ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #10 : Ep.10 - Seraph

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.51K
      208
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.10 – Seraph

    อือ~”

    เสียงครางเบาดังลอดผ่านในลำคอ เกลขมวดคิ้วแน่นก่อนจะคลายตัวพลางปรี่ตาขึ้นทีละน้อย

    ....

    เราสลบไปงั้นเหรอ?

    เกลครุ่นคิด แล้วจึงเหยียดกายขึ้นนั่งพลางส่ายหน้าเรียกคืนสติ พอหันมองไปด้านข้างก็ต้องสะดุ้งเฮือกพบซาก <อสุรกายนอนนิ่งอยู่ข้างกัน ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อบทวนเรื่องที่ผ่านมา————เท่าที่จำได้,รู้สึกว่าก่อนหน้านี้เขาจะบังเกิดฆ่าอสุรกายได้โดยบังเอิญ

    จากนั้น...จึงสติแตก————เราเผลออาละวาดไปทั่วเพราะสติแตก แล้วหลังจากนั้น <คลื่นก็โผล่มาพอดี

    นึกได้ดังนั้น เกลจึงหันควับไปมองทางเดิน สิ่งที่พบอยู่ทำเอาเกลถึงกับตกตะลึง ที่เบื้องหน้านั้นเผยเขาสูงสองฝากฝั่ง กระนั้นที่ต่างจากเดิมไปก็คือหนามแหลมที่หายไปแถบหนึ่ง รอยแหว่งนี้มีสภาพเหมือนถูกคว้านออกไปด้วยรูปธรรมบางอย่าง เมื่อเป็นเช่นนี้,ในหัวของเขาก็เหมือนถูกระตุ้นด้วยบางสิ่ง

    ความทรงจำเมื่อครู่กำลังผุดขึ้นมาทีละน้อย————ลำแสง...ลำแสงสีดำแดงที่เขาเป็นผู้ปลดปล่อยออกมา สิ่งนั้นแหละ,คือตัวการทั้งหมด หยาดเหงื่อเผยขึ้นกลางหน้าผาก,เกลใจเต้นระรัวยิบ สายตาของเขาค่อยเหลือบมองไปยังวัตถุข้างกายอย่างระมัดระวัง

    หอกสามง่ามนารากะพาราห์

    เกลหอบหายใจโดยไม่รู้ตัว ไม่ทราบว่าปฏิกิริยานี้หมายถึงสิ่งใด หวาดกลัวต่ออาวุธนี้รึว่าตื่นตระหนกต่ออาวุธนี้จะอย่างไรก็ตาม กระทั่งเกลเองก็ไม่เข้าใจนักว่า ณ ขณะนี้ตนรู้สึกเช่นไร รวมถึงไม่เข้าใจด้วยว่าเหตุใดตนจึงปล่อยลำแสงมหึมาแบบนั้นได้

    มันมีหลักการทำงานแบบไหนกันต่อให้เกลพยายามนึกเท่าไหร่ก็คงไม่ได้คำตอบ

    สิ่งที่คล้ายกับ <วิชาอาคมนี้น่าจะมีปัจจัยในการเรียกใช้บางอย่าง หากเปรียบเทียบให้เหมือนกับเกม,บางทีลำแสงนั่นก็คงมีสถานะเป็นหนึ่งใน <สกิลของหอกนารากะพาราห์

    จ๊อกกกกกกกก~~!

    “....”

    เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ

    เหนือสิ่งอื่นใดคือท้องไส้ของเกลที่ขับเคลื่อนด้วยอาหารกำลังคำรามลั่นเพราะเชื้อเพลิงหมด เขาได้แต่ลูบท้องปอยๆแล้วเหลือบมองสิ่งที่พอจะช่วยเยียวยาเขาได้

    ในสายตาเกลจับจ้องร่างไร้วิญญาณของ <อสุรกายอย่างไม่วางตา————ก็นั่นแหละ,ไม่ต้องคาดเดานักว่าบทสรุปของเจ้าสิ่งมีชีวิตแปลกนี้จะลงเอยเช่นไร

    ฉ่า~~!

    กลายเป็นเนื้อย่างโดยปริยาย...

    เอื้อก..!”

    เกลกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่————แม้จะรังเกียจสภาพตอนเป็นๆของมัน ทว่าพอนึกดูมันก็เหมือนหมูที่ก่อนเชือดจะเปื้อนเนื้อตัวด้วยมูลสัตว์หรือโคลนดิน และถึงไม่เอาไปเปรียบเทียบ เกลซึ่งหิวเป็นตายอยู่นี้ก็คงต้องจำยอมกลืนมันลงไปแน่นอน

    หอกสามง่ามได้เฉือนเนื้อบางส่วนออกมาย่างไฟจนแผ่กลิ่นหอมกรุ่นซ่านไปทั่ว เกลไม่ลังเลงับเนื้อชิ้นโตนี้เข้าปากไปส่วนหนึ่ง เขาเคี้ยวมันอยู่นาน...แล้วจู่ๆก็เบิกตาโพลงตกตะลึง

    อร่อยโคตร...

    อธิบายไม่ถูกว่าเหมือนเนื้ออะไร เอาเป็นว่า,มันอร่อยสุดๆเลยแล้วกัน เป็นเพราะว่าหิวอยู่รึเปล่านะรสชาติของมันถึงได้อร่อยกว่าปกติที่ควรเป็น อย่างไรก็ตามแต่,พอรู้ตัวอีกทีซากของ <อสุรกายก็เลือนหายไปกว่าครึ่ง พร้อมเพรียงกันเวลานี้เกลก็อิ่มแปล้ยากเติมเต็มสิ่งใดเข้าไปอีก

    ....หิวน้ำแฮะ

    เกลเหลือบมอง <อสุรกายลังเลเล็กน้อย————ทางแก้คงเป็นการดื่มเลือดล่ะมั้งเขานึกได้แค่นั้น,พลางทำใจครู่ พอใจชื้นขึ้นมาหน่อยจึงก้าวเข้าไปกรีดข้อมืออันใหญ่โตของมันด้วยนารากะพาราห์จังหวะเดียวกันก็อ้าปากรอรับหยาดโลหิตทีละหยดอย่างสงบนิ่ง

    ผ่านไปราวนาทีหนึ่ง ธารเลือดจึงเหือดหายไป,คงเพราะว่ามันเสียเลือดมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเลือดที่ควรมีอยู่เกือบๆ 5 ลิตรโดยประมาณจึงจางหายไป

    เอาเถอะ,อย่างไรยามนี้อาการคอแห้งก็หายไปแล้ว เกลจึงรู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงฟื้นคืนมาอีกครั้ง สภาพร่างกายของเขาตอนนี้เพียงพอแล้วที่จะออกเดินทางต่อ กระนั้นเกลยังมีเรื่องคาใจอยู่หนึ่ง,ตรงจุดที่เกิดรอยแหว่งจากลำแสงดำแดง แม้หนามแกร่งและเขาสูงจะถูกคว้านออกเป็นทางยาวร่วม 50 เมตร ทว่าเสาดำที่อยู่หว่างกลางบริเวณนั้นกลับตั้งตระหง่านโดยไร้ซึ่งริ้วรอยบุบสลาย

    บางทีเสาต้นนั้นคงทนทานกว่าหนามและเทือกเขารวมกันเสียอีก...

    จากนั้นในหัวเกลก็เหมือนแล่นวาบด้วยความคิด แล้วจ้องมองเสาสูงด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น————บางทีวิธีนี้อาจทำให้เขาออกไปจากสถานีที่สามแซมกาด้าแห่งนี้ได้

    .

    .

    วิธีที่ว่าก็คือการ <ปีน>

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×