คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Pet Story HC 04 ดูแล...ด้วยรัก 100%
Pet Story HC 04 ดูแล...ด้วยรัก
เช้ารุ่งขึ้นฮันเกิงตื่นมาพร้อมกับฮีชอลที่ขึ้นมานอนหลับสนิทอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
จึงค่อยๆลุกไปอาบน้ำอย่างเบาๆเพื่อไม่ให้ฮีชอลตื่น
“อ่าว ตื่นแล้วหรอฮันเกิง” เหลินฉินที่กำลังก้มๆเงยๆ
เตรียมอาหารเช้าถามขึ้นเมื่อเห็นฮันเกิงเดินผ่านห้องครัวกำลังไปยังห้องน้ำ
“ครับ เช้านี้พ่อทำอะไรทานครับ?”
“ก็มี
ไข่ดาวกับแฮมที่คุณแทกุกซื้อมาฝากเมื่อวานก่อนนะ”
“อ่า ผมอาบน้ำก่อน” แล้วฮันเกิงก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปโรงเรียน
เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินเข้ามาในห้องครัว
“ฮันเกิงอย่าลืมเอาแมวออกมาไว้นอกห้องนะ
เดี๋ยวเผื่อเข้าห้องน้ำ”
“ครับ เดี๋ยวขอทานอาหารเช้าก่อนนะครับ” ฮันเกิงและเหลินฉินทำภารกิจประจำวันช่วงเสร็จแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปตามหน้าที่
เหลินฉินไปทำงานโดยมีแทกุกมารับ และฮันเกิงไปโรงเรียนด้วยรถประจำของโรงเรียน
ส่วนฮีชอลนั้นยังคงนอนหลับอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นที่ฮันเกิงอุ้มพามาวางไว้โดยไม่รู้สึกตัว
จ๊อก ~ จ๊อก ~
เสียงท้องของแมวน้อยร้องขึ้น
จึงลืมตาตื่นมาด้วยความหิวโหย
ถึงแม้ฮันเกิงจะไม่อยู่ภายในบ้านแต่กลิ่นของฮันเกิงก็ยังอยู่ไปทั่วบ้านทำให้ฮีชอลกลายร่างเป็นคนไม่ได้อยู่ดี
“ในบ้านเจ้าพวกมนุษย์นี่มีอะไรให้กินบ้างเนี่ย” ฮีชอลบ่นพึมพำพลางกระโดดลงจากโซฟาเพื่อหาของกิน
โดยใช้จมูกดมๆตามกลิ่นของกินจนเดินเข้าไปในครัว
“มีของดีซะด้วย” ฮีชอลเอาเท้าหน้าเขี่ยฝาใสที่ปิดอยู่บนกระทะเพื่อที่จะกินแฮมที่อยู่ในกระทะ
เหลินฉินมักจะทำอาหารเหลือทิ้งไว้ในกระทะบางส่วนประจำ
เนื่องจากเมื่อก่อนฮันเกิงอยู่บ้านตลอดเขาจึงต้องทำเหลือเผื่อไว้ถ้าเกิดฮันเกิงหิวในระหว่างที่เขายังไม่ได้กลับ
“รสชาติดี” ฮีชอลกินเสร็จก็เดินไปมารอบบ้าน
สำรวจไปทั่วเหมือนร่างกายจะเริ่มชินกับกลิ่นของฮันเกิงแล้ว
จึงสามารถควบคุมร่างกายได้มากขึ้นไม่ถึงกับเพลียเหมือนตอนแรกที่เจอ
และอาจจะเป็นเพราะว่าเขานอนมากพอแล้วก็ได้
ฮีชอลเดินเข้าไปในห้องน้ำสักครู่หนึ่งแล้วร่างกายก็ค่อยเปลี่ยนไปอยู่ในร่างของมนุษย์
“ในที่สุดก็ได้ร่างเดิมของข้าคืนมาสักที
ว่าแต่เหนียวตัวจังเลยอาบน้ำดีกว่า”
ถึงแม้จะเป็นแมวแต่ฮีชอลก็ชอบการอาบน้ำ
และการแช่น้ำมากๆ เมื่อได้คืนร่างจึงอดไม่ได้ที่จะอาบน้ำ
และเขาก็เป็นแมวที่อาบน้ำนานมากๆ จนลืมเวลาเลยทีเดียว
“ฮีชอลอยู่ไหน? ฮันเกิงกลับมาแล้วนะ มาเล่นด้วยกันเร็ว” เสียงร้องเรียกของฮันเกิงดังตั้งแต่ประตูรั้ว
น้ำเสียงดังมาก่อนตัวคนเสียอีก ทำให้ฮีชอลที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องน้ำเพื่อที่จะหลบฮันเกิง
แต่ว่าทันทีที่ออกจากห้องน้ำได้สามก้าวเท่านั้น
ร่างกายของเขาก็หดกลับไปเป็นแมวเหมือนเดิมแถมยังตัวเปียกมะลอกมะแลกเพราะเพิ่งแช่น้ำมาอีกตะหาก
“แหม มาถึงก็ฮีชอลเลยนะ
ลืมเจ้าขาเดี้ยงที่อยู่บ้านพี่แล้วล่ะสิ”
เสียงของจองซูดังขึ้นตามพร้อมกับเด็กๆทั้ง
3 คนที่เดินเข้ามาถึงในบ้านแล้ว
พร้อมกับแยกย้ายกันเดินหาลูกแมว
“อ่าว ทำไมมาอยู่ในครัวเนี่ย
ตัวเปียกเชียวเดี๋ยวฉันไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้นะ”
“อ่าวฮันเกิงเจอแมวแล้วหรอ
ขอพี่อุ้มมั่งสิ”
จองซูที่เดินตามหลังมาติดๆ
เข้ามาขออุ้มฮีชอลบ้าง แต่ทันทีที่ฮีชอลเห็นหน้าจองซูก็เอาแต่ขู่ฟ่อใส่ลูกเดียว
“ฮีชอลอย่าไปขู่พี่จองซูแบบนั้นสิ
เดี๋ยวตีเลยนะ” ฮันเกิงบ่นพร้อมกับลูบหัวฮีชอลเบาๆ
“เจ้าบ้าอย่าเข้ามาใกล้ข้านะ
ถ้าข้ากลับร่างเดิมได้เมื่อไหร่เจ้าได้ตายอีกรอบแน่ เจ้าคนทรยศ” ฮีชอลร้องโวยวายใส่จองซูพร้อมกับกางเล็บเตรียมข่วนเต็มที่
แต่ไม่มีใครเข้าใจที่ฮีชอลพูด
เพราะในร่างแมวกับการอยู่มนุษย์ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็เป็นเสียง เมี๊ยวไปหมด
“อ่า งั้นเดี๋ยวฮันเกิงจับไว้แล้วกัน
พี่จะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้ฮีชอลเองล่ะกัน ฮันเกิงนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นนะ”
แล้วฮันเกิงกับจองซูก็แยกย้ายกัน
ฮันเกิงพยายามจับฮีชอลไว้แน่นเพื่อไม่ให้หลุดออกไปข่วนจองซูได้เพราะท่าทางหงุดหงิดเอาการเลยทีเดียว
“เมื่อกี้มีอะไรกันรึเปล่า
คุณจองซูโดนแมวขู่เนี่ยนะ”
ซีวอนที่แยกไปหาอีกทางเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นหลังจากที่เดินแยกไปหาอีกฝากหนึ่ง
“ครับ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกันพอเห็นหน้าพี่จองซูก็เอาแต่ขู่ใหญ่เลย แถมจะข่วนอีกต่างหาก”
“แปลกนะปกติหมาแมวชอบคุณจองซูจะตาย
ไม่เห็นเคยโดนเกลียดนี่เพิ่งจะครั้งแรกเองล่ะมั้ง” ซีวอนตอบพลางลงไปนั่งข้างๆฮันเกิง
ที่กำลังพยายามกอดฮีชอลไว้เข้ากับหน้าอกตัวเองเพื่อไม่ให้ดิ้น
“แต่เมื่อวานฮีชอลนอนเรียบร้อยมากเลยนะครับ
เอาแต่นอนอย่างเดียวเลย”
“สงสัยผักผ่อนเยอะจนมีแรงมากเกินไปแล้วล่ะสิ”
ฮีชอลพยายามดิ้นดันหัวตัวเองจนออกจากอุ้งมือของฮันเกิงได้เพราะอยากเห็นหน้าของคนที่มาใหม่
แต่ทันทีที่เห็นซีวอนเท่านั้นแหละ เป็นหนักกว่าเดิมเท่าที
“ไอ่ปีศาจเจ้าเล่ห์จอมหลอกลวงแกตายซะเยอะ
เงี๊ยวววว” ฮีชอลแทบจะกระโดนข่วนหน้าซีวอนทันทีแต่ดีที่ฮันเกิงจับไว้ได้ทันเสียก่อน
ดูเหมือนฮีชอลจะยิ่งไม่ชอบหน้าซีวอนหนักกว่าจองซูเสียอีก
“อ่า
ท่าทางเจ้าแมวนี่จะหวงนายแน่เลยฮันเกิง ดูสิเข้าใกล้ไม่ได้เลย”
“ไอ้บ้าไม่ได้หวงสักหน่อย ฉันจะฆ่าแก”
ตอนนี้สิ่งที่ฮันเกิงกับซีวอนได้ยินมีแต่เพียงเสียงร้องเมี๊ยวๆที่เสียงดัง
แต่พอจะแยกออกว่าเป็นการร้องที่เกิดจากความหงุดหงิด
“อ่าวอะไรกัน คุณซีวอนโดนเกลียดหนักกว่าผมอีกนะนั่น” จองซูแกล้งแซวพร้อมกับโยนผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆส่งให้ฮันเกิง
“ฮันเกิงนายเอาฮีชอลสุดที่รักของนายไปเก็บห้องเถอะ”
“นั่นสิ
ก่อนที่พี่กับคุณซีวอนจะเต็มไปด้วยรอยเล็บแมว หัวค่ำต้องไปงานเลี้ยงที่บริษัทด้วย”
“ครับๆ ขอโทษแทนฮีชอลตัวน้อยด้วยนะครับ”
“เอาแมวไปเก็บเถอะ
อาจจะหงุดหงิดเพราะตัวเปียก แมวกับน้ำยิ่งไม่ถูกกันอยู่ด้วย” ซีวอนว่าพลางโบกมือให้ฮันเกิงเอาแมวเข้าไปเก็บในห้องของตัวเพราะระหว่างที่เขาคุยกันอยู่นั่น
เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ก็เอาแต่ขู่ฟ่อใส่ไม่หยุด แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
จนกระทั่งฮันเกิงอุ้มเข้าไปไว้ในห้อง
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ส่วนในห้องของฮันเกิงนั้นดังสนั่นไปด้วยเสียงของฮีชอล
“เมี๊ยววว เงี๊ยวววววว” ความโวยวายของเสียงแมวพอลงจากอ้อมอกฮันเกิงได้ก็วิ่งเข้าไปตะกุกประตูทำท่าจะออกให้ได้ลูกเดียว
“ออกไปไม่ได้นะฮีชอล
ต้องเช็ดตัวให้แห้งเดี๋ยวไม่สบาย”
ฮันเกิงพยายามพูดลูกแมวที่เอาแต่ตะกุยประตู
ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็คงไม่คิดว่าแมวจะเข้าใจที่เขาพูด
แต่ฮันเกิงเป็นเด็กที่ช่างจินตนาการอยู่เสียหน่อยจึงคิดว่าอีชอลจะสามารถเข้าใจเขาได้
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ข้าจะออกไปฆ่าพวกมัน” ฮีชอลโวยวายพร้อมกับข่วนประตูไม่หลุด
“ฮีชอล!!” ฮันเกิงต้องการกำลังพยายามดุฮีชอลด้วยการทำเสียงดังใส่เพื่อที่หวังจะให้แมวตกใจ
ถ้าเป็นแมวทั่วไปก็คงจะสะดุ้งและหยุดไปแล้ว แต่มันใช้กับฮีชอลไม่ได้นะสิ
“อย่ามาทำเสียงดังใส่ข้านะ
ข้าไม่กลัวเจ้าหลอก”
ฮีชอลแมวที่ไม่เคยยอมใครก็ยังคงร้องโวยวายต่อไป
“ไม่หยุดใช่ไหม?” ฮันเกิงเดินเข้ามาหาฮีชอลช้าๆพร้อมกับจับหมับเข้าที่หางแล้วดึงเบาๆ
“อื้อ อ อ” ฮีชอลครางออกมาอย่างลืมตัว
เพราะหางนั้นเป็นส่วนที่ห้ามจับสำหรับเขาเลยก็ว่าได้
แม้แต่พวกปีศาจด้วยกันยังไม่เคยมีใครได้จับหางของเขาเลย
“ดื้อนักต้องโดนแบบนี้” ฮันเกิงจับแล้วก็ลูบหางของฮีชอลถึงสามครั้งติด แล้วจู่ๆฮีชอลก็นิ่งไป
“เสียงเงียบแล้วฉันเข้าไปได้ไหมเนี่ยฮันเกิง” เสียงของจองซูที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ที่หน้าประตูห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้พูดขึ้น
“อ่าผมว่าเดี๋ยวผมออกไปเองดีกว่าครับ
ปล่อยให้ฮีชอลนอนในห้องดีกว่า เดี๋ยวจะอาละวาทขึ้น ท่าทางจะไม่ชอบทั้งพี่จองซูและพี่ซีวอนเลย”
ฮีชอลที่จู่ๆก็รู้สึกแปลกกับร่างกายของตัวเอง
ก็เดินเข้าไปในบ้านแมวเมื่อฮันเกิงคลายมือที่จับหางอยู่
พอเข้าไปในบ้านได้สักพักหนึ่งก็หลับไปเลย
เมื่อดูจนแน่ใจว่าฮีชอลสงบแล้วก็เดินออกมาหน้าห้องหาจองซู
“ท่าทางโกรธน่าดู
ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้กันแน่ เพิ่งจะเจอหน้ากันแท้ๆ” จองซูบ่นกับฮันเกิงพร้อมกับก้มหน้าหงอย
เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่ชื่นชอบหมาแมวอยู่แล้ว
พอจู่ๆมาโดนเกลียดแบบนี้เลยค่อนข้างรู้สึกเสียความรู้สึกเล็กน้อย
“ก็แค่แมวอย่าคิดมากเลยนะครับพี่จองซู
ไปกันเถอะปล่อยให้ฮีชอลนอนไป พวกเราไปติวหนังสือกัน”
ฮันเกิงเบี่ยงเบนความสนใจอาการนอยของจองซูด้วยการชวนกันไปติวหนังสือเรียนตามที่ได้นัดกันไว้ตั้งแต่แรก
“ไม่เอาแมวออกมาอวดแล้วหรอฮันเกิง” ซีวอนที่กำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ถามขึ้นเมื่อได้ยินฝีเท้าของคนเดินเข้ามาในเขตห้องนั่งเล่นโดยไม่เงยหน้าออกจากหนังสือมามองเลย
“ไม่ล่ะครับ
เดี๋ยวจะอาละวาดใส่พี่จองซูกับพี่ซีวอนอีก อีกอย่างก็หลับไปแล้วด้วย”
“ดีแล้วล่ะ
จองซูสอนภาษาเกาหลีให้ฮันเกิงต่อจากคราวที่แล้วสิ” ซีวอนว่าพลางอ่านหนังสือในมือต่อไปเรื่อย
ฮันเกิงกับจองซูนั่งลงที่โต๊ะญี่ปุ่นแล้วนั่งติวสอนภาษากันอยู่ประมาณ
2ชม. ก่อนซีวอนและจองซูจะแยกกลับไปบ้านของตัวเอง
ไปทำภารกิจประจำวันตามตารางชีวิต
หลังจากนั้นไม่นานเหลินฉินก็กลับมาจากที่ทำงานพอดี
ในระหว่างที่ฮันเกิงกำลังนั่งทำการบ้านอยู่
“ทำอะไรอยู่ฮันเกิง” เหลินฉินถามผู้เป็นลูกชายขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่น
“การบ้านครับ”
“อ่าว...แล้วแมวหายไปไหนแล้วล่ะ?”
“หลับอยู่ในห้องนอนผมครับ”
“แมวนี่ชอบนอนจริงๆเลยนะ” เหลินฉินบ่นพึมพำก่อนจะแยกตัวไปทำธุระส่วนตัว
ส่วนฮันเกิงหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จแล้วก็เก็บหนังสือเข้าไปในห้องนอน
แล้วก็นั่งเล่นอยู่บนห้อง
“ฮันเกิง เปิดน้ำทิ้งไว้หรอลูก?” เหลินฉินตะโกนถามลูกชายหลังจากที่เข้าห้องน้ำแล้วพบว่ามีน้ำถูเปิดทิ้งไว้ในอ่างน้ำ
“ป่าวครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย
ผมนึกว่าพ่อเปิดทิ้งไว้ซะอีก
ผมเห็นฮีชอลตัวเปียกออกมาจากห้องน้ำตอนที่ผมกลับมาถึงบ้าน” เพราะลูกแมวตัวเล็กๆไม่น่าที่จะมีทางเปิด-ปิดน้ำใส่ในอ่างอาบน้ำเองได้แน่นอน
“พ่อไม่เคยเปิดน้ำทิ้งไว้ อืม
ช่างมันเถอะ คราวหลังฮันเกิงก็ช่วยดูหน่อยล่ะกัน”
“ครับ” เหลินฉินบอกอย่างเป็นห่วง
เพราะค่าน้ำค่าไฟนั้นก็ไม่ใช่ราคาถูกๆเสียที่ไหน
แล้วน้ำก็มาเปิดทิ้งไว้ไม่รู้จะใช้ต่อได้ไหม เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ
แต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร เขาอาจจะลืมไปเองก็ได้
“เมี๊ยว ว” ฮีชอลที่เหมือนจะเพิ่งตื่นขึ้นมาได้กลิ่นของฮันเกิงจู่ๆก็กระโดดเข้าใส่แล้วคลอเคลียอยู่บนตักของฮันเกิง
“เป็นอะไรฮีชอล หิวหรอ?” ฮันเกิงถามฮีชอลอย่างสงสัยพลางลูบหัวฮีชอลไปด้วย
“ลูบอีกข้าชอบกลิ่นของเจ้าจังเลย
เมี๊ยว” ฮีชอลทำท่าเคลิ้มไปกับการโดนฮันเกิงลูบหัวพร้อมกับหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
ดูเหมือนอาการเวียนหัวจากกลิ่นของฮันเกิงจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
แต่กลับดูเหมือนจะชอบกลิ่นแทนไปแล้วเสียนี่
ฮันเกิงนั่งเล่นอยู่กับฮีชอลอยู่สักพักใหญ่ก่อนจะไปอาบน้ำ
แต่ว่าจะได้ไปอาบก็นานเอาเรื่องอยู่พอตัวเพราะฮีชอลไม่ยอมลงไปจากตักของเขาเลย
อาบน้ำกินข้าวเสร็จก็เอาของกินมาให้ฮีชอลแล้วก็เล่นกันไปมาอยู่บนเตียงจนหลับพร้อมกันไปทั้งคนและแมว
~
Pet Story HC ~
ทางด้านคยูฮยอนก็กำลังเดินทางเข้าถ้ำวังมังกรเพื่อพบท่านเจ้าวังมังกรเพื่อคุยเกี่ยวกับคำสาปของฮีชอล
โดยมีผู้อาวุโสเต่าเฝ้าถ้ำเป็นผู้นำทางเข้าไป
“ปีศาจหมาป่าอย่างเจ้ามีธุระอันใดถึงเดินทางมาไกลยังวังถ้ำมังกรรึ
ข้าจำได้ว่าเราไม่ได้ติดต่อกันมาหลายร้อยปีแล้ว” ท่านเจ้าวังมังกรกล่าวขึ้นหลังจากที่คยูฮยอนเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้า
“ข้ามาเพราะมีเรื่องที่ต้องการสอบถามจากท่าน”
“โอ่ มันคงเป็นเรื่องที่สำคัญมาสินะ
ขอข้าคุยกับเขาลำพังละกัน”
ท่านเจ้าวังมังกรหันไปบอกกับผู้อาวุโสเต่า
หลังจากนั้นภายในถ้ำจึงเหลือเพียงแต่เขา2ตน
คยูฮยอนจึงเริ่มพูดธุระของตนเองทันที
“บุตรชายของท่านตอนนี้ได้มาจุติใหม่แล้วท่านรู้หรือไม่?”
“อ้อ เรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรกับธุระของเจ้าอย่างนั้นรึ”
“ฮีชอลกับคำสาปที่บุตรชายของท่านทำไว้
ท่านพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง”
“จะให้ข้าตอบว่าไม่รู้ก็คงจะไม่ได้เสียด้วย
เพราะเรื่องมันเกิดก็เพราะข้าเอง แล้วเจ้าไปรู้เรื่องนี้มาได้อย่างไร?”
“ก็ฮีชอลเล่าให้ข้าฟังแต่ดูเหมือนเจ้าแมวบ้านั่นก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก”
“อ้อ เป็นเช่นนั้นเองรึ
แล้วทำไมเจ้าเพิ่งมาถามข้าเล่า เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาตั้งหลายร้อยปีแล้ว”
“จริงๆข้าก็ไม่ได้อยากมาสืบหาความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก
เพียงแต่ว่าตอนนี้ฮีชอลได้ออกไปหมู่บ้านของมนุษย์เสียแล้ว
ด้วยร่างกายที่ติดกับคำสาปนั่น”
“โฮะๆ
เจ้าก็เลยดั้นด้นมาหาถึงที่นี่สินะ”
“ใช่ข้าอยากรู้
เรื่องราวที่ท่านพอจะรู้ทั้งหมด
เพราะไม่ใช่เพียงแค่บุตรชายของท่านนั้นที่ลงมาจุติใหม่ ปีศาจทั้ง2ตนนั้นที่ถูกฮีชอลฆ่าไปก็ด้วย”
“ด้วยบาปกรรมที่ทำร่วมกันมา
โชคชะตาของพวกเขาต้องกลับมาพบกันอีกแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว” ท่านเจ้าวังมังกรกล่าว
เป็นประโยคที่ทำให้หัวใจของคยูฮยอนตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันใด
“เรื่องนั้นถึงท่านไม่พูดข้าย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
เฉกเช่นเดียวกับที่ข้าต้องคอยช่วยเหลือฮีชอลเพราะหนี้บุญคุณครั้งนั้น”
“ข้ายังเล่าให้เจ้าฟังตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ
ถ้าท่านไม่เล่าให้ข้าฟังตอนนี้แล้วจะไปเล่าตอนไหน?”
“ตอนนี้เจ้าพาฮีชอลมาหาข้าที่นี่
ข้านะอยากจะพบกับว่าที่สะใภ้ของข้ามานานแล้ว”
“ข้อต่อรองเยอะสมคำล่ำลือ ก็ได้แต่อย่างน้อยก็ให้ข้าได้เห็นหน้าบุตรชายของท่านที่ตายไปก็ยังดี
ข้าจะได้ระวังถูก
เพราะคำสาปยังมีผลอยู่ถึงแม้ความทรงจำในอดีตชาติของบุตรชายท่านจะไม่เหลือเลยก็ตาม”
“ถ้าแค่นั้นก็ยังพอจะให้ได้
แล้วคืนนี้เจ้าจะได้ฝันเห็นถึงใบหน้าของเขา เจ้าไม่ต้องห่วงไปหรอก คำสาปนั้นไม่ได้ทำให้ร่างกายเจ็บช้ำแต่อย่างใด
แต่มันจะเป็นการผูกดวงชะตาของดวงจิตทั้งสองเข้าด้วยกัน
ต่อให้เป็นความตายก็ไม่อาจจะแยกเขาทั้งสองออกได้ ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ” ท่านเจ้าวังมังกรพูดเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในส่วนห้องลับของถ้ำ
คยูฮยอนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบทำตามทันที
“ข้าจะรีบไปตามตัวฮีชอลมาที่นี่
แล้วท่านก็จะต้องเล่าความจริงทั้งหมดที่ท่านรู้ออกมา” คยูฮยอนตะโกนก่อนจะออกจากถ้ำ
“ภายใน 7
วัน ข้าให้เวลาเราเท่านั้น ถ้าช้ากว่านั้น
ข้าจะไม่ปริปากพูดออกมาแม้แต่คำเดียวแล้วเชิญเจ้ากับไปได้เลย” เสียงของเจ้าวังมังกรดังขึ้นก่อนที่คยูฮยอนจะได้เดินออกจากตัวถ้ำดี
“ได้เลย ก่อน 7 วันท่านจะได้เจอหน้าข้าพร้อมกับฮีชอลอย่างแน่นอน” คยูฮยอนบ่นพึมพำเบาๆก่อนจะเร่งฝีเท้าไปยังหมู่บ้านของมนุษย์
ซึ่งดูเหมือนท่านเจ้าวังมังกรจะแกล้งเล่นตลกกับเขาเสียเข้าให้แล้ว
มันดูเหมือนเขาจะเจอกับท่านเจ้าวังมังกรเพียงไม่กี่นาทีเท่า
แต่หลังออกมาจากถ้ำจริงๆกลับกลายเป็นว่าเขาเสียเวลาเป็นเกือบๆวัน
~
Pet Story HC ~
จุนซาก็เอาแต่เดินวนไปวนมาหน้าถ้ำอย่างไม่เป็นอันทำอะไรสักอย่าง
เป็นการสร้างความรำคาญให้กับจังมีแล้วก็แมวตัวอื่นๆเป็นอย่างมาก
จนจังมีอดที่จะบ่นไปเสียมิได้
“เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกเดินวนไปวนมาเสียที
ข้าลายตาไปหมดแล้วนะ”
“ก็ข้าเป็นห่วงท่านฮีชอลนี่นา”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วง
แต่ว่าเจ้าเดินมา 2 วันเต็มๆแล้วนะ
สงสารตัวอื่นๆบ้างเถอะ พวกข้าเวียนหัวจะแย่เพราะเจ้ารวมถึงพวกเด็กๆด้วย” จังมีหมายถึงลูกแมวของตนที่เพิ่งจะลืมตาได้เพียงไม่นาน
“เฮ้อ....” จุนซาก็ได้แต่ถอนหายใจแต่ก็ยังคงไม่หยุดเดินเสียที
“ถ้าเจ้ายังไม่เลิกหยุดเดิน
ข้าจะลุกขึ้นไปข่วนหน้าเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เอาเวลาออกไปหาเสบียงมาก่อนได้ไหม?”
“แล้วถ้าข้าไปแล้วท่านฮีชอลมาพอดีล่ะ”
“ถ้ามาเดี๋ยวเจ้าก็ได้เห็นเองแหละ
แต่ตอนนี้เด็กๆตัวอื่นๆหิวแล้ว เจ้าออกไปหาอาหารในป่ามาก่อนได้ไหม? ข้าทิ้งเด็กๆไว้ในถ้ำเพียงลำพังไม่ได้”
“อะไรกันเจ้า 2 ตัวยังไม่เลิกทำหน้าอมทุกข์อีกรึ”
“ท่านหมาป่าท่านเจอฮีชอลแล้วใช่หรือไม่” จุนซารีบวิ่งเข้ามาถามทันทีที่คยูฮยอนเดินเข้ามา
“ยังหรอก พอดีข้าไปสืบข้อมูลบางอย่างมาก่อน”
“ข้อมูลอะไร แล้วฮีชอลล่ะ
ถ้าท่านไม่ได้ห่วงเขาเลยล่ะก็ ทำไมไม่ให้พวกข้าไปตามหาเอง” จุนซาพูดอย่างร้อนรน
“เจ้าไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอก
แล้วอีกอย่างคำสาปนั้นก็ไม่ได้เชิงคำสาปที่จะทำร้ายร่างกายของฮีชอลเลยแม้แต่น้อย”
“เจ้าเอาอะไรมาพูด” จุนซาว่าอย่างฉุนเฉียว
“เพราะข้าไปถามกับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มานะสิ
ถึงจะไม่ยอมบอกทุกอย่างก็เถอะ”
“ท่านรู้จักกับปีศาจที่ทำคำสาปนี้อย่างนั้นรึ”
“ก็ไม่ได้รู้จักอะไรกันหรอก
หน้าตาก็ไม่เคยเห็น เคยได้ยินแต่ชื่อ”
“ชื่อ เจ้านั่นมันชื่ออะไร?”
“หานเกิง ข้าต้องไปล่ะ
ก่อนที่จะไม่ทันการ เพราะคำสาปที่ถ้ามันสมบูรณ์มันจะอยู่ไปตลอดกาล อย่างน้อยเจ้าแมวบ้านั่นก็ควรจะได้รับรู้ถึงมันก่อนที่จะต้องใช้ชีวิตกับคำสาปนั้นไปทุกชาติ”
คยูฮยอนกล่าวลาแมวป่าทั้งสองก่อนจะรีบเข้าไปในหมู่บ้านมนุษย์จริงๆเสียที
“จังมีถ้าเช่นนั้นข้าจะออกไปหาอาหารมาสำหรับเด็กๆ
ไม่ต้องห่วงข้าจะไม่ไปทางหมู่บ้านมนุษย์จนกว่าฮีชอลจะได้กลับมา”
“นี่เจ้ายังคิดจะกลับไปที่นั่นอีกรึ”
“บางทีนะ เพราะที่นั่นนะ
มีบ้านของมนุษย์คนหนึ่งที่ชอบช่วยเหลือแมวอยู่
พวกที่หายไปก็ได้ไปอยู่ที่นั่นหลายตัว พวกนั้นก็สุขสบายดี”
“เรื่องนั้นค่อยเอาไว้ปรึกษากับฮีชอลอีกทีเถอะ
เจ้าควรรีบไปเสียก่อนจะมืดค่ำเอา”
“เจ้าดูแลตัวเอง กับพวกเด็กๆให้ดีดีล่ะ
ข้าจะรีบกลับมา” จุนซาก็รีบวิ่งเข้าไปในป่าเพื่ออาหารมาเติมเต็มเสบียง
สัวนจังมีก็ดูและบรรดาเด็กๆและแมวอีกมากมายที่อยู่ในถ้ำ
~ Pet
Story HC ~
ผ่านมา 2-3
วันแล้วที่ฮีชอลเอาแต่ติดฮันเกิงแจโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว เพียงเพราะว่าต้องการจะแค่ตามไปดมกลิ่นเท่านั้น
“ฮีชอลเอาแต่เดินตามอันเกิงไม่หยุดเลยน้า” แทกุกว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์
วันหยุดสุดสัปดาห์เขาจึงมาบ้านเหลินฉินตามคำชวน แล้วอีกอย่างที่บ้านเขาก็ไม่มีใครให้นั่งคุยด้วย
การที่ได้มาบ้านหลังนี้เขาคิดว่าทำให้ชีวิตในวันหยุดของเขามีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
“ไม่รู้สิครับ
วันแรกที่มายังไม่สนใจใครอยู่เลย”
ฮันเกิงตอบพร้อมหันไปอุ้มฮีชอลเข้าครัวไปหาอะไรให้กิน
“อะไรกันหลงแมวซะแล้วรึไง”
“หลงรึเปล่าไม่รู้
แค่คอยหาข้าวหาน้ำป้อนถึงปากทุกวันเอง”
เหลินฉินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จได้ยินเลยตอบแทนลูกชายให้อย่างขำๆ
“ก็แมวหากินเองไม่ได้นี่ครับ”
“ดูสิมีเถียงแทนด้วย” ส่วนฮีชอลก็มองฮันเกิงกับเหลินฉินสลับกันไปมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ทำตาปริบๆใส่แล้วก็กินของที่ฮันเกิงป้อนอย่างเงียบๆ
“เดี๋ยวนี้
ไม่ร้องเลยนะครับแมวเนี่ย ไม่ได้ยินเสียงร้องมาตั้ง2-3วันแล้ว”
“อา นั่นสิ
สงสัยเจ้าลูกชายของผมคงจะดูแลดีเกินไป”
“ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย
เดี๋ยวพ่อช่วยเอาผ้าขนหนูกับที่เป่าผมให้หน่อยนะครับ ผมจะเอาฮีชอลไปอาบน้ำ”
“อื้อได้สิ ไปอาบน้ำให้เถอะ
เสร็จแล้วก็บอกแล้วกัน”
“หืม? แมวบ้านนี้อาบน้ำด้วยหรอครับเนี่ย”
“อาบทุกวันครับ
พอช่วงอากาศร้อนๆก็เดินไปข่วนประตูห้องน้ำ ฮันเกิงอาบให้ บางวันก็3-4รอบ”
“อาบเยอะขนาดนั้นไม่ป่วยหรอครับ”
“ก็กลัวๆอยู่นะ
ค่ายาค่ารักษาหมาแมวยิ่งแพงๆอยู่ด้วย”
เหลินฉินบ่นพึมพำก่อนจะไปเตรียมของที่ฮันเกิงขอไว้ให้
ส่วนฮันเกิงก็อุ้มฮีชอลเข้าไปอาบน้ำ
ถึงแม้บางครั้งที่ฮีชอลเข้าห้องน้ำตัวเดียวแล้วจะสามารถกลับร่างคนได้ก็ตามที
เนื่องห้องน้ำเป็นสถานที่ที่มีอากาศระบายอยู่ตลอดเวลา
กลิ่นกายของมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ก็แทบไม่มีเลย กลิ่นที่มีส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกกลิ่นแชมพูหรือสบู่เสียมากกว่า
ร่างกายของฮีชอลจึงผ่อนคลายจะกลับร่างคนได้
“เมี๊ยวว” ฮีชอลร้องขึ้นเมื่อฮันเกิงเอาสบู่เหลวถูไปตามขน
กลิ่นส้มอ่อนๆจากสบู่เหลวทำให้ฮีชอลค่อนข้างรู้สึกดี
“ชอบละสิ ใช่ไหม?” ฮีชอลไม่ตอบ เอาแต่ทำท่าเคลิ้มดูเหมือนจะลืมตัวจนคิดว่าตัวเองเป็นแมวธรรมดาทั่วไปเสียแล้ว
กับความสะดวกสบายหลายๆที่ฮันเกิงดูแลเขา
“อาบนานไปแล้วนะ ออกมาได้แล้วมั้ง” เหลินฉินพูดขึ้นหลังจากที่ครึ่งชม.ผ่านไปแล้วฮันเกิงยังไม่อุ้มฮีชอลออกมาจากห้องน้ำเสียที
“กำลังจะออกไปแล้วครับ” ฮันเกิงตอบพร้อมกับอุ้มฮีชอลออกมาหน้าประตู
โดยมีเหลินฉินยืนรออยู่ตรงหน้าห้องน้ำส่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้ฮันเกิงเอาไปห่อตัวฮีชอลไว้ทันที
“เอามาห้องนั่งเล่นเร็วเดี๋ยวน้าช่วยเป่าขนฮีชอลให้” ทุกคนต่างมารุมล้อมดูแลฮีชอล
ฮันเกิงนั่งจับฮีชอลไว้ แทกุกเอาที่เป่าผมเป่าใส่ฮีชอลใช้ความแรงระดับหนึ่ง
ไอร้อนอุ่นๆทำให้ฮีชอลเคลิ้มนอนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน
“เสร็จแล้วผมเอาฮีชอลขึ้นห้องก่อนนะฮะ”
“อะไรกันเอาขึ้นไปเล่นบนห้องกันอีกล่ะ
ไม่แบ่งให้คนอื่นเล่นเลยน้า”
“ผมว่าอยู่บนห้องแหละดีแล้ว
ถ้าเกิดฮีชอลเห็นพี่จองซูกับพี่ซีวอนเดี๋ยวอาละวาดอีก ดูท่าทางจะไม่ชอบ 2 คนนั้นเอามากๆเลยด้วย”
“งั้นเอาขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวอีก2-3ชม.
จองซูกับซีวอนจะมารับนายไปทำธุระข้างนอกด้วยนี่”
“ครับ
เดี๋ยวผมไปเล่นกับฮีชอลบนห้องก่อนนะครับ”
“อื้ม
วันหลังก็พาไปเล่นหน้าบ้านบ้างก็ได้ อยู่แต่ในห้องเดี๋ยวแมวก็เบื่อพอดี”
“งั้นเอาไว้เป็นพรุ่งนี้แล้วกันเนอะฮีชอล” ฮันเกิงหันมาพูดเออ
ออห่อหมกกับฮีชอลในแขนก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
ฮันเกิงพาฮีชอลไปวางไว้บนที่นอนก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านออกเสียงให้ฮีชอลฟังด้วย
แรกๆฮีชอลก็รำคาญ แต่เมื่อพอฟังได้สักพักเขาก็รู้สึกสนใจสิ่งต่างๆที่ฮันเกิงอ่านให้เขาฟัง
มีเรื่องแปลกๆมากมายบนโลกมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาใหม่เยอะแยะ กลายเป็นว่าทุกๆวัน
เขาสนุกกับการนอนฟังเด็กผู้ชายคนนี้อ่านหนังสือให้ฟัง
หรือนำเรื่องราวต่างๆภายในห้องเรียนมาเล่าให้เข้าฟัง 3 วันที่ผ่านมา
บางครั้งก็ทำให้ฮีชอลรู้สึกว่าช่างเนิ่นนานเหลือเกิน ทำให้ฮีชอลคิดได้ว่ามนุษย์ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทุกคน
ความคิดเห็น