คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : บทที่6-3 แจ้งข่าวหนังสือ
แต่ละวันผ่านไปด้วยกิจวัตรเดิมๆ คือตื่นมาทำงานกลับบ้านไปก็นอนเอาแรงจนคนที่บ้านอนันตกูลรักษ์บ่นเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดที่แม่รดาต้องมาที่ทำงานเพื่อมาเจอเธอและโชคดีที่เธอเห็นท่านในห้องน้ำแผนกผู้บริหารซะก่อน
แม่รดาโวยวายไม่ยอมท่าเดียวจนเธอสัญญาว่าจะไม่ทำห้องน้ำอีกจึงยอมและล่าถอยไปอย่างเงียบๆ
แต่สมครามเธอกับพี่ชายยังคงไม่สงบทั้งสองคน
เธอมึนตึงกับกันตภัคน์เพราะทำกับเอมิกามากไปแม้จะไม่รู้สาเหตุแต่เธอรู้ดีว่าเอมิกาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรเพราะคนอื่นแกล้งมันต้องมากกว่านั้น
แต่กับพี่ชายคนรองที่สนิทกับเธอที่สุดหลังจากวันนั้นที่เขาขึ้นเสียงใส่เธอ แม้เจอกันที่ห้องประชุมหรือที่บ้านเธอก็เมินเขาไปอย่างไม่สนใจ
และบางครั้งเธอก็แข็งข้อกับเขาด้วยการประชดใส่อย่างเช่นตอนเจอหน้าก่อนนอกจากจะไม่ไหว้เธอยังมึนตึงสะบัดหน้าให้อีกต่างหากซึ่งพี่ชายของเธอก็ยังคงไม่สนใจเธออย่างเดิม
ทำผิดแล้วไม่รู้จักขอโทษ
“หัวหน้าเมื่อวานนุชได้ยินข่าวลือมาว่าคนของเราถูกบริษัทโยธากรคู่แข่งของเราซื้อไปจริงหรือเปล่าพี่”
คนที่นั่งกินข้าวตอนพักเที่ยงเอ่ยถาม
ปทุมาที่ได้ยินก็ชะงักแต่ก็ไม่พูดอะไรออกไปได้แต่เงียบรอฟัง
“ไปเอาข่าวมาจากไหน” รัชนีเอ่ยถามลูกน้องแม้จะรู้เรื่องมาบ้าง
“ข่าวออกจะดังพี่ไม่รู้หรอ
นี่เจ้านายของเราก็ถูกลอบฆ่าไปตั้งหลายครั้งดีนะที่รอดมาได้เกือบทุกครั้ง” ชมพูนุชยังพูดต่อตามสิ่งที่ได้ยินมา
“เหลวไหล”
คนเป็นลูกพี่เอ่ยว่าก่อนจะคว้าผ้าที่ไว้เช็ดเก้าอี้เช็ดโต๊ะมาถือไว้ก่อนจะเดินออกไป
ปทุมาที่แบกความสงสัยคว้ามือของชมพูนุชที่กำลังจะเดินตามเจ้านายเมื่อไม่ยอมฟังตน
“ที่ว่าถูกลอบฆ่านี่ยังไงหรอพี่
หนูเข้ามาไม่นานเลยไม่รู้” ปทุมาเอ่ยถาม
ชมพูนุชที่เห็นคนสนใจจะได้เมาส์กระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะจูงมือของหญิงสาวมานั่งที่เก้าอี้แทน
“คือยังงี้นะ
เมื่อไม่นานมานี้ทุกคนอาจจะเข้าใจว่าคุณกิตไปดูงานที่สิงคโปร์แต่จริงๆ
แล้วถูกลอบยิงต่างหากแต่เพราะไม่อยากให้ลูกน้องกับครอบครัวไม่สบายใจเลยโกหก
ตอนที่พี่ขึ้นไปส่งของให้เลขาเห็นตอนเดินผ่านเชื่อมั้ยพี่ยังเห็นรอยนูนเหมือนมีผ้าปิดที่ไหล่ของเจ้านายเลย
พูดก็พูดเถอะนะ ถึงคุณกิตจะขรึมนิ่งเงียบแต่ก็รักลูกน้องเหมือนกัน....” ชมพูนุชเจื้อยแจ้วไปเรื่อยๆ
แต่ทว่าคนที่นั่งฟังกลับหูอื้อไปแล้ว สมองของเธอสั่งการให้หวนนึกถึงวันนั้น จู่ๆ
เขาก็โทรมาบอกที่บ้านว่าจะไปดูงานที่สิงคโปร์ด่วน เธอไม่ได้คิดเลย........
“บัว ไอ้บัว” ชมพูนุชเขย่าคนที่นั่งเหม่อ
ปทุมาสะดุ้งหันมามองคนที่เขย่าตัวก่อนจะสูดลมหายใจเข้า
“เป็นไรเหม่อๆ
ได้ฟังที่พี่เล่าไหม” เอ่ยถามคนที่เหม่อเพราะไม่อยากเล่าให้สูญเปล่า
“อ๋อ
บัวแค่คิดตามน่ะพี่ บัวไปทำงานก่อนนะ”
ปทุมาว่าก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปโดยไม่ได้หยิบอะไรไป
สมองก็เอาแต่คิดเรื่องที่ชมพูนุชพูด หัวใจดวงน้อยๆ เหมือนกำลังถูกบีบจากมือที่ไม่มีตัวตน
มันแทบจะแหลกสลาย.............
ปทุมาเก็บความไม่สบายใจไม่ไหวจึงตัดสินใจขอเวลาคุณรัชนีไปพักโดยอ้างว่าไม่สบายปวดหัว
เมื่อเดินพ้นจากเขตบัญชีที่คุณรัชนีทำงานปทุมาก็เดินมาที่ลิฟต์
กดไปยังชั้นของพี่ชาย หัวใจของหญิงสาวเต้นช้าๆ เหมือนมีอะไรมาบีบรัด
ความกลัวแทรกซึมมี่หัวใจแกร่ง
จากที่คิดว่าจะงอนหรือเฉยชาใส่พี่ชายอีกสักระยะเป็นอันต้องเลิกไป
“มาทำไม” เลขาสายฝนเอ่ยถามคนมาหาเจ้านายตนหลังจากที่เจอวันนั้นเธอก็ไม่ได้เจออีก
“เขาอยู่ไหม” ปทุมาเอ่ยถามเลขาของพี่ชาย
ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มนิ่งสงบ
“อยู่ แต่จะให้บอกเจ้านายว่าแม่บ้านมาขอพบหรือไง”
เอ่ยถามคนที่อยู่ในชุดแม่บ้าน
หลังจากที่วิเคราะห์แล้วก็คิดได้ว่าไม่ได้นัดมาแน่เพราะเริ่มต้นคำถามว่าอยู่ไหม
“อืม ไปบอกเขาว่าฉันมาขอพบ” ปทุมาตอบ
คนเป็นเลขาหัวเราะอย่างเยาะเย้ยกับความบังอาจของหญิงสาว มองปราดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“คงไม่ได้
และเชิญกลับไปทำงานก่อนที่ฉันจะให้แผนกบุคคลไล่เธอออก” สายฝนเอ่ยบอกก่อนจะนั่งทำงานตัวเองอย่างไม่ใส่ใจคนที่ยืนอยู่
ปทุมาตาลุกวาวด้วยความไม่พอใจ
“ผมว่าคนที่ควรถูกไล่ออกคือคุณมากกว่า”
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่ปทุมาจะเอ่ยถ้อยคำบางอย่างออกไป
หญิงสาวหันไปมองพบว่ากันตภัคน์เดินมาและมองเลขาของน้องชายด้วยความไม่พอใจกับท่าทางที่แสดงออกกับน้องสาวของตัวเอง
คนที่นั่งลงเมื่อครู่ดีดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมก้มหน้าเพราะความกลัว
กิตศัพท์ของพี่ชายท่านประธานขึ้นชื่อความดุไม่ต่างจากน้องทำให้ใครๆ ก็กลัวสองเทพกุมารไม่น้อย
“ถ้าผมเห็นคุณพูดไม่ให้เกียรติ์น้องสาวผมอีกผมจะไล่คุณออกเอง”
กันตภัคน์เอ่ยบอกพร้อมยกมือโอบไหล่น้องของตัวเองเอาไว้
ปทุมามองหน้าพี่ชายพร้อมเม้มริมฝีปาก
เธอรู้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องโมโหแต่เขาดันบอกคนอื่นว่าเธอเป็นน้องทั้งที่ตกลงกันแล้ว
“นะ...น้องหรอคะ”
เลขาสุดสวยหน้าเจื่อนด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมองคนที่อยู่ในชุดทำงานพนักงานทำความสะอาดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
สมองนึกหวนถึงครั้งก่อนที่ท่านประธานสั่งให้เธอไม่ให้หญิงสาวออกจากห้องแล้วก่นด่าถึงความโง่ของตัวเอง
มีตาแต่ไม่มีแววเลย
“ครับ น้องของผมเอง” กันตภัคน์เอ่ยบอกเสียงเข้มก่อนจะโอบไหล่แล้วพาปทุมาเดินไปที่ประตูห้องของน้องชายเปิดเข้าไปโดยไม่เคาะ
คนที่ทำงานอยู่เงยหน้าจากแฟ้มเอกสารโครงการที่กำลังดำเนินการ
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันมอง
“นัดกันมาหรือไง” กฤษฎาเอ่ยถามทั้งสองก่อนจะจรดปากกาเซ็นเอกสารต่อ
ปทุมาเม้มริมฝีปากเมื่อเห็นหน้าเขา
เอามือพี่ชายคนโตที่โอบไหล่ออกก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของพี่ชายตนเองที่ทำงานต่ออย่างไม่สนใจเธอ
“บัวว่าเราสามคนต้องมีเรื่องคุยกัน”
ปทุมาเอ่ยเสียงเครียด
มองหน้าคนที่เงยหน้ามองเธอก่อนจะหันไปมองกันตภัคน์ที่คิ้วขมวด ปกติไม่ค่อยจะเห็นปทุมาจริงจังมากขนาดนี้
แสดงว่าใหญ่จริงๆ
ถึงขนาดเดินมาหากฤษฎาเองโดยไม่กลัวคนรู้ความลับเรื่องฐานะของตนเอง
“พี่ไม่ว่าง” กฤษฎาตอบอย่างไร้เยื่อใย
สายตาเพ่งมองเอกสารอีกแฟ้มที่เปิดออก ปทุมาเม้มรีมฝีปากเมื่อเห็นท่าทางพี่ชาย
เขาเย็นชาและไร้เยื่อใยกับเธอมาก
“ทำไมพูดกับน้องอย่างนั้น”
กันตภัคน์เอ่ยตำหนิน้องชายเมื่อพูดอย่างนั้นกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
กฤษฎาเงยหน้ามองพี่ชายก่อนจะมองคนที่มองเขา
ดวงตาของสาวเจ้ามีน้ำสีใสเอ่อคลอเพราะความน้อยใจ
“เธอเป็นน้องพี่คนเดียวนี่
ก็เห็นมองข้ามหัวผมไปพักใหญ่ก็นึกว่าตัดพี่ตัดน้องไปแล้ว” กฤษฎาเอ่ยตอบพี่ชายแต่สายตามองคนที่น้ำตาไหลออกมา
ปทุมามองหน้าเขา ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ครั้งนี้เขาคงจะเหลืออดกับสิ่งที่เธอทำ
และเธอก็ไม่อยากจะทน
“ก็ดี เพราะเฮียก็ไม่เคยเห็นบัวเป็นน้องเหมือนกัน
ทีหลังถ้าเฮียจะเป็นจะตายบัวก็จะไม่สน” ปทุมาว่าเสียงกร้าว เธอมองพี่ชายที่นั่งอยู่กับที่ก่อนจะปัดมือพี่ชายคนโตที่เอื้อมมือมาแตะไหล่แล้วเดินออกไปด้วยความเจ็บปวด
“คุณคะ”
เลขาเอ่ยเรียกหญิงสาวทันทีเมื่อร่างเพรียวของปทุมาเดินออกมาจากห้องท่านประธานก่อนจะชะงักเมื่อพบว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
“ฝากหายาให้เจ้านาคุณกินด้วยนะ” ปทุมาว่าพร้อมกับยกมือเช็ดน้ำตาอย่างโมโหพี่ชายนอกไส้
“เอ๋ ยาอะไรคะ” เลขาสาวทำหน้างงสงสัย
ปทุมาแค่นยิ้ม
“ยาแก้โรคพิษสุนัขหมาบ้า” บอกเสียงกระแทกก่อนจะเดินออกไปทันทีทิ้งให้คนที่ได้ฟังนิ่งอึ้งเหลียวหลังมองปทุมาที่เดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ
พร้อมคิดในใจว่าน้องสาวของท่านกประธานนี่แสนจะแปลกจริงๆ.........
ไรท์วางขายหนังสือแล้วนะ จัดโปรถึงวันที่1 ถ้าลงขายจะแจ้งอีกที ส่วนคนอ่านฟรีอ่านได้เรื่อยๆ จ้า จะอัพจนหายค้างแต่อาจจะไม่หมด เนอะ
ปล. ตัวใหญ่ๆ เนื่องด้วยเบลไปยืมปกของสรมา ฉะนั้นตรงทำตัวหนังสือจะเป็นชื่อนามปากกาของเงาสีชาดเขา(ปกเป็นของเรา) แต่ไม่ได้เอานิยายเขามานะ 555 ไม่ฟ้อง เพื่อนกันๆ
ความคิดเห็น