ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่3-1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61


    บทที่3

                    เอมมิกากำลังหัวเสียกับงานที่ได้รับมอบหมายหลังจากที่มีคนมาเทคโอเวอร์บริษัทต่อจากเจ้านายเฒ่าหัวงูคนเก่า ก็ดีใจอยู่หรอกนะที่มันไปจากเธอได้สักทีแต่ไอ้หัวหน้าคนใหม่ที่เขาล่ำลือว่าหล่อนักหล่อหนานี่สิมันให้คนมาสั่งงานเธอซะอย่างกับจะรื้อประวัติก่อตั้งบริษัทมาทำวิจัยเลย

                    “เสร็จหรือยังเอมมิกา” พี่วิกานดาหัวหน้าแผนกการตลาดเอ่ยถามเธอที่กำลังเรียบเรียงงานเพื่อส่งให้เจ้านายคนใหม่ รู้สึกแปลกใจและสงสารเอมมิกาไม่ได้ที่ต้องมานั่งรื้องานเก่าๆ แบบเจาะจงคนทำ

                    “โอ๊ยพี่กานต์นี่รื้อ 30ปีนะไม่ใช่แค่ 2วันจะได้เสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง” เอมมิกาแหวขึ้นเมื่อเห็นว่าหัวหน้ามาตามเอางานทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

                    “ก็ท่านประธานเร่งพี่มาน่ะสิ” เอ่ยบอกลูกน้องทำหน้าเห็นใจทำเอาสาวคนห้าวอารมณ์ขึ้นทันที อย่างนี้มันแกล้งกันนี่หว่า

                    “เอมไปทำอะไรให้มันพี่มันถึงมาทำกับเอมอย่างนี้” สาวห้าวเอ่ยถามลูกพี่อย่างฉุนเฉียว

                    “พี่ต้องถามเอมสิว่าเคยไปเตะตัดขาท่านประธานคนใหม่หรือเปล่าถึงได้โดนแกล้งอย่างนี้” เพราะไม่ใช่แค่ให้ลื้อเอกสารนะ เมื่อวานยังแกล้งให้เอมมิกาคิดโปรเจ็คการนำเสนอการโฆษณาให้ลูกค้าโดยให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง พอนางเอาไปเสนอก็โยนเอกสารนั้นทิ้งและบอกว่าไม่ต้องทำแล้วทำเอาคนที่หัวหมุนอย่างเอมมิกาแทบจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อเคลียกับเจ้านายคนใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด

                    ปึ้ง

                    “เอมไม่ไหวละ” เอมมิกาวางแฟ้มเอกสารลงก่อนจะลึกขึ้นยืน ยังไงซะวันนี้เธอต้องเคลียกับไอ้ประธานให้รู้เรื่อง เอมมิกาเดินตรงดิ่งไปที่ลิฟต์แล้วกดชั้นที่ไอ้ประธานนั้นอยู่โดยมีวิกานดาที่วิ่งตามเอมมิกามาแต่ไม่ทัน ร่างบางกำหมัดแน่นอย่างอดทนอดกลั้น เธอแค่อยากรู้ว่าทำไมต้องเจาะจงเธอคนเดียว

                    ติ้ง

                    เสียงลิฟต์ถึงชั้นที่กดดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเลื่อนออกจากกัน เอมมิการเดินออกมาก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังห้องที่เธอเคยมาอยู่บ่อยครั้งตอนที่ประธานคนเด่ายังบริหารงาน เดินมาก็หยุดที่เลขาคนสวยน่าตาน่าฟัดสำหรับเธอนั่งเขียนอะไรสักอย่างอยู่

                    “ฉันมาพบประธาน” เอมมิกาบอก ที่จริงมันบ้าอยู่ที่มาแบบนี้เพราะน้อยมากที่คนตำแหน่งต่ำอย่างเธอจะมาพบคนที่เป็นเจ้าของบริษัทได้ เลขาสาวเงยหน้ามองก่อนจะพินิจคนที่ยืนอยู่แล้วพยักหน้า

                    “ก็เดินเข้าไปสิ” เอ่ยบอกแล้วก้มทำงานต่อทำเอาเอมมิกางงไม่น้อยแต่เมื่อเลขาสาวบอกอย่างนั้นก็เดินเข้าไปในห้องที่ประตูเปิดอ้าไว้อยู่ก่อนแล้ว เอมมิกาเดินเข้ามา ในห้องยังคงปกติเหมือนที่ประธานคนก่อนอยู่ สองขาเรียวพาตัวเองเดินไปหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของเจ้าของบริษัท ดวงตากวาดมองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่นั่งหันหลังไปมองภาพวาดที่อยู่ตรงหน้าเธอ เอมมิการู้สึกคุ้นกับลักษณะและท่าทางเขาแปลกๆ

                    “ฉันมีเรื่องจะมาถามค่ะ” เอมมิกาโพล่งถามขึ้นทำเอาคนที่นั่งชมภาพวาดของดวงจันทร์สีเงินยามค่ำคืนต้องกดยิ้มที่มุมปาก เขานั่งตัวตรงก่อนจะหมุนเก้าอี้ผู้บริหารกลับไปเผชิญหน้าของคนที่มาพบ

                    “นาย” คนที่เห็นเจ้านายคนใหม่ชัดๆ ดวงตาเบิกกว้างก่อนที่จะชี้มือไปที่หน้าของหนุ่มหล่อ ร่างของเอมมิกาสั่นอย่างโมโหและตกใจ

                    “สวัสดีครับ ลูกจ้าง” กันตภัคน์เอ่ยทักคนที่ทำท่าตกใจใส่ตนเองพร้อมยิ้มกว้างอย่างดีอกดีใจกับการพบเจอเจ้าหล่อนในครั้งนี้

                    “เพราะนายนี่เอง” เอมมิกาว่า เพราะเป็นนายนี่เธอถึงต้องทำงานงกๆ อย่างกับคนบ้าและมีไอ้บ้านี่คอยจี้เหมือนเธอเป็นวัวเป็นความ

                    “อ๊ะๆ พูดกับประธานประธานบริษัทให้เพราะๆ หน่อยสิเดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก” กันตภัคน์ว่าพร้อมยิ้มกว้างไม่หุบทำเอาเอมมิกาโมโหหนักกว่าเดิม เธอรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเบี้ยล่างให้ไอ้บ้านี่ข่มขี่ตน

                    “ไม่ต้องไล่ออกหรอก มีเจ้านายแบบนายฉันออกเอง” เอมมิกาว่า แม้เขาจะเป็นพี่เธอกลับไม่เคยเรียกเขาว่าพี่เลยด้วยซ้ำ เจอครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาและยิ่งรู้จักก็ยิ่งเกลียดมัน สาวทอมบอนพ่นลมหายใจอย่างระบายความโมโหยกมือเกาหัวที่มีผมซอยสั้น

                    “อ่อน” กันตภัคน์เอ่ยขึ้นอย่างดูถูก

                    “นายว่าใคร” เอมมิกาถามอย่างไม่พอใจ

                    “ใครก็ไม่รู้อ่อน ทำอะไรไม่เป็นเอาแต่วิ่งหนีปัญหาแค่เจอฉันก็ปอดแหก” เอ่ยว่าคนที่อยู่ตรงหน้า มองคนที่ยืนมองเขาตัวสั่นเพราะความโมโห ใจจริงกันตภัคน์ก็หวั่นใจไม่น้อยกับท่าทีสาวลุคทอมบอย เขากลัวเธอหยิบป้ายตำแหน่งที่ทำด้วยแก้วปาหัวเขาแตก

                    “ไอ้.......” เอมมิกาอยากจะด่าแต่ทว่ากลับนึกคำด่าเขาไม่ออก ชี้หน้าไปที่เขาก่อนจะกลับหมัดแล้วเดินหนีออกมาอย่างโมโหโดยมีเสียงหัวเราะสะใจของไอ้บ้านั่นดังตามหลังเธอมา.......

                    ปึ้ง!!!

                    เอมมิกาเดินกลับเข้ามาในห้องของเขาหลังจากที่ออกไปไม่กี่ชั่วโมงพร้อมกับงานที่เขาเพิ่งสั่งเจ้าหล่อนไปตอนเช้า เอมมิดาหอบหายใจมองคนที่กดยิ้มที่ริมฝีปากมองมายังตน

                    “มองทำไม หล่อหรอ” เอ่ยเย้าคนที่หอบเหนื่อย

                    “เหอะ ปลากระป๋องถูกรถทับยังหน้าตาดีกว่านายเลย” เอมมิกาว่าก่อนจะมองเอกสารที่เธอวางตรงหน้าเขาจนหล่นเกลื่อนเพราะมันเยอะมากก่อนจะวกมามองหน้าเขา

                    “เสร็จแล้วงานที่นายสั่ง หวังว่าคงพอใจ” เอมมิกาว่า เธอกลับไปก็รีบทำๆ ให้มันเสร็จ เธอจะไม่ยอมให้ไอ้บ้าหน้าไหนมาว่าเธออ่อนและเอาแต่วิ่งหนีปัญหา

                    “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มว่าพร้อมยักคิ้วให้ เอมมิกากำหมัดก่อนจะหมุนตัวทำท่าจะเดินออกไปแต่ทว่ากลับโดนคนที่ไวกว่าสั่งงานเสียก่อน

                    “เดี๋ยวช่วยไปชงกาแฟให้ผมหน่อยสิ พอดีเลขาผมไม่ว่าง” เขาเอ่ยสั่ง เอมมิกาหันขวับมามองเขาทันทีอย่างไม่พอใจ

                    “ฉันอยู่ฝ่ายการตลาดไม่ใช่เลขาหรือแม่บ้าน” เอมมิกาว่าก่อนจะหันหลังให้

                    “ก็จะได้รู้ไว้ว่าพนักงานที่นี่ทำเป็นแต่งานตัวเองแต่ไม่สนใจรอบข้าง เฮ้อ ช่างไร้ศักยภาพในการทำงานจริงๆ” ชายหนุ่มเอ่ยบ่นกับลมกับแล้งแต่ตั้งใจว่ากระทบคนที่กำลังเดินออกจากประตู เอมมิกาชะงัก เธออยากจะหันไปแล้วถลาไปขย้ำไอ้บ้านี่นักแต่ก็ต้องจำใจเดินออกมาแล้วชะงักเมื่อเห็นว่าเลขาที่ชายหนุ่มบอกว่ายุ่งกำลังนั่งทาเล็บเท้าอยู่ ตอนแรกที่เธอเดินเข้ามาแฟ้มเอกสารเยอะมากจนเธอมองไม่เห็นว่าเจ้าหล่อนทำอะไรอยู่

                    “ได้ อยากกินกาแฟใช่ไหม” เอมมิกาเดินไปยังห้องที่ใช้ชงกาแฟทันที หยิบแก้วกาแฟแล้วจัดการเทส่วนผสมอย่างที่เคยทำให้ตัวเองกินทุกวันแต่แปลกไปแค่อย่างเดียว เมื่อจัดการกดน้ำร้อนใส่เธอก็ใช้ช้อนคนก่อนจะถือกลับไปให้ไอ้เจ้านายที่นั่งเต๊ะท่ารออยู่ในห้อง

                    “กาแฟได้แล้วค่ะท่านประธาน” พูดประชดประชันให้คนที่นั่งอยู่ก่อนจะเดินออก มือเรียวกำเข้าหากันอย่างอดทนกับเสียงหัวเราะที่แว่วดังมา

                   
                    “เฮ้อ คิดไม่ผิดจริงๆ” กันตภัคน์เอ่ยออกมาอย่างครึ้มอกครึ้มใจที่รับข้อเสนอของน้องสาวที่เขาได้ตั้งสองเด้ง เด้งแรกคือเขาได้ชนะคนที่ชอบโอหังใส่เขา หยิบแก้วกาแฟแห่งชัยชนะที่ได้สั่งเอมมิกาขึ้นมาเพ่งมองอย่างกระยิ้มกระย่องและจรดริมฝีปากที่ขอบแก้วตั้งใจจะซึมซับรสชาติชัยชนะอย่างเต็มที่

                    “พรวด แค่กๆ” แต่จิบไปเพียงแค่นิดเดียวก็ต้องสำลักพ่นมันออกมาเมื่อความเข็มปร่าเต็มลิ้น วางแก้วกาแฟลงอย่างเจ็บใจ หล่อนจงใจใส่เกลือแทนน้ำตาลให้เขา

                    “ฮึ่ม เอมมิกา” เขานึกว่าตัวเองจะชนะหล่อนแต่ที่ไหนได้เจ้าหล่อนยังอุตสาห์พลิกกลับมาเสมอในยกนี้ แต่เอาก็เถอะยกนี้เขายอมให้ แล้วยกหน้าเราจะได้เห็นดีกันแน่เอมมิกา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×