ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่3-2 จบตอน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61


                “โอย” เสียงโอดครวญดังขึ้นเมื่อร่างเพรียวของปทุมานอนแผ่ลงที่เก้าอี้ในห้องรับแขกของตัวเองหลังจากไปทำงานที่เจ้าหล่อนนึกสนุกไปทำมา เพราะชีวิตเธอน่าเบื่อเลยหาอะไรสนุกๆ แต่ทว่าวันแรกความสนุกที่เคยใฝ่ฝันก็ดูเหมือนจะเลือนหาย เธอทำงานทั้งวันได้หยุดแค่ตอนกินข้าว ทำทั้งชงกาแฟในห้องประชุม กวาด ถู ทิ้งขยะและอีกสารพัดที่ไม่คิดว่าแม่บ้านจะทำงานหนักขนาดนี้ ไอ้กวาดถูเธอทำได้อยู่แล้วเพราะทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก แต่ทำทั้งสามชั้นที่เธอรับผิดชอบก็มากไปแม้จะมีป้าหัวหน้าแม่บ้านและพี่ชมพูนุชทำด้วยก็ตาม

                    “แคว่กๆ” เสียงร้องของสัตว์เรียกดังขึ้นทำให้คนที่หลับตาลงลืมตาขึ้นมอง มันมองเธอด้วยแววตาสงสัยอย่างเปิดเผย

                    “ไปไกลๆ ฉันเลยไอ้ขนุน” เอ่ยไล่เพราะรู้ว่าที่มันเสนอหน้ามาแทนที่จะนอนรอในบ้านหรือไม่ก็ให้แม่รดาโอ๋อยู่ที่บ้านใหญ่เพราะความสอดรู้ของมันที่อยากรู้เรื่องของเธอ

                    “ฉันไม่เล่าอะไรให้แกฟังหรอก ไอ้ขี้ฟ้อง” เธอบอกมันก่อนจะยกมือโบกหัวมันด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้นี่ขี้ฟ้องจะตาย เวลาเธอเล่าความลับอะไรให้มันฟังมันก็จะไปหองเฮียกิตคนที่ให้ท้ายมันตลอด แต่แปลกที่เฮียดันฟังภาษที่มันฟ้องเรื่องเธอรู้เสียด้วย

                    “แคว่ก” ร้องพร้อมสยายปีกใส่เธอเหมือนไม่พอใจที่ตบหัวมันก่อนจะหุบปีกลงและพาร่างที่เหมือนก้อนกลมๆ กลับเข้าไปในห้องนอนทิ้งให้เธอแยกเขี้ยวให้มันอยู่คนเดียว

                    “ไปไหนมา” ดูเหมือนคนรู้ภาษาห่านที่เธอนินทาจะรู้เรื่อง เขาเดินออกมาจากห้องนอนของเธอพร้อมกับห่านขี้ฟ้อง เขาคงเพิ่งจะตื่นเพราะดูท่าทีงัวเงีย

                    “ไอ้ขี้ฟ้อง” ปทุมาด่ามันไม่ออกเสียงก่อนจะหุบปากฉับเมื่อเจอสายตาดุๆ ของกฤษฎาที่มองมายังเธอ ปทุมารู้สึกโชคดีที่วันนี้เลิกงานตามกำหนด 5โมงเย็นเพราะเธอถึงบ้านก็เกือบ 6โมงเย็นซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่เฮียเขียดไว้ให้

                    “ไปหาไอ้เอมมาค่ะ” หันมาตอบคำถามพี่ชาย ชายหนุ่มที่ได้คำตอบดูจะไม่พอใจ ดวงตาคมกริบจ้องมองน้องสาวนอกไส้แล้วเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น คนที่มีชะงักติดหลังหัวใจเต้นตุบๆ เพราะความลับแตกก่อนเวลาอันควร

                    “เอมมิกาเพื่อนเรามันโดนไอ้กันต์ป่วนทั้งวัน” เอ่ยถึงเพื่อนของสาวเจ้าพร้อมกับพี่ชายที่ชายหนุ่มเรียก “ไอ้” อย่างชัดถ้อยชัดคำไม่มีเกรงใจเพราะว่าอายุไล่เลี่ยกันเลยดูแลและโตมาเหมือนเพื่อนมากกว่าพี่น้องแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคำหยาบใส่กันมากจนเกินขอบเขตนักนอกจากคำว่าไอ้

                    “หา” คราวนี้ปทุมาเป็นใบ้ คงเพราะเฮียกันต์นั้นมีอะไรมักจะเล่าให้กฤษฎาฟังเสมอยกเว้นเรื่องของเธอเลยเล่าเรื่องของเอมมิกาให้ฟังด้วย.........เฮียกันต์นะเฮียกันต์ทำอะไรไม่ปรึกษากันเล้ย

                    “แหะๆ” ปทุมาหัวเราะแห้งๆ มองหน้าพี่ชายพยายามนึกหาข้ออ้าง

                    “วันนี้อ่านหนังสือที่อยู่บนเตียงให้จบเล่มภายในสามชั่วโมงแล้วเฮียจะมาถาม” ไม่ฟังข้อแก้ตัวของหญิงสาวก็เดินออกไปจากบ้านเธอทันทีโดยมีไอ้ขนุนเดินตามนายสุดรักสุดสวาทต้อยๆ ปทุมาหันมองทั้งคู่ก่อนจะทำปากจู่ เขาลงโทษเธออีกแล้ว ตอนนี้ปทุมาได้แต่อธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าหนังสือที่เขาต้องการจะลงโทษให้เธออ่านนั้นมีหน้าเท่ากับเล่มเก่าไม่เพิ่มขึ้นเหมือนทุกครั้ง สองเขาเรียวพาร่างตัวเองไปยังห้องนอนของตัวเอง มองไปยังในห้องที่มีประตูเปิดอ้าเอาไว้จากฝีมือคนที่ต้องการลงโทษ ดวงตาจดจ้องกับหนังสือเล่มสีขาวที่มีภาษอังกฤษเล่มหนาวางอยู่ พลันร่างเธอก็อ่อนแรงจนต้องทรุดลงกับพื้น ที่เห็นไม่ต่ำหว่าพันหน้าแล้วทีนี้เธอจะอ่านยังไงให้จบภายในสามชั่วโมงแล้วยิ่งเป็นภาษาอังกฤษอีกต่างหาก..........

                    กฤษฎากลับมาจากบ้านใหญ่เมื่อเวลาล่วงเลยกำหนดที่เขานักน้องสาวนอกไส้เอาไว้เกือบชั่วโมงเพราะเขาถือว่าทดเวลาให้เธอได้อาบน้ำและทานข้าว ส่วนไอ้ขนุนวันนี้มันนึกคึกอยากนอนกับกันตภัคน์ที่ป่านนี้คงปิดไฟนอนเพราะรำคาญเสียงบ่นของมัน ไอ้ขนุนเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทที่ให้เขาลี้ยงเขาคงไม่คิดเลี้ยง แต่พอมาสัมผัสมันฉลาดและน่ารักจนเขาและรวมถึงพี่ชายเอ็นดูไม่น้อย

                    “ทำไมเฮียมาช้าอ่า” คนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้เอ่ยถามมือเรียวถือหนังสือที่เขาให้ไว้ ดวงตาปรือฉ่ำวาวเพราะความง่วง ชายหนุ่มส่ายหน้ากับท่าทางเจ้าหล่อนก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนอนของหญิงสาวโดยที่เจ้าของห้องก็เดินตามมาอย่างรู้งาน

                    “อ่านจบไหม” เขาถามเธอเมื่อนั่งลงที่เตียงของเธอ ปทุมามองหน้าเขาก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ และเป็นอีกครั้งที่เขาถอนหายใจ ปทุมาเป็นเด็กมีความฉลาดมากแต่เพราะความขี้เกียจทำให้เธอไม่ค่อยจะสนใจอะไรมากเท่าไหร่นอกจากกินและนอน

                    “โหยเฮีย มันเป็นภาษาปะกิตอ่ะมันยาก” คนที่ถูกทำหน้าระอาใส่คุกเข่านั่งพื้นพร้อมจับเข่าของเขาแล้วทำหน้าออดอ้อน เธออุตสาห์ทำใจอ่านหนังสือแล้วแต่พอได้แค่30หน้าเธอก็หลับไปจนกระทั่งตื่นมาตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่นล่ะ

                    “ผลงานวิจัยเรื่องความสามารถโดยใช้แรงจูงใจเป็นผลงานวิจัยของใคร” ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายหนุ่มก็เอ่ยถามโดยที่ไม่ลืมฉวยเอาหนังสือที่ปทุมมาถือเอาไว้อยู่ก่อนหน้า

                    “โหยยย” คนที่อ่านไม่ถึงถึงกับร้องครางเสียงดังเพราะความยาก แต่พอเห็นดวงตาของพี่ชายสุดหล่อทอดมองมาเธอก็ต้องรีบคิด ขืนตอบผิดคงได้ถูกเขกกะโหลกแบบเจ็บๆ เหมือนที่ได้รับทุกครั้งแน่

                    “อ๋อยๆ นึกออกแล้วๆ” ร้องขึ้นเมื่อมือหนาที่กำเข้าหากันกำลังเล็งมาที่หน้าผากของเธอ มือหนาชะงักรอฟังคำตอบ

                    “เวลาคนเราทำงานปกติจะใช้ความสามารถแค่20-30% แต่ถ้าได้แรงจูงใจเราจะสามารถใช้ความสามารได้ถึง80-90% ซึ่งคนที่วิจัยเรื่องนี้คือArgyris” คนที่กลัวโดนเขกกระบาลรีบตอบทำเอาคนที่ยกมือลดมือลงใบหน้าและแววตาแสดงถึงความพึงพอใจ

                    “เก่ง อ่านอังกฤษออก” เขาเอ่ยชม ปทุมาแยกเขี้ยวในใจให้เขา แหมทำมาชม เธอล่ะอยากถามเขากลับบ้าง

                    Unity of command หมายถึงอะไร” และดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจแค่คำถามเดียวเลยถามมาอีกข้อ แต่ทว่าคำถามนี้ดูจะง่ายมากหญิงสาวเลยโพล่งคำตอบไปทันที

                    “ การบริหารที่ผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องรับคำสั่งหรือรายงาน เสนอต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงแต่เพียงผู้เดียว” เจอคำตอบที่ง่ายจึงมั่นใจ ตอนเสร็จก็ยักคิ้วให้

                    “เก่งมาก” เขาเอ่ยชมคนที่ตอบอย่างคล่องแคล่วก่อจะวางหนังสือลงที่หัวเตียงของหญิงสาว เขาเห็นเธอตั้งใจมากเลยอนุโลมให้เข้าหล่อนได้เขานอนไว

                    “มานอนได้แล้ว” ตบปุๆ ตรงข้างๆ ของตัวเองให้คนที่นั่งอยู่ที่พื้นตรงเท้าเขา ปทุมาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

                    “แล้วเฮียจะไม่กลับหรอ” เอ่ยถามคนที่กำลังนอน คนที่หลับตาไปแล้วลืมตามองคนที่ยืนมองตนเองก่อนจะถอนหายใจออกมา

                    “ขี้เกียจ” ให้คำตอบง่ายๆก่อนจะหลับตาไปอีกรอบ คราวนี้ปทุมาเหมือนเป็นใบ้ เธอมองคนที่หลับในที่ของเธออย่างปวดหัว เอาอีกแล้ว พอเธอตอบถูกหมดก็แกล้งเธอต่อ

                    “เฮีย กลับไปนอนบ้านเลย เขาอุตสาห์ตอบถูกทุกคำถามเลยนะ” ปทุมาร้องขึ้นนั่งลงข้างๆ คนที่หลับก่อนจะใช้มือเขย่าต้นแขนหนาของเขาเพื่อให้เขาตื่นแต่ดูเหมือนคนที่ชอบนิ่งและขี้แกล้งจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้ว ปทุมาถอนหายใจฟืดฟาดเสียงดังอย่างไม่พอใจ ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องไปปิดไฟเละพาร่างเพรียวของตัวเองไปนอนข้างๆ เขาตามที่เจ้านายหมาดๆ ที่ไม่รู้ตัวอย่างจำนน

                    “โอ๊ย” ร้องออกมาเมื่อดึงผาห่มมาคลุมตัวเอาไว้ก็ถูกแย่งเอาไปจนหมดผืน ร่างเพรียวลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสีย วันนี้เธอก็เหนื่อยมาทั้งวันยังถูกเขามาแกล้งอีกต่างหาก สายตาขุ่นเคืองมองคนที่นอนหันหน้ามาทางเธอหลับอย่างสบายอาครอบครองผ้าห่มผืนน้อยของเธอเพียงคนเดียว เธอจิ๊ปากใส่เขา แม้กระทั่งตอนนอก็ยังจะแกล้งเธอ

                    “แกล้งบ้างจะร้องไห้กลับ” เอ่ยบอก ทุกวันนี้เธอรักเขามากกว่าเฮียกันต์ก็จริงแต่เธอก็หมั่นไส้เขามากเหมือนกัน ไอ้แววตาดุๆ ใบหน้านิ่งๆ กับนิสัยหยิ่งโอหังและเย็นชามันน่านัก คิดอย่างหมั่นเขี้ยว

                    ฟอด

                    ก้มลงหอมแก้มเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงอย่างแก้แค้น กลิ่นหอมเอกลักษณ์ของเขาติดที่จมูกของเธอ มันมักเป็นแบบนี้บ่อยๆ ก็แหมแก้มของเฮียทั้งหอมและเนียนนุ่ม ครั้งแรกที่เธอแอบหอมก็เลยติดใจและเอามาทำบ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอทำเพราะเธอแค้นหมั่นไส้เขา หมั่นไส้มากๆเลยล่ะ

                    ฟอด

                    จะหอมให้แก้มช้ำเลยคอยดู!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×