คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #119 : Ep.37 - Anemone
UNagain.37 - Anemone
เสียงกรีดร้อง
ผู้คนล้มตาย
ความเจ็บปวด
เลือด เนื้อ กระดูก
———และน้ำตา
เบื้องหน้าของชายทั้งสองก็คือกองซากศพ
ผู้เหลือรอดจากหายนะครั้งนี้มีเพียงแค่ศิษย์ 13 คน สองคนในนั้นได้แก่ หลิวฟง และ
กริช ชายทั้งคู่กำลังอุ้มร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวไปฝังไว้หลังสำนัก
“...ลาก่อน”
หลิวฟงเอ่ยแค่นั้น
บัตเตอร์ฟราย คริซซี่
และไวโอเล็ตยังคงมีชีวิต แม้เป็นอย่างนั้น
———แต่ใบหน้าของพวกเธอกลับเต็มไปด้วยความหดหู่
“ฮึก!
ฮืออออ....อาจารย์! ศิษย์น้อง!”
“บัดซบ!
บัดซบ!”
พวกเธอได้แต่ก่นด่าอย่างคับแค้น
หลุมศพจำนวนมากถูกฝังไว้รวมกับแพท หนึ่งในนั้นมีเหล่าอาจารย์รวมอยู่ด้วย
เหล่าหนุ่มสาวทั้งสิบสามคนได้แต่นิ่งเงียบตกอยู่ในภวังค์
และตอนนั้นที่กริชกลับลุกขึ้นเดินออกไป
“เจ้าจะไปไหน?”
“ไปฆ่าอสูรแปดชั้น!”
หลิวฟงกระตุกคิ้ว
จากนั้นมันจึงจับบ่าของอีกฝ่ายแล้วแย้ง
“หยุดการกระทำโง่เขลานั่นซะ”
“หนวกหู!
ต่อให้ดูโง่แล้วยังไงกัน!? ชั้นน่ะไม่สามารถเฉยชาได้แบบแกหรอกเว้ย!”
ผัวะ!
หลิวฟงต่อยหน้าชายหนุ่มอย่างจังจนเขาล้มลงกับพื้น
อารมณ์คุกรุ่นพลันปรากฏ
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วศิษย์น้องจะดีใจรึไง!?”
“.....แก!”
“ทั้งสองคนพอได้แล้ว!”
ก่อนที่สถานการณ์จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
คริซซี่ก็พลันปรากฏตัวเข้าแทรกเพื่อยับยั้ง “พวกเรามาทะเลาะกันเองก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นหรอก”
ราวกับคำพูดนี้ส่งไปถึงจิตใจ
ทั้งคู่เงียบงันไปครู่ก่อนจะผละสายตาออกจากกัน
———เมื่อลงเอยเช่นนี้หญิงสาวจึงได้เบาใจลง
“ข้างนอกสำนักตอนนี้น่ะเต็มไปด้วยพวกอันเดธกับอสุภะเต็มไปหมด
ทางที่ดีเราควรซ่อนตัว––”
“ขอปฏิเสธ”
กริชเอ่ยขัด
จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินออกไป “ชั้นจะใช้วิธีการของชั้นเอง พวกเธออยากทำอะไรก็ทำ”
“ว่าไงนะ?
แต่ศิษย์น้องข้างนอกมันอันตรายมาก––”
“สำนักก็ล่มไปแล้ว
เพราะงั้นอย่ามาเรียกชั้นว่าศิษย์น้องอีก”
คำพูดเย็นชานี้ส่งผลให้คริซซี่สะอึก
“นิสัยแบบนี้ไม่น่าเป็นเพื่อนของแพทเลยนะ”
ไวโอเล็ตเปรย พลางมองร่างของเขาเลยห่างออกไปทางประตูสำนัก
“เช่นนั้นข้าเองก็คงต้องขอตัว”
หนนี้กลับเป็นหลิวฟงเอ่ย จนศิษย์ทุกคนต้องตระหนกวูบ
“ศ-ศิษย์พี่คิดจะไปไหนกันขอรับ!?”
หนึ่งในนั้นมีศิษย์ชายผู้หนึ่งถาม
เขาหันมองแล้วตอบ
“เราไม่ควรอยู่กับที่เฉยๆหรอกนะ
ยิ่งสถานการณ์เป็นเช่นนี้ด้วยแล้ว
ข้าว่าพวกเจ้าควรแยกย้ายกันออกไปจากเมืองเสียซะมากกว่า” ว่าเสร็จหลิวฟงก็ทะยานร่างหายไปอีกคน
.....ทิ้งให้สิบเอ็ดชีวิตที่เหลือยืนสับสนอยู่อย่างนั้น
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง ณ
สถานที่พำนักของยามะเองก็กำลังวุ่นวายอยู่เช่นกัน ซากศพกองเกลื่อนเมือง
เช่นเดียวกับสำนักทั้งหมดซึ่งถูกพังพินาศจนไม่มีชิ้นดี
ในห้องโถงกว้างปรากฏให้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจ้องหน้ากันอยู่
“เป็นเจ้าอีกแล้วสินะ?”
“..........”
ยามะโพล่ง
กระนั้นชายในผ้าพันแผลกลับไม่เอื้อนเอ่ย เขาร่ายมุทรา เรียกหอกโมกขศักด็มาถือไว้อย่างเงียบงัน
ชายหนุ่มแหงนหน้ามองบัลลังค์ของยามะแล้วพูด
“ลงมา”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์สั่งข้า”
“......งั้นเหรอ?”
จากนั้นเกลจึงโยนสิ่งที่อยู่กำมือขวาออกไป
กลุก! กลุก!
สิ่งนั้นก็คือศีรษะของราฟาเอลซึ่งกลายร่างเป็นนิรยบาลระดับ
4 เขา
———แม้เพียงแวบหนึ่ง
แต่ม่านตาของยามะก็ขยายขึ้น
อารมณ์อันหลากหลายกำลังประโคมเข้าใส่จิตใจของเธอ
“เท่านี้ก็คงมีเหตุผลให้เธอลงมาแล้วมั้ง?”
“........หึๆๆ ถูกของเจ้า”
ตอนนั้นยามะถึงลุกขึ้นอย่างแช่มช้า
ร่างกายบิดเอนไปด้านหลัง
ขณะเดียวกันทั่วสรรพางค์ก็สั่นเทิ้ม
ยากบ่งบอกว่านี่คือความโกรธหรือความเศร้า
เกลนิ่งเงียบไม่แสดงความรู้สึก
ยามะเดินไปหยิบป้ายอาญาสิทธิ์บนโต๊ะ
แล้วโยนออกไป
ตึง!
มันปักลงหว่างกลางทั้งคู่
จนพื้นยุบกลายเป็นรูปตาข่ายขนาดใหญ่
.....แววตาของเธอเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ในนามแห่งยามะ
วิญญาณบาปเกล ข้าขอตัดสินให้เจ้า––”
กึก!
“ดับสูญตลอดกาล!”
.
.
“ดูท่าจะเกิดเรื่องใหญ่จริงๆ”
“นายท่านได้โปรดระวังตัวด้วย”
ท่ามกลางสงครามขนาดใหญ่
เบื้องหน้ากลับปรากฏให้เห็นหนึ่งคนกับหนึ่งสุนัขยืนจ้องมองออกไปอย่างไร้แก่นสารอยู่
นั่นก็คือฮาเดส และ
เซเบอร์รัส
ในหัวของมันนึกย้อนไปถึงหญิงสาวที่ได้พบเจอกันที่หุบเหว
แม้ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นเทพหรือมาร
แต่สิ่งหนึ่งที่มันรับรู้ก็คือคนผู้นี้ตนสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
“ตามหานังมารนั่นกันเถอะ”
۞۞۞
คำถามครับ : รีดชอบที่ไรท์เขียนแบบมีย่อหน้าหรือไม่มีย่อหน้าฮะ?
ความคิดเห็น