ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #26 : Ep.26 - Separate

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.81K
      110
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.26 – Separate

    แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...

    เสียงหายใจหนักดังกระสับกระส่ายซ้อนทับกันไปมา แม้จะวิ่งมาเกือบ 200 เมตร ทว่าดัคน่าก็ยังนิ่งไม่ไหวติงเอาแต่จ้องมองมาตลอดเวลาจนน่าขนลุก

    หนีพ้น....แล้วล่ะมั้ง?”

    อย่าหยุดนะถ้าหยุดล่ะก็––”

    ไม่ทันจบคำ,จู่ๆเกลก็รู้สึกวูบพร้อมกับเสียศูนย์จนหน้าทิ่มดินเข้าอย่างจัง

    แล้วความเจ็บปวดจึงแล่นแปลบจากขาเข้าสู่กลางหลัง————

    เอ๋..?”

    ใช่,ขาซ้ายของเขาที่ตอนนี้ได้ไปอยู่ในมือของดัคน่านั่นน่ะ

    อ๊ากกกกกกกก~~!”

    เกลแผดร้องอย่างสาหัส,ก้มลงไปกุมแผลขดตัวนอนอยู่กับพื้น...ถึงจะเคยขาขาดมาแล้วตอนรอบลิโป้ ทว่าพอมาเจออีกทีก็ไม่ใช่ว่าความรู้สึกมันจะตายด้านลงเลยแม้แต่น้อย

    แล้วก็...เพราะอยู่ในสภาพชวนอนาจใจอย่างนั้น ในขณะที่เขายังกรีดร้องด้วยความทรมาณอยู่ดัคน่าก็กลับกลายเป็นยืนเฉยมองเกลดิ้นหงอเป็นกุ้ง————มันเหยียดยิ้มน่าสะอิดสะเอียนออกมา

    ......ราวกับว่ากำลังสนุกอยู่ยังไงอย่างนั้น

    ช่วยด้วยช่วยชั้นทีเบธ!! ช่วยชั้นทีอาคาเนะ!!”

    พอโพล่งแบบนั้น,หลังจากที่มองเกลค้างอยู่นานสองสาวจึงได้สติ แล้วรีบวิ่งออกไปทันที————

    วิ่งออกไป.......ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับร่างของเขาและดัคน่าซึ่งกำลังกัดกินขาของเกลอย่างเอร็ดอร่อย เพียงเท่านี้,ใบหน้าของชายหนุ่มก็ถึงกับถอดสี ซีดเซียวจนแทบจะกลายเป็นขาวเผือดเลยก็ว่าได้

    ทำไม..ทำไมกันเล่า!?.......ไอ้ห่าเอ๊ยยยยยยยย!”

    นอกจากเสียงของเขาก็เห็นจะมีแต่ดัคน่าที่กำลังหัวเราะเสียงแหลมออกมา ก็ไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นเสียงที่ต้องการจะสื่ออารมณ์แบบไหน...แต่เกลในตอนนี้กลับรู้สึกตนกำลังถูกดูแคลนอยู่

    กร้วมๆๆๆ...

    ขณะเดียวกันดัคน่าก็กลืนขาของเกลจนหมดสิ้น ก่อนจะดูดนิ้วมือเสียงดัง ‘จ๊วบ’ ออกมาราวกับเย้ยหยัน “เฮี้ยกๆๆๆๆฮี่ฮี่ฮี่ฮี่~” เสียงแหลมสูงนั่นดังสอดประสานกับอุ้งมือที่กำลังยื่นเข้ามาทาบหน้าของเกลอย่างแช่มช้า....ตัวเขาเองก็ปลงตกข่มตาหลับลงแน่น คาดคิดว่าไม่อยากตายอย่างเจ็บปวดมากนัก

    โผล๊ะ!

    เสียงวัตถุแตกโพลงคล้ายกับแตงโมตกจากที่สูงดังสะท้านไปทั่วร่างของเกล พร้อมกับเลือดสีแดงชาดที่สาดกระเซ็นออกมาดุจท่อสปริงเกอร์ในพงสวน————น่าเสียดาย....

    ที่ศีรษะนั่นไม่ใช่ของเกล

    กี๊!? กี๊ซซซซซซซ~~!?”

    แต่เป็นของดัคน่าที่กำลังยืนแอ่นตัว 180 องศาขนานเป็นแนวกับพื้น————

    ด้านหลังของมันกลับปรากฏสตรีผู้หนึ่ง....มือของเธอกำลังบีบศีรษะของดัคน่าจนแตกโพลงออกเป็นสองเสี่ยงเผยสมองสีชมพูสดไหลเยิ้มออกมาคล้ายกับเยลลี่พุดดิ้ง

    ที่น่าแปลก,คือมือเธอนั้นเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ของ <อสุภะรอบโคนนิ้วและแขนนั้นกลับปรากฏเส้นเลือดฝาดปูนโปนชวนให้รู้สึกแย่ ขณะเดียวกันดัคน่าที่ยืนแอ่นตัวจนเกร็งก็ล้มลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายไปในที่สุด

    .....สตรีสาวเบื้องหน้าส่งยิ้มให้เกลอย่างเป็นมิตร

    ขาข้างนั้นน่ะ,เดี๋ยวชั้นรักษาให้

    .

    .

    เอาล่ะ,เรียบร้อยแล้ว

    .....

    เกลเงียบกริบ

    หากให้กล่าวถึงสาเหตุ,ก็คงเป็นเพราะ <อาคมที่เธอใช้จิวาลกาจอว์สำหรับการต่อขาใหม่ให้กับเขา..ไม่สิ————

    นี่น่ะไม่ใช่การต่อขา,แต่เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เลยต่างหาก

    ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่เธอกลับใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการปฏิบัติ พอรู้ตัวอีกทีขาซ้ายก็กลับมาดังเดิมราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน

    ชั้นซีหลงนายล่ะ?”

    ชั้นเกล...ขอบใจที่ช่วยนะ

    เกลโค้งศีรษะให้ จากนั้นจึงลองยืดขาดูก็พบว่าไม่เหลือกระทั่งอาการตกค้างแตกต่างกับของเทียนเหมย ที่ใช้เวลาพอๆกันแต่ทำได้แค่ต่อขาซ้ำยังหลงเหลืออาการเจ็บปวดไว้อีก แถมดูจากสภาพของซีหลงที่ไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าเธอเชี่ยวชาญ <อาคมประเภทรักษาขนาดไหน

    อาการเหนื่อยล้าหลังใช้ <อาคมน่ะเป็นตัวชี้ชัดเลย

    สังเกตได้จากคราวก่อนที่เทียนเหมยมีอาการหอบให้เห็น จากที่ได้ยินมา,สาเหตุก็เป็นเพราะการใช้ <อาคมประเภทรักษา การใช้ <อาคมประเภทนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะยิ่งทำให้สมองและร่างกายได้รับภาระหนักจนเกินไป ในการนี้หากเป็นผู้ใช้จิวาลกาจอว์ชั้นเซียนจริงก็จะได้รับผลข้างเคียงน้อยลงตามไปด้วย————ซึ่งดูเหมือนว่าปัจจัยหลักจะเป็นการอ่านโครงสร้างมนุษย์

    เหมือนกับหมอ...ถ้าจะทำการรักษาหรือรังสรรค์ขาขึ้นมาใหม่ก็จำเป็นต้องรู้เรื่องอนาโตมี่ของร่างกาย ตั้งแต่เส้นประสาทยันหลอดเลือด ยิ่งรู้ละเอียดมากเท่าไหร่ผลข้างเคียงจะน้อยลงแถมเวลาในการฟื้นฟูก็จะเร็วยิ่งขึ้นไปอีก พอคิดแบบนั้น————บางทีเธอคนนี้อาจจะเป็นหมอมาก่อนก็ได้

    เห๋..เกลงั้นเหรอเป็นชื่อที่ฟังดูน่ารักดีนี่

    งั้นเหรอ

    ซีหลงเป็นสาวผิวแทนชาวเอเชีย อายุคงราวๆ 23-24 ซ้ำพอมีหน้าอกอันอวบอิ่มมาสมทบ จึงทำให้เธอดูมีเสน่ห์จนถึงขั้นว่าเป็นนางแบบหรือเน็ตไอดอลได้สบายๆเลยทีเดียว

    ......ดังนั้นพอถูกชม เกลจึงเขินขึ้นมาซะอย่างนั้น

    ทว่าสิ่งหนึ่งที่ขัดตาจนดูผิดแผกนั้นก็คือมือขวาของเธอ————อุ้งมือขนาดใหญ่และกรงเล็บอันแหลมคมของ <อสุภะนั้นทำให้เกลต้องฝืนกลืนน้ำลายเอื้อกลงคอ

    ......จะถามดีไหมนะเกลคิดอย่างนั้น

    ซึ่งเพราะจ้องอยู่นานจนผิดสังเกต ซีหลงจึงรับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกลต้องการจะสื่อโดยไม่ต้องบอกกล่าว

    ก็อย่างที่เห็นนี่น่ะเป็นแขนของ <อสุภะล่ะนะ

    เธอว่า,ส่งให้เกลเผยแววตระหนกตรงกับที่ซีหลงคาดเอาไว้

    อยากรู้ไหมล่ะว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่แขนของชั้นได้?”

    .....

    เกลเงียบ

    เขาเริ่มจะมองเห็นความไม่ปกติขึ้นมาตงิดๆแล้วสิ

    งั้นขอเปลี่ยนคำถาม....

    ซีหลงยกนิ้วชี้ไปทางที่อาคาเนะกับเบธหนีไปตะกี้ ซึ่งปัจจุบันก็ไร้ซึ่งฝุ่นเงาหรือเค้ารางของพวกเธอ————ชนิดที่ว่าไม่เหลือร่องรอยให้ตามสืบได้เลยแม้แต่น้อย

    นายน่ะ,ยังคิดจะกลับไป <เมืองนั่นอีกเหรอ?”

    .....เธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”

    ก็พูดไปแล้วนี่.....<เมืองนั่นน่ะไม่เหมาะกับนายหรอก

    ไม่เหมาะ....กับชั้น?”

    เกลทวนคำอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าซีหลงต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ ทางหญิงสาวพอเห็นเช่นนี้แล้วจึงถอนหายใจแล้วซ้ำคำว่า “เจอคนแบบนั้นไป แล้วยังคิดว่า <เมืองนั่นเป็น <บ้านนายอยู่อีกเหรอ?”

    เธอคงหมายถึงเบธและอาคาเนะ

    ....คนแบบนั้นน่ะมันก็ต้องมีบ้างในสังคมอยู่แล้ว <เมืองนั้นน่ะไม่ใช่ศูนย์รวมของกลุ่มคนที่สมบูรณ์แบบซักหน่อย อีกอย่าง————ที่เธอใช้ <อาคมได้,ก็ไม่ใช่เพราะอยู่ใน <เมืองนั้นมาก่อนรึไง?”

    เกลคาดเดาเช่นนั้น ซึ่งคำพูดนี้ก็จี้ใจดำซีหลงเข้าอย่างจัง,เธออึ้งไปพัก

    จากนั้นจึงหัวเราะออกมาดังลั่น

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าพูดได้ไม่เลวเลยนี่ก็ดี...ก็ดีงั้นชั้นจะพูดจี้ใจดำนายกลับไปบ้าง..!”

    พริบตานั้นอุ้งมือใหญ่ก็พลันกระชากปลอกคอของเกลขึ้น ใบหน้าของชายหนุ่มถึงกับตะลึงเฮือกจรดห่างจากสองตาของซีหลงไปไม่ถึง 2 นิ้ว————ยัยนี่....ชักจะท่าไม่ดีแล้วสิ

    ทำบ้าอะไรกัน..?”

    ทำให้นายรู้ยังไงล่ะไม่คิดหรือเอะใจบ้างรึไงว่าทุกอย่างใน <เมืองนั้นน่ะมันผิดเพี้ยนกันไปหมดแล้วไม่คิดบ้างรึไง!? ว่าทำไมนายถึงมี <ปลอกคอทั้งๆที่คนอื่นเขาไม่มีกัน!”

    “..!!?”

    เกลถึงกับตระหนก สมองในยามนี้พลันทำงานไปโดยไม่รู้ตัว เขาขบคิดถึง ยามหน้าประตู,คุณปู่ที่ให้แซนด์วิช,ฮิรา,เอแคร์,โค,เทียนเหมย,คลาร่า,ฉี,เบธ,คุเรไน,อาคาเนะ————

    ......

    .....ไม่มีใครใส่ <ปลอกคอแบบเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย

    ทว่าพอนึกย้อนไป เอแคร์ก็บอกว่าเพราะเกลยังเป็นหน้าใหม่จึงยังไม่อาจเชื่อใจบอกวิธีเอาปลอกคอออกให้ฟังได้————เพราะงั้นโดยรวมแล้วก็คิดว่าทุกคนคงไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่

    ซึ่งเขาก็คิดเช่นนั้น,กระทั่งซีหลงเอ่ยคำถัดมา

    นายกำลังติดอยู่ในภาพมายานะ,เกล นายกำลังถูก <เจ้าพวกนั้นชักจูงอยู่นะ

    “....พูดอะไร––”

    นายลืม <เป้าหมายของชีวิต....ลืมไปแล้วว่าที่นี่คือ <นรกนายน่ะมอง <เมืองนั้นแล้วก็คิดว่าอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆก็คงจะดี อยู่อย่างสงบสุขกับ <ครอบครัวปลอมๆนั่นไปวันๆโดยคิดว่าคงไม่เป็นไร นายน่ะลืมไปแล้วว่าต้อง <หนีออกไปจาก <นรกแห่งนี้

    ....ซีหลงฉีกยิ้มกว้างสาดประกายตาที่เหมือนกับหอกแหลมทะลวงเข้ากลางใจเกล

    นายกำลังหลงระเริงอยู่ หลงระเริง.....กับ <นรกที่ชื่อว่า <สวรรค์นี่น่ะ

    ......

    .

    .

    สิ่งที่เขาลืมเลือนไปนั้น———ในที่สุดก็นึกออก

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×