คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Ep.14 - Seraph
UNagain.14 – Seraph
“โดนล้อมจนได้”
เอแคร์ว่าพลางกระชับดาบในมือแน่น
เกลซึ่งอยู่ข้างกันกลับเหงื่อแตกพลั่ก,ถามว่า “อ–เอาไงดี?”
“...เรียกอาวุธของออกมาค่ะ
อีกฝ่ายมีจำนวนมากเกินไป,ชั้นคงไม่มีเวลามาดูคุณแน่” เธอตอบ,จากนั้นเกลจึงพยักหน้าแล้วพึมพำไร้เสียงก่อนจะเน้นคำสุดท้าย
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【นารากะ•พาราห์】”
บังเกิดเปลวเพลิงโชติช่วงขึ้นเบื้องหน้า
เมื่อเกลสัมผัส,ละอองเพลิงจึงแตกโพลงเผยหอกทองแดงอยู่ในมือ เอแคร์เหลือบมอง <อสุรกาย> ทั้งสี่ซึ่งเริ่มเขยื้อนกายเข้าหาทีละก้าวอย่างเคร่งเครียด
“คุณเกลชั้นขอฝากทางคุณไว้ 2
ตัวนะคะ”
“หา..!?”
แล้วเธอจึงโผกายเข้าปะทะต่อสองในสี่โดยไม่ทันให้เกลได้เอ่ยถึง
ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อแม้จะพยายามเรียกเอแคร์ให้รอก่อน
กระนั้นรู้ตัวอีกทีเธอก็ปะทะกับ <อสุรกาย> เข้าให้เสียแล้ว หากเรียกเธอในตอนนี้ก็รังแต่จะทำให้เสียสมาธิเอาซะเปล่าๆ
เกลได้แต่กัดฟันกรอดเหลือบมองศัตรูทั้งสองซึ่งจ้องมองเขาราวกับเหยื่ออันโอชะ
หนึ่งในนั้นกระโจนเข้าหาเกล
เคร้ง!
กำปั้นดั่งเหล็กกล้าปะทะเข้ากับ【นารากะ•พาราห์】อย่างหนักหน่วง เกลถึงเซถลาไปถึง 3-4
ก้าวในสภาพทุลักทุเลเล็กน้อย “อึก..!”
แรงเยอะชะมัด————เล่นเอาซะมือชาเลย
กระนั้นพวกมันก็ไม่ปล่อยให้เกลได้พิรี้พิไรมากนัก <อสุรกาย> อีกตัวพลันทะยานเข้ามาจากด้านหลังแล้วซัดหมัดหนักเข้าใส่เกล
ชายหนุ่มเมื่อคาดเดาได้จึงโผกายหลบถูกกำปั้นแฉลบไปกลายเป็นรอยถากที่ต้นแขน
จังหวะนั้นเกลซึ่งจดจำวิธีต่อสู้มาเอแคร์เมื่อครู่ จึงตัดสินใจแทงหอกสวนกลับไป
สวบ!
แทงเข้ากลางอกทะลุออกหลัง <อสุรกาย> กรีดร้องลั่น ขณะเดียวกันเกลจึงเผยรอยยิ้มขึ้นเห็นแววแห่งความหวัง
ทว่าความหวังนั้นก็ไม่ได้อยู่คู่กับเขานานนัก เมื่อ <อสุรกาย> อีกตัวได้ประชิดมุมอับแล้วต่อยอีกหมัดหนึ่งเข้ากลางตัวของชายหนุ่ม
เสียงกระดูกหักดังทับซ้อนเป็นจังหวะเฉกเดียวกับเกลซึ่งปลิวกระเด็นไปร่วม 10 เมตร
“อ่อก...!? อั่ก!”
บ้าจริง,เจ็บ————เจ็บโคตรๆ...แค่ขยับตัวนิดเดียวก็เหมือนกับถูกมีดกรีดอยู่ข้างในเลย เกลสบถในใจโดยกุมแผลที่ชายโครงอย่างเจ็บปวด
อวัยวะภายในเหมือนจะถูกทำลายไปหลายส่วนจนเกลไม่อาจลุกยืนไหว
ขืนเป็นแบบนี้มีหวังได้ตายจริงๆแน่
เกลฝืนความเจ็บปวดเหลือบมอง【นารากะ•พาราห์】ซึ่งปักคาไว้ที่ร่างไร้วิญญาณของ <อสุรกาย> กระนั้นพวกมันก็ยังอีกหนึ่งตัว <อสุรกาย> ตัวที่ต่อยเขาเมื่อครู่ขณะนี้กำลังย่างเท้าเข้าหามาทีละน้อย
“หอก..ต้องไปเอาหอก”
จากระยะทางของเขากับ <อสุรกาย> ยังไงก็คงร่าย <อาคม> ขึ้นใหม่ไม่ทันแน่ ทว่าหว่างกลางซึ่งมีหอกวางคั่นไว้
หากเขาพุ่งไปเก็บหอกนี้ได้ก่อนอีกฝ่ายจะเข้าถึงตัว
อย่างน้อยโอกาสที่เกลจะตายก็คงลดน้อยลง
————ทว่าด้วยสภาพนี้แค่จะลุกก็ยังทำไม่ได้เลย
“แม่งเอ๊ย..!”
เกลสบถ
แล้วคลานไถลไปกับพื้นโดยทิ้งรอยเลือดเป็นทางยาว ระยะห่างจากหอกคือ 2
เมตรส่วนระยะห่างจาก <อสุรกาย> คือ 6
เมตรซึ่งห่างกันเพียงคนละครึ่งทางกว่าๆ
จากรูปการว่ากันตรงคือเกลน่าจะได้หอกมาก่อนที่ <อสรุกาย> จะมาถึง แล้วไม่นานก็เป็นดังคาด,เกลมาถึงที่ตั้งของหอกก่อนอีกฝ่ายจะทันได้ประชิดตัว
แม้จะเป็นเช่นนั้นทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่เกลไม่ได้คาดคิดมาก่อน
“...!?”
หอกที่คาแน่นอยู่กลางอก————เนื่องเพราะบาดแผลเมื่อครู่จึงทำให้เกลไม่มีแรงพอจะดึงหอกออกมา
ดังนั้นเกลจึงได้แต่ฝืนรั้งหอกไว้ในกำมือพร้อมกับยันเท้าลงไปสุดแรง
“มาติดอะไรตอนนี้วะ––อ่อก..!?”
ไม่ทันจบคำ,ที่ลำคอพลันปรากฏอุ้งมือใหญ่เข้าบีบเค้น <อสุรกาย> จ้องเกลอย่างถมึงทึงก่อนจะยกร่างเขาขึ้นลอยเหนือพื้นจนชายหนุ่มได้แต่ดิ้นพล่านหมายให้หลุดจากการจับกุม
กระนั้นมือหนึ่งซึ่งกำหอกก็ยังคงบีบแน่นราวกับคาดหวังว่าว่าตนจะสามารถดึงมันออกมาได้สำเร็จ
ช่วงเวลาเป็นตายนี้ทั้งสองกำลังแข่งกับเวลาอยู่
ระหว่างดึงหอกออกมากับถูก <อสุรกาย> ฆ่า,สิ่งไหนจะบรรลุเป้าหมายได้ก่อนกัน
ครึ่ก..!
ราวกับปาฏิหาริย์,หอกซึ่งคาแน่นอยู่กลางอกกลับเริ่มเคลื่อนไหว
เกลรับรู้ได้,จึงรีบโยกหอกไปมาจนปลายคมเขยื้อนออกจากเนื้อหนัง————ทันใดนั้น,เขาจึงฉีกยิ้ม
สำเร็จ,ดึงหอกออกมาได้แล้ว!
.
.
กร้วม!!
จากนั้นศีรษะของเกลจึงถูก <อสุรกาย> งับไปจนแหว่งเหวอะตายคามืออีกฝ่ายไปทั้งอย่างนั้น
۞۞۞
ความคิดเห็น