คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF TaoKacha] Promis...
Promis...
“เต๋า!! ไปไหนมา ชาโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย”
ร่างเล็กที่นั่งรออยู่ที่หน้าตึกคณะมาตั้งแต่ช่วงบ่ายสาม จนตอนนี้มันปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็นแล้ว คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องอดทนรอขนาดนี้ถ้าคนตรงหน้าไม่สัญญาว่าจะมารับ แต่ก็กลับลืมเวลาซะเอง
“อ๋อ พอดีเต๋าทำโปรเจคอยู่อ่ะ”
“แล้วทำไมไม่โทรบอกชาก่อนล่ะ ปล่อยให้ชายืนรอเกือบสามชั่วโมง”
“โอเคๆ เต๋ายอมรับว่าเต๋าลืมจริงๆ”
“ลืม? เต๋าลืม ทั้งๆที่เป็นคนนัดชาไว้งั้นเหรอ”
“โหยชา เต๋าแค่ลืมนิดๆหน่อยๆเองนะ ชาช่วยเข้าใจเต๋าหน่อยซิ”
“พอเลยชาไม่อยากฟังแล้ว ชาจะกลับบ้าน”
คชารีบเดินนำมาขึ้นด้วยอารมณ์ที่คลุกกรุ่น เต๋าจึงต้องรีบเดินตามด้วยความหัวเสียเหมือนกัน ทำไมถึงเป็นคนไม่เข้าใจอะไรอย่างนี้นะ
พอมาถึงรถคชาก็ต้องชะงักเมื่อกระจกรถถูกเลื่อนลงช้าๆ ด้วยฝีมือของผู้หญิงคนนึงที่อยู่บนรถ จะไม่โกรธอะไรเลยถ้าที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของเขา ที่ๆเต๋าสัญญาว่า ‘จะไม่ให้ใครนั่งนอกจากชา’
“เต๋า มันคืออะไร อธิบายมาดิ”
“จอยเค้าไม่มีรถกลับบ้านน่ะ”
“แล้ว???”
“เต๋าก็เลยจะอาสาไปส่ง”
“แล้วทำไมต้องให้นั่งตรงนี้ด้วย”
“ก็ไม่เห็นจะเป็นไรหนิชา” ไม่เป็นไรเหรอ
“อ้าว! ที่นั่งของคชาเหรอจอยขอโทษนะ เดี๋ยวจอยไปนั่งข้างหลังก็ได้” ฝ่ายหญิงสาวที่นั่งเงียบมานานจึงพูดขึ้น ขอโทษขอโพยกันใหญ่ ถึงแม้ว่าอาจจะเสแสร้งก็ตามทีเถอะ
“ก็ควรรู้ตัวนานแล้ว” ได้เห็นได้ฟังแล้วก็อดที่จะจิกกัดไม่ได้
“ไม่ต้องหรอกจอย ชาเต๋าว่านั่งหลังก็ได้มั๊ง” ประโยคแรกหันไปพูดกับจอยแต่ประโยคที่สองหันกลับมาพูดกับคชา
“ไม่ มันเป็นที่ของชา”
“ชามันก็แค่ที่นั่งเองนะ อย่าชวนทะเลาะได้มั๊ย”
“นั่นน่ะสิก็แค่ที่นั่งเอง ลงมาข้างหลังแล้วก็จบ”
พอพูดจบเต๋าจึงปล่อยให้จอยเดินไปนั่งข้างหลังตามที่คชา ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าตามที่จอยต้องการมากกว่า หึ!
“เอาแต่ใจ” คำพูดนิ่งๆหลุดออกมาจากปากของเต๋าถึงแม้ว่าจะไม่ดังมากนักแต่คชาก็ได้ยินอยู่ดี
“จะกลับได้รึยัง หิวแล้ว” ร่างบางตะโกนถามคนที่มัวเอาแต่ยืนอยู่หน้ารถ กับท่าทางที่ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่
ทำไมต้องโมโหทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตขนาดนั้น กล้าขัดใจเขาต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ด้วย ที่คชาทำเป็นปากเก่งจริงๆ ข้างในอยากจะร้องไห้ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย พักหลังๆนี้เต๋าเปลี่ยนไปมาก คชายังไม่รู้เลยว่าเต๋าจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้มั๊ย จากเมื่อก่อนที่เคยอดทนกับคชา คอยตามอกตามใจ แต่ตอนนี้อะไรๆมันก็ดูงี่เง่าไปซะทุกอย่าง
‘เป็นแฟนกันนะครับ’
‘ห๊ะ!’
เสียงของผู้ชายตรงหน้าทำให้ร่างเล็กพูดอะไรไม่ถูก และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโห่แซวของคนรอบข้างที่มามุงดูกันนับสิบ
‘แต่ผมเป็นคนเอาแต่ใจ...’
‘แค่ไหนก็ทนได้’
‘ไม่เบื่อง้อ??’
‘ไม่เบื่อเด็ดขาด’
‘ต้องเชื่อใจกัน’
‘ครับ เต๋าสัญญา’
‘เฮ้ยเต๋าซื้อรถใหม่เหรอ!’
‘เป็นไง เซอร์ไพร์ซป่ะ สวยป่าว’
‘โห อย่างเท่อ่ะ’
‘อยากนั่งมั๊ย’
‘ถามได้ถ้าชาไม่นั่งแล้วชาจะกลับบ้านยังไงเล่า’
‘เชิญครับ คุณผู้หญิง ^ ^’
‘เคยตายมั๊ยเต๋า -*-‘
‘ล้อเล่นน่า เชิญคร้าบบบบบ คุณชาย’ พูดพร้อมกับเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้คนตัวเล็ก
‘มีคนเคยนั่งรึป่าวเนี้ย’
‘ยังไม่มีใครรู้เลย มีแต่คนที่บ้านแหละที่รู้ แต่ก็ไม่กล้านั่งกับเต๋าอยู่ดี ฮ่าๆ’
‘งั้นชาก็นั่งคนแรกอ่ะดิ’
‘ก็ใช่ไง’
‘ห้ามใครมานั่งนะ ชาหวงรู้มั๊ย >///<’
‘สัญญาด้วยเกียรติลูกผู้ชายเลย’
ในขณะที่นั่งรถมาตลอดทาง ภายในรถก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะที่ดูจะมีความสุข แต่ในบทสนทนานั้นกลับไม่มีคชาอยู่เลย คชาเป็นแค่ธาตุอากาศหรือเปล่า
นั่งรถมาสักพักก็มาถึงบ้ายของจอย จึงทำการร่ำลากัน แต่สิ่งที่คชาคาดไม่ถึงว่าจอยจะกล้าทำขนาดนี้ จอยโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มเต๋าเพื่อเป็นการขอบคุณ เต๋าอึ้งไปแต่ก็ไม่ได้พยายามจะผลักไสเลย ขัดขืนบ้างก็ดีนะเต๋าลืมอะไรไปรึป่าวว่า ชาก็อยู่ตรงนี้อีกคน
“ขอบใจมากนะเต๋าที่มาส่ง”
“ขอบใจคชามากนะ สำหรับวันนี้” คำพูดที่แฝงด้วยความนัยที่คชาเข้าใจเป็นอย่างดี คชายังไว้ใจเต๋าได้ใช่มั๊ย
‘อื้อ ต๋าวววว ชาจั๊กจี้นะ’
คชาร้องปรามขึ้นเมื่อร่างสูงไล่จูบไปทัวทั้งตัว พร้อมฝากรอยสีกุหลาบไว้ทุกที่ที่เลื่อนผ่าน
‘คนเค้าจะได้รู้ไงว่าชามีเจ้าของแล้ว ห้ามใครยุ่งห้ามใครแตะต้องร่างกายนี้นะ’
‘งั้นชาทำบ้าง’ ร่างเล็กพลิกขึ้นมาอยู่ข้างบนแทนแล้วโน้มตัวไปจูบที่ใบหน้าของร่างสูง
‘หมดเนี้ยของชา’
ต่อด้วยลำคอ และแผงอกแกร่ง
‘ทั้งหมดนี้ก็ของชา ห้ามใครยุ่ง ห้ามใครแตะต้องนะ’ -////-
‘สัญญาว่าจะไม่มีใครนอกจากชา’
กี่สัญญาแล้วที่เต๋าพูดมาแล้วกลับทำไม่ได้ ชาเหนื่อยที่จะต้องอดทน เหนื่อยที่จะต้องพยายามเข้าใจไม่งี่เง่ากับเต๋า กลัวว่าเต๋าจะรำคาญเปล่าๆ กลัวว่าจะทนกับนิสัยตัวเองไม่ได้ พยายามที่จะลดนิสัยเดิมลงบ้างแล้ว กลัว...กลัวว่าอีกคนจะทิ้งกันไป แต่ทำไมยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ เต๋ายิ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างนี้เหรอที่เค้าเรียกวา “ได้” แล้ว”ทิ้ง”
แต่เต๋าก็ยังไม่ได้ทิ้งสักหน่อย คชาจะไม่คิด จะพยายาม ต้องเชื่อใจซิ
จะพยายามได้อีกสักเท่าไหร่กัน...
“ถึงแล้วครับ โอเคครับ ฝันดี”
“ใครโทรมาเหรอเต๋า”
“อ๋อจอยเค้าโทรมาถามว่าถึงห้องรึยังน่ะ” ร่างสูงพูดพร้อมกับเดินผ่านไปว่างโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ โดยไม่หันกลับมามองหน้าของอีกฝ่ายเลย
“สนิทถึงขั้นมีเบอร์กันด้วยเหรอ”
“ก็เค้าเป็นเพื่อนกับเต๋าหนิ ก็ต้องมีเบอร์ไว้ติดต่อกันเป็นธรรมดา ชาอย่าชวนทะเลาะได้ป่ะ!”
“ชาก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ทำไมต้องขึ้นเสียงกับชา ก็รู้ว่าชาไม่ชอบ! เวลาคุยกับชาก็หันมามองหน้ากันดิชาเคยพูดแล้วไม่ใช่รึไง” ร่างเล็กเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างเมื่อเต๋าเปลี่ยนไปมาก
“เต๋าว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า” พูดจบเต๋าก็เดินเข้าห้องน้ำไป
~ครืด ครืด~
โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของคชาทำให้เจ้าตัวรู้สึกตัวขึ้นมา เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เจอว่าเป็นเบอร์ของ ‘พี่พุฒ’ ที่เป็นพี่คนสนิทที่มหาวิทยาลัย จะเรียกว่าไม่สนิทก็ไม่ได้เพราะพี่เขาเป็นพี่รหัสของคชาด้วย
“ว่าไงครับ พี่พุฒ”
“น้องคชา พอดีว่าพี่จะชวนคชาไปดื่มกันหน่อยอ่ะ”
“วันไหนครับพี่พุฒ”
“พรุ่งนี้เลย!”
“อืม..งั้นก็โอเคครับ”
“โอเคๆ แล้ววันนี้เป็นไงรอคนมารับนานมั๊ย โทษที่นะ พี่ไม่ได้อยู่รอเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอแป๊บเดียวเอง” ใช่แป๊บเดียวเอง แค่เกือบสามชั่วโมง!
“งั้นพี่ไม่กวนละ ฝันดีน้องรัก จุ๊บ”
“อึ่ย~อะไรของพี่พุฒเนี้ย ครับฝันดี”
“หึ! มีคนโรมาบอกฝันดีเหมือนกันนี่ เห็นคุยโทรศัพท์กันท่าทางมีความสุขดี” คำพูดที่มีท่าทีประชดประชันอย่างนั้นมันยังไงกัน คชาไม่เข้าใจคนข้างหน้าเลยจริงๆ
“แค่พี่พุฒชวนไปเที่ยวพรุ่งนี้”
“แล้วก็ไปง่ายๆ? อย่างนั้นน่ะเหรอ”
“เต๋าชาว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ พี่พุฒเค้าเป็นพี่รหัสของชานะ”
“แต่มันชอบชา!”
“ถ้าชาไม่สน มันก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว”
“หึ! ยังไงน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนเลย”
“ไม่เคยไว้ใจกันเลยรึไงเต๋า ยังไงซะตบมือข้างเดียวมันก็คงไม่ดังหรอนะ จริงมั๊ย?”
“ชาแต่มันไม่เหมือนกัน ไอ้พุฒน่ะ...โธ่เว้ย! ชาก็รู้ว่ามันร้ายกาจขนาดไหน ขนาดชามีเต๋าอยู่มันยังกล้าเลย”
“มันก็ไม่ต่างจากจอยหรอกเต๋า”
“ชาอย่าเอาจอยเข้ามาเกี่ยวได้มั๊ย เต๋าบอกแล้วว่าเป็นแค่เพื่อน”
“ชาก็บอกกี่ครั้งแล้วว่าชาคิดกับพี่พุฒได้แค่พี่คนนึงเท่านั้น”
“ปกป้องกันดีหนิ”
“แล้วเต๋าล่ะไม่ปกป้องเหรอ เพื่อนที่ไหนเค้าดูแลกันดีซะขนาดนั้น เพื่อนที่ไหนเค้าหอมแก้มกัน อย่างนี้เต๋าอธิบายให้ชาฟังดิ”
“”ชาพอเถอะ ทะเลาะกันเปล่าๆ”
“ทำไม? อธิบายไม่ได้เหรอ”
“นี่ตกลงชาจะทะเลาะกับเต๋าจริงๆใช่มั๊ย! ทำไมเดี๋ยวนี้ชาพูดไม่รู้เรื่องอย่าเนี้ย”
“ชาก็เป็นอย่านี้แหละลืมแล้วรึไง ตอนเมื่อก่อนก็ไม่เห็นพูดแบบนี้ ทนไม่ไหวแล้วเหรอ”
“ชาอย่ามางี่เง่าให้มันมากนักได้มั๊ย”
“งี่เง่าเหรอ เดี๋ยวนี้เรียกว่างี่เง่า?”
“เต๋าว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ” พูดจบร่างสูงก็หยิบกุญแจรถเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักเพราะคำๆนึง
“ถ้าเต๋าออกจากห้องนี้ไป ชาจะถือว่าเรา...”
“...”
“เลิกกัน”
ก็แค่ชะงักเท่านั้น สุดท้ายร่างสูงก็เดินออกไปอยู่ดี ร่างเล็กทรุดลงกับพื้น น้ำตาที่เก็บไว้มานานไหลพรากไม่หยุด รู้ทั้งรู้ว่าเต๋าเค้าเคยเจ้าชู้ขนาดไหน ก็ยังจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยังจะไปยอมคบด้วยสุดท้ายก็ต้องจบลงเหมือนเดิมใช่มั๊ย ทั้งๆที่...คิดว่าจะหยุดที่คนๆนี้แล้วแท้ๆ
การกระทำเร็วเท่าความคิด มือเรียวยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อติดต่อคนบางคน...
“พี่พุฒครับ ชาอยากไปวันนี้เลย เจอกันที่ร้านเลยนะ”
ภายในสถานที่แสงไฟสลัวๆ ผู้คนไม่ว่าจะเป็นหญิงชายต่างโยกย้ายขยับร่างกายกันอย่างเมามันส์บนฟลอ แต่ท่ามกลางผู้คนนั้นยังมีร่างเล็กอยู่หนึ่งคนกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ ถึงแม้ว่าจะเสียงดังเพียงไร
“ชา... ชา... คชาครับ”
“คะ คัรบพี่พุฒ มีอะไรรึเปล่า”
“ชาจะดื่มไรหน่อยมั๊ยพี่เห็นชานั่งเหม่อนานแล้วนะ”
“เอาน้ำเปล่าก็พอครับ”
“ชามีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“อ๋อไม่มีไรหรอกพี่พุฒ ชาก็แค่คิดไปเรื่อยเปลื่อย”
“มีไรก็บอกพี่ได้นะ” คชาได้แต่ส่งยิ้มเล็กๆ ไปให้ถึงแม้ว่ายิ้มนั้นจะไม่เต็มใจนักก็ตาม
มือบางถูกมือของอีกคนตรงหน้าเลื่อนมากุมไว้ “คชาครับ...คนๆนั้นของคชา เป็นพี่ได้มั๊ย”
“เอ่อ... ชาว่า... ชาคิดว่าขอเวลาให้ชาอีกสักหน่อยนะ” ถ้าพี่พุฒรักชาจริงๆ
มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ถูกนำขึ้นมาวางทับบนมือหนาอีกที แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นผู้ชายอีกคนที่เพิ่งจะมีปากเสียงกันมาหมาดๆ กำลังเต้นอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่คงไม่สะดุดตาเท่ากับของผู้หญิงอีกคนที่เต้นอยู่ด้วยกัน ถ้าจะเกี้ยวกันขนาดนั้นเปิดห้องเลยดีมั๊ย!
“พี่พุฒชาว่าเรากลับกันเถอะ”
“อ้าวชา เพิ่งมาแป๊บเดียวเอง”
“ชาไม่อยากอยู่แล้ว” น้ำตาเริ่มไหลลงมาอีกครั้งพุฒเหลือบตาไปมองตามทิศที่อีกคนมองอยู่ ก็เข้าใจทันที
“อยู่คนเดียวได้ใช่มั๊ย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คงเป็น...คืนสุดท้ายแล้วล่ะ ที่ชาจะอยู่ที่นี่” หลังจากที่ลงรถที่มาส่งถึงหน้าคอนโดแล้ว คชาก็ขึ้นมาบนห้องและชำระร่างกาย ในขณะที่อยู่ในห้องน้ำ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาโดยที่คชาไม่รู้ตัว
รางบางเดินไปที่หน้ากระจกหลังจากออกมาจากห้องน้ำ แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ กำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียง
คิดว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก!
“เพิ่งเลิกกันไม่ทันข้ามคืน มีใหม่แล้วรึไง ไหนบอกว่าแค่พี่ชาย อยากมากขนาดนั้นเลย? ทำไมไม่เปิดห้องด้วยกันเลยล่ะ” เค้าเห็นผมกันพี่พุฒเหรอ? แต่ก็ช่างเหอะพูดเองกับปากว่าเลิกกันแล้ว คงจบแล้วจริงนั่นแหละ คำพูดที่แสนจะร้ายกาจนั้นอีก เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ว่าแต่คุณเถอะผมเห็นเหมือนกันนะ ที่เต้นด้วยกันน่ะไม่ใช่จอยหนิ ระวังด้วยนะคุณเดี๋ยวจะติดโรคเอา”
“ชา!!!”
“เรียกทำไมเหรอ อ่อ! กรุณาเรียกผมใหม่ด้วย ผม’คชา’ คุณไม่มีสิทธิ์มาเรียกผมแบบนั้น เพราะเราไม่ได้รู้จักหรือสนิทกันดี” คำพูดนี้คงทำให้ร่างสูงโมโหไม่ใช่น้อย
“ปากดีหนิ”
“ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ใครจะทำไม เฮ้ย!!!”
“งั้นก็ลองใช้ปากอีกสักครั้งมั๊ยล่ะ!”
TBC.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านหน่อยนะ
คือว่าเรามีตอนจบอยู่สองแบบ
แบบที่ 1 จบแบบคู่เต๋าคชา
แบบที่ 2 จบแบบพุฒชา
ตอนจบจะเป็นยังไงคุณคือคนกำหนด...
Talk กันซักหน่อย ^0^
อ่านอีกซักรอบนะแก้ไขนิดหน่อย ตอนหน้าจะได้ไม่งง ^^
เม้นต์ด้วยนะคะ กำลังใจๆ
ความคิดเห็น