คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Pet Story HC 05 โดนลักพาตัว 100%
Pet Story HC 05 โดนลักพาตัว
คยูฮยอนหลังออกจากถ้ำวังมังกรก็รีบรุดหน้าเข้าหมู่บ้านมนุษย์ทันที
เพื่อตามตัวคิมฮีชอลกลับให้ได้ภายใน 7 วัน
เพื่อแลกกับเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดที่ตัวเองต้องการรู้
เมื่อวิ่งเข้าใกล้หมู่บ้านก็เริ่มได้กลิ่นของฮีชอลจึงวิ่งไปตามทิศทางที่กลิ่นโชยมา
“ฮีชอลวิ่งมานี่สิ” เสียงของเด็กผู้ชายซึ่งเป็นมนุษย์ดังขึ้นจากทิศทางที่คยูฮยอนกำลังวิ่งไป
เพราะเขาเป็นปีศาจหมาป่าหูของเขาจึงค่อนข้างดีกว่าปีศาจอื่นทั่วๆไป
“ฮันเกิงอุ้มข้าที” เสียงของฮีชอลร้องขึ้น
และประโยคคำพูดนี้ทำเอาคยูฮยอนถึงกับฉุนกึกขึ้นมาทันใด
ทั้งๆที่ห่วงแทบตายแต่ดูเจ้าตัวปัญหาคิมฮีชอลทำกับเขาสิ มันน่าจับตีก้นเสียจริง
ความหงุดหงิดที่กำลังเพิ่มความทวีคูณมากขึ้น
ทำให้คยูฮยอนรีบพุ่งไปในทิศทางที่เสียงมา
“ฮีชอลนี่ชอบให้อุ้มจังเลยนะ” เสียงของฮันเกิงดังขึ้นอีกครั้ง ประจวบเหมาะกับที่คยูฮยอนวิ่งไปถึงบริเวณบ้านของฮันเกิงพอดิบพอดี
“หนอย
หัดเป็นแมวเชื่องๆแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
คยูฮยอนบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด
ร่างที่หลบอยู่ภายใต้หลังพุ่มไม้ค่อยๆเปลี่ยนร่างจากหมาป่าไปอยู่ในร่างของมนุษย์ภายในชั่วพริบตา
เนื่องจากคยูฮยอนเป็นปีศาจที่มีวิชาค่อนข้างแกร่งกล้ากว่าปีศาจหมาป่าพวกเดียวกัน
บวกกับความเจ้าเล่ห์เพทุบายเฉพาะตัวนั้นแล้วแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถจำผิดหรือสังเกตเห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนกับปีศาจ
และยิ่งในยุคปัจจุบันที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์มีมากมายขึ้น
ในขณะที่ปีศาจอย่างพวกเขากำลังลดน้อยลง จนเกือบจะหายสาบสูญไป
เมื่อมาเห็นคิมฮีชอลเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
คยูฮยอนเลือกที่จะเปลี่ยนร่างอยู่ในสภาพของสัตวแพทย์
ถึงแม้เขาจะเกลียดชังมนุษย์สักเพียงใด
แต่การทำตัวให้กลมกลืนนั้นก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ใด
เขามักจะใช้ร่างกายของมนุษย์ออกไปยังเมืองที่มนุษย์อยู่กันพลุกพล่านอยู่เป็นประจำ
เพื่อคอยสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง และหาวิธีได้ต่อสู้กับมนุษย์
คยูฮยอนในสภาพร่างมนุษย์ที่สวมเสื้อกราวแสร้งทำเป็นเดินหลงทาง
ทำท่าทางลอกแลกพร้อมกับกระดาษแผนที่มั่วๆที่เขาเสกขึ้นมาจากใบไม้แถวๆนั้นเดินผ่านหน้าบ้านฮันเกิง
พร้อมๆกับจงใจให้ฮันเกิงสังเกตเห็นตัวเขาด้วย
“เอ่อ....คุณหมอครับ
มาหาใครรึเปล่าครับ”
ฮันเกิงที่หันมาพบกับคยูฮยอนที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่กับแผ่นกระดาษ
ก็ได้อุ้มฮีชอลในสภาพร่างของแมววิ่งตรงมายังประตูรั้วพลางถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“คือหมอกำลังหาบ้านลูกค้าอยู่นะ
แต่สงสัยเพื่อนร่วมงานหมอจะเขียนแผนที่ห่วยแตกไปหน่อย” คยูแสร้งทำท่าทางเลิ่กลั่กปนกลัว
และตื่นตระหนกนิดหน่อย เพื่อไม่ให้เด็กชายเบื้องหน้าสงสัย
“เป็นหมอจริงๆด้วยแหละฮีชอล” ฮันเกิงพึมพำเบาๆกับแมวที่อยู่ในอ้อมกอด
“สงสัยอะไรรึเปล่าครับ” คยูแกล้งทำเป็นถามใส่เพราะได้ยินสิ่งที่ฮันเกิงพูดอย่างชัดเจน
“อ้อเปล่าครับ
คุณหมอไม่รีบไปหาคนไข้หรอครับ เดี๋ยวเขาอาจจะเป็นหนักนะครับ”
“หมอไม่ได้รักษาคนหรอกครับ
แต่รักษาสัตว์เหมือนเจ้าแมวที่เราอุ้มอยู่นี่ไง” คยูฮยอนเอื้อมมือเข้าไปลูบหัวฮีชอลอย่างถือวิสาสะด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุซ่อนอยู่ภายในใจ
‘ไอ้แมวทรยศไม่หือไม่อือทำเป็นจำกันไม่ได้เลยนะ’ เสียงคำบ่นด่าทอภายในใจของคยูฮยอน
ในขณะที่ฮีชอลไม่ได้สนใจหรือฟังเสียงใดๆรอบตัวเองเลย
เนื่องจากอยู่ภายในอ้อมกอดของฮันเกิงยิ่งทวีคูณความแรงของคำสาปได้เป็นอย่างดี
ทำให้ฮีชอลไม่ทันได้สังเกตหรือได้กลิ่นของคยูฮยอน
ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงลุกขึ้นมาขู่พร้อมกับบ่นด่าเหม็นกลิ่นหมาป่าเสียแล้ว
“โห
งั้นคุณหมอมารักษาแมวบ้านใครหรอครับ บ้านพี่จองซูรึเปล่าครับ?” เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ทำเอาคยูฮยอนถึงกับนิ่งไป
และฮีชอลก็ถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขู่ฟ่อๆอย่างไม่มีสาเหตุจนฮันเกิงตกใจปล่อยฮีชอลออกจากมือ
“อ่าวเจ้าเหมียวน้อยจะวิ่งไปไหน?” คยูฮยอนอาศัยจังหวะช่วงที่ฮีชอลตกใจเพราะหล่นจากกอดฮันเกิงแล้ววิ่งผิดทิศออกไปนอกประตูรั้วออกจากบ้าน
แสร้งทำเป็นวิ่งตามไปเหมือนจะช่วยจับแมวให้ ในขณะที่ฮันเกิงกำลังตกใจกับรอยแผลที่มือตัวเองที่เกิดขึ้นตอนที่ฮีชอลขู่ฟ่อเพราะได้ยินชื่อจองซู
“ฮีชอล อย่าไป~” ฮันเกิงร้องเรียกฮีชอล
หากแต่แมวที่ถูกเรียกกลับวิ่งเตลิดออกไปไกล
และรวดเร็วเกินกว่าจะได้ยินเสียงหรือกลิ่น
บวกกับทิศทางที่วิ่งไปนั้นสวนกับลมที่พัดพาไปทางฮันเกิง ทำให้ฮีชอลหลุดจากคำสาปไปเสียชั่วขณะ
ภายในจิตใจหลงเหลือแต่เพียงความไม่พอใจที่ได้ยินชื่อของจองซู
“เจ้าแมวน้อยจะวิ่งไปทางนั้นไม่ได้นะ” คยูฮยอนที่แสร้งทำเป็นร้องเรียกฮีชอล
ก็วิ่งตามด้วยพลังของปีศาจไปติดๆ
ทำให้ฮันเกิงที่เป็นเด็กมองไม่ทันว่าทั้งสองนั้นวิ่งไปทิศทางไหนกันแน่
พอรู้สึกตัวว่าตัวเองวิ่งห่างออกมาจากบ้านพอสมควรก็รีบวิ่งกลับไปรอที่หน้าบ้านแล้วก็ได้แต่หวังว่าสัตวแพทย์ที่ตัวเองเพิ่งได้พบจะพาฮีชอลกลับมาให้เค้า
“โว๊ย จะตามมาทำไมนักหนา” ฮีชอลที่เมื่ออยู่ไกลฮันเกิงคำสาปก็ไม่มีผลอีกต่อไป
หันไปโวยวายใส่คยูฮยอนที่วิ่งตามมาติดๆ
“ไอ่แมวบ้านี่ หยุดวิ่งสักที!!” คยูฮยอนตะโกนกลับบ้างด้วยความเดือดดาลขึ้นมาบ้าง
และเมื่อเห็นทีท่าฮีชอลจะไม่ยอมหยุดวิ่งจึงเปลี่ยนร่างไปเป็นหมาป่า
หลังจากนั้นในเวลาเพียงกี่นาทีก็จับตัวฮีชอลไว้ทัน
“ปล่อยนะไอ่หมาบ้า”
โป๊ก~
คยูฮยอนแจกมะเหงกอย่างเต็มเกลียดและเต็มรัก
“เจ้าลืมไปแล้วหรอว่าเจ้าทำอะไร
ไอ่แมวบ้า ลืมไอ่ลูกสมุนแมวที่ตามหาตัวอยู่รู้ตัวรึเปล่า
ไอ่แมวจุนซานะมันกลับมาแล้ว”
“อ๊ะ จริงสิ ข้าต้องรีบกลับไปดูจุนซา” ฮีชอลพูดด้วยท่าทางที่เร็วรีบกับในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“ไม่ต้องเลยเจ้าต้องมากับข้าก่อนฮีชอล” คยูฮยอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่ฮีชอลกลับรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดของประโยคที่พูดออกมา
“เฮ้อ อะไรของเจ้าอีกล่ะ ว่ามาสิ” ฮีชอลถอนหายใจพลางทำน้ำเสียงอย่างเหนื่อยหน่าย
“อย่ามาถอนหายใจใส่ข้านะ
นี่มันเรื่องของเจ้าล้วนๆเลย แล้วตอนนี้ก็ไม่มีเวลามาอธิบายแล้วด้วย
ต้องรีบไปที่ถ้ำวังมังกรด่วนเลย”
“ถ้ำวังมังกร ไปทำไม
ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับที่นั่นเสียหน่อย”
“แน่ใจรึว่าไม่มี
แล้วคำสาปนั่นเล่าไม่อยากรู้ความจริงเลยงั้นสิ”
“ตาแก่มังกรหงำเหงือกนั่นยอมบอกความจริงแล้วรึไง
ทีเมื่อ 300 ปีก่อนทำยังไงก็ไม่ยอมแม้แต่จะปริปากพูดกับข้าสักคำ”
“นี่
เจ้าเคยไปถามความจริงจากท่านเจ้าวังมังกรด้วยรึ”
“เคยสิ
ไอ่แก่นั่นเจ้าเล่ห์จะตายทำไมข้าจะไม่รู้”
“แต่ท่านเจ้าวังมังกรบอกข้าว่า
ถ้าข้าพาเจ้าไปหาจะบอกความจริงทั้งหมด แล้วตอนนี้เจ้าเองก็อันตรายมากไม่ใช่รึไง
เพราะว่าเจ้าพวกนั้นมันกลับมาเกิดใหม่กันหมดแล้ว”
“หึ ให้มันจริงนะไอ่แก่
ไม่งั้นชีวิตพันกว่าปีที่มีมาตายคาอุ้งตีนแมวแน่นอน”
“ถ้าเคียดแค้นขนาดนั้นๆก็ช่วยรีบๆ
ย้ายที่ไปถ้ำวังมังกรได้แล้วฮีชอล”
คยูฮยอนบอกพลางปล่อยตัวฮีชอลออกเตรียมตัวใช้เวทย์เพื่อเพิ่มความเร็วในการเดินทางไปยังถ้ำวังมังกร
เมื่อฮีชอลเห็นเช่นนั้นก็รีบใช้เวทย์ตาม
แล้วทั้งสองตัวในสภาพร่างหมาแมวก็รีบเดินทางรุดหน้าไปยังถ้ำมังกรทันที
ภายในใจของคยูฮยอนนั้นความอยากรู้อยากเห็นนั้นมีมากกว่าเรื่องใดๆในมวลเสียแล้วตอนนี้
อยากจะไปถึงให้ไวที่สุด
~
Pet Story HC ~
ทางด้านเหลินฉินซึ่งกำลังปรับตัวกับการทำงานร่วมกันกับคนเกาหลีก็กำลังพยายามอย่างมากในการกำลังพยายามทำความเข้าใจในภาษาใหม่
และเพื่อนร่วมงานใหม่
“คุณเหลินฉินไปทานข้าวกับพวกเราไหมครับ?” เพื่อนร่วมงานประมาณ4-5คนเดินเข้ามาหาเหลินฉินพร้อมพูดด้วยภาษาเกาหลีใส่รัวๆ
แม้จะเป็นประโยคสั้นๆแต่ก็ทำเหลินฉินมึนไปชั่วขณะ
“อ่าวๆ ไปรุมทำไมกัน
เดี๋ยวก็เป็นลมกันพอดี”
เสียงของแทกุกที่ไม่แน่ใจว่าเดินมาจากทางไหนนั้นได้ดังขึ้นข้างหลังคนอื่นๆ
“คุณผู้ช่วยวันนี้ก็เข้าบริษัทอีกแล้วหรอครับนี่” หนึ่งในกลุ่มคนที่มาชวนเหลินฉินพูดขึ้น
“งานกับหุ้นส่วนยังไม่เรียบร้อยนะครับ
คุณเหลินฉินช่วยมากับผมหน่อยได้ไหมครับ?”
แทกุกตอบพนักงานอื่นๆอย่างสุภาพ
แล้วบอกกับเหลินฉินด้วยภาษาอังกฤษอีกครั้ง
“อะไรกันครับ
พักเที่ยงแล้วยังจะคุยงานกันอีกหรือครับ?”
“ใช้แรงงานหุ้นส่วนหนักระวังท่านประธานว่าเอานะครับ”
“ผมแค่คุยเฉยๆไม่ได้ใช้แรงงาน
ไปกันเถอะครับคุณเหลินฉิน”
แทกุกตอบกลับพลางแหวกผู้คนเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเหลินฉินให้เดินตามตัวเองไป
ทำให้ต้องเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหลินฉินก้มหัวให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆก่อนที่ตัวเองจะเดินผ่านออกไปกับแทกุก
“มีเรื่องด่วนต้องคุยหรือครับ
ทำไมเร่งรีบจัง” เหลินฉินถามอย่างสงสัย
ในขณะที่เท้าก็พยายามเร่งเดินตามให้ทันคนที่อยู่ข้างหน้า
“ผมหิวนะ” แทกุกหันกลับมาตอบด้วยเสียงราบเรียบ
ทำเอาคนที่รอฟังคำตอบถึงกับต้องสะดุดอากาศล้มเลยทีเดียว และด้วยความไวของแทกุกก็สามารถคว้าเหลินฉินไว้ทัน
“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ” เหลินฉินใช้มือท้าวแทกุกเพื่อดันตัวเองให้ยืนขึ้นเนื่องจากส่วนสูงของเขาที่ค่อนข้างสูงน้อยกว่าแทกุกอยู่สักหน่อย
ทำให้ระยะของมือวางตำแหน่งช่วงอกของอีกฝ่ายพอดิบพอดี
“ครับ เดินไหวไหม?” แทกุกถามพลางยิ้มขำๆ
“ไหวสิครับ
ถึงผมจะอายุมากแล้วแต่ผมก็ยังแข็งแรงดีอยู่”
เหลินฉินตอบพลางทำหน้ามุ่ยแดงปนเขินเมื่อถูกแทกุกแซวเช่นนั้น
“ถึงอายุเยอะแต่หน้ายังเด็กอยู่นะครับ
หน้าตาแบบนี้หนุ่มๆชอบ”
“เดี๋ยวนะครับ
ทำไมเป็นหนุ่มล่ะไม่ใช่ว่าสาวๆหรอกหรอ”
เหลินฉินถึงกับขมวดคิ้วแปลกใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
“เอ...ทำไมกันนะ”
แทกุกไม่ตอบแต่กลับถามกลับเสียนี่พลางทำท่าคิดหนักยิ่งทำหน้าเหลินฉินหน้าแดงหนักกว่าเดิมโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว
“รีบไปทานข้าวได้แล้วนะครับ
เดี๋ยวจะหมดเวลาพักเที่ยงเสียก่อน”
เหลินฉินหนีความจริงด้วยการย้ำเรื่องเวลากับแทกุกแล้วเดินนำหน้าไปที่รถยนต์แทน
ทำให้แทกุกได้ยิ้มหัวเราะเบาๆกับตัวเองก่อนจะเดินตามไป
~
Pet Story HC ~
คยูฮยอนและฮีชอลเร่งฝีเท้าสุดแรงเพื่อไปให้ถึงวังถ้ำมังกรโดยเร็ว
ภายในใจของฮีชอลก็สับสนวุ่นวายพลางจิตนาการไปต่างๆนานาว่าความจริงจะเป็นเช่นไร
ยิ่งเมื่อนึกถึงภาพของซีวอนและจองซูที่เพิ่งเจอหน้าเมื่อไม่นานมานี้ ความโกรธ
ความเกลียดที่สะสมมายาวนานกว่า 300 ปีมานี้ ถ้าสามารถจัดการกับคำสาปนี้ออกไปได้
เขาจะต้องกับไปคร่าชีวิตของสองคนนี้อีกครั้ง
ณ
ถ้ำวังมังกร
“รวดเร็วดีนี่”
เสียงของเจ้าถ้ำวังมังกรที่เดินออกมานอกประตูถ้ำเมื่อรับรู้ถึงจิตทั้งสองของผู้มาเยือนในครั้งนี้
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะตาแก่หงำเหงือก”
ฮีชอลเค้นเสียงตอบอย่างไม่พอใจ
“ไหนท่านบอกว่าไม่เคยเจอกับฮีชอลไงเล่า”
คยูฮยอนถามอย่างสงสัย
“ข้าจำได้ว่าข้าบอกแค่อยากเจอกับลูกสะใภ้มานานแล้ว
ข้าไม่ได้บอกกับเจ้าสักหน่อยว่าไม่เคยเจอ” ไอ่แก่นี่เล่นลิ้นนักนะ
นั้นคือสิ่งที่ฮีชอลและคยูฮยอนคิดขึ้นมาในใจพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย
“รีบพูดๆมาได้แล้ว
ข้าไม่อยากจะมาเสียเวลาอยู่กับตาแก่อายุพันปีนานๆหรอกนะ” ฮีชอลกอดอกพูดพลางสะบัดหน้าไปทางอื่น
“เราไปคุยกันด้านในก่อนเถอะ
ข้าต้องให้ฮีชอลนั่งเพื่อที่ข้าจะได้ตรวจสอบได้ว่าข้าจำเป็นจะต้องบอกอะไรพวกเจ้าบ้าง”
“มาถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดจะพูดความจริงทั้งหมดกับข้าอีกอย่างหรอ”
ฮีชอลกล่าวอย่างไม่พอใจ แต่ก็เดินตามเข้าไปภายในถ้ำโดยมีคยูฮยอนเดินตามเข้าไปติดๆอย่างเงียบเชียบ
เมื่อทั้งหมดเข้ามาภายในถ้ำฮีชอลก็นั่งลงที่แท่นนั่งกลางถ้ำตามที่ท่านเจ้าวังมังกรบอกและเดินเอามือทั้งสองข้างวางลงบนแผ่นหลังของฮีชอล
ถ่ายลมปราณเพื่อตรวจสอบสภาพคำสาปตอนนี้ว่าเป็นเช่นไร
“เป็นเช่นไรบ้าง”
คยูฮยอนกล่าวถาม
“มิทันแล้วล่ะ
คำสาปนั้นถูกทำสัญญาเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว”
“ห๊ะ อะไรกัน
ได้ยังไง ฮีชอลนี่เจ้าไปทำสัญญากับเจ้านั่นมาเรอะ
ทั้งๆที่นายปฏิเสธมันมาตั้งหลายร้อยปี” คยูฮยอนถามฮีชอลด้วยความสงสัย
ทั้งตกใจและแปลกใจ ทั้งๆที่เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 วันดีเสียด้วยซ้ำในการพาตัวฮีชอลกลับมาหาท่านเจ้าวังมังกร
แต่สิ่งที่ทำไปกลับไม่ทันเวลาเสียแล้วเนี่ยนะ
“เจ้าไม่ต้องตระหนกไปหรอก
ถึงจะพูดว่าคำสาปแต่มันก็เป็นเพียงการผูกชะตาเพื่อให้เป็นเนื้อคู่กันเท่านั้น”
“ห๊ะ ผูกชะตา
พวกแกจะบ้าเรอะ ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย” ฮีชอลที่สติเพิ่งฟื้นจากนั่งสมาธิถ่ายลมปราณดูคำสาปได้ร้องโวยวายขึ้นอย่างไม่พึงพอใจอย่างมาก
“ผู้ชายแล้วเยี่ยงไรเล่า
ขอแค่เพียงมีความงามข้าก็รับเป็นสะใภ้วังมังกรนี้ได้หมดแหละ”
“งั้นก็ไปเอาคนอื่นสิ”
“ในป่านี้มีสตรีอื่นงดงามไปกว่าเจ้าอีกรึ?”
เป็นการตอบคำถามด้วยคำถามี่ฮีชอลถึงกับต้องหยุดคิดครู่นึงเลยทีเดียว
“คยูฮยอนเจ้าคิดว่ามีใครในป่านี้ที่งามกว่าข้าอีกหรือไม่?”
“เดี๋ยวสิเจ้าจะเคลิ้มตามตาแก่นี่ทำไม?”
คยูฮยอนเบี่ยงประเด็นทันที เพราะไม่อยากจะยอมรับหรอกนักว่าเรื่องความงามของฮีชอลนั้นเป็นเรื่องจริง
“นั้นสิ ตาแก่กล้ามาให้มาทำให้ข้าเขวเรอะ
แล้วมันจะมีทางแก้ไหมล่ะเนี่ย”
“วิถีถอนไม่มีหรอก
แต่ถ้าหากจะให้กดคำสาปในไว้ชั่วคราวก็พอจะทำได้”
“แล้วมันต้องทำยังไงเล่า”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้าไม่อยากจะพูดถึงเลยและไม่อยากให้เจ้าต้องทำ
ข้าเลยถึงยอมเก็บมาถึง 300กว่าปี”
“แล้วมันอะไรเล่า
รีบๆบอกมาก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้าตามลูกชายของเจ้าไปอีกตน”
“เจ้าต้องอยู่ในร่างของมนุษย์
ไม่สิ เจ้าต้องไปเป็นมนุษย์และห้ามอยู่ในร่างของสัตว์เป็นอันขาด
ยิ่งเจ้าอยู่ในร่างของสัตว์บ่อยแค่ไหนระยะเวลาที่ข้ากดคำสาปไว้ก็จะเหลือน้อยลง
และเจ้าก็จะไม่สามารถอยู่ในป่านี้ได้
เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ร่ายคำสาปให้กับร่างกายของ
ถึงแม้จะไม่ใช่สถานที่ตอบรับของตำสาปก็ตามที”
“คยูฮยอนบอกข้าทีสิว่าตาแก่นี่กำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม
ทำไมข้าถึงจะอยู่ที่บ้านของตัวเองไม่ได้”
“จากที่ตาแก่นี่อธิบายมาซะยืดยาว
ก็คงจะเป็นแบบนั้นไม่ผิดแน่”
“ไม่มีทาง
ข้าจะไม่ไปจากที่นี่”
“ถ้าหากเจ้ายังอยู่ที่นี่
ก็จะต้องมีเหตุการณ์เลวร้ายที่บีบบังคับให้เจ้าออกจากป่านี้ไปอยู่ดี
เจ้าออกไปเองเสียดีกว่า เพราะถ้าเจ้าไม่ออกไปเผ่าแมวที่เหลืออยู่ในป่านี้จะได้รับผลกระทบจากเจ้า
พวกนั้นอาจจะหายไปตลอดกาล เพื่อให้ฟันเฟืองแห่งชะตากรรมนี้ได้เดินต่อไป
สิ่งที่ข้าจะพูดก็มีเพียงเท่านี้ เชิญพวกเจ้าออกไปได้แล้วก็จะนั่งสมาธิ”
~
Pet Story HC ~
ฮันเกิงนั่งรอสัตวแพทย์ที่วิ่งไปตามแมวอย่างใจจดใจจ่อที่หน้าประตูบ้านจนกระทั่งเหลินฉินและแทกุกกลับมาถึงบ้าน
“ฮันเกิงมานั่งทำอะไรที่ประตูหน้าบ้านเนี่ยลูก”
เหลินฉินถามอย่างแปลกใจเพราะตั้งแต่มีแมวเข้ามาอยู่ในบ้านฮันเกิงก็ไม่ออกมานั่งรอตนเองที่หน้าบ้านอีกเลย
“พ่อครับ
ฮีชอลมันตกใจแล้วก็วิ่งหนีออกไปแล้ว แต่ว่ามีคุณหมอวิ่งไปตามฮีชอลให้ ผมไม่กล้าออกจากบ้านไปนานกลัวพ่อเป็นห่วงนะครับ”
“คุณหมอหรอ?”
แทกุกกับเหลินฉินพูดออกมาพร้อมกันอย่างแปลกใจ หมอที่ไหนจะมาเดินแถวนี้
“ครับ
คุณหมอบอกว่าเป็นหมอรักษาสัตว์
แต่ว่าหมอหลงทางหาบ้านลูกค้าไม่เจอก็เลยเจอที่หน้าบ้านนะครับ”
“ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆนะคุณเหลินฉินเพราะปกติที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีคนนอกเข้ามา”
“จะพวกขโมยสัตว์หรอครับ?”
เหลินฉินถามกลับอย่างตกใจ
“ก็อาจจะเป็นไปได้
เดี๋ยวผมจะลองติดต่อที่บ้านของคุณชินดงฝ่ายประชาสัมพันธ์ดูก่อนนะครับ
เพราะว่าบ้านนั้นเลี้ยงแมวเยอะอาจจะเปลี่ยนสัตวแพทย์ที่ดูแลก็ได้”
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ
ฮันเกิงไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวพ่อกับคุณแทกุกจะตามตัวฮีชอลให้เจอ
คนนั้นอาจจะจับตัวฮีชอลไม่ทันก็ได้”
“บางทีฮีชอลอาจจะหลงไปในบ้านคนอื่นก็ได้
เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาช่วยกันตามหานะ” แทกุกช่วยเหลินฉินปลอบฮันเกิงอีกแรง
“ครับ
แต่ว่าฮีชอลอาจจะหนาวอยู่ข้างนอกผมเป็นห่วง”
“เพราะอย่างนั้นฮันเกิงก็ต้องรีบเข้าไปกินข้าวแล้วก็เข้านอนไว
พรุ่งนี้จะได้มีแรงตามหาฮีชอลกันนะครับ
เดี๋ยวน้าแทกุกจะมาหาแต่เช้าช่วยหาเลยดีไหมครับ?” แทกุกพูดพลางลูบหัวฮันเกิงเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
ถึงจะรู้จักกันเพียงไม่นานแต่เค้าก็รู้สึกถูกชะตากับครอบครัวนี้มาก
โดยเฉพาะกับพ่อของเด็กคนนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++จบตอนสักทีหลังจากที่ดองมานานข้ามปี 555+
ยังรักคนอ่านทุกคนเสมอนะครับ เนื่องจากชีวิตผมมันยุ่งเหยิงจนไม่ได้เปิดคอมเข้ามาพิมพ์เลย
ปีนี้จึงตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่าทั้งฟิคและนิยายทุกเรื่องจะต้องจบ
จะพยายามนะครับ
รักนะ จุ๊ฟๆ
ความคิดเห็น