ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก นารี ฉบับ E-book

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่5-1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 61


    เอมมิกากำลังเก็บของตัวเองลงกระลังหลังจากที่ยื่นจดหมายลาออกให้พี่วิกานดาเรียบร้อยแล้ว แม้จะเสียดายที่ทำงานแห่งนี้ เสียดายมิตรภาพของเพื่อนร่วมงานดีๆ แต่ทว่าเจ้าตัวก็ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล เอมมิกาหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมการที่เขากลั่นแกล้งเธอครั้งนี้เธอถึงยอมไม่ได้และตัดสินใจลาออกมา

    “พี่ไม่อยากให้เราลาออกเลย” คนที่เป็นหัวหน้าเอ่ยบอกอย่างเสียดายเอมมิกาเพราะเป็นคนที่มีไหวพริบดีแถมยังตั้งอกตั้งใจทำงาน เอมมิกาหันมายิ้มให้คนที่พูด

    “เอมเหนื่อยน่ะค่ะ อยากลองทำอย่างอื่นบ้าง” เอมมิกาตอบไป วิกานดาส่ายหน้า เอาจริงๆ ก็พอเข้าใจว่าถูกกลั่นแกล้งขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องลาออก

    “น่าจะทำต่อสักสามเดือนทำอย่างนี้เวลาไปสมัครงานที่อื่นมันจะยุ่งยากนะ” เอ่ยบอกคนที่กำลังจะเป็นอดีตลูกน้องด้วยความเป็นห่วง ปกติต้องยื่นใบลาออกก่อนที่จะออกจริงๆ สามเดือนเพื่อที่จะได้มีเวลาเคลียงานของตัวเองและส่งต่อหน้าที่ให้คนอื่น

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เพราะเธอจะไม่ไปสมัครงานที่ไหนแล้ว เอมมิกาคิดในใจพร้อมกับเก็บของชิ้นสุดท้ายเสร็จพอ กรอบรูปของครอบครัวเธอที่ในรูปมีเพียงแค่เธอและเพื่อนรักอย่างปทุมา ครอบครัวเดียวที่เธอมีอยู่

    “นี่ ท่านประธานให้ตามเธอ” เสียงเรียกแหลมๆ ทำให้ทุกคนหันไปมอง เอมมิกามองคนที่มาตามพร้อมกรอกตาขึ้นบน หญิงสาวรูปร่างบอบบางใส่เดรสสั้นเสมอหูสีดำโชว์เนินอก ริมฝีปากมีลิปสติกสีแดงสว่างเคลือกอยู่ทำให้ดูเซ็กซี่และลึกลับน่าค้นหาไม่น้อย

    “อืม” เธอพยักหน้ารับหันไปมองคนที่เดินมาส่งเธอดูเจ้าหล่อนตาค้าง ก็แหงล่ะของสวยๆ งามๆ ต่างจากเอที่แทบจะแยกไม่ออกระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เอมมิการ่ำลาทุกคนก่อนจะเดินไปหาคนที่เธอเรียกตัวไปพกโดยที่มือก็ถือกล่องใส่ของไปด้วย

    “เข้าไปเลย” เมื่อเดินมาถึงเลขาหน้าห้องอย่างซินดี้ก็เอ่ยขึ้นก่อนจะเข้าไปนั่งในตำแหน่งของตัวเอง เอมมิกายืนนิ่งตั้งสติก่อนที่จะใช้ข้างลำตัวดันประตูให้เปิดออก ดวงตาจ้องมองร่างหนาที่นั่งอยู่ในเกาอี้ตำแหน่งของเขา บนที่ว่างของโต๊ะซึ่งอกติจะเต็มไปด้วยของที่เธอเอามาประชดตอนนี้มีเพียงซองจดหมายฉบับเดียวที่วางอยู่

    “ทำไมคุณถึงลาออก” เอ่ยด้วยท่าทีจริงจังเมื่อร่างเพรียวเดินเข้ามา ดวงตาคมกริบสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าที่วันนี้ดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ ยิ่งเห็นอย่างนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกครางแคลงใจกับพฤติกรรมเธอ วันนี้ที่จริงเขามีงานที่อนันต์จะต้องเคลียแต่เพราะเธอเขาเลยทิ้งมันมา

    “ก็เรื่องของฉัน” เอมมิกาตอบเสียงเรียบ

    “เอมมิกาฉันเป็นเจ้านายเธอโดยตรงฉันมีสิทธ์จะรู้ว่าทำไมลูกจ้างถึงลาออกและอีกอย่างตามกฏการที่คุณจะลาออกต้องยื่นจดหมายล่วงหน้า” กันตภัคน์เอ่ยบอกเสียงเข้ม

    “ฉันเบื่อที่จะต้องมาเจอหน้าคุณ เบื่อที่ต้องมานั่งทำงานที่ไม่ใช่งานของฉัน” เอมมิกาบอก เธอมองจดหมายลาออกแทนที่จะสบตากเขา

    “ผมรู้สึกเสียใจที่ผมมองคุณผิดไป” กันตภัคน์เอ่ยบอก เขาเคยคิดว่าเอมมิกาเข้มแข็งไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งที่มาท้าทาย ไม่ยอมให้อะไรมาทำให้เธอหวั่นไหว แต่เพียงแค่เขาทำแค่นี้เจ้าหล่อนก็ลาออกไปซะแล้ว

    “ฉันไม่ต้องการให้ใครดูฉันออก แล้วส่วนเรื่องลาออกก็แล้วแต่คุณ” เพราะเธอก็ไม่คิดจะไปสมัครงานที่ไหนอยู่แล้วจึงไม่เดือนร้อน เลื่อนสายตาไปสบตากับดวงตาเข้มอยู่ชั่วอึดใจ ต่างคนต่างเงียบเอมมิกาจึงคิดว่าเขาหมดเรื่องที่จะคุยกับเธอแล้วจึงหลังเดินออกไป

    หมับ

    “อย่าไปเลย” มือหนาคว้ามือเรียวที่ไม่ได้อุ้มลังของเธอเอาไว้ เอมมิกายืนอยู่กับที่ ประตูที่เปิดออกทำให้เลขาสาวมองอย่างอย่างสงสัย เธอเห็นซินดี้แต่หล่อนคงไม่เห็นอีกคนที่กำลังจับมือเธอ เอมมิกาหันไปบิดข้อมือออกจากพันธนาการ ดวงตาจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

    “เลิกยุ่งกับชีวิตฉันเถอะ ถ้าอยากชนะฉันให้ชนะแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่จริง” เอ่ยออกไป ริมฝีปากเม้นเข้าหากันก่อนจะหันหลังเดินออกมาโดยไม่สนใจเขาอีก แค่เดินออกมาชีวิตของเธอก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เธอจะไม่ได้เจอเขาซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับเธอในตอนนี้........................

     

    ชีวิตของปทุมาตอนนี้เหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงที่เรียบง่ายที่สุด ตื่นเช้ามาทำงานกลับบ้านก็กินข้าวนอนและเธอก็ไม่ต้องระแวงพี่ชายสุดหล่อเพราะว่ากันตภัคน์และกฤษฎานั้นไปทำงานที่สิงค์โปได้ร่วมสองอาทิตย์แล้ว คุณแม่รดาแม้จะแปลกใจเรื่องการทำงาของเธอแต่ทว่าเธอก็หาข้ออ้างเอาตัวรอดไปได้ในแต่ละวัน เอมมิกานอนอยู่คอนโดเฉยๆ ไม่/ไปสมัครงานที่ไหนและเงียบขึ้นจนเธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนแต่อีกฝ้ายกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร

    “เฝ้าบ้านนะเอ็ง” เอ่ยบอกห่านที่ยืนรออยู่ที่บ้านอย่างทุกวันที่ผ่านมาเมื่อมันรู้ว่าเธอจะต้องออกไปข้างนอก ท่าทางมันดูเซื่องซึมเหงาหงอยไม่น้อยคงเพราะเธอไม่ค่อยมีเวลาให้แถมเจ้านายของมันทั้งสองคนยังไม่อยู่คอยโอ๋อีกต่างหาก

    “แคว่ก” มันร้องออกมาพร้อมกับเดินสะบัดตูดไปทางบ้านใหญ่ ปทุมาส่ายหน้า บอกให้มันเฝ้าบ้านมันกลับเดินไปหาคุณแม่ เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่รีบขึ้นรถมอเตอร์ไซต์วินที่จอดรออย่างทุกวันเพื่อไปยังที่ทำงานตนเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×