ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #3 : Ep.03 - Skyfall

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 59


    UNagain.03 - Skyfall 

    "อั่ก..!"

    ร่างของเกลกระแทกพื้นอย่างจัง ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ต้นคอตงิดๆ พอเริ่มตั้งตัวได้จึงค่อยกวาดมองไปโดยรอบ จากนั้นเกลจึงเบิกตาโพลงตะลึงต่อภาพเบื้องหน้า

    ผืนดินสีดำเป็นกรวดกระด้างและเมฆสีแดงฉานดั่งโลหิตดูน่าหวาดหวั่น ประกอบกับทุ่งเพลิงไกลสุดลูกหูลูกตารอบข้างแล้ว————ดูยังไงนี่ก็เป็นนรกชัดๆ

    ความหวาดกลัวโถมเข้าใส่จิตใจอีกครั้ง เกลเริ่มคิดหาทางหนีออกจากที่แห่งนี้ ทว่าก่อนจะทันได้ทำสิ่งใดนั้น,ตรงหน้าก็ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาหา ชายผู้นี้มีผิวสีแดงเข้มและเขาสีดำขลับคู่อยู่ข้างขมับศีรษะ————เกลถึงกับใจหายวาบ

    ดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์

    รูปร่างแบบนั้น....อย่างกับปีศาจ

    อย่าเข้ามานะ" เกลร้องลั่น,ทว่าชายผิวแดงกลับเอ่ยไม่แยแส

    "ไปเข้าแถวซะ"

    พลางชี้นิ้วไปด้านข้างซึ่งมีผู้คนยืนเรียงกันเป็นแถวยาวสายหนึ่ง เกลกระพริบตาปริบๆลังเลว่าควรทำตามดีรึไม่ ระหว่างที่ชายผิวแดงกำลังสนใจเขาอยู่ ก็มีชายคนหนึ่งแตกแถวออกมา เขาคนนี้รอจังหวะที่ชายผิวแดงเผลอ,จากนั้นจึงวิ่งหนีออกไปทันที

    สวบ!

    "อ่อก!?"

    ก่อนจะก้าวไปไกลได้มากกว่านี้ จู่ๆเขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เมื่อก้มมองก็ถึงกับตกตะลึงพบหอกสามง่ามแทงทะลุชายโครงออกลิ้นปี่————เขาสำรอกเลือดออกมาคำโต แล้วล้มตึงกับพื้นสิ้นใจไปทั้งอย่างนั้น

    "เหวอ..!?"

    เกลถึงกับเสียขวัญ,พวกคนในแถวเองก็ตื่นตระหนกไม่แพ้กัน จะมีก็แต่ชายผิวแดงซึ่งเป็นตัวการกำลังยืนนิ่งไม่ไหวติง————เมื่อครู่,ทันทีที่ชายคนนั้นหลบหนี หมอนี่ก็ร่ายคำพึมพำในปากแล้วผายมือออกก่อตัวเสาเพลิงควบแน่นกลายเป็นสามง่ามสีทองแดงเล่มหนึ่ง จากนั้นเขาจึงซัดมันออกไปโดยหันหลังให้อีกฝ่าย

    นั่นน่ะมนุษย์ไม่มีทางทำได้หรอก

    "ไปเข้าแถว"

    "....อึก"

    เกลต้องจำยอมก้าวไปต่อท้ายแถวอันยาวเหยียด

    จากที่มองดูพบว่ามีสิบแปดคนที่ต่อแถวอยู่————ทุกคนล้วนมีโซ่ปลอกคอคล้องเหมือนกับเขา

    สุดปลายทางของโซ่คือด้านหน้าแถวที่พวกเขากำลังยืนต่อกันอยู่ แม้จะพยายามมองลึกเข้าไปว่าสุดปลายทางนั้นเป็นมีอะไรรั้งสายโซ่เอาไว้ ทว่าชายหนุ่มมองเห็นเพียงไอดำทะมึนยากระบุได้ว่าเป็นสิ่งใด

    ทั้งที่ระยะห่างก็ไม่ได้มากแท้ๆ

    รู้ตัวอีกทีแถวหน้าจึงสั้นลง คนสิบหกคนเหือดหายไปอย่างพิศวงเหลือเพียงสองคนด้านหน้าและด้านหลังสิบเอ็ดคนที่เพิ่มเข้ามาต่อท้ายเกล

    ซึ่งพวกที่มาใหม่มีคนที่คิดลองดีวิ่งหนีออกไป ดังนั้นบทสรุปของคนๆนั้นจึงจบได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก ทำให้แต่ละคนยามนี้ล้วนดูมัวหมองไม่มากก็น้อย————เกลเองก็เช่นกัน เขาไม่รู้ว่าเบื้องหน้าสุดของแถวมีสิ่งใดรออยู่ และไม่ทราบว่าสิบหกคนก่อนหน้านี้หายไปยังที่ใดกันแน่

    กระทั่งถึงตาของเกล

    ไอดำทะมึนที่ตลอดทางกลับไม่อาจมองเห็นภายใน ยามนี้เมื่อเข้ามาใกล้,ก็เหมือนกับมีมนต์บางอย่างสั่งการให้เกลรับรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

    เบื้องหน้านั้นคือบัลลังก์

    เก้าอี้ใหญ่สีเหล็กแดงถูกนั่งประทับไว้ด้วยสตรีนางหนึ่ง ผมสีดำและตาสีแดงขับเน้นทำให้เธอดูมีเสน่ห์ ทว่าเหนือสิ่งอื่นใดกลับเป็นเขาสัตว์สีดำขนาดใหญ่งองุ้มอยู่กลางขมับทั้งสี่ด้าน

    เธอไม่ใช่มนุษย์————เกลตระหนักได้เช่นนั้น

    นายทะเบียน” เธอว่า,พร้อมกับชายผิวแดงคนหนึ่งยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งไปให้————หญิงสาวรับมาดูครู่จากนั้นจึงว่า “นภัส นพนันท์,สินะเอาล่ะ,เรามาเริ่มสาธยายบาปของเจ้ากันดีกว่า

    เดี๋ยวครับ

    หือมีอะไรเรอะ?”

    คือว่า..ช่วยบอกก่อนได้ไหมครับว่าตอนนี้ผมอยู่ไหนแล้วมาอยู่นี่ได้ไง?”

    ....อุ๊บฮุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

    พอถามอย่างนั้น,เธอก็พลันระเบิดเสียงหัวเราะอันดังก้อง จนเกลต้องขมวดคิ้วแน่นลำบากให้เธอต้องกุมท้องว่า “ฮะๆ....เจ้านี่มันโง่จริงๆ ทั้งที่ทุกอย่างนี้มันก็ชี้ชัดแล้วแท้ๆว่าเจ้าอยู่ที่ใด ของแบบนี้เจ้ายังต้องถามอีกเรอะ?”

    เกลลังเลครู่แล้วจึงว่า “...นรกงั้นเหรอ?”

    สำหรับคนบาปเช่นเจ้าแล้วจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ?”

    แม้จะพอคาดเดาได้อยู่แล้ว ทว่าพอรู้ความจริงเข้าเกลก็ถึงกับอื้ออึงหายใจติดขัด————หญิงสาวว่า “งั้นต่อเลยนะเมอร์ริธของเจ้ามี 4 จุด และคาร์ม่ามีทั้งสิ้น 15 จุด..ซึ่งนับว่าเยอะใช้ได้ จึงทำให้เจ้าต้องชดใช้กรรมเป็นเวลา 1,500,000,000,000,000 ปีมนุษย์

    หา!? เดี๋ยวสิก็จริงว่าตัวผมอาจจะเคยทำบาปเอาไว้ แต่มันก็ไม่น่าจะเยอะถึงขนาดนั้นสิ” เกลแย้ง

    ไม่ต้องรีบร้อน,ยังไงข้าก็จะอธิบายให้เจ้าทราบอยู่แล้วล่ะ อย่างแรกคือคาร์ม่า15 จุดของเจ้าประกอบไปด้วยแซมกาด้า 3 จุด ราว์ราว่าจุดและอาวิจีจุด ความจริงถ้าเป็นนรกเก่าเจ้าต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลแล้วด้วยซ้ำ

    ฟังจากน้ำเสียงคงไม่ใช่ล้อเล่น,เกลขบฟันแน่น “ไม่ยอมหรอก..ชั้นไม่ได้ทำผิดอะไรขนาดนั้นซะหน่อยแล้วทำไมชั้นถึงต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ไม่ได้ทำลงไปด้วยล่ะ!”

    แน่ใจงั้นเชียวหากเจ้ายืนยันเช่นนั้น,ข้าก็จะขอทำลายความคิดอันตื้นเขินนั้นเอง หนึ่งคือแซมกาด้านรกขุมที่สามหรืออีกชื่อคือนรกบดขยี้ • แซมกาด้าเนื่องจากเจ้ากระทำการเล่นชู้ผิดลูกเมีย จึงต้องรับโทษทัณฑ์ทรมานในขุมนี้เป็นเวลา 300,000,000,000,000 ปีมนุษย์

    เกลถึงกับอารมณ์พลุ่งพล่านคำรามว่า “เงียบไปเลยคนที่มีชู้มันไม่ใช่ชั้นซักหน่อย!”

    เฮ้อ..เจ้านี่มันโง่ชะมัด ความหมายของผิดลูกเมียน่ะก็คือการที่ใครมาก่อนมาหลัง เพราะงั้นคนรักเจ้าซึ่งแต่เดิมมีสัมพันธ์สวาทกับคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว ก็เท่ากับว่าเจ้าเป็นมือที่สามเข้ามาแย่งเสียเองไม่ใช่รึไง?”

    .....

    เกลเบิกตาโพลง————จู่ๆก็เกิดอับจนคำพูดน้ำตาคลอเบ้าอยู่ที่หางตาทั้งสอง

    ไม่ยุติธรรมเลย....ไอ้เรื่องที่แฟนเรามีคนอื่นมาก่อนรึเปล่าแบบนี้,เป็นใครมันจะไปรู้ได้เล่า!? เกลกำหมัดแน่นจนเล็บมือจิกผิวเนื้อเลือดออกมาระหว่างซอกนิ้ว หญิงสาวตรงหน้าฉีกยิ้มเล็กน้อยแล้วว่าต่อ “ถัดมาคือราว์ราว่านรกขุมที่สี่นรกกรีดร้อง • ราว์ราว่าเนื่องจากเจ้าพูดคำโกหก คำหยาบหรือคำส่อเสียด จึงทำให้เจ้าต้องรับโทษทัณฑ์ในนรกขุมนี้เป็นเวลา 400,000,000,000,000 ปีมนุษย์

    บ้าไปแล้ว!? ทำไมแค่พูดโกหกกับคำหยาบถึงมีโทษเยอะกว่าผิดลูกเมียล่ะ..!?”

    ก็เพราะคำพูดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการกระทำยังไงล่ะ คนเราสามารถมีคนรักได้,ก็ไม่ใช่ว่าเพราะเจ้าไปหยอดคำหวานรึไงรึหากเจ้ามีคนใต้บังคับบัญชา,เจ้าก็สามารถสั่งพวกเขาให้ทำนู่นนี่นั่นก็ได้ตามใจเจ้า....กล่าวคือแค่คำพูดก็สามารถบงการชีวิตคนได้เป็นสิบๆแล้วด้วยซ้ำ

    อึก..!” เกลยากจะหาคำใดมาค้าน หญิงสาวจึงเอ่ยสำทับ

    อันสุดท้ายคืออาวิจีนรกขุมที่แปดนรกไม่สิ้นสุด • อาวิจีอย่างที่บอกว่าหากเป็นนรกเก่าเจ้าคงต้องอยู่ในขุมนี้ไปตลอดกาล ทว่าเดี๋ยวนี้ได้มีการลดโทษเหลือเพียง 1,500,000,000,000,000 ปีมนุษย์แทนแล้ว ดังนั้นก็นับว่าเป็นโชคของเจ้าไป

    ส่วนไหนของ 1,500,000,000,000,000 ปีกันที่เรียกว่าโชค..!?

    ถ้าจะเป็นโชค————ก็คงเป็นโชคร้ายนั่นแหละถึงจะถูก เกลลอบสบถในใจแล้วว่า “ชั้นทำอะไรถึงต้องลงนรกขุมนี้?”

    จากนั้นเธอจึงเหยียดยิ้มขึ้นมุมปากแล้วตอบกลับ “ฆ่าพ่อแม่ไงล่ะ

    เกลรู้สึกร่างกายเบาหวิวไร้ซึ่งการควบคุม จากนั้นความโกรธก็พลันแล่นขึ้นอย่างเดือดดาล แล้วย่ำเท้าไปหาเธอด้วยท่าทีเอาเรื่อง ทว่าระหว่างนั้นชายผิวแดงก็เข้ามายืนขวางกั้นไว้เสียก่อนจนเกลต้องหยุดชะงัก ชายหนุ่มกัดฟันกรอดแผดร้องว่า “ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!”

    ทว่าหญิงสาวกลับหัวเราะร่วนไม่รู้สึกรู้สา————“ใจเย็นสิ,รอให้ข้าอธิบายจบก่อนไม่ได้รึไงการลงโทษของนรกน่ะไม่มีคำว่าอยุติธรรมหรอกนะ” จากนั้นเธอจึงชูนิ้วขึ้น “ประวิติตอนที่เจ้ายังมีชีวิต,ระบุไว้ว่ามีหนี้สินอยู่ใช่ไหมล่ะงั้นนี่คือคำถาม,หากหนี้สินอันมหาศาลที่ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ไม่อาจรับไหวถูกยกยอดไปให้คนอื่น....งั้นคนอื่นที่ว่านี้จะเป็นใครกันเอ่ย?”

    .

    .

    .

    ครอบครัว....งั้นเหรอ?

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าถูกต้องถูกต้องที่สุดทีนี้เข้าใจรึยังล่ะเมื่อเจ้าตายไปหนี้สินก็ยังคงอยู่,หนำซ้ำยังถูกโอนไปให้พ่อแม่ของเจ้าอีก กระทั่งคนหนุ่มวัยยี่สิบสี่ยังหาเงินมาใช้คืนไม่ได้,แล้วคนแก่อายุห้าหกสิบที่ไหนจะหาเงินมาชดใช้ได้กันเล่า..!?”

    เกลถึงกับหน้าซีดเผือด,รู้สึกร่างกายเอนเอียงจะล้มแหล่มิล้มแหล่

    ไม่จริง...แล้วพ่อแม่ชั้นล่ะ!? พวกท่านตายได้ยังไง!”

    หนี้นอกระบบนี่บางทีคงถูกรุมกระทืบตายคาเท้าก็ได้

    ......”

    นี่เรา....ทำอะไรลงไป?

    แปะ!

    ดันคิดว่าถ้าตายจะสามารถหนีปัญหาได้ แต่กลับกันก็กลายเป็นสร้างปัญหาให้คนอื่นแทนซะอย่างนั้น

    ที่พ่อกับแม่ตายก็เป็นเพราะเราอย่างงั้นสินะ?

    อา....

    น้ำตาที่ปริ่มมาตั้งแต่ต้น,ค่อยๆไหลรินจากหางตาลงสู่ใบหน้าอย่างเชื่องช้า ใบหน้าของเกลเริ่มรู้สึกชื้นและแห้งเหนียวยามที่น้ำตาชโลมผ่านแก้มทั้งสองข้าง————จากนั้นเกลจึงทรุดตัวลงไปกองกับพื้น

    สองมือจิกเส้นผมหยาบอย่างปวดร้าว,และก็..

    ร้องไห้….

    ร้องไห้ออกมาราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งสูญเสียของบางสิ่ง

    บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    อาาาาา~~!!! โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ~~!!!!”

    ผมขอโทษ!...

    ผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษผมขอโทษ!

    ....ฮึก..!...ฮือ..ฮือ....

    ....ผมขอโทษ

    หญิงสาวบนบัลลังก์มองเกลอย่างอเนจอนาถพลางถอนหายใจ เธอจีบนิ้วมุทราแล้วว่า “ด้วยนามแห่งยามะข้าขอสั่งให้วิญญาณบาปหนานี้ไปชดใช้กรรมในนรกเป็นเวลา 1,500,000,000,000,000 ปีมนุษย์” เธอชี้สองนิ้วมาทางเกลแล้วว่า “ชำระ!”

    ฟู่ม!

    บังเกิดเสาเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมร่างของเกลอย่างมิดชิด ชายหนุ่มเมื่อต้องไฟร้อนสูงจึงกรีดร้องออกมาอย่างแสนสาหัส ดิ้นพล่านไปมาจนตัวงอเป็นกุ้ง ผ่านไปราวสิบวิ,เกลจึงเงียบเสียงลงปล่อยให้เพลิงนรกเผาไหม้ร่างที่ไร้ชีวิต ตอตะโกดำส่งเสียงเป๊าะแป๊ะพร้อมกับเปลวไฟที่เริ่มสงบลง

    เมื่อมีสายลมพัดผ่าน————เถ้าธุลีจึงปลิวหายไปกลายเป็นอากาศธาตุ

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×