ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1-1

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 61


    บทที่1

                    “ไปไหนมา” เสียงเข้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากที่หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านไม้ชั้นเดียวของตนเองที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่นัก ไฟที่ถูกปิดไว้สว่างวาบก่อนที่ร่างหนาของใครคนหนึ่งจะปรากฏขึ้น ดวงตากลมโตที่ปรับแสงไม่ได้กระพริบปริบๆ มองคนที่จ้องมองเธอด้วยความดุดันอย่างจ๋อยๆ

                    “เขาไป......” ตอนแรกก็หาข้ออ้างไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินไว้มากมาย แต่พอมาถึงตอนนี้เธอกลับนึกถึงข้อแก้ตัวที่คิดมาไม่ออกเลย เมื่ออ้ำอึ้งต่อไปเห็นท่าตัวเองจะโดนดุอีกมากหญิงสาวเลยฉีกยิ้มกว้าง ริมฝีปากชมพูระเรื่อยเผยออย่างออดอ้อนคนเป็นพี่ชาย ถลาเข้าไปเกาะแขนที่สวมชุดสูทสุดหรูแล้วเอาใบหน้าของตัวเองถูไปมา

                    “เขาคิดถึงเฮียที่สุดในโลก ว่าแต่มีของฝากให้เขามั้ยอ่า” ปทุมาเอ่ยเปลี่ยนเรื่องแล้วถือโอกาสทวงของฝากจากคนเป็นพี่ชายที่ไปคุยงานที่สิงคโปร์เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง

                    “หึ” เสียงคนทำเสียงไม่พอใจในลำคอทำให้ปทุมาต้องเงยหน้ามองกฤษฎาพี่ชายไม่แท้ของตัวเอง เธอย่นจมูกเมื่อพี่ชายสุดหล่อไม่หลงกลแถมยังทำท่าโกรธเธอซะมากมาย มือเรียวที่คล้องแขนพี่ชายเมื่อครู่ค่อยๆ ปล่อยลงก่อนจะถอยห่างจากพี่ชายด้วยท่าทีสำนึกผิด

                    “ไปไม่กี่วันริอาจหนีไปเที่ยวกลางคืนอีกแล้วหรือไง” กฤษฎาถามเสียงเข้มดวงตายังมองไปที่ร่างเพรียวบางแต่ใบหน้ากลับผ่อนคลายลง แค่ได้ยินเสียงออดอ้อนเขาก็แทบจะยกโทษให้ยัยเด็กดื้อคนนี้แล้ว

                    “ก็ไอ้เอมมันชวนอ่ะ แต่มันมีเหตุผลนะ” ว่าแล้วก็เงยหน้าขึ้นโบ้ยความผิดไปให้เพื่อนรักที่ป่านนี้ไม่รู้จะถึงห้องพักแล้วหรือยัง แต่เมื่อสบตากับดวงตาเข้มนั่นก็ต้องก้มหน้าดั่งเดิม

                    “ไม่มีของฝาก สำหรับเด็กดื้อ” เขาบอกไปทั้งที่เอาของฝากที่มักซื้อมาให้เสมอไปวางที่ห้องของเธอเรียบร้อยแล้ว

                    “เขาไม่เด็กแล้วนะ” เถียงขึ้นทันที ปทุมาเบะปาก เธออายุ25ปีแล้วแต่พี่ชายนอกไส้ของเธอยังเอาแต่บอกว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่นั่นแหละ เด็กอะไรจะตัวใหญ่ปานควายอย่างนี้ ไปๆ มาๆ เจ้าหล่อนก็กลับมาแขวะตัวเองเสียอย่างนั้น

                    “เด็ก” คราวนี้คนที่ไม่เคยยอมแพ้บอกเสียงเข้มกว่าเดิมจนคนที่ฟังต้องเบะปากอย่างจะร้องไห้ โดนด่าว่าเด็กแล้วยังถูกโกรธอีกต่างหาก

                    “เด็กก็ได้” ในเมื่อเอาชนะไม่ได้ก็ต้องจำยอมแพ้ เธอไม่อยากเถียงเพราะตนเองยังมีโทษอยู่ คนตัวโตมองหญิงสาวที่ยอมรับอย่างพอใจ

                    “ของฝากไม่ได้ไม่เป็นไร แต่เฮียไม่โกรธเค้าใช่ม้า” เธออ้อนต่อก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มกดยิ้มที่มุมปาก แม้จะเป็นเสี้ยวเล็กๆ แต่เธอรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธเธอจริง พอรู้อย่างนั้นก็ถลาไปกอดร่างหนาอีกครั้งอย่างออดอ้อน

                    “ดึกมากแล้ว พี่จะกลับไปอาบน้ำนอน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” เขาบอกเมื่อเจ้าของร่างบางชักจะอ้อนเขามากเข้าไปใหญ่ ตัดสินใจดันร่างของปทุมาออกจากร่างของตัวเองแล้วใช้มือยีผมยาวสลวยสีดำเหลือบน้ำตาลอย่างเอ็นดู

                    “โอเคค่ะ พรุ่งนี้จะไปหาแต่เช้า” เธอว่าพร้อมยกมือตะเบะที่เหนือคิ้ว กฤษฎาได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็ยอมเดินหันหลังกลับออกไปแต่ยังเดินไม่ไปไหนปทุมาก็คว้าแขนหนาเอาไว้ก่อน ใบหน้าคมแต่ยังนิ่งเรียบหันมามอง

                    “พอพี่มีแฟนพี่ก็ไม่เคยบอกฝันดีเขาเลยอ้ะ” ปทุมาบอกเสียงน้อยใจ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ ทำเอาคนมองต้องส่ายหน้าอีกรอบ

                    “พี่มีแฟนก็ต้องใช้กับแฟนสิ หรือเราจะมาเป็นแฟนพี่” คนที่ติดเงียบตัดสินใจพูด แทนที่หญิงสาวตรงหน้าจะอึ้งกลับหัวเราะชอบอกชอบใจกับประโยคที่เขาเอ่ยออกไป

                    “เป็นแฟนพี่เนี่ยนะ ใบบัวกินหญ้าดีกว่า” ว่าแล้วก็กระโดดไปจุ๊บแก้มพี่ชายของตัวเองก่อนจะวิ่งไปที่ห้องนอนของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อคงได้โดนบ่นว่าเป็นสาวแล้วยังทำตัวเหมือนเด็กๆ

                    “ยัยเด็กดื้อ” เสียงคนแก่กว่าคำรามเสียงดังเมื่อถูกเล่นอะไรพิเรนทร์  ถอนหายใจอย่างทำใจก่อนจะจัดการปิดไฟให้แล้วปิดประตูให้ปทุมาก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านของตัวเองด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก แม้บางครั้งจะเบื่อแต่การมีคนอย่างปทุมาในชีวิตก็ทำให้เขามีความสุขไม่น้อย

    “เอ๊ะ นี่มัน” เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้วปทุมาก็สังเกตเห็นถุงกระดาษขนาดใหญ่วางอยู่บนที่นอนเธออยู่สามสี่ถุง เธอยิ้มกว้างเมื่อสุดท้ายพี่ชายสุดหล่อของตัวเองก็รักเธอมากโดยที่ไม่ลืมของฝากเลยสักครั้งแต่พอนึกอะไรได้ก็ต้องหน้าบึ้ง ปทุมาหันไปมองข้างเตียงของตัวเองในอีกฝั่งก่อนจะถลึงตาใส่สัตว์ปีกตัวใหญ่สีขาวเนียนละมุนตาที่นอนขดลืมตามองเธอแป๋วโดยไม่ร้องออกมา

                    “ไอ้ขนุน บอกกี่ครั้งละอย่าให้ใครเข้ามาในห้องพี่ เป็นอย่างนี้ทุกที พอเป็นเฮียกิตเฮียกันของแกนี่ทรยศฉันตลอด” บ่นไปอย่างไม่สนใจอะไรมากก่อนจะเชิดหน้าใส่สัตว์เลี้ยงของตนแล้วมารื้อของฝากที่พี่ชายซื้อมาฝากก่อนจะยิ้มกว้างอย่างถูกใจเมื่อรู้ข้างในคืออะไร รูปโปสการ์ดสวยๆ พร้อมกับผ้าพันคอและเสื้อผ้า

                    “แคว่กๆ” เสียงร้องของไอ้ขนุนร้องขึ้นอย่างทักท้วงอย่างรู้ทันเจ้านาย ปทุมาหันไปมองมัน

    “อะไรไอ้ขนุน นอนไปเลย” หญิงสาวแหวใส่มันก่อนจะจัดการเก็บของฝากแล้วเอาไปเก็บก่อนจะมานั่งเล่นเกมส์จ้องตากับสัตว์เลี้ยงของตนเอง ที่จริงจะบอกของเธอก็ไม่ถูกหรอก เมื่อ8 ปีที่แล้วแม่เธอเป็นคนเก็บมันมาจากริมคลองก่อนจะเอามาเลี้ยง พอไม่ถึงอาทิตย์มารดาและบิดาเธอก็เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ไม่อยากจะบอกซะเท่าไหร่ว่าครั้งแรกที่เธอเห็นมันไม่ถูกชะตาเลยสักนิด

    “แคว่ก” มันร้องขึ้นเมื่อเจ้านายยังไม่ลดละการจ้องตากับมัน ปทุมาหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวที่มีขนสีขาวสะอาดอย่างเอ็นดู

    “จะบ้าหรือไง นั่นเฮียกิต พี่น้องกัน ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นเลย” เธอบอก สายตาของมันกำลังจับผิดเธอเธอรู้ ไอ้นี่ชอบคิดว่าเธอชอบพี่ชายนอกไส้แต่ในความเป็นจริงความเป็นไปได้ไม่มีเลย เธอไม่เคยคิดเกินเลยเพราะเธอรักพี่กิตของเธอเหมือนพี่ชายแท้ๆ ไม่ทางเป็นอย่างอื่นแน่ๆ

    “ไปนอน แยกย้าย” เธอบอกก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วล้มตัวนอน สมองครุ่นคิดไปถึงเรื่องของตัวเองและเพื่อนสนิท ผ่านมากี่ปีแล้วนะ ผ่านมากี่ปีที่เธอกับเพื่อนเอาแต่ซ่อนตัวในกระดองไม่ยอมโผล่หัวออกไปสักทีและเธอคิดว่าก่อนที่จะมีใครรู้เธอสมควรที่จะหายตัวไปซะก่อน นี่ล่ะนะ ชีวิตของปทุมาและเอมิกา มีอะไรไม่คาดคิดได้ทุกวี่ทุกวัน


    ถ้ากรุณาฝากหาคำผิดให้ไรท์ด้วยเด้อจ้า

    ลงไม่จบแต่ลงให้อ่านและตัดแบบสวยๆ 

    ใครจะอ่านให้จบก็นับถอยหลังรออีบุ๊คนะ ขั้นตอนดำเนินการจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×