คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คาถาที่.......0 Intro
Intro…
<heechul>
“ระหว่างที่ยังเป็นพ่อมดฝึกหัดนายต้องพักอยู่ที่นี่ ที่ร้านบ้านเวทมนต์นี่จนกว่านายจะสอบผ่านและรายงานตัวเข้าโรงเรียนเวทมนต์ได้ โดยจะต้องอยู่ในสายของผม 24 ชม” เสียงของเจ้าผู้ดูแลของผมพูดขึ้น ในขณะที่ตอนนี้อยู่ในห้องรายงานตัวและอารมณ์ของผมกำลังเดือดสุดๆไปเลยล่ะครับ ให้ตายเถอะ ผู้ดูแลหรือเจ้าชีวิตว่ะเนี่ย ถ้าจะเฝ้าขนาดนี้สิงผมไปเลยไหมครับ
อ้อ แนะนำตัวสักหน่อยผม คิมฮีชอลเป็นลูกครึ่งระหว่างพ่อมดกับมนุษย์ครับ ในช่วงแรกของพวกลูกครึ่งอย่างผมพลังจะยังไม่ตื่นร้อยเปอร์เซ็น ดังนั้นจึงเป็นได้แค่พ่อมดฝึกหัด และก็จะมีผู้ดูแลระหว่างที่ยังเป็นพ่อมดฝึกหัดอยู่เพื่อฝึกสอนและฝึกฝนในกระตุ้นพลังเวทย์ให้ตื่นเต็มที่ แต่ระหว่างนั้นต้องดำเนินชีวิตในอีกโลกของตัวเองไปด้วย
“แต่ในระเบียบการของโรงเรียนเวทมนต์ฝึกหัดผมเคยอ่านไม่เห็นมีข้อบังคับแบบนี้เลยนี่ครับ” ถามไปอย่างสงสัย และพยายามข่มเสียงให้ใจเย็นไปในเวลาเดียวกัน คิมฮีชอลเย็นไว้ เย็นไว้ ตอนนี้นายยังใช้เวทมนต์ระดับสูงไม่เป็น อดทนรอไว้รอตอนที่เก่งกว่าแล้วค่อยจัดการไอ่ผู้ดูแลนี่ก็ยังไม่สาย
“คิมฮีชอลนายคิดดังไปหน่อยนะ อย่าลืมสิว่าผมเป็นพ่อมดแท้ สามารถอ่านใจได้ อ้อ อีกเรื่องผู้ดูแลพ่อมดฝึกหัดทุกคนเป็นพ่อมด แม่มดแท้เท่านั้น”
“ห๊ะ!?!” อะไรกันทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย ไอ้ผู้ดูแลขี้เก๊กหัวเถิกดี๋ยวสักวันฉันล้มนายแน่ เฮ้ย คิดตอนนี้ไม่ได้ มันอ่านใจได้นี่หว่า-*-
“เด็กน้อยเอ๋ยคิดจะทำร้ายผมยังเร็วไปล้านปีนะ แต่ถ้าคิดจะเป็นอย่างอื่น...ล่ะก็วันนี้ก็ได้ผมพร้อมเสมอเลยนะสำหรับเรา” ดูครับดูพูดอย่างเดียวยังไม่พอยังจะเอามือมาลูบหัวแล้วทำหน้าหื่นใส่อีก ไอ้อย่างอื่นที่ว่ามันอะไรว่ะ หงุดหงิด เว้ย ถ้าต่อยผู้ดูแลตอนนี้จะถูกหักคะแนนพฤติกรรมไหมครับ แต่นี่ยังไม่ใช่วันเริ่มเรียนเลยนะ
“สอบเสร็จเป็นพ่อมดเต็มตัวเมื่อไหร่ ฉันจะสาปนายให้กลายเป็นแมลงสาปเลยคอยดูไอ่ผู้ดูแลหื่นกาม!!” อยากทำหน้าหื่นดีนักเรียกแบบนี้ซะเลย พูดจบก็เดินออกจากห้องเลยครับเอาเอกสารให้เสร็จล่ะ ไม่อยากจะอยู่เสวนาต่อเดี๋ยวเส้นอารมย์จะขาดผึ่งแล้วต่อยหน้าผู้ดูแลเอาได้
“ห้องนอนอยู่ชั้น2 มีป้ายชื่อติดอยู่หน้าห้อง เอาของจัดเข้าห้องไปก่อนเลย เดี๋ยวผมมาต้องไปทำธุระที่โลกเวทมนต์สักหน่อย แล้วจะรีบกลับนะครับเด็กน้อย”
“มีชื่อเว้ย ไม่ได้ชื่อเด็กน้อย ชื่คิมฮีชอล ฮีชอลอ่ะเว้ยย ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วทำไมต้องให้บอกด้วยเนี่ย” หงุดหงิดๆ เดี๋ยวปั๊ดแดกหัวซะเลยนิ
“ก็ได้ๆครับ เด็กน้อยฮีชอล ส่วนผมฮันเกิงนะครับ” แล้วไอ้ผู้ดูแลหัวเถิกก็เดินมาจุ๊ฟหน้าผากผมอีกแหนะ ก่อนจะเดินไปด้านหลังร้านอย่างรวดเร็ว สงสัยมันจะรีบจริงๆ ซึ่งประตูเวทย์ระหว่างโลกมนุษย์กับโลกเวทมนต์อยู่ที่นั่น
“อะ..ไอ่ผู้ดูแลหัวเถิกกลับมาเมื่อไหร่ฉันเอาแกคืนแน่ ฮึ่ยย” ได้แต่ยืนฮึดฮัดครับ ทำอะไรมันไม่ทัน ย๊ากก หงุดหงิดๆๆ
หลังจากระงับอารมความอยู่หงุดหงิดอยู่นาน ก็ถึงเวลาสำรวจร้านสักที ผมตัดสินใจเดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อดูห้องนอนก่อน ส่วนของแน่นนอนว่าไม่ได้ขนมาเพราะไม่ได้คิดว่าจะต้องมากินนอนที่นี่ตั้งแต่แรก แต่เรื่องแค่นี้สบายหายห่วง เพราะแค่ผมดีดนิ้วทีเดียวก็สามารถย้ายของของผมทุกชิ้นวางจัดวางในห้องได้ในทันที เป็นคาถาที่แม้แต่เด็ก3ขวบก็ยังท่องได้เลยครับ เพียงแต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งในกรณีที่ไม่ได้อยู่กับของ หรือมองไม่เห็นวัตถุจะสามารถย้ายได้แต่ของที่ตัวเองเป็นเจ้าของเท่านั้น นี่แหละน้าเวทมนต์ถึงจะวิเศษแค่ไหนแต่ก็มีข้อจำกัด และกฎในการใช้มันเหมือนกัน ไม่งั้นโลกทุกที่คงวุ่นวาย ไม่เว้นแต่โลกเวทมนต์เองก็ตาม
มาพูดถึงโลกเวทมนต์กันสักหน่อยดีกว่า โลกเวทมนต์มนต์นั้นก็คือสถานที่อยู่ของเหล่าพ่อมด แม่มด นั่นเอง รวมไปถึงสัตว์ที่ใช้เวทมนต์ได้บางประเภท เช่น ภูต พวกนี้จะอาศัยกับพวกแม่มด พ่อมดระดับสูง สัตว์เลี้ยง ไม่ว่าโลกไหนๆก็มี โลกเวทมนต์ก็เช่นกัน ได้แก่ นกฮูก แมว หนู และสัตว์อื่นๆ ในอดีตโลกเวทมนต์ปิดตัวเองจากโลกอื่น จนกระทั่ง 1000ปีก่อนคริศตกาลได้มีการเปิดโลกและทำประตูเชื่อมกับโลกต่างๆไว้มากมาย เมื่อมีการติดต่อกันก็เกิดเป็นความรักระหว่างโลกต่างๆกับโลกเวทมนต์ขึ้น จนให้กำเนิดเหล่าพ่อมด แม่มดลูกผสมขึ้น และเรียกว่าลูกครึ่งตามเผ่าที่มีเลือดผสมอยู่ด้วย ซึ่งมีทุกเผ่าพันธุ์ไม่เว้นแต่มนุษย์ ก็ผมนี่ไงล่ะ หุหุ และภายใต้กฏข้อเดียวว่าด้วย หากผู้ใดได้ครองรักและอยู่กินกับพ่อมด หรือแม่มด ก็จะต้องยอมเป็นยอมเป็นพ่อมด แม่มดไปด้วย แต่ถ้าไม่ยอมก็จะไม่ได้พบกันอีกตลอดกาล และทายาทก็ต้องยกให้กับฝั่งโลกเวทมนต์ ทั้งนั้นเพื่อไม่ให้เผ่าแม่มด พ่อมดหายสาบสูญไปด้วย
แล้วถ้าพูดถึงพวกลูกครึ่งอย่างพวกผมแล้วล่ะก็ พวกเราจะลืมตาดูโลกพร้อมกับพลังที่น้อยพวกเลือดแท้ ด้วยเหตุผลนี้ทางสภาเวทมนต์จึงจัดตั้งโรงเรียนสำหรับพวกลูกครึ่งอย่างผมขึ้นมา เพื่อกระตุ้น ให้พวกเราได้ฝึกฝนเรียกพลังที่หลับใหลว่าควรทำเช่นไรถึงจะเอาออกมาใช้นะร้อยเปอร์เซ็นก่อน จึงจะสามารถไปเรียนรวมกับพวกเลือดแท้ได้ โดยระหว่างที่ยังฝึกหัดออยู่นั้นต้องอาศัยอยู่ในอีกโลกของชาติพันธุ์ตัวเองไปก่อน ไม่สามารถเข้าไปค้างคืนหรือพักแรม นอกจากจะมีกิจกรรมของโรงเรียนฝึกหัดเวทมนต์ จึงจะได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ดังนั้นผมได้ระเห็จมาอยู่ที่ร้านค้าเวทมนต์ด้วยเหตุฉะนี้แล แต่ไอ่เรื่องที่นอนที่ร้านเนี่ยเพิ่งเคยได้ยินวันนี้สดๆร้อนๆเลยล่ะครับ ผมว่าไอ่เจ้าผู้ดูแลนี่มันขี้ตู่แน่เลย แต่จะไม่ฟังมันก็ไม่ได้ ผมจะสอบผ่านไม่ผ่าน คะแนนส่วนหนึ่งก็มาจากมันด้วยอ่ะ คนหล่อเศร้า T^T
เดินขึ้นชั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ดูเหมือนทุกห้องจะมีป้ายแขวนติดบอกซะทุกห้องเลยแหะ ห้องแรก 'ห้องทดลองและวิจัยตำราเวทย์' ไม่น่าเชื่อว่าหัวเถิกๆหน้าหื่นๆแบบนั้นจำงานวิชาการเวทมนต์เป็นด้วย ห้องที่สอง 'ห้องออกกำลัง' อื้อหือ รักสุขภาพด้วยแหะ แต่ไอ่พวกเลือดแท้อายุมันใกล้เคียงกับคำว่าอมตะนี่ต้องออกกำลังกายด้วยหรอกว่ะ และแล้วห้องที่สามจากรูปที่ป้ายห้องนอนชัวร์ๆเลย เดินไม่ไกลเท่าไหร่แหะ ไหนดูสิมันเขียนชื่อไว้ว่ายังไง 'ห้องนอนฮันเกิง & ฮีชอล <3'
...........
หลังจากติดสะตั้นอยู่ 3 วิ สติก็เริ่มกลับมา ย๊าก ก ก ก ก ไอ่ฮันเกิง ไอ่หัวเถิก ไอ่ผู้ดูแลหน้าหื่น ไอ่ ไอ่ นึกคำว่าไม่ออก-*- เยอะไปแล้วนะเว้ย ผมว่าไม่มีมีในกฎแน่ๆ ตั้งแต่ให้นอนที่นี่ล่ะ กลับมาเมื่อไหร่ อาละวาทมันร้านพังแน่ รู้จักคนอย่างคิมฮีชอลน้อยไปซะแล้ว หึหึ
<leeteuk>
“แล้วผมจะรีบไปรีบกลับนะฮะท่านแม่” ผมกล่าวลาท่านแม่เพราะจะไปโลกเวทมนต์ เข้าไปเอาของกับท่านพ่อนะครับ เห็นท่านว่ามีของขวัญจะให้ก่อนเริ่มเรียนพ่อมดฝึกหัด ผมมีชื่อว่าปาร์คซองจู ชื่อเล่นว่าอีทึก หรือทึกกี้ ผมเป็นลูกครึ่งระหว่างพ่อมด กับนางฟ้า แม่ของผมเป็นนางฟ้าที่สวยมากๆเลยล่ะครับ ไม่งั้นท่านพ่อไม่หลงขนาดนี้หรอก แต่ว่าทำเป็นราชทูตระหว่างสวรรค์กับโลกเวทมนต์เลยจะอยู่ที่สวรรค์ซะส่วนใหญ่
ร้านค้าเวทมนต์ สาขาสวรรค์ 001
“อ่าว มาทำอะไรที่ร้านเอ่ย? จะมาใช้ประตูไปหาท่านพ่อรึเปล่าเอ่ย?” เสียงคุณโบอาดังขึ้นทันทีที่ผมเปิดประตูร้าน เธอเป็นแม่มดเลือดแท้ที่คอยดูแลร้านนี้ และยังเป็นผู้ดูแลระหว่างที่ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดด้วย ทั้งสวย เซ็กซี่ แล้วก็ใจดีสุดๆไปเลยล่ะ
“ใช่ฮะ ท่านพ่อว่ามีของขวัญจะให้ก่อนเริ่มเรียนนะฮะ” แล้วผมก็ตรงดิ่งไปหลังร้านซึ่งเป็นที่ตั้งขอประตูเวทย์ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลกสวรรค์ที่ผมอยู่ไปยังโลกเวทมนต์
ประตูเวทมนต์ ประตูที่ใช้สำหรับเดินทางจากโลกเวทมนต์ไปยังโลกต่างๆ และเพื่อให้บุคคลยังโลกต่างๆเดินไปสู่โลกเวทมนต์ได้ ประตูบนโลกอื่นนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งแค่โลกสวรรค์ของผมก็มีไม่ต่ำกว่า 100 บานแล้ว จึงไม่การใส่ตัวเลขตามลำดับการสร้างประตูขึ้นมา แต่ไม่ว่าประตูหมายเลขในบนโลกเดียวกัน อย่างเช่น ประตูเวทย์ของร้านค้าเวทมนต์ สาขาสวรรค์ 001- 100 ทางออกก็ไม่ไปโผล่ที่ประตูเดียวกันของฝั่งโลกเวทมนต์ ซึ่งจะเป็นประตูที่ชื่อว่า สวรรค์เวทย์ ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อจะสามารถตรวจตอบการเข้าออกของแต่ละโลกได้อย่างง่ายดาย และประตูแต่ล่ะที่ก็มีรูปร่างไม่เหมือนกันเพื่อปกปิดให้รอดพ้นจากสายตาของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เรียกว่าเป็น ท๊อปซีเคร็ต อย่างหนึ่งของโลกเวทมนต์ก็ได้ ฮี่ๆ อ้อ อีกเรื่อง ยามเฝ้าประตูนี่ต้องสอบนะครับถึงจะเป็นได้ต้องใช้เวทย์เก่งๆมากๆ และต้องเรียนมหาลัยมหาเวทย์แล้วถึงจะมีสิทธิ์สอบนะเออ
ได้เวลาออกเดินทางแล้วล่ะครับ กว่าจะร่ายคาถาเสร็จปาไปเกือบ2นาที เพราะผมออกเสียงร่ายคาถาไม่ค่อยถูก ก็ปกติใช้แต่เวทมนต์ของพลังเทวดานี่นา ปกติคนอื่นเค้าร่ายไม่ถึง10วิก็เสร็จล่ะ คนมันไม่ค่อยได้ใช้นี่เนอะทำไงได้-3-
“ไงทึกกี้ ทึกกี้” น่านเท่ายังไม่ทันได้แตะพื้นดีเลย ไอ่คุณลุงที่เฝ้าประตูก็ทักทันที ลุงมันเป็นลูกครึ่งยักษ์ครับเพราะผมเจอตั้งแต่ผ่านประตูเวทย์ตั้งแรกยันปัจจุบัน เมื่อไหร่จะเปลี่ยนคนซักทีก็ไม่รู้ เบื่อขี้หน้าจะแย่
“วันนี้ไม่ต้องได้ไหมอ่ะลุง ผ่านประตูทุกเดือนจะตรวจอะไรเยอะแยะ” ส่งสายตาวิ้งๆไปให้หน่อยเผื่อวันนี้มันจะใจอ่อนไม่ยอมตรวจ เพราะถ้าให้มันตรวจนะ ทั้งลูบทั้งคลำทั้งกอด นี่มันตรวจหรือมันจะสิงร่างก็ไม่รู้อ่ะครับ
“ไม่ได้หรอกมันเป็นหน้าที่ของพี่ แล้วก็เลิกเรียกลุงได้แล้วนะคนดี” แล้วมันก็ส่งยิ้มหวานมาให้ผม สายตาแบบเหมือนเรามองของกินตอนหิวอะไรอย่างนั้นเลย ขนลุกอ่ะ แง๊T^T
“เสื้อผ้าก็ไม่มีกระเป๋าตรงไหนเลยนะเนี่ย จะตรวจทำไม” ก็จริงอ่ะ อีกอย่างผมเป็นแค่พ่อมดฝึกหัดจะก่อการร้ายอะไรได้ว่ะลุง วุ่นวายจริง
“ไม่มีกระเป๋าก็มีวิธีตรวจได้ มาม่ะ - ,-“ ไม่พูดป่าวครับ เดินมากอดๆคลำๆอีก ไอ่พวกปากว่ามือถึงนี่อันตรายจริงๆเลย T^T
“ไม่ต้องตรวจหรอกนะครับ นะ นะ “ เอาไม้อ่อนเข้าสู้มันเข้าไปครับ
'ถ้าปล่อยให้เด็กน่ารักอย่างนายเข้าไปโดยไม่ได้ลวนลามก็ไม่ใช่คังอินนะสิ - ,-'
“คิดดังไปแล้วเฟ้ย ได้ยินนะไอ่ลุงว่าคิดอะไร” ผมนะลูกครึ่งเทวดานะเว้ย มีความสามารถได้คิดความคิดคนอื่นเวลาคิดจะทำอันตรายอะไรผม ถ้าเป็นความคิดแบบอื่นผมไม่ได้ยินหรอกครับ
“ไม่คิดแล้วก็ได้ พูดเลยดีกว่า อยู่ให้ลวนลามก่อนแล้วค่อยไป ฮ่าๆๆ “ อ๊าก ก ดูมันน่าไม่อายเลยนะไอ่ลุง ขอกันหน้าด้านๆเลยนะ ใครเค้าจะไปยอมกันว่ะ ว่าแล้วก็เหยียบตีนมันไปหนึ่งแต่ไม่ยักสะทกสะท้าน แง๊ T^T
“เล่นแรงนะเราอยู่นิ่งให้พี่ตรวจดีกว่านะครับเด็กดี” แล้วมันก็เอามือลูบๆคลำๆผมต่อ จับส่องมันแม้กระทั่งในรูหู หาขี้หูกินรึไงว่ะ
“ไอ่ลุงหมียักษ์โรคจิตปล่อยสักทีดิ ตรวจขนาดนี้เข้าสิงเลยไหมห๊ะ? สายแล้วนะเว้ยท่านพ่อรอผมอยู่นะเห้ยย” ด่าไปบ่นไปดิ้นไปเหนื่อยว่ะครับ แรงแมร่งเชื่อล่ะครับว่ามันลูกครึ่งยักษ์จริงๆ ตัวใหญ่มากพอโดนกอดแบบนี้เหมือนเป็ดกำลังโดนหมีจับกินเลยครับ -*-
“เรียกโรคจิตหรอ ใจร้ายจังเลย ทำไมพูดกับพี่ไม่เพราะเลย” นั่นๆมีการมาทำหน้าหงอยใส่อีก ไม่หลงกลหรอกเฟ้ย
“คลำขนาดนี้ไม่เรียกโรคจิตแล้วลุงจะให้ผมเรียกอะไร =_= “
“ก็เรียกที่รักเป็นไงครับ เพราะกว่าตั้งเยอะ” ยักคิ้วใส่อีกตะหาก ไอ่ลุงหมียักษ์นี่มันน่าบีบคอจริงๆ จะว่าไปก็ทำได้นี่หว่า หึหึ ผมร่ายมนต์ของเทวดาเบาๆให้ไอ่หมียักษ์มันรู้สึกปวดที่คอเบาๆครับ แล้วในที่สุดมันก็ปล่อยมือจากผม จังหวะหนี เผ่นครับ บินหนีอย่างว่องไป สะใจวัยรุ่นซะไม่มี
“แก่แล้วนะลุง ไม่มีเค้าอยากได้ไปทำพันธุ์หรอก” ผมตะโกนกลับไป ไม่มีการหยุดรอให้หันมามองหรอกครับเพราะผมเป็นลูกครึ่งพลังเวทย์เลยไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่อยู่แค่ 2 นาทีก็เต็มกลืนแล้วรับไปหาท่านพ่อดีกว่า ยกนี้ผมชนะ 5555
#เข้ามาประโยคผิดนะฮ๊า า ตอนที่ 2 กำลังแต่ง น้องคิบอมก็มา คุณแรมป์ไม่ได้ลืมนะฮ๊า า เรามีแขกรับเชิญพิเศษด้วย แต่ขออุ๊บไว้ก่อน ฮี่ๆ
ความคิดเห็น