คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : Ep.54 - Silly
UNagain.54 – Silly
“หึ! จะบอกว่านี่เป็นความผิดชั้นสินะ?”
ท่ามกลางหลุมศพนับร้อยหรืออาจจะมากกว่านั้นได้เผยให้เห็นชายหนุ่มยืนสงบนิ่งอยู่เพียงลำพัง
ใบหน้าของมันฉายแววโศกเศร้าปนละแค้นใจยากคาดเดาอารมณ์
———ทั้งที่ตัดสินใจไปแล้วแท้ๆ
ตัดสินใจไปแล้วว่าเป็นครอบครัว!
ตัดสินใจไปแล้วว่าที่นี่คือบ้าน!
กึด! อุ้งมือหยาบกำแน่น จากนั้นเกลจึงก้าวเดินต่อไป
ศพแล้วศพเล่า แผ่นกระเบื้องสีชาล้วนสอดกระทบแสงลงสู่ดินราวกับสื่อเป็นนัยบางอย่าง
เขารู้ดีว่าคนเหล่านี้ตายไปเพราะใคร
แน่นอนว่าคำตอบคือไอแซค
.....และตัวเขาเอง
มนุษย์ช่างโง่เขลา แม้จะอยากลืมแต่ก็ลืมไม่ลง
แม้อยากจะปัดความผิดแต่ตราบาปก็ยังหลงเหลือราวกับคราบโลหิตยากจะชะล้าง
กลิ่นคาวชื้นคล้ายกับเหล็กเย็นพลันแผ่ซ่านเข้าสู่จิตนาการของชายหนุ่ม
“โลกใบนี้น่ะไร้ซึ่งคุณธรรม”
ทันใดนั้นเบื้องหลังของเกลจึงปรากฏเสียงแหบพร่าขึ้น
เขาเลิกคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกชั่วขณะพลางหันมองไปยังที่มาของเสียงดังกล่าว
เป็นอิสตรีผู้หนึ่ง หล่อนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มคาดว่าอายุอานามคงประมาณ 15-16 เห็นจะได้ ในมือของเธอถือไม้ดอกสีขาวดูสวยงามแต่เปราะบางไว้อยู่
เธอยิ้มจางๆแล้ววางไม้ประดับไว้หน้าหลุมศพแผ่นหนึ่ง
.....ราวกับมีเสียงฟ้าผ่าลั่น
แด่【ฉี】และ【เทียนเหมย】
บนแผ่นสลักมีชื่อของบุคคลที่เขารู้จักอยู่
ชายหนุ่มนิ่งไม่ไหวติง หัวใจเองก็พลันเต้นตื่นตูมไม่เป็นจังหวะเฉกเช่นลมหายใจกระชั้นชิดซึ่งส่งผ่านแรงกระทบออกไปจนผ้าพันแผลหยาบปลิวไสว
———เป็นเพราะเรา?
เป็นเพราะเรางั้นเหรอ..!?
ตอนนั้นในใจของเกลรู้สึกด้านชาราวกับถูกน้ำแข็งหมื่นปีเข้ากัดกิน
เขาฝืนรั้งตั้งสติไว้พลางปรับลมหายใจให้เข้าที่
สองตาซึ่งลอดผ่านผ้าขาวได้จับจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้า คล้ายกับรู้ตัวสาวน้อยนิรนามจึงเหยียดกายขึ้น
แล้วหันมองตอบไร้ความรู้สึกบนสีหน้า
“คุณเพิ่งมาใหม่สินะ?”
“.....ใช่”
“ชั้นจำคุณได้ที่แอเรีย คุณคือคนที่ฆ่าคิริโตะกับคาเนกิ”
ราวกับสมองคิดคำนวณโดยอัตโนมัติ เกลหันมองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งคล้ายจดจำใบหน้านี้ได้รางๆ
แล้วก็เป็นเช่นนั้น ในตอนที่ล่าอสุภะให้บ๊อบ
เขาเคยฆ่าชายสองคนที่น่าจะเป็นเพื่อนของหล่อนไป
เกลหรี่ตาลงสายตานั้นแปรเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย——
“แล้วไง? จะแก้แค้นงั้นเหรอ?”
“ไม่ค่ะ คนแบบนั้นไม่มีค่าพอให้ชั้นต้องเปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย”
คำตอบเธอทำเอาชายหนุ่มกระตุกคิ้ว “.....แปลกคนซะจริง” เขาพึมพำ
ก่อนจะเหยียดยิ้มว่า “ในเมื่อไม่มีธุระ ชั้นก็ขอตัว” เกลเอ่ยเช่นนั้นพร้อมกับย่างเท้าออกไป
ผ้าพันแผลสีขาวลอยหวือไปตามกระแสตัดกับเส้นผมสีบลอนซ์ทองของอีกฝ่าย
ทั้งคู่ไม่ได้มองหน้ากัน กระทั่งชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องกระจก เธอจึงเบือนหน้ากลับสู่ผืนกระเบื้องแผ่นเดิมอีกครั้ง
หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบาออกมา
“พี่เกล.....ไปอยู่ที่ไหนกันนะ?”
.
.
“จะรับงานนี้จริงๆเหรอ? นี่เป็นภารกิจระดับ
5 ดาวเลยนะ”
ชายแก่เจ้าของบาร์ตอบ ท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของคนทั้งร้าน
สถานที่แห่งนี้ถูกเติมแต่งด้วยโรงไม้แก่ๆ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มชายหญิงเข้าออกอยู่ตลอดเวลา
มันถูกเรียกว่า <บาร์>
หรือ <สถานรับจ้าง> สาเหตุของชื่อก็ตรงตัว ที่นี่จะรับงานทุกประเภทมาติด <บอร์ด> ไว้ หากใครสนใจทำก็นำใบประกาศมายื่น
———ความรู้สึกก็คล้ายกับพวกเกม RPG
เป็นกฎเกณฑ์ที่เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก ภารกิจจะมีตั้งแต่ต่ำสุดคือ 1 ดาว ไปถึงสูงสุด 5 ดาว ยิ่งระดับสูงความยากก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ภารกิจที่เกลฉีกไปนั้นคือ <สังหารอสุภะรูปแบบดัคน่า 20
ตน>
.....เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงตื่นตระหนก
ผิดกับเจ้าตัวซึ่งครุ่นคิดว่าสองปีมานี้อะไรๆก็ดูแปลกตาขึ้นเยอะ
“ชั้นจะทำภารกิจนี้เอง” เขาตอบรับสั้นๆก่อนจะเดินออกจากประตูพับทิ้งให้ผู้คนรอบด้านมองไล่หลังไปทั้งอย่างนั้น
กึง! กระทั่งพ้นตัวร้านจนบานพับปิดลง
เสียงโห่ร้องเซ็งแซ่จึงดังขึ้นระงมในชั่วเสี้ยววิ
“เหอะ! ไอ้หน้าใหม่นั่นหาเรื่องไปตายแล้วไหมล่ะ?”
ผู้พูดคือชายฉกรรจ์สูงใหญ่ในมือมันมีขวานยักษ์ซึ่งหลอมขึ้นจากกาหยาบของอสุภะ
แน่นอนว่าคนที่มีอาวุธระดับนี้ย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่ หลายคนล้วนรู้จักมันในนามของ【จางลี่ • ล่าอสูร】นักล่าอสุภะชั้นนำของเมืองจัสมินซึ่งมีฝีมือเก่งกาจผู้หนึ่ง
จากนั้นสตรีวัยยี่สิบกว่าข้างๆจึงออกความเห็น
“ก็มีให้เห็นถมไป พวกชอบโชว์พาวให้สาวเห็นน่ะ”
หล่อนคือ【ยูจีน • เท้ามรณะ】หนึ่งในยอดฝีมืออีกคนแห่งเมืองจัสมิน
คำวิจารณ์ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เสียงของบุรุษหนุ่มซึ่งนั่งจิบชาอยู่มุมห้องก็เปรยขึ้นอย่างเรียบเฉียบ
“มันผู้นั้นเรอะ?”
คำพูดนี้กลับมีอนุภาพบางอย่าง เสียงอีออของบุคคลนับสี่ห้าสิบชีวิตพลันเงียบเสียงลงดุจฟังคำประกาศกร้าวจากปากผู้พิพากษา
มันซดชาดัง ซู้ด! หนหนึ่ง
แม้จะเพิ่งมาเยือนเมืองได้ไม่ถึงหนึ่งปี ทว่าความน่าเกรงขามของมันกลับเป็นที่รู้จักกันอย่างดี
นามของมันคือ【โทโยฮิสะ • ชิมาสุ】
นักรบแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในช่วงประวัติศาสตร์
ในเมืองนี้เกรงว่านอกจากลิโป้กับฮิราแล้ว มันจึงจะสามารถเรียกตนว่าแข็งแกร่งเหนือผู้ใดได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เมื่อจิบชาจนพอใจ ชายชาตินักรบจึงว่า
“ข้าว่าเพียงหกฝ่าเท้า
หัวของมันก็หลุดโดยไม่รู้ตัวแล้ว”
เพียงเท่านั้น เสียงหัวเราะก็พลันดังครืนเข้าถล่มถลายบาร์ไม้ราวกับจัดงานสังสรรค์
ชิมาสุเหยียดยิ้มบางๆอย่างดูแคลน ส่วนผู้อื่นก็หัวร่อดูถูกเกลกันอย่างขบขัน
ว่าอย่างนั้นทีอย่างนี้บ้าง
.
.
“โฮ่? มีงานเลี้ยงรึไงนั่น?”
ทันใดนั้นเสียงกร้านอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น มันผู้นั้นมีร่างผอมบางสวมเสื้อคลุมหยาบและถูกปกคลุมไปด้วยผ้าพันแผลขาวดูหลุดลุ่ย
ไม่สิ——
ตอนนี้น่ะกลายเป็นสีแดงฉานของโลหิตไปแล้วต่างหาก
ทั่วตัวนั้นชุ่มไปด้วยเลือด แปะ! แปะ! แปะ! เสียงหยาดทับทิมตกกระทบพื้นดังสอดประสานกับจังหวะเท้าที่ย่างออกไป
ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่กันที่เสียงในบาร์พลันเงียบหายไปราวกับป่าช้า กระทั่งชายหนุ่มโยนวัตถุในมือให้แก่ผู้จัดการ
สายตาทั้งหมดจึงเพ่งมองไปยังทิศทางเดียวกันโดยพร้อมเพรียง
กลุก! กลุก!
สิ่งนั้นก็คือศีรษะของดัคน่าทั้ง 20 ชีวิต——
ยอดฝีมือทุกคนล้วนถ่างตาค้างจ้องมองภาพเบื้องหน้าราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง
.....ชายเจ้าของผ้าเปื้อนเลือดแบมือออกไป
“ส่งเงินมาได้แล้ว”
۞۞۞
ความคิดเห็น