ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #44 : Ep.44 - Slaughter

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.4K
      102
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.44 – Slaughter

    เอาล่ะ,เท่านี้ก็เรียบร้อย..!”

    ปัดมือเสียงเปาะแปะแล้วจ้องมองผลงานตรงหน้า ด้วยอาคมรักษาอย่างจิวาล • กา •จอล์จึงทำให้โคนแขนและขาของ <อสุภะถูกปิดลงสนิทไร้รอยแผล แม้ไม่ถึงขั้นคืนแขนขามาได้,แต่อย่างน้อยก็ห้ามเลือดเอาไว้แล้ว เกลถอนหายใจเหนื่อยอ่อนเล็กน้อยพลางขบคิด

    พลังกายและประสิทธิภาพของร่างนี้....ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ทั้งฉีกกระชากคนด้วยมือเปล่า รับรู้ถึงภัยอันตรายจากมุมบอดที่มองไม่เห็น

    ———เป็นพลังที่น่ากลัวชะมัด

    กี๊ซซซซซซ....

    ส่วนเจ้า <อสุภะแม้จะหายดีแล้วแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูออกมา แถมกลับกัน——

    ขอบคุณ....

    ทางเกลเองก็ได้ยินเสียงที่แสดงความเป็นมิตรขึ้นมาในหัวแทน........เขาไม่เข้าใจว่าปรากฏการณ์นี้คืออะไร กระนั้นก็พอคาดเดาได้ว่านี่เป็นผลพวงมาจากการที่เคยเป็น <อสุภะมาก่อน ความจริงตอนนี้ตัวเขาก็นับว่าเป็นก้ำกึ่งระหว่างมนุษย์และสัตว์ประหลาดอยู่เหมือนกัน

    ถึงภายนอกจะใช่แต่ภายในน่ะ.....เอาเถอะ,ยังไงทางนี้ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ

    เกลนึกแบบนั้น,พร้อมหิ้วปีก <อสุภะกลับไปหาบ๊อบ ถึงจะได้รับคำสั่งมาว่าให้หา 2 ตัว แต่ไปมาก็ชักขี้เกียจซะแล้วสิ....ดังนั้นเกลจึงไม่คิดจะใส่ใจแล้วกลับไปหาอีกฝ่ายทั้งๆแบบนั้น

    ยินดีต้อนรับกลับค่ะ,ท่าน

    ——คุณเมดนับร้อยขานขึ้นโดยพร้อมเพรียง

    โอ้..! ยินต้อนรับกลับนะ,ไอ้หนู

    มาเรียกชั้นว่าไอ้หนู,ไอ้มืด

    ——คนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าที่สุด,ดันโผล่มาซะแล้วสิ

    เฮ้ยๆ นี่แกคิดจะเหยียดผิวรึไงทั้งที่เป็นคนเอเชียแท้ๆ....อ๋า~? ชักจะเหม็นสาบลิงเหลืองซะแล้วสิ

    .........กวนเท้าจริงนะแกน่ะ เอ้านี่ <อสุภะตามที่ตกลงกันไว้

    พลั่ก!

    เกลโยนร่างไร้แขนขาไปให้บ๊อบ ซึ่งเจ้าตัวก็ร้อง โอ๊ะๆ ออกมาพร้อมกับรับได้ทันท่วงที

    ตัวเดียวงั้นเรอะเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรจะผิดคำสัญญานะ

    ชั้นไม่ใช่เด็ก....ส่วนแกก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ด้วยเหมือนกัน

    เกลตอบเสียงแข็งเรียกเสียงหัวเราะจากบ๊อบได้ดังลั่น บางทีเรื่องแบบนี้เขาก็ชักจะชินแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เป็นสมองยันผ้าพันแผลแบบนี้บ๊อบก็ยังคงซิกเนเจอร์ด้วยท่าทีกวนเบื้องล่างเหมือนเคย ขณะที่คิดจะกลับไปยังห้องพักของตัวเองนั้น——ชายผิวสีก็โพล่งขึ้น

    เดี๋ยวสิ,ชั้นยังมี....งานให้แกทำอยู่นะ

    ...........

    แอ๊ด!

    ประตูห้องเปิดออกด้วยเสียงคร่ำครึ สภาพภายในนั้นเป็นเพียงห้องทรงลูกบาศก์โทรมๆและมีไฟสว่างเพียงไม่กี่ดวงจึงทำให้ดูมืดมัวชวนรู้สึกขนลุก ณ กลางห้องนั้นมีกรงเหล็กหนาตั้งเอาไว้อยู่

    .....ภายในนั้นมี <อสุภะรวมตัวกันอยู่เป็นสิบๆหรือเฉียดร้อยเห็นจะได้

    เกลถึงกับอึ้งเล็กน้อย กลับกันบ๊อบก็เดินไปยังมุมหนึ่งซึ่งแขวนอุปกรณ์ช่างและของมีคมจำนวนหนึ่งเอาไว้ หมอนั่นหยิบเอาเลื่อยออกมาแล้วว่า “วางเจ้านั่นไว้ที่เตียงซะ

    เจ้านั่นก็คือ <อสุภะตัวที่เขานำมานั่นเอง——

    ........” เกลเงียบตอบ,กระนั้นก็ปฏิบัติตามคำของอีกฝ่าย จับวางร่าง <อสุภะพิการขึงไว้กับเตียงที่เปื้อนเลือด ขณะเดียวกันมันก็ส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมา

    อะไร...จะทำอะไร?’

    ...........

    เสียงแบบนั้นดังเข้ามาในหัวของเกลอีกครั้ง——ทว่าเขาเองก็รู้ถึงชะตากรรมของมันดี ดังนั้นจึงได้แต่กัดฟันแน่นพร้อมทำทีไม่สนใจต่อ <อสุภะด้านบ๊อบนั้นพอเห็นสีหน้าก็พอจะรับรู้ได้จึงทัก

    ถ้ากลัวเลือดจะออกไปก็ได้นะ

    หุบปากไปเลยแกว่าใครกลัวเลือดกัน..?”

    เกลตวาด,ส่งผลให้บ๊อบยักไหล่ขึ้นลง ก่อนจะหันมาสน <อสุภะตรงหน้าอีกครั้งแล้วว่า “ทริปนี้ไม่มียาชานะน้อง” พร้อมกับเริ่มชำแหละ <อสุภะไร้แขนขาอย่างเลือดเย็น ส่วนเกลที่เห็นก็ถึงกับมองค้างเลิกคิ้วสูง——กระนั้น,ท่าทีนี้กลับไม่ใช่การตื่นตะลึง แต่ควรเป็นคำว่า <ทึ่งเสียซะมากกว่า

    .....การเคลื่อนไหวของชายคนนี้นับว่ารวดเร็วผิดมนุษย์

    ไม่ใช่แค่นั้น,พอถึงจังหวะที่เปิดปากแผลบ๊อบก็จะร่าย <อาคมออกมาในชั่วเสี้ยววิ ใช่....ในชั่วเสี้ยวิ,หรือก็คือท่องบทร่ายไปเพียงแค่ชั่วอึดใจ ความจริงนั้นบทร่ายนอกจากวิธีพูดออกมา คนส่วนใหญ่ก็มักจะท่องในใจเพื่อไม่ให้ใครรู้ถึงบทบริกรรม——ทว่าในกรณีของบ๊อบกลับสามารถท่อง <อาคมในหัวได้อย่างรวดเร็วนั้นนับว่าเหลือเชื่อจนเกินไป....ถึงจะเป็นคำพูดในใจแต่ก็มีการเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ

    การที่บ๊อบสามารถเรียกออกมาได้ดั่งใจนึก แสดงว่าในหัวของเขานั้นมีเรื่อง <อาคมบทนั้นอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือในสมองของมนุษย์เวลาพูดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่รู้จัก คนๆนั้นก็จะต้องขบคิดขึ้นมาเสียก่อน

    ทว่าหากเป็นเรื่องง่ายๆที่คุ้นชินจนสามารถตอบขึ้นมาได้ในชั่วเสี้ยววิแล้วล่ะก็,ผลลัพธ์นั้นจะกลับกลายเป็นตรงกันข้าม กระนั้นเงื่อนไขของการใช้ <อาคมเพียง 1 วินี้กลับไม่ได้ง่ายดายเพียงแค่นั้น——อาทิเช่น หากมีคนถามว่า 1+1 เท่ากับเท่าไหร่,คนส่วนใหญ่ก็มักจะตอบว่า 2 เป็นธรรมดา

    .....นั่นน่ะคิดว่าถูกแล้วรึเปล่านะรึว่าคำถามนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่แล้วทำไมชั้นต้องตอบด้วย?

    ในชั่วเสี้ยววิที่ได้คำตอบ,คำถามเองก็จะถาโถมเข้ามาแทบจะพร้อมเพรียงกัน โดยปกติมนุษย์ก็ล้วนเป็นเช่นนี้เสียซะส่วนใหญ่ ดังนั้นแค่การคุ้นชินกับบทร่ายจึงยังไม่พอที่จะเรียก <อาคมออกมาเพียงแค่เสี้ยววิ

    ถ้างั้นคำตอบของปริศนานี้,มันคืออะไรกันล่ะ?

    ————คำตอบนั้นก็คือ <การไร้ซึ่งข้อกังขา>

    บ๊อบนึกบทร่ายขึ้นในใจโดยไร้ซึ่งความคิดอื่นในหัว ถึงจะเป็นเพียงเสี้ยววิแต่เขากลับชักนำคววามคิดได้ดั่งใจ สามารถควบคุมให้เกิดความนึกคิดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ เวลาร่ายเองก็จะมีแต่บทบริกรรมอยู่ภายในหัว

    .....บ๊อบนั้นมองให้ <อาคมเป็นดั่ง <พระเจ้า>

    ตัวตนที่ห้ามไร้ข้อสงสัย,หรือคับข้องใจใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นพอรู้สึกตัวอีกทีชายผิวสีคนนี้จึงสามารถใช้ <อาคมได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังเป็น <อาคมแต่ละชนิดพลัดเปลี่ยนกันไปตามโอกาส ทั้งประเภทรักษาหรือเสริมศักยภาพให้รวดเร็วต่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจนเกลต้องถึงกับอึ้งไปตามๆกัน

    เคร้ง!

    ระหว่างที่คิดอยู่นั้น บ๊อบก็วางอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่ลงตามเดิม,แล้วว่า “เอาไปขังไว้ในกรงด้วยล่ะ” จบคำหมอนั่นก็เดินออกจากห้องปล่อยให้เกลยืนมอง <อสุภะที่ไร้รอยแผลนอนดิ้นอยู่บนเตียง

    .....ไม่ใช่แค่ไร้รอยแผล,แต่แขนขาเองก็ถูกบ๊อบรักษาให้จนฟื้นกลับมาตามเดิม

    เอื๊อก..!

    ความสามารถนั่นต่อให้มีแรงกายมหาศาลบวกกับไหวพริบอันเลอเลิศ ตัวเกลเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะต่อกรอีกฝ่ายได้รึเปล่า——พอมานึกแบบนี้,เขาก็ลอบหลังเหงื่อเย็นออกมาโดยไม่รู้ตัว

    กี๊ซซซซซซ....

    <อสุภะเอ่ยเสียงแผ่ว,แม้จะมีแขนขาแต่มันก็ไม่คิดทำร้ายเกลแต่อย่างใด บางทีทางนั้นอาจจะมองเห็นเขาเป็น <อสุภะเหมือนกัน....ก็เลยคิดว่าเป็นพรรคพวกที่ไม่สมควรจะเป็นศัตรูด้วย แถมพอสังเกตดูเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็น <อสุภะทำร้ายกันเองมาก่อน พวกที่อยู่ในกรงเองก็เหมือนจะอยู่แบบตัวใครตัวมันไม่มีการเขม่นหรือเผยท่าทีมุ่งร้ายออกมา——ข้อสันนิษฐานนี้,บางทีอาจจะถูกก็ได้

    แอ๊ดดด!

    เอ้าเข้าไปซะ

    เกลว่าอย่างนั้นพร้อมผลัก <อสุภะนี้เข้ากรง ตรงจุดนี้เองก็มีเรื่องน่าแปลกเกิดขึ้นอีกครั้ง....ในความเป็นจริงเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงต้องขัดขืนแน่ๆ——ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเจ้าตัวนี้กลับไปรวมกลุ่มกับพวก <อสุภะอย่างหน้าตาเฉย ขณะเดียวกันพวกในกรงเองก็ไม่คิดที่จะแหกคุกออกมาหรือแสดงท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด

    ที่เห็น,ก็จะมีแต่หันมามองก็เท่านั้น

    ——น่าแปลก...น่าแปลกจริงๆ

    นอกจากจะไม่คุกคามหรือทำร้าย แต่ท่าทีที่แสดงออกก็ยังกลับกลายเป็นมิตรแทนเสียซะอย่างนั้น เกลในตอนนี้ แม้จะถูกจับจ้องด้วยสายตาจำนวนมาก แต่ก็ไม่รู้สึกกดดันเลยซักนิด สายตาเหล่านั้น,ไม่ใช่การคาดหวังหรือมีจุดมุ่งหมายอื่น สายตาของ <อสุภะพวกนั้น——มันเหมือนกับกำลังเลื่อมใสอยู่

    เหมือนกับสุนัข......ที่รอคำสั่งของเจ้านายไม่มีผิด

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×