ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PROT SURVIVOR เกมไล่ล่า เอาชีวิตรอดมรณะ

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 อดีตของ5/5(1)-แสตมป์

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 56


    บทที่ 6

    [อดีตของ 5/5(1)-แสตมป์]

     

           ยามเย็นในเวลาประมาณ 6โมง อ่อนๆที่พระอาทิตย์ส่องเป็นสีเหลืองเรื่อๆ จนใกล้จะลับขอบฟ้า ทำให้ขอบฟ้าคล้ายที่แสงสด แต่เพราะฝนที่ยังคงตกลงมาไม่หยุดบวกกับท้องฟ้าสีแดงที่ดูน่ากลัว กลับทำให้หลายๆคนนึกถึงห้วงเวลาที่แสนเศร้าในอดีตของตัวเองได้เลยทีเดียว


    “ส่งแค่นี้ก็แล้วกันนะ”


    บอล[5]พูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาเขกหัวแฟนสาวของตนเบาๆ ทำให้แสตมป์[1]เผลอยิ้มจนแก้มแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว


    ทั้งคู่ยังคงยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ค่อนข้างนานเป็นเวลาเกือบค่อนชั่วโมงแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ บนถนนทุกๆสายในกรุงเทพมหานครจึงเต็มไปด้วยรถจำนวนมาก หน้าอนุสาวรีย์ชัยฯเองก็เช่นกัน รถและผู้คนมากมายที่ทยอยกันกลับบ้านในวันศุกร์ ค่อยๆเคลื่อนผ่านถนนไปอย่างเชื่องช้าราวกับเต่าคลาน



    “เดี๋ยวพรุ่งนี้แสตมป์[1]เอาร่ม มาคืนนะ” เธอชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างรถโดยสารที่เพิ่งออกไปได้ให้นานพร้อมกับตะโกนบอกบอล[5]ที่ยืนหลบฝนยอมสละร่มคันเดียวที่มีอยู่ให้เธอ[5]


    “บ๊าย บาย..”


    บอลโบกมือให้ก่อนที่จะค่อยๆ เดินเบียดเสียดออกมาจากกลุ่มคนแน่นขนัดที่มาคอยรถโดยสารอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเดินค่อยๆเดินหลบฝนไปตามทางเท้าบริเวณถนนคนเดินไปเรื่อยๆ พร้อมกับผู้คนที่วิ่งหลบฝนกันอย่างจ้าละหวั่น


    “ไม่ชอบฝนเลยแฮะ”


    บอล[5]พูดกับตัวเองพร้อมกับมองหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดฝนโปรยที่ลงมา ก่อนที่จะยิ้มให้ท้องฟ้านั้นและหลับตาลงหวนนึกถึงอดีต อดีตที่พยายามลบมันออกไปเท่าไรก็ไม่มีทางลบได้

    .....................................................................................................................................................................................................................................

    ....................................

    .....................

    ............

    ….

    ..

    ..

    .


    “นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ”


    “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”


    ครูอิสราที่เพิ่งเข้ามาสอนในพรตพิทยพยัตได้ไม่นานเดินเข้ามาภายในห้องอย่างเขินอาย จนทำให้นักเรียนในห้องสังเกตุได้ชัด เธอก้าวเข้ามาที่โต๊ะเป่าปากเล็กน้อย ก่อนที่จะวางกองหนังสือที่อยู่ในมือ พร้อมๆกับกวาดสายตามองนั่งเรียนที่นั่งตาแป๋วอยู่ในห้องเรียน แล้วตัดสินใจพูดออกมาอย่างเกร็งๆ


    “สวัสดีค่ะนักเรียน 5/5 ครูชื่ออิสรานะคะ...ยินดีที่ได้รู้จักนักเรียนทุกๆคน เพิ่งเข้ามาสอนห้องนี้เป็นห้องแรกค่ะ..เอ่อ.”


    ครูอิสรายิ่งขาดความมั่นใจมากขึ้นไปอีกเมื่อนักเรียนในห้องต่างก็ไม่สนใจฟังในขณะที่พูดอยู่เลย ครูอิสจึงทำได้แต่มองไปรอบๆในห้อง นักเรียนหญิงผมยาว ดัดฟันคนหนึ่ง กำลังนั่งกดโทรศัพท์เล่นและคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ โดยที่เธอไม่ได้สนใจครูอิสราตั้งแต่ที่เดินเข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว ครูอิสราจึงเดินเข้าไปฉวยโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเธอ พร้อมๆกับจ้องนักเรียนหญิงคนนั้นด้วยแววตาดุที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน


    “ในขณะที่ครูพูดไม่ควรเล่นโทรศัพท์นะคะ ถ้าอยากได้คืนให้ไปที่ห้องปกครองเดี๋ยวครูจะไปฝากไว้ที่นั่น”


    นักเรียนหญิงคนนั้นลุกขึ้นและเดินออกไปนอกห้องทันที อย่างท้าทายโดยไม่ใส่ใจสายตาของคนรอบข้างที่จับจ้องมายังเธอ ครูอิสรามองตามก่อนที่จะหันกลับมาสอนต่อโดยไม่ได้สนใจ จนเพื่อนที่นั่งคุยด้วยข้างๆต้องเป็นฝ่ายไปตามกลับมา


    “นี่....แปม[5] เธอจะบ้าไปแล้วรึไง ทำแบบนี้มันผิดครูอิสราเค้ายึดไปมันก็ถูกแล้ว”


    พลอยใส[5]วิ่งออกมาคว้าแขนเพื่อนสาวดัดฟันของเธอเอาไว้หลังจากที่วิ่งออกมาข้างนอกห้อง


    “มันเรื่องของฉัน ความจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่อยากที่จะเรียนวิชานี้ก็เท่านั้นเอง..”

     
    แปม[5]สบถตอบด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย


    “ทำไมล่ะ”

    พลอยใส[5]ถามกลับไปทันทีแต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือจากเพื่อนของเธอ ในขณะเดียวกันข้างๆอาคารก็มีเสียงนักเรียนกลุ่มใหญ่ ที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่


    “ เฮ้ย !! พวกเรา มีผู้หญิงถูกจับอยู่ที่อาคารเรียนเก่าที่เป็นที่เก็บของว่ะ ไปดูกันดีกว่า เร็วๆๆ”

    นักเรียนชายคนหนึ่งตะโกนเรียกเพื่อนๆของตัวเอง พาให้เพื่อนๆกลุ่มใหญ่ต่างกรูกันไปที่สนามกีฬาที่โรงเก็บของเก่า

    แปม[5]ฉีกยิ้มให้พลอยใส[5] พร้อมกับพยักหน้าเมื่อเห็นว่ามีเรื่องสนุกๆมากกว่าการนั่งฟังครูที่เพิ่งเข้ามาสอนใหม่ๆบ่น

    “ไปเร็วพลอย!! ไปดูกันเถอะ ฉันอยากรู้ว้ามันเกิดอะไรขึ้น สนุกๆ ไปกัน”

    แปม[5]พูดพลางลากแขนพลอยใส[5]

    .............................................................................................................

     

    บริเวณสนามกีฬาที่เต็มไปด้วยต้นไม้หนาทึบจำนวนมากที่ไม่ค่อยจะมีคนย่างกรายเข้าไปนานมากๆแล้ว มีผู้คนจำนวนมากที่มุงดูเหตุการณ์ข้างในที่เกิดขึ้น นักเรียนหญิงคนหนึ่งถูกกลุ่ม อันธพาลที่ไม่ทราบได้ว่าเป็นกลุ่มไหนจับทรมานอยู่ข้างในเพราะต้องการเค้นความจริงบางอย่างจากเธอ


    ภายในโรงเก็บของ ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งพร้อมเพื่อนของเขาอีก 1 คน ลากผู้หญิงผมสั้น ดัดฟันที่ถูกจับมาก่อนที่จะบังคับให้เธอนั่งลงกับเก้าอี้ไม้ผุๆที่หาได้แถวนั้น ชายร่างสูงใหญ่บีบปากเธอพร้อมขู่บังคับและถามอะไรบางอย่างขึ้นมา


    สถานการณ์ที่เธอเจอตอนนี้กลับแย่สุดๆเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เธอพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ตัวเองแต่เพราะกลัวและเจ็บที่ถูกบีบปากอย่างแรงจึงทำได้แค่ร้องไห้ออกมาเบาๆเท่านั้น


    “เธอน่ะ..รู้จัก “หมัดซ้าย” ใช่มั้ย”


    ชายร่างสูงยืนหน้าเข้ามาถามใกล้ๆพร้อมกับจ้องเธอด้วยแววตาอำมหิต

    “ไม่รู้..ฉัน..”

     
    “ยัยโง่... จะไม่รู้ได้ยังไง.! เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมันไม่ใช่หรอโปสหมัดซ้ายไง บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหน”

    ชายร่างสูงเค้นถามและยังคงไม่ปล่อยมือออกจากปากของหญิงสาว

     

    “พอได้แล้ว บิ๊ก[7] !!...ยัยแสตมป์[1] น่ะมันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เธอไม่เกี่ยวข้องกับหมัดซ้ายโดยตรงถามไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยไปให้พ้นๆตาดีกว่า ดูทำหน้าเข้าสิเห็นแล้วน่ารำคาญชะมัด”


    บิลลี่[7]ที่ดูอยู่ข้างๆพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาห้ามชายร่างสูงใหญ่ที่มีชื่อว่า บิ๊ก[7]เอาไว้ แต่บิ๊ก[7]ก็ยังคงไม่ปล่อยมือออกจากปากแสตมป์[1] ก่อนทีจะใช้มือซ้ายตบเข้าที่หน้าของเธออย่างแรงจนเธอปากแตก


    ...เสียงฝีเท้าหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาภายในโรงเก็บของเก่าอย่างโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับมาทรมานอยู่ตรงหน้ามันอดไม่ได้ที่จะทำให้เขาซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องต้องเข้าไปยุ่งด้วย


    “พวกแก 2คนทำอะไรผู้หญิงน่ะ”


    เจ้าของเสียงฝีเท้าถามขึ้นมาโดยไม่ได้เจาะจงว่าจะถามใครขณะที่ตัวเองก็ยังคงอยู่ในเงามืดก่อนที่จะค่อยๆเดินออกมาเผยให้เห็นใบหน้า ใบหน้าที่จ้องเขม็งมายังบิ๊ก[7] และบิลลี่[7]


    “ปัดโธ่เอ๊ย......เอ......รู้สึกว่าแกจะชื่อบอล[5]สินะ...นึกว่าใคร โปส[5]เพื่อนขี้ขลาดของแกอยู่ที่ไหนล่ะฮะ กำปั้นของฉันอยากที่จะจูบแก้มมันเต็มทีแล้ว... คิดจะเข้ามาทำตัวเป็นพระเอกเอาซะตอนนี้มันไม่ช้าไปหน่อยหรอ...”


    บิ๊ก[7]ยักไหล่พูดกับบอล[5]อย่างไม่เกรงกลัว


    “เฮ้ย ระวังตัวดีๆนะบิ๊ก[7] เจ้านี่มันมีฉายาว่า “หมัดขวา” เป็นทั้งคู่หูและเพื่อนสนิทของโปส[5] ฝีมือมันเก่งพอๆกันเลยฉันว่าเราอย่าเพิ่งประมาทมันดีกว่า”


    บิลลี่[7]ที่ท่าทางตื่นตระหนกเมื่อเห็นบอล[5]จึงเดินเข้ามาห้ามบิ๊ก[7]เอาไว้เพราะรู้จักอีกฝ่ายดี ถ้ามีเรื่องกันตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีกัน 2คนแต่โอกาสชนะก็แทบริบหรี่มาก แสตมป์[1]เองที่ถูกตบอย่างแรงจนสลบไปค่อยๆเงยหน้าขึ้น หรี่ตามองมายังบอล[5]ในใจก็คิดว่าขอให้คนที่บังเอิญเดินเข้ามาร่วมวงคนนี้[5] ช่วยเธอให้ออกไปจากสถานการณ์น่ากลัวตรงนี้ก็พอ...


    “ฝากหมัดนี่ไปให้เพื่อนแกด้วยก็แล้วกัน!!!

     

     บิ๊ก[7]ไม่รอช้าพุ่งหมัดของตัวเองหาบอล[5]อย่างรวดเร็ว ก่อนที่บอลจะยกการ์ดขึ้นมากันได้อย่างหวุดหวิดพร้อมกับใช้มือขวาจับบิดแขนบิ๊ก[7]และกระตุกอย่างแรง


    “กร๊อบบบ !!


    บิลลี่[7]คว้าไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆตรงนั้นฟาดไปที่บอลอย่างไม่ลังเลในทันที ไม้ถูกหัวบอล[5]เต็มๆจนหน้าหัน บอลทรุดลงไปกองกับพื้น เลือดไหลหยดเป็นทาง บิ๊กจึงฉวยโอกาสชกคืนเข้าเต็มๆที่หน้าบ้าง


    “ผัวะ!!!


    บอล[5]จับหมัดของบิ๊ก[7]ด้วยมือซ้ายก่อนที่จะหมุนตัวกระแทกคืนด้วยศอกอย่างแรง จนบิ๊ก[7]เสียหลักเล็กน้อยก่อนที่บอล[5]จะระดมหมัดขวาใส่อย่างไม่ยั้ง และลากคอบิ๊ก[7]เข้ามาใกล้ๆพร้อมกับ เสยด้วยหมัดขวาอีกทีเต็มกะโหลก


    “อ๊ากกก”

    บิ๊กร้องลั่นเอามือขึ้นมากุมหัวที่มีเลือดไหลท่วมออกมาจากหน้าผาก ก่อนที่จะทรุดลงไปนั่งกับพื้น บอลจึงได้จังหวะ เตะเข้าที่คออย่างแรงจนชายร่างสูงใหญ่ที่อวดเบ่งในก่อนหน้านี้ไม่นานกลับเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ หงายหลังล้มตึงกับพื้นและสลบเหมือดทันที


    “แย่ล่ะ ท่าไม่ดีแล้ว เจ้านั่นไม่ได้บอกว่าจะเป็นแบบนี้นี่นา นี่หรอคนที่ได้ฉายาว่าหมัดขวา อยู่ไม่ได้แล้วเฟ้ย!!


    บิลลี่[7] ที่ยืนตะลึงอยู่ตัดสินใจวิ่งหนีออกไปทันที โดยไม่สนใจเพื่อนของตัวเองที่นอนสลบอยู่ตรงนั้นเลย


    “ เฮ้...เธอเป็นอะไรรึเปล่า”


    บอล[5]หันมาสบตาแสตมป์[1]ก่อนที่จะเดินเข้ามาหา และค่อยๆปัดฝุ่นที่เปื้อนอยู่บริเวณเสื้อและกระโปรงออกขณะที่เธอเองก็พยายามฝืนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้บอล[5]


    “ขอบคุณค่ะ”


    แสตมป์[1]ตอบอย่างเอื่อยๆเพราะยังรู้สึกเจ็บบริเวณใบหน้าอยู่พร้อมกับค่อยๆลุกขึ้น และพยักหน้าบอกพลางๆว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก


    “เจ้าพวกนั้นทำไมมันต้องมาทำแบบนั้นด้วย พวกมันต้องการอะไรกันแน่..ปล่อยไว้เรื่อยๆอาจเป็นปัญหาใหญ่และจะเป็นอันตรายกับตัวคุณก็ได้ ผมว่าไปแจ้งเรื่องนี้กับฝ่ายปกครองเลยดีกว่า”

     

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเป็นเพื่อนกับโปส[5]เพื่อนของคุณเหมือนกัน คนพวกนั้นมีเรื่องกับเขาอยู่บ่อยๆ เค้าจับฉันมาทรมานเพื่อที่จะทำให้โปส[5]ปรากฏตัวออกมาเท่านั้นเอง..อย่าทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ”


    เธอพูดพลางก้มหน้าเพื่อหลบสายตาของบอล[5]


    “โปส[5]น่ะหรอ มันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วล่ะ” บอลยิ้มก่อนที่จะพูดต่อ  “เธอเองก็อย่าฝืนตัวเองและอย่าพาให้ตัวเองไปพัวพันกับเรื่องนี้มากเลยดีกว่าส่วนโปส[5] ฉันจะไปบอกมันเอง.....แล้วเป็นอะไรมากไหมเนี่ย...เดี๋ยวฉันจะได้ช่วยพาไปห้องพยาบาลให้”


    บอล[5]ค่อยๆจูงแขนแสตมป์ ก่อนที่ทั้งคู่พากันพยุงเดินออกมาจากโรงเก็บของเก่าท่ามกลางสายตาจำนวนมากที่พากันมามุงดูอยู่ข้างนอก พร้อมกับซุบซิบนินทากันต่างๆ นานา กับเรื่องที่เกิดขึ้นราวกับนิยาย


    .....เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้มิตรภาพเล็กๆของทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้น แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

    ...................................................................................

    หลายวันต่อมา เรื่องที่บอล[5]บุกเข้าไปที่โรงเก็บของเก่าเพื่อช่วยแสตมป์[1] กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโรงเรียนในเวลาสั้นๆอย่างรวดเร็วถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแล้วก็ตามแต่บอลก็ยังไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้กับโปส[5] และเพื่อนๆคนอื่นเลย จนกระทั่งในวันหนึ่งหลังจากที่ข่าวกระจายไปทั่วจนเข้าหูโปส จึงตัดสินใจเข้ามาถาม

    “บอล...”


    โปสสะกิด

    “เรื่องที่แสตมป์เธอโดนจับไปวันนั้นเป็นเพราะฉันใช่รึเปล่า” โปสเดินเข้ามาถามบอลในขณะที่ก๊วนนักเรียนชาย 5/5 กำลังคุยอยู่ภายในโรงอาหารด้านนอกชายคาด้วยกัน บอล[5]นิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่จะตัดสินใจตอบ


    “อืม เพราะแกนั่นแหละ...แกทำให้เพื่อนหญิงที่น่ารักของแก ต้องพลอยมาติดกับเรื่องที่แกก่อเอาไว้กับคนอื่นไปด้วย ไปขอโทษเค้าเลย....”


    บอล[5]หันมาพูดพลางยกน้ำขึ้นมาดื่ม


    “ไอบ้านั่น บิ๊ก[7] แน่ๆ บ้าเอ๊ย!!! เป็นเพราะฉันจริงๆสินะ...”

     

     ขณะที่โปส[5]ยังพูดไปจบแอล[5]ที่นั่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ข้างๆชะโงกหน้าเข้ามาพูดแทรกขัดจังหวะ


    “เพื่อนหญิง อะไรกัน...แกน่าจะพูดผิดนะบอล[5] ไม่รู้เลยหรอว่าโปส[5]มันชอบแสตมป์[1] เลยทำทีเพื่อที่จะเป็นเพื่อนสนิทกับเธอยังไงล่ะ แต่ฉันว่าคราวนี้แกคงสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเธอแล้วล่ะ”


    แอล[5]พูดพร้อมกับหยิบขนุบกรุบกรอบที่วางอยู่บนจานรวมเข้าปาก และหันมายิ้มแฉ่งให้โปสอย่างกวนๆ ก่อนที่จะแอบเช็ดมือที่เปื้อนเศษขนมกับเสื้อของเต๋า[5]ที่นั่งอยู่ข้างๆ


    “เห้ยๆๆ แกก็พูดกันเกินไป”


    “ก่อนอื่นเลยนะ แกต้องไปขอโทษเค้าก่อน แต่ถ้าจะจีบล่ะก็เดี๋ยวหลังจากนี้พวกเราจะช่วยเอง ฮ่า ฮ่า”


    ตูน[5]เอ่ยขึ้นมาบ้าง ขณะที่บอล[5]ที่นั่งเงียบอยู่นานตัดสินใจลุกขึ้นออกจากวงสนทนานี้


    “เออ..เดี๋ยวฉันไปที่ห้องก่อนนะ พอดีเมื่อกี้ครูศุภชินโทรมาเรียกให้ไปหาน่ะ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเหมือนกัน”


    “อะไรของมันวะ..เดี๋ยวนี้มีกระตือรือร้นไปหาครูด้วยนะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย หรื่อว่าจะโดยบิ๊ก[7]ชกเข้าซะจนสมองกลับไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า..”


    แต้ม[5]พูดก่อนที่จะพาให้ทุกคนในวงสนทนาหัวเราะลั่นขึ้นมาในขณะที่บอลเดินห่างออกไปได้สักพักแล้ว ยังคงมีแค่โปสที่มองตามออกไปด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก


     ..............................................................................................................


    “แสตมป์[5] หนูเอาถาดนี้ไปเสิร์ฟไว้ที่โต๊ะ 6 นะคะ คุณลูกค้าเค้าออกไปข้างนอกสักพักเดี๋ยวก็กลับมา”


    “ได้ค่ะ.....”


    สาวเสิร์ฟคนหนึ่งหันมาพูดกับแสตมป์[1] เธอไปที่เคาน์เตอร์หยิบถาดชุดไก่ทอดที่วางเอาไว้ตรงนั้นอยู่แล้วขึ้นมาแล้วเดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะตามที่สาวเสิร์ฟบอก เสร็จแล้วเธอจึงเดินไปที่ซิงค์แล้วล้างมือ ก่อนที่จะพักนั่งลงบนโซฟาสำหรับพนักงานและถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา เพราะวันนี้เธอทำงานทั้งวันจนแทบไม่ได้หยุดพักเลย

     

    แมกโดนัลสาขาเมกะบางนา คือที่ทำงานพิเศษที่เธอต้องมาประจำในวันอาทิตย์ทุกๆครั้ง เนื่องจากผู้ปกครองและญาติคนอื่นๆของเธอต้องไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศเป็นเวลานานเกือบปี จึงได้ฝากให้เธอมาทำงานพิเศษที่นี่ และเหลือเพียงเธอที่ต้องอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียวเท่านั้น


    “ นี่เธอ...เสร็จแล้วก็มายกไปอีกถาดนึงสิ....อย่ามัวแต่อู้งานนะ ดูนั่น....ลูกค้าทยอยมากันอีกกลุ่มใหญ่แล้ว”


    พนักงานที่แก่คราวป้าคนหนึ่งหันมาดุแสตมป์[1]เมื่อเห็นว่าเธอกำลังนั่งกดโทรศัพท์อยู่ระหว่างงาน


    “อ๋อ..หนูขอโทษนะคะ” เธอสะดุ้งเล็กน้อยรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเอี๊ยมด้านหน้าแล้วค่อยๆลุกขึ้นหยิบถาดชุดไปเสิร์ฟ


    “ชุดข้าวหน้าเนื้อได้แล้วค่ะ..”

    เธอพูดก่อนที่จะค่อยๆวางถาดลงบนโต๊ะ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตาลูกค้า สายตาคู่นั้นของลูกค้ายิ้มให้ อย่างคนคุ้นเคย


    “อ้าว..บอล[5]มาได้ยังไงเนี่ย”

    เธออุทานขึ้นมาเบาๆเมื่อเห็นว่าลูกค้าที่ยิ้มคืนให้อย่างเป็นมิตรตรงหน้าคือคนที่เคยช่วยเหลือเธอเอาไว้ไม่นานนี้เอง

    “เธอทำงานอยู่ที่นี่เองงั้นหรอเนี่ย ไม่ยักรู้มาก่อนเลยแฮะ เก่งจังเลยนะ มานั่งด้วยกันสิๆ”


    บอล[5]พูดพลางลากเก้าอี้ตัวข้างๆออกมา  ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งคุยกันอยู่ในร้านอย่างสนิทสนมทั้งๆที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน เป็นเวลาค่อนชั่วโมงจนแทบจะลืมเวลา จนร้านใกล้ที่จะปิด


    เป็นเวลาเกือบ 2ทุ่มนิดๆ เหมือนท้องฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไร ยิ่งเข้าใกล้หน้าฝนท้องฟ้าก็เริ่มมึดครึ้มและน่ากลัวขึ้นทุกๆวัน ลมพัดโหมกระหน่ำราวกับพายุใหญ่ จนต้นไม้จำนวนมากถอนรากขึ้นมาจากพื้น ฝูงนกที่เกาะอยู่บนเสาไฟฟ้าจำนวนมากทยอยบินกลับรัง เมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่ากัมปนาถ

    ฝนได้เทลงมาจากฟ้าทันที ที่บอล[5]และแสตมป์[1] เดินออกมาจากห้องสรรพสินค้าเมกะบางนาทั้งคู่ วิ่งตากฝนออกมาด้วยกัน ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่วิ่งหลบฝนเช่นกัน


    “แย่จังเลย...ไม่มีใครที่มีร่มเลยหรอเนี่ย”

    บอล[5]พูดพลางหัวเราะดังๆอย่างสนุกสนานพร้อมกับถอดเสื้อนอก ออกมากันฝนให้แสตมป์[1]


    “มะ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะแล้ว..นั่น”


    บอล[5]หันมายิ้ม  “อ๋อ..ผมไม่หนาวหรอกครับ ว่าแต่เราอย่าเพิ่งคุยกันดีกว่ารีบวิ่งเร็วๆเข้าเถอะ”

     ทั้งคู่ยังคงวิ่งไปตามทางเท้าเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ในขณะที่น้ำที่ขังอยู่ริมถนนบริเวณทางเท้าถูกรถที่แล่นผ่านไปมาโดยรอบ เหยียบสาดกระเซ็นใส่ทั้งคู่จนทั้งตัวและรองเท้าเปรอะแฉะไปด้วยน้ำ


    “ฮ่า ฮ่า..เดินไหวรึเปล่า”


    บอล[5]ตัดสินใจหันหลังมาถามแสตมป์[5] เมื่อเห็นว่าเธอถอดถุงเท้าและรองเท้ามาถือแทน โดยเดินเท้าเปล่าพร้อมกับทำหน้าบูดบึ้งราวกับเด็กๆ ก่อนที่เธอจะร้องโอดโอยขึ้นมา


    “ ดูซิเนี่ย..เปียกเละเทะไปหมดทั้งตัวเลย”


    “ทำเป็นเด็กๆไปได้ นี่มาขี่หลังผมดีกว่าจะได้ไปถึงเร็วๆ เดี๋ยวไปส่งตรงป้ายรถเมล์ที่จะถึงใกล้ๆนี่ก็ได้ ไม่งั้นจะทำให้ไม่สบายขึ้นมาได้ง่ายๆด้วย


    พูดจบบอล[5] ก็หยิบรองเท้าที่เปรอะเปื้อนเละทะไปด้วยโคลนของแสตมป์[1]ขึ้นมาก่อนที่จะค่อยๆย่อตัวลงเพื่อให้เธอขึ้นมาขี่หลังได้ โดยที่เธอค่อนข้างจะเกรงใจและลังเลนิดๆแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะให้บอล[5] พาเธอไปส่งท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำอย่างไม่ขาดสาย


    “เปรี้ยงง!!

    ฟ้าได้ผ่าลงใครั้งแล้วครั้งเล่า สายฝนที่โปรยลงมาแทบจะชะล้างความเหนื่อยของทั้งคู่ให้หายไป


    “เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ แต่ก็ตัวหนักเหมือนกันนะเนี่ย...”

    บอล[5]พูดพร้อมกับเอียงคอหันมาหาแสตมป์[1] หน้าของเธอที่พาดมาที่ไหล่ เมื่อหันไปหาเพียงนิดเดียวหน้าของทั้งคู่จึงแทบจะชนกัน บอล[5]ยิ้มขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อพบว่าเธอได้หลับปุ๋ยอยู่บนหลังไปแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่


    “ขอบคุณนะ”

    “หืม...???

    “ขอบคุณที่วันนั้นมาช่วยฉัน..”


    บอล[5]ทำหน้าฉงนพร้อมกับเป่าปากเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอกำลังละเมอ เมื่อเห็นว่าเธอหลับอยู่จริงๆจึงได้ตัดสินใจระบายบางอย่างในใจที่ไม่ควรพูดออกมา

     

     “เธอคงยังไม่รู้จริงๆสินะว่าโปสมันชอบเธออยู่ สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องมาพัวพันกับเรื่องอันตรายอยู่ดี ฉันคงช่วยเธอได้แค่นี้แหละ หลังจากนี้ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมันจัดการต่อเองแล้ว บางที...”  


    บอล[5]ชะงักคำพูดของตัวเองเมื่อหันไปสบตากับแสตมป์[1]ที่มองตาแป๋วอยู่ข้างหลังโดยที่ไม่รู้ว่าเธอตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ความจริงเธอไม่ได้หลับจริงๆตั้งแต่แรกแล้ว


    “อ้าว...ตื่นแล้วหรอ” บอล[5]แสร้งเปลี่ยนเรื่อง


    แสตมป์อึกอักเล็กน้อยเพราะได้ยินคำพูดทั้งหมดเมื่อตะกี้ของบอลแล้วก่อนที่จะพยายามไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ และตอบกลับไปเพียงห้วนๆเท่านั้น


    “อื้ม...”


    ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องเขม็งมายังทั้งคู่ ก่อนที่สายตานั้นจะหลบไปทางมุมตึกตรงบริเวณสี่แยกไฟแดงที่จะถึงใกล้ๆป้ายรถเมล์นี่เอง


    “ถึงแล้ว...รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”


    แสตมป์[1]พยักหน้าในขณะที่บอล[5]ก็เดินตรงไปยังมุมตึกโดยไม่ลังเลเมื่อรู้ว่าทั้งตนและเธอจะต้องไม่ปลอดภัยแน่ๆ


    ทันใดนั้นเองหมัดที่หลบอยู่ที่มุมตึกก็พุ่งเข้าหาบอลอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว แต่บอล[5]ก็เอียงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่จะได้โอกาสสวนชกด้วยหมัดขวาของตัวเอง


    “พลั่ก!!!


    ชายปริศนาที่มุมตึกหงายหลังล้มตึงไปทันทีเมื่อถูกหมัดของบอล[5]เข้าที่หน้าเต็มๆ ไฟข้างถนนสาดส่องลงมาพอดีเผยให้เห็นใบหน้า ใบหน้าที่ทั้งบอล[5]และแสตมป์[1]ต่างก็คุ้นเคย


    “บิ๊ก[7]!!! แกเองยังงั้นหรอ...”  บอล[5]ก้มลงไปลากคอบิ๊ก[7]ที่ร่วงลงไปกองอยู่กับพื้นขึ้นมา

    “แกยังจะมาที่นี่อีกทำไม...ฮะ”


    บิ๊กที่ใช้มือกุมปากของตัวเองอยู่แสยะรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะพูด

     “อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าแกรู้เข้าสักวันจะเป็นยังไงตอนแรกฉันคิดว่าจะปล่อยให้มันเป็นความลับหายไป แต่วันนี้ฉันเห็นแกพอดีก็เลยมีบางอย่างจะมาบอกน่ะ มันคงสนุกไม่ใช่น้อยสินะถ้าแกรู้....ฮ่า ฮ่า”  

    บิ๊ก[7]ถ่มน้ำลายที่เปรอะเลือดก่อนที่จะพูดต่อ ขณะที่บอล[5]ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของบิ๊ก[7]

     

    “วันนั้นน่ะ.....โปสหมัดซ้าย...เป็นคนจ้างฉันเพื่อให้จับตัวยัยนี่ไป...เพื่อที่มันจะได้กลายเป็นพระเอกแล้วเข้ามาช่วยยังไงล่ะ  แต่โชคไม่ดีที่ทั้งหมดมันผิดแผน..ซะก่อน คนที่มาสวมบทพระเอกแบบไม่รู้เรื่องก็เลยกลายเป็นแกยังไงล่ะ..บอล[5] ฮ่า ฮ่า”

     

    บิ๊ก[7]ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อนที่จะตะโกนหัวเราะอย่างสะใจให้โดยที่ไม่เกรงกลัว บอลกัดฟันกรอดฉุนขาดทันที ความคิดในหัวของเขาตอนนี้สับสนไปหมด ก่อนที่จะชกเข้าที่หน้าบิ๊ก[7]อีกรอบเพื่อระเบิดอารมณ์ของตัวเอง


    “นี่แกพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่เนี่ย...!!!!


    “ไอ้โง่!!!..ไม่เชื่อใช่มั้ยล่ะ คนรักเพื่อนอย่างแกคงยากไม่ใช่น้อยที่จะเชื่อเรืองแบบนี้ได้..ไปถามมันเอาเองซิ!!! แล้วจะได้เลิกโง่จะได้ตาสว่างซักที ไม่มีใครที่คอยทำร้ายเธอหรอก “หมัดซ้าย” น่ะแหละคนที่อันตรายที่สุดก็คือคนที่อยู่ข้างๆแกยังไงล่ะ”


    บอล[5]กุมหัวครุ่นคิด  ถึงแม้ว่าบางที่คำพูดของบิ๊ก[7]อาจเป็นเรื่องโกหกก็ตามที แต่ก็อดที่จะเชื่อไม่ได้เพราะตัวเขาเองรู้นิสัยของโปส[5]ดี  แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นมันก็ยากที่จะทำใจได้ แสตมป์[1]เองก็ได้แต่ยืนมองโดยที่เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง บางทีเรื่องราวทั้งหมดอาจเกิดขึ้นก็เพราะเธอ แต่คนที่ไม่รู้เรื่องอย่างเธอต้องมาพลอยติดร่างแหนี้ไปด้วย..


    “ไปกันเถอะ......”

    บอล[5]ลากแขนแสตมป์[1]ออกมาโดยทิ้งให้บิ๊ก[7] นอนสลบอยู่ตรงนั้น

    “ทุกอย่างจะต้องจบลง ฉันจะสะสางเอง..เธอไม่ต้องเป็นห่วง”



    แสตมป์[1]กุมมือบอล[5]แน่น ตัวสั่นเทาเพราะความกลัว......



    [จบบทที่6]

    [บทที่7 อดีตของ5/5(2)-หมัดที่อยู่ข้างเดียวกันไม่ได้...เร็วๆนี้]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×