คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Ep.19 - Sandbag
UNagain.19 – Sandbag
“ฮ่า~”
ไอน้ำที่พวยพุ่งกับน้ำอุ่นที่เอ่อล้นเสมอขอบอ่าง
เกลถอนหายใจนอนแผ่อยู่ในนั้น
ตั้งแต่ลงนรกมา
นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้อาบน้ำ
เกลแช่ตัวอยู่อย่างนั้นอ่างชนาดกลางพลางรำลึกถึงเรื่องราวต่างๆในช่วงผ่านมา
ทั้งความเจ็บปวดความเศร้าเสียใจหรืออะไรต่างๆ————พอมานึกๆดูที่นี่ก็แทบไม่ต่างจากสวรรค์ในนรก
โอเอซิส...ถ้าเรียกอย่างนั้นก็คงไม่ผิดนัก
ตอนนั้น————หลังจากที่พูดคุยกับฮิราเสร็จ
เกลก็ถูกเอแคร์พาทัวร์ไปโดยรอบหมู่บ้าน
หมู่บ้านที่ว่านั้นเป็นเพียงย่านหนึ่งจากทั้งหมดสิบเขตของเมือง
จากที่ฟังคำของเธอมาคร่าวๆดูเหมือนเมืองนี้จะแบ่งที่อยู่เป็น 10 เขต
โดยเขต 1-3 คือสถานบันเทิง,ร้านค้า,สิ่งของต่างๆ ส่วนเขต 4 คือโรงขนส่งและกักตุนวัตถุ เขต 5-6 เป็นสถานศีกษา
ส่วนเขต 7-10 คือย่านชุมชน อย่างห้องน้ำที่เกลอาบอยู่นี้ก็ถือเป็นย่านชุมชนแห่งหนึ่ง
คนที่นี่พอดูดีๆก็พบว่าอาศัยอยู่กันถึงหลักหมื่นกว่า
แอ๊ด!
ประตูห้องน้ำเปิดออก
เกลในยามนี้กำลังสวมบ๊อกเซอร์ตัวหนึ่งกับขณะเดียวก็เช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูไปพลาง
ที่นี่————ณ
บ้านหลังนี้คือที่พักซึ่งฮิราจัดหามาให้ ดูเหมือนทางนั้นจะจัดเตรียมอะไรไว้เสร็จสรรพมาตั้งแต่ต้น
บางทีเธอคงคาดเดาเอาไว้แล้วว่าต้องมีผู้มาอาศัยเพิ่ม
ดังนั้นเกลจึงได้ที่พักทันทีโดยไม่ต้องพิรี้พิไรอะไรให้ยุ่งยาก
กระนั้นที่พักนี้ก็ไม่ใช่บ้านเดี่ยวแบบที่ให้เขาได้จับจองเพียงผู้เดียว
“ว่าไง,น้ำอุ่นพอไหม?”
เกลหันไปทางต้นเสียงจึงพบเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่ง
ภาพลักษณ์ของชายคนนี้คือผมสกินเฮดตัวสูงใหญ่ผิดกับเขาซึ่งผอมแห้งแรงน้อย
หมอนี่ชื่อว่า【โค】เป็นรูมเมทที่อาศัยอยู่ในบ้านทาวน์เฮาส์หลังนี้
ในเขต 7-10
ซึ่งเป็นย่านชุมชนนั้นมีบ้านสำหรับอาศัยอยู่ถึงพันกว่าๆ
ในหนึ่งหลังทุกคนจะถูกบังคับให้ร่วมกันอยู่ 10 คนต่อหลัง
กล่าวเลยก็คือบ้านหลังนี้นอกจากเกลแล้วก็ยังมีโคและผู้ร่วมอาศัยอื่นอยู่อีก
ซึ่งบ้านหลังนี้นับว่าติดเศษอยู่จึงทำให้ผู้อาศัยมีเพียงแค่ 5
คนเท่านั้นโดยที่เกลกับโคเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
และก็หลังจากที่ได้พูดคุยอะไรกันมาเยอะแยะเกลจึงได้รู้ข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่ง
เช่นโคไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนญี่ปุ่น ถ้างั้นทำไมพวกเขาถึงคุยกันรู้เรื่องล่ะ?————ซึ่งคำตอบนี้เกลก็ได้รับมาจากเอแคร์
“ผู้คนที่นี่สามารถสื่อถึงกันด้วย <จิต> น่ะค่ะ”
“จิต..?”
“เพราะทุกคนที่นี่เป็นวิญญาณ
ฉะนั้นการพูดคุยของเราจึงไม่ใช่คำพูดที่เป็นรูปธรรมแต่เป็นนามธรรมค่ะ.....อืม~ ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับน้ำนั่นแหละค่ะ
พวกเราในตอนแรกก็เหมือนกับน้ำในแก้ว
กระทั่งพอตายไปภาชนะจึงแตกออกทำให้น้ำภายในเจิ่งนอง
ซึ่งหากน้ำจากทั้งสองแก้วไหลรินมาบรรจบกันก็จะกลายหลอมรวมกันกลายเป็นหนึ่ง”
“....อธิบายได้งงจังนะ”
“เอ่อ––สรุปง่ายๆก็คือ <น้ำในแก้ว=คนเป็น> ส่วน <น้ำนอกแก้ว=คนตาย> ค่ะ <น้ำในแก้ว> ไม่อาจรวมเข้ากับ <น้ำนอกแก้ว> ได้ ทว่ากลับกัน <น้ำนอกแก้ว> กับ <น้ำนอกแก้ว> จะสามารถ————”
“.......”
เอาเป็นว่าพวกเราสามารถสื่อสารกันได้ด้วย <จิต>
ถึงทางนี้จะพูดไทยโดยที่อีกฝ่ายพูดยุ่น
กระนั้นเกลกลับเข้าใจศัพท์เป็นยุ่นต่อไทย โดยที่โคก็ฟังไทยเป็นยุ่นด้วยไม่ต่างกัน
ชายตรงหน้าเกลแม้จะเป็นคนต่างชาติแต่ก็ให้บรรยากาศเป็นกันเองได้อย่างเฟรนด์ลี่
“กำลังดีเลยล่ะ”
เขาตอบพลางสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงลายพราง
เนื่องจากโคมีอายุพอๆกับเขา ดังนั้นเกลจึงเลือกใช้คำพูดที่ดูเป็นกันเองกับอีกฝ่าย
พวกเขาเดินคุยกันไปเรื่อยจนเดินมาถึงห้องนั่งเล่น
ในห้องนี้มีผู้จับจองอยู่ก่อนแล้วหนึ่งคน
“โอ้ว! เป็นไงบ้าง,เกลเกล
อาบน้ำครั้งแรกในนรกคงรู้สึกดีสิท่า?”
ผู้พูดรายใหม่คือหญิงวัยกลางคนราว 30 กว่าๆ
แม้จะเป็นเช่นนั้น ทว่าใบหน้าเธอก็ยังเต่งตึงมีเพียงแค่รอยตีนกาจางๆเพียงเท่านั้น
ชื่อของเธอคือ【เทียนเหมย】
ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเป็นคนจีน
เกลหัวเราะร่วนตอบเธอไป ก่อนจะโต้ไปว่า “ก็คงงั้นแหละครับ” ออกมา
จากนั้นทั้งโคและเกลจึงนั่งลงยังโต๊ะกลางซึ่งเป็นพื้นที่ทานข้าวรวมสำหรับคนในบ้านนี้
ทั้งสองนั่งลงรออย่างใจเย็นโดยเหลือบมองเทียนเหมยที่กำลังจับกระทะคลุกข้าวผัดด้วยไฟร้อนหลายองศา
แล้วไม่นาน,ข้าวผัดจานใหญ่จึงปรากฏขึ้นตรงหน้าพร้อมกับเทียนเหมยเดินเข้ามากลางวง
“ได้แล้วจ้า~”
เป็นข้าวผัดสีทองอร่ามดูน่าทาน————คนจีนเนี่ยเก่งทำข้าวผัดจริงๆนั่นแหละ
“โอ้! กลิ่นหอมชะมัดเลยเจ๊ ผมทานเลยได้ไหม?”
โคว่าพลางหยิบจานแยกออกเตรียมตักแบ่ง
ซึ่งพอเทียนเหมยตอบรับโคจึงซัดโฮกเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเกลที่หิวโหยมานานเองก็ไม่ต่างกันนัก————ซักพักหนึ่งโคจึงโพล่ง
“แล้วคุณฉีกับคาร์ร่าจังล่ะเจ๊? ยังไม่ลงมาอีกเหรอ...?”
“ยังหรอก
สองคนนั้นเมื่อวานเพิ่งทำภารกิจมาหนัก,ตอนนี้ก็คงหลับอยู่ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก”
โคผงกศีรษะเห็นด้วยแล้วละความสนใจหันไปจดจ่อกับของกินตรงหน้าตามเดิม
คุณฉีกับคาร์ร่าที่โคพูดถึงก็คือผู้อาศัยอีกสองคนในบ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งแต่เกลมาถึงจวบจนตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของทั้งสองเลยด้วยซ้ำ
เพราะจากที่ฟังๆดูก็เหมือนกับว่าทั้งสองกำลังหมกตัวนอนอยู่ในห้องของตัวเองกันอยู่
กระนั้นในหัวเกลก็เพิ่งพบเจอต่อศัพท์ใหม่อย่าง <ภารกิจ> ความจริง————มันก็ไม่ใช่ศัพท์อะไรเพราะตัวเขาได้ฟังคำสาธยายคร่าวๆมาแล้วตอนเอแคร์ส่งเขามายังบ้านหลังนี้
ทุกคนที่ต้องทำงาน————ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมกันต่อการได้ที่พักมาฟรีๆ <ภารกิจ> ที่ว่าก็คืองานจิปาถะต่างๆอย่างขนของเก็บวัตถุดิบหรือกระทั่งออกไปลาดตระเวนเองก็เช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้คนที่นี่ว่าจะเลือกรับทำงานอะไรแบบไหน
ซึ่งนอกจากจะหมายถึงการทำงานใช้คืนแล้ว
ทางฮิราก็จะตอบแทนด้วย <เหรียญเหล็ก> ซึ่งมีค่าเป็นสกุลเงินของที่นี่มาให้เพื่อเอาไว้ใช้จ่าย
ซึ่งตอนที่เอแคร์มาส่ง,เกลก็ได้ 20 เหรียญเหล็ก
มาเป็นเงินตั้งตัวไว้ด้วยจำนวนหนึ่ง หลังจากทานอะไรเสร็จสรรพโคจึงทัก
“เอาล่ะ,จากที่เอแคร์ฝากฝังมา
ตอนนี้ชั้นจะเป็นคนทำหน้าที่สอน <อาคม> ของพวกเราให้กับนายเอง”
“โอ้...!”
เกลถึงกับตาวาวเป็นประกาย
“ว่าแต่นายใช้ <อาคม> อะไรเป็นบ้างล่ะ? จากที่ฟังมาเหมือนนายจะเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวคนเดียวสินะ? ถ้าไม่มีอาวุธหรือของดีอะไรก็คงไม่สามารถออกมาจาก <ขุม> ได้หรอก,จริงไหม...?”
“นั่นสินะ”
ถึงสองคนนี้จะดูเฟรนด์ลี่————แต่ความจริงพวกเราก็เพิ่งเจอกันได้ไม่ถึง
5 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ที่พอรู้จักกันก็เพราะเอแคร์ช่วยแนะนำตัวก่อนจะยัดเยียดส่งเขาอยู่ที่นี่แล้วเดินจากไปโดยไม่ได้ว่าอะไรอีก
“ใช้เป็นแต่【นารากะ•พาราห์】น่ะ”
“นารากะ...? เดี๋ยวนะ,ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าอาคมบทนั้นจะเป็นของพวก <นิรยบาล> สินะ?”
“อืม,ใช่แล้วล่ะ”
เกลว่า
เรียกสายตาสงสัยจากเทียนเหมยได้อย่างเด่นชัด,เธอกล่าว “แต่ <หอกนรก> เป็นอาคมของพวก <นิรยบาล> นะ?————แล้วนายไปรู้บทร่ายมาได้ยังไงล่ะนั่น..?”
“อีกฝ่ายเผลอหลุดปากมาน่ะครับ” เขาตอบไปตามตรง ส่งให้พวกโคถึงบางอ้อขณะเดียวกันเทียนเหมยจึงถาม “แล้วนายมี【เมอร์ริธ】เท่าไหร่เหรอ? อย่างน้อยพวกเราจะได้รู้ว่าควรสอน <อาคม> บทไหนให้กับนายก่อนดี”
“เอ่อ..ทำไม【เมอร์ริธ】ถึงเกี่ยวข้องกับการใช้ <อาคม> ด้วยล่ะครับ?”
“เอ้า! นี่นายไม่รู้จริงดิ? การจะใช้ <อาคม> แต่ละบทจำเป็นต้องมี【เมอร์ริธ】เพียงพอต่อ <อาคม> ของแต่ละบทนั้นๆ อย่างบางบทก็ใช้ 2 จุด ไม่ก็ 3 จุด 4 จุด แตกต่างกันไป”
อย่างนี้นี่เอง————มิน่าทำไมตอนเรียกใช้【นารากะ•พาราห์】จุด【เมอร์ริธ】ถึงได้หายไป บางทีการทำงานของ <อาคม> ก็คงเหมือนรถที่จำเป็นต้องพึ่ง <น้ำมัน> ถึงจะใช้งานได้สินะ
“ว่าแต่นายเหอะมี【เมอร์ริธ】เท่าไหร่?”
“ 4 จุด น่ะ”
“เห๋..? 4 จุด เชียว,สมแล้วที่ผ่าน <ขุม> ออกมาได้”
เทียนเหมยพูดชมขึ้นพลางฉีกยิ้ม ทางโคจึงเสริม “นั่นสินะ,มีถึง 4 จุด แล้วนายก็คงใช้ <อาคม> ได้มากกว่าสองสามอย่างแล้วล่ะ แต่อย่างแรกที่นายควรมีเลยก็คือ <อาคม> สำหรับเอาตัวรอดในนรก”
“เอาตัวรอด?”
“ชั้นจะสอนนายใช้【พานี•เบนนี่】กับ【จิวาล•กา•จอล์】ให้เอง”
“....หา?”
۞۞۞
ความคิดเห็น