คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่3-2 จบตอน
“โอย”
เสียงโอดครวญดังขึ้นเมื่อร่างเพรียวของปทุมานอนแผ่ลงที่เก้าอี้ในห้องรับแขกของตัวเองหลังจากไปทำงานที่เจ้าหล่อนนึกสนุกไปทำมา
เพราะชีวิตเธอน่าเบื่อเลยหาอะไรสนุกๆ
แต่ทว่าวันแรกความสนุกที่เคยใฝ่ฝันก็ดูเหมือนจะเลือนหาย
เธอทำงานทั้งวันได้หยุดแค่ตอนกินข้าว ทำทั้งชงกาแฟในห้องประชุม กวาด ถู
ทิ้งขยะและอีกสารพัดที่ไม่คิดว่าแม่บ้านจะทำงานหนักขนาดนี้
ไอ้กวาดถูเธอทำได้อยู่แล้วเพราะทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก
แต่ทำทั้งสามชั้นที่เธอรับผิดชอบก็มากไปแม้จะมีป้าหัวหน้าแม่บ้านและพี่ชมพูนุชทำด้วยก็ตาม
“แคว่กๆ”
เสียงร้องของสัตว์เรียกดังขึ้นทำให้คนที่หลับตาลงลืมตาขึ้นมอง
มันมองเธอด้วยแววตาสงสัยอย่างเปิดเผย
“ไปไกลๆ
ฉันเลยไอ้ขนุน”
เอ่ยไล่เพราะรู้ว่าที่มันเสนอหน้ามาแทนที่จะนอนรอในบ้านหรือไม่ก็ให้แม่รดาโอ๋อยู่ที่บ้านใหญ่เพราะความสอดรู้ของมันที่อยากรู้เรื่องของเธอ
“ฉันไม่เล่าอะไรให้แกฟังหรอก ไอ้ขี้ฟ้อง”
เธอบอกมันก่อนจะยกมือโบกหัวมันด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้นี่ขี้ฟ้องจะตาย
เวลาเธอเล่าความลับอะไรให้มันฟังมันก็จะไปหองเฮียกิตคนที่ให้ท้ายมันตลอด
แต่แปลกที่เฮียดันฟังภาษที่มันฟ้องเรื่องเธอรู้เสียด้วย
“แคว่ก”
ร้องพร้อมสยายปีกใส่เธอเหมือนไม่พอใจที่ตบหัวมันก่อนจะหุบปีกลงและพาร่างที่เหมือนก้อนกลมๆ
กลับเข้าไปในห้องนอนทิ้งให้เธอแยกเขี้ยวให้มันอยู่คนเดียว
“ไปไหนมา”
ดูเหมือนคนรู้ภาษาห่านที่เธอนินทาจะรู้เรื่อง
เขาเดินออกมาจากห้องนอนของเธอพร้อมกับห่านขี้ฟ้อง
เขาคงเพิ่งจะตื่นเพราะดูท่าทีงัวเงีย
“ไอ้ขี้ฟ้อง”
ปทุมาด่ามันไม่ออกเสียงก่อนจะหุบปากฉับเมื่อเจอสายตาดุๆ ของกฤษฎาที่มองมายังเธอ
ปทุมารู้สึกโชคดีที่วันนี้เลิกงานตามกำหนด 5โมงเย็นเพราะเธอถึงบ้านก็เกือบ
6โมงเย็นซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่เฮียเขียดไว้ให้
“ไปหาไอ้เอมมาค่ะ” หันมาตอบคำถามพี่ชาย ชายหนุ่มที่ได้คำตอบดูจะไม่พอใจ
ดวงตาคมกริบจ้องมองน้องสาวนอกไส้แล้วเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น
คนที่มีชะงักติดหลังหัวใจเต้นตุบๆ เพราะความลับแตกก่อนเวลาอันควร
“เอมมิกาเพื่อนเรามันโดนไอ้กันต์ป่วนทั้งวัน”
เอ่ยถึงเพื่อนของสาวเจ้าพร้อมกับพี่ชายที่ชายหนุ่มเรียก “ไอ้”
อย่างชัดถ้อยชัดคำไม่มีเกรงใจเพราะว่าอายุไล่เลี่ยกันเลยดูแลและโตมาเหมือนเพื่อนมากกว่าพี่น้องแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคำหยาบใส่กันมากจนเกินขอบเขตนักนอกจากคำว่าไอ้
“หา”
คราวนี้ปทุมาเป็นใบ้
คงเพราะเฮียกันต์นั้นมีอะไรมักจะเล่าให้กฤษฎาฟังเสมอยกเว้นเรื่องของเธอเลยเล่าเรื่องของเอมมิกาให้ฟังด้วย.........เฮียกันต์นะเฮียกันต์ทำอะไรไม่ปรึกษากันเล้ย
“แหะๆ”
ปทุมาหัวเราะแห้งๆ มองหน้าพี่ชายพยายามนึกหาข้ออ้าง
“วันนี้อ่านหนังสือที่อยู่บนเตียงให้จบเล่มภายในสามชั่วโมงแล้วเฮียจะมาถาม”
ไม่ฟังข้อแก้ตัวของหญิงสาวก็เดินออกไปจากบ้านเธอทันทีโดยมีไอ้ขนุนเดินตามนายสุดรักสุดสวาทต้อยๆ
ปทุมาหันมองทั้งคู่ก่อนจะทำปากจู่ เขาลงโทษเธออีกแล้ว ตอนนี้ปทุมาได้แต่อธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าหนังสือที่เขาต้องการจะลงโทษให้เธออ่านนั้นมีหน้าเท่ากับเล่มเก่าไม่เพิ่มขึ้นเหมือนทุกครั้ง
สองเขาเรียวพาร่างตัวเองไปยังห้องนอนของตัวเอง
มองไปยังในห้องที่มีประตูเปิดอ้าเอาไว้จากฝีมือคนที่ต้องการลงโทษ
ดวงตาจดจ้องกับหนังสือเล่มสีขาวที่มีภาษอังกฤษเล่มหนาวางอยู่
พลันร่างเธอก็อ่อนแรงจนต้องทรุดลงกับพื้น
ที่เห็นไม่ต่ำหว่าพันหน้าแล้วทีนี้เธอจะอ่านยังไงให้จบภายในสามชั่วโมงแล้วยิ่งเป็นภาษาอังกฤษอีกต่างหาก..........
กฤษฎากลับมาจากบ้านใหญ่เมื่อเวลาล่วงเลยกำหนดที่เขานักน้องสาวนอกไส้เอาไว้เกือบชั่วโมงเพราะเขาถือว่าทดเวลาให้เธอได้อาบน้ำและทานข้าว
ส่วนไอ้ขนุนวันนี้มันนึกคึกอยากนอนกับกันตภัคน์ที่ป่านนี้คงปิดไฟนอนเพราะรำคาญเสียงบ่นของมัน
ไอ้ขนุนเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทที่ให้เขาลี้ยงเขาคงไม่คิดเลี้ยง
แต่พอมาสัมผัสมันฉลาดและน่ารักจนเขาและรวมถึงพี่ชายเอ็นดูไม่น้อย
“ทำไมเฮียมาช้าอ่า”
คนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้เอ่ยถามมือเรียวถือหนังสือที่เขาให้ไว้
ดวงตาปรือฉ่ำวาวเพราะความง่วง
ชายหนุ่มส่ายหน้ากับท่าทางเจ้าหล่อนก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนอนของหญิงสาวโดยที่เจ้าของห้องก็เดินตามมาอย่างรู้งาน
“อ่านจบไหม”
เขาถามเธอเมื่อนั่งลงที่เตียงของเธอ ปทุมามองหน้าเขาก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ
และเป็นอีกครั้งที่เขาถอนหายใจ
ปทุมาเป็นเด็กมีความฉลาดมากแต่เพราะความขี้เกียจทำให้เธอไม่ค่อยจะสนใจอะไรมากเท่าไหร่นอกจากกินและนอน
“โหยเฮีย
มันเป็นภาษาปะกิตอ่ะมันยาก” คนที่ถูกทำหน้าระอาใส่คุกเข่านั่งพื้นพร้อมจับเข่าของเขาแล้วทำหน้าออดอ้อน
เธออุตสาห์ทำใจอ่านหนังสือแล้วแต่พอได้แค่30หน้าเธอก็หลับไปจนกระทั่งตื่นมาตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่นล่ะ
“ผลงานวิจัยเรื่องความสามารถโดยใช้แรงจูงใจเป็นผลงานวิจัยของใคร”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายหนุ่มก็เอ่ยถามโดยที่ไม่ลืมฉวยเอาหนังสือที่ปทุมมาถือเอาไว้อยู่ก่อนหน้า
“โหยยย”
คนที่อ่านไม่ถึงถึงกับร้องครางเสียงดังเพราะความยาก แต่พอเห็นดวงตาของพี่ชายสุดหล่อทอดมองมาเธอก็ต้องรีบคิด
ขืนตอบผิดคงได้ถูกเขกกะโหลกแบบเจ็บๆ เหมือนที่ได้รับทุกครั้งแน่
“อ๋อยๆ
นึกออกแล้วๆ” ร้องขึ้นเมื่อมือหนาที่กำเข้าหากันกำลังเล็งมาที่หน้าผากของเธอ
มือหนาชะงักรอฟังคำตอบ
“เวลาคนเราทำงานปกติจะใช้ความสามารถแค่20-30% แต่ถ้าได้แรงจูงใจเราจะสามารถใช้ความสามารได้ถึง80-90% ซึ่งคนที่วิจัยเรื่องนี้คือArgyris”
คนที่กลัวโดนเขกกระบาลรีบตอบทำเอาคนที่ยกมือลดมือลงใบหน้าและแววตาแสดงถึงความพึงพอใจ
“เก่ง
อ่านอังกฤษออก” เขาเอ่ยชม ปทุมาแยกเขี้ยวในใจให้เขา แหมทำมาชม
เธอล่ะอยากถามเขากลับบ้าง
“Unity of command หมายถึงอะไร”
และดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจแค่คำถามเดียวเลยถามมาอีกข้อ
แต่ทว่าคำถามนี้ดูจะง่ายมากหญิงสาวเลยโพล่งคำตอบไปทันที
“
การบริหารที่ผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องรับคำสั่งหรือรายงาน
เสนอต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงแต่เพียงผู้เดียว” เจอคำตอบที่ง่ายจึงมั่นใจ
ตอนเสร็จก็ยักคิ้วให้
“เก่งมาก”
เขาเอ่ยชมคนที่ตอบอย่างคล่องแคล่วก่อจะวางหนังสือลงที่หัวเตียงของหญิงสาว เขาเห็นเธอตั้งใจมากเลยอนุโลมให้เข้าหล่อนได้เขานอนไว
“มานอนได้แล้ว”
ตบปุๆ ตรงข้างๆ ของตัวเองให้คนที่นั่งอยู่ที่พื้นตรงเท้าเขา
ปทุมาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“แล้วเฮียจะไม่กลับหรอ”
เอ่ยถามคนที่กำลังนอน คนที่หลับตาไปแล้วลืมตามองคนที่ยืนมองตนเองก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ขี้เกียจ”
ให้คำตอบง่ายๆก่อนจะหลับตาไปอีกรอบ คราวนี้ปทุมาเหมือนเป็นใบ้ เธอมองคนที่หลับในที่ของเธออย่างปวดหัว
เอาอีกแล้ว พอเธอตอบถูกหมดก็แกล้งเธอต่อ
“เฮีย
กลับไปนอนบ้านเลย เขาอุตสาห์ตอบถูกทุกคำถามเลยนะ” ปทุมาร้องขึ้นนั่งลงข้างๆ
คนที่หลับก่อนจะใช้มือเขย่าต้นแขนหนาของเขาเพื่อให้เขาตื่นแต่ดูเหมือนคนที่ชอบนิ่งและขี้แกล้งจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้ว
ปทุมาถอนหายใจฟืดฟาดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องไปปิดไฟเละพาร่างเพรียวของตัวเองไปนอนข้างๆ
เขาตามที่เจ้านายหมาดๆ ที่ไม่รู้ตัวอย่างจำนน
“โอ๊ย”
ร้องออกมาเมื่อดึงผาห่มมาคลุมตัวเอาไว้ก็ถูกแย่งเอาไปจนหมดผืน
ร่างเพรียวลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสีย
วันนี้เธอก็เหนื่อยมาทั้งวันยังถูกเขามาแกล้งอีกต่างหาก
สายตาขุ่นเคืองมองคนที่นอนหันหน้ามาทางเธอหลับอย่างสบายอาครอบครองผ้าห่มผืนน้อยของเธอเพียงคนเดียว
เธอจิ๊ปากใส่เขา แม้กระทั่งตอนนอก็ยังจะแกล้งเธอ
“แกล้งบ้างจะร้องไห้กลับ”
เอ่ยบอก ทุกวันนี้เธอรักเขามากกว่าเฮียกันต์ก็จริงแต่เธอก็หมั่นไส้เขามากเหมือนกัน
ไอ้แววตาดุๆ ใบหน้านิ่งๆ กับนิสัยหยิ่งโอหังและเย็นชามันน่านัก
คิดอย่างหมั่นเขี้ยว
ฟอด
ก้มลงหอมแก้มเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงอย่างแก้แค้น
กลิ่นหอมเอกลักษณ์ของเขาติดที่จมูกของเธอ มันมักเป็นแบบนี้บ่อยๆ
ก็แหมแก้มของเฮียทั้งหอมและเนียนนุ่ม
ครั้งแรกที่เธอแอบหอมก็เลยติดใจและเอามาทำบ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอทำเพราะเธอแค้นหมั่นไส้เขา
หมั่นไส้มากๆเลยล่ะ
ฟอด
จะหอมให้แก้มช้ำเลยคอยดู!!!
ความคิดเห็น