คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : Ep.26 - Separate
UNagain.26 – Separate
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...”
เสียงหายใจหนักดังกระสับกระส่ายซ้อนทับกันไปมา
แม้จะวิ่งมาเกือบ 200 เมตร ทว่า【ดัคน่า】ก็ยังนิ่งไม่ไหวติงเอาแต่จ้องมองมาตลอดเวลาจนน่าขนลุก
“หนีพ้น....แล้วล่ะมั้ง?”
“อย่าหยุดนะ! ถ้าหยุดล่ะก็––”
ไม่ทันจบคำ,จู่ๆเกลก็รู้สึกวูบพร้อมกับเสียศูนย์จนหน้าทิ่มดินเข้าอย่างจัง
แล้วความเจ็บปวดจึงแล่นแปลบจากขาเข้าสู่กลางหลัง————
“อ–เอ๋..?”
ใช่,ขาซ้ายของเขาที่ตอนนี้ได้ไปอยู่ในมือของ【ดัคน่า】นั่นน่ะ
“อ๊ากกกกกกกก~~!”
เกลแผดร้องอย่างสาหัส,ก้มลงไปกุมแผลขดตัวนอนอยู่กับพื้น...ถึงจะเคยขาขาดมาแล้วตอนรอบลิโป้
ทว่าพอมาเจออีกทีก็ไม่ใช่ว่าความรู้สึกมันจะตายด้านลงเลยแม้แต่น้อย
แล้วก็...เพราะอยู่ในสภาพชวนอนาจใจอย่างนั้น
ในขณะที่เขายังกรีดร้องด้วยความทรมาณอยู่【ดัคน่า】ก็กลับกลายเป็นยืนเฉยมองเกลดิ้นหงอเป็นกุ้ง————มันเหยียดยิ้มน่าสะอิดสะเอียนออกมา
......ราวกับว่ากำลังสนุกอยู่ยังไงอย่างนั้น
“ช–ช่วยด้วย! ช่วยชั้นทีเบธ!! ช่วยชั้นทีอาคาเนะ!!”
พอโพล่งแบบนั้น,หลังจากที่มองเกลค้างอยู่นานสองสาวจึงได้สติ
แล้วรีบวิ่งออกไปทันที————
วิ่งออกไป.......ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับร่างของเขาและ【ดัคน่า】ซึ่งกำลังกัดกินขาของเกลอย่างเอร็ดอร่อย
เพียงเท่านี้,ใบหน้าของชายหนุ่มก็ถึงกับถอดสี
ซีดเซียวจนแทบจะกลายเป็นขาวเผือดเลยก็ว่าได้
“ท–ทำไม..? ทำไมกันเล่า!?.......ไอ้ห่าเอ๊ยยยยยยยย!”
นอกจากเสียงของเขาก็เห็นจะมีแต่【ดัคน่า】ที่กำลังหัวเราะเสียงแหลมออกมา
ก็ไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นเสียงที่ต้องการจะสื่ออารมณ์แบบไหน...แต่เกลในตอนนี้กลับรู้สึกตนกำลังถูกดูแคลนอยู่
“กร้วมๆๆๆ...”
ขณะเดียวกัน【ดัคน่า】ก็กลืนขาของเกลจนหมดสิ้น
ก่อนจะดูดนิ้วมือเสียงดัง ‘จ๊วบ’ ออกมาราวกับเย้ยหยัน “เฮี้ยกๆๆๆๆ! ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่~” เสียงแหลมสูงนั่นดังสอดประสานกับอุ้งมือที่กำลังยื่นเข้ามาทาบหน้าของเกลอย่างแช่มช้า....ตัวเขาเองก็ปลงตกข่มตาหลับลงแน่น
คาดคิดว่าไม่อยากตายอย่างเจ็บปวดมากนัก
โผล๊ะ!
เสียงวัตถุแตกโพลงคล้ายกับแตงโมตกจากที่สูงดังสะท้านไปทั่วร่างของเกล
พร้อมกับเลือดสีแดงชาดที่สาดกระเซ็นออกมาดุจท่อสปริงเกอร์ในพงสวน————น่าเสียดาย....
ที่ศีรษะนั่นไม่ใช่ของเกล
“ก–กี๊!? กี๊ซซซซซซซ~~!?”
แต่เป็นของ【ดัคน่า】ที่กำลังยืนแอ่นตัว 180 องศาขนานเป็นแนวกับพื้น————
ด้านหลังของมันกลับปรากฏสตรีผู้หนึ่ง....มือของเธอกำลังบีบศีรษะของ【ดัคน่า】จนแตกโพลงออกเป็นสองเสี่ยงเผยสมองสีชมพูสดไหลเยิ้มออกมาคล้ายกับเยลลี่พุดดิ้ง
ที่น่าแปลก,คือมือเธอนั้นเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ของ <อสุภะ> รอบโคนนิ้วและแขนนั้นกลับปรากฏเส้นเลือดฝาดปูนโปนชวนให้รู้สึกแย่
ขณะเดียวกัน【ดัคน่า】ที่ยืนแอ่นตัวจนเกร็งก็ล้มลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายไปในที่สุด
.....สตรีสาวเบื้องหน้าส่งยิ้มให้เกลอย่างเป็นมิตร
“ขาข้างนั้นน่ะ,เดี๋ยวชั้นรักษาให้”
.
.
“เอาล่ะ,เรียบร้อยแล้ว”
“.....”
เกลเงียบกริบ
หากให้กล่าวถึงสาเหตุ,ก็คงเป็นเพราะ <อาคม> ที่เธอใช้【จิวาล•กา•จอว์】สำหรับการต่อขาใหม่ให้กับเขา..ไม่สิ————
นี่น่ะไม่ใช่การต่อขา,แต่เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เลยต่างหาก
ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่เธอกลับใช้เวลาแค่ 5
นาทีในการปฏิบัติ พอรู้ตัวอีกทีขาซ้ายก็กลับมาดังเดิมราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน
“ชั้น【ซีหลง】นายล่ะ?”
“ชั้น【เกล】...ขอบใจที่ช่วยนะ”
เกลโค้งศีรษะให้
จากนั้นจึงลองยืดขาดูก็พบว่าไม่เหลือกระทั่งอาการตกค้างแตกต่างกับของเทียนเหมย
ที่ใช้เวลาพอๆกันแต่ทำได้แค่ต่อขาซ้ำยังหลงเหลืออาการเจ็บปวดไว้อีก
แถมดูจากสภาพของซีหลงที่ไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าเธอเชี่ยวชาญ <อาคม> ประเภทรักษาขนาดไหน
อาการเหนื่อยล้าหลังใช้ <อาคม> น่ะเป็นตัวชี้ชัดเลย
สังเกตได้จากคราวก่อนที่เทียนเหมยมีอาการหอบให้เห็น
จากที่ได้ยินมา,สาเหตุก็เป็นเพราะการใช้ <อาคม> ประเภทรักษา การใช้ <อาคม> ประเภทนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะยิ่งทำให้สมองและร่างกายได้รับภาระหนักจนเกินไป
ในการนี้หากเป็นผู้ใช้【จิวาล•กา•จอว์】ชั้นเซียนจริงก็จะได้รับผลข้างเคียงน้อยลงตามไปด้วย————ซึ่งดูเหมือนว่าปัจจัยหลักจะเป็นการอ่านโครงสร้างมนุษย์
เหมือนกับหมอ...ถ้าจะทำการรักษาหรือรังสรรค์ขาขึ้นมาใหม่ก็จำเป็นต้องรู้เรื่องอนาโตมี่ของร่างกาย
ตั้งแต่เส้นประสาทยันหลอดเลือด
ยิ่งรู้ละเอียดมากเท่าไหร่ผลข้างเคียงจะน้อยลงแถมเวลาในการฟื้นฟูก็จะเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
พอคิดแบบนั้น————บางทีเธอคนนี้อาจจะเป็นหมอมาก่อนก็ได้
“เห๋..? เกลงั้นเหรอ? เป็นชื่อที่ฟังดูน่ารักดีนี่”
“ง–งั้นเหรอ”
ซีหลงเป็นสาวผิวแทนชาวเอเชีย อายุคงราวๆ 23-24
ซ้ำพอมีหน้าอกอันอวบอิ่มมาสมทบ
จึงทำให้เธอดูมีเสน่ห์จนถึงขั้นว่าเป็นนางแบบหรือเน็ตไอดอลได้สบายๆเลยทีเดียว
......ดังนั้นพอถูกชม เกลจึงเขินขึ้นมาซะอย่างนั้น
ทว่าสิ่งหนึ่งที่ขัดตาจนดูผิดแผกนั้นก็คือมือขวาของเธอ————อุ้งมือขนาดใหญ่และกรงเล็บอันแหลมคมของ <อสุภะ> นั้นทำให้เกลต้องฝืนกลืนน้ำลายเอื้อกลงคอ
......จะถามดีไหมนะ? เกลคิดอย่างนั้น
ซึ่งเพราะจ้องอยู่นานจนผิดสังเกต
ซีหลงจึงรับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกลต้องการจะสื่อโดยไม่ต้องบอกกล่าว
“ก็อย่างที่เห็นนี่น่ะเป็นแขนของ <อสุภะ> ล่ะนะ”
เธอว่า,ส่งให้เกลเผยแววตระหนกตรงกับที่ซีหลงคาดเอาไว้
“อยากรู้ไหมล่ะ? ว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่แขนของชั้นได้?”
“.....”
เกลเงียบ
เขาเริ่มจะมองเห็นความไม่ปกติขึ้นมาตงิดๆแล้วสิ
“งั้นขอเปลี่ยนคำถาม....”
ซีหลงยกนิ้วชี้ไปทางที่อาคาเนะกับเบธหนีไปตะกี้
ซึ่งปัจจุบันก็ไร้ซึ่งฝุ่นเงาหรือเค้ารางของพวกเธอ————ชนิดที่ว่าไม่เหลือร่องรอยให้ตามสืบได้เลยแม้แต่น้อย
“นายน่ะ,ยังคิดจะกลับไป <เมือง> นั่นอีกเหรอ?”
“.....เธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”
“ก็พูดไปแล้วนี่.....<เมือง> นั่นน่ะไม่เหมาะกับนายหรอก”
“ไม่เหมาะ....กับชั้น?”
เกลทวนคำอย่างงุนงง
ไม่เข้าใจว่าซีหลงต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
ทางหญิงสาวพอเห็นเช่นนี้แล้วจึงถอนหายใจแล้วซ้ำคำว่า “เจอคนแบบนั้นไป
แล้วยังคิดว่า <เมือง> นั่นเป็น <บ้าน> นายอยู่อีกเหรอ?”
เธอคงหมายถึงเบธและอาคาเนะ
“....คนแบบนั้นน่ะมันก็ต้องมีบ้างในสังคมอยู่แล้ว <เมือง> นั้นน่ะไม่ใช่ศูนย์รวมของกลุ่มคนที่สมบูรณ์แบบซักหน่อย
อีกอย่าง————ที่เธอใช้ <อาคม> ได้,ก็ไม่ใช่เพราะอยู่ใน <เมือง> นั้นมาก่อนรึไง?”
เกลคาดเดาเช่นนั้น ซึ่งคำพูดนี้ก็จี้ใจดำซีหลงเข้าอย่างจัง,เธออึ้งไปพัก
จากนั้นจึงหัวเราะออกมาดังลั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พูดได้ไม่เลวเลยนี่! ก็ดี...ก็ดี! งั้นชั้นจะพูดจี้ใจดำนายกลับไปบ้าง..!”
พริบตานั้นอุ้งมือใหญ่ก็พลันกระชากปลอกคอของเกลขึ้น
ใบหน้าของชายหนุ่มถึงกับตะลึงเฮือกจรดห่างจากสองตาของซีหลงไปไม่ถึง 2 นิ้ว————ยัยนี่....ชักจะท่าไม่ดีแล้วสิ
“ท–ทำบ้าอะไรกัน..?”
“ทำให้นายรู้ยังไงล่ะ! ไม่คิดหรือเอะใจบ้างรึไงว่าทุกอย่างใน <เมือง> นั้นน่ะมันผิดเพี้ยนกันไปหมด! แล้วไม่คิดบ้างรึไง!? ว่าทำไมนายถึงมี <ปลอกคอ> ทั้งๆที่คนอื่นเขาไม่มีกัน!”
“..!!?”
เกลถึงกับตระหนก
สมองในยามนี้พลันทำงานไปโดยไม่รู้ตัว เขาขบคิดถึง ยามหน้าประตู,คุณปู่ที่ให้แซนด์วิช,ฮิรา,เอแคร์,โค,เทียนเหมย,คลาร่า,ฉี,เบธ,คุเรไน,อาคาเนะ————
“......”
.....ไม่มีใครใส่ <ปลอกคอ> แบบเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย
ทว่าพอนึกย้อนไป
เอแคร์ก็บอกว่าเพราะเกลยังเป็นหน้าใหม่จึงยังไม่อาจเชื่อใจบอกวิธีเอาปลอกคอออกให้ฟังได้————เพราะงั้นโดยรวมแล้วก็คิดว่าทุกคนคงไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่
ซึ่งเขาก็คิดเช่นนั้น,กระทั่งซีหลงเอ่ยคำถัดมา
“นายกำลังติดอยู่ในภาพมายานะ,เกล นายกำลังถูก <เจ้าพวกนั้น> ชักจูงอยู่นะ”
“....พูดอะไร––”
“นายลืม <เป้าหมาย> ของชีวิต....ลืมไปแล้วว่าที่นี่คือ <นรก> นายน่ะมอง <เมือง> นั้นแล้วก็คิดว่าอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆก็คงจะดี
อยู่อย่างสงบสุขกับ <ครอบครัวปลอมๆ> นั่นไปวันๆโดยคิดว่าคงไม่เป็นไร นายน่ะลืมไปแล้วว่าต้อง <หนี> ออกไปจาก <นรก> แห่งนี้”
....ซีหลงฉีกยิ้มกว้างสาดประกายตาที่เหมือนกับหอกแหลมทะลวงเข้ากลางใจเกล
“นายกำลังหลงระเริงอยู่
หลงระเริง.....กับ <นรก> ที่ชื่อว่า <สวรรค์> นี่น่ะ”
“......”
.
.
สิ่งที่เขาลืมเลือนไปนั้น———ในที่สุดก็นึกออก
۞۞۞
ความคิดเห็น