คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #113 : Ep.31 - Anemone
UNagain.31 - Anemone
“เจ้าเป็นเทพหรือมารกันแน่!”
ฮาเดสเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ส่วนแพทตี้ก็มีสีหน้าทรมาน
ยิ่งนานเข้าแรงบีบก็ยิ่งเพิ่มพูน ชั่วขณะนั้นใบหน้าของเธอก็กลายเป็นแดงก่ำ
เช่นเดียวกับสองตาที่เหลือกขึ้นเหมือนใกล้สิ้นสติ
“นายท่าน ปล่อยนางเถอะ”
———ตอนนั้นเซเบอร์รัสจึงพูด
ชายผู้เป็นหนึ่งในเทพแห่งโพลีทีสคิ้วกระตุก “อย่ามาสั่งข้า!” กระนั้นสุนัขสามหัวก็แย้ง “ท่านทำเช่นนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก”
เซเบอร์รัสว่าด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน “อย่างไรเสียโอลิมปัสก็ล่มสลายไปแล้ว
ต่อให้นางเป็นมารจริง แต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินโทษ”
“เซเบอร์รัส..!”
“ข้าขออภัยในความโง่เขลา...”
มันตอบรับอย่างเงียบ ฮาเดสยังคงบีบคอของแพทตี้ไว้อย่างนั้น
กระทั่งครู่หนึ่งเขาจึงเดาะลิ้นและซัดเธอลงกับพื้น “โอ๊ย!” หญิงสาวร้องเบาๆ
จากนั้นฮาเดสจึงส่งสายตาเย็นชาออกไป “ไสหัวไปซะ” วู้ม! ทันใดนั้นกลับปรากฏความมืดสายหนึ่งหอบร่างของเธอขึ้นจากหลุม
“กรี๊ดดดดด!”
ตุบ!
แพทตี้ถูกหย่อนทิ้งลงปากหน้าผาทั้งอย่างนั้น
———นี่มันเรื่องอะไร..?
.
.
“นี่เจ้าไปมัวเอ้อระเหยที่ไหน!?”
“....ขอโทษค่ะ” แพทตี้กล่าว
ที่นี่ก็คือสำนักลำนำฟ้า สถานที่ๆซึ่งเธอใช้เป็นแหล่งพักพิง
ตรงหน้าก็คือยอนฮวาหนึ่งในทีมล่าอสุภะที่แพททำงานร่วมกัน
ซองซูชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าทีมได้แต่ปลอบ “น่าๆ กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว
ว่าแต่เธอขึ้นจากหน้าผาได้ยังไง?”
“คือ–ชั้นเองก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน”
“เหอะ! คุยกับยัยนี่ก็เสียเวลาเปล่า
ชั้นน่ามาอยู่ทีมเดียวกับหล่อนเลย” จากนั้นยอนฮวาจึงเดินหนีไป
“เดี๋ยวสิ! ฮึ่ม...ชั้นขอโทษแทนเธอด้วยนะ”
จากนั้นซองซูจึงเดินตามหลังเธอไป
เฮ้อ!
ทั้งที่ผ่านมานานเกือบจะสองปีแล้ว
แต่ทำไมเราถึงยังใช้อาคมไม่ได้กันนะ? กระทั้งความทรงจำเองก็....แพทตี้ขบคิดก่อนจะทำสีหน้าหมอง
เธอเดินกลับไปยังหมู่ตึกแล้วเข้าห้องพักตนไป ที่ตรงนั้นกลับปรากฏให้เห็นสามสาว
ไวโอเล็ต บัตเตอร์ฟราย และคริสซี่อยู่
“ไงศิษย์น้อง! วันนี้ไปล่าอสุภะมาเป็นไงมั่ง?”
“ฮะฮะฮะ
ไม่ดีซักเท่าไหร่หรอกค่ะ”
เธอยิ้มแหยๆ จากนั้นบัตเตอร์ฟรายจึงเสริม “....พยายามเข้า” ส่วนคริสซี่ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ด้านศาสตร์อาคมเจ้าไม่ถนัดนี่
ยังไงเจ้าก็เน้นด้านการเขียนยันต์เหมือนเดิมแหละดีแล้ว” เธอชูยันต์ในมือให้ดู
“ในสำนักเจ้าน่ะถือเป็นศิษย์เอกของอาจารย์ยันต์ซื่อเมี่ยวเลยนะ”
“ถึงอย่างนั้นชั้นก็ใช้อาคมไม่––”
“เอาน่าๆ
คนเราก็ต้องมีเรื่องถนัดและไม่ถนัดกันอยู่แล้ว” ไวโอเล็ตเข้ามากอดคอ
จากนั้นจึงทัก “ไหนๆวันนี้ก็ออกแรงแล้ว มากินเหล้าเถอะ”
จากนั้นเธอจึงยื่นเหล้าขาวมาให้ เหล้าขาวนี้ไม่มีกลิ่นฉุน กลับกันกลิ่นหอมหวานของกุหลาบกลับเข้าแทนที่
มันคือของขึ้นชื่อประจำเมืองเหล้ากุหลาบหอม
———ชั้นไม่คิดจะปฏิเสธหรอกนะ
เพราะอย่างนั้นก็เลยรับมาแล้วซดหมดรวดเดียว
“สุดยอดๆ นอกจากเรื่องยันต์ก็ต้องเรื่องเหล้านี่แหละถึงจะสมกับเป็นศิษย์น้อง!”
“.......ไม่เหมือนเป็นคำชมเลยนะคะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เอาน่าๆ
อย่าไปใส่ใจเลย”
สุดท้ายทุกคนก็เมาแอ๋กันหมด สภาพที่เห็นก็คือเละเทะ
มีเพียงแค่แพทตี้เท่านั้นที่ยังมีสติ ฮึก! เธอสะอึกด้วยใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อย
“ไปฝึกดีกว่าแฮะ”
เธอพึมพำก่อนจะเดินตรงไปยังโรงฝึกอย่างทุลักทุเล
โดยรวมนี่คืออาการเมาอย่างแน่นอน
———กระนั้นเธอก็หยิบดาบไม้ขึ้น
หญิงสาวร่ายรำมันออกไป หนึ่งกระบวนท่า สองกระบวนท่า
วิชาเหล่านี้ล้วนเป็นของสำนักทั้งสิ้น ความจริงเธอก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ยุทธ์หลายๆท่าน
กระบวนท่าล้วนมีน้ำหนักและใช้ถูกต้องตามสภาวะ กระนั้นสิ่งที่ขาดไปก็คืออาคม ใช่
หากให้เทียบก็เหมือนช้างกับมด
ต่อให้กัดแรงแค่ไหน แต่ยังไงช้างก็ไม่มีทางล้ม
.....พอคิดอย่างนั้นแพทตี้จึงหยุดมือ
กึด!
“บ้าเอ๊ย!” แพทตี้กัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์
ก่อนจะหอบหายใจนั่งลงกับพื้นด้วยอาการหอบเล็กน้อย “แฮ่ก...แฮ่ก...” มีเสียงลมร้อนเป่าออกจากปาก
กระทั่งตอนนั้นเธอกลับนึกย้อนไป
———ผู้ไม่มีตรามีแต่เทพมารเท่านั้น!
.....นั่นน่ะหมายถึงอะไรกันนะ?
หญิงสาวนอนแผ่กับพื้น พลางชูมือขึ้นฟ้า “ฮะฮะ หมอนั่นจะบอกว่าชั้นเป็นเทพมารงั้นเหรอ?
ถ้าเป็นงั้นจริงชั้นก็มีศักดิ์เท่ากับท่านยามะเลยนะ” จากนั้นเธอจึงหุบยิ้มลง
———ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสินะ
“จะว่าไปหมอนั่นเป็นใครกัน? วิญญาณหลบหนีจากขุมงั้นเหรอ?”
เธอสันนิฐาน ทว่าตอนนั้นบานประตูโรงฝึกกลับถูกเปิดออก ปึง!
แพทตี้หันขวับ ก่อนจะหรี่ตาลง
“เจ้ามาที่นี่อีกแล้วเรอะ?”
“ศิษย์พี่เองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ?”
———ชายตรงหน้าก็คือหลิวฟง!
.
.
อีกด้านหนึ่ง ณ สถานที่ห่างไกลออกไปร่วมหลายพันกิโลฯ
ที่แห่งนั้นกลับมีชายหนึ่งหญิงหนึ่งกำลังนั่งสงบนิ่งอยู่ภายในถ้ำ
ด้านหลังของฝั่งชายมีมารตนหนึ่งกำลังยืนจ้องอยู่
นามของมันก็คืออาชูร่า
“มนุษย์ เจ้าจะนั่งสมาธิอีกนานแค่ไหนกัน?”
จากนั้นชายชุดขาวขาดรุ่ยจึงตอบกลับไปโดยที่สองตายังพริ้มลงอยู่กับที่
“ไม่แน่ชัด” ส่วนทางด้านหญิงสาวอีกกลับลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ
———เธอคนนั้นก็คือซีหลง
“ฮาววว~ ชั้นชักเมื่อยแล้วนา
นี่นายกะจะนั่งสมาธิทั้งวันเลยเนี่ยนะ? นี่มันก็สองวันแล้ว
หัดฟังคู่สัญญาเขาเตือนมั่งสิ เนอะๆ”
“อย่ามาตีสนิทข้า”
“แหมๆ ทำเป็นคนไกลไปได้” ซีหลงยิ้มเจ้าเล่ห์
กระนั้นอาชูร่าก็ไม่ได้ตอบอะไร ส่วนชายหนุ่มเองก็ยังคงท่าทีเดิมไว้
ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาสีเลือดกลับปรากฏให้เห็น
เขาลุกขึ้นก่อนจะหยิบผ้าพันแผลสกปรกขึ้นมาพันรอบใบหน้าไว้
“ซีหลง”
“ค่า! ค่า!”
“ขอเวลาอีกสองวัน”
“หืม? สำหรับอะไรเหรอ?”
“สำหรับการเพิ่มพูนค่าเมอร์ริธ
ชั้นในตอนนี้มีเมอร์ริธอยู่ 35 จุด จนกว่าจะถึงตอนนั้นทางนี้ก็อยากให้เมอร์ริธมันเพิ่มขึ้นอีกเท่าที่จะทำ”
ชายหนุ่มหันมองไปยังอาชูร่า จากนั้นมันจึงพูด “ดูท่าเจ้าต้องการอาคมของข้ามากเลยสินะ?”
“อ่า เพราะแบบนั้นชั้นถึงต้องมีค่าเมอร์ริธมากกว่า 40
จุด”
กึด!
ผ้าพันแผลถูกผูกไว้หลังศีรษะ
“ทั้งหมดนี้ก็เพื่อฆ่ายามะ”
———เกลพูดทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น
۞۞۞
ความคิดเห็น