ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ]Pet Story ผมต้องการ 'แมว' [hanchul]

    ลำดับตอนที่ #2 : Pet Story HC 02 เพื่อนบ้าน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 61


    Pet Story HC 02 เพื่อนบ้าน


    2 สัปดาห์กว่าแล้วที่ครอบครัวของเหลินฉินได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงโซล  ฮันเกิงปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตอนนี้ข้าวของเครื่องใช้จากจีนก็ได้ถูกส่งมาจนครบเรียบร้อยแล้ว เหลินฉินใช้เวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในการพาฮันเกิงช่วยกันจัดตกแต่งบ้าน จัดข้าวของที่ถูกส่งมาจากจีนให้เข้าที่เข้าทาง ฮันเกิงเข้ากันได้ค่อนข้างดีกับเพื่อนร่วมงานของเหลินฉินที่มาเยี่ยมเยือนบ้านในตอนเย็นบ้างเป็นบางครา เพราะฮันเกิงสามารถพูดคุยด้วยภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วเป็นที่ติดอกติดใจของบรรดาลุงๆป้าๆกันถ้วนหน้า แต่ทว่าตั้งแต่มาอยู่ได้สองอาทิตย์กว่าบ้านที่ติดกับเขาทั้งสองฝั่งนั้นกลับยังไม่เห็นมีใครอยู่เลยสักคน จนกระทั่งวันนี้ ขณะที่ฮันเกิงกำลังอาสาเหลินฉินออกมารดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน

    คุณซีวอนถ้าขืนผมสอบตกวิชาภาษาจีนอีกคราวหน้าพวกเราจะโดนไปปล่อยจีนเป็นเดือนแน่เลยเสียงบ่นกระปอดกระแปดของเด็กชายร่างบางที่เพิ่งลงจากรถยนต์ตามหลังมาด้วยเด็กผู้ชายอีกคนท่าทางนิ่งเงียบ

    ครั้งหน้านายต้องฟังเสียงเหล่าซือ(ครู)ให้ดีๆสิ เพราะนายรีบตอบเกินไปไงคุณจองซู

    เมื่อไหร่เราจะได้เลิกเรียนภาษาจีนครับ?”

    จนกว่าคุณจองซูจะสอบได้เต็มร้อยคะแนน ผมตอบแทนเหล่าซือได้เลยว่าอีกนาน

    โหดร้ายนะครับ

    ธรรมดา คุณจองซูเป็นถึงว่าที่เลขาของทายาทตระกูลชเวแค่นี้ท้อไม่ได้นะครับ ไม่เช่นนั้นใครจะมาคอยช่วยงานผมกันประโยคสนทนาทั้งหมดอยู่ในสายตาของเด็กชายฮันเกิงด้วยความสงสัย ถึงแม้ภาษาเกาหลีจะมีรากศัพท์มาจากภาษาจีนก็ตามที แต่นั้นไม่ได้ช่วยให้ฮันเกิงพอจะเดาออกได้เลยว่า เด็กผู้ชายที่ดูมีอายุมากว่าเขาเพียง 2 – 3 ปี ที่กำลังยืนคุยอยู่หน้าบ้านหลังข้างๆนั้นพูดอะไรกันอยู่

    คุณมีธุระอะไรกับพวกผมรึเปล่าครับ?” เด็กชายร่างสูง ใบหน้าคม คิ้วเข้ม สีนัยน์ตาดำสนิท ดูสุขุมเยือกเยือนกว่าผู้ใหญ่บางคนของเด็กผู้ชายที่ถูกอีกคนเรียกว่า 'ซีวอน' เดินเข้ามาหาฮันเกิงที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยใบหน้าสงสัย

    “Sorry, I don't get what you say (ขอโทษ ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด)ฮันเกิงตอบกลับไปสั้นๆ ลดปลายสายยางที่กำลังรดน้ำต้นไม้ให้ต่ำลง เดินไปใกล้รั้วบ้านที่มีเด็กชายอีกสองคนอยู่

    “Oh, You’re foreigner? (คุณเป็นชาวต่างชาติ?)” ซีวอนถามกลับด้วยภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

    “Yes!”

    “You came here to do what ?( คุณมาทำอะไรที่นี่?)” ซีวอนถามอีกครั้ง

    ไม่บ่อยนักหรอกที่เห็นเด็กชายต่างชาติมาอยู่ในหมู่บ้านนี้ เพราะหมู่บ้านจัดสรรนี้เป็นหมู่บ้านของครอบซีวอนที่มีไว้สำหรับให้พนักงานระดับสูงที่ไม่มีบ้านพักในโซล ดังนั้นเขาจึงรู้จักกับทุกคนส่วนใหญ่ที่อาศัยในหมู่บ้านนี้ บ้านพักที่เขายืนก็ไม่ใช่ของเขา เขาเพียงแค่มาส่งจองซู หรือ ปาร์คจองซู เท่านั้น เพราะตระกูลชเวมีธรรมเนียมที่ค่อนข้างแปลกและดูโบราณอยู่อย่างหนึ่งคือ คนที่จะขึ้นเป็นผู้นำของตระกูลคนต่อไปจะถูกเลือกผู้ช่วย หรือ เลขาให้ตั้งแต่ยังเด็ก โดยที่เด็กที่ถูกเลือกจะถูกนำมาเลี้ยงให้เติบโตด้วยกัน พาไปเรียนเรื่องต่างๆอย่างเข้มงวด ทั้งภาษา การต่อสู้ป้องกันตัว วิชาการ การบริหาร เพื่อที่จะสามารถเป็นตัวตายตัวแทนของผู้นำของตระกูล ทั้งหมดนี้เด็กที่ถูกเลือกจะต้องสาบานด้วยชีวิตตนเองด้วยกัน 3 ข้อ 1.ต้องรักเจ้านายยิ่งกว่าชีวิตของตน  2.ต้องปกป้องและสามารถตายแทนเจ้านายได้ 3.ห้ามหักหลังหรือทรยศผู้เป็นนายไม่เช่นนั้นจะต้องแลกด้วยชีวิต นี่คือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของตระกูลชเวเลยก็ว่าได้ สำหรับซีวอน ปาร์คจองซูคือผู้ถูกเลือกเพื่อหน้าที่นั้น

    พ่อของผมมาทำงานที่นี่

    *ตั้งแต่นี้จะไม่พิมพ์ภาษาอังกฤษแล้วนะครับ มีนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ พอให้รู้ว่าคนแต่งไม่โง่ หืม???

    พ่อของคุณ ใช่คนที่มาจากจีนรึเปล่า?” เพราะก่อนที่เขาจะกลับ พ่อของเขาเพิ่งจะบอกเกี่ยวกับเรื่องตัวแทนบริษัทของจีนที่จะมาทำงานร่วมกับตระกูลชเว เห็นว่าจะให้เข้ามาพักในหมู่บ้านนี้ แต่ไม่รู้เรื่องรายละเอียดครอบครัวของตัวแทน

    ครับ พวกเรามาจากจีน

    ถ้าเช่นนั้นหวังว่าเราคงจะเป็นเพื่อนกันได้ ผมซีวอน ส่วนนี่คุณจองซูเป็นเลขาของผม

    คุณทำงานแล้วหรือ ทำไมถึงมีเลขาได้ถึงเรื่องทั่วๆไปที่คนอื่นรู้กัน ฮันเกิงจะไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับระบบโรงงานหรือบริษัท เขาได้ซึมซับมาจากเหลินฉินค่อนข้างมากเลยทีเดียว พ่อของเขาไม่ได้อบรมสั่งสอนเพื่อที่ให้เขาเก่งทางด้านวิชาการ แต่อบรมบ่มสอนเพื่อให้ทำงาน ทุกอย่างที่ทำเป็นเกี่ยวกับการทำงานในอนาคต ไม่ว่าชีวิตของเขาจะเลือกงานอะไร ทุกสิ่งนั้นล้วนแต่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความคิด ถึงแม้จะเด็กคำว่าอายุน้อยไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ หรือคำว่า เด็กเกินไป นั้นเป็นสิ่งที่ปิดกั้นการเรียนรู้ของตัวเราเอง

    จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ผมยังไม่ได้ทำงานเต็มตัวหรอก ว่าแต่นายชื่ออะไร อายุเท่าไหร่?”

    ฮันเกิง อายุ 7 ปีแล้วครับ

    ผมอายุ 13 ปี นายเป็นน้องผมสินะ คุณจองซูอายุเท่ากับผม ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการซีวอนยื่นมือออกเพื่อที่จับมือแสดงการทักทาย และฮันเกิงก็จับมือตอบพร้อมกลับยิ้มบางๆให้กัน

    ยินดีที่ได้รู้จักทั้งสองคนครับถ้าฟังจากประโยคสนทนาข้างต้นคงไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเป็นคำพูดที่เด็กอายุไม่ถึง 18 พูดคุยกันเพราะแต่ละคำที่ใช้เลือกพูดดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก โดยเฉพาะเรื่องภาษาอังกฤษแน่นราวกับเป็นภาษาบ้านเกิด

    นายดูโตกว่าที่เห็นฮันเกิงคำว่ากล่าวของซีวอนที่จองซูเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

    พี่ซีวอนเองก็เหมือนกัน ผมเรียกแบบนี้ได้ใช่ไหม?”

    ได้สิ คุณจองซูคิดว่าไง?” ซีวอนหันไปถามจองซูที่เอาแต่ยืนอยู่เงียบๆ ให้มีส่วนร่วมในวงสนทนาบ้าง

    ก็เหมาะสมดีแล้วครับ คุณซีวอน

    ฮันเกิงนายดูสิ ฉันว่าต่อไปคุณจองซูต้องการเป็นหุ่นยนต์เลขาแน่เลย ฉันพูดอะไรก็เห็นด้วยไปเสียหมดซีวอนเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองจาก ผม เป็น ฉัน เพื่อที่อยากจะให้เกิดความสนิทสนมและดูเป็นกันเองมากขึ้น

    เอ๊ะ คุณซีวอนผมก็แค่ประพฤติตามที่ฝึกมาผิดตรงไหน อย่างลืมว่าชีวิตผมถูกฝึกมาเพื่อให้เป็นเลขาเท่านั้นจองซูตอบกลับอย่างหงุดหงิด ซีวอนเป็นแบบนี้ประจำ มักจะคอยหยอกคอยแกล้งในเรื่องที่เขาตึงกับหน้าที่มากไปในบ้างครั้ง บางทีก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่บางครั้งก็ชวนให้โมโหหน่อยๆ จนกลายเป็นความผูกพันแบบหนึ่งที่ตัวเขาก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดมัน ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำไป

    ดูสิ โกรธแล้วเห็นไหม?” ซีวอนพูดพร้อมอมยิ้มขำๆส่งให้ฮันเกิง

    พี่ซีวอนแกล้งคนอื่นแบบนี้มันไม่ดีนะครับ

    คนอื่นที่ไหน คนกันเองทั้งนั้นจริงไหมคุณจองซูเพิ่งจะแกล้งจองซูไปเมื่อครู่กลายเป็นว่าดึงจองซูมาเป็นแนวร่วมของตัวเองซะอย่างนั้น

    ครับคนกันเอง รวมฮันเกิงไปด้วยนะจองซูตอบอย่างเนือยๆเล็กน้อยแต่ก็ยังพูดเอาใจซีวอนในตอนท้าย

    ถูกต้อง จริงๆฉันกับจองซูก็พอพูดภาษาจีนได้บ้างนะ เอาไว้ว่างๆฉันจะสอนภาษาเกาหลีให้เป็นการต้อนรับแล้วกันนะ

    จะดีหรือครับ?”

    มันต้องดีสิ คนเกาหลีส่วนใหญ่นะไม่ค่อยใช้ภาษาอื่นกันหรอกนะ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆจากพี่ชายทั้งสองซีวอนบอกหันเกิงและหันไปขยิบตาให้จองซูหนึ่งที

    ตามนั้นแหละ ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวฉันกับคุณซีวอนต้องไปเรียนต่อล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะ

    ไปก่อนนะฮันเกิง บายซีวอนและจองซูเดินกลับเข้าไปในบ้าน เพราะมีเรียนต่อพิเศษ ฮันเกิงโบกมือลาให้ทั้งสองคนเบาๆ  เรียน...เขาก็อยากเรียนเหมือนกันนะ โรงเรียนจะเป็นที่แบบไหนกัน อยากจะรู้เสียจริง ได้แต่คิดคนเดียวในใจ

     

    ~ Pet Story HC ~

     

    เหมียว~ เหมียว~

    เสียงลูกแมวเพิ่งคลอดใหม่ 4 ตัวร้องอยู่กับแม่แมวสีดำสนิทตัวใหญ่ ในถ้ำบริเวณชายป่าแถบชานเมืองกรุงโซล

    สมุนของเราออกลูกออกหลานอีกแล้วสินะเสียงแมวสีสวาทพูดด้วยภาษาของมนุษย์ดังจากทางด้านในสุดของถ้ำ

    หัวหน้าครับ อาหารที่มีของพวกเราจะเลี้ยงแมวทุกตัวไม่พอแล้วนะครับเสียงแมวตัวผู้สีดำในกลุ่มร้องบอกด้วยภาษาของแมว

    ข้าว่าพวกเราบางส่วนควรจะเข้าไปในเมืองเพื่อไปหาอาหารกันนะ เดี๋ยวมนุษย์แถวนี้เริ่มไม่ค่อยทิ้งเศษอาหารมาให้เราแล้วด้วยแมวสีขาวล้วนพูดขึ้น

    ไม่จำเป็นเสียงแมวสีสวาทพูดตวาดดังลั่น จนแมวทุกตัวที่อยู่บริเวณสะดุ้งตามกันทุกตัว

    แต่ว่า...แมวสีขาวต้องการพยายามจะแย้ง

    เราจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะฮายังว่าไม่จำเป็น ถ้าเจ้าคิดว่าอาหารที่พวกเจ้าหากันมาเองไม่เพียงพอแล้วล่ะก็ เรานี่แหละจะเป็นคนไปหามาเองแมวสีสวาทตัวใหญ่หัวไปบอกกับแมวตัวสีขาว 'ฮายัง' ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วร่างของแมวสีสวาทก็ค่อยๆเปลี่ยนร่างจนมีสภาพร่างกายแบบเดียวกับมนุษย์ในสภาพเปลือยเปล่าเดินออกไปนอกถ้ำตรงเข้าไปยังในป่าลึก

    ....

    หลังจากที่แมวสีสวาทได้เดินออกไปแล้วในสภาพที่ไม่ใช่แมว แมวตัวอื่นต่างก็พากันรวมตัวคุยกันอีกครั้ง

    ข้าไม่เข้าใจทำไมพวกเราต้องยอมให้ไม่แมวก็ไม่ใช่คนก็ไม่เชิงมาบงการด้วยแมวป่าลายหินอ่อนว่าอย่างหงุดหงิด

    ใจเย็นก่อนชอนบุน

    เจ้าไม่ต้องมาห้ามข้าจุนซา เจ้าเป็นเอ่ยปากเรื่องอาหารของพวกเราเองไม่ใช่รึ ทำไมไม่รับผิดชอบมันหน่อยล่ะ

    รับผิดชอบ เจ้าต้องการอะไรกันแน่แมวจุนซาตอบกลับอย่างสงสัย

    เลยไปเกือบถึงตัวเมืองมีหมู่บ้านที่พวกมนุษย์อยู่กันเป็นกลุ่ม เจ้าต้องไปเอาอาหารมาจากที่นั่น

    เจ้าก็รู้ว่าที่นั่นอันตรายสำหรับแมวจรจัดอย่างพวกเรามาก

    เพราะว่าข้ารู้ไงล่ะ ถ้าเพื่อฝูงเจ้าทำแค่นี้ไม่ได้รึ?”

    ก็ได้ ข้าจะไป ที่เหลือข้าฝากทุกคนดูแลที่นี่ด้วย ระวังพวกเด็กๆให้ดีจนกว่าข้าหรือฮีชอลจะกลับมา

    แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าครึ่งมนุษย์ครึ่งแมวนั่นจะกลับอีกหรอกนะ ขอให้โชคดีในการเดินทางนะจุนซา”  เมื่อพูดจบแมวป่าลายหินอ่อน 'ชอนบุน' ก่อนเดินกลับเข้าไปนอนภายในถ้ำด้านในสุด

    จุนซาเจ้าจะไปตามที่แมวบ้านั่นพูดจริงๆนะรึแมวสีดำอ้วนร่างยักษ์ที่ยืนมองอยู่นานพูดขึ้นหลังจากชอนบุนเดินออกไปเพียงไม่นาน

    แล้วมันมีหนทางอีกอีกรึเปล่า ถ้าข้าไม่ทำเจ้านั่นได้ทำร้ายพวกเด็กๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเป็นแน่

    ขอบใจเจ้านะที่ห่วงพวกลูกๆของเราแม่แมวก็กำลังที่เพิ่งคลอดลูกออกมาพูดขึ้น

    ไม่เป็นไรหรอกจังมี อย่าลืมสิว่าแมวจรจัดอย่างพวกเรามารวมกันอยู่เพื่ออะไร ถึงเวลาที่ข้าควรจะไปเสียที

    แล้วท่านผู้นั้นล่ะ....

    ถ้าเขากลับมาก่อนข้าฝากเจ้าบอกด้วยแล้วกันจังมีว่าข้าไปไหน แต่บอกเขาด้วยว่าไม่ต้องตามข้าไป ข้าจะรีบกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน

    เจ้าคิดว่าเพียงคำพูดของข้าจะห้ามท่านผู้นั้นได้อย่างนั้นรึ

    งั้นเจ้าก็ไม่ต้องบอก บอกเพียงแค่ว่า อีกไม่นานข้าก็จะกลับมา

    จังมีได้แต่มองจุนซาวิ่งออกไปจากถ้ำด้วยความเป็นห่วง กลุ่มแมวป่าของพวกเขานั้นไม่เคยอยู่เพียงลำพังโดยขาดจุนซาหรือฮีชอลมาก่อน 2 ตัวนี้เปรียบเสมือนเสาร์หลักของกลุ่มแมวป่า ถึงแม้จะมีแมวในกลุ่มบางตัวในใต้อาณัติของทั้งสองจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เพราะความแข็งแกร่งที่น้อยกว่าจึงไม่อาจจะทำอะไรได้

    กลุ่มแมวป่าได้แต่ภาวนาให้จุนซาสหายของกลับมาอย่างปลอดภัย

    ~ Pet Story HC ~

    เฮ้อ อ เจ้าพวกนั้นทำไมพูดยากพูดเย็นแบบนี้นะ ต้องรอให้เจ้าพวกมนุษย์จับเอาไปกินก่อนรึไงเสียงบ่นพึมพำของร่างบางที่กำลังเปลือยเปล่าแช่น้ำอยู่ภายในถ้ำลึกเอื้อนเอ่ยอย่างหน่อยเหนื่อยใจ

    ถ้ามันเหนื่อยใจถึงเพียงนี้ก็เลิกช่วยเจ้าพวกนั้นซะสิปีศาจแมวเสียงทุ้มต่ำดังมาจากหลังโขนหินที่อยู่บริเวณมุมมืดของถ้ำ

    ข้าไม่มีทางปล่อยไปเผ่าพันธุ์ที่เหลืออยู่น้อยนิดของพวกข้าต้องหายสาบสูญไปเสียหรอกเจ้าปีศาจหมาป่า

    หึ แบบนั้นมันเรียกว่าพวกเดียวกับเจ้ามิได้หรอก นั่นมันก็แค่แมวป่าธรรมดาเจ้าของเสียงทุ้มกระโดดออกมายืนอยู่บนโขดหินเบื้องหน้าร่างปีศาจแมว ใบหน้าคมเข้ม กับแววตาที่ฉายความเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิดนั้นสร้างความหงุดหงิดใจให้กับปีศาจแมวร่างงามที่กำลังนั่งแช่น้ำอยู่มิใช่น้อย

    นั่นเป็นสิ่งข้าตัดสินใจจะทำ ไม่จำเป็นต้องเพิ่งหมาป่าที่ล่าเนื้อไม่เป็นอย่างเจ้า

    ปากดีนักนะเจ้า อย่างเจ้าเนี่ยน่าจะโดนพวกมนุษย์จับไปขังเสียให้เข็ดนักนะฮีชอล

    อย่ามาเรียกชื่อข้าห้วนๆโดยไม่ได้รับอนุญาต มาทางไหนกลับไปทางนั้นของเจ้าเลยคยูฮยอน

    หึ ข้าก็ไม่ได้อยากมาเจอหน้าของเจ้านักหรอกนะ แค่จะมาส่งข่าวก็เท่านั้นสีหน้าของปีศาจหมาป่าแสดงความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

    มีเรื่องอะไร?”

    ข่าวจากนรกที่ข้านำมาบอกเจ้าวันนี้ก็คือ....เจ้านั่นนะกลับมาเกิดแล้วนะ

    เจ้านั่นไหน?”

    แล้วเมื่อร้อยปีที่แล้วเจ้าส่งใครไปลงนรกมาล่ะ?”

    หึหึ...ก็ดี ถ้ามันเกิดใหม่อีกข้าก็จะข้ามันด้วยมือคู่นี้อีก

    อาฆาตแรงเสียเหลือเกินนะพวกแมวเนี่ยเสียงคำพูดแผ่วเบาที่ลอยตามสายลมของปีศาจหมาป่าที่พูดทิ้งท้ายไว้ก็จะหายไปกับสายลม หากแต่ปีศาจแมวตัวนี้กลับได้ยินชัดเจนดีทีเดียว

    ถึงแม้ตระกูลปีศาจของหมาป่าและแมวป่าจะไม่ค่อยถูกชะตากันนัก แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างในปัจจุบันทำให้พวกเขาต้องมาอยู่ร่วมกัน เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เหลือเพียงน้อยนิด และถ้ำแห่งนี้ ก็ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าปีศาจต้องมาอาบอยู่เป็นประจำ เพื่อใช้ในการช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการฝึกวิชามาร และยังช่วยเพิ่มอายุขัยได้อีกด้วย เนื่องจากถ้ำแห่งนี้เป็นของปีศาจแมวป่า เมื่อปีศาจเผ่าอื่นๆที่ต้องการบ่อน้ำแห่งนี้จึงต้องเป็นพันธมิตร และทำสัญญาบางอย่างร่วมกับแมวป่าจึงจะมีสิทธิ์ในการได้ใช้บ่อแห่งนี้ ซึ่งบ่อน้ำแบบนี้มีเพียงไม่ถึง 10 แหล่งบนพื้นโลก บวกกับนิสัยส่วนตัวของทั้ง 2 ตนด้วยแล้วจึงทำให้ไม่ค่อยถูกคอกันสักเท่าไหร่ ถึงแม้จะไม่ค่อยถูกกันแต่ก็ยังคงคอยช่วยเหลือกันเสมอมา ร่วม 300 ปี

    เจ้าบ้านี่ ทำฉันหมดอารมณ์จะแช่น้ำจริงๆแล้วปีศาจแมวก็นั่งแช่น้ำร่วมเข้าวันที่ 3 มาแล้ว หลังจากมีปากเสียงกับพวกแมวป่านิดหน่อย จนทำให้เขาไม่อยากจะไปเจอหน้าแมวๆตัวไหนตอนนี้ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือว่ามีแมวดูแลฝูงแทนตนเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหรือเดือดเนื้อร้อนใจอันใด

    ฮีชอลตัดสินใจเดินกลับไปหาฝูงแมว ด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากเสบียงที่ตนเองหามาได้นั้นน่าจะใกล้หมดเต็มทีแล้ว ใกล้ได้เวลาเข้าไปในป่าลึกเพื่อหาเสบียงมาใส่เพิ่มเสียที แต่ก่อนจะไปต้องตรวจสอบเสบียงเสียก่อน

    จังมีเจ้าเห็นจุนซารึเปล่า?” ฮีชอลตามจังมีขณะที่แม่แมวป่ากำลังนอนให้นมเด็กๆอยู่

    อะ เอ่อ....

    อำอึ้งอะไรของเจ้า ข้าถามก็ตอบมาสิ

    จุนซายังไม่กลับมาเลย

    เขาไปไหน? เพิ่งออกไปงั้นรึ?”

    จุนซาออกไปหมู่บ้านของมนุษย์ที่ชอนบุนพูดถึงเมื่อ 3 วันที่แล้วยังไม่กลับมาเลย

    ห๊ะ...ตั้งแต่วันนั้นเนี่ยนะฮีชอลตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากถ้ำโดยใช้ร่างของแมวซึ่งมีความว่องไวและยืดหยุ่นมากกว่าร่างมนุษย์ ซึ่งเขาจะใช้ร่างนี้บ่อยๆเมื่อต้องออกเดินทางไกลๆ มันทำให้สามารถอำพลางตัวได้ง่าย ไม่เป็นที่สังเกตมากนัก เพราะถึงจะมีอายุมาหลายร้อยแล้วก็ตาม แต่ขนาดในร่างแมวของเขานั้นมีขนาดเล็กราวกับแมวอายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ดังนั้นเวลาอยู่กับพวกแมวป่าเขาจึงไม่ค่อยได้ใช้ร่างแมวสักเท่าไหร่นัก

    ร่างแมวเล็กๆของฮีชอลวิ่งลัดเลาะไปตามชายป่า ภายในหัวคิดต่างๆนาๆว่าจุนซาจะเป็นอะไรรึเปล่า ถึงแม้จุนซาจะไม่ใช่ปีศาจเช่นเดียวกับตน แต่นับตั้งแต่จุนซาเข้ามาอยู่ในฝูงนั้น เขาถือเป็นเพื่อนและลูกน้องที่ดีสำหรับฮีชอลเสมอมา จุนซามักจะได้รับหน้าที่สำคัญๆจากตนเสมอ ถึงแม้จะรู้ดีว่าในไม่ช้าจุนซาจะต้องตายก่อนตน แต่นั้นต้องไม่ใช่การตายในรูปแบบนี้ พวกมนุษย์ไม่ได้ใจดี และไม่มีทางดีกับสัตว์ป่าอย่างพวกเขาแน่นอน นั่นคือความคิดของฮีชอลที่มีต่อมนุษย์มาหลายร้อยปี

    ~ Pet Story HC ~

    ฮันเกิงเสียงตะโกนของจองซูที่กำลังชะเง้อเรียกเด็กน้อยเจ้าของชื่ออยู่หน้าบ้านอย่างตื่นเต้น ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังสาละวนอยู่กับบางสิ่งบางอย่างภายในบ้านรีบวิ่งออกมานอกบ้านอย่างรีบร้อน

    มาแล้วครับฮันเกิงตอบพร้อมกับวิ่งในเวลาหาเดียวกัน

    ฮันเกิง ฉันมีข่าวดีจะบอกนายด้วยนะ

    ข่าวดีอะไรงั้นหรือครับ?” เด็กชายฮันเกิงถามพร้อมกับเอียงคอมองอีกคนกลับอย่างสงสัย

    ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปนายจะต้องไปโรงเรียนกับฉันแล้วก็คุณซีวอนแล้วนะจองซูบอกพร้อมกับส่งยิ้มละมุนให้กับคนตรงหน้า ถึงแม้จะรู้จักกันเพียงไม่นานนัก แต่เขาก็สามารถรับรู้และรู้สึกถึงความดีในตัวคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ตัวเขาเองจะยังไม่ใช่ผู้ใหญ่ หรือมีประสบการณ์ในการดูคนมากมาย แต่สิ่งที่สะท้อนในแววตาของฮันเกิงที่เขาเห็นในทุกๆครั้งนั้น มีแต่ความสดใจและจริงใจที่ไม่มีอะไรปิดบังภายในใจเลยแม้แต่นิดเดียว

    โรงเรียน ฮันเกิงจะได้ไปโรงเรียนจริงๆหรอครับ?” ดวงตาของฮันเกิงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

    จริงสิ ฉันกับคุณซีวอนไปคุยกับท่านประธาน คุณพ่อของคุณซีวอนมานะ เดี๋ยวคืนนี้พ่อของนายคงมาบอกอีกที

    ทำแบบนั้น ไม่เป็นภาระแย่หรอครับ พ่อของฮันเกิงจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเรียนมันต้องแพงมากๆแน่เลยจากความดีใจเปลี่ยนเป็นความกังวล ถ้าเป็นเด็กทั่วไปคงไม่ได้นึกถึงตรงส่วนนี้ แต่ไม่ใช่กับฮันเกิง เขาเป็นที่เด็กมีความละเอียดรอบคอบ เวลาจะทำอะไรสักอย่างเขาจะคิดอย่างถี่ถ้วน คิดถึงข้อดีข้อเสียในทุกๆด้าน มันเป็นสิ่งที่พ่อของเขาปลูกฝังมาและตัวฮันเกิงเองก็ตอบรับสิ่งเหล่านั้นเป็นอย่างดี และดูเหมือนจะดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ

    นายนี่คิดมากกว่าที่ฉันคิดซะอีกนะ มันเป็นสวัสดิการของทางบริษัท มีหลายคนที่เป็นลูกของพนักงานก็ใช้สิทธิเหล่านี้กันหลายคน ตัวฉันก็ด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องคิดมาหรือกังวลไปหรอกนะ

    แต่ว่า....

    ไม่มีแต่นะฮันเกิง นี่นายจะไม่เห็นฉันเป็นพี่แล้วใช่ไหม?” เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล จองซูจึงงัดไม้แข็งขึ้นมาข่ม

    ไม่ใช่แบบนั้นนะครับพี่จองซูเด็กน้อยรีบส่ายหน้าทันใดเพราะกลัวผู้เป็นพี่จะเข้าใจตัวเองผิด

    ถ้าแบบนั้นเดี๋ยวเราไปบ้านคุณซีวอนกัน นายรีบไปอาบน้ำ อีกประมาณครึ่งชม. คนที่บ้านคุณซีวอนจะส่งคนมารับเรา

    เห๋?? เราจะไปทำอะไรที่นั่นกันล่ะครับ?” เด็กน้อยถามกลับอย่างสงสัย

    เราจะไปติวภาษาเกาหลีให้นายที่นั่น วันนี้คุณซีวอนออกมาที่นี่ไม่ได้เพราะมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย ท่านประธานเลยไม่ให้คุณซีวอนออกนอกบ้านนะจองซูชี้แจงแต่ไม่ได้บอกถึงรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ซึ่งฮันเกิงเองก็สามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเองเป็นอย่างดีว่าไม่ควรถามต่อ

    ได้ครับ เดี๋ยวฮันเกิงกลับไปทำแผลให้เจ้าเหมียวน้อยเสร็จแล้วจะรีบอาบน้ำมารอหน้าบ้านนะครับ

    ดีมาก เดี๋ยวพี่ก็จะรีบไปอาบน้ำเหมือนกัน ไว้เจอกันนะทั้งสองคนต่างแยกย้ายไปทำภารกิจของตนเองจนเสร็จสิ้นแล้วออกมาเจอกันหน้าบ้านตามที่นัดหมายกันไว้

    1 ชั่วโมงต่อมา

    ตอนนี้ฮันเกิง จองซูและซีวอนกำลังนั่งติวหนังสือกันอย่างคร่ำเคร่งในห้องหนังสือของบ้านตระกูลชเว

    ฮันเกิงนายไหวรึเปล่าเนี่ยจองซูถามอย่างเป็นห่วงหลังจากที่ฮันเกิงพยายามฝึกพูดภาษาเกาหลีมานานพอสมควร แต่ไม่ว่าจะพูดสักกี่รอบก็ยังคงเพี้ยนอยู่แบบนั้น ส่วนลูกชายเจ้าของบ้านก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีด้วยการนั่งขำด้วยใบหน้านิ่งอยู่ตลอดการฝึก

    ฮันเกิงไหวรึเปล่าฉันไม่รู้หรอกนะ แต่ฉันไม่ไหวแล้วนะคุณจองซูมันจี้เส้นมากเลยนะแบบนี้

    คุณซีวอนครับถ้ามันจี้เส้นมากขนาดนั้น งั้นคุณก็พูดภาษาจีนไม่ให้เพี้ยนสิครับจองซูหันไปดุซีวอนอย่างนุ่มนวล ถึงเขาจะถูกมาให้เป็นเลขาของซีวอน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะตักเตือนซีวอนไม่ได้เสียหน่อย

    ผมพูดเพี้ยนน้อยกว่าคุณจองซูก็แล้วกันครับยังไม่วายต้องกวนกลับเสียทุกครั้งไป

    คุณซีวอนจองซูเรียกอีกคนเสียงนิ่ง

    อ่า...ใจเย็นๆกันสิครับ อย่าเพิ่งทะเลาะกันฮันเกิงรีบออกตัวห้ามทัพเพราะกลัวว่าพี่ทั้งสองคนนั้นจะทะเลาะกัน จริงๆแล้วเหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆเมื่อสองคนนี้อยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีการทะเลาะกันรุนแรง หรือโกรธเกลียดกันแม้แต่ครั้งเดียว อาจจะเป็นเพราะว่าฮันเกิงเพิ่งจะรู้จักทั้งสองคนเพียงไม่กี่วัน จึงไม่อาจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้

    ไม่ได้ทะเลาะกันครับ คุณซีวอนเนี่ยดูสิน้องเข้าใจผมผิดแล้วเนี่ยจองซูพูดพลางลูบหัวฮันเกิงเบาๆ

    อะไรกันคุณจองซูมาว่าผมคนเดียวได้ยังไงกัน เราก็คุยกันแบบนี้ทุกที

    แต่ฮันเกิงไม่เข้าใจนะครับ

    เดี๋ยวอีกหน่อยฮันเกิงก็เข้าใจเองแหละน่า ใช่ไหมฮันเกิงแล้วซีวอนก็หันไปหาฮันเกิงมาเป็นพวก

    อ่า..ครับฮันเกิงได้แต่เออออห่อหมกตามอย่างช่วยไม่ได้ ซีวอนที่เขาเจอในวันแรก กับวันนี้ช่างแตกต่างกันเสียนี่กระไร วันแรกที่เจอดูเป็นผู้ใหญ่จนฮันเกิงตกใจ แต่เมื่อพอมารู้จักเบื้องหลังในความเป็นกันเองแล้ว ก็ทำให้ฮันเกิงได้รู้ทันทีว่า จริงๆแล้วซีวอนก็ไม่ได้โตไปกว่าตนเองจนถึงขั้นดูเหมือนผู้ใหญ่ที่โตแล้ววะทีเดียว ซีวอนก็ยังคงมีความเป็นเด็กอยู่เหมือนกันเช่นเดียวกับเขา ถึงแม้เขาจะถูกสอนการวางตัวมายังไง แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก ฮันเกิงก็อดที่จะแสดงอาการตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้ การเห็นสิ่งแปลกตารอบตัวไปเสียมิได้ โดยที่ตัวฮันเกิงเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่านั่นแหละเป็นเสน่ห์ที่ผู้ใหญ่หลายๆคนพากันเอ็นดูตัวเอง

    คุณซีวอนนี่จริงๆเลย

    อะไรกันคุณจองซู แพ้แล้วไม่พาลนะครับซีวอนพูดแล้วยิ้มขำหน้าตายใส่จองซู

    ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครพาลสักหน่อยคุณซีวอน ไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ ถึงเวลาอาบน้ำแล้ว

    ฮันเกิงดูสิ เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย แบบนี้เขาเรียกพาลเห็นๆซีวอนยังไม่หยุดเล่นด้วยการพยายามลากฮันเกิงเข้าไปเป็นพวก

    ไม่ได้เปลี่ยนเรื่องเถอะครับ เดี๋ยวผมจะพาฮันเกิงกลับแล้ว คุณซีวอนต้องไปเตรียมตัวไปงานเลี้ยงกับคุณพ่ออีกนะครับ

    งานเลี้ยงอีกล่ะ มีแต่คนแก่ๆ ไม่รู้ท่านพ่อจะพาเราไปอีกทำไม?”

    มันเป็นหน้าที่ครับ ไม่ต้องมาทำเป็นบ่นหรอกครับ ก็เห็นทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมทุกทีนี่ครับจองซูว่า ถึงแม้ซีวอนจะพยายามตัวเป็นเด็กเวลาอยู่กับเขา แล้วยิ่งมีฮันเกิงที่อายุน้อยมาอยู่ด้วยซีวอนก็ยิ่งพยายามดึงความเป็นเด็กออกมา ซึ่งแตกต่างจากนิสัยจริงๆของซีวอนมากนัก ยิ่งเวลาอยู่ต่อหน้าฮันเกิง เพราะฮันเกิงเพิ่งจะมาไม่กี่วันจึงไม่อาจรู้สึกถึงมันได้

    แต่จองซูรู้ดีว่าการที่ซีวอนทำแบบนี้เพื่อต้องการให้ฮันเกิงรู้สึกผ่อนคลาย และต้องการที่เข้าถึงตัวฮันเกิงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วซีวอนนั้นมีนิสัยและการวางตัวเป็นผู้ใหญ่ได้สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่อายุ 9 ปีแล้วด้วยซ้ำ นอกจากนี้ซีวอนยังมาสามารถมองผู้ใหญ่ออกได้อย่างทะลุปรุโปร่งเสียด้วยซ้ำไป ไม่ใช่แค่เขาที่ถูกฝึกมาอย่างดีตัวซีวอนเองก็เช่นกันถูกฝึกมาหนักพอๆกับตัวเขา แถวซีวอนยังจะมีไอคิวที่เหนือกว่าจองซูเสียด้วยซ้ำไป

    พี่ซีวอนต้องไปบ่อยมากเลยหรือครับ?”

    ก็ไม่รู้สิ ไม่เคยสนใจจะนับมัน บ่อยไหมนี่ต้องถามคุณจองซูมากกว่านะเพราะเป็นคนจดตารางงานของฉัน

    ก็เดือนๆหนึ่งประมาณ 7-8 วันได้นะครับ ไม่เยอะจองซูทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบแล้วหันไปหาฮันเกิง

    ตามนั้นแหละนะ

    งานมันเป็นแบบไหนหรอครับ?” ฮันเกิงถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง

    อย่างรู้เลยดีกว่าฮันเกิง มันไม่สนุกเหมือนตอนที่นายช่วยแมวตัวนั้นทำแผลครั้งแรกเลยล่ะซีวอนเปรียบเทียบบรรยากาศในงานเลี้ยงกับการทำแผลให้แมวของฮันเกิง เพราะเมื่อ 3 วันก่อนหลังจากที่เขากับฮันเกิงได้ทำความรู้จักกันเสร็จ ในจังหวะที่เขาเรียนพิเศษกับจองซูเสร็จแล้ว กำลังรอรถของที่บ้านมารับอยู่นั้น ก็มีแมวโดนรถชนที่หน้าบ้านของจองซูพอดีเลย ฮันเกิงเองก็กำลังนั่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านตัวเองก็เห็นเหตุการณ์เหมือนกันก็รีบวิ่งเข้ามาดูด้วย ทั้ง 3 คน ช่วยกันจับแมวทำแผลกันอยู่นานมากเพราะยาที่ใส่ทำให้แมวแสบผิว ทั้งซีวอนและจองซูช่วยกันจับแมวไว้แน่น โดยที่ให้ฮันเกิงเป็นคนทำแผล ด้วยการลงมติเพียงเพราะเด็กสุดในกลุ่ม

    ดังนั้นเมื่อพูดถึงกับทำแผลให้แมวในครั้งแรกนั้นบอกได้คำเดียวว่าเป็นอะไรที่ทุลักทุเลมากสำหรับเด็ก 3 คนนี้ หลังจากนั้นแมวตัวนี้จึงได้รับการดูแลจากเด็ก 3 คน และจะมีการสลับบ้านไว้แมวกันคนละวัน เพราะทั้งฮันเกิงและจองซูก็อยากได้แมวไปไว้ดูแลที่บ้านตัวเองกันทั้งคู่ แต่เมื่อแมวหนึ่งตัวกับบ้าน 2 หลัง จึงตัดสินใจสลับกันดูแลให้แมวอยู่บ้านละวัน และวันนี้ก็ตกมาอยู่ที่บ้านฮันเกิงพอดี

    นี่ไม่ใช่เวลามาลีลาครับไปเลยครับคุณซีวอน ผมจะพาน้องกลับแล้ว

    อะไรกันอีกตั้ง 2 ชม.จะรีบกลับทำไมกัน

    แต่คุณต้องเตรียมตัวครับ

    ใช่สิ จะกลับไปเล่นแมวที่บ้านกันสองคน แล้วทิ้งฉันไว้คนเดียวสินะซีวอนแกล้งพูดทำเป็นน้อยใจใส่จองซู

    ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยครับ คุณซีวอนอย่าทำนิสัยเด็กๆแบบนี้นะครับ

    ผิดตรงไหน ฉันยังเด็กอยู่นะ

    ไม่เถียงกับคุณล่ะ ผมพาฮันเกิงกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวอีก 2 ชม. ผมจะกลับมาดูคุณซีวอนใหม่จองซูว่าพร้อมกับลุกขึ้นลากฮันเกิงที่รถแล้วกลับบ้าน ปล่อยให้ซีวอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง ซีวอนรู้ดีอยู่แล้วล่ะว่ามันต้องเป็นแบบนี้เพราะจองซูต้องตามไปงานเลี้ยงกับเขาทุกครั้ง คอยจดรายละเอียดสิ่งต่างๆให้กับเขา ทุกอย่างที่จำเป็นต้องธุรกิจของตระกูล เขาแค่ลองใจจองซูเล่นเท่านั้นว่าจะเผลอบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่ ซึ่งมันก็ไม่เคยเลยสักครั้ง แต่ก็ยังจะแกล้งเพื่อความสนุกของตัวเอง



    ......ย่องๆมาแปะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×