ปริศนาล็อกเก็ต - ปริศนาล็อกเก็ต นิยาย ปริศนาล็อกเก็ต : Dek-D.com - Writer

    ปริศนาล็อกเก็ต

    โดย I'mFha

    อุบัติเหตุ...หญิงสาวในชุดโดเรม่อน...ล็อกเก็ต อะไรกัน ความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอย่างนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    437

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    437

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 เม.ย. 53 / 20:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ปริศนาล็อกเก็ต

      ปา อย่านะลูก แม่ขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยนะลูก

      หอพักหญิงแห่งหนึ่งแถบชานเมือง คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างหยุดมองและรุมล้อมกันอยู่ด้านหน้าตึก พวกเขากำลังยืนดูร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่มีน้ำตานองหน้าที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นห้า เสียงผู้เป็นแม่อ้อนวอนหญิงสาวที่อยู่บนระเบียงและกำลังคิดจะกระโดดลงมาด้วยใบหน้าที่น้ำตาปริ่มๆ

      ขอโทษนะคะแม่ หนูดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่นะ ฮึก ถ้าชาติหน้ามีจริง หนูขอเกิดมาเป็นลูกแม่อีกนะคะ

       หญิงสาวพูดพลางยิ้มเศร้าๆให้ผู้เป็นแม่ของตัวเอง เสียงประชาชนที่อยู่ข้างล่างต่างส่งเสียงฮือฮากันใหญ่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างบนจากที่ยืนอยู่เมื่อกี้กำลังปีนราวระเบียงเพื่อที่จะกระโดดลงมา

      ปา ไม่นะปา ปา!!!!!!”

      ผู้เป็นแม่พยายามที่จะส่งเสียงเพื่อเรียกลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจให้หยุดการกระทำที่ทำร้ายตัวเองอย่างนี้ ใช่แล้ว หญิงสาวผู้นี้กำลังจะ

      ....กระโดดตึกฆ่าตัวตาย....

       แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว หญิงสาวไม่สนใจที่จะฟังผู้ให้กำเนิดของตัวเอง และตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึกชั้นห้า

      ผู้เป็นแม่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจเมื่อเห็นร่างของลูกสาวกระโดดลงมามาและแน่นิ่งไป เลือดสีแดงเข้มไหลทะลักมาจากร่างบางทีละน้อย  ประชาชนที่ยืนมุงดูอยู่ต่างเบือนหน้าหนีจากภาพนั้น

      เสียงไซเรนจากรถตำรวจและรถพยาบาลดังมาแต่ไกล และในไม่ช้าก็มาจอดตรงหน้าหอพักอย่างรวดเร็ว บุรุษพยาบาลรีบวิ่งมายังพื้นที่ที่หญิงสาวร่างบางนอนจมกองเลือดอยู่ และหามใส่เปลอย่างรวดเร็ว โดยมีแม่ของหญิงสาวที่ตอนนี้ร้องไห้อย่างหนักเดินตามไปขึ้นรถ

       

      ฮู่ววว ทำไมอากาศเมืองไทยถึงได้ร้อนอย่างนี้นะ

      ชายหนุ่มในชุดลำลองสบายๆในมือถือข้าวของที่พึ่งซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต บ่นพึมพำกับตัวเองระหว่างทางกลับบ้าน เพราะวันนี้เป็นวันหยุด ชายหนุ่มจึงเดินมาซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน และตอนนี้เขากำลังเดินกลับบ้านท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุยามเที่ยงวัน

      ปิ๊น ปิ๊น~~

      เฮ้ย!!!”

      โครม!!!!

      โอ๊ยย

      คุณ คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ

      เป็นสิคุณ ขับรถภาษาอะไรเนี่ย โอ๊ย ดูซิก้นผมระบมไปหมดแล้ว

      ชายหนุ่มสบถออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกว่าสะโพกของตนแทบจะขยับไม่ได้เลยเพราะมันเจ็บระบมไปหมด

      เสียงเมื่อครู่นี้คือเสียงบีบแตรของหญิงสาวที่ขับรถแล้วบังเอิญหลับในและเมื่อรู้สึกตัวก็พบว่ารถเฉียงออกไปนอกเลนส์แล้วส่งผลให้ไปเฉี่ยวชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างถนน ผู้ซึ่งถือข้าวของพะรุงพะรังเต็มมือ และบัดนี้ข้าวของเหล่านั้นก็ได้กระจัดกระจายไปคนละทิศละทางแล้ว

      ขอโทษคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ

      หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเฉี่ยวคนก็ตกใจมาก รีบลงจากรถและมานั่งข้างกายผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วถามด้วยความห่วงใย แต่เมื่อโดนชายหนุ่มว่าเอาก็พูดขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อยๆและก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตา หญิงสาวรู้สึกผิดจริงๆที่ไปเฉี่ยวชนเขา และโทษตัวเองที่ไม่จอดรถข้างทางแล้วหลับสักงีบก่อน

      เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เมื่อเห็นหน้าสำนึกผิดและน้ำเสียงอ่อยๆของหญิงสาวแล้ว ใบหน้าที่มีโทสะของชายหนุ่มก็คลายลงและเอ่ยตอบด้วยความไม่สบายใจ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าทำท่าจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ

      เอางี้นะคะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล และฉันจะจ่ายค่าทำขวัญให้คุณเอง จะเอาเท่าไหร่ว่ามาได้เลยคะ จู่ๆหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาและเอ่ยข้อเสนอขึ้น

      ไม่ต้องก็...

      ไปเถอะนะคะ ฉันรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ ให้ฉันได้ทำอะไรไถ่โทษบ้างได้มั้ยคะ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทำท่าจะปฏิเสธ หญิงสาวจึงยิ่งพยายามคาดคั้นและดึงดันจะให้ชายหนุ่มรับข้อเสนอของเธอให้ได้

      ครับ เอางั้นก็ได้ ชายหนุ่มตอบรับพลางยิ้มเจื่อนๆส่งไปให้ ทำให้หญิงสาวดีใจมากและช่วยพยุงชายหนุ่มไปขึ้นรถของเธอ

      ระหว่างทาง ชายหนุ่มกับหญิงสาวนั้นคุยกันอย่างสนุกสนาน และทั้งคู่ก็ได้แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กัน หญิงสาวอ้างว่า ถ้าเขามีปัญหาหรือผลข้างเคียงจากอุบัติเหตุครั้งนี้ หญิงสาวก็จะรับผิดชอบ และกำชับว่าถ้ามีปัญหาอะไรที่หญิงสาวสามารถช่วยได้ ก็ขอให้บอก

       

      โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

      คุณศิ ทำไมถึงพาผมมาโรงพยาบาลนี้ล่ะครับชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าเขาอยู่พร้อมกับคำถามที่ทำไมถึงพาเขามาโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ไกลขนาดนี้ทั้งที่จริงแล้วโรงพยาบาลรัฐบาลที่อยู่ใกล้ๆบ้านเขาก็มี

      หญิงสาวที่เดินนำหน้าเขาอยู่นี้ เธอชื่อ ศิรศา หรือ ศิ นั่นเอง

      ฉันทำงานอยู่ที่นี่น่ะคะ ศิรศาหันมาตอบคำถามของชายหนุ่มพลางส่งยิ้มบางๆให้

      คุณเป็นหมอเหรอครับ

      คะ ศิรศาตอบรับยิ้มๆเมื่อเห็นหน้าเหวอๆของชายหนุ่ม ก็แน่ล่ะ ใครๆก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกว่าเธอเป็นหมอ เพราะหน้าตาเธอเหมือนเด็กมัธยมปลายที่ยังเรียนไม่จบมากกว่า

      ว่าแต่ คุณพีทำงานอะไรเหรอคะ ศิรศาหันมาถามชายหนุ่มเกี่ยวกับอาชีพการทำงานบ้าง ชายหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า พีรพงศ์หรือ พี

      ผมเป็นพนักงานบริษัทน่ะครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ

      พีรพงศ์ตัดบทด้วยประโยคที่ว่า ไม่มีอะไรน่าสนใจ ศิรศาพยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่ชวนพูดอะไรอีกเลยจนกระทั่งถึงหน้าห้องตรวจ

      สวัสดีคะ หมอคี ฝากตรวจคนไข้คนนี้หน่อยได้มั้ยคะศิรศาเปิดประตูห้องตรวจพร้อมกับโผล่หน้าเข้าไปทักทายผู้ที่อยู่ในห้องอย่างอารมณ์ดี 

      อ้าว คุณศิ กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ทำไม... แล้วนี่ใครครับ แฟนคุณเหรอหมอหนุ่มในห้องตรวจตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่บอกว่ากลับไปแล้ว แต่กลับมายืนอยู่หน้าห้อง แถมยังพาหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้มาอีกด้วย

      เข้าใจเล่นนะคะคุณหมอ ไม่ใช่หรอกคะ คือศิหลับในน่ะคะ แล้วก็เลยไปเฉี่ยวคุณพีเข้า กะจะพามาให้คุณหมอตรวจสักหน่อย

      งั้นเชิญเลยครับหมอหนุ่มผู้มีนามว่า คีผายมือเป็นการเชื้อเชิญให้พีรพงศ์เข้าไปในห้องตรวจด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

       

      หลังจากตรวจเสร็จแล้ว ก็พบว่าพีรพงศ์ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แค่เคล็ดสะโพกเท่านั้น ไม่มีกระดูกไหนหักหรือร่างกายส่วนไหนเสียหายเลยสักนิดเดียว แต่เมื่อออกมาแล้วกลับไม่เจอศิรศาที่เมื่อกี้บอกว่าจะรออยู่หน้าห้องเลยแม้แต่เงา

      หายไปไหนของเค้าน้า พีรพงศ์ถอนหายใจเบาๆแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองเล็กน้อย จากนั้นเท้าน้อยๆก็พาเขาออกไปยังระเบียงเพื่อรับอากาศอันบริสุทธิ์

      เมื่อเดินไปถึงระเบียงเขาพบว่ามีหญิงสาวผมยาวประบ่าหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนมองออกไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่และตึกรามบ้านช่องของเมืองกรุง เธออยู่ในชุดนอนสีขาวลายโดเรม่อน การ์ตูนที่เขาไม่เคยอยากดู พีรพงศ์อยากจะทักเธอแต่ก็ไม่กล้า เลยได้แต่ยืนมองท้องฟ้าอยู่ห่างๆ

      ยืนอยู่สักพักชายหนุ่มก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครมาสะกิดด้านหลัง เมื่อหันไปดูจึงพบว่า เป็นหญิงสาวในชุดโดเรม่อนคนนั้นนั่นเอง 

      มีอะไรเหรอครับ

      หญิงสาวไม่ตอบ แต่กลับยื่นล็อกเก็ตเส้นหนึ่งมาให้ พีรพงศ์ยื่นมือไปรับอย่างงงๆ และพิจารณาล็อกเก็ตเส้นนั้น มันเป็นล็อกเก็ตที่สวยมาก สวยที่สุดที่เขาเคยเห็นเลยล่ะ ลายเส้นที่วาดอย่างบรรจง เส้นโค้งที่งดงาม บ่งบอกให้รู้ว่า ล็อกเก็ตเส้นนี้ต้องสั่งทำอย่างแน่นอน

      ให้ผม....

      เมื่อพีรพงศ์เงยหน้าขึ้นจะถามว่าให้เขาหรือ แต่ปรากฏว่าหญิงสาวคนนั้นได้หายไปแล้ว พีรงพงศ์เดินตามหาร่างของหญิงสาวคนนั้นแต่ก็ไม่เจอเลย

       

      คุณพี คุณพีคะ ตื่นเถอะคะ

      แรงปลุกของหมอสาวทำให้พีรพงศ์รู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกระพริบตาอย่างงงๆ และพบว่าตัวเองนั่งอยู่หน้าห้องตรวจ

      คุณศิ นี่ผมหลับไปเหรอครับ ...เมื่อกี้นี้ มันอะไรกัน... ฝันเหรอ ล็อกเก็ตนั่น...

      คะ ศิขอโทษนะคะที่หายไปนาน  ไปจัดการเรื่องงานมาน่ะคะ ตรวจเสร็จแล้วใช่มั้ยคะ งั้นไปล้างหน้าล้างตาเถอะคะ แล้วเดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกัน ศิเลี้ยงเอง

      ครับ ร่างหมอสาวเดินลิ่วๆไปแล้ว ทิ้งให้พีรพงศ์นั่งงงอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่และเมื่อมองลงไปในมือพบว่าล็อกเก็ตที่หญิงสาวโดเรม่อนให้เขาเมื่อกี้นั้น ตอนนี้มันอยู่ในมือข้างขวาของเขา

      พีรงพงศ์งงหนักแต่ก็ต้องทำเป็นไม่มีอะไรและเก็บล็อกเก็ตอันนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกงเพราะหมอสาวที่เดินนำหน้าไปเมื่อกี้ ย้อนกลับมาและถามอย่างเป็นห่วง พีรพงศ์ตอบไปว่าไม่มีอะไร แล้วลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา เผื่อเรื่องเมื่อกี้จะเป็นแค่ความฝัน และล็อกเก็ตในมือเขานั้นไม่ใช่ของจริง

       

      แต่จนแล้วจนรอด ล็อกเก็ตอันนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน มันยังอยู่ในกระเป๋าของเขา หลังจากวันนั้น วันที่เขาได้ล็อกเก็ตนั้นมา ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆเหมือนมีคนคอยตามเขาอยู่ ผ่านมาสามอาทิตย์แล้วแต่ความรู้สึกนั้นก็ยังติดค้างไม่หายไปไหน

      คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง พีรพงศ์นั่งอยู่หน้าบ้านที่สนามหญ้าพลางคิดถึงเรื่องวันนั้น

      วูบ!!

      เฮ้ย!!! เธอ นี่เธอ

      จู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งคล้ายเสียงใบไม้ไหว ชั่วพริบตาก็มีร่างโปร่งแสงร่างหนึ่งโผล่มาข้างหน้าเขา พีรพงศ์เบิกตากว้างชี้ไปที่ร่างนั้นด้วยความตกใจพร้อมกับลุกขึ้น ร่างที่ดูโปร่งใสร่างนั้นคือร่างหญิงสาวที่สวมชุดโดเรม่อนแล้วนำล็อกเก็ตบ้าๆนั่นมาให้เขานั่นเอง

      นี่เธอเป็นใครน่ะ แล้วล็อกเก็ตนั่นทำไมเธอถึงต้องเอามาให้ฉันด้วย

      พีรพงศ์ถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ฟังดูเหมือนเขาจะโกรธอยู่หน่อยๆ เพราะเรื่องนั้นมันทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยน่ะสิ วันๆได้แต่คิดเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียว เขาจะบ้าตายอยู่แล้ว

      ร่างของหญิงสาวส่งยิ้มมาให้บางๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ น่าฟัง

      ขอโทษที่ทำให้คุณโกรธ แต่เพราะว่ามีคุณคนเดียวที่จะช่วยฉันได้

      หมายความว่าไงที่ผมจะช่วยคุณได้ เราไม่เคยรู้จักกันนะ

      ใช่ เราไม่เคยรู้จักกัน แต่คุณมองเห็นฉัน

      ....

      ฉันตายแล้ว

      .....!!!” นี่พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกันนะ ทำไมเขาถึงมองเห็นคนตายล่ะ คิดอย่างนั้น พีรพงศ์รู้สึกเหมือนอยากเป็นลม

      คุณช่วยฉันหน่อยได้มั้ย พาฉันไปหาแม่หน่อย แล้วช่วยเอาล็อกเก็ตนั้นให้แม่ฉันด้วยได้มั้ย

      .....

      ขอร้องล่ะ คุณเป็นคนเดียวที่มองเห็นและได้ยินฉัน

      เมื่อเห็นพีรพงศ์เงียบ หญิงสาว ไม่สิ วิญญาณสาวจึงขอร้องและอ้อนวอน พยายามอย่างเต็มที่ที่จะขอความช่วยเหลือจากเขา

      เฮ้อผมชื่อพี พีรพงศ์ แล้วคุณละ พีรพงศ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าไม่ช่วยมีหวังวิญญาณสาวคนนี้ได้ตามไปป่วนเขาทุกที่แน่นอน แล้วจะให้เขาทำไงล่ะ

      ฉันชื่อปา ปารีส นี่แสดงว่าคุณจะช่วยฉันแล้วใช่มั้ย วิญญาณสาวเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ เมื่อไม่เห็นท่าทีปฏิเสธจากเขา

      ถ้าผมช่วยคุณเสร็จแล้ว คุณจะไม่มายุ่งกับผมอีกใช่มั้ย

      แน่นอน

      งั้นก็โอเค ปา ผมจะช่วยคุณเอง นี่เขาไม่ได้กำลังหาเหาใส่หัวอยู่ใช่มั้ย พีรพงศ์คิดพลางถอนหายใจ

      ขอบคุณคะ ขอบคุณมากวิญญาณสาวนาม ปารีส เอ่ยขอบคุณขึ้น พร้อมยิ้มอย่างดีใจ ทำให้พีรพงศ์พลอยยิ้มตามไปด้วย

      ว่าแต่ ขอโทษนะ ทำไมคุณถึงตายพีรพงศ์นั่งลงพร้อมถามคำถามที่เขาอยากถามมานาน แต่ชายหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่าทำให้วิญญาณหญิงสาวสะเทือนใจกับคำถามนี้มากแค่ไหน

      ฉัน....ฉันฆ่าตัวตาย กระโดดตึกฆ่าตัวตาย เมื่อเดือนที่แล้วเธอนั่งลงข้างกายชายหนุ่มแล้วเล่าพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าโศก

      ....!!!” พีรพงศ์ที่นั่งมองดวงจันทร์อยู่ดีๆเมื่อได้ฟังสาเหตุการตายแล้วเขาหันขวับไปหาหญิงสาวทันทีอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อยากถามเหลือเกินว่าเพราะอะไรแต่เห็นหน้าเธอแล้วชายหนุ่มก็กลืนคำถามนั้นลงคอไปทันที

      ฉันอยากเจอแม่ ฉันอยากขอโทษแม่ ที่โรงพยาบาลนั่นฉันเที่ยวตามหาคนที่มองเห็นฉันตลอด แล้วก็ได้เจอคุณ ปารีสเล่าพลางจ้องมองดวงจันทร์ที่ทอแสงเหลืองนวล ประโยคสุดท้ายเธอหันมามองเขาพร้อมรอยยิ้ม

      .....

      คุณอยากรู้ใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงฆ่าตัวตาย เพราะฉันอกหักน่ะ ความคิดชั่ววูบที่บอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา มันทำให้ฉันไม่คิดหน้าคิดหลัง และตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

      .....

      แต่พอตายไปแล้ว ฉันพึ่งมาคิดได้ว่า ความคิดของฉันมันช่างไร้สาระ และเลวสิ้นดี

      ......

      ฉันทำร้ายแม่ ทำร้ายคนที่รักด้วยตัวฉันเอง บาปของฉันชาตินี้ก็ชดใช้ไม่หมด

      ......

      คุณรู้มั้ย ตอนฉันอยู่โรงพยาบาล ฉันเห็นคนที่เขาอยากอยู่บนโลกนี้ตั้งหลายคน แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ เพราะสภาพร่างกายเขาไม่เอื้ออำนวย

      .....

      แต่ฉันนี่สิ กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว ฉันถึงขนาดดับชีวิตตัวเองลง ทั้งๆที่ชีวิตฉันยังมีโอกาสอยู่บนโลกนี้ได้ แต่คิดได้ตอนนี้มันก็สายเกินไป

      .....

      คุณอยากรู้มั้ยว่าล็อกเก็ตนั่น สำคัญยังไง

      .....อยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว

      มันเป็นของพ่อฉัน ของที่พ่อเอาไว้ก่อนตายน่ะ ล็อกเก็ตนั่น ไม่ใช่ของจริงหรอก มันเป็นแค่ภาพลวงตาที่ฉันสร้างขึ้นมา

      .... วิญญาณทำอย่างนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่แปลก เข้าฝันเขายังไงได้เลย

      ของจริงอยู่ที่หอของฉันน่ะ ฉันเก็บไว้เพราะไม่อยากใส่ให้คุณแม่เสียใจ วานคุณช่วยบอกแม่ให้หน่อยนะ

      อืม พีรพงศ์ไม่ตอบอะไรมาก เพราะตอนนี้เขารู้สึกสงสารร่างข้างๆยิ่งนัก

      ดึกแล้ว คุณไม่นอนเหรอ ฉันน่ะเป็นวิญญาณ ไม่ต้องนอนหรอก

      จริงด้วย งั้นฉันไปนอนแล้วนะ พีรพงศ์บอกลาเพื่อที่จะเข้านอน วิญญาณสาวพยักหน้ารับ จากนั้นเขาจึงเข้าบ้านไป ไฟห้องนอนเขาดับแล้ว แต่วิญญาณสาวยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

       

      วันต่อมา

      แม่...

      พีรพงศ์ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงปารีสเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วเงยหน้าจากแผนที่ที่เขากำลังเดินอ่านอยู่มองร่างของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่ถือถุงกับข้าวกำลังจะไขกุญแจเข้าไปในบ้าน

      นั่นแม่คุณเหรอ

      ใช่

      พีรพงศ์รีบวิ่งไปบ้านที่หญิงวัยกลางคนกำลังจะเข้าไปและร้องเรียกไว้ทันที

      เดี๋ยวก่อนครับคุณป้า

      พ่อหนุ่ม มีอะไรเหรอจ๊ะ หญิงวัยกลางคนถามอย่างสงสัย เท่าที่จำได้ ไม่เคยรู้จักกันนี่นา

      คือผมมีเรื่องจะบอกคุณป้า เรื่องเกี่ยวกับลูกสาวคุณป้าน่ะครับหญิงวัยกลางคนชะงักเล็กน้อยแล้วเชิญพีรพงศ์เข้าไปในบ้าน

      ...เข้ามาก่อนสิ พ่อหนุ่ม

      ขอบคุณครับ

       

      มีเรื่องอะไรจะบอกป้าเหรอ

      คือคุณป้าครับ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ว่าลูกสาวคุณป้านั่งอยู่ข้างผมครับ ผมมองเห็นเธอ

      เมื่อพีรพงศ์พูดจบหญิงสาววัยกลางคนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของชายหนุ่มคนนี้แล้ว ก็ทำใจให้ไม่เชื่อไม่ได้

      มีอะไรมายืนยัน

      คุณพ่อของปารีสที่เสียไปแล้วได้ให้ล็อกเก็ตของท่านไว้ก่อนเสีย ถูกมั้ยครับ

      เธอ...นี่เธอรู้ได้ยังไงน่ะเธอตกใจมากที่เรื่องที่ไม่เคยบอกใครเลยพ่อหนุ่มแปลกหน้าคนนี้รู้ได้ยังไง

      ปารีสบอกครับ

      เป็นความจริงหรือนี่ โอ้ ปารีสลูกแม่ ตอนนี้เธออยู่ตรงไหนและแล้วน้ำตาที่แห้งหายไปนานก็กลับร่วงลงมาจากเบ้าตาอีกครั้ง

      อยู่ตรงนี้ครับ ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่โซฟาที่ปารีสนั่งอยู่  ผู้เป็นมารดามองที่โซฟานั่นแล้วแววตาก็ฉายให้เห็นถึงความอาทร

      แม่คะ หนูเสียใจ หนูขอโทษสำหรับทุกอย่างคะ ยกโทษให้หนูด้วยนะคะ

      เธอบอกว่า เธอเสียใจ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และอยากให้คุณป้ายกโทษให้น่ะครับ พีรพงศ์บอกตามที่วิญญาณสาวพูดทุกอย่างให้มารดาของเธอฟัง

      ไม่เป็นไร แม่ไม่เคยโกรธหนูเลยนะลูก ปา แม่ไม่เคยโกรธหนูเลย ผู้เป็นมารดายกมือขึ้นจับหน้าอกพร้อมปล่อยโฮอย่างไม่อาย

      แม่คะ อย่าร้องไห้เลยนะคะ ปารีสอยากจะลุกขึ้นไปซับน้ำตาให้มารดาของเธอ หากแต่ก็ทำไม่ได้

      เธอบอกว่า อย่าร้องไห้เลยนะ ถ้ายิ่งร้อง ปารีสจะยิ่งมีห่วงนะครับเมื่อฟังดังนั้นผู้เป็นมารดาก็สะอื้นเล็กน้อยหยุดร้องไห้แล้วปาดน้ำตาทิ้ง

      ขอบคุณมากนะพ่อหนุ่ม ฝากบอกปาด้วยว่า ไม่ต้องห่วงแม่ แม่ดูแลตัวเองได้ ไปสู่สุขติเถอะนะ วิญญาณสาวพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า เธอรับรู้แล้ว

      เธอได้ยินแล้ว คุณป้าครับ เรื่องล็อกเก็ตนั่นน่ะครับ ปารีสบอกว่ามันอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่หอพักของเธอน่ะครับปารีสตกใจเมื่อพีรพงศ์เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอหันมามองพีรพงศ์เล็กน้อยแล้วก็หันไปมองหน้ามารดาตัวเองที่ตอนนี้น้ำตาไหลอีกแล้ว

      ....เด็กคนนั้น ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆที่บอกว่าของพรรค์นั้นน่ะ ไม่มีค่าเลยสักนิด แล้วทำไมถึงยังเก็บไว้อีกนะมารดาของปารีสพึมพำคล้ายกับว่าเป็นประโยคบอกเล่ามากว่าคำถาม

      เพราะว่าไม่อยากให้คุณนึกถึง แล้วเสียใจยังไงล่ะครับ

      “…!!!” มารดาของปารีสมองหน้าพีรพงศ์อย่างตกใจ จากนั้นจึงยิ้มบางๆ

      นั่นสิ เด็กคนนั้นชอบคิดถึงแต่ความรู้สึกของคนอื่นเสมอ แต่ทำไมครั้งนั้นถึงไม่คิดถึงคนอื่นบ้างนะมารดาปารีสพูดพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ

       

      จากนั้นพวกเขาก็ได้คุยกันสัพเพเหระ จนเวลาล่วงเลยไปจนพระอาทิตย์จะตกดิน มารดาและลูกสาวจึงล่ำลากัน บรรยากาศเศร้าโศกจนพีรพงศ์อยากจะออกมาจากตรงนั้น ถ้าไม่ติดว่า เขาเป็นล่ามอยู่น่ะนะ

      ขอบคุณมากนะคะ ต่อจากนี้ฉันจะไม่มายุ่งกับคุณอีก สบายใจได้เลยคะ

      ขอให้คุณไปสู่สุคตินะ แล้วผมจะทำบุญไปให้

      ไม่หรอกคะ ชาตินี้ฉันคงไม่ได้ผุดได้เกิดหรอก บาปที่ฉันทำไว้หนาเกินกว่าจะชดใช้ได้

      .... พีรพงศ์ไม่ได้ตอบ ทำได้แค่ยิ้มเศร้าๆให้เธอ

      ลาก่อนคะวิญญาณสาวยิ้มให้เขาบางๆ และค่อยๆหายไปพร้อมกับสายลม

      ชายหนุ่มมองความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้าและพูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

      ...ลาก่อน

       

      พี ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปทำงานสายนะ

      เสียงผู้เป็นมารดากำลังตะโกนเรียกให้ชายหนุ่มผู้ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในห่วงนิทราตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะได้ไปทำงาน

      อื้อ ชายหนุ่มครางเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้น

      นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความจริงเหรอ เอ้อ ฝันประหลาดจังเลยนะเรา

      ชายหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดหัวไล่ความมึนเล็กน้อย พร้อมหันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะเพื่อที่จะดูเวลา เขาไม่น่าหลับลึกขนาดที่ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจนต้องให้แม่ปลุกเลยนี่นา

      แต่ชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่เขาเห็นข้างนาฬิกาตั้งโต๊ะก็คือ

      ....ล็อกเก็ต!!!

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "“ล๊อกเก็ตอันนั้นบรรจุภาพอันงดงามแบบไหนไว้ข้างในกันนะ?”"

      (แจ้งลบ)

      บทวิจารณ์ Com#4 Fhal2a (ฟารา) 1/4 “ปริศนาล็อกเก็ต” เเต่งโดยสมาชิก #4 ฟ้า (ชื่อเล่นเหมือนฟาราเลยนะเนี่ย!) http://writer.dek-d.com/54001441/writer/viewlongc.php?id=613591&chapter=9 (33/50) (หากเจ้าของเรื่องไม่พอใจกับคะแนน คิดว่าตัวเองควรได้มากกว่านี้ (หรือน้อยกว่านี้) ให้โพสโต้แย้งได้เลยจ้ะ ถ้าสมเหตุสมผล ฟาราก็ยินดีแก้ให้) “ ... อ่านเพิ่มเติม

      บทวิจารณ์ Com#4 Fhal2a (ฟารา) 1/4 “ปริศนาล็อกเก็ต” เเต่งโดยสมาชิก #4 ฟ้า (ชื่อเล่นเหมือนฟาราเลยนะเนี่ย!) http://writer.dek-d.com/54001441/writer/viewlongc.php?id=613591&chapter=9 (33/50) (หากเจ้าของเรื่องไม่พอใจกับคะแนน คิดว่าตัวเองควรได้มากกว่านี้ (หรือน้อยกว่านี้) ให้โพสโต้แย้งได้เลยจ้ะ ถ้าสมเหตุสมผล ฟาราก็ยินดีแก้ให้) “ล๊อกเก็ตอันนั้นบรรจุภาพอันงดงามแบบไหนไว้ข้างในกันนะ?” สาวน้อยนาม “ปารีส” อกหักช้ำรักจนต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทว่าความตายเป็นเพียงจุดเริ่มต้น วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในภพภูมินี้ เฝ้ารอวันที่จะทำความปรารถนา ”หลังจากสิ้นชีวิตไป” ให้เป็นจริง รอคอยคุณ ผู้ที่จะมาช่วยปลดปล่อยเธอสู่สุขคติ~ เนื้อเรื่องและความสอดคล้องกับหัวข้อ “หลอนๆ ลึกลับ” (20 คะแนน) 2/4 โครงเรื่อง/การดำเนินเรื่อง (6/10) โครงเรื่องนี่แทบไม่มีอะไรเลยค่ะ A>B>C>D เลยโดนหักคะแนนเรื่องความคิดสร้างสรรค์ จริงๆตอนอ่านย่อหน้าแรกๆนี่เขียนได้ดีทีเดียวเลยคาดหวังไว้สูงว่าเรื่องจะซับซ้อนชวนติดตามมากกว่านี้ แต่พอมาถึงตอนจบ มันแบบเกิดอารมณ์ แค่เนี้ย!?...ขาดจุดตื่นเต้น เหตุผลที่มารองรับการฆ่าตัวตาย เหตุผลที่มาหาพระเอก ก็ธรรมดาเหลือเกิน ข้อดีคือมันเป็นเรื่องผีสำหรับคนขวัญอ่อนมากๆได้ เพราะมันไม่น่ากลัว ทำให้นึกถึงการนำเสนอเรื่องหลอนที่ไม่เน้นความสยองแต่เน้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ปัญหาคือ อารมณ์ที่ต้องการเน้นของเรื่องนี้มันยังไม่กินใจเท่าไร แล้วความหลอนแบบไม่เน้นขายเลือดหรือซากศพ เขียนให้น่ากลัวยากกว่าเยอะค่ะ (3 คะแนน) ดำเนินเรื่องดีไม่สับสน ฉากเปิดตัวละคร เหตุการณ์ในเรื่องเข้าใจง่าย (3 คะแนน) การออกแบบตัวละคร (3/5) นางเอก “ปารีส” มีขัอดีคือกตัญญู รู้จักคิด แต่พระเอก คุณหมอ เพื่อนหมอ คุณแม่ ธรรมดามากจนไม่รู้จะให้คะแนนยังไง ตัวละครยังขาดเสน่ห์จ้ะ ความสอดคล้องกับหัวข้อ (2/5) “จบสิ้นชีวิตชอกช้ำ หัวใจระกำด้วยความรัก” พล็อตยอดฮิตที่ถ้าเขียนดีๆก็เรียกน้ำตาเป็นปี้บเลยทีเดียว เป็นเรื่องหลอนแบบ soft soft ที่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ลึกลับไหม ก็อืม...ไม่เท่าไรนะ เรื่องนี้เรียกนิยายหลอนได้ไม่เต็มปากเลยค่ะ บทจะไปเด่นเรื่องนางเอกโดดตึก พระเอกบังเอิญมา ร.พ. แล้วก็เรื่องครอบครัวของนางเอก เป็นนิยายซึ้งๆ เน้นความรักในครอบครัวมากกว่า การใช้ภาษา (15 คะแนน) 3/4 บทสนทนา (4/5) การบรรยายฉาก (4/5) การบรรยายอารมณ์ (4/5) (จะไม่หักคะแนนเรื่องคำผิดมากนักเพราะเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจทาน แต่ถ้าผิดมากเกินรับได้ ก็โดนหักมากหน่อยเท่านั้นเองจ้ะ) ขอบอกว่าหัวข้อนี้จะให้คะแนนเขี้ยวมาก เพราะมันสำคัญทีเดียวในการเขียน ให้ตรงๆไม่มีการอ้อมค้อม ทักษะการเขียนอยู่ในขั้นดีทีเดียว เห็นได้ชัดว่ามีประสบการณ์อยู่แล้ว แทบไม่มีอะไรให้ติ มาติดตรงฉากโดนรถชนค่ะ ที่เป็นเสียงนำก่อน ตามด้วยการบรรยาย การเขียนแนวนี้ส่วนมากฟาราเห็นว่าเหมาะกับ “จุดสำคัญของเรื่อง” มากกว่า ถ้าเอามาปรับใช้ตอนผีนางเอกออกจะเด่นกว่านี้มากเลยค่ะ ส่วนฉากกับอารมณ์ในเรื่องนี่แทบไม่มีข้อติ แต่ที่ไม่ได้เต็มเพราะอยากให้รู้ว่าฟารามั่นใจว่าคุณเขียนได้ดี ซึ้งเศร้าสะเทือนใจ (ตอนแม่คุยกับปารีสผ่านพระเอก) และสยดสยองกว่านี้ (ตอนโดดตึก- จริงๆน่าบรรยายอารมณ์นางเอกด้วยนะ) แล้วตรง “ฝ่าเท้าน้อยๆ” ของพระเอกอะจ้ะ - -‘’ มาดแมนหายหมดกลายเป็นเด็กหนุ่มไปเลย... ความสนุก (10 คะแนน) 4/4 (5/10) ก่อนอื่นต้องบอกว่า เปิดเรื่องมาน่าสนุก มีปมว่าทำไมนางเอกกระโดดตึก แถมบรรยายได้อารมณ์ดีมาก ช่วงพระเอกไปเจอหมอสาวนี่ก็งงๆ นิดหน่อยมันบังเอิญแบบจงใจมาก แถมหมอก็ไม่ไดมีบทอะไรมากกว่าพาไปร.พ. จริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นตัวละครมีชื่อเลยก็ได้ค่ะ ที่ฮากว่านั้นคือ นางเอกโดดหอพักตัวเองแต่ทำไมวิญญาณมาโผล่ดาดฟ้าร.พ. แล้วพอโผล่มาเจอพระเอกก็ใส่ชุดลายโดเรม่อน ขำก้ากเลยค่ะ แสดงว่าตอนเธอฆ่าตัวตายเธอใส่ชุดนั้นโดด? กรรม ไม่สยองแล้วนี่มันหนังตลก.... ที่สำคัญ ล็อคเก็ตมันมีความสำคัญอะไรในเรื่องหรือคะ...ไม่เด่นจนสามารถเป็นชื่อเรื่องได้ด้วยซ้ำ เหมือนการพยายามยัดเยียดลงไปมากกว่า จุดอ่อนของเรื่องนี้คือการพยายามเน้นความสำคัญของกิริยาตัวละครที่ “ไม่สำคัญ” เช่นฉากคุยกับหมอสาว ฉากเจอกับปารีสบนดาดฟ้า ฉากคุยกับแม่....เขียนได้ดีทั้งหมดเลยค่ะ แต่มันน่ากลัว ลึกลับ หลอนๆ ตามหัวข้อยังไง? “คุณมีพื้นฐานการเขียนที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ที่ต้องเพิ่มคือการคิดเนื้อเรื่องให้ดึงดูดใจค่ะ” จิตพิศวาส (5 คะแนน) (5/5) ตรงต่อเวลา เว้นวรรคเวลาการพิมพ์ จัดย่อหน้าสวยงาม ถ้าเต็ม 10 ก็ได้ 10ไปแล้วนะเนี่ย “ทักษะการเขียนดีมากค่ะ ที่ขาดไปคือจินตนาการ ขึ้นชื่อว่านิยายมีหลายแบบ แต่สิ่งที่ทำให้นิยายขายดีต่างจากนิยายธรรมดานั้น ก็คือจินตนาการ”   อ่านน้อยลง

      ฟารา | 1 พ.ค. 53

      • 1

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "“ล๊อกเก็ตอันนั้นบรรจุภาพอันงดงามแบบไหนไว้ข้างในกันนะ?”"

      (แจ้งลบ)

      บทวิจารณ์ Com#4 Fhal2a (ฟารา) 1/4 “ปริศนาล็อกเก็ต” เเต่งโดยสมาชิก #4 ฟ้า (ชื่อเล่นเหมือนฟาราเลยนะเนี่ย!) http://writer.dek-d.com/54001441/writer/viewlongc.php?id=613591&chapter=9 (33/50) (หากเจ้าของเรื่องไม่พอใจกับคะแนน คิดว่าตัวเองควรได้มากกว่านี้ (หรือน้อยกว่านี้) ให้โพสโต้แย้งได้เลยจ้ะ ถ้าสมเหตุสมผล ฟาราก็ยินดีแก้ให้) “ ... อ่านเพิ่มเติม

      บทวิจารณ์ Com#4 Fhal2a (ฟารา) 1/4 “ปริศนาล็อกเก็ต” เเต่งโดยสมาชิก #4 ฟ้า (ชื่อเล่นเหมือนฟาราเลยนะเนี่ย!) http://writer.dek-d.com/54001441/writer/viewlongc.php?id=613591&chapter=9 (33/50) (หากเจ้าของเรื่องไม่พอใจกับคะแนน คิดว่าตัวเองควรได้มากกว่านี้ (หรือน้อยกว่านี้) ให้โพสโต้แย้งได้เลยจ้ะ ถ้าสมเหตุสมผล ฟาราก็ยินดีแก้ให้) “ล๊อกเก็ตอันนั้นบรรจุภาพอันงดงามแบบไหนไว้ข้างในกันนะ?” สาวน้อยนาม “ปารีส” อกหักช้ำรักจนต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทว่าความตายเป็นเพียงจุดเริ่มต้น วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในภพภูมินี้ เฝ้ารอวันที่จะทำความปรารถนา ”หลังจากสิ้นชีวิตไป” ให้เป็นจริง รอคอยคุณ ผู้ที่จะมาช่วยปลดปล่อยเธอสู่สุขคติ~ เนื้อเรื่องและความสอดคล้องกับหัวข้อ “หลอนๆ ลึกลับ” (20 คะแนน) 2/4 โครงเรื่อง/การดำเนินเรื่อง (6/10) โครงเรื่องนี่แทบไม่มีอะไรเลยค่ะ A>B>C>D เลยโดนหักคะแนนเรื่องความคิดสร้างสรรค์ จริงๆตอนอ่านย่อหน้าแรกๆนี่เขียนได้ดีทีเดียวเลยคาดหวังไว้สูงว่าเรื่องจะซับซ้อนชวนติดตามมากกว่านี้ แต่พอมาถึงตอนจบ มันแบบเกิดอารมณ์ แค่เนี้ย!?...ขาดจุดตื่นเต้น เหตุผลที่มารองรับการฆ่าตัวตาย เหตุผลที่มาหาพระเอก ก็ธรรมดาเหลือเกิน ข้อดีคือมันเป็นเรื่องผีสำหรับคนขวัญอ่อนมากๆได้ เพราะมันไม่น่ากลัว ทำให้นึกถึงการนำเสนอเรื่องหลอนที่ไม่เน้นความสยองแต่เน้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ปัญหาคือ อารมณ์ที่ต้องการเน้นของเรื่องนี้มันยังไม่กินใจเท่าไร แล้วความหลอนแบบไม่เน้นขายเลือดหรือซากศพ เขียนให้น่ากลัวยากกว่าเยอะค่ะ (3 คะแนน) ดำเนินเรื่องดีไม่สับสน ฉากเปิดตัวละคร เหตุการณ์ในเรื่องเข้าใจง่าย (3 คะแนน) การออกแบบตัวละคร (3/5) นางเอก “ปารีส” มีขัอดีคือกตัญญู รู้จักคิด แต่พระเอก คุณหมอ เพื่อนหมอ คุณแม่ ธรรมดามากจนไม่รู้จะให้คะแนนยังไง ตัวละครยังขาดเสน่ห์จ้ะ ความสอดคล้องกับหัวข้อ (2/5) “จบสิ้นชีวิตชอกช้ำ หัวใจระกำด้วยความรัก” พล็อตยอดฮิตที่ถ้าเขียนดีๆก็เรียกน้ำตาเป็นปี้บเลยทีเดียว เป็นเรื่องหลอนแบบ soft soft ที่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ลึกลับไหม ก็อืม...ไม่เท่าไรนะ เรื่องนี้เรียกนิยายหลอนได้ไม่เต็มปากเลยค่ะ บทจะไปเด่นเรื่องนางเอกโดดตึก พระเอกบังเอิญมา ร.พ. แล้วก็เรื่องครอบครัวของนางเอก เป็นนิยายซึ้งๆ เน้นความรักในครอบครัวมากกว่า การใช้ภาษา (15 คะแนน) 3/4 บทสนทนา (4/5) การบรรยายฉาก (4/5) การบรรยายอารมณ์ (4/5) (จะไม่หักคะแนนเรื่องคำผิดมากนักเพราะเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจทาน แต่ถ้าผิดมากเกินรับได้ ก็โดนหักมากหน่อยเท่านั้นเองจ้ะ) ขอบอกว่าหัวข้อนี้จะให้คะแนนเขี้ยวมาก เพราะมันสำคัญทีเดียวในการเขียน ให้ตรงๆไม่มีการอ้อมค้อม ทักษะการเขียนอยู่ในขั้นดีทีเดียว เห็นได้ชัดว่ามีประสบการณ์อยู่แล้ว แทบไม่มีอะไรให้ติ มาติดตรงฉากโดนรถชนค่ะ ที่เป็นเสียงนำก่อน ตามด้วยการบรรยาย การเขียนแนวนี้ส่วนมากฟาราเห็นว่าเหมาะกับ “จุดสำคัญของเรื่อง” มากกว่า ถ้าเอามาปรับใช้ตอนผีนางเอกออกจะเด่นกว่านี้มากเลยค่ะ ส่วนฉากกับอารมณ์ในเรื่องนี่แทบไม่มีข้อติ แต่ที่ไม่ได้เต็มเพราะอยากให้รู้ว่าฟารามั่นใจว่าคุณเขียนได้ดี ซึ้งเศร้าสะเทือนใจ (ตอนแม่คุยกับปารีสผ่านพระเอก) และสยดสยองกว่านี้ (ตอนโดดตึก- จริงๆน่าบรรยายอารมณ์นางเอกด้วยนะ) แล้วตรง “ฝ่าเท้าน้อยๆ” ของพระเอกอะจ้ะ - -‘’ มาดแมนหายหมดกลายเป็นเด็กหนุ่มไปเลย... ความสนุก (10 คะแนน) 4/4 (5/10) ก่อนอื่นต้องบอกว่า เปิดเรื่องมาน่าสนุก มีปมว่าทำไมนางเอกกระโดดตึก แถมบรรยายได้อารมณ์ดีมาก ช่วงพระเอกไปเจอหมอสาวนี่ก็งงๆ นิดหน่อยมันบังเอิญแบบจงใจมาก แถมหมอก็ไม่ไดมีบทอะไรมากกว่าพาไปร.พ. จริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นตัวละครมีชื่อเลยก็ได้ค่ะ ที่ฮากว่านั้นคือ นางเอกโดดหอพักตัวเองแต่ทำไมวิญญาณมาโผล่ดาดฟ้าร.พ. แล้วพอโผล่มาเจอพระเอกก็ใส่ชุดลายโดเรม่อน ขำก้ากเลยค่ะ แสดงว่าตอนเธอฆ่าตัวตายเธอใส่ชุดนั้นโดด? กรรม ไม่สยองแล้วนี่มันหนังตลก.... ที่สำคัญ ล็อคเก็ตมันมีความสำคัญอะไรในเรื่องหรือคะ...ไม่เด่นจนสามารถเป็นชื่อเรื่องได้ด้วยซ้ำ เหมือนการพยายามยัดเยียดลงไปมากกว่า จุดอ่อนของเรื่องนี้คือการพยายามเน้นความสำคัญของกิริยาตัวละครที่ “ไม่สำคัญ” เช่นฉากคุยกับหมอสาว ฉากเจอกับปารีสบนดาดฟ้า ฉากคุยกับแม่....เขียนได้ดีทั้งหมดเลยค่ะ แต่มันน่ากลัว ลึกลับ หลอนๆ ตามหัวข้อยังไง? “คุณมีพื้นฐานการเขียนที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ที่ต้องเพิ่มคือการคิดเนื้อเรื่องให้ดึงดูดใจค่ะ” จิตพิศวาส (5 คะแนน) (5/5) ตรงต่อเวลา เว้นวรรคเวลาการพิมพ์ จัดย่อหน้าสวยงาม ถ้าเต็ม 10 ก็ได้ 10ไปแล้วนะเนี่ย “ทักษะการเขียนดีมากค่ะ ที่ขาดไปคือจินตนาการ ขึ้นชื่อว่านิยายมีหลายแบบ แต่สิ่งที่ทำให้นิยายขายดีต่างจากนิยายธรรมดานั้น ก็คือจินตนาการ”   อ่านน้อยลง

      ฟารา | 1 พ.ค. 53

      • 1

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×