คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Everything for You *~LeeTeuk x HeeChul~* Part. 1
Title: Everything for You
Author: *~FanG_HusBanD_KiM~*
Category: Drama / Romance
Pairing: LeeTeuk x HeeChul
Note: ทุกอย่างที่ไรเตอร์เขียน... เกิดจากจินตนาการของไรเตอร์ทั้งนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงแต่อย่างใด ไรเตอร์เขียนขึ้นเพื่อ... มอบความสุขให้กับทุกคนเท่านั้น
*~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~*
Everything for You
Part. 1
... หยุดเถอะคนดี จบกันแค่นี้จะดีกว่าไหม
พอเถอะหัวใจ มันเหนื่อยล้าเต็มทน ...
... เหนื่อยนะรู้ไหม ต้องมองอยู่ตรงนี้ เหนื่อยนะคนดี ทำได้เพียงแค่มอง จะรู้บ้างไหม หัวใจดวงนี้ เจ็บปวดเพียงไร เพราะมีคำว่า “เพื่อน” คอยกีดขวาง ...
... ความรักที่มอบให้เพียงฝ่ายเดียว มันจะมีประโยชน์อะไร
ความรักที่มอบให้เพียงฝ่ายเดียว มันจะสมหวังได้อย่างไร
ความรักที่ไม่ได้เกิดจากคนสองคน มันจะเป็นความรัก... ได้อย่างไร
ปล่อยให้มันจบไปจะดีกว่าไหม ความรักแบบนี้ ...
... ฉันก็เป็นคนนะ ฉันเองก็มีชีวิตจิตใจ อย่าทำเหมือนฉันสำคัญ อย่าทำเหมือนฉันมีความหมาย ถ้าสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดนั้น เพราะคำว่าเพื่อน
ได้โปรด หัวใจของฉันเจ็บช้ำมากมาย เพียงแค่นี้... ก็ปวดร้าวเหมือนคนใกล้จะตาย
ถึงแม้จะรู้ตัว ถึงแม้จะรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ แต่หัวใจมันไม่รับฟัง แต่หัวใจมันพร่ำบอก... แต่รักเธอ...
อยากจะเป็นนางมารร้าย กีดขวางทุกคนที่มากอบกุมหัวใจของเธอ อยากจะเป็นแม่มด เพื่อกักขังเธอไว้ข้างกาย และในหัวใจ แต่อยากจะเป็นนางฟ้าที่แสนดี... เพื่อให้เธอหันมาสนใจ
ผิดไหมที่ฉันจะคิดแบบนี้... เธอจะรังเกียจฉันไหมถ้าเธอรู้ว่า เพื่อนสนิทคนนี้... หลงรักเธอหมดหัวใจ...
Everything for You
สองหนุ่มคนดังของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงโซลกำลังนั่งอ่านหนังสือสำหรับเตรียมตัวสอบเก็บคะแนนย่อยที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว
“ซิน.. ซิน” เสียงเรียกของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเรียกให้ชายหนุ่มที่มีดวงหน้าสวยยิ่งกว่าสตรีเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเมื่อเห็นอาการประหลาดๆ ของเพื่อนรัก
คนสวยหันไปตามสายตาที่เพื่อนมองอยู่ ก็พบกับสาวสวยดาวคณะกำลังนั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อน คนสวยจึงละสายตาแล้วกลับมามองเพื่อนด้วยสายตาระอา
“ถูกใจอีกแล้วล่ะสิท่า ใช่ไหมอิทึก?” ซิน... หรือก็คือ คิม ฮีชอล เอ่ยถามเพื่อนรักอย่างปาร์ค จองซู หรือที่ใครต่อใครเรียกกันว่าอิทึก
หนุ่มหล่อตาสวยหันมายิ้มหวานให้เพื่อนที่รู้ใจตัวเองดีขนาดนี้ “นายนี่รู้ใจฉันไปหมดเลยน้า... อื้อ... ฉันสนอ่ะ นายช่วยฉันหน่อยดิ”
พอได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายคนสวยก็ถึงกับตาโตทันที “เป็นบ้าอะไรของนาย ธรรมดานายก็จัดการเองอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ไม่เคยขอให้ฉันช่วยเลยสักครั้ง แล้วครั้งนี้นี่อะไรกัน”
“น้า... เพื่อนรักนะ คนนี้ฉันแอบมองมาตั้งนานแล้ว ไม่อยากคบแค่ชั่วครู่ชั่วคราวก็เลิกกันนะ ฉันเคยจีบผู้หญิงจริงๆ จังๆ ซะที่ไหนล่ะ ช่วยฉันหน่อยนะเพื่อนรัก นะ... ซินนะ” อิทึกส่งสายตาอ้อนเหมือนลูกแมวกำลังออเซาะเจ้านายของมันไม่มีผิด
เมื่อโดนทั้งออดทั้งอ้อน ทั้งว่านทั้งล้อม คนสวยจึงพยักหน้ารับอย่างจำใจ ทั้งๆ ที่ในใจก็ไม่ได้อยากจะทำเลยสักนิด แต่พอเห็นใบหน้านั้นออดอ้อนก็ใจอ่อนเสียทุกครั้งไป ทั้งๆ ที่ย้ำเตือนกับใจตัวเองแล้วว่าอย่าใจอ่อนเป็นอันขาด เลือกคิด และตัดใจจากเขาเสียที แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
ใช่แล้วล่ะ!! คิม ฮีชอล กำลังหลงรักเพื่อนรักอย่างปาร์ค จองซู หมดหัวใจ ไม่ใช่เพียงแค่ครึ่งปี หรือหนึ่งปี แต่มันถึงสามปีเต็มที่พวกเขาได้รู้จักกัน ไม่สิ ต้องบอกว่า... ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฮีชอลได้เห็นอิทึกเลยด้วยซ้ำไป ทั้งสองคนได้พูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ถึงแม้จะอยากคุยมากกว่านี้ แต่ฮีชอลก็ไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น แต่เมื่อพวกเขาพักอยู่ห้องเดียวกัน อีกทั้งเวลามีงานก็มักจะโดนจับคู่ด้วยกันบ่อยๆ จึงทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น พูดคุยกันบ่อยขึ้น และก็กลายเป็นเพื่อนรักกันในที่สุด
ทั้งสองต่างก็เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ สาวๆ ทั่วมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ มีพวกหนุ่มๆ ไม่น้อยที่มักจะเข้ามาก้อล้อก้อติดฮีชอลบ่อยๆ จนอิทึกต้องออกโรงปกป้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
ถึงแม้การกระทำทุกอย่างที่ทำไปมันเป็นเพราะคำว่าเพื่อน แต่สำหรับฮีชอลแล้ว... มันไม่ใช่ มันเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยินคำว่าเพื่อน แต่เพราะเพื่อน แต่เพราะรัก จึงยอมอยู่ในสถานะแบบนี้ แม้ในใจจริงๆ แล้วจะเจ็บปวด และรวดร้าวก็ตามที
แต่เพราะรักจึงยอมทน
แต่เพราะรักจึงยอมปล่อย
แต่เพราะรักจึงยอมเจ็บ
.
.
“ทึกกี้... ทึกกี้ อิทึก!!” เสียงหวานเรียกเสียงดังพร้อมกับฝ่ามือเรียวยกขึ้นตีเข้าที่ลำแขนของคนที่นั่งเหม่ออย่างแรง
“โอ๊ย!! เจ็บนะ” คนหล่อเงยหน้าขึ้นมามองค้อนอีกฝ่าย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อฮีชอลส่งแผ่นกระดาษใบเล็กๆ มาให้
“เอาไปสิ อยากได้นักไม่ใช่รึไง เบอร์ของยัยยูนาที่นายให้ฉันไปขอให้น่ะ”
“จริงหรอ!! ขอบใจนายมากๆ เลยนะ นายนี่น่ารักจริงๆ เลย” อิทึกร้องลั่นด้วยความดีใจพร้อมกับดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดเอาไว้เสียแน่นจนฮีชอลถึงกับทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อได้สติกลับคืนมาก็รีบผลักอีกฝ่ายออกทันที
“ไอ้บ้า ทำอะไรเนี่ย น่าขนลุกชะมัด” พูดพร้อมกับแกล้งทำเป็นขนลุกขนพองให้สมจริง ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด
อิทึกทำหน้างอนใส่อีกฝ่าย ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับแผ่นกระดาษในมือ โดยไม่ทันได้เห็นสายตาที่เจ็บปวดของฮีชอลเลยแม้แต่น้อย
... เพราะนายเอาแต่มองคนอื่น เพราะนายคิดกับฉันแค่เพื่อน นายจึงไม่เคยรับรู้เลยว่า ฉันคนนี้เจ็บปวดมากแค่ไหนที่ต้องทำแบบนี้ ฉันห้ามหัวใจของตัวเองไม่ให้รักนาย แต่มันก็ไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง เพราะนายยังอยู่ตรงนี้ ข้างๆ กันนี้ มันเลยทำให้ฉัน... ตัดใจไม่ได้เสียที ...
เพราะคำว่าเพื่อนนั้นมาคอยกีดขวาง และเป็นเส้นกีดกันทุกอย่าง ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เส้นด้ายเส้นเล็กๆ แต่มันก็สามารถบังดวงตาและจิตใจของเราได้จนมิด เพราะเรามัวแต่จับจ้องไปที่ด้ายเส้นนั้น.... จึงทำให้มองไม่เห็นสิ่งอื่นที่อยู่รอบๆ เลย
“ซิน ซิน ฮีชอล” อิทึกเขย่าตัวเพื่อนรักเบาๆ
“มี... มีอะไรหรอ”
“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าดูซีดๆ ไม่สบายตรงไหนไหม บอกฉันสิ” อิทึกถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง มือเรียวยกขึ้นสัมผัสไปทั่วไปหน้าเพื่อวัดอุณหภูมิภายในร่างกายของคนสวย
“เออ... ป่าว ไม่ได้เป็นอะไรหรอก” ฮีชอลพยายามเบี่ยงตัวหลบมือของอีกฝ่าย
อีกฝ่ายทำหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ “แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ถ้ารู้สึกไม่สบายต้องรีบบอกฉันทันทีเลยนะ รู้ไหม ฉันเป็นห่วงนายนะ”
ฮีชอลนิ่งไปทันที... เป็นห่วงฉันหรอ... อย่าเลยอิทึก เพราะการที่นาย
“นี่... นายต้องไม่สบายแน่ๆ เลยซิน ทำไมถึงได้เหม่อจังเลยนะวันนี้” ร่างสูงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เพราะว่าเขาเรียกอีกฝ่ายหลายรอบแล้ว แต่ฮีชอลก็ยังคงนั่งนิ่งเฉย
“อ่ะ... เออ... ขอโทษที นายพูดว่าอะไรหรอ”
“ฉันถามนายว่า... ฉันจะโทรไปชวนยูนาไปเที่ยวดีไหม หรือว่าฉันควรจะเข้าไปทำความรู้จักกับเธอก่อนดี นายว่าฉันควรจะทำแบบไหนอ่ะ” อิทึกส่งคำถามใส่ทันที
ตลอดเวลาหลายวันมานี้อิทึกมักจะพูดเกี่ยวยูนาตลอดเวลา จนร่างบางเองก็รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งหัวใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่... ก็รู้ใช่ไหม ฮีชอลเองก็เป็นคน มีความรู้สึก และมีความอดทน
“นายว่ายูนาเค้าจะชอบดอกไม้อะไร ฉันว่าน่าจะเป็นลิลลี่นะ ดูเหมาะกับเค้ามากเลยล่ะ นายว่าไหม หรือนายคิ....” ยังไม่ทันที่อิทึกจะพูดได้จบประโยคคนสวยก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างโกรธๆ และตัดพ้อ
“นายจะเลิกพูดถึงยัยนั้นสักพักจะได้ไหม!! ฉันเหนื่อยแล้วนะอิทึก ฉันเหนื่อยแล้ว!!” พูดจบก็หันหลังแล้วเดินหนีไปทันที ปล่อยให้อิทึกนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความงุนงง และสงสัย ภายในจิตใจของอิทึกนั้นเจ็บแปลกๆ เหมือนรู้สึกว่ากำลังทำอะไรผิด แต่ไม่รู้... ว่าเขาทำอะไรผิด
หยาดน้ำตาที่อดกลั้นมานานไหลรินออกมาจากดวงตากลมโตสีดำสนิทคู่นั้น ตลอดเวลาที่ต้องทนนั่งฟังคนที่ตัวเองรักพูดถึงคนอื่นนั้นมันแสนจะเจ็บปวดและทรมาน สุดท้ายจึงต้องลุกหนีออกมาแบบนี้ เพราะถ้าขืนนั่งทนต่อไปอีกสักนิด อิทึกคงจะได้เห็นน้ำตาของฮีชอลอย่างแน่นอน
.
.
ทำไมกันหัวใจ รู้ทั้งรู้ว่าเจ็บ แต่ทำไมถึงยังยอมแบบนี้
ทำไมกันหัวใจ รู้ทั้งรู้ว่าเหนื่อย แต่ทำไมถึงยังทนอยู่แบบนี้
ทำไมกันหัวใจ รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทาง แต่ทำไมถึงยังดื้อดึงอยู่แบบนี้
ทำไมกัน... หัวใจ... ถึงได้พร่ำบอกว่า รัก... ทั้งๆ ที่ไม่มีหนทาง
เมื่อวาน... เป็นได้เพียง เพื่อน
วันนี้... เป็นได้เพียง เพื่อน
วันหน้า... เป็นได้เพียง เพื่อน
แล้วทำไม... ถึงไม่ตัดใจเสียที จะทนอยู่ทำไมให้เจ็บช้ำหัวใจ
Everything for You
หลายวันที่ผ่านมาทั้งอิทึกและฮีชอลนั้นไม่ค่อยได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่ เพราะคนสวยมักเลือกที่จะหลบหน้าหลบตาอีกฝ่าย ไม่อยากพบ ไม่อยากเจอ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากก็ตาม เพราะทั้งสองพักอยู่ห้องเดียวกัน เรียนคณะเดียวกัน แต่ฮีชอลก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เจออิทึกได้น้อยที่สุด
ส่วนตัวอิทึกเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ทำไมฮีชอลถึงต้องหลบเขาเสียทุกครั้งที่เห็น ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดลงไปรึเปล่า ความสัมพันธ์ระหว่างร่างสูงกับยูนาก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ทั้งสองคนมักจะนัดไปเที่ยวหรือทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ โดยทุกครั้ง มักจะมีสายตาที่เจ็บปวดของฮีชอลมองตามหลังไปตลอดเวลา
ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายหลีกหนี ทั้งๆ ที่พยายามหลีกเลี่ยง แต่สุดท้ายก็มักจะเดินย้อนกลับมา แล้วมองดูอิทึกเดินไปจากทางด้านหลัง.... พร้อมหยาดน้ำตา... อย่างเดียวดาย...
“ทำไมไม่บอกไปล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นข้างๆ นั้นทำเอาคนสวยถึงกับสะดุ้ง รีบเช็ดน้ำตาออกทันที
“พูดอะไรของนายน่ะซองมิน”
“รักเค้าก็บอกเค้าไปสิ จะทนทำไมให้เจ็บอยู่แบบนี้” ซองมินหันมามองฮีชอลด้วยสายตาที่ไม่เขาใจ ทั้งเขา ฮีชอลและอิทึกนั้นสนิทกันมาก แทบทุกคนเลยก็ว่าได้ที่รู้ว่าฮีชอลนั้นชอบอิทึกมากแค่ไหน จะมีก็คงแต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยสักนิด
“มันไม่มีประโยชน์หรอกซองมิน นายก็รู้ดี”
“แล้วนายจะทนเจ็บอยู่แบบนี้น่ะหรอ ฮีชอลที่ฉันรู้จักไม่ใช่แบบนี้นะ ฮีชอลที่ฉันรู้จักเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้มา” ซองมินเริ่มพูดเสียงดัง
“มันจบแล้วล่ะซองมิน ไม่มีฮีชอลคนนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เหลือเพียง... ฮีชอลที่อ่อนแอ อ่อนแอเพราะความรักเท่านั้นเอง” ฮีชอลพูดกับซองมินก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ซองมินยืนหงุดหงิดใจอยู่คนเดียว ร่างเล็กของซองมินมองตามหลังฮีชอลไปสลับกับมองไปตามเส้นทางที่อิทึกเดินไป
คนสวยเดินอย่างเหม่อลอยไปเรื่อยๆ หวังจะกลับไปที่หอพัก แต่เพราะไม่ทันระวังจึงได้ไปเดินชนใครบางคนเข้า เมื่อเงยหน้าขึ้นหวังจะขอโทษ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็รีบหันหลังเตรียมจะเดินหนีทันที แต่อีกฝ่ายก็ไวพอที่จะคว้าข้อมือนั้นแล้วลากไปด้วยกันจนได้
“น... นี่ ปล่อยฉันนะ” คนสวยร้องโวยวายพร้อมสะบัดมือให้หลุด
แต่อีกฝ่ายไม่สนใจคำพูดของฮีชอลเลยสักนิด คนตัวสูงยังคงลากร่างบอบบางไปด้วยกัน จนไปหยุดอยู่บริเวณสวนริมสระที่ไม่มีคน
“ฉันจะกลับแล้ว” ฮีชอลพูดทำท่าจะเดินหนีออกไป แต่อิทึกก็รวบตัวอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทัน
“ยังไปไม่ได้ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” อิทึกมองหน้าอีกฝ่าย
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย”
ร่างสูงจับคนสวยให้หันมาเผชิญหน้ากับตน “นายเป็นอะไร ทำไมถึงได้หลบหน้าฉัน”
“ฉันไม่ได้หลบหน้านาย” ฮีชอลขืนตัวออกจากแขนของอิทึกแล้วเดินไปนั่งอยู่บริเวณริมสระ
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคู่เป็นเวลานาน ไม่มีใครเอ่ยหรือพูดอะไรออกมา
“ฉันขอโทษ” อยู่ๆ อิทึกก็พูดทำลายความเงียบนั้น
ร่างบางหันมามองอีกฝ่าย “ขอโทษ... เรื่องอะไร”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันทำอะไรผิด ทำอะไรให้นายโกรธหรือไม่พอใจ แต่ฉันขอโทษ ฉันไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้” คนสูงเดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายพร้อมกับนั่งลงแล้วดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดเอาไว้แน่น “เราสองคนรู้จักกันมาหลายปี สนิทกัน เรียกว่าแทบจะรู้ใจกันและกันเลยด้วยซ้ำไป ฉันไม่อยากเห็นเราเป็นแบบนี้ ฉันขอโทษนะ นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ขอแค่มันทำให้นายสบายใจ และหายโกรธฉัน แล้วเรา.... กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
“กลับ... มาเป็นเหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนั้น นายจะมีความสุขใช่ไหม”
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันจะมีความสุขมากๆ เลย”
คำตอบของอิทึกทำเอาน้ำตาของร่างบางแทบจะล่วงออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น คนสวยพยายามที่จะบังคับน้ำตาของตัวเองให้ไหลย้อนกลับเข้าไป แต่มันก็แสนจะยากเย็นเหลือเกิน ฮีชอลรีบลุกขึ้นจากอ้อมกอดที่อบอุ่นและโหยหานั้นทันที
“เวลาที่อยู่กับฉัน ฉันขอแค่... นายอย่าพูดถึงคนอื่น อย่าพูดถึงยูนา หรือใครก็ตามที่ไม่ใช่ฉัน ฉันขอแค่นี้ จะได้มั๊ย” ฮีชอลหันหลังให้อีกฝ่ายแล้วพูด พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เสียงของตัวเองสั่น
“ซิน... ได้สิ ถ้านั่นจะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันทำได้”
“ถ้านายทำได้ ทุกอย่างของเรา.... จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ฮีชอลพูด “ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก นายไปก่อนเถอะนะ”
“ซิน... นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม เออ... ก็ได้ ฉันจะกลับไปก่อน รีบๆ กลับนะ เดี๋ยวมันจะเย็นแล้ว ฉันเป็นห่วงนะ” จบคำอิทึกก็ค่อยๆ หันหลังแล้วเดินออกจากไปบริเวณนั้น แต่ก็ไม่วายหันมามองคนสวยเป็นระยะๆ
พอเสียงฝีเท้าของอิทึกเงียบหายไป คนสวยก็ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาที่เก็บเอาไว้ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ความเจ็บปวดที่อัดอั้นอยู่ในใจมันไหลทะลักออกมา
“นายมีความสุขถ้าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่นายจะรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดเหลือเกินถ้าเรานั้นจะกลับไปเป็นแบบเดิม ฉันเจ็บปวด อึก... ได้ยินไหม ฉันเจ็บปวด ฮือๆๆ....”
“ตัดใจจะดีกว่าไหม” เสียงทุ้มอีกเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง
ฮีชอลรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันไปมองทันที ชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงอย่าง ชอย ซีวอน กำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองคนสวยอยู่
“ถ้ามันเจ็บปวดขนาดนั้น เลิกรักจะดีกว่าไหม” ร่างสูงมองคนสวยที่ดวงตาบวมเพราะร้องไห้อย่างหนัก ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ ส่งมือให้อีกฝ่าย “กลับเถอะ เดี๋ยวฉันเดินไปเป็นเพื่อน”
มือเรียวสวยถูกยื่นออกไปพร้อมกับจับเข้าที่มือหนานั้น ซีวอนจูงมืออีกฝ่ายก่อนจะออกเดินไปพร้อมกัน
“ฉันก็อยากจะตัดใจนะ แต่เพราะเค้ายังมาอยู่ใกล้ๆ ฉันก็เลย...”
“ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ ถ้ามันจะทำให้นายร้องไห้ล่ะก็นะ” มือหนายกขึ้นวางบนศีรษะของอีกฝ่ายก่อนจะลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน สายตาของร่างสูงเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ดึงฮีชอลเข้ามากอดเอาไว้แน่น
“ซ... ซีวอน นาย” คนสวยมีท่าทีอึกอักทันที พยายามที่จะดันตัวออกห่าง
“อยู่นิ่งๆ นะ” ซีวอนเอ่ยดุ จนคนสวยต้องนิ่งทันที “ฉันมีเรื่องจะบอกกับนาย”
“เอ๊ะ... เรื่องจะบอก เรื่องอะไรหรอ” ฮีชอลเงยหน้ามองคนที่กำลังกอดตัวเองอยู่อย่างไม่เข้าใจ
ซีวอนดันร่างของฮีชอลออกเล็กน้อย แล้วก้มลงมองหน้าสวยให้ชัดๆ พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนจะเลื่อนไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู ทำเอาคนสวยถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ นัยน์ตาสั่นระริกเหมือนคนอยากจะร้องไห้ ซีวอนที่เห็นอย่างนั้นก็ดึงฮีชอลเข้ามากอดอีกครั้ง
“อ่ะ!!” ฮีชอลร้องเบาๆ เมื่ออยู่ๆ ร่างของตัวเองก็เหมือนกับลอยออกจากอ้อมแขนของซีวอน แล้วเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของใครอีกคนแทน
“ท..ทึกกี้” คนสวยร้องออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนกอดตัวเองอยู่
ร่างสูงก้มมองคนในอ้อมแขนด้วยดวงตาแข็งกร้าวจนร่างบางเริ่มหวั่นใจ ดูท่า... อิทึกกำลังจะโกรธ และก็โกรธมากเสียด้วยสิ
“ขึ้นห้องได้แล้ว” คนตัวสูงพูดเสียงแข็งพร้อมกับตวัดสายตามองซีวอนอย่างไม่พอใจ
“เออ... เดี๋ยวก่อนสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับซีวอน” ฮีชอลพยายามขืนตัวจากการดึงของอิทึก
อิทึกหันมามองคนสวยทันที แรงบีบที่ข้อมือเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจนคนสวยต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“มีเรื่องจะคุย หรือหาเรื่องจะต่อกันบนเตียงห๊ะ!!” อิทึกตะคอกใส่ฮีชอลเสียงดังจนคนสวยถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“นายพูดจากให้มันดีๆ นะอิทึก” ซีวอนพูดเสียงเข้ม “คนที่ไม่รู้อะไรอย่างนายน่ะ อย่ามาทำเป็นหมาหวงก้างจะได้ไหม”
“นายพูดอะไรของนายซีวอน” อิทึกมองหน้าอีกฝ่าย
“นายนี่มันโง่จริงๆ เลยนะ หึ... ไม่รู้รึไงว่า...”
ยังไม่ทันที่ซีวอนจะได้พูดจบประโยคฮีชอลก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน “หยุดนะซีวอน!! อย่าพูดนะ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม นายอย่าพูดนะ”
อิทึกหันมามองฮีชอลเขม็ง แรงบีบที่ข้อมือเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวด้วยความโกรธที่ฮีชอลมีเรื่องปิดบังเขา “มีเรื่องอะไร เดี๋ยวนี้นายกล้าปิดบังฉันแล้วหรอฮีชอล”
“อย่าพึ่งพูดอะไรเลย ฉันอยากจะขึ้นไปข้างบนแล้ว” ฮีชอลเอ่ยขอร้องกับร่างสูง
“ไม่!! จนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง”
“ขอร้องล่ะทึกกี้ ฉันยังไม่พร้อมที่จะพูดตอนนี้ ฉันสัญญา ไว้ฉันจะบอกนายทุกอย่าง แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่ ตอนนี้ ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ” คนสวยพยายามอ้อนวอนอีกฝ่าย
แต่แล้วอยู่ๆ ร่างบางก็ทรุดลงกับพื้นทันที มือยกขึ้นจับบริเวณหน้าอกของตัวเองพลางหายใจหอบถี่ ซีวอนที่เห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาดูอาการทันที ผิดกับอิทึกที่ยังยืนอึ้งไม่หายเมื่อเห็นฮีชอลลืมลงต่อหน้าต่อตา
“ใจเย็นๆ นะฮีชอล ใจเย็นๆ อย่าเครียดนะอย่าเครียด” ซีวอนเอ่ยปลอบคนสวยตลอดเวลาก่อนจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมา ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหน อิทึกก็เข้ามาขวางเอาไว้
“ไอ้บ้าเอ๊ย... คนอย่างนายนี่มัน ให้ตายเถอะ หลบไปซะ”
“ไม่หลบ แล้วส่งซินมาให้ฉัน ฉันจะดูแลเค้าเอง” ร่างสูงส่งมือไปด้านหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายส่งฮีชอลให้
“ถ้าไม่อยากให้ฮีชอลเป็นอะไรไปมากกว่านี้ละก็ หลบไปซะ!!” ซีวอนเดินกระแทกไหล่อิทึกผ่านขึ้นไปบนห้องทันที “คนอย่างนาย... ไม่มีทางดูแลฮีชอลได้หรอก...”
อิทึกมองตามซีวอนที่อุ้มร่างบางขึ้นไปด้านบน ในใจรู้สึกเจ็บแปลกๆ พิกล เหมือนกำลังมีใครหรืออะไรสักอย่างมากระชากที่หัวใจของเขาด้วยความแรง ที่หัวใจของเขา... มันกระตุกตอนที่เห็นฮีชอลล้มลง เหมือนอยู่ๆ หัวใจกำลังจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น....
คนเราหนอ คนเรา... มีรักอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ แต่เจ้ากลับมองไม่เห็นมัน เจ้ากลับมองไม่เห็นคุณค่าของความรักที่เจ้ามี เจ้ากลับมองข้ามมันไป ทั้งๆ ที่หัวใจของเจ้ามิได้เป็นเช่นนั้นเลย
มันจึงทำให้.... หัวใจของเจ้าเหมือนกำลังจะหายไป... เหมือนความรักที่เจ้าได้รับ มันก็กำลัง... จะหายไปเช่นกัน
เพราะเจ้ามิเคยที่คิดจะมองหารัก เพราะเจ้ามิเคยที่คิดจะรับรู้ พระเจ้าจึงกำลังจะเล่นตลกกับเจ้า ให้เจ้า.... ต้องรู้สึกสูญเสีย....
เพราะตัวเจ้าแท้ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นเช่นนี้
เพราะเจ้า... ไม่เคยคิดที่จะดูแลความรักของเจ้า
เพราะเจ้า... ไม่เคยคิดที่จะหันมองความรักของเจ้า
เจ้า... จึงจะต้องสูญเสียรัก... ขอเจ้าไป... หากเจ้ายังไม่รีบคิดที่จะดูแล เจ้าจะต้องเสียมัน... ไปตลอดกาล... อย่างไม่มีวัน ได้หวนคืนกลับมา...
เจ้าคนโง่เขลาเอ๋ย....
เจ้ามนุษย์หน้าโง่เอ๋ย...
พระเจ้า... จะขอลงโทษเจ้า... นับแต่บัดนี้!!!
Everything for You
ความคิดเห็น