ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่2-2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61


               ปทุมาเดินเยื้องกายเข้ารั้วบ้านคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน ดวงตาที่เคยประกายความร่าเริงนั้นหงอยจนคนที่พบเห็นได้แต่ทำหน้าสงสัย ปทุมาแม้จะติดความเป็นส่วนตัวบ้างบางครั้งแต่เพราะเป็นคนร่าเริงยิ้มง่ายแถมพูดจามีสัมมาคารวะทำให้คนอื่นที่รู้จักรักและเอ็นดูหญิงสาวกันทุกคน

                    “อ้าวคุณหนู มาทำไมคะ” นางผกาเอ่ยถามปทุมาเมื่อเดินขึ้นบันไดมาทำท่าจะตรงดิ่งไปห้องโถงของบ้าน ปทุมาที่กลับมาจากการผจญภัยข้างนอกเงยหน้าฉีกยิ้ม

                    “มาตามไอ้ขนุนน่ะสิคะ” เธอตอบเหตุผลของตัวเองไป นี่ควรเป็นเวลาที่เธออาบน้ำนอนไม่ใช่มาเดินตามไอ้สัตว์ทรยศที่ไม่ชอบเชื่อฟังเธอที่มักหนีมาที่นี่ยามดึกบ่อยๆ แม่ระดาบอกเธอว่ากลางคืนนั้นประตูทางเข้าปิดทุกทางกล้องวงจรปิดก็มีแต่ทว่าไม่เจอภาพของไอ้ขนุนเลยแต่มันกลับไปนอนแอ้งแม้งบนโซฟาหลุยส์ตัวงามของแม่รดาเกือบทุกวันโดยมีนางผกามาเจอ

                    “เอ๋ มันมาหรอ ป้าไม่ยักกะเห็นมันตั้งแต่เช้า” นางผกาว่าแล้วทำหน้าครุ่นคิด คนที่ได้ฟังอย่างนั้นก็นิ่งคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อนึกออก

                    “เมื่อวานพี่กันต์กับพี่กิตไม่ได้ไปหามัน วันนี้ก็เลยมาขอเจอหน้า” ปทุมาว่าทำเอาคนได้ฟังหัวเราะคิกก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ปทุมาคอตก ถ้ามันเป็นสุนัขหรือแมวเธอจะเข้าบ้านไม่สนใจมันแม้แต่นิด ให้เหลียวมองก็จะไม่สนใจแต่นี่มันเป็นห่าน เมื่อเธอเข้านอนก่อนและมันกลับบ้านมันก็จะร้องโวยวายเสียงดังชนิดที่คนที่นี่ตื่นกับทุกคนตั้งแต่คนขับรถยันคุณแม่รดาเลยทีเดียว

                    “ไอ้ห่านทรยศ” เดินไปทิศทางที่คิดว่ามันน่าจะไปซุกหัวก็บ่นไป ใบหน้าที่ล้าก็ติดความเบื่อหน่ายรำคาญไปด้วย ไปห้องแม่ดาปิดไปแล้ว เธอชะงักก่อนจะหันไปมองปีกขวาของตัวบ้านก็พบว่าทั้งสองทางนั้นมีไปสว่างอยู่หมายความว่าอยู่ทั้งสองคน หญิงสาวยืนนิ่งคิดก่อนจะเลือกไปฝั่งห้องพี่ชายคนโตก่อน

                    “อ้าว ว่าไง” กันตภัคน์เอ่ยถามคนที่มาเคาะประตูตนเองยามวิกาล ใบหน้าคมที่นิ่งเสมอฉีกยิ้มให้น้องสาวต่างไส้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ปทุมาไม่ตอบอะไรแต่ใช้สายตาสอดส่องเข้าไปข้างในห้องเพื่อหาไอ้ตัววุ่น กันตภัคน์เห็นอย่างนั้นก็เลยขยับหลบให้น้องสาวนั้นมองให้ถนัด

                    “มันไม่ได้อยู่กับพี่ มาป้วนเปี้ยนหน่อยเดียวแล้วก็ไป” เอ่ยบอก ปทุมาเงยหน้าทำหน้าผิดหวัง วันนี้เธอบอกคนในบ้านนี้ว่าวันนี้ขอไปเที่ยวและไอ้นั่นก็คงไปฟ้องใครอีกคนให้ลงโทษเธอและมันก็คงรอดูเธอถูกลงโทษ

                    “ไปเถอะมีไรก็ร้องเรียกพี่ดังๆ” กันตภัคน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขันมองดูใบหน้ากลมนั้นเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง สองคนนี้ก็เอาเล่นแต่เกมส์ไล่จับกันไปมา

                    “ช่วยน้องด้วยนะ” ปทุมาว่าก่อนจะหันหน้าไปตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพี่ชายอีกคน เธอไม่ได้เคาะประตูเพราะรู้ว่าเขาคงรอเธออยู่ก่อนแล้วและรอให้เธอเข้าไปเอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปสิ่งแล้วที่ปทุมาเจอคือไอ้ตัวที่เธอมาตามหา มันนอนอยู่บนเตียงนอนนุ่มราวกับพญาหงส์ทั้งที่เป็นแค่ห่าน สีขนของมันตัดกับสีผ้าห่มสีน้ำเงินเข้มทำให้ดูเด่นไม่น้อยถัดจากมันไปคือชายร่างสมส่วนชายชาตรีที่นอนอยู่ในชุดนอนธรรมดาสีขาวในมือถือหนังสือเล่มหนาเกี่ยวกับการตลาดและก็ไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้ามาสนใจเธอ

                    “แคว่ก” ไอ้ขี้ฟ้องร้องทันทีเมื่อเห็นเธอ กฤษฎาลดหนังสือลงเมื่อประตูห้องปิดลงพร้อมกับร่างเพรียวที่กระดื้บมาหาตนด้วยท่าทีรู้สึกผิด

                    “ไอ้หนอนน้อย” ปทุมาเงยหน้ามองคนเรียก เรียกอย่างนี้แปลว่าโกรธหนัก เธอยิ้มไม่ออกได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด คนตรงหน้าทำหน้าโกรธเธออย่างเห็นได้ชัด

                    “หัดดูนาฬิกาสิมันกี่โมงกี่ยามแล้ว” เอ่ยว่าเสียงเข้มก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นจากเตียงโดยมีลูกสมุนลุกขึ้นยืนตามพร้อมสยายปีกให้คนที่อยู่ตรงหน้าหวาดกลัวมากกว่าเดิม ปทุมาเหลือบตาไอ้คนทรยศแล้วถลึงตาใส่มัน

                    “ไม่ต้องไปว่ามัน เราน่ะโตแล้วทำตัวเหมือนเด็กครั้งที่ดุไปไม่เข็ดใช่ไหม” เอ่ยบอกเสียงเข้มก่อนจะยกสันหนังสือเขกหัวของหญิงสาวอย่างไม่ออมมือ

                    โป๊ก!

                    คนที่ถูกกระทำร้องไม่ออกได้แต่น้ำตาเล็ดเพราะความเจ็บปวด มือเรียวยกคลำที่หัวตัวเองป้อยๆ เธอเงยหน้ามองคนใจร้ายพร้อมเบะปากเตรียมจะร้องไห้เพราะเขาไม่ฟังเหตุผลของเธอเลย

                    “ห้ามร้อง ห้ามงอแง ห้ามงอน” คนตัวใหญ่ว่าเมื่อเห็นเจ้าหล่อนเตรียมเบะปากก่อนจะหันหลังไปมองสัตว์เลี้ยงของปทุมาที่ยืนอยู่บนเตียงนอนของเขา

                    “คนใจร้าย” ปทุมาว่า ห้ามให้เธอร้อง ไม่ให้งอแง แถมไม่ให้งอนอีก คนที่ถูกสั่งแบบนี้เป็นประจำกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้สายตาละห้อยมองคนที่หันหลังไปมองไอ้ห่านทรยศที่มองเธอด้วยความยโสโอหัง ถ้าอยู่กับเธอเพียงลำพังคราวหน้าจะถอนขนทำห่านปักกิ่งกินซะ!

                    “เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเที่ยวกลับบ้านดึกดื่นสงสัยถูกตามใจจนเคยตัว” คนตัวโตกว่าว่าหันหน้ามามองคนที่ทำท่าจะร้องไห้อีกรอบสายตาตำหนิหญิงสาวน้อยๆ พร้อมส่ายหน้าใช้มือตัวเองไปจับข้อมือเล็กแล้วดึงเข้าหาตน

                    “นอนที่นี่นี่แหละดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ” ว่าแล้วก็ดันร่างบางให้นั่งลงที่เตียงตัวเองส่วนไอ้ตัวรู้มากเมื่อสถานการณ์ปกติไม่ได้ดั่งใจของตัวเองก็กระโดดลงจากเตียงนอนแล้วเดินต๊อกแต๊กไปยังโซฟาตัวนุ่มที่ใช้นอนเป็นปกติเวลาอยากจะมานอนกลับกฤษฎา

                    “เขายังไม่ได้อาบน้ำ” ปทุมาว่าเห็นไอ้ห่านแสนรู้มันเดินหนีไปนอนที่ของมันอย่างไม่สนใจเธอ อย่างมันนอกจากจะไม่ช่วยเธอเวลาจะโดนดุยังคอยยุยงคอยซ้ำเติมด้วยซ้ำ

                    “ไม่ต้องอาบ พรุ่งนี้ค่อยอาบ” คนตัวโตว่าอย่างเอาแต่ใจดวงตาคมจ้องมองร่างเพรียวอย่างไม่วางตา คนที่ถูกมองเบ้ปากก่อนจะสะบัดผ้าห่มแล้วล้มตัวนอนประชดคนที่เอาแต่ดุตัวเองแล้วพลิกนอนหันก้นให้

                    “ดื้อ” กฤษฎาว่าก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำผ่านไปสักพักก็ออกมาจัดการปิดไฟในห้องแล้วเดินมาฝั่งตัวเองทอดมองแผ่นหลังของปทุมาด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ สั่งว่าห้ามร้องก็คงแอบร้องไห้อยู่ คิดได้อย่างนั้นก็ขยับไปใกล้ๆ แล้วดึงผ้าห่มมาให้ตัวเองบ้างเพราะปทุมายึดไปหมดทั้งผืน ห่มผ้าแล้วหลับตาลงอย่างไม่สนใจคนที่นอนสะอื้นอยู่บนที่นอนเพราะวันนี้เขาก็เหนื่อยกับเรื่องของตัวเองมามากแล้ว.................

    เสียงร้องโวยวายของห่านในห้องของบุตรชายทำให้นางรดาขมวดคิ้วก่อนจะหัวเราะเพราะรู้ว่าไอ้ขนุนคงมาอ้อนลูกชายคนเล็กแบบที่ชอบทำประจำและนี่ก็เช้าแล้วคงร้องโวยวายปลุกให้คนที่นอนหลับไม่สนเดือนตะวันให้เปิดประตูให้ นางรดาเดินไปยังฝั่งห้องของบุตรชายทั้งสองก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูที่มีเสียงห่านร้องโวยวาย

                    “แคว่กๆ” เสียงร้องดังขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นว่ามีคนมาเปิดประตูให้ก่อนจะเดินมาพร้อมกับคลอเคลียที่ขาเรียวของนางรดาแม่ลูกสองที่ยืนมองลูกชายกับคนที่รักเหมือนลูกสาวที่นอนบนเตียงเดียวกันแต่กลับหันหลังนอนให้กันทั้งคู่

                    “ตากิต กิต” นางรดาเรียกบุตรชายเสียงดงทำเอาคนที่หลับอยู่ทั้งสองคนลืมตาขึ้นมาก่อนจะหันไปมองต้นเสียงชายหนุ่มที่ถูกเรียกหันมองปทุมาก่อนจะมองมารดาแล้วซบหน้าลงหมอน วันนี้อุตสาห์เป็นวันหยุดเมื่อคืนก็รอยัยเด็กดื้อก็ดึกแถมยังมาเจอทั้งห่านและมารดากวนตอนเช้าอีก

                    “มีอะไรครับ” เอ่ยถามทั้งที่ใบหน้ายังซบอยู่ที่หมอนของตัวเอง แรงยวบของเตียงนอนทำให้ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนที่นอนด้วยทั้งคืนที่กำลังเดินไปเกาะแขนมารดาของเขาอย่างออดอ้อน ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าดวงตาของปทุมามานั้นแทบจะปิดยังคงทำตัวออดอ้อนมารดาเขาได้อีก

                    “มันเช้าแล้วจะนอนไปถึงไหน ไปอาบน้ำอาบท่าจะได้ไปกินเข้าเช้าด้วยกัน หนูด้วยนะลูก” เอ่ยเสียงดุกับบุตรชายเสร็จก็หันมามองปทุมาที่เกาะแขนตนเองอย่างออดอ้อนพร้อมใช้มือลูบศีรษะของปทุมาอย่างเอ็นดู

                    “สองมาตรฐานจริงๆ เลยนะครับแม่ ทีกับผมนี่ดุทีกลับยัยดื้อนี่กลับเสียงอ่อนเสียงหวาน” เอ่ยกับมารดาก่อนจะลุกแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง ปทุมาย่นจมูกให้คนขี้อิจฉาก่อนจะออดอ้อนคุณแม่รดาต่อ

                    “คุณแม่ขา เฮียอ่ะขี้แกล้งบัวเมื่อคืนบัวจะกลับบ้านก็ขู่อยู่ได้” ปทุมาเล่าให้คนที่ยืนรอเธอฟัง คนเป็นแม่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

                    “อืม แล้วทำไมพี่เขาถึงต้องแกล้งหนูล่ะ” นางรดาเลือกใช้คำว่าแกล้งทั้งที่อยากจะใช้คำว่าลงโทษ คราวนี้ปทุมาย่นจมูกอีกครั้ง แหมจะบอกว่าหนีเที่ยวดึกก็คงจะน่าเกลียดเกินจะบอกว่าไปคุยงานก็ไม่ได้

                    “คือแบบไปหาข้อมูลเรียนต่อกับยัยเอมอ่ะค่ะ” เลยเลือกที่จะโกหกแทน คนที่ฟังคำแก้ตัวหัวเราะน้อยๆ หยิกแก้มของเด็กขี้โกหกอย่างหมั่นไส้ระคนเอ็นดู

                    “ขี้โม้” เอ่ยบอกพร้อมหัวเราะก่อนจะเดินออกไปข้างนอกโดยไม่วานกำชับให้ปทุมารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้ไปทานอาหารเช้าพร้อมกัน

                    “คุณแม่ไม่เชื่อกันเลย” ปทุมาว่าอย่างน้อยใจนิดๆ แหม คนอย่างเธออยากจะฉลาดไม่ได้บ้างหรือไงนะเอะอ่ะก็ให้เฮียกฤษกับเฮียกันต์ฉลาดกันอยู่สองคนจนเธอชักจะอิจฉาซะแล้ว

                    “เฮีย” เอ่ยเรียกพี่ชายที่ออกมาจากห้องน้ำหลังจากรอมาเกือบครึ่งชั่วโมง เธอล่ะเชื่อเลยผู้ชายอะไรอาบน้ำนานซะจนเธอยอมแพ้ ขนาดเธอสำอางกว่าเอมมิกายังอาบมากสุดแค่ 20นาทีเท่านั้น      

                    “อืม” ขานรับคนที่เรียกตนเองพร้อมเดินไปหาเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ มันถูกเรียงเป็นระเบียบจากฝีมือแม่บ้านที่บงการโดยนายหญิงของบ้านนี้

                    “อาบน้ำหรือทำไรเนี่ยนาน” ทำหน้าเซ็งโลกอย่างท้อแท้ใจ รอจนท้องร้องไปหมดจะไปกินสภาพนี้คุณชายก็คงไม่ยอม

                    “จะให้ตอบไหม” หันไปมองคนถามพร้อมเลิกคิ้ว คราวนี้ปทุมานิ่งอึ้งเม้มริมฝีปากตัวเองก่อนจะทำใจกล้า

                    “ตอบ” เอ่ยบอกไปอย่างมั่นใจ คนเป็นพี่หัวเราะในลำคอหันหน้าหากระจกที่ใช้แต่งตัว หยิบชั้นในราคาแพงมาก่อนจะจัดการสวมพร้อมตอบคำถาม

                    “ช่วยตัวเอง” ตอบออกไปพร้อมกดยิ้มมุมปากเมื่อคนที่เขาแหย่วิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว เสียงปิดประตูดังปังทำให้ต้องหลุดหัวเราะออกมา เขารีบจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนจะเปิดตู้แล้วเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้คนตัวจุ้นที่วิ่งไปอาบน้ำในห้องน้ำ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง นั่งลงบนเตียงนอนที่นอนด้วยกันมาเมื่อคืน มองเสื้อผ้าที่หยิบมาให้พร้อมนับเลขในใจเมื่อได้ยินเสียงน้ำหยุด

                    5 4 3 2.....” แต่ไม่ทันนับจบก็มีเสียงดังขึ้นเสียก่อน

                    “ฮือ~~~ เฮียหยิบเสื้อผ้าให้บัวหน่อย” และก็ร้องโวยวายแบบนี้ทุกที มันเป็นแบบนี้มาสองปีแล้วและเขาคาดว่าคงจะเป็นไปอีกนานเลยล่ะ ปวดหัวแต่ก็สนุกดีไปอีกแบบ ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่หน้าห้องน้ำที่ประตูเปิดแง้มไว้แล้วส่งให้เจ้าหล่อน

                    “ใครได้เป็นเมียคงกลุ้มใจตาย” เมื่อประตูปิดลงเขาก็ถอนหายใจออกมา เสียงหัวเราะในห้องน้ำดังขึ้นและเขาก็ถอนหายใจอีกหนึ่งรอบ คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คงเป็นเขานี่แหละ

                    “เฮียผ้าขนหนูด้วยขี้หลงขี้ลืมจริงๆ ใช้ไม่ได้เลย” เสียงร้องในห้องน้ำดังขึ้นอีกรอบพร้อมเสียงบ่นกระปอดกระแปด และการถอนหายใจครั้งที่สามก็เกิดขึ้น เขาผิดเองที่ขี้หลงขี้ลืม..................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×