ่อนวัย หากคาดการณ์อายุก็คงราวๆ 17-18 หรือมากกว่านั้น กลางอกของเธอมีตราผู้พิทักษ์กำกับอยู่

    ———ใบหน้านั้นต่างไปจากเดิมเล็กน้อย

    แต่เกลก็จำได้ว่าเธอคือเอแคลร์ ลูกศิษย์หมายเลขหนึ่งของฮิรา!

    ฟังให้ดี! ชั้นไม่รู้ว่าคุณเป็นใครมาจากไหน แต่หากคุณอยู่ใต้บังคับบัญชาของชั้น ไม่ว่าใคร! ก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านหรือต่อต้านเด็ดขาด! เข้าใจไหม!?”

    ฮ่าห์!”

    .........

    นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย?

    ———ชีวิตเรานับวันชักจะพิลึกขึ้นเรื่อยๆแล้วนา ตกนรกทั้งทีแทนที่จะชดใช้กรรมตามปกติ ดันมีเวทย์วิชาอาคมยังกะดร.สเXรนท์ แล้วไหนจะมีกลุ่มมหาอำนาจนั่นโน่นนี่ และแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดได้อีก ให้ตายสิ! ล่าสุดก็ถึงขั้นถูกหมอเถื่อนเย็บหน้าเป็นโมนาลิซ่า MK-II มาแล้วด้วย

    .....คราวนี้ก็เป็นฝึกค่ายทหารเหรอ?

    เฮ้อ~” พอคิดอย่างนั้น เกลก็ถอนหายใจเฮือกอย่างหมดอาลัยตายอยาก

    พลทหารตรงนั้น!”

    .....หืม?” เกลเลิกคิ้วขึ้นพลางหันซ้ายแลขวา

    แกนั่นแหละเจ้าเซ่อโพกผ้าพันแผล! ใครใช้ให้แกมายืนหาววอดๆในแถว! ห๊ะ..!?เอแคลร์คำรามเสร็จก็กระแทกสันเท้าดัง ตึง! แล้วประกาศออกไป

    วิ่งรอบสนาม 60 รอบ ปฏิบัติ!”

    คร้าบ~ คร้าบ~”

    ราวกับคำพูดนั้นเป็นเพียงลมปาก เกลตอบรับด้วยท่าทีเนือยๆ พร้อมวิ่งเหยาะแหยะซ้ายขวาออกจากแถว แล้วหายลับไปวิ่งรอบค่ายฝึกอย่างไร้แก่นสาร โดยมีสายตาไม่พอใจของคนอื่นๆส่งไล่หลัง

    เจ้าทหารใหม่นั่นไม่ได้เรื่องซะจริง

    มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

    เป็นคนที่มียศสูงกว่าพวกแกยังไงล่ะ เกลลอบตอบในใจ หูกึ่งอสุภะของเขานั้นดีเกินมนุษย์ เพราะงั้นก็เลยได้ยินเสียงบ่นนินทาจากเพื่อนร่วมกอง แม้ระยะห่างจะไกลถึง 20 เมตรก็ตาม

    ถึงตรงนี้บางทีคงต้องเกริ่นถึงต้นเรื่องเสียก่อน

    ———สาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ ณ ค่ายทหารแห่งนี้

     

    อยากให้ชั้นปลอมตัวเป็นพลทหารใหม่เหรอ?”

    ถูกต้องพอลิโป้ตอบห้วนๆ เกลจึงนิ่วหน้าถาม เพื่ออะไร?” ส่งผลให้ลิโป้ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ ก่อนจะพับกระดาษลงครึ่งหนึ่งแล้ววางลงบนโต๊ะ มันว่า

    ข้าแค่อยากให้เจ้าเป็นหูเป็นตาดูความสงบเรียบร้อยให้ และเพราะเห็นว่ามีที่ว่างก็เลยให้ประจำกองร้อยนั้นไปด้วยเลยน่ะขุนศึกแดนมังกรตอบเอื่อยๆก่อนจะหยิบบ้องแก้วขนาดใหญ่ขึ้นจ่อปาก แล้วจุดไฟ แชะ! แชะ! เพียงไม่นาน ยอดชาสมุนไรก็หายวับไปหนึ่งหลุม——

    ลิโป้กำลังตาเหลือกน้ำลายไหลเยิ้ม

    ซื้ด~ ของเค้าดียิ่งนัก

    .....เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ

    สรุปง่ายๆเลยคือเกลถูกใส่ให้มาประจำกองร้อยของเอแคร์ในฐานะสปาย แม้ไม่รู้ว่าตอนออกคำสั่งลิโป้มันยันอยู่รึเปล่า แต่การเมินเฉยคำสั่งของผู้บังคับการนั้นถือเป็นความผิดอย่างยิ่ง

    ช่วยไม่ได้ เกลบ่นในใจอย่างนั้น ปัจจุบัน,กระทั่งเขาวิ่งครบ 60 รอบตามคำสั่ง ฝีเท้าทั้งคู่จึงค่อยชะลอลง ด้วยศักยภาพเหนือมนุษย์นี้จึงทำให้เขาเหนื่อยหอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงต้องขอบคุณบ๊อบที่ช่วยผ่าตัดให้มีร่างกายแบบนี้ กระนั้นเรื่องที่เขาทำกับใบหน้าของชายหนุ่มนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    เกลในตอนนี้ยังคงหัวเสียอยู่เล็กน้อย

    .....ช่างมันเถอะ ที่สำคัญเราชักหิวซะแล้วสิ

    พอความรู้สึกส่งต่อไปยังความคิด การกระทำจึงสนองตอบด้วยการมุ่งไปยังโรงอาหารอย่างสบายอารมณ์ โดยลืมไปว่าตรงหน้านั้นยังคงมีกองร้อยตัวเองยืนกันหน้าสลอน เอแคลร์เมื่อเห็นเขาเดินออกจากลู่ก็พลันกระตุกคิ้ว จ้องมองชายหนุ่มอย่างมีอารมณ์ หล่อนก้าวฉับออกไปแล้วรั้งไหล่เกลเอาไว้ เธอว่า

    นายคิดจะไปไหน?”

    หืม? ก็ไปกินข้าวน่ะสิ

    ———ปึด! เส้นเลือดบนขมับพลันปูดโปนขึ้น

    เจ้าบ้านั่นดันทำให้หัวหน้าโกรธซะแล้ว

    ไอ้หน้าใหม่นั่นเละแน่

    เสียงวิพากษ์วิจารณ์ล้วนมีความเห็นในทางเดียวกัน ก่อนที่ทั้งสองจะทันได้เปิดฉากอันคุกรุ่นให้ร้อนระอุจนผืนดินหลอมละลาย จู่ๆข้างกายทั้งคู่ก็เผยให้เห็นหญิงสาวนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

    ———ทันใดนั้นทุกคนจึงตกอยู่ในความโกลาหล

    เฮ้ยๆ นั่นมันน้องของท่านทูตมังกรขาวไม่ใช่เหรอ?”

    เออ ไม่ผิดแน่หล่อนคือเจ้าหญิงหิมะ • คลาร่า

    .....คลาร่า? ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ เกลก็ฉุกนึกไปถึงเด็กสาววัย 12-13 ซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกับเขาเมื่อสองปี พอเหม่อมองอีกฝ่ายให้ชัดเจน หนนี้เขากลับตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก

    เธอคนนี้คือหญิงสาวในสุสานที่เขาพบเมื่อคราวก่อน

    กระทั่งพอนึกย้อนกลับไป ชายหนุ่มก็จำความได้ว่าหน้าหลุมศพนั้นสลักชื่อของเทียนเหมยกับฉีเอาไว้ และก็เป็นหล่อนเองที่นำช่อดอกไม้ไปเคารพศพของทั้งคู่

    ถ้างั้น...เธอคนนี้ก็——ขณะขบคิดสารพัดเรื่องราวอยู่นั้น เอแคลร์ก็โพล่งขึ้น

    ไง ยังสวยไม่สร่างเหมือนเคยนี่

    คุณก็ยังสร่างไม่สวยเหมือนเดิมเลยนะคะ

    เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

    เหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลแปลบออกจากตาของสองสาวยังไงอย่างนั้น

    จากนั้นเอแคลร์จึงเป็นฝ่ายปริปากก่อน คิดว่าเป็นน้องทูตมังกรขาวแล้วจะเดินเตร่ในกรมทหารได้รึไง?” เมื่อเธอได้ยินดังนั้นจึง ตอบกลับว่า พูดอย่างนั้นก็เกินไปค่ะ เพราะต่อให้ชั้นไม่ใช่น้องสาวเขา คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ให้ชั้นเดินไปนู่นมานี่หรอกนะคะ

    .....นี่เธอ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับไปซะ

    นั่นสินะคะ ถ้างั้นชั้นขอทำธุระก่อนก็แล้วกัน

    คลาร่าพูดจบก็เบนสายตามายังเกล แล้วว่า

    คุณน่ะขอชั้นดูมือขวาหน่อย

    หะ? ไอ้ที่ขอเนี่ยก็ได้อยู่หรอก แต่ทำไมถึง––

    เอาเถอะน่า..!”

    หล่อนเอ่ยตัดจบ แล้วคว้ามือของชายหนุ่มแหงนฝ่ามือขึ้น

    ———บนนั้นมีตราคาร์ม่าอยู่ 20 จุด

    กระทั่งเกลเองก็ไม่ได้สังเกตว่ามันเพิ่มขึ้น ส่วนทางคลาร่าเมื่อเห็นดังนั้นก็หลุบตาต่ำแล้วผล็อยมือเขาลง อย่างที่คิด หล่อนพึมพำเบาๆ ท่ามกลางสีหน้างุนงงของชายหนุ่ม เกลถาม

    มีอะไรเหรอ?”

    นี่มันแย่สุดๆ

    แย่..?”

    คุณน่ะอยู่ที่นี่มากี่วันแล้ว!?”

    ก็สามวันได้แล้วมั้ง?”

    หมับ!

    ———ทันใดนั้นคลาร่าจึงจับไหล่เกลไว้แน่น

    คุณต้องหนีออกจากเมือง! เดี๋ยวนี้เลย!”

    ห-หา? เดี๋ยวก่อนสิ? นี่พูดเรื่องอะไร––

    ถ้าขืนคุณยังอยู่ที่นี่ต่อล่ะก็ได้ตายแน่..!”

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×