ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่6-2

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 61


    ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่วันนั้นที่ปทุมาเจออรวีที่ห้างสรรพสินค้าและตั้งใจจะเอาเรื่องนั้นไปบอกพี่ชายนอกไส้แต่เขากลับทำเสียงไม่พอใจใส่เธอบอกว่าเธอเหลวไหล ปทุมาทำตัวปกติ เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเป็นคนนิสัยแบบนี้ แม้โกรธเธอก็จะเก็บมันไว้ในใจ จะไม่พูดแต่จะทำให้เห็นด้วยการกระทำ

                    “ใบบัว กินสิลูกอย่าเอาแต่เขี่ย” นางรดาบอกเมื่อเห็นปทุมานั่งเขี่ยจานข้าวไม่ยอมตักกินทั้งที่แต่ก่อนจะกินเยอะที่สุดหลังๆ มาดูจะน้ำหนักลดไปเยอะอยู่พอควรสงสัยเพราะว่าหญิงสาวนั้นทำงานแล้ว ปทุมาจัดอยู่ในสาวเพรียวสมส่วนไม่อ้วนไม่ผอมกำลังพอดี ใบหน้าเรียวสวย อกอวบใหญ่ สะโพกเข้าที ใบหน้าเรียบไม่มีการตกแต่งเสริมแต่เนียนใสไร้ที่ติ

                    “กินเยอะๆ สิจ๊ะ ดูสิตัวแห้งแรงน้อย แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปต่อกรกับพี่ชายตัวเอง” อรวีบอกยิ้มแย้มขณะที่ตักแครอทสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดมาให้ ทุกคนมองมาที่ปทุมาที่ยังนั่งนิ่ง ใบหน้าเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านอะไร เธอไม่หันมองใครนอกจากก้มมองที่จานของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ตักมันให้

                    “ขอบคุณค่ะ” เธอบอกก่อนจะตักแครอทเข้าปากอย่างไม่ยี่หระอะไร ก็แค่ไม่ชอบ ไม่ใช่กินแล้วเธอจะตาย เธอเคี้ยวมันทั้งที่อยากจะอ้วกออกมาก่อนจะกลืนมันลงไป ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจร้องหยี๋ๆ

                    “อรว่าอรจะแต่งงานแล้วค่ะ” เสียงของอรวีดังขึ้น ทุกคนบนโต๊ะหันไปมองเธอสลับกับชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ใบหน้าคมสันของเขายังเรียบนิ่งอย่างทุกครั้ง ใบบัวจ้องมองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จ้องมองเขานิ่งก่อนจะถอนหายใจ เอาเถอะ เธอจะลืมเรื่องนั้นเรื่องที่ผู้หญิงสวยเข็ดฟันคนนี้ควงผู้ชายเดินห้าง

                    “จริงหรอลูก” นางรดาบอกเสียงตื่นเต้นทั้งที่จริงก็ไม่ได้ดีใจเท่าไหร่ก่อนจะหันไปมองใบบัวที่ไม่ได้สะทกสะท้านกับข่าวใหม่สักเท่าไหร่

                    “ครับ” กฤษฎาตอบรับก่อนจะตักอาหารกินต่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    “ดีค่ะ งั้นขอใบบัวเลือกเมนูอาหารนะคุณแม่” หญิงสาวโพล่งขึ้น แล้วยิ้มให้คนที่หันมามองเธอ ใบบัวยังคงยิ้ม เธอดีใจที่พี่ชายจะได้แต่งงานสักทีเพราะเธออยากจะเล่นกับเด็กน้อยมากกว่าไอ้ห่านเรื่องมากตัวนั้น หญิงสาวคิดในใจ

                    “งั้นอรขอชุดสีแดงนะคะ” หญิงสาวที่สวยสง่าเอ่ยบอกก่อนจะโน้มตัวไปหอมแก้มกฤษฎา ใบบัวมองแล้วนึกขำทั้งสองคนที่ทำอะไรไม่เกรงใจฟ้าดินหรือแม่รดาและเธอเลย ใบหน้าเรียวเล็กส่ายน้อยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ

                    “ผมอิ่มละ ขอตัวก่อนนะครับ คุณกลับเองนะอร” ชายหนุ่มเอ่ยบอกทุกคนและคนรักในประโยคหลังก่อนจะยกน้ำขึ้นจิบและเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านทันที ทุกคนมองเขา ไม่ว่าวินาทีไหนเขาก็เย็นชาที่สุด

                    “งั้นแม่คงต้องเตรียมสินสอดใช่ไหม” นางรดาชวนคุย อรวียิ้มรับก่อนที่จะหันไปมองจับผิดปทุมาที่ใบหน้าสดใสไม่มีวี่แววเสียใจอะไรเลย

                    “คุณแม่คะ ใบบัวขอไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะคะ” ปทุมาบอกแล้วชูโทรศัพท์มือถือให้คนที่นับถือดั่งมารดาดูว่าเพื่อนรักโทรมาก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้เมื่อนางรดาพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปหน้าบ้านที่ไม่มีคน

                    “ว่าไงเอม” เอ่ยถามเพื่อนเมื่อกดรับสาย เอมมิกาโทรมาหาเธอหลายรอบแต่เพราะปิดเสียงไว้เลยเพิ่งเห็นตอนก้มมองที่กางเกงแล้วเห็นแสงโทรศัพท์

                    (ร่วงระนาว) เอ่ยอย่างรู้กันก่อนจะหัวเราะเมื่อนึกถึงคนที่อยู่อีกฝั่งพูดไว้ ปทุมาทำนายอะไรไม่เคยพลาด

                    “อืม แล้วไง” ถามเพื่อนอย่างงุนงง เรื่องแค่นี้ก็จำเป็นต้องโทรมา

                    (จะโทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาเช็คไปให้พรุ่งนี้ อยู่บ้านหรือเปล่า) เพราะเงินที่ได้มามันมากจนเธอไม่อยากจะเก็บเอาไว้เองจนต้องรีบเอามาให้เพื่อนรัก

                    “อยู่ตอนเที่ยงครึ่ง มีอะไรอีกไหม” บอกเวลาก่อนจะถามเพราะเธออยากจะกลับไปนอนแล้ว วันนี้เธอมีเรื่องปวดหัวเยอะมากไม่อยากจะคิดอะไรแล้วนอกจากจะนอนให้ร่างกายได้พักผ่อน

                    (ยัง มีอีกเรื่องแต่อธิบายเป็นคำพูด จะส่งให้ในแชทละกัน) บอกแล้วตัดสายไป

                    “อะไรของมัน” ปทุมาว่าก่อนจะมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เพื่อนรักวางสายแล้วส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม กำลังจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแต่ก็ต้องชะงักเมื่อข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมาเสียก่อน  ปทุมาจิ้มเปิดก่อนจะชะงักอีกครั้ง คราวนี้เธอถึงกลับนิ่งอึ้ง

                    “ทำอะไรคะน้องใบบัว” เสียงของอรวีดังขึ้นจากด้านหลัง ปทุมาหันไปมองร่างอวบอิ่มที่อยู่ในเสื้อเกาอกสีครีมกับกางเกงขาสั้นแบบพอดีไม่โป๊มากสีแดงสดที่อวดเรียวขา

                    “มองคนสำส่อนค่ะ” ปทุมาว่าก่อนจะมองหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าสวยเผ็ดอย่างโมโห อรวีชะงักที่ได้ยินคำนั้นแต่ยังเสแสร้งยิ้มให้น้องสาวของกฤษฎา

                    “หมายความว่าไงคะ” เอ่ยถามทั้งที่พอจะเดาเรื่องได้ วันนั้นที่ห้างสรรพสินค้าเธอก็เห็นปทุมาแต่ทว่าสาวเจ้าก็ไม่ได้บอกมันกับพี่ชายนอกไส้ของตัวเอง

                    “หมายความว่ายังงี้ไงคะ” ว่าแล้วก็หันชูโทรศัพท์ที่หน้าจอเปิดค้างในหน้าแชทของเธอและเอมมิกาให้คนที่ทำหน้าไม่รู้อะไรดู เธอโมโหมากกับสิ่งที่เห็นเพราะนึกว่านั้นจะเป็นแค่ครั้งเดียว และนี่อรวีกำลังจะแต่งงานกับกฤษฎาพี่ชายของเธอแล้วแต่ยังทำตัวแบบนี้อีก

                    “อ๋อ” คนที่เห็นร้องขึ้นก่อนจะมองภาพนั้นของตนเองที่คิดว่าถูกถ่ายสลับกับคนที่ชูให้ตัวเองดูแล้วหัวเราะ ภาพที่เธอกำลังกอดจูบกับผู้ชายสุดหล่อคนหนึ่งบนรถสปอร์ตหรูสีแดง

                    “มันคงเป็นเรื่องปกติของพี่” ปทุมาเหยียดยิ้มเมื่อคนทำผิดยังไม่สะทกสะท้าน ขนาดจับได้คาหนังคาเขายังทำเหมือนไม่มีอะไร

                    “ก็แล้วไงอ่ะคะ ก็จูบ ไม่ได้ผิดอะไร” อรวีว่าก่อนจะยิ้มโชว์บ้าง ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มกว้าง ปทุมากำมือแน่นกับสิ่งที่ได้กลับ นอกจากไม่กลัวหรือรู้สึกผิดยังไม่ละอายอีก

                    “น้องจะฟ้องกิตก็ได้นะ แต่กิตน่ะหลงพี่จนไม่สนใจคำพูดของน้องบัวหรอก” พูดพร้อมกับเอามือไปจับคางเรียวของปทุมาแล้วบิดไปมาเบาๆ พร้อมหัวเราะ

                    “ไม่กลัวแม้จะมีรูป” ปทุมาเอ่ยถามอีกครั้งก่อนจะปัดมือที่จับตนเองออกอย่างไม่ออมแรง

                    “แน่นอนค่ะ ถ้ากิตถามพี่จะบอกว่าแค่เอี้ยวตัวเอาของแต่มุมกล้องมันให้ น้องว่าพี่ชายน้องจะโง่เชื่อพี่มั้ย แต่พี่ว่าเชื่อนะเพราะพี่ทำบ่อย” บอกแล้วก็ทำหน้าเยาะเย้ยน้องสาวของกฤษฎาก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองสตาร์ทรถออกไปอย่างไม่สนใจน้องสาวของกฤษฎาที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาและไม่ทันคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง แม้จะเจอไม่กี่ครั้งก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับยัยเด็กนั่นเลย สงสัยเป็นเซ้นผู้หญิงล่ะมั้ง


    บทที่10 เมื่อไหร่จะทะยอยลบบทที่5 ลงไปนะใครเริ่มอ่านหรือยังไม่อ่านรีบๆ เน้อ

    ปล. คำผิดบอกได้เรื่อยๆ ยังแก้ได้ ฮี่ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×