ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #54 : Ep.54 - Silly

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.1K
      96
      7 ม.ค. 60

    UNagain.54 – Silly

    หึ! จะบอกว่านี่เป็นความผิดชั้นสินะ?”

    ท่ามกลางหลุมศพนับร้อยหรืออาจจะมากกว่านั้นได้เผยให้เห็นชายหนุ่มยืนสงบนิ่งอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าของมันฉายแววโศกเศร้าปนละแค้นใจยากคาดเดาอารมณ์

    ———ทั้งที่ตัดสินใจไปแล้วแท้ๆ

    ตัดสินใจไปแล้วว่าเป็นครอบครัว!

    ตัดสินใจไปแล้วว่าที่นี่คือบ้าน!

    กึด! อุ้งมือหยาบกำแน่น จากนั้นเกลจึงก้าวเดินต่อไป ศพแล้วศพเล่า แผ่นกระเบื้องสีชาล้วนสอดกระทบแสงลงสู่ดินราวกับสื่อเป็นนัยบางอย่าง เขารู้ดีว่าคนเหล่านี้ตายไปเพราะใคร

    แน่นอนว่าคำตอบคือไอแซค

    .....และตัวเขาเอง

    มนุษย์ช่างโง่เขลา แม้จะอยากลืมแต่ก็ลืมไม่ลง แม้อยากจะปัดความผิดแต่ตราบาปก็ยังหลงเหลือราวกับคราบโลหิตยากจะชะล้าง กลิ่นคาวชื้นคล้ายกับเหล็กเย็นพลันแผ่ซ่านเข้าสู่จิตนาการของชายหนุ่ม

    โลกใบนี้น่ะไร้ซึ่งคุณธรรม

    ทันใดนั้นเบื้องหลังของเกลจึงปรากฏเสียงแหบพร่าขึ้น เขาเลิกคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกชั่วขณะพลางหันมองไปยังที่มาของเสียงดังกล่าว เป็นอิสตรีผู้หนึ่ง หล่อนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มคาดว่าอายุอานามคงประมาณ 15-16 เห็นจะได้ ในมือของเธอถือไม้ดอกสีขาวดูสวยงามแต่เปราะบางไว้อยู่

    เธอยิ้มจางๆแล้ววางไม้ประดับไว้หน้าหลุมศพแผ่นหนึ่ง

    .....ราวกับมีเสียงฟ้าผ่าลั่น

    แด่ฉีและเทียนเหมย

    บนแผ่นสลักมีชื่อของบุคคลที่เขารู้จักอยู่

    ชายหนุ่มนิ่งไม่ไหวติง หัวใจเองก็พลันเต้นตื่นตูมไม่เป็นจังหวะเฉกเช่นลมหายใจกระชั้นชิดซึ่งส่งผ่านแรงกระทบออกไปจนผ้าพันแผลหยาบปลิวไสว

    ———เป็นเพราะเรา?

    เป็นเพราะเรางั้นเหรอ..!?

    ตอนนั้นในใจของเกลรู้สึกด้านชาราวกับถูกน้ำแข็งหมื่นปีเข้ากัดกิน เขาฝืนรั้งตั้งสติไว้พลางปรับลมหายใจให้เข้าที่ สองตาซึ่งลอดผ่านผ้าขาวได้จับจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้า คล้ายกับรู้ตัวสาวน้อยนิรนามจึงเหยียดกายขึ้น แล้วหันมองตอบไร้ความรู้สึกบนสีหน้า

    คุณเพิ่งมาใหม่สินะ?”

    “.....ใช่

    ชั้นจำคุณได้ที่แอเรีย คุณคือคนที่ฆ่าคิริโตะกับคาเนกิ

    ราวกับสมองคิดคำนวณโดยอัตโนมัติ เกลหันมองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งคล้ายจดจำใบหน้านี้ได้รางๆ แล้วก็เป็นเช่นนั้น ในตอนที่ล่าอสุภะให้บ๊อบ เขาเคยฆ่าชายสองคนที่น่าจะเป็นเพื่อนของหล่อนไป

    เกลหรี่ตาลงสายตานั้นแปรเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย——

    แล้วไง? จะแก้แค้นงั้นเหรอ?”

    ไม่ค่ะ คนแบบนั้นไม่มีค่าพอให้ชั้นต้องเปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย

    คำตอบเธอทำเอาชายหนุ่มกระตุกคิ้ว “.....แปลกคนซะจริงเขาพึมพำ ก่อนจะเหยียดยิ้มว่า ในเมื่อไม่มีธุระ ชั้นก็ขอตัวเกลเอ่ยเช่นนั้นพร้อมกับย่างเท้าออกไป ผ้าพันแผลสีขาวลอยหวือไปตามกระแสตัดกับเส้นผมสีบลอนซ์ทองของอีกฝ่าย ทั้งคู่ไม่ได้มองหน้ากัน กระทั่งชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องกระจก เธอจึงเบือนหน้ากลับสู่ผืนกระเบื้องแผ่นเดิมอีกครั้ง

    หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบาออกมา

    พี่เกล.....ไปอยู่ที่ไหนกันนะ?”

    .

    .

    จะรับงานนี้จริงๆเหรอ? นี่เป็นภารกิจระดับ 5 ดาวเลยนะ

    ชายแก่เจ้าของบาร์ตอบ ท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของคนทั้งร้าน สถานที่แห่งนี้ถูกเติมแต่งด้วยโรงไม้แก่ๆ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มชายหญิงเข้าออกอยู่ตลอดเวลา มันถูกเรียกว่า <บาร์> หรือ <สถานรับจ้าง> สาเหตุของชื่อก็ตรงตัว ที่นี่จะรับงานทุกประเภทมาติด <บอร์ด> ไว้ หากใครสนใจทำก็นำใบประกาศมายื่น

    ———ความรู้สึกก็คล้ายกับพวกเกม RPG

    เป็นกฎเกณฑ์ที่เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก ภารกิจจะมีตั้งแต่ต่ำสุดคือ 1 ดาว ไปถึงสูงสุด 5 ดาว ยิ่งระดับสูงความยากก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ภารกิจที่เกลฉีกไปนั้นคือ <สังหารอสุภะรูปแบบดัคน่า 20 ตน>

    .....เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงตื่นตระหนก

    ผิดกับเจ้าตัวซึ่งครุ่นคิดว่าสองปีมานี้อะไรๆก็ดูแปลกตาขึ้นเยอะ

    ชั้นจะทำภารกิจนี้เองเขาตอบรับสั้นๆก่อนจะเดินออกจากประตูพับทิ้งให้ผู้คนรอบด้านมองไล่หลังไปทั้งอย่างนั้น กึง! กระทั่งพ้นตัวร้านจนบานพับปิดลง เสียงโห่ร้องเซ็งแซ่จึงดังขึ้นระงมในชั่วเสี้ยววิ

    เหอะ! ไอ้หน้าใหม่นั่นหาเรื่องไปตายแล้วไหมล่ะ?”

    ผู้พูดคือชายฉกรรจ์สูงใหญ่ในมือมันมีขวานยักษ์ซึ่งหลอมขึ้นจากกาหยาบของอสุภะ แน่นอนว่าคนที่มีอาวุธระดับนี้ย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่ หลายคนล้วนรู้จักมันในนามของจางลี่  ล่าอสูรนักล่าอสุภะชั้นนำของเมืองจัสมินซึ่งมีฝีมือเก่งกาจผู้หนึ่ง จากนั้นสตรีวัยยี่สิบกว่าข้างๆจึงออกความเห็น

    ก็มีให้เห็นถมไป พวกชอบโชว์พาวให้สาวเห็นน่ะ

    หล่อนคือยูจีน  เท้ามรณะหนึ่งในยอดฝีมืออีกคนแห่งเมืองจัสมิน คำวิจารณ์ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เสียงของบุรุษหนุ่มซึ่งนั่งจิบชาอยู่มุมห้องก็เปรยขึ้นอย่างเรียบเฉียบ

    มันผู้นั้นเรอะ?”

    คำพูดนี้กลับมีอนุภาพบางอย่าง เสียงอีออของบุคคลนับสี่ห้าสิบชีวิตพลันเงียบเสียงลงดุจฟังคำประกาศกร้าวจากปากผู้พิพากษา มันซดชาดัง ซู้ด! หนหนึ่ง แม้จะเพิ่งมาเยือนเมืองได้ไม่ถึงหนึ่งปี ทว่าความน่าเกรงขามของมันกลับเป็นที่รู้จักกันอย่างดี

    นามของมันคือโทโยฮิสะ  ชิมาสุ

    นักรบแห่งแดนอาทิตย์อุทัยในช่วงประวัติศาสตร์ ในเมืองนี้เกรงว่านอกจากลิโป้กับฮิราแล้ว มันจึงจะสามารถเรียกตนว่าแข็งแกร่งเหนือผู้ใดได้อย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อจิบชาจนพอใจ ชายชาตินักรบจึงว่า

    ข้าว่าเพียงหกฝ่าเท้า หัวของมันก็หลุดโดยไม่รู้ตัวแล้ว

    เพียงเท่านั้น เสียงหัวเราะก็พลันดังครืนเข้าถล่มถลายบาร์ไม้ราวกับจัดงานสังสรรค์ ชิมาสุเหยียดยิ้มบางๆอย่างดูแคลน ส่วนผู้อื่นก็หัวร่อดูถูกเกลกันอย่างขบขัน ว่าอย่างนั้นทีอย่างนี้บ้าง

    .

    .

    โฮ่? มีงานเลี้ยงรึไงนั่น?”

    ทันใดนั้นเสียงกร้านอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น มันผู้นั้นมีร่างผอมบางสวมเสื้อคลุมหยาบและถูกปกคลุมไปด้วยผ้าพันแผลขาวดูหลุดลุ่ย ไม่สิ——

    ตอนนี้น่ะกลายเป็นสีแดงฉานของโลหิตไปแล้วต่างหาก

    ทั่วตัวนั้นชุ่มไปด้วยเลือด แปะ! แปะ! แปะ! เสียงหยาดทับทิมตกกระทบพื้นดังสอดประสานกับจังหวะเท้าที่ย่างออกไป ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่กันที่เสียงในบาร์พลันเงียบหายไปราวกับป่าช้า กระทั่งชายหนุ่มโยนวัตถุในมือให้แก่ผู้จัดการ สายตาทั้งหมดจึงเพ่งมองไปยังทิศทางเดียวกันโดยพร้อมเพรียง

    กลุก! กลุก!

    สิ่งนั้นก็คือศีรษะของดัคน่าทั้ง 20 ชีวิต——

    ยอดฝีมือทุกคนล้วนถ่างตาค้างจ้องมองภาพเบื้องหน้าราวกับเป็นฝันตื่นหนึ่ง

    .....ชายเจ้าของผ้าเปื้อนเลือดแบมือออกไป

    ส่งเงินมาได้แล้ว

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×