คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่2-2
ปทุมาเดินเยื้องกายเข้ารั้วบ้านคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน
ดวงตาที่เคยประกายความร่าเริงนั้นหงอยจนคนที่พบเห็นได้แต่ทำหน้าสงสัย
ปทุมาแม้จะติดความเป็นส่วนตัวบ้างบางครั้งแต่เพราะเป็นคนร่าเริงยิ้มง่ายแถมพูดจามีสัมมาคารวะทำให้คนอื่นที่รู้จักรักและเอ็นดูหญิงสาวกันทุกคน
“อ้าวคุณหนู
มาทำไมคะ” นางผกาเอ่ยถามปทุมาเมื่อเดินขึ้นบันไดมาทำท่าจะตรงดิ่งไปห้องโถงของบ้าน
ปทุมาที่กลับมาจากการผจญภัยข้างนอกเงยหน้าฉีกยิ้ม
“มาตามไอ้ขนุนน่ะสิคะ”
เธอตอบเหตุผลของตัวเองไป นี่ควรเป็นเวลาที่เธออาบน้ำนอนไม่ใช่มาเดินตามไอ้สัตว์ทรยศที่ไม่ชอบเชื่อฟังเธอที่มักหนีมาที่นี่ยามดึกบ่อยๆ
แม่ระดาบอกเธอว่ากลางคืนนั้นประตูทางเข้าปิดทุกทางกล้องวงจรปิดก็มีแต่ทว่าไม่เจอภาพของไอ้ขนุนเลยแต่มันกลับไปนอนแอ้งแม้งบนโซฟาหลุยส์ตัวงามของแม่รดาเกือบทุกวันโดยมีนางผกามาเจอ
“เอ๋
มันมาหรอ ป้าไม่ยักกะเห็นมันตั้งแต่เช้า” นางผกาว่าแล้วทำหน้าครุ่นคิด
คนที่ได้ฟังอย่างนั้นก็นิ่งคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อนึกออก
“เมื่อวานพี่กันต์กับพี่กิตไม่ได้ไปหามัน
วันนี้ก็เลยมาขอเจอหน้า” ปทุมาว่าทำเอาคนได้ฟังหัวเราะคิกก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ปทุมาคอตก
ถ้ามันเป็นสุนัขหรือแมวเธอจะเข้าบ้านไม่สนใจมันแม้แต่นิด
ให้เหลียวมองก็จะไม่สนใจแต่นี่มันเป็นห่าน
เมื่อเธอเข้านอนก่อนและมันกลับบ้านมันก็จะร้องโวยวายเสียงดังชนิดที่คนที่นี่ตื่นกับทุกคนตั้งแต่คนขับรถยันคุณแม่รดาเลยทีเดียว
“ไอ้ห่านทรยศ”
เดินไปทิศทางที่คิดว่ามันน่าจะไปซุกหัวก็บ่นไป
ใบหน้าที่ล้าก็ติดความเบื่อหน่ายรำคาญไปด้วย ไปห้องแม่ดาปิดไปแล้ว
เธอชะงักก่อนจะหันไปมองปีกขวาของตัวบ้านก็พบว่าทั้งสองทางนั้นมีไปสว่างอยู่หมายความว่าอยู่ทั้งสองคน
หญิงสาวยืนนิ่งคิดก่อนจะเลือกไปฝั่งห้องพี่ชายคนโตก่อน
“อ้าว
ว่าไง” กันตภัคน์เอ่ยถามคนที่มาเคาะประตูตนเองยามวิกาล
ใบหน้าคมที่นิ่งเสมอฉีกยิ้มให้น้องสาวต่างไส้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ปทุมาไม่ตอบอะไรแต่ใช้สายตาสอดส่องเข้าไปข้างในห้องเพื่อหาไอ้ตัววุ่น
กันตภัคน์เห็นอย่างนั้นก็เลยขยับหลบให้น้องสาวนั้นมองให้ถนัด
“มันไม่ได้อยู่กับพี่
มาป้วนเปี้ยนหน่อยเดียวแล้วก็ไป” เอ่ยบอก ปทุมาเงยหน้าทำหน้าผิดหวัง
วันนี้เธอบอกคนในบ้านนี้ว่าวันนี้ขอไปเที่ยวและไอ้นั่นก็คงไปฟ้องใครอีกคนให้ลงโทษเธอและมันก็คงรอดูเธอถูกลงโทษ
“ไปเถอะมีไรก็ร้องเรียกพี่ดังๆ”
กันตภัคน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขันมองดูใบหน้ากลมนั้นเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
สองคนนี้ก็เอาเล่นแต่เกมส์ไล่จับกันไปมา
“ช่วยน้องด้วยนะ”
ปทุมาว่าก่อนจะหันหน้าไปตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพี่ชายอีกคน
เธอไม่ได้เคาะประตูเพราะรู้ว่าเขาคงรอเธออยู่ก่อนแล้วและรอให้เธอเข้าไปเอง
เมื่อเปิดประตูเข้าไปสิ่งแล้วที่ปทุมาเจอคือไอ้ตัวที่เธอมาตามหา
มันนอนอยู่บนเตียงนอนนุ่มราวกับพญาหงส์ทั้งที่เป็นแค่ห่าน
สีขนของมันตัดกับสีผ้าห่มสีน้ำเงินเข้มทำให้ดูเด่นไม่น้อยถัดจากมันไปคือชายร่างสมส่วนชายชาตรีที่นอนอยู่ในชุดนอนธรรมดาสีขาวในมือถือหนังสือเล่มหนาเกี่ยวกับการตลาดและก็ไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้ามาสนใจเธอ
“แคว่ก”
ไอ้ขี้ฟ้องร้องทันทีเมื่อเห็นเธอ
กฤษฎาลดหนังสือลงเมื่อประตูห้องปิดลงพร้อมกับร่างเพรียวที่กระดื้บมาหาตนด้วยท่าทีรู้สึกผิด
“ไอ้หนอนน้อย”
ปทุมาเงยหน้ามองคนเรียก เรียกอย่างนี้แปลว่าโกรธหนัก
เธอยิ้มไม่ออกได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด คนตรงหน้าทำหน้าโกรธเธออย่างเห็นได้ชัด
“หัดดูนาฬิกาสิมันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
เอ่ยว่าเสียงเข้มก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นจากเตียงโดยมีลูกสมุนลุกขึ้นยืนตามพร้อมสยายปีกให้คนที่อยู่ตรงหน้าหวาดกลัวมากกว่าเดิม
ปทุมาเหลือบตาไอ้คนทรยศแล้วถลึงตาใส่มัน
“ไม่ต้องไปว่ามัน
เราน่ะโตแล้วทำตัวเหมือนเด็กครั้งที่ดุไปไม่เข็ดใช่ไหม”
เอ่ยบอกเสียงเข้มก่อนจะยกสันหนังสือเขกหัวของหญิงสาวอย่างไม่ออมมือ
โป๊ก!
คนที่ถูกกระทำร้องไม่ออกได้แต่น้ำตาเล็ดเพราะความเจ็บปวด
มือเรียวยกคลำที่หัวตัวเองป้อยๆ
เธอเงยหน้ามองคนใจร้ายพร้อมเบะปากเตรียมจะร้องไห้เพราะเขาไม่ฟังเหตุผลของเธอเลย
“ห้ามร้อง
ห้ามงอแง ห้ามงอน”
คนตัวใหญ่ว่าเมื่อเห็นเจ้าหล่อนเตรียมเบะปากก่อนจะหันหลังไปมองสัตว์เลี้ยงของปทุมาที่ยืนอยู่บนเตียงนอนของเขา
“คนใจร้าย”
ปทุมาว่า ห้ามให้เธอร้อง ไม่ให้งอแง แถมไม่ให้งอนอีก
คนที่ถูกสั่งแบบนี้เป็นประจำกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้สายตาละห้อยมองคนที่หันหลังไปมองไอ้ห่านทรยศที่มองเธอด้วยความยโสโอหัง
ถ้าอยู่กับเธอเพียงลำพังคราวหน้าจะถอนขนทำห่านปักกิ่งกินซะ!
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเที่ยวกลับบ้านดึกดื่นสงสัยถูกตามใจจนเคยตัว”
คนตัวโตกว่าว่าหันหน้ามามองคนที่ทำท่าจะร้องไห้อีกรอบสายตาตำหนิหญิงสาวน้อยๆ
พร้อมส่ายหน้าใช้มือตัวเองไปจับข้อมือเล็กแล้วดึงเข้าหาตน
“นอนที่นี่นี่แหละดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ”
ว่าแล้วก็ดันร่างบางให้นั่งลงที่เตียงตัวเองส่วนไอ้ตัวรู้มากเมื่อสถานการณ์ปกติไม่ได้ดั่งใจของตัวเองก็กระโดดลงจากเตียงนอนแล้วเดินต๊อกแต๊กไปยังโซฟาตัวนุ่มที่ใช้นอนเป็นปกติเวลาอยากจะมานอนกลับกฤษฎา
“เขายังไม่ได้อาบน้ำ”
ปทุมาว่าเห็นไอ้ห่านแสนรู้มันเดินหนีไปนอนที่ของมันอย่างไม่สนใจเธอ
อย่างมันนอกจากจะไม่ช่วยเธอเวลาจะโดนดุยังคอยยุยงคอยซ้ำเติมด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องอาบ
พรุ่งนี้ค่อยอาบ” คนตัวโตว่าอย่างเอาแต่ใจดวงตาคมจ้องมองร่างเพรียวอย่างไม่วางตา
คนที่ถูกมองเบ้ปากก่อนจะสะบัดผ้าห่มแล้วล้มตัวนอนประชดคนที่เอาแต่ดุตัวเองแล้วพลิกนอนหันก้นให้
“ดื้อ”
กฤษฎาว่าก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำผ่านไปสักพักก็ออกมาจัดการปิดไฟในห้องแล้วเดินมาฝั่งตัวเองทอดมองแผ่นหลังของปทุมาด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ
สั่งว่าห้ามร้องก็คงแอบร้องไห้อยู่ คิดได้อย่างนั้นก็ขยับไปใกล้ๆ
แล้วดึงผ้าห่มมาให้ตัวเองบ้างเพราะปทุมายึดไปหมดทั้งผืน
ห่มผ้าแล้วหลับตาลงอย่างไม่สนใจคนที่นอนสะอื้นอยู่บนที่นอนเพราะวันนี้เขาก็เหนื่อยกับเรื่องของตัวเองมามากแล้ว.................
เสียงร้องโวยวายของห่านในห้องของบุตรชายทำให้นางรดาขมวดคิ้วก่อนจะหัวเราะเพราะรู้ว่าไอ้ขนุนคงมาอ้อนลูกชายคนเล็กแบบที่ชอบทำประจำและนี่ก็เช้าแล้วคงร้องโวยวายปลุกให้คนที่นอนหลับไม่สนเดือนตะวันให้เปิดประตูให้
นางรดาเดินไปยังฝั่งห้องของบุตรชายทั้งสองก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูที่มีเสียงห่านร้องโวยวาย
“แคว่กๆ”
เสียงร้องดังขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นว่ามีคนมาเปิดประตูให้ก่อนจะเดินมาพร้อมกับคลอเคลียที่ขาเรียวของนางรดาแม่ลูกสองที่ยืนมองลูกชายกับคนที่รักเหมือนลูกสาวที่นอนบนเตียงเดียวกันแต่กลับหันหลังนอนให้กันทั้งคู่
“ตากิต
กิต”
นางรดาเรียกบุตรชายเสียงดงทำเอาคนที่หลับอยู่ทั้งสองคนลืมตาขึ้นมาก่อนจะหันไปมองต้นเสียงชายหนุ่มที่ถูกเรียกหันมองปทุมาก่อนจะมองมารดาแล้วซบหน้าลงหมอน
วันนี้อุตสาห์เป็นวันหยุดเมื่อคืนก็รอยัยเด็กดื้อก็ดึกแถมยังมาเจอทั้งห่านและมารดากวนตอนเช้าอีก
“มีอะไรครับ”
เอ่ยถามทั้งที่ใบหน้ายังซบอยู่ที่หมอนของตัวเอง
แรงยวบของเตียงนอนทำให้ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนที่นอนด้วยทั้งคืนที่กำลังเดินไปเกาะแขนมารดาของเขาอย่างออดอ้อน
ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าดวงตาของปทุมามานั้นแทบจะปิดยังคงทำตัวออดอ้อนมารดาเขาได้อีก
“มันเช้าแล้วจะนอนไปถึงไหน
ไปอาบน้ำอาบท่าจะได้ไปกินเข้าเช้าด้วยกัน หนูด้วยนะลูก”
เอ่ยเสียงดุกับบุตรชายเสร็จก็หันมามองปทุมาที่เกาะแขนตนเองอย่างออดอ้อนพร้อมใช้มือลูบศีรษะของปทุมาอย่างเอ็นดู
“สองมาตรฐานจริงๆ
เลยนะครับแม่ ทีกับผมนี่ดุทีกลับยัยดื้อนี่กลับเสียงอ่อนเสียงหวาน”
เอ่ยกับมารดาก่อนจะลุกแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง
ปทุมาย่นจมูกให้คนขี้อิจฉาก่อนจะออดอ้อนคุณแม่รดาต่อ
“คุณแม่ขา
เฮียอ่ะขี้แกล้งบัวเมื่อคืนบัวจะกลับบ้านก็ขู่อยู่ได้”
ปทุมาเล่าให้คนที่ยืนรอเธอฟัง คนเป็นแม่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“อืม
แล้วทำไมพี่เขาถึงต้องแกล้งหนูล่ะ”
นางรดาเลือกใช้คำว่าแกล้งทั้งที่อยากจะใช้คำว่าลงโทษ คราวนี้ปทุมาย่นจมูกอีกครั้ง
แหมจะบอกว่าหนีเที่ยวดึกก็คงจะน่าเกลียดเกินจะบอกว่าไปคุยงานก็ไม่ได้
“คือแบบไปหาข้อมูลเรียนต่อกับยัยเอมอ่ะค่ะ”
เลยเลือกที่จะโกหกแทน คนที่ฟังคำแก้ตัวหัวเราะน้อยๆ
หยิกแก้มของเด็กขี้โกหกอย่างหมั่นไส้ระคนเอ็นดู
“ขี้โม้”
เอ่ยบอกพร้อมหัวเราะก่อนจะเดินออกไปข้างนอกโดยไม่วานกำชับให้ปทุมารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ไปทานอาหารเช้าพร้อมกัน
“คุณแม่ไม่เชื่อกันเลย”
ปทุมาว่าอย่างน้อยใจนิดๆ แหม
คนอย่างเธออยากจะฉลาดไม่ได้บ้างหรือไงนะเอะอ่ะก็ให้เฮียกฤษกับเฮียกันต์ฉลาดกันอยู่สองคนจนเธอชักจะอิจฉาซะแล้ว
“เฮีย” เอ่ยเรียกพี่ชายที่ออกมาจากห้องน้ำหลังจากรอมาเกือบครึ่งชั่วโมง
เธอล่ะเชื่อเลยผู้ชายอะไรอาบน้ำนานซะจนเธอยอมแพ้ ขนาดเธอสำอางกว่าเอมมิกายังอาบมากสุดแค่
20นาทีเท่านั้น
“อืม”
ขานรับคนที่เรียกตนเองพร้อมเดินไปหาเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้
มันถูกเรียงเป็นระเบียบจากฝีมือแม่บ้านที่บงการโดยนายหญิงของบ้านนี้
“อาบน้ำหรือทำไรเนี่ยนาน”
ทำหน้าเซ็งโลกอย่างท้อแท้ใจ รอจนท้องร้องไปหมดจะไปกินสภาพนี้คุณชายก็คงไม่ยอม
“จะให้ตอบไหม”
หันไปมองคนถามพร้อมเลิกคิ้ว คราวนี้ปทุมานิ่งอึ้งเม้มริมฝีปากตัวเองก่อนจะทำใจกล้า
“ตอบ”
เอ่ยบอกไปอย่างมั่นใจ คนเป็นพี่หัวเราะในลำคอหันหน้าหากระจกที่ใช้แต่งตัว
หยิบชั้นในราคาแพงมาก่อนจะจัดการสวมพร้อมตอบคำถาม
“ช่วยตัวเอง”
ตอบออกไปพร้อมกดยิ้มมุมปากเมื่อคนที่เขาแหย่วิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว
เสียงปิดประตูดังปังทำให้ต้องหลุดหัวเราะออกมา
เขารีบจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนจะเปิดตู้แล้วเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้คนตัวจุ้นที่วิ่งไปอาบน้ำในห้องน้ำ
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง นั่งลงบนเตียงนอนที่นอนด้วยกันมาเมื่อคืน
มองเสื้อผ้าที่หยิบมาให้พร้อมนับเลขในใจเมื่อได้ยินเสียงน้ำหยุด
“5 4 3 2.....” แต่ไม่ทันนับจบก็มีเสียงดังขึ้นเสียก่อน
“ฮือ~~~ เฮียหยิบเสื้อผ้าให้บัวหน่อย”
และก็ร้องโวยวายแบบนี้ทุกที มันเป็นแบบนี้มาสองปีแล้วและเขาคาดว่าคงจะเป็นไปอีกนานเลยล่ะ
ปวดหัวแต่ก็สนุกดีไปอีกแบบ
ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่หน้าห้องน้ำที่ประตูเปิดแง้มไว้แล้วส่งให้เจ้าหล่อน
“ใครได้เป็นเมียคงกลุ้มใจตาย”
เมื่อประตูปิดลงเขาก็ถอนหายใจออกมา
เสียงหัวเราะในห้องน้ำดังขึ้นและเขาก็ถอนหายใจอีกหนึ่งรอบ คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คงเป็นเขานี่แหละ
“เฮียผ้าขนหนูด้วยขี้หลงขี้ลืมจริงๆ
ใช้ไม่ได้เลย” เสียงร้องในห้องน้ำดังขึ้นอีกรอบพร้อมเสียงบ่นกระปอดกระแปด
และการถอนหายใจครั้งที่สามก็เกิดขึ้น เขาผิดเองที่ขี้หลงขี้ลืม..................
ความคิดเห็น