ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย magic เวทมนต์สื่อรัก [hanchul][FicSJ]

    ลำดับตอนที่ #2 : คาถาที่.......1 เรื่องราวชีวิตมนุษย์ธรรมดาของลูกครึ่งมนุษย์คิมฮีชอล

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 58


    เรื่องราวชีวิตมนุษย์ธรรมดาของลูกครึ่งมนุษย์คิมฮีชอล

    “อาเจ๊หายไปไหนมาไม่ยอมกลับบ้าน” เสียงเจ้าคิบอมน้องชายลูกพี่ลูกน้องของผมบ่นขึ้นในขณะที่ผมเดินหน้าเบื่อโลกมานั่งสิงสถิตอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่หน้าคณะ ซึ่งเจ้าคิบอมมันนั่งอยู่ก่อนแล้ว

    “ก็ที่เคยเล่าให้ฟังไงว่าต้องไปอยู่ช่วยเพื่อนของอาป๊าดูแลร้านนะ เมื่อวานนี้ก็เพิ่งรู้ว่าต้องไปค้างที่นั่นด้วย โคตรอยากกลับบ้านเลย” บ่นสักหน่อย จริงอยู่ที่ผมบอกความจริงมันไม่หมด กฎมันก็มีอยู่ว่าห้ามให้คนนอกรู้เรื่องราวของโลกเวทมนต์เด็ดขาด นอกจากจะเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน หรือไม่คนๆก็ต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนของโลกเวทมนต์ แต่ที่ไม่โกหกอย่างนึงคืออยากกลับบ้านจริงๆ T^T

    “อ่อ งั้นเดี๋ยวบอกอาม่าให้แกจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อวานเกือบไปแจ้งความแล้วนะ ดีที่ห้ามไว้ได้”

    “ขอบใจนะน้องรัก” ว่าแล้วก็คว้าคอมันมาหอมแก้มที เจ้าคิบอมนี่ดีอย่างพูดง่ายไม่ค่อยซักไซ้อะไรให้ยุ่งยาก เอ๊ะหรือมันไม่สนใจพี่มันว่ะ

    “ไอ่แก้มบวมลงมาเอาข้าวเว้ย จะรีบไปเรียน” เสียงหวานๆดังมาจากด้านหลังของพวกเรา ทำเอาเจ้าคิบอมรีบวิ่งไปหาเจ้าของเสียงแทบไม่ทัน ก็จะเป็นเสียงใครซะอีกล่ะนอกจากนลีทงเฮแฟนของเจ้าคิบอมนะเอง ทำเอาผมต้องหันไปมองตามเลยทีเดียว 555+

    “จะรีบไปทำไมอีกตั้งครึ่งชม.กว่าถึงจะเช้าเรียนไม่ใช่หรอ” เจ้าคิบอมถามกลับอย่างสงสัย หรือ มันจะแกล้งเมียมันก็ไม่รู้ ก็วันนี้ทงเฮแฟนมันใส่ชุดแสดงละครมาซะเต็มยศเลย ขืนมานั่งอยู่กับพวกเรามีหวังโดนรุมแน่ๆ อ้อ ผมกับเจ้าคิบอมเรียนคณะวิทยาศาสตร์เหมือนกันนะครับแต่คนละปี ผมนะปี3แล้ว เจ้าคิบอมเพิ่งปี1 เอง ส่วนทงเฮเรียนนิเทศน์อยู่ปี 1ส่วนนิดสัยใจคอของทงเฮนั้นก็รู้จักค่อนข้างเยอะเลยล่ะครับเพราะเจ้าคิบอมนะพากมาค้างที่บ้านออกจะบ่อย แถมห้องอยู่ข้างๆผมอีก ตอนกลางคืนนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะครับว่าห้องข้างๆเกิดอะไรขึ้น

    “ทงเฮมาให้พี่ถ่ายรูปมั่งสิ” แกล้งน้องสะใภ้สักหน่อย เพื่อความครื้นเครงบรรเลงใจ 555+

    “ไม่เอาฮะ เดี๋ยวโดนรุม เค้ารีบเข้าห้องเรียนดีกว่า ต้องไปซ้อมบทเพิ่มด้วย” ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบม้วนตัวกลับเข้าลงไปก่อนลงยังไม่วายยัดกล่องข้าใส่มือเจ้าคิบอมไว้ น้องชายผมมันกินยากครับอะไรก็ไม่ถูกปากเหมือนกับข้าวฝีมือเมียตัวเอง เจ้าตัวมันเคยบอกไว้แบบนั้นนะครับ เลยต้องลำบากทงเฮมินนี่น้อยคอยทำมาให้มันกระเดือกทุกวัน= =” บอกตรงอิจฉาเหมือนกันนะครับ

    “เมียแกหนีไปแล้วไอ่น้อง ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ 55+”

    “อ่าว..เห้ย - -“ ฮ่าๆ มันไม่ได้เห้ยใส่ผมหรอกครับ แต่เห้ยให้เมียมันที่ขับรถหนีออกไปแล้ว เพราะตึกคณะวิทฯกับตึกคณะนิเทศน์อยู่คนล่ะยอดมุมมหาลัยเลยล่ะครับ  แล้วมันก็เดินหน้าหงิกกลับมาที่โต๊ะตามระเบียบ แอบสมน้ำหน้าเบาๆ-..-

    “มีเมียเป็นเด็กนิเทศต้องทำใจเพราะรายนั้นป๊อบเหลือเกิน 555+” แซววันละนิดจิตแจ่มใส

    “ไม่เคยห่วงเรื่องนั้นเลย หงุดหงิดตรงยังไม่ได้จูบตะหาก ไปล่ะเจ๊ เตรียมของทำแลปก่อน ตอนเช้ามีเรียนแลปเคมว่ะ- -“ เออดีไปให้หมดเลย นั่งคนเดียวก็ได้ว่ะ อุตส่าห์ว่าจะแอบจิกข้าวมันสักหน่อย อดเลยตู **เคม=เคมี ภาษาปากที่พวกเด็กวิทย์ฯชอบเรียกกัน

    ขอย้อนความกลับไปเมื่อเช้าก่อนมามหาลัยสักหน่อยล่ะกัน กว่าจะสะบัดไอ่ผู้ดูแลหัวเถิกมาได้ ปัญหาคือมันจะตามมาดูผมที่มหาลัย อ้างนู่นนี่นั้นสารพัดอย่าง จนผมนี้ต้องกางสมุดกฎอ่านไปที่ละข้อให้มันอ่านครัช และแหกปากดังๆตรงข้อที่ นักเรียนฝึกหัดทุกคนถึงแม้จะต้องศึกษาเพื่อที่จะสามารถเป็นพ่อมด แม่มดที่สมบูรณ์แบบได้นั้น ก็มิอาจล่ะทิ้งหน้าที่ของตนเองให้บทบาทอื่นด้วยจะต้อง ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมของตนจนกว่าจะได้รับเข้าศึกษาเป็นพ่อมด แม่มดเต็มตัว ดังนั้นตูมีเรียนต้องได้มาเรียนเว้ย ไม่มีบรรทัดไหนเลยว่าให้ผู้คุมกฎมาเฝ้า เถียงกันไปเถียงกันจนผมชนะ จริงๆก็หนีมาล่ะครับ อาศัยตอนที่มีลูกค้ามาพอดี 555+

    “อื้อหือ วันนี้ฝนจะตกเสียกระมั้ง คุณคิมฮีชอลมาก่อนเวลาเรียน” กวนบาทาแต่เช้าเลยไอ้เพื่อนเวร มานั่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องปากด้วยเนอะมึงนิ - -^

    “ฉันจะมาเช้า หรือมาสายก็ไม่ใช่เรื่องขอแกนังโจวควอน” นังกระเทยถึก ด่ามันต่อในใจ ไม่มีใครได้ยินใช่ไหมครับ ฮีชอลได้ยินคนเดียว จริ๊งจริงงง

    “เสียงตามันบ่งบอกว่าแกแอบด่าฉันใช่ไหมฮะไอ่ฮี- -*”

    “อะไรใครด่ามึง มโนไปเองแล้วมึงอ่ะ แล้วมึงอ่ะมาทำไมแต่เช้า” โจวควอนมันเป็นเพื่อนร่วมหมู่เรียนกับผมครับ แถมรหัสนักศึกษายังติดกันอีกตะหาก

    “ทำการบ้านไม่เสร็จอ่ะดิ ว่าจะออกมาหาเหยื่อให้กูลอกอยู่เนี่ย เจอมึงก็ดีล่ะ เอาฟิสิกส์มาให้กูลอกด่วนๆ”

    “เรื่องอะไรจะให้มึงลอก -3-“ขอเล่นตัวหน่อยได้ไหมครับ จะมีใครแอบหมั้นไส้ผมไหมเนี่ย(?)

    “เล่นตัวอีกเนอะมึงนี่ เร็วๆเดี๋ยวลอกไม่ทันเว้ย” สังเกตไหมครับประโยคแรกมันยังเรียกคุณอยู่ดีๆ ตอนนี้มึงกูแล้ว ถ้าไม่สนิทกันจนรู้เช่นเห็นชาติถึงสันดรไม่สามารถทำแบบพวกผมได้หรอกนะครับ คึคึ

    “เออๆก็ได้ แต่5000นะเว้ย” ล้วงสมุดการบ้านจากกระเป๋ามาให้มันลอกอีกจนได้ จริงๆมันก็ไม่โง่นะครับ ตอนสอบทำได้เกือบเต็มทุกที แต่แมร่งดันเสือกโคตรขี้เกียจนี่สิครับ

    “อื้อหือ หน้าเลือดไม่เปลี่ยนเลยนะมึง”

    “แน่นอนไม่อย่างนั้น อย่าเรียกกูว่าคิมฮีชอลเลย” ก็อย่างว่าล่ะครับ ผมกับมันรู้จักกันมานาน ผมกับมันไม่ใช่แค่เพิ่งจะมาเรียนห้องเดียวกันที่มหาลัยนี้ เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้วโน่นครับ  แล้วมันก็ลอกการบ้านผมมาตั้งแต่สมัยประถมเลยล่ะครับ ความขี้เกียจของมันก็ยังคงทนแข็งแรงกับความเป็นเพื่อนที่ผมมีให้กับมัน นี่ผมควรดีใจรึเปล่าเนี่ย

    พอถึงเวลา 9 โมงตรงพวกผมก็เข้าเรียนตามตารางเรียน การเรียนผ่านไปได้ด้วยดี พวกผมถึงแม้จะดื้อจะมึนยังไง แต่ในห้องเรียนพวกเราตั้งใจเสมอ และแก๊งค์ในห้องของผมนอกจากโจวควอนแล้ว ก็ยังมีเจียอีกหนึ่งคน เป็นผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม เธอเป็นคนจีนที่มาเรียนที่เกาหลีครับ ดังนั้นผมกับโจวควอนจึงได้อนิสงค์ในการฝึกพูดภาษาจีนกับเอเป็นประจำ เห็นสวยๆแบบนี้เวลาโกรธนี่โหดเอาเรื่องนะครับ ไม่อยากบอกว่าเธอเท่จนมีสาวๆคณะอื่นมาตามจีบด้วยล่ะครับ ซึ่งต่างจากพวกผมผู้ชายแท้ๆไม่เคยมีแม้แต่สาวมาขอเบอร์ เสียใจจุงเบย T^T

    “นักศึกษาทำความเคารพ” ประโยคสวรรค์มาแล้วครับหลังจากเรียนวิชาที่ 2 เสร็จ ปาไปเกือบบ่าย 2 ครึ่ง การเรียน 2 วิชาติดแบบไม่มีพักเบรคมันเป็นการทำลายกระเพาะน้อยๆของผมได้อย่างรุนแรงเลยทีเดียว

    “ไปแดกข้าวกันเถอะว่ะ พญาติในท้องกูใกล้ตายล่ะ อาจารย์แมร่งสอนเลยเวลา ไม่รู้จะขยันไปทำเผือกอะไรนักหนา ไม่สงสารกระเพาะกูเลย” โจวควอนมันบ่นขึ้นทันทีที่อาจารย์สะบัดตูดออกจากห้อง ถ้าอาจารย์ได้ยินกูไม่เกี่ยวด้วยนะมึง มึงพูดคนเดียว คิมฮีชอลไม่รับรู้ แฮ่ :p

    “นั้นดิหิวมากอ่ะ ไส้จะขาดลืมกินข้าวเช้ามา ไปหาข้าวกินกันเถอะ” เจียพูดขณะมือยังคงสาระวนอยู่กับการเจ็บของใส่กระเป๋า

    “งั้นไปแดกพิซซ่ากัน วันจันทร์คนไม่ค่อยเยอะ ไปถล่มร้านลุงจินยองกัน หิวขาดไส้ ไส้ขาดเหมือนกันว่ะ” แล้วพวกเราสามหน่อก็ได้ย้านตูดแล้วก็ตัวไปที่ร้านพิซซ่าของลุงจินยอง หรือ ปาร์คจินยอง บอกเพื่อ(?) เอิ่ม..ก็ไม่รู้สินะ อยากบอกอ่ะ เป็นร้านที่พวกเราชอบมากินประจำในมันที่คิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ในวันที่เบื่อข้าว และวันที่หิวไส้ขาดแบบวันนี้ จริงๆก็ไปเกือบทุกวันนั่นแหละ เพราะที่ร้านมีอาหารสไตน์นะครับ ชื่อร้านขายพิซซ่าก็จริง แต่ลุงแกเล่นขายอาหารรอบโลกเลยล่ะครับ สวรรค์ของพวกผมแท้เลยล่ะครับ-.-

    “ไงแก๊งค์ป่วน” เป็นคำทักทายของลุงจินยองทันทีที่พวกผมเข้าไปในร้าน ทำไมเดี๋ยวนี้พัฒนาจนตั้งชื่อแก๊งให้พวกผม มีแค่สามคนเรียกซะอลังการเชียว

    “เอาเหมือนเดิมน้าลุงหิวมากเลยลุง”โจวควอนสั่งแล้วพวกเราก็ไปนั่งกระจุกที่มุมในสุดของร้าน ค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวที่สุด จริงๆแล้วไม่ใช่อะไร ลุงแกรำคาญพวกผมเสียงดัง เลยกันห้องไว้ด้านในห้องนึง ไม่ให้เสียงพวกผมออกไปรบกวนลูกค้า แบบว่า ความจริงมักเจ็บปวดเสมอแหละ เนอะว่าไหม?

    “เออๆ เงียบหน่อยนะเว้ย ลุงออกไปธุระก่อน อย่าทำลูกค้าลุงหนีนะเว้ย ไม่งั้นพวกแกได้จ่ายค่าอาหาร2เท่าแน่ ลุงบอกลูกน้องไว้แล้ว” เอิ่ม ลุงครับ บทจะโหดก็โหดขึ้นมาดื้อๆเลยนะ ตะโกนเสร็จก็ออกนอกร้านไปเลย ขอโอกาสให้พวกผมทั้ง3หัวได้เถียงกันสักนิดก่อนได้ไหมคร้าบบ

    “อ่าวอะไรของลุงว่ะนั่น” เจียบ่นเบาๆ ก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โต๊ะก่อนคนแรก

    “เออ ว่าแต่งานกลุ่มเอาไงว่ะ จะส่งวันศุกร์แล้วนะเว้ย ยังไม่ได้เริ่มอะไรสักขึ้นตอนเลย วิชาอาจารย์ยองมินด้วยนะเว้ย แมร่งยิ่งโหดๆอยู่” ทันทีที่นั่งกันจนครบไอ่โจวควอนก็เปิดประเด็นขึ้นทันทีระหว่างรออาหาร เออนั่นดิ ลืมไปเลย มัวแต่วุ่นวายกับเรื่องของโลกโน่น เกือบซวยแล้วไหม ก็ว่าอยู่ลืมเคลียร์การบ้านอะไรไป

    “ทำกันเย็นนี้ไหมล่ะ วันนี้ว่างพอดีเลยเนี่ย” เจียเสนอ เอาไงดีว่ะ ต้องโทรไปบอกไอ่เถิกก่อนรึเปล่าว่ะ

    “อื้มก็ดีนะ เริ่มทำไว้ก่อนก็ดี แล้วพรุ้งนี้ทำต่อ ไหนๆพรุ้งนี้ก็ไม่มีเรียนอยู่แล้วนี่นา อาจารย์ดงโฮแกไปดูงานต่างประเทศนี่ ชิวจะตาย แล้วมึงอ่ะว่าไงไอ่ฮี” เออก็ดีเหมือนกัน จะได้มีที่สิงสถิต ปกติผมเวลาวันไหนไม่มีเรียนผมก็นอนสิงเล่นเกมส์อยู่บ้าน บู๊ LOL มันทั้งวันแหละครับ ตอนนี้ย้ายออกมาแล้ว รู้สึกไม่อยากอยู่อย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ

    “เอาดิ แต่เดี๋ยวแดกข้าวเสร็จ กูแวะกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ ว่าแต่จะทำบ้านใครอ่ะ”

    “ห้องเจียดีกว่า มันอยู่หอคนเดียว ไม่มีใครวุ่นวายดี” ไอ่โจวควอนสรุปเอาเองสั้นๆ


    “ใครบอกอยู่คนเดียว ช่วยถามเจ้าของห้องก่อนด้วย” ฮันแหน่ๆ ตกลงยังไงเนี่ย คงไม่ใช่มีสาวมานอนด้วยหรอกนะ เออ แต่ว่า เจียก็เป็นผู้หญิงนี่หว่า มันอยู่กับพวกผมมากไปจนบางทีพวกผมก็ลืมเพศมัน แบบว่านางแมน มาก!!

    “อะไรกันงานกลุ่มนะเว้ย เสียสละหน่อย-3-“ แล้วมันก็งัดประโยคนี้มาใช้แล้วก็ได้ผลวะงักทีเดียวเชียว

    “เออๆก็ได้ ห้ามทำห้องรกนะเว้ย สงสารน้อง ทำความสะอาดเหนื่อยแย่แน่ ถ้าเจอวีรกรรมของแก2คน”

    “น้องไหน?” ผมกับโจวควอนถามพร้อมกันด้วยความสงสัย

    “อย่ารู้เลย” อ่าว อะไรของมันว่ะเนี่ย

    “รีบๆกินเข้าไปสิ หิวไม่ใช่รึไงข้าวมาแล้วเนี่ยก็รีบกินเข้าไปสิ เดี๋ยวไส้ขาดกันหรอก- -“ แล้วมันก็หนีคำตอบได้อย่างเนียนมาก เออยอมก็ได้นี่เห็นแก่ความหิวหรอกนะ ไม่งั้นได้ซักกันยาวแล้ว แล้วพวกเราก็สวามปามอาหารเต็มโต๊ะภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยความหิวโหย ไม่ว่าพวกผมตัวผู้จะกินกันอย่างทุเรศเพียงใด อีกคนก็ยังคงกินได้อย่างเรียบร้อยมาก แต่ขอบอกว่ากินไวกว่าพวกผมเยอะ เสร็จแล้วพวกผมก็จ่ายตั้งแยกกันไปเตรียมตัวและนัดเจอที่หอเจียตอน 6 โมงเย็น

    เฮ้ออ อ ไม่อยากเจอหน้าไอ่หัวเถิกๆนั้นเลย เมื่อคืนนอนกับมันผมก็กลายเป็นหมอนข้างซะงั้น พูดถึงก็ปวดจิตขึ้นมาทันใด = =

    'ร้านค้าเวทมนต์ สาขากรุงโซล 003'

    สาขาร้านค้าบนโลกมนุษย์จะเป็นชื่อเมืองที่ตั้งร้านนะครับ เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นเค้าว่ากันว่า โลกมนุษย์มีสาขาร้านเยอะที่สุดในบรรดาโลกอื่นๆ แล้วผมจะมายืนสาธยายบ่นอะไรอยู่หน้าป้ายร้านว่ะเนี่ย

    “ยืนทำอะไรอยู่หน้าร้านทำไมไม่เข้าไปข้างใน?” สะดุ้งเฮือกเลยสิครับ มาไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียง ฮีชอลหัวใจจะวาย-*-

    “อ่าว ไม่ได้อยู่ในร้านหรอกหรือครับคุณผู้ดูแล?” ถามมันไปงั้นแหละครับ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ยังตกใจอยู่ที่ทำไมมันมายืนหลังผมตอนไหนไม่ทันสังเกตุเลยว่ะครับ

    “พอดีไปกินข้าวมานะ พ่อมดก็หิวเป็นนะ หรือจะให้ผมกินนายดีล่ะฮีชอล” ไม่ต้องมายิ้มใส่เลย ขนลุกวาปเลยครับ รู้สึกเสียวสันหลังอย่างแรง

    “ตลกล่ะ คนไม่ใช่ของกินเว้ย-*-"

    “กินได้น่า อยากรู้ไหมเดี๋ยวผมจะสอนให้เอาไหม?” พูดธรรมดาไม่ได้รึไง จะมากระซิบข้างหูทำไม๊ ขนลุกเว้ย นี่มันไม่รู้ตัวเลยสินะว่าตูไม่ชอบขี้หน้ามัน หน้าระรื่นจริงๆเชียวไอ่ผู้ดูแลหัวเถิกๆ

    “ถอยไปเลยนะ เป็นผู้ดูแลก็กล้าต่อยนะเว้ย” พลักมันออกเพื่อจะเดินเข้าร้าน อาบน้ำดีกว่า ไม่อยากจะสนใจไอ่ผู้ดูแลหัวเถิกๆให้มันรกสมองเลยครับ

    “แรงแค่นี้ตัวนิดเดียวคิดว่าจะทำอะไรผมได้หืม? เด็กน้อย” ผมรู้นะครับถึงแม้จะไม่ต้องหันไปมองก็เถอะ ผมว่ามันต้องยิ้มเยาะๆให้ผมแน่เลย #ใครบอกว่ายิ้มเยาะ ยิ้มหื่นต่างหากเล่าเด็กน้อย (เสียงที่อยู่ในใจฮันเกิง)

    “หลีกไปเว้ยจะไปอาบน้ำ”

    “ครับๆ อาบน้ำแต่หัววันเลยนะเด็กน้อย” แล้วมันเรื่องอะไรของเอ็ง - -'

    รีบอาบน้ำดีกว่า เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว อาบน้ำนี่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้จริงๆเลยนะครับ จริงไหม? ทุกคน เอ๊ะ นี่ผมบอกใครเนี่ย อยู่คนเดียวนี่หว่า 5555+

    “เด็กน้อยผมจะทำงานวิจัยอยู่ในห้องนะคงนานกว่าจะเสร็จ แล้วออกไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนอย่ากลับมืดนักล่ะ ถ้าไม่อยากให้ผมไปหาถึงที่หอเพื่อนนะ”

    ปึง!!

    เสียงประตูดังขึ้นหลังจากสิ้นสุดเสียงของไอ่ผู้ดูแลหัวเถิก เห้ย เดี๋ยวนะ ผมบอกมันตอนไหนหรอว่าผมจะไปทำงานกลุ่มหอเจีย นี่ตอนเข้าร้านมาผมคิดดังจนให้มันได้ยิน หรืออะไรยังไง อ๊ากก มันรู้ได้ไง what havepen?!!?!? =[]=!!!!




     

    ตอนที่ 2 มาแล้ว ดูเนิบๆไปหน่อยตามชื่อตอนอ่ะนะ-.- ตอนจบของคุณฮีของตอนยังคงคอนเซ็ปสติแตกต่อไป อาเมน ตอนนี้ป๋าของเรานิ่งๆเนอะ แบบคิดอะไรอยู่น้า หรือน้อยใจที่คุณแรมป์ให้บทน้อยค่ะป๋าเถิก 555
    อ้อ อีกเรื่อง ถึงคุณผู้อ่านนะครับ คุณแรมป์อยากได้ตัวประกอบเพิ่มเติม ใครอยากมีบทบาทในนิยายเรื่องนี้บอกมาเลยนะครัช

    ใส่ชื่อและคนที่คุณอยากเข้าฉากด้วย 55555+

    ประดุจเฟ้นหาดารา เว่อร์ไป อยากให้ทุกคนมาร่วมสนุกด้วยกันน้า
     


     

     ***ทิ้งท้ายด้วยชุดที่ทงเฮใส่-.- ตัดต่อหน้ามาจากรูปที่แปะ กลัวบางคนมองไม่ออก คุณแรมป์เอาหน้าทงเฮมาใส่จีๆนะ -.-



    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×