ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #55 : Ep.55 - Silly

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      92
      9 ม.ค. 60

    UNagain.55 – Silly

    บัดซบ..!”

    ทันใดนั้นชิมาสุจึงตวาดลั่น พร้อมตบโต๊ะดัง ตึง! แฝงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา เกลเหลือบมองเล็กน้อย โดยมีชายแก่เจ้าของบาร์เดินขัดสนองตอบเข้ามาห้ามไว้

    ท่านโทโยฮิสะโปรดใจเย็น

    ใจเย็นมารดาเจ้า! เฮ้ย! ไอ้หนุ่มเจ้าจงบอกข้ามาว่าใช้วิธีใดสังหารอสุภะเหล่านั้น

    อดีตขุนศึกในตำนานชี้หน้ากล่าว ส่งผลให้ผู้อื่นหันมองตามไปยังชายลึกลับโพกผ้าเบื้องหน้า เกลนิ่งงันไปพักหนึ่ง เขาไม่รู้จักโทโยฮิสะ แม้อีกฝ่ายจะเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ กระนั้นก็เป็นเพียงประศาสตร์ของประเทศหนึ่ง ทั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่ได้ดังโดดเด่นอะไรมากนัก

    .....สำมะหาอะไรกับหนุ่มชาวไทยคนนี้จะไปรู้จัก

    นายเป็นใคร?”

    ทันทีที่คำพูดหลุดปากไป ก็เสมือนมีฟ้าผ่าดัง เปรี้ยง! ดังก้องโสตประสาทของทุกคนในบาร์อย่างจัง เพราะรู้ดีว่าชายคนนี้ได้ทำกระทำบางอย่างพลาดไปอย่างใหญ่หลวงเสียแล้ว

    เมื่อตระหนักเช่นนั้นสายตานับสิบจึงสาดมองไปยังคู่กรณี

    แล้วก็เป็นดังคาด ใบหน้าของมันยามนี้กลับหลุบต่ำคล้ายมีอารมณ์——

    ถามว่าข้าเป็นใครสินะ? ย่อมได้ งั้นเจ้าจงฟังให้ดี นามของข้าคือโทโยฮิสะ ชิมาสุ

    ชั้นไม่รู้จัก

    เปรี้ยง! ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้ง หนนี้ชายชาติอาทิตย์อุทัยถึงกับขบเขี้ยวยิงฟัน ก่อนจะกระทืบเท้าปึงปังราวกับเด็ก เขาว่า บัดซบ! บัดซบ! ไม่รู้จักก็แล้วไป แต่เจ้ายังมิได้ตอบคำถามข้า

    ชั้นใช้อาวุธอาคมสังหารพวกมัน

    คำตอบเรียบง่ายพลันออกจากปากของชายหนุ่ม ส่งผลให้ทั้งหมดเลิกคิ้วขึ้น กระนั้นชิมาสุกลับเดือดดาลเข้าไปใหญ่พลางว่า เพ้ย! เรื่องง่ายเช่นนี้ข้ารู้ดี แต่คำถามคือเจ้าสังหารได้อย่างไรถึง 20 ตนในชั่วหนึ่งกาน้ำเดือดต่างหาก

    คำตอบนั้นง่ายมาก

    เกลชี้นิ้วขึ้นฟ้าโดยผู้อื่นมองตาม ก่อนจะปักนิ้วโป้งลงกลางอก

    เพราะชั้นน่ะสุดแกร่ง.....ยังไงล่ะ

    ———สายฟ้าฟาดลงมาเป็นหนที่สาม

    ใบหน้าของชิมาสุถึงแดงก่ำด้วยความโกรธ คำพูดของเกลนั้นเหมือนกับยอกเย้าเป็นนัยว่า ก็เจ้าอ่อนน่ะสิอยู่ยังไงอย่างนั้น ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะทันได้ทำสิ่งใดนั้น ข้างกายก็เผยให้เห็นจางลี่ถลันตัวเข้ามาใกล้

    ข้าฟังคำพูดเจ้ามาเยอะแล้ว

    จากนั้นจึงชายร่างโตจึงแบกขวานหลอมอสุภะขึ้นบ่า พลางเอ่ยเสียงเหี้ยม

    ข้าขอท้าประลอง เพียงเท่านี้ก็จะได้รู้กันว่าเจ้าทำได้จริงอย่างที่พูดไหม?”

    ไร้สาระ

    ———ฟ้าผ่าพลันดังก้องกัมปนาทอีกครั้ง

    -เจ้า! นี่เจ้ากล้าดียังไงถึง—”

    ชั้นไม่อยากเสียแรงเปล่าหรอกนะ

    คำพูดง่ายๆนี้ก็เหมือนกับการถ่มน้ำลายรดหน้าด่าว่า แกไม่คู่ควรอยู่เป็นนัย ควันออกหูนั้นถือว่าเป็นคำพูดไม่เกินจริงนัก จางลี่พ่นไอร้อนออกปากก่อนจะสะบัดขวานหวดพื้นดังสนั่น

    เปรี้ยง!

    พื้นไม้แก่ถึงกับแตกโพลงเป็นเสี่ยงๆ ลุงเจ้าของร้านอุทาน ชิบหายแล้วววว!” ออกมาดังลั่น ขณะเดียวกันจางลี่ก็บันดาลโทสะประกาศกร้าวว่า ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจักเดิมพัน 1,000 เหรียญต่อเจ้าก่อนจะทะยานเข้าใส่เกลไร้ซึ่งความปราณี ขวานสีเลือดนั้นถูกง้างขึ้นจนสุดแขน

    เฮ้อ~ ตายขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ

    เปรี้ยง!

    จบคำเกลก็ฉีกตัวหลบคมขวานอย่างว่าง่าย โดยมีโต๊ะเคาท์เตอร์แตกกระจัดกระจายเป็นออปเจ็คปลิวว่อนไปตามมวลอากาศ ร่างกายกึ่งอสุภะมีสัญชาตญาณอันดีเยี่ยมบวกกับพละกำลังอันเหลือล้น

    .....ดังนั้นเขาจึงซัดหมัดสวนกลับไปอย่างทื่อด้าน

    ป่ง!

    ผลลัพธ์ก็คือชายร่างสูงใหญ่กระเด็นไปตามแรงอัด เคร้ง! ขวานเหล็กกล้าผล็อยตกจากมือ พร้อมกันนั้นเจ้าของๆมันก็ทะยานออกไปร่วม 10 เมตรกวาดโต๊ะเหล้าผสมผู้คนจนล้มระเนระนาด

    อ่อก!มันถึงกับสำรอกเลือดออกมาคำใหญ่ จากนั้นจึงสิ้นสติสัมปชัญญะไปโดยปริยาย ท่ามกลางความคิดอันตื่นตะลึงของทุกคน ชิมาสุซึ่งอยู่ใกล้ต่อเหตุการณ์สุดก็ถ่างตาค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีดุดันปนแข็งกร้าวเป็นสงบนิ่ง มุมปากของมันเหยียดยิ้มขึ้นกล่าวอย่างเต็มปากว่า

    เช่นนี้นี่เอง สมแล้วที่เจ้าถือดีในฝีมือ ไม่ผิดจากที่พูดมาเลยแม้แต่น้อย

    ก่อนจะสูดลมหายใจหนักแล้วคำรามว่า

    ดี! ตัวข้าชิมาสุควานหาผู้แข็งแกร่งมาทุกใต้หล้า ดีเป็นสหายร้ายเป็นศัตรู วันนี้หากไม่ขอประมือซักหนึ่งกระบวนท่าข้าคงนึกเสียใจไปชั่วชีวิตจากนั้นนิ้วมือจึงร่ายมุทราวาดออกเป็นดัชนีฟ้าร่ายบริกรรม

    จงปรากฏต่อหน้าข้าทอนบงกิริ

    ทันใดนั้นเบื้องหน้าจึงปรากฏลำแสงสีแดงก่อเกิดเป็นหอกสีฟ้าซึ่งถูกปกคลุมด้วยลวดลายเพลิงสีแดงชาดขึ้น มันคว้าเข้าด้ามยาวของหอกก่อนจะเปล่งเสียงโต้ไปว่า

    จับอาวุธเสีย!”

    นายจะเสนอตังค์ให้เท่าไหร่?”

    เพียงเท่านั้นแหละ ชิมาสุก็เหมือนถูกตอกหน้ากลับมาอีกครั้งว่า การต่อสู้นี้มีค่าสูงต่ำขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเป็นนัย เมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงแค่นเสียงหัวร่ออย่างลำพองว่า

    ข้าให้ 5,000 เหรียญ หากเจ้าชนะข้าได้—”

    ตึง!

    ก่อนจะสิ้นคำดี ตรงหน้าของมันจึงปรากฏเกลทะยานเข้าใส่ในชั่วเสี้ยววิ แรงขาของกึ่งอสุภะนั้นดีดทะยานร่นระยะ 5 เมตรให้กลายเป็นศูนย์ได้ในชั่วอึดใจ ชิมาสุร้อง เฮ้ย!?” ออกมาอย่างตื่นตะลึง

    ป่ง!

    กำหมัดหนักถูกหอกอาคมยกขึ้นขวางกั้นไว้ทันท่วงที ร่างของหนุ่มกรำศึกถึงกับผละออกไปสามก้าว มันฉีกยิ้มอย่างสนุกคล้ายกระหายการต่อสู้มายาวนาน

    หมัดดี! รับมือ!”

    หนนี้เป็นชิมาสุโต้ตอบ หอกในมือพลันบิดพลิ้วไปมาอย่างพิสดาร ท่วงท่าของมันดูอ่อนไหวแต่หนักแน่นยากจะคาดเดา เพลงหอกนี้คือวิชาประจำโทโยฮิสะ หนึ่งคืออ่อนสองคือแข็ง พร้อมรับและรุกในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่านี่คือความสามารถเฉพาะตัวของนักรบผู้โชกโชน สำหรับเกลซึ่งเคยฆ่าสัตว์ไม่นับคนเพียงไม่กี่ปีนั้นย่อมแตกต่างกัน

    เปรี้ยง!

    ด้ามหอกฟาดกระทบอกส่งแรงพลักให้เขาเซถลาไปหกก้าว เมื่อเห็นว่าได้ชิมาสุจึงยิ้มพึงใจออกมาเล็กน้อย กระนั้นนักรบก็ไม่ประมาททะยานกายเข้าซ้ำศัตรูหมายให้ดับสิ้น

    เฮอะ..!”

    เกลพลิกตัวหลบคมหอก เพล้ง! แก้วบลั่นดีชั้นยอดแตกออกเป็นน้ำฝนโปรยปรายภายใต้สีหน้าร่ำร้องของผู้จัดการและชายเจ้าของร้าน ทว่ากระบวนกลับไม่สิ้นลง ตัวหอกพลันบ่างเบี่ยงเป็นแนวขวางสลับนอนตีนอนเป็นวงกวาดทุกอย่างจนราบเป็นนาบกอง ชายหนุ่มได้แต่ก้มหลบอกแนบพื้นในใจลอบสบถว่า แข็งแกร่งเกินไปออกมาเบาๆ กระนั้นเกลกลับไม่คิดว่าตนจะพ่ายแพ้ เขาพุ่งเข้าใส่สวนกลับไปด้วยลูกเตะ

    เปรี้ยง!

    เพราะเป็นมุมอับจึงซัดเข้ากลางไหล่ขวาอย่างจัง ทว่าท่ามกลางสีหน้าเจ็บปวดของชิมาสุ เกลย่นหน้าลงเพราะคลาดเป้าจากศีรษะมาเป็นไหล่ การจู่โจมเมื่อครู่จึงนับว่าพลาดเป้าได้อย่างไม่ผิดนัก

    ฮึ่ม!”

    ชิมาสุแค่นลมหายใจสวนกลับไปหนึ่งหอกทั้งอย่างนั้น น่าเสียดายว่าหนนี้ก็จั่วลมอีกเช่นเคย เกลปลีกตัวหลบออกมาเว้นระยะพลางเอ่ยเสียงเรียบ——

    คงต้องเอาจริงแล้วสิ

    นิ้วมือทั้งห้าร่ายออกเป็นมุทรา เขาว่า

    จงปรากฏต่อหน้าข้าโมกขศักดิ์

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×