คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : Ep.44 - Slaughter
UNagain.44 – Slaughter
“เอาล่ะ,เท่านี้ก็เรียบร้อย..!”
ปัดมือเสียงเปาะแปะแล้วจ้องมองผลงานตรงหน้า ด้วยอาคมรักษาอย่าง【จิวาล • กา •จอล์】จึงทำให้โคนแขนและขาของ <อสุภะ> ถูกปิดลงสนิทไร้รอยแผล แม้ไม่ถึงขั้นคืนแขนขามาได้,แต่อย่างน้อยก็ห้ามเลือดเอาไว้แล้ว
เกลถอนหายใจเหนื่อยอ่อนเล็กน้อยพลางขบคิด
พลังกายและประสิทธิภาพของร่างนี้....ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ทั้งฉีกกระชากคนด้วยมือเปล่า
รับรู้ถึงภัยอันตรายจากมุมบอดที่มองไม่เห็น
———เป็นพลังที่น่ากลัวชะมัด
“กี๊ซซซซซซ....”
ส่วนเจ้า <อสุภะ> แม้จะหายดีแล้วแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูออกมา แถมกลับกัน——
‘ขอบคุณ....’
ทางเกลเองก็ได้ยินเสียงที่แสดงความเป็นมิตรขึ้นมาในหัวแทน........เขาไม่เข้าใจว่าปรากฏการณ์นี้คืออะไร
กระนั้นก็พอคาดเดาได้ว่านี่เป็นผลพวงมาจากการที่เคยเป็น <อสุภะ> มาก่อน ความจริงตอนนี้ตัวเขาก็นับว่าเป็นก้ำกึ่งระหว่างมนุษย์และสัตว์ประหลาดอยู่เหมือนกัน
ถึงภายนอกจะใช่แต่ภายในน่ะ.....เอาเถอะ,ยังไงทางนี้ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ
เกลนึกแบบนั้น,พร้อมหิ้วปีก <อสุภะ> กลับไปหาบ๊อบ ถึงจะได้รับคำสั่งมาว่าให้หา 2 ตัว
แต่ไปมาก็ชักขี้เกียจซะแล้วสิ....ดังนั้นเกลจึงไม่คิดจะใส่ใจแล้วกลับไปหาอีกฝ่ายทั้งๆแบบนั้น
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ,ท่าน”
——คุณเมดนับร้อยขานขึ้นโดยพร้อมเพรียง
“โอ้..! ยินต้อนรับกลับนะ,ไอ้หนู”
“มาเรียกชั้นว่าไอ้หนู,ไอ้มืด”
——คนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าที่สุด,ดันโผล่มาซะแล้วสิ
“เฮ้ยๆ นี่แกคิดจะเหยียดผิวรึไง? ทั้งที่เป็นคนเอเชียแท้ๆ....อ๋า~? ชักจะเหม็นสาบลิงเหลืองซะแล้วสิ”
“.........กวนเท้าจริงนะแกน่ะ เอ้า! นี่ <อสุภะ> ตามที่ตกลงกันไว้”
พลั่ก!
เกลโยนร่างไร้แขนขาไปให้บ๊อบ ซึ่งเจ้าตัวก็ร้อง ‘โอ๊ะๆ’ ออกมาพร้อมกับรับได้ทันท่วงที
“ตัวเดียวงั้นเรอะ? เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรจะผิดคำสัญญานะ”
“ชั้นไม่ใช่เด็ก....ส่วนแกก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ด้วยเหมือนกัน”
เกลตอบเสียงแข็งเรียกเสียงหัวเราะจากบ๊อบได้ดังลั่น
บางทีเรื่องแบบนี้เขาก็ชักจะชินแล้ว
เพราะตั้งแต่ที่เป็นสมองยันผ้าพันแผลแบบนี้บ๊อบก็ยังคงซิกเนเจอร์ด้วยท่าทีกวนเบื้องล่างเหมือนเคย
ขณะที่คิดจะกลับไปยังห้องพักของตัวเองนั้น——ชายผิวสีก็โพล่งขึ้น
“เดี๋ยวสิ,ชั้นยังมี....งานให้แกทำอยู่นะ”
“...........”
แอ๊ด!
ประตูห้องเปิดออกด้วยเสียงคร่ำครึ สภาพภายในนั้นเป็นเพียงห้องทรงลูกบาศก์โทรมๆและมีไฟสว่างเพียงไม่กี่ดวงจึงทำให้ดูมืดมัวชวนรู้สึกขนลุก
ณ กลางห้องนั้นมีกรงเหล็กหนาตั้งเอาไว้อยู่
.....ภายในนั้นมี <อสุภะ> รวมตัวกันอยู่เป็นสิบๆหรือเฉียดร้อยเห็นจะได้
เกลถึงกับอึ้งเล็กน้อย กลับกันบ๊อบก็เดินไปยังมุมหนึ่งซึ่งแขวนอุปกรณ์ช่างและของมีคมจำนวนหนึ่งเอาไว้
หมอนั่นหยิบเอาเลื่อยออกมาแล้วว่า “วางเจ้านั่นไว้ที่เตียงซะ”
เจ้านั่นก็คือ <อสุภะ> ตัวที่เขานำมานั่นเอง——
“........” เกลเงียบตอบ,กระนั้นก็ปฏิบัติตามคำของอีกฝ่าย จับวางร่าง <อสุภะ> พิการขึงไว้กับเตียงที่เปื้อนเลือด
ขณะเดียวกันมันก็ส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมา
‘อะไร...จะทำอะไร?’
“...........”
เสียงแบบนั้นดังเข้ามาในหัวของเกลอีกครั้ง——ทว่าเขาเองก็รู้ถึงชะตากรรมของมันดี
ดังนั้นจึงได้แต่กัดฟันแน่นพร้อมทำทีไม่สนใจต่อ <อสุภะ> ด้านบ๊อบนั้นพอเห็นสีหน้าก็พอจะรับรู้ได้จึงทัก
“ถ้ากลัวเลือดจะออกไปก็ได้นะ”
“หุบปากไปเลย! แกว่าใครกลัวเลือดกัน..?”
เกลตวาด,ส่งผลให้บ๊อบยักไหล่ขึ้นลง
ก่อนจะหันมาสน <อสุภะ> ตรงหน้าอีกครั้งแล้วว่า “ทริปนี้ไม่มียาชานะน้อง” พร้อมกับเริ่มชำแหละ <อสุภะ> ไร้แขนขาอย่างเลือดเย็น ส่วนเกลที่เห็นก็ถึงกับมองค้างเลิกคิ้วสูง——กระนั้น,ท่าทีนี้กลับไม่ใช่การตื่นตะลึง
แต่ควรเป็นคำว่า <ทึ่ง> เสียซะมากกว่า
.....การเคลื่อนไหวของชายคนนี้นับว่ารวดเร็วผิดมนุษย์
ไม่ใช่แค่นั้น,พอถึงจังหวะที่เปิดปากแผลบ๊อบก็จะร่าย <อาคม> ออกมาในชั่วเสี้ยววิ ใช่....ในชั่วเสี้ยวิ,หรือก็คือท่องบทร่ายไปเพียงแค่ชั่วอึดใจ
ความจริงนั้นบทร่ายนอกจากวิธีพูดออกมา
คนส่วนใหญ่ก็มักจะท่องในใจเพื่อไม่ให้ใครรู้ถึงบทบริกรรม——ทว่าในกรณีของบ๊อบกลับสามารถท่อง <อาคม> ในหัวได้อย่างรวดเร็วนั้นนับว่าเหลือเชื่อจนเกินไป....ถึงจะเป็นคำพูดในใจแต่ก็มีการเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ
การที่บ๊อบสามารถเรียกออกมาได้ดั่งใจนึก
แสดงว่าในหัวของเขานั้นมีเรื่อง <อาคม> บทนั้นอยู่ตลอดเวลา
กล่าวคือในสมองของมนุษย์เวลาพูดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่รู้จัก
คนๆนั้นก็จะต้องขบคิดขึ้นมาเสียก่อน
ทว่าหากเป็นเรื่องง่ายๆที่คุ้นชินจนสามารถตอบขึ้นมาได้ในชั่วเสี้ยววิแล้วล่ะก็,ผลลัพธ์นั้นจะกลับกลายเป็นตรงกันข้าม
กระนั้นเงื่อนไขของการใช้ <อาคม> เพียง 1 วินี้กลับไม่ได้ง่ายดายเพียงแค่นั้น——อาทิเช่น
หากมีคนถามว่า 1+1 เท่ากับเท่าไหร่,คนส่วนใหญ่ก็มักจะตอบว่า
2 เป็นธรรมดา
.....นั่นน่ะคิดว่าถูกแล้วรึเปล่านะ? รึว่าคำถามนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่? แล้วทำไมชั้นต้องตอบด้วย?
ในชั่วเสี้ยววิที่ได้คำตอบ,คำถามเองก็จะถาโถมเข้ามาแทบจะพร้อมเพรียงกัน
โดยปกติมนุษย์ก็ล้วนเป็นเช่นนี้เสียซะส่วนใหญ่
ดังนั้นแค่การคุ้นชินกับบทร่ายจึงยังไม่พอที่จะเรียก <อาคม> ออกมาเพียงแค่เสี้ยววิ
ถ้างั้นคำตอบของปริศนานี้,มันคืออะไรกันล่ะ?
————คำตอบนั้นก็คือ <การไร้ซึ่งข้อกังขา>
บ๊อบนึกบทร่ายขึ้นในใจโดยไร้ซึ่งความคิดอื่นในหัว
ถึงจะเป็นเพียงเสี้ยววิแต่เขากลับชักนำคววามคิดได้ดั่งใจ สามารถควบคุมให้เกิดความนึกคิดอย่างใดอย่างหนึ่งได้
เวลาร่ายเองก็จะมีแต่บทบริกรรมอยู่ภายในหัว
.....บ๊อบนั้นมองให้ <อาคม> เป็นดั่ง <พระเจ้า>
ตัวตนที่ห้ามไร้ข้อสงสัย,หรือคับข้องใจใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นพอรู้สึกตัวอีกทีชายผิวสีคนนี้จึงสามารถใช้ <อาคม> ได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังเป็น <อาคม> แต่ละชนิดพลัดเปลี่ยนกันไปตามโอกาส
ทั้งประเภทรักษาหรือเสริมศักยภาพให้รวดเร็วต่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจนเกลต้องถึงกับอึ้งไปตามๆกัน
เคร้ง!
ระหว่างที่คิดอยู่นั้น บ๊อบก็วางอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่ลงตามเดิม,แล้วว่า “เอาไปขังไว้ในกรงด้วยล่ะ” จบคำหมอนั่นก็เดินออกจากห้องปล่อยให้เกลยืนมอง <อสุภะ> ที่ไร้รอยแผลนอนดิ้นอยู่บนเตียง
.....ไม่ใช่แค่ไร้รอยแผล,แต่แขนขาเองก็ถูกบ๊อบรักษาให้จนฟื้นกลับมาตามเดิม
เอื๊อก..!
ความสามารถนั่นต่อให้มีแรงกายมหาศาลบวกกับไหวพริบอันเลอเลิศ
ตัวเกลเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะต่อกรอีกฝ่ายได้รึเปล่า——พอมานึกแบบนี้,เขาก็ลอบหลังเหงื่อเย็นออกมาโดยไม่รู้ตัว
“กี๊ซซซซซซ....”
<อสุภะ> เอ่ยเสียงแผ่ว,แม้จะมีแขนขาแต่มันก็ไม่คิดทำร้ายเกลแต่อย่างใด
บางทีทางนั้นอาจจะมองเห็นเขาเป็น <อสุภะ> เหมือนกัน....ก็เลยคิดว่าเป็นพรรคพวกที่ไม่สมควรจะเป็นศัตรูด้วย
แถมพอสังเกตดูเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็น <อสุภะ> ทำร้ายกันเองมาก่อน
พวกที่อยู่ในกรงเองก็เหมือนจะอยู่แบบตัวใครตัวมันไม่มีการเขม่นหรือเผยท่าทีมุ่งร้ายออกมา——ข้อสันนิษฐานนี้,บางทีอาจจะถูกก็ได้
แอ๊ดดด!
“เอ้า! เข้าไปซะ”
เกลว่าอย่างนั้นพร้อมผลัก <อสุภะ> นี้เข้ากรง
ตรงจุดนี้เองก็มีเรื่องน่าแปลกเกิดขึ้นอีกครั้ง....ในความเป็นจริงเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงต้องขัดขืนแน่ๆ——ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเจ้าตัวนี้กลับไปรวมกลุ่มกับพวก <อสุภะ> อย่างหน้าตาเฉย ขณะเดียวกันพวกในกรงเองก็ไม่คิดที่จะแหกคุกออกมาหรือแสดงท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด
ที่เห็น,ก็จะมีแต่หันมามองก็เท่านั้น
——น่าแปลก...น่าแปลกจริงๆ
นอกจากจะไม่คุกคามหรือทำร้าย
แต่ท่าทีที่แสดงออกก็ยังกลับกลายเป็นมิตรแทนเสียซะอย่างนั้น เกลในตอนนี้
แม้จะถูกจับจ้องด้วยสายตาจำนวนมาก แต่ก็ไม่รู้สึกกดดันเลยซักนิด สายตาเหล่านั้น,ไม่ใช่การคาดหวังหรือมีจุดมุ่งหมายอื่น
สายตาของ <อสุภะ> พวกนั้น——มันเหมือนกับกำลังเลื่อมใสอยู่
เหมือนกับสุนัข......ที่รอคำสั่งของเจ้านายไม่มีผิด
۞۞۞
ความคิดเห็น