ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่2-1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61


    หลังจากที่สมัครงานที่บริษัทของพี่ชายตัวเองเสร็จปทุมาก็มาที่ห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนักเพราะว่ามีนัดกับเพื่อนรักที่เธอเพิ่งจะขายให้พี่ชายไปหมาดๆ ร่างเพรียวนั่งลงที่เก้าอี้ในร้านกาแฟชื่อดังพร้อมกับแก้วโกโกร้อนที่เธอสั่งมาสายตาเหลือบไปยังประตูร้านที่มีร่างเพรียวระหงไม่ต่างจากเธอมีเพียงผมที่เปลี่ยนบุคลิกของเอมมิกาให้ดูเปรียวและทะมัดทะแมงมากกว่าบอบบางอย่างเธอ

    “ทำไมหน้ามุ่ย” ปทุมาเอ่ยถามคนที่นั่งลงข้างๆ พร้อมยกแก้วโกโก้ขึ้นดื่มอย่างละเมียดในรสชาติของมัน

    “บริษัทฉันถูกเทคจากไอ้เฮงซวยที่ไหนก็ไม่รู้” คนที่หัวเสียจากที่ทำงานเอ่ยบอกอย่างหัวเสีย

    พรวด!

    “แค่กๆ” คนที่ยกแก้วโกโก้จิบพ่นพรวดน้ำโกโก้ออกมาทันทันทีพร้อมไอสำลักจนเอมมิกาต้องรีบส่งทิชชู่ให้

    “เป็นอะไรของแกวะ อี๋” ร้องขึ้นก่อนจะต้องทำหน้าหยี๋ใส่เศษน้ำโกโก้ที่ติดหน้าตัวเอง หยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าของตัวเองมองเพื่อนด้วยสายตาไม่พอใจ

    “โทษทีโทษที พอดีมันร้อนไปหน่อย” รีบเอ่ยแก้ตัวมองเพื่อนเลิกลักเมื่อเจอสายตาจับผิด

    “ไอ้บัวใต้ตม แกปิดอะไรไว้บอกฉันมาเดี๋ยวนี้” เอ่ยถามคนเป็นเพื่อนเมื่อเจอท่าทางไม่น่าไว้วางใจจากปทุมาที่แสดงออกมา เวลามันปิดบังอะไรมันมักจะแสดงอาการ้อนรนแบบนี้ใส่ตนเสมอ

    “ไม่มี๊” คนที่ถูกเรียกบัวใต้ตมรีบร้องบอกเพื่อน เอมมิกาหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อก่อนจะสะดุ้งเมื่อเจอกับใครคนหนึ่งทางประตู

    “ไอ้บัวถ้ามีคนถามแกว่ามากับใครแกบอกว่ามาคนเดียวนะ” หญิงสาวว่าก่อนจะรีบย้ายก้นตัวเองจากโต๊ะที่นั่งอยู่ติดหน้าร้านขยับเข้าไปนั่งโต๊ะในสุดพร้อมกับยกนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะมาปิดหน้าเองอย่างกับจะปิดบังมิดชิด

                    “อะไรของมัน” ปทุมาว่าละสายตาจากเพื่อนจอมเพี้ยนของตัวเองไปที่หน้าร้านก็พบว่าพี่ชายคนโตกกำลังเดินมาทางนี้คิ้วที่ขมวดเข้าหากันตอนแรกคลายออกพร้อมกับหัวเราะออกมาน้อยๆ เอมมิกาไม่เคยแพ้ใครในโลกแต่แพ้ผู้ชายหน้านิ่งพี่ชายของเธอ

                    “จะกลับยังบัว” ร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากน้องชายเดินเข้ามาหาน้องสาวนอกไส้พร้อมเอ่ยถามแต่ทว่าสายตากลับกวาดมองไปรอบๆ ร้านเพื่อหาใครอีกคน

                    “ยังค่ะ” ปทุมาตอบพร้อมส่ายหน้ากับท่าทางของพี่ชายคุยกับเธอแต่ว่ามองหาเพื่อนเธอ มันแปลว่าอะไร เจอกันทีไรก็กัดกันได้ตลอดเวลา คนที่เจอโจทย์กดยิ้มมุมปากเอามือล้วงกระเป่ากางเกงออกพร้อมกับยกมือเรียกพนักงานเสริฟแล้วยื่นเงินให้แล้วกระซิบบอกอะไรบางอย่าง

                    “งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน ไว้เจอกันที่บ้าน” กันตภัคน์บอกน้องสาวแล้วยกมือยีหัวจนผมที่หวีมาฟูฟ่องอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินออกจากร้านไปและไม่ทันที่ปทุมาจะเอ่ยว่าพี่ชายเสียงกรี๊ดของสาวทอมบอยก็กรีดร้องขึ้นเสียงดัง ร่างเพรียวลุกขึ้นจากโต๊ะปรี่มาที่เธออย่างรวดเร็วใบหน้าแดงจัดเพราะความโมโห

                    “ดูพี่แกด้วยไอ้บัว มันให้พนักงานมาบอกว่าฉันหน้ากระดานให้เอาทิชชู่บนโต๊ะมายัดทำนม” คนเป็นเพื่อนกรีดร้องปทุมาหลุดขำเมื่อได้ยินไม่ได้สนใจท่าทีโกรธจัดของเพื่อนเลยสักนิด

                    “เอาน่าครั้งที่แล้วก็ก็ทำพี่ชายฉันไว้แสบนี่นา” นึกถึงเรื่องที่ไปงานการกุศลที่บริษัทของเอมมิกาเป็นเจ้างานแล้วเพื่อนเธอก็ฉีกหน้าก็จะขำหนักกว่าเดิม เอมมิกาที่อยู่ในชุดสูทผู้หญิงเรียกให้เธอเอาแผ่นกระดาษไปให้พี่ชายที่อยู่ท่ามกลางแวดวงนักธุรกิจด้วยข้อความว่า

                    หมอเสกสรรค์ หมอผ่าตัดแปลงเพศที่ดีที่สุดในประเทศไทย 09878xxxxxx เบอร์ที่คุณอยากได้ฉันหาให้แล้วค่ะ

                    “ใช่สิฉันก็แค่เพื่อนไม่ใช่พี่ชายสุดหล่อของแก” คนเป็นเพื่อนพูดอย่างน้อยใจนั่งลงที่เดิมของตนเองแล้วสะบัดหน้าอย่างไม่พอใจเพื่อนที่อยู่ตรงข้าม ปทุมาที่มองก็ยิ้มหนักกว่าเดิม

                    “เอ้าไหนแกบอกผู้ชายบ้านนี้มีแต่เห่ยๆ ไหงมาชมว่าหล่อ” ปทุมาทักพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าเรียว คนที่เพิ่งโดนท้วงหน้าแดง

                    “ฉันหมายถึงว่าของแกไม่ใช่ของฉัน ก็แกชอบบอกว่าพี่ตัวเองหล่ออย่างนั้นอย่างนี้” เอมมิกาว่าแล้วแสร้งยกโกโก้ของเพื่อนขึ้นจิบโดยที่ปทุมายังยิ้มกริ่มกับคำตอบเพื่อน เอมมิกากับพี่ชายคนโตของเธอเป็นคู่กัดที่มองทีไรก็ต้องยิ้มตามทุกที เหมือนมวยถูกคู่แต่นั้นหมายถึงเพียงแค่คู่กัดไม่ใช่คู่รัก พี่ชายของเธอแต่ละคนไม่เหมาะที่จะเป็นคนรักที่ดี เพราะเรื่องนี้เธอสัมผัสมากับตัว..............   

     

    อรวีกำลั่งนั่งกินข้าวเย็นเพียงลำพังที่คอนโดของตัวเอง สายตาเหม่อมองไปด้านนอกที่เป็นวิวยามเย็นของเมืองหลวง ถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องของเธอ สายตาจ้องมองหนุ่มใหญ่ก่อนจะหันกลับไปในทิศทางเดิม

    “เป็นอะไรอีก” กฤษฎาเอ่ยถามคนที่ทำท่าทางเหมือนว่าแบกโลกไว้ทั้งใบ วางกระเป๋าเองสารลงที่โซฟาตัวยาวก่อนจะเดินมาหาอรวีแล้ววางมือหนาที่ไหล่บอบบางของเธอ

    “เมื่อไหร่เราจะบอกเรื่องของเรากับครอบครัวกิตและคนอื่นๆ” อรวีเอ่ยถามคนที่วางมือบนไหล่ของคนเอง กฤษฎาถอนหายใจเมื่อได้ฟังคำของหญิงสาวสมองนึกถึงใครอีกคนที่จะได้รับผลกระทบทันทีถ้าเขาพูดเรื่องตนเองกับอรวีออกไป

    “รออีกสักพักได้ไหม” เอ่ยขอเธอ หญิงสาวหันมามองดวงตาฉ่ำวาวเพราะความน้อยใจในตัวชายหนุ่มและเริ่มจะไม่ไหวกับสิ่งที่เก็บเอาไว้

    “เราเริ่มจะเก็บเรื่องนี้ไม่ไหวแล้วกิต เราเหนื่อย” คำพูดของอรวีทำเอาชายหนุ่มอึ้ง ปกติสาวเจ้าจะร่าเริงและดูวีนๆ เหมือนนางร้ายแต่ครั้งนี้คงจะเหลืออดจริงๆ

    “ขอเวลาให้เราหน่อย” เอ่ยขอพร้อมบีบไหล่บางเบาๆ เป็นการบอกว่าขอให้เชื่อใจเขา อรวีถอนหายใจ น้ำตาร่วงเผาะลงที่จานข้าวของตัวเอง

    “ทำไมขี้แยจัง ปกติไม่ใช่อย่างนี้ต้องวีนใส่สิ” เขาเอ่ยถามเธออย่างเป็นห่วง เห็นท่าทางอรวีแล้วก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย

    “ฉันคิดว่าตัวเองท้อง” อรวีหันหน้ามาบอกคนที่ถามด้วยน้ำตา............และกฤษฎาก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ คำตอบที่ได้เหมือนว่ามีไม้หน้าสามมาฟาดที่หน้าเขา

    “แน่ใจแล้วหรอ” เอ่ยถามสาวเจ้าเสียงเบา หัวใจเต้นตุบๆ

    “ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลย ฮึก ฉันกลัว” เอ่ยบอกเสียงสั่น ความกลัวเกาะกุมหัวใจกับสิ่งที่กำลังเผชิญ ร่างบางสั่นน้อยๆ น้ำตาร่วงหยดลงหยดแล้วหยดเล่า กฤษฎาเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ดึงคนที่ร้องไห้เข้ามากอดอย่างปลอบประโลมทั้งที่ตัวเองก็ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย...............

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×