ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ]Pet Story ผมต้องการ 'แมว' [hanchul]

    ลำดับตอนที่ #5 : Pet Story HC 05 โดนลักพาตัว 100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 61


    Pet Story HC 05 โดนลักพาตัว


    คยูฮยอนหลังออกจากถ้ำวังมังกรก็รีบรุดหน้าเข้าหมู่บ้านมนุษย์ทันที เพื่อตามตัวคิมฮีชอลกลับให้ได้ภายใน 7 วัน เพื่อแลกกับเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดที่ตัวเองต้องการรู้ เมื่อวิ่งเข้าใกล้หมู่บ้านก็เริ่มได้กลิ่นของฮีชอลจึงวิ่งไปตามทิศทางที่กลิ่นโชยมา

    ฮีชอลวิ่งมานี่สิเสียงของเด็กผู้ชายซึ่งเป็นมนุษย์ดังขึ้นจากทิศทางที่คยูฮยอนกำลังวิ่งไป เพราะเขาเป็นปีศาจหมาป่าหูของเขาจึงค่อนข้างดีกว่าปีศาจอื่นทั่วๆไป

    ฮันเกิงอุ้มข้าทีเสียงของฮีชอลร้องขึ้น และประโยคคำพูดนี้ทำเอาคยูฮยอนถึงกับฉุนกึกขึ้นมาทันใด ทั้งๆที่ห่วงแทบตายแต่ดูเจ้าตัวปัญหาคิมฮีชอลทำกับเขาสิ มันน่าจับตีก้นเสียจริง ความหงุดหงิดที่กำลังเพิ่มความทวีคูณมากขึ้น ทำให้คยูฮยอนรีบพุ่งไปในทิศทางที่เสียงมา

    ฮีชอลนี่ชอบให้อุ้มจังเลยนะเสียงของฮันเกิงดังขึ้นอีกครั้ง ประจวบเหมาะกับที่คยูฮยอนวิ่งไปถึงบริเวณบ้านของฮันเกิงพอดิบพอดี

    หนอย หัดเป็นแมวเชื่องๆแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่คยูฮยอนบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด ร่างที่หลบอยู่ภายใต้หลังพุ่มไม้ค่อยๆเปลี่ยนร่างจากหมาป่าไปอยู่ในร่างของมนุษย์ภายในชั่วพริบตา

    เนื่องจากคยูฮยอนเป็นปีศาจที่มีวิชาค่อนข้างแกร่งกล้ากว่าปีศาจหมาป่าพวกเดียวกัน บวกกับความเจ้าเล่ห์เพทุบายเฉพาะตัวนั้นแล้วแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถจำผิดหรือสังเกตเห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนกับปีศาจ และยิ่งในยุคปัจจุบันที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์มีมากมายขึ้น ในขณะที่ปีศาจอย่างพวกเขากำลังลดน้อยลง จนเกือบจะหายสาบสูญไป เมื่อมาเห็นคิมฮีชอลเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก คยูฮยอนเลือกที่จะเปลี่ยนร่างอยู่ในสภาพของสัตวแพทย์ ถึงแม้เขาจะเกลียดชังมนุษย์สักเพียงใด แต่การทำตัวให้กลมกลืนนั้นก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ใด เขามักจะใช้ร่างกายของมนุษย์ออกไปยังเมืองที่มนุษย์อยู่กันพลุกพล่านอยู่เป็นประจำ เพื่อคอยสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง และหาวิธีได้ต่อสู้กับมนุษย์

    คยูฮยอนในสภาพร่างมนุษย์ที่สวมเสื้อกราวแสร้งทำเป็นเดินหลงทาง ทำท่าทางลอกแลกพร้อมกับกระดาษแผนที่มั่วๆที่เขาเสกขึ้นมาจากใบไม้แถวๆนั้นเดินผ่านหน้าบ้านฮันเกิง พร้อมๆกับจงใจให้ฮันเกิงสังเกตเห็นตัวเขาด้วย

    เอ่อ....คุณหมอครับ มาหาใครรึเปล่าครับฮันเกิงที่หันมาพบกับคยูฮยอนที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่กับแผ่นกระดาษ ก็ได้อุ้มฮีชอลในสภาพร่างของแมววิ่งตรงมายังประตูรั้วพลางถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

    คือหมอกำลังหาบ้านลูกค้าอยู่นะ แต่สงสัยเพื่อนร่วมงานหมอจะเขียนแผนที่ห่วยแตกไปหน่อยคยูแสร้งทำท่าทางเลิ่กลั่กปนกลัว และตื่นตระหนกนิดหน่อย เพื่อไม่ให้เด็กชายเบื้องหน้าสงสัย

    เป็นหมอจริงๆด้วยแหละฮีชอลฮันเกิงพึมพำเบาๆกับแมวที่อยู่ในอ้อมกอด

    สงสัยอะไรรึเปล่าครับคยูแกล้งทำเป็นถามใส่เพราะได้ยินสิ่งที่ฮันเกิงพูดอย่างชัดเจน

    อ้อเปล่าครับ คุณหมอไม่รีบไปหาคนไข้หรอครับ เดี๋ยวเขาอาจจะเป็นหนักนะครับ

    หมอไม่ได้รักษาคนหรอกครับ แต่รักษาสัตว์เหมือนเจ้าแมวที่เราอุ้มอยู่นี่ไงคยูฮยอนเอื้อมมือเข้าไปลูบหัวฮีชอลอย่างถือวิสาสะด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุซ่อนอยู่ภายในใจ

    ไอ้แมวทรยศไม่หือไม่อือทำเป็นจำกันไม่ได้เลยนะเสียงคำบ่นด่าทอภายในใจของคยูฮยอน ในขณะที่ฮีชอลไม่ได้สนใจหรือฟังเสียงใดๆรอบตัวเองเลย เนื่องจากอยู่ภายในอ้อมกอดของฮันเกิงยิ่งทวีคูณความแรงของคำสาปได้เป็นอย่างดี ทำให้ฮีชอลไม่ทันได้สังเกตหรือได้กลิ่นของคยูฮยอน ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงลุกขึ้นมาขู่พร้อมกับบ่นด่าเหม็นกลิ่นหมาป่าเสียแล้ว

    โห งั้นคุณหมอมารักษาแมวบ้านใครหรอครับ บ้านพี่จองซูรึเปล่าครับ?”  เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ทำเอาคยูฮยอนถึงกับนิ่งไป และฮีชอลก็ถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขู่ฟ่อๆอย่างไม่มีสาเหตุจนฮันเกิงตกใจปล่อยฮีชอลออกจากมือ

    อ่าวเจ้าเหมียวน้อยจะวิ่งไปไหน?” คยูฮยอนอาศัยจังหวะช่วงที่ฮีชอลตกใจเพราะหล่นจากกอดฮันเกิงแล้ววิ่งผิดทิศออกไปนอกประตูรั้วออกจากบ้าน แสร้งทำเป็นวิ่งตามไปเหมือนจะช่วยจับแมวให้ ในขณะที่ฮันเกิงกำลังตกใจกับรอยแผลที่มือตัวเองที่เกิดขึ้นตอนที่ฮีชอลขู่ฟ่อเพราะได้ยินชื่อจองซู

    ฮีชอล อย่าไป~” ฮันเกิงร้องเรียกฮีชอล หากแต่แมวที่ถูกเรียกกลับวิ่งเตลิดออกไปไกล และรวดเร็วเกินกว่าจะได้ยินเสียงหรือกลิ่น บวกกับทิศทางที่วิ่งไปนั้นสวนกับลมที่พัดพาไปทางฮันเกิง ทำให้ฮีชอลหลุดจากคำสาปไปเสียชั่วขณะ ภายในจิตใจหลงเหลือแต่เพียงความไม่พอใจที่ได้ยินชื่อของจองซู

    เจ้าแมวน้อยจะวิ่งไปทางนั้นไม่ได้นะคยูฮยอนที่แสร้งทำเป็นร้องเรียกฮีชอล ก็วิ่งตามด้วยพลังของปีศาจไปติดๆ ทำให้ฮันเกิงที่เป็นเด็กมองไม่ทันว่าทั้งสองนั้นวิ่งไปทิศทางไหนกันแน่ พอรู้สึกตัวว่าตัวเองวิ่งห่างออกมาจากบ้านพอสมควรก็รีบวิ่งกลับไปรอที่หน้าบ้านแล้วก็ได้แต่หวังว่าสัตวแพทย์ที่ตัวเองเพิ่งได้พบจะพาฮีชอลกลับมาให้เค้า

    โว๊ย จะตามมาทำไมนักหนาฮีชอลที่เมื่ออยู่ไกลฮันเกิงคำสาปก็ไม่มีผลอีกต่อไป หันไปโวยวายใส่คยูฮยอนที่วิ่งตามมาติดๆ

    ไอ่แมวบ้านี่ หยุดวิ่งสักที!!คยูฮยอนตะโกนกลับบ้างด้วยความเดือดดาลขึ้นมาบ้าง และเมื่อเห็นทีท่าฮีชอลจะไม่ยอมหยุดวิ่งจึงเปลี่ยนร่างไปเป็นหมาป่า หลังจากนั้นในเวลาเพียงกี่นาทีก็จับตัวฮีชอลไว้ทัน

    ปล่อยนะไอ่หมาบ้า

    โป๊ก~

    คยูฮยอนแจกมะเหงกอย่างเต็มเกลียดและเต็มรัก

    เจ้าลืมไปแล้วหรอว่าเจ้าทำอะไร ไอ่แมวบ้า ลืมไอ่ลูกสมุนแมวที่ตามหาตัวอยู่รู้ตัวรึเปล่า ไอ่แมวจุนซานะมันกลับมาแล้ว

    อ๊ะ จริงสิ ข้าต้องรีบกลับไปดูจุนซา”  ฮีชอลพูดด้วยท่าทางที่เร็วรีบกับในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งนึกขึ้นมาได้

    ไม่ต้องเลยเจ้าต้องมากับข้าก่อนฮีชอลคยูฮยอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่ฮีชอลกลับรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดของประโยคที่พูดออกมา

    เฮ้อ อะไรของเจ้าอีกล่ะ ว่ามาสิฮีชอลถอนหายใจพลางทำน้ำเสียงอย่างเหนื่อยหน่าย

    อย่ามาถอนหายใจใส่ข้านะ นี่มันเรื่องของเจ้าล้วนๆเลย แล้วตอนนี้ก็ไม่มีเวลามาอธิบายแล้วด้วย ต้องรีบไปที่ถ้ำวังมังกรด่วนเลย

    ถ้ำวังมังกร ไปทำไม ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับที่นั่นเสียหน่อย

    แน่ใจรึว่าไม่มี แล้วคำสาปนั่นเล่าไม่อยากรู้ความจริงเลยงั้นสิ

    ตาแก่มังกรหงำเหงือกนั่นยอมบอกความจริงแล้วรึไง ทีเมื่อ 300 ปีก่อนทำยังไงก็ไม่ยอมแม้แต่จะปริปากพูดกับข้าสักคำ

    นี่ เจ้าเคยไปถามความจริงจากท่านเจ้าวังมังกรด้วยรึ

    เคยสิ ไอ่แก่นั่นเจ้าเล่ห์จะตายทำไมข้าจะไม่รู้

    แต่ท่านเจ้าวังมังกรบอกข้าว่า ถ้าข้าพาเจ้าไปหาจะบอกความจริงทั้งหมด แล้วตอนนี้เจ้าเองก็อันตรายมากไม่ใช่รึไง เพราะว่าเจ้าพวกนั้นมันกลับมาเกิดใหม่กันหมดแล้ว

    หึ ให้มันจริงนะไอ่แก่ ไม่งั้นชีวิตพันกว่าปีที่มีมาตายคาอุ้งตีนแมวแน่นอน

    ถ้าเคียดแค้นขนาดนั้นๆก็ช่วยรีบๆ ย้ายที่ไปถ้ำวังมังกรได้แล้วฮีชอลคยูฮยอนบอกพลางปล่อยตัวฮีชอลออกเตรียมตัวใช้เวทย์เพื่อเพิ่มความเร็วในการเดินทางไปยังถ้ำวังมังกร เมื่อฮีชอลเห็นเช่นนั้นก็รีบใช้เวทย์ตาม แล้วทั้งสองตัวในสภาพร่างหมาแมวก็รีบเดินทางรุดหน้าไปยังถ้ำมังกรทันที ภายในใจของคยูฮยอนนั้นความอยากรู้อยากเห็นนั้นมีมากกว่าเรื่องใดๆในมวลเสียแล้วตอนนี้ อยากจะไปถึงให้ไวที่สุด

    ~ Pet Story HC ~

    ทางด้านเหลินฉินซึ่งกำลังปรับตัวกับการทำงานร่วมกันกับคนเกาหลีก็กำลังพยายามอย่างมากในการกำลังพยายามทำความเข้าใจในภาษาใหม่ และเพื่อนร่วมงานใหม่

    คุณเหลินฉินไปทานข้าวกับพวกเราไหมครับ?” เพื่อนร่วมงานประมาณ4-5คนเดินเข้ามาหาเหลินฉินพร้อมพูดด้วยภาษาเกาหลีใส่รัวๆ แม้จะเป็นประโยคสั้นๆแต่ก็ทำเหลินฉินมึนไปชั่วขณะ

    อ่าวๆ ไปรุมทำไมกัน เดี๋ยวก็เป็นลมกันพอดีเสียงของแทกุกที่ไม่แน่ใจว่าเดินมาจากทางไหนนั้นได้ดังขึ้นข้างหลังคนอื่นๆ

    คุณผู้ช่วยวันนี้ก็เข้าบริษัทอีกแล้วหรอครับนี่หนึ่งในกลุ่มคนที่มาชวนเหลินฉินพูดขึ้น

    งานกับหุ้นส่วนยังไม่เรียบร้อยนะครับ คุณเหลินฉินช่วยมากับผมหน่อยได้ไหมครับ?” แทกุกตอบพนักงานอื่นๆอย่างสุภาพ แล้วบอกกับเหลินฉินด้วยภาษาอังกฤษอีกครั้ง

    อะไรกันครับ พักเที่ยงแล้วยังจะคุยงานกันอีกหรือครับ?”

    ใช้แรงงานหุ้นส่วนหนักระวังท่านประธานว่าเอานะครับ

    ผมแค่คุยเฉยๆไม่ได้ใช้แรงงาน ไปกันเถอะครับคุณเหลินฉินแทกุกตอบกลับพลางแหวกผู้คนเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเหลินฉินให้เดินตามตัวเองไป ทำให้ต้องเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหลินฉินก้มหัวให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆก่อนที่ตัวเองจะเดินผ่านออกไปกับแทกุก

    มีเรื่องด่วนต้องคุยหรือครับ ทำไมเร่งรีบจังเหลินฉินถามอย่างสงสัย ในขณะที่เท้าก็พยายามเร่งเดินตามให้ทันคนที่อยู่ข้างหน้า

    ผมหิวนะแทกุกหันกลับมาตอบด้วยเสียงราบเรียบ ทำเอาคนที่รอฟังคำตอบถึงกับต้องสะดุดอากาศล้มเลยทีเดียว และด้วยความไวของแทกุกก็สามารถคว้าเหลินฉินไว้ทัน

    ผมไม่เป็นไรแล้วครับ”  เหลินฉินใช้มือท้าวแทกุกเพื่อดันตัวเองให้ยืนขึ้นเนื่องจากส่วนสูงของเขาที่ค่อนข้างสูงน้อยกว่าแทกุกอยู่สักหน่อย ทำให้ระยะของมือวางตำแหน่งช่วงอกของอีกฝ่ายพอดิบพอดี

    ครับ เดินไหวไหม?” แทกุกถามพลางยิ้มขำๆ

    “ไหวสิครับ ถึงผมจะอายุมากแล้วแต่ผมก็ยังแข็งแรงดีอยู่” เหลินฉินตอบพลางทำหน้ามุ่ยแดงปนเขินเมื่อถูกแทกุกแซวเช่นนั้น

    “ถึงอายุเยอะแต่หน้ายังเด็กอยู่นะครับ หน้าตาแบบนี้หนุ่มๆชอบ”

    “เดี๋ยวนะครับ ทำไมเป็นหนุ่มล่ะไม่ใช่ว่าสาวๆหรอกหรอ” เหลินฉินถึงกับขมวดคิ้วแปลกใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

    “เอ...ทำไมกันนะ” แทกุกไม่ตอบแต่กลับถามกลับเสียนี่พลางทำท่าคิดหนักยิ่งทำหน้าเหลินฉินหน้าแดงหนักกว่าเดิมโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว

    “รีบไปทานข้าวได้แล้วนะครับ เดี๋ยวจะหมดเวลาพักเที่ยงเสียก่อน” เหลินฉินหนีความจริงด้วยการย้ำเรื่องเวลากับแทกุกแล้วเดินนำหน้าไปที่รถยนต์แทน ทำให้แทกุกได้ยิ้มหัวเราะเบาๆกับตัวเองก่อนจะเดินตามไป

    ~ Pet Story HC ~

    คยูฮยอนและฮีชอลเร่งฝีเท้าสุดแรงเพื่อไปให้ถึงวังถ้ำมังกรโดยเร็ว ภายในใจของฮีชอลก็สับสนวุ่นวายพลางจิตนาการไปต่างๆนานาว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ยิ่งเมื่อนึกถึงภาพของซีวอนและจองซูที่เพิ่งเจอหน้าเมื่อไม่นานมานี้ ความโกรธ ความเกลียดที่สะสมมายาวนานกว่า 300 ปีมานี้ ถ้าสามารถจัดการกับคำสาปนี้ออกไปได้ เขาจะต้องกับไปคร่าชีวิตของสองคนนี้อีกครั้ง

    ณ ถ้ำวังมังกร

    “รวดเร็วดีนี่” เสียงของเจ้าถ้ำวังมังกรที่เดินออกมานอกประตูถ้ำเมื่อรับรู้ถึงจิตทั้งสองของผู้มาเยือนในครั้งนี้

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะตาแก่หงำเหงือก” ฮีชอลเค้นเสียงตอบอย่างไม่พอใจ

    “ไหนท่านบอกว่าไม่เคยเจอกับฮีชอลไงเล่า” คยูฮยอนถามอย่างสงสัย

    “ข้าจำได้ว่าข้าบอกแค่อยากเจอกับลูกสะใภ้มานานแล้ว ข้าไม่ได้บอกกับเจ้าสักหน่อยว่าไม่เคยเจอ” ไอ่แก่นี่เล่นลิ้นนักนะ นั้นคือสิ่งที่ฮีชอลและคยูฮยอนคิดขึ้นมาในใจพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย

    “รีบพูดๆมาได้แล้ว ข้าไม่อยากจะมาเสียเวลาอยู่กับตาแก่อายุพันปีนานๆหรอกนะ” ฮีชอลกอดอกพูดพลางสะบัดหน้าไปทางอื่น

    “เราไปคุยกันด้านในก่อนเถอะ ข้าต้องให้ฮีชอลนั่งเพื่อที่ข้าจะได้ตรวจสอบได้ว่าข้าจำเป็นจะต้องบอกอะไรพวกเจ้าบ้าง”

    “มาถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดจะพูดความจริงทั้งหมดกับข้าอีกอย่างหรอ” ฮีชอลกล่าวอย่างไม่พอใจ แต่ก็เดินตามเข้าไปภายในถ้ำโดยมีคยูฮยอนเดินตามเข้าไปติดๆอย่างเงียบเชียบ

    เมื่อทั้งหมดเข้ามาภายในถ้ำฮีชอลก็นั่งลงที่แท่นนั่งกลางถ้ำตามที่ท่านเจ้าวังมังกรบอกและเดินเอามือทั้งสองข้างวางลงบนแผ่นหลังของฮีชอล ถ่ายลมปราณเพื่อตรวจสอบสภาพคำสาปตอนนี้ว่าเป็นเช่นไร

    “เป็นเช่นไรบ้าง” คยูฮยอนกล่าวถาม

    “มิทันแล้วล่ะ คำสาปนั้นถูกทำสัญญาเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว”

    “ห๊ะ อะไรกัน ได้ยังไง ฮีชอลนี่เจ้าไปทำสัญญากับเจ้านั่นมาเรอะ ทั้งๆที่นายปฏิเสธมันมาตั้งหลายร้อยปี” คยูฮยอนถามฮีชอลด้วยความสงสัย ทั้งตกใจและแปลกใจ ทั้งๆที่เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 วันดีเสียด้วยซ้ำในการพาตัวฮีชอลกลับมาหาท่านเจ้าวังมังกร แต่สิ่งที่ทำไปกลับไม่ทันเวลาเสียแล้วเนี่ยนะ

    “เจ้าไม่ต้องตระหนกไปหรอก ถึงจะพูดว่าคำสาปแต่มันก็เป็นเพียงการผูกชะตาเพื่อให้เป็นเนื้อคู่กันเท่านั้น”

    “ห๊ะ ผูกชะตา พวกแกจะบ้าเรอะ ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย” ฮีชอลที่สติเพิ่งฟื้นจากนั่งสมาธิถ่ายลมปราณดูคำสาปได้ร้องโวยวายขึ้นอย่างไม่พึงพอใจอย่างมาก

    “ผู้ชายแล้วเยี่ยงไรเล่า ขอแค่เพียงมีความงามข้าก็รับเป็นสะใภ้วังมังกรนี้ได้หมดแหละ”

    “งั้นก็ไปเอาคนอื่นสิ”

    “ในป่านี้มีสตรีอื่นงดงามไปกว่าเจ้าอีกรึ?” เป็นการตอบคำถามด้วยคำถามี่ฮีชอลถึงกับต้องหยุดคิดครู่นึงเลยทีเดียว

    “คยูฮยอนเจ้าคิดว่ามีใครในป่านี้ที่งามกว่าข้าอีกหรือไม่?”

    “เดี๋ยวสิเจ้าจะเคลิ้มตามตาแก่นี่ทำไม?” คยูฮยอนเบี่ยงประเด็นทันที เพราะไม่อยากจะยอมรับหรอกนักว่าเรื่องความงามของฮีชอลนั้นเป็นเรื่องจริง

    “นั้นสิ ตาแก่กล้ามาให้มาทำให้ข้าเขวเรอะ แล้วมันจะมีทางแก้ไหมล่ะเนี่ย”

    “วิถีถอนไม่มีหรอก แต่ถ้าหากจะให้กดคำสาปในไว้ชั่วคราวก็พอจะทำได้”

    “แล้วมันต้องทำยังไงเล่า”

    “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้าไม่อยากจะพูดถึงเลยและไม่อยากให้เจ้าต้องทำ ข้าเลยถึงยอมเก็บมาถึง 300กว่าปี”

    “แล้วมันอะไรเล่า รีบๆบอกมาก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้าตามลูกชายของเจ้าไปอีกตน”

    “เจ้าต้องอยู่ในร่างของมนุษย์ ไม่สิ เจ้าต้องไปเป็นมนุษย์และห้ามอยู่ในร่างของสัตว์เป็นอันขาด ยิ่งเจ้าอยู่ในร่างของสัตว์บ่อยแค่ไหนระยะเวลาที่ข้ากดคำสาปไว้ก็จะเหลือน้อยลง และเจ้าก็จะไม่สามารถอยู่ในป่านี้ได้ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ร่ายคำสาปให้กับร่างกายของ ถึงแม้จะไม่ใช่สถานที่ตอบรับของตำสาปก็ตามที”

    “คยูฮยอนบอกข้าทีสิว่าตาแก่นี่กำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม ทำไมข้าถึงจะอยู่ที่บ้านของตัวเองไม่ได้”

    “จากที่ตาแก่นี่อธิบายมาซะยืดยาว ก็คงจะเป็นแบบนั้นไม่ผิดแน่”

    “ไม่มีทาง ข้าจะไม่ไปจากที่นี่”

    “ถ้าหากเจ้ายังอยู่ที่นี่ ก็จะต้องมีเหตุการณ์เลวร้ายที่บีบบังคับให้เจ้าออกจากป่านี้ไปอยู่ดี เจ้าออกไปเองเสียดีกว่า เพราะถ้าเจ้าไม่ออกไปเผ่าแมวที่เหลืออยู่ในป่านี้จะได้รับผลกระทบจากเจ้า พวกนั้นอาจจะหายไปตลอดกาล เพื่อให้ฟันเฟืองแห่งชะตากรรมนี้ได้เดินต่อไป สิ่งที่ข้าจะพูดก็มีเพียงเท่านี้ เชิญพวกเจ้าออกไปได้แล้วก็จะนั่งสมาธิ”

    ~ Pet Story HC ~

    ฮันเกิงนั่งรอสัตวแพทย์ที่วิ่งไปตามแมวอย่างใจจดใจจ่อที่หน้าประตูบ้านจนกระทั่งเหลินฉินและแทกุกกลับมาถึงบ้าน

    “ฮันเกิงมานั่งทำอะไรที่ประตูหน้าบ้านเนี่ยลูก” เหลินฉินถามอย่างแปลกใจเพราะตั้งแต่มีแมวเข้ามาอยู่ในบ้านฮันเกิงก็ไม่ออกมานั่งรอตนเองที่หน้าบ้านอีกเลย

    “พ่อครับ ฮีชอลมันตกใจแล้วก็วิ่งหนีออกไปแล้ว แต่ว่ามีคุณหมอวิ่งไปตามฮีชอลให้ ผมไม่กล้าออกจากบ้านไปนานกลัวพ่อเป็นห่วงนะครับ”

    “คุณหมอหรอ?” แทกุกกับเหลินฉินพูดออกมาพร้อมกันอย่างแปลกใจ หมอที่ไหนจะมาเดินแถวนี้

    “ครับ คุณหมอบอกว่าเป็นหมอรักษาสัตว์ แต่ว่าหมอหลงทางหาบ้านลูกค้าไม่เจอก็เลยเจอที่หน้าบ้านนะครับ”

    “ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆนะคุณเหลินฉินเพราะปกติที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีคนนอกเข้ามา”

    “จะพวกขโมยสัตว์หรอครับ?” เหลินฉินถามกลับอย่างตกใจ

    “ก็อาจจะเป็นไปได้ เดี๋ยวผมจะลองติดต่อที่บ้านของคุณชินดงฝ่ายประชาสัมพันธ์ดูก่อนนะครับ เพราะว่าบ้านนั้นเลี้ยงแมวเยอะอาจจะเปลี่ยนสัตวแพทย์ที่ดูแลก็ได้”

    “หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ ฮันเกิงไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวพ่อกับคุณแทกุกจะตามตัวฮีชอลให้เจอ คนนั้นอาจจะจับตัวฮีชอลไม่ทันก็ได้”

    “บางทีฮีชอลอาจจะหลงไปในบ้านคนอื่นก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาช่วยกันตามหานะ” แทกุกช่วยเหลินฉินปลอบฮันเกิงอีกแรง

    “ครับ แต่ว่าฮีชอลอาจจะหนาวอยู่ข้างนอกผมเป็นห่วง”

    “เพราะอย่างนั้นฮันเกิงก็ต้องรีบเข้าไปกินข้าวแล้วก็เข้านอนไว พรุ่งนี้จะได้มีแรงตามหาฮีชอลกันนะครับ เดี๋ยวน้าแทกุกจะมาหาแต่เช้าช่วยหาเลยดีไหมครับ?” แทกุกพูดพลางลูบหัวฮันเกิงเบาๆเพื่อให้กำลังใจ ถึงจะรู้จักกันเพียงไม่นานแต่เค้าก็รู้สึกถูกชะตากับครอบครัวนี้มาก โดยเฉพาะกับพ่อของเด็กคนนี้



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++จบตอนสักทีหลังจากที่ดองมานานข้ามปี 555+

    ยังรักคนอ่านทุกคนเสมอนะครับ เนื่องจากชีวิตผมมันยุ่งเหยิงจนไม่ได้เปิดคอมเข้ามาพิมพ์เลย

    ปีนี้จึงตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่าทั้งฟิคและนิยายทุกเรื่องจะต้องจบ

    จะพยายามนะครับ

    รักนะ จุ๊ฟๆ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×