คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #56 : Ep.56 - Silly
UNagain.56 – Silly
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【โมกขศักดิ์】”
“.........”
สภาพที่เห็นคือชายโพกผ้ายื่นมือออกไปในท่าจังก้า
กระนั้นผลลัพธ์กลับเป็นความว่างเปล่าโดยมีมวลอากาศปลิวว่อนขนาบกับตัวพื้น
เกลนิ่วหน้า ก่อนจะชักมือไปเบื้องหน้าอีกครั้ง
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【โมกขศักดิ์】”
“..........”
———เงียบกริบไร้ซึ่งการตอบรับ
ท่ามกลางสีหน้างุนงงของผู้คน
เกลกลับเหงื่อแตกพลั่กสลับร่ายมุทราไปมาอย่างตื่นตระหนก นี่มันอะไรกัน? เกลนึก
เพราะในความจริงตัวเขาได้สวดบริกรรมแล้วร่ายมุทราถูกแล้วแท้ๆ
แต่ทำไมผลลัพธ์ถึงกลับกลายเป็นว่างเปล่าไม่เกิดสิ่งใดขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้ตระหนักนั้นเอง
ชิมาสุคำรามลั่น
“บัดซบ! นี่เจ้าคิดจะดูถูกข้าไปถึงเมื่อไหร่!?”
“หะ? เปล่านะ นี่น่ะ—”
“รับมือ!”
ไม่พูดพร่ำทำเพลอีกฝ่ายซึ่งเข้าใจผิดอย่างสุดหัวใจ
ก็วาดหอกทอนบงกิริออกเป็นวงแหวนสามวงขึ้นเบื้องหน้า พรึ่บ! ราวกับตอบสนองต่อท่วงท่าเหล่านั้น
เปลวเพลิงฟ้าพลันปรากฏขึ้นแทนสุญญากาศที่ถูกตัดไปกลายเป็นเสาเพลิงร้อนขนาดใหญ่ขึ้นสามหลักทะยานเข้าใส่เป้าหมาย
ชี่!
เพลิงผลาญไหม้ถูกเนื้อหนังเกลถึงหนึ่งในสี่ส่วน แขนซ้ายพลันแปรเปลี่ยนเป็นดำดุจเถ้าถ่าน
กระนั้นก็ไม่ถึงกับแหลกเป็นผุยผง ชายหนุ่มฝืนสกัดกั้นความเจ็บปวดปลีกตัวกลิ้งออกจากประตูร้าน
กึง!
บานพับสั่นไหวอย่างแรงโดยมีเขาประคับประคองแขนซ้ายเอาไว้เข่าอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น
สิ่งนี้คงเป็นท่าพลังจิตของอาวุธอาคมชิ้นนี้ เกลตั้งสติให้มั่น
จากนั้นจึงเหยียดกายขึ้นมองชิมาสุก้าวอาดออกจากบาร์มาประจันหน้าตน มันว่า
“เห็นทีแขนซ้ายเจ้าคงจะใช้การไม่ได้แล้วล่ะ
หากคิดยอมแพ้ก็จงป่าวประกาศออกมาเสีย”
“.....ไม่จำเป็น อย่างนายแค่ขาสองมือหนึ่งก็พอ”
“นี่เจ้า!? ได้! เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าแล้งน้ำใจ”
ทอนบงกิริถูกวาดเป็นวงอีกครั้ง ทว่าหนนี้เกลก็ปริปากร่าย【พานี • ทัลวาล】ที่ถนัดออกมาเช่นกัน นี่คือการแข่งความเร็วของทั้งคู่อย่างเด่นชัด
เกลร่ายจบวงแหวนแรกพลันปรากฏ เกลร่ายมุทราวงแหวนสองจึงตามติด
เกลยื่นมือรับวงแหวนสามจึงปรากฏ
———ทั้งคู่แผดร้องออกมาดังลั่น
“ตายยยยยย..!”
บรึ้ม!
———พลันเกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นเบื้องหน้า
หนึ่งคือเสาเพลิงพร้อมเผาทุกสิ่งให้เป็นจุล
กับอีกหนึ่งคือลำน้ำขนาดใหญ่ซึ่งคมกริบคล้ายกับวอร์เตอร์คัท ทั้งนี้แม้อาวุธอาคมของอีกฝ่ายจะมีระดับสูงกว่า
แต่ความรุนแรงของผลลัพธ์กลับกลายเป็นเท่าเทียมกัน
.....สาเหตุก็เป็นเพราะไฟแพ้น้ำ
นี่คือหลักง่ายๆตามกฏฟิสิกส์
แสงสว่างรวมถึงแรงปะทุนั้นส่งผลให้ทั้งคู่กระเด็นออกไปกันคนละทางโดยไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บ
กระนั้นหนนี้กลับเป็นชิมาสุที่วิตก ตัวมันนั้นมั่นใจในวิชาอาคมนี้เป็นอย่างมาก
กอปรกับที่ไม่เคยมีผู้ใดรอดพ้นจากท่าพลังจิตนี้มาก่อนนอกลิโป้แล้ว
จึงทำให้มันมีความลำพองใจอยู่หลายส่วน
ทว่ายามนี้เขากลับถูกชายนิรนามรับมือได้อย่างสูสีคู่ขี้
———แรงใจของชิมาสุพลันเหือดลงในชั่วขณะ
“ที่แท้มันเป็นใครกัน?” ชิมาสุเปรยขึ้นเช็ดมุมปากซึ่งบาดเจ็บภายใน
ก่อนจะเหยียดกายยืนขึ้น “ช่างมันปะไร! เพียงเท่านี้ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าคือยอดฝีมือจริง”
มันฉีกยิ้มเผยแววกระหายเลือดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
“มาสู้กัน! ข้าอยากรู้นักว่าใครจะเหนือกว่ากัน..!?”
ชิมาสุเปล่งเสียงกร้าวทะยานกายซ้ำเข้าใส่เกล ชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นจึงเบิกตากว้างรีบกลิ้งหลบขนาบกับพื้น
ฉึบ! ฉึบ!
ฉึบ! สามหอกพลันแทงลงดินสุดตัวติดต่อกัน โดยมีเกลคอยอยู่ห่างไกลไม่เกิน 1 นิ้ว
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
เขาสบถออกมาอย่างเหลืออดหวดดาบอาคมเคลือบพลังจิตสวนกลับไป เคร้ง! บังเกิดแรงปะทุส่งให้ร่างของชายหนุ่มดีดกระเด็นออกไป
กระนั้นขณะลอยตัวอยู่กลางอากาศเกลก็บิดพริ้วกายสะบัดท่าพลังจิตออกไปเป็นกระสุนน้ำสามนัดซ้อนสนองคืนตอบกลับไป
ป่ง! ป่ง!
ป่ง!
“อึก..!” กระสุนน้ำกระทบกับหอกอาคมดังสนั่น
ร่างเจ้าของมันถึงกับถลาไปไกลสองเมตร ก่อนจะถอยครูดปักหอกลงกับพื้น
มันหอบหายใจเล็กน้อยแล้วว่า “ไม่เลว” เบาๆ
———โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัว
การปะทะของสองยอดฝีมือในยามนี้นั้นกลับกลายเป็นโดดเด่นเรียกความสนใจให้แก่ทุกผู้คนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีกลุ่มวงตั้งพนันและเสียงโห่ร้องเชียร์ออกมาอย่างครึกครื้นปนหวาดหวั่น และมีบ้างที่วิ่งหนีกลัวลูกหลงไปมาปนหวาดกลัว
.....สรุปง่ายๆก็คือสับสนอลหม่าน
นี่คือสงครามกลางเมืองของคนสองคน
ขณะทั้งคู่เตรียมทะยานเข้าใส่กันนั้นเอง
จู่ๆก็มีเสียงที่สามแทรกขึ้นกลางคัน
“พอแค่นี้แหละ!”
“หา!?”
“.....!?”
ชิมาสุกระตุกคิ้วมองไปอย่างมีโทสะ ส่วนเกลก็เลิกคิ้วอย่างฉงน
เมื่อหันไปเบื้องหน้าคนทั้งสองต่างก็มีอากัปกิริยาเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
กระนั้นเป็นเกลเองที่มีอาการแปลกออกไปอยู่ซักเล็กน้อย
———ต้นเหตุนั้นย่อมมาจากชายเบื้องหน้า
“นี่พวกเจ้าคิดจะทำตัวเป็นศาลเตี้ยรึไง! หา..!?”
ขุนพลศึกในตำนานนามว่า【ลิโป้】
۞۞۞
ความคิดเห็น