ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : ความฝันในแดนฝัน?
บทที่27:ความฝันในแดนฝัน?
            \"นี้มันที่ไหนกันอีกละ-_-\" Ferrick กล่าวออกมาเป็นประโยคแรกหลังจากที่ลืมตาขึ้น แล้วมองไปรอบๆตัว เขาคาดหวังว่าตัวเองจะกลับมาอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเขาที่โลกแห่งความจริง หลังจากได้ฝึกซ้อมดาบจนดึกกับKenในGDLแล้ว ทว่า ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเป็นเนินสูงต่ำคล้ายกับบริเวณยอดเขาที่ไหนสักแห่ง Ferrickลองทดสอบหยิกแก้มตัวเอง ก็พบว่ามันหาได้มีความรู้สึกอะไรมั้ย เขาจึงเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้เขาคงกำลังจะฝันอยู่แน่ๆ ฝันทั้งๆที่อยู่ในโลกแห่งความฝัน
            .\"ต้องเรียกว่าฝันซ้อนฝันสินะ จะว่าไปตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ในGDLได้ ก็ไม่เคยฝันแบบปกติซักที กำลังสงสัยอยู่เลยว่าจะสามารถฝันโดยหลักของการเอาความทรงจำมาผสมปนเปกันได้หรือเปล่า ดูท่าเราจะได้คำตอบแล้วสินะ\"Ferrickเดินไปเรื่อยๆตัดผ่านทุ่งดอกไม้ไปอย่างไร้จุดหมาย สักพักเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างกลางทุ่งดอกไม้
            \"เอ๊ะ! นั่นมันคนนี่\"ภาพที่เขามองเห็นจากระยะไกลก็คือ ชายหญิงคู่นึงกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน จากตำแหน่งที่Ferrickยืนอยู่คือด้านหลังของคนที่น่าจะเป็นผู้ชายจากการสังเกตทรงผม และเครื่องแต่งกายของเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัดกับกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินซีดๆ นั่งเหยียดขาหันหน้าไปคุยกับผู้หญิงผมยาวสีฟ้าที่มองไม่เห็นหน้า เพราะระยะห่างที่มากเกินไป และยังถูกบังด้วยตัวของฝ่ายชาย Ferrickจึงคิดจะเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ ทว่าชั่วพริบตาเดียวที่เขาก้าวขาไปทางคนทั้งสอง ทิวทัศน์รอบๆตัวก็พลันเปลี่ยนแปลงไปทันที  มันแดงฉานไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วทุกหย่อมหญ้าดุจนรกภูมิ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงคงเหลือแต่ความมืดที่ว่างเปล่า สิ่งที่Ferrickมองเห็นท่ามกลางความมืดนี้ มีเพียงแค่สตรีผมฟ้าที่เอามือปิดหน้าของตนนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้น
            \"ได้โปรดช่วยเขาด้วยเถิดดดดดด....(T_T)\"เธอกล่าววิงวอน Ferrickจำน้ำเสียงของเธอได้ดี เขาเคยได้เสียงนี้มาแล้วในวันที่มาเยือนGDLเป็นครั้งแรก
            \"zaine! เธอคือzaineใช่มั้ย? อยากให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ\"Ferrickถามเธอพร้อมๆกับเดินเข้าไปแตะต้องตัวเธอ ทันทีที่มือเขาสัมผัสบ่าของzaine ร่างของเธอก็จางหายไปราวหมอกควัน คงเหลือแต่เสียงที่ดังก้องไปมาในความมืดเป็นประโยคสุดท้ายว่า
            \"อย่าให้ความโศกเศร้าครอบงำเขาไปมากกว่านี้เลยยยยย.... \"Ferrickวิ่งไปทางต้นเสียงที่ห่างไกลออกเรื่อยๆแม้จะมองไม่เห็นตัวเธอ พยายามจะเรียกให้zaineหยุดก่อน แล้วแสงสว่างก็เจิดจ้าขึ้นมาขับไล่ความมืดทั้งปวงให้หายไป...
            \"เดี๋ยวก่อน! พลั่ก..โอ๊ย!(>o<)\"Ferrickร่วงลงมาจากเตียงนอน กระแทกพื้นอย่างจัง เพราะการถลาตัวยื่นมือไปไขว้คว้าอะไรบางอย่าง เขาหันไปดูรอบๆตัวก็พบว่าตอนนี้ตนเอง กลับมายังห้องนอนในโลกแห่งความจริงตามเดิมแล้ว Ferrickเอามือกุมที่สีข้างเบาๆ ความเจ็บปวดก็พุ่งจี๊ดขึ้นมาทำให้ตาสว่างหายจากอาการงัวเงียโดยสิ้นเชิง เขาลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อกี้
            \"ความฝัน? ทำไมเราถึงฝันถึงผู้หญิงคนนี้อีกนะ เราไม่เคยเจอใครที่มีหน้าตาแบบนั้นเลยนี่ ไม่สิ นั้นไม่สำคัญหรอก เธอต้องการให้เราช่วยอะไรกันแน่? \"เขา\"ที่ว่าเป็นใครกัน? แล้วจะให้ช่วยยังไงละ?\"Ferrickนั่งครุ่นคิดได้ไม่นาน เสียงของแม่เขาเตือนให้รีบตื่นได้แล้วก็ดังมาจากชั้นล่าง Ferrickจึงต้องเก็บความสงสัยนี้ไว้ก่อน แล้วรีบจัดการตัวเอง เพื่อที่จะไปโรงเรียนให้ทันเวลา...
 
            แม้วันนี้Ferrickจะรีบมาโรงเรียนเพื่อเอาเรื่องที่เขาฝันมาปรึกษากับKen  แต่เมื่อมาถึงเขาจึงนึกขึ้นได้ในช่วงที่เข้าแถวตอนเช้าว่า วันนี้Kenก็ยังคงลาหยุดอยู่อีก1วัน จากการลากิจไปเยี่ยมญาติที่ป่วยในต่างจังหวัด Ferrickจึงได้แต่นั่งคิดทบทวนถึงเหตุการณ์นี้เพียงผู้เดียว จวบจนถึงเวลาที่จะได้กลับมายังGDLอีกครั้งนึง...
            เมื่อกลับมายังGDLแล้ว แทนที่Ferrickจะเอาความฝันที่ตนได้ประสบมาไปบอกKen เขากลับตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เพียงลำพัง เพราะมาคิดๆดูแล้ว แค่ความฝันประหลาดๆนี้มันคงไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรได้  ถึงเล่าไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ว่าแล้วก็ลงไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า เพราะอากาศวันนี้หนาวเย็นเหลือเกิน Ferrickคิด
            \"เสียงขลุ่ยนี่? เอ..ใครกันถึงเป่าขลุ่ยได้เพราะแบบนี้ เฟลย์เรียหรือว่าเจนนี่กันแน่นะ\"Ferrickรำพึงออกมาด้วยความสงสัยขณะที่แช่อยู่ในบ่อน้ำแร่ เขาไม่ทราบว่ามันเป็นเพลงที่Sayoบรรเลงซักซ้อมในยามเช้า เนื่องจากตัวเขาได้ออกไปบ้านเมเช่กับKenเมื่อวาน จึงไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงพรสวรรค์ในดนตรีของเธอ บทเพลงจากขลุ่ยบรรเลงอยู่ไม่นานก็เงียบหายไป สักพักKenกับKeiและzaionicก็พากันทยอยลงมาอาบน้ำแร่ด้วย นี้นับเป็นครั้งแรกเลยที่ผู้ชายในบ้านเกือบทุกคนยกเว้นคิน เข้ามาแช่น้ำแร่พร้อมๆกัน ชายหนุ่มทั้ง4คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องต่างๆจนหลงลืมไปว่า อาจจะมีใครต้องการใช้ห้องน้ำนี้อีกก็เป็นได้
            \"ว่าแต่ พวกเราลงมาใช้บ่อน้ำแร่พร้อมๆกันหมดแบบนี้ ถ้าเกิดมีผู้หญิงเข้ามาเพราะไม่รู้ว่ามีผู้ชายใช้อยู่ จะทำยังไงดีละครับ\"Ferrickเริ่มกังวลในเรื่องนี้ เพราะแต่ปกติเขาและKenมักจะลงมาอาบกันก่อนเป็นกลุ่มแรก ตามมาด้วยKeiที่ตื่นช้ากว่านิดหน่อย แล้วจึงขึ้นจากบ่อพร้อมๆกันทั้งสามคนนับเป็นกลุ่มที่หนึ่ง ถัดมาจึงเป็นเจนนี่และเฟลย์เรียที่เริ่มพามีเน่มาอาบน้ำด้วยแล้วเมื่อวานแทนการเช็ดตัวหลังจากที่แผลของเธอหายสนิท เป็นกลุ่มที่สอง ส่วนzaionicกับคินนั้นมักจะนั่งรอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อให้เสร็จเสียก่อน จึงค่อยมาอาบน้ำในช่วงเช้าเป็นกลุ่มสุดท้าย ทำให้ทั้งสองคนนี้กลายเป็นยามไปโดยอัตโนมัติ ที่คอยเตือนเจนนี่หรือเฟลย์เรียว่ายังมีกลุ่มผู้ชายอาบน้ำอยู่  ทว่าวันนี้ zaionicกลับลงมาอาบน้ำพร้อมพวกเขา
แล้วใครจะเป็นคนคอยเตือนพวกผู้หญิงกันละ? คินเหรอ
            \"เจ้านั้นนะยังไม่ตื่นเลยFerrick แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จะมีผู้หญิงหลงเข้ามาหรอก เพราะKenได้เขียนคำเตือนใส่กระดาษแผ่นใหญ่ๆ แปะเอาไว้ที่หน้าห้องน้ำแล้วละ ติดเทปกาวอย่างดีไม่มีหลุดแน่นอน(^///^)~ \"zaionicบอก สาเหตุที่วันนี้เขาอาบน้ำเร็วนัก เนื่องมาจากอากาศที่ทวีความหนาวเย็นมากขึ้นเพราะลมมรสุมที่ริ่มแปรปรวนในช่วงนี้ ทำให้ทนรอกินข้าวไม่ไหวต้องลงมาแช่น้ำร้อนๆให้ร่างกายอบอุ่นเสียก่อน เมื่อได้ยินzaionicยืนยันถึงมาตรการของความปลอดภัยเช่นนั้นแล้ว Ferrickจึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่หากเขามีตาทิพย์มองทะลุออกไปข้างนอกได้แล้วละก็ Ferrickคงต้องรีบออกไปจากห้องน้ำนี้แน่นอน
            \"คุณzaionicหายไปไหนกันน้า???\\(\'-\' \\)\\( \' - \' )/(/ \'-\')/\"คินบ่น  หลังจากที่ตื่นนอนแล้วลงมาชั้นล่าง เขาเดินไปดูที่ห้องครัวก็เห็นแค่เฟลย์เรีย เจนนี่และก็มีเน่กำลังช่วยกันเตรียมอาหารเช้าอยู่ คินจึงได้ลองไปดูที่ห้องน้ำ แล้วเขาก็พบกับแผ่นกระดาษขนาดใหญ่เขียนตัวอักษรอะไรบางอย่างติดเอาไว้หน้าห้องน้ำซะสูง(สำหรับคิน) คินเลยดึงกระดาษแผ่นนั้นออกจากประตูมาอ่านดูก็พบข้อความว่า
            \"ขณะนี้ในห้องน้ำมีFerrick Ken Kei zaionic กำลังอาบน้ำกันอยู่ อ๋อ...คุณziaonicอยู่ในห้องน้ำนี้เอง เข้าใจแล้วครับงั้นเดี๋ยวผมเข้าไปอาบด้วยดีกว่า(^o^)\"คินกล่าวแล้วก็ขยับจะถอดเสื้อผ้าออก แต่เสียงเรียกของเจนนี่ที่ดังมาจากห้องครัวก็ระงับการกระทำทั้งปวงของเขาลงทันที
            \"คินนน มาลองชิมเสต็กเนื้อสูตรใหม่ที่พี่ลองทำดูมั้ยจ๊ะ\"เจนนี่เรียกคินด้วยเสียงเบาๆ แต่สำหรับคินแล้ว คำว่าเสต็กเนื้อมันดังกึกก้องในหัวราวกับพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเลยทีเดียว ทำให้ความคิดที่จะตามไปอาบน้ำกับzaionicยกเลิกโดยฉับพลัน และรีบวิ่งไปยังห้องครัวโดยไม่สนใจแม้กระทั่งว่า ป้ายกระดาษที่เขาดึงออกมาโดยไม่ติดกลับเข้าไปแผ่นนี้ จะถูกกระแสลมที่พัดผ่านมาทางหน้าบ้าน นำพาให้หลุดลอยหายไปไหน!
            \"ผมว่าพวกเราแช่อยู่นานแล้วนะครับคุณzaionic ถ้าไงเรารีบขึ้นกันเถอะครับ\"Ferrickชวนให้ทุกคนขึ้นจากบ่อน้ำแร่ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ แต่ดูเหมือนว่าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ อีก3คนที่เหลือจะยังไม่อยากรีบร้อนอาบเสร็จเร็วนัก เพราะกะเวลาได้คร่าวๆแล้วว่าอีกนานพอดูกว่าที่อาหารเช้าจะเสร็จ พวกเฟลย์เรียจึงจะมาอาบน้ำกัน
            \"ใจเย็นๆน่าFerrick หนาวๆแบบนี้จะรีบร้อนออกไปทำไมกัน แช่อยู่สักพักจนใกล้ได้เวลาอาหารค่อยออกไปก็ได้น้า\"zaionicพูดออกมาเป็นควันไอด้วยความร้อนของน้ำ จริงอยู่ต่อให้ไม่ติดป้ายกระดาษไว้เฟลย์เรีย เจนนี่ มีเน่ ก็พอจะรู้ธรรมเนียมที่จะส่งเสียงเรียกดูก่อนว่ามีคนอยู่ในบ่อแน้ำแร่หรือไม่ จึงค่อยเข้ามา หากแต่zaionicคงลืมไปแล้วว่า บัดนี้มีสมาชิกใหม่ในบ้าน2คนที่เพิ่งเข้ามาเป็นผู้หญิงและทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด
            \"โห เจ๋งจริงๆ บ่อน้ำแร่น่าอาบจังเลย ถ้าเมื่อวานฉันไม่เหนื่อยจนหลับไปก่อนละก็ ฉันต้องรีบเข้ามาแช่แน่ๆเลย\\(>_<)/ เนอะ Sayo\"เจ้าของเสียงแปร๋นๆ ที่กล่าวประโยคนี้เดินพรวดพราดผ่านประตูเลื่อนเข้ามาในห้องน้ำโดยไม่ได้สังเกตอะไรเลยถึงความผิดปกติที่น้ำในบ่อกระเพื่อมอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดจากการดำหลบลงไปใต้น้ำของบุรุษ4คน
            \"(ยัยเมเช่เข้ามาได้ไงฟ่ะ!(O_o\") ไม่เห็นป้ายที่ฉันติดไว้หรือไงกัน)\"Kenคิด แล้วสะกิดคนอื่นๆที่กำลังตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก ให้ค่อยๆคลานใต้น้ำตามเขาไปหลังโขดหินอันนึงที่กว้างพอจะให้พวกเขาโผล่หัวขึ้นมาหายใจและพูดคุยกันได้
            \"ไหนนายบอกว่าติดป้ายเตือนไว้แล้วไงKen(OwO)\"FerrickกระซิบคุยเบาๆกับKen แต่น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง Kenยืนยันว่าตนติดไว้แล้วแน่ๆ แถมยังแปะด้วยเทปกาวซ้ำไปซ้ำมาอย่างแน่นหนา ไม่มีทางหลุดได้เด็ดขาด หากไม่มีใครมือบอนไปดึงออก
            \"คุณเมเช่เดินระวังๆนะคะ(^_^) เดี๋ยวจะลื่นเอาได้ เมื่อคืนฉันก็เกือบล้มเหมือนกันคะ\"Sayoกล่าวเตือนเมเช่ ตอนนี้ทั้งคู่มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆปิดบังร่างกายเอาไว้เท่านั้น  เสียงของการปลดผ้าออกและล้างตัวด้วยน้ำและฟอกสบู่ สร้างความทรมานให้กับชายหนุ่มทั้ง4ที่แอบอยู่จริงๆ
            \"ผิวของเธอนี้เนียนดีจังเลยนะSayo ใช้ครีมบำรุงอะไรหรือเปล่าละ\"เมเช่ถามSayo จากเสียงที่ได้ยินแม้จะมองไม่เห็นตัวของพวกเธอ Ferrickก็พอจะจินตนาการภาพการถูหลังได้ชัดเจนราวกับตาเห็น ตอนนี้เขาไม่ปราถนาอะไรอีกแล้วในชีวิตนอกจากการหลบออกจากห้องนี้ไปโดยเร็วที่สุด ก่อนที่สองสาวจะรู้ตัวถึงการมีอยู่ของผู้ชาย4คนในนี้
            \"(บ้าเอ๊ย! รอบด้านดันมีแต่ผนังบังไว้หมด จะมองเห็นก็แต่ท้องฟ้าด้านบน แบบนี้ก็ใช้Osวาร์ปหนีไม่ได้นะสิ)\"Ferrickพยายามใช้สมองหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันล่อแหลมนี้ให้ได้ ขณะนั้นเองเสียงของการล้างตัวของเมเช่กับSayoก็เงียบไป ตามมาด้วยเสียงการก้าวลงมาในบ่อน้ำแร่
            \"อ้า...สบายตัวจังเลย อากาศหนาวๆแบบนี้มันต้องบ่อน้ำแร่นี้แหละ\"เมเช่ครางออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวหาใดเปรียบ  Keiเริ่มหมดความอดทนต่อสภาวะการณ์แบบนี้แล้ว เขาปรึกษากับKenว่าควรทำอย่างไรดี ถึงจะหนีออกไปได้โดยที่เมเช่กับSayoไม่รู้ตัว
            \"ยากกกก เมเช่มีประสาทสัมผัสดีพอๆกับสัตว์ป่า อย่าว่าแต่จะย่องหลบไปได้เลย แม้แต่การซ่อนตัวอยู่นิ่งๆแบบนี้ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะพ้นความรับรู้ของเธอไปได้หรือเปล่า ถ้าขืนโผล่หัวออกไปตอนนี้ นายก็เลือกเอาละกันระหว่างถูกแช่แข็งแล้วทุบจนแตก กับโดนไฟเผาจนมอดไหม้ไปนะ(T_T)\"พอKenพูดจบ ก็เหมือนกับจะยืนยันในสิ่งที่เขาบอก เมื่อzaionicจามออกมาพร้อมกับปิดปากเพื่อเก็บเสียง แต่เมเช่ก็ไหวตัวทันต่อสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นได้ทันที
            \"ใครนะ!\"เมเช่รู้ตัวแล้วว่ามีใครสักคนหลบอยู่หลังโขดหินไม่ไกลจากตัวเธอนัก เธอรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนวินาทีนี้ Osที่มีประโยชน์ในบรรดา\"ผู้หลบซ่อน\"ทั้ง4คนนี้ คงมีแต่Osในการวิเคราะห์และจัดการปัญหาของKenเพียงคนเดียวเท่านั้น Kenมองไปยังรอบตัวเอาข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับรู้มาคำนวนหาทางออก แล้วเขาก็พบคำตอบ
            \"Ferrick! เราต้องใช้Osของนายพาเราหนีไปแล้ว\"Kenกล่าว Ferrickสงสัยว่าจะหนีไปได้อย่างไรในเมื่อมีแต่ท้องฟ้าเท่านั้นที่เปิดกว้าง ขืนมองท้องฟ้าแล้วใช้Osวาร์ปไปละก็ คงได้ไปโผล่นอกอวกาศแหงมๆเลย
            \"จะไปยากอะไรกัน ก็สร้างจุดมองขึ้นมาสิ\"Kenบอกแล้วล้วงเอาผ้าเช็ดตัวออกมาปั้นเป็นก้อน
            \"ฉันจะขว้างมันไปที่ขอบพ้นราวกั้นตรงนั้น พอมันร่วงลงมาใกล้จะลับตา นายก็วาร์ปโดยเล็งไปที่ผ้า แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะหลบออกไปได้โดยที่เมเช่หรือSayoมองไม่เห็น เข้าใจแล้วนะ 1 2 3 ฟึ่บ!\"Kenขว้างผ้าขนหนูไปอย่างแม่นยำข้ามผนังไป พอมันลอยต่ำลงใกล้พ้นขอบไม้ที่เป็นราวกั้นบังไว้ Ferrickก็แตะตัวทุกคนแล้วกระพริบตาวาร์ปไปทันทีที่ผ้า!
            \"เอ๊ะ! แปลกแหะ ฉันว่าฉันได้ยินเสียงคนจามอยู่ตรงนี้นะ หรือว่าฉันหูฝาดไปเอง?\"เมเช่งุนงงเมื่อเธอมาถึงยังหลังโขดหิน ก็พบว่าไม่มีใครอยู่เลยอย่างที่เธอสงสัย Sayoบอกว่าเธอคงเข้าใจผิดไปเองมั้ง เพราะในบ้านมีคนอยู่มาก เสียงอาจจะดังมาจากข้างนอกก็เป็นได้ เมเช่พาซื่อไม่ติดใจอะไรอีก กลับมานั่งแช่น้ำต่ออย่างสบายอารมณ์...
            ด้านFerrickหลังจากที่พาทุกคนหลบออกมาได้ในสภาพกึ่งเปลือยแล้ว ก็พากันวิ่งอ้อมกลับเข้ามาทางหน้าบ้าน แล้วแต่งตัวให้เรียบร้อยทำเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น zaionicเห็นป้ายกระดาษที่หล่นอยู่บนพื้นเขาจึงใช้Os ไซโครเมทรี่ของเขา\"อ่าน\"ดูว่ามันหลุดออกได้ยังไงแล้วเขาก็พบคำตอบ
            \"เจ้าคินนนนนน\\(OwO)/\"zaionicคำรามออกมาด้วยความแค้น ตั้งปณิธานไว้เลยว่า ถ้าวันนี้มีโอกาสเมื่อไหร่แล้วละก็ เขาจะต้องกระทืบเจ้าคินสักพลั่ก2พลั่กฐานที่ทำให้ต้องกลายเป็นพวกถ้ำมองไปโดยไม่เจตนาให้จงได้ แต่หลังจากที่Ferrickและคนอื่นๆได้รู้ถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดจากปากของzaionic ก็พากันเกลี่ยกล่อมขอร้องให้ยกโทษให้คินเถอะ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เจตนาจะกลั่นแกล้งอะไรพวกเรา
            \"ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องทุกอย่างมันก็เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าพวกเราลืมๆมันไปซะเถอะ อย่าไปเอามาถือเป็นอารมณ์เลยไหนๆก็ไหนแล้ว(^_^)\"Ferrickบอก zaionicฮึดฮัดไม่พอใจอยู่สักพัก พอได้กินข้าวจนท้องอิ่ม ก็คลายโทสะลงไปได้หน่อย
            หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว FerrickกับKenก็พากันฝึกซ้อมวิชาดาบด้วยกัน จนถึงเวลาไปทำงานค่อยออกไปพร้อมกับเมเช่ เจนนี่กับKeiก็ไปที่โบสถ์ ส่วนคินกับzaionicก็ไปหางานรับจ้างเล็กๆน้อยๆทำเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าอาหารที่บ้าน ในขณะที่เฟลย์เรียช่วยกันทำความสะอาดและดูแลบ้านกับมีเน่ ทุกอย่างดำเนินหมุนเวียนเปลี่ยนไปเช่นนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน จนในที่สุดก็มาถึงวันที่องค์วาดาละเสด็จมายังเซนเทีย...
        ---- --- - - - - ------------ - -------- --- --------- --- - - - ------ -- ------------------------ ---------------------------
            กองพันอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งเซนทอเนีย ได้มาเตรียมการอารักขาองค์วาดาละ ณ สนามบินแอร์เซนทอ พร้อมคณะขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายสิบคนที่มาร่วมต้อนรับพระองค์ท่าน และสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอยู่รอบๆสนามบิน ในตำแหน่งที่ทหารหลวงจัดไว้ให้ ทันทีที่เรือบินอากาศส่วนพระองค์\"แกรนแอคครอส\" ซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬารราวกับเอามหาปราสาทไปลอยไว้บนท้องฟ้า รูปร่างทรงรีแบนที่คล้ายกับหยดน้ำตบแต่งไปด้วยสัญลักษณ์ทางศาสนาของเมโทเฟีย ส่องแสงสีทองอร่ามสว่างสไหวไปทั่วทั้งสนามบิน แกรนแอคครอสลดเพดานบินลงจนใกล้ชิดพื้นก็กางสนามพลังป้องกันการโจมตีทั้งทางอาวุธและเวทย์มนต์เป็นอาณาเขต30เมตรล้อมรอบยานเอาไว้ แล้วจึงยื่นแท่นบันไดลาดลงมาติดกับพื้น ฉับพลัน เหล่านักบวชรักษาพระองค์ \"แซคคราฟรอส\" ก็ก้าวออกมาจากประตูยานเข้าแถวยืนเรียงรายข้างบันไดทั้งสองฟาก เพื่อคุ้มครององค์วาดาละอีกชั้นนึง
            \"เชิญเสด็จเถอะพะยะค่ะพระองค์ท่าน\"สตรีที่สวมชุดนักบวชขาวล้วนผุดผ่อง2คน ปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วยผ้าบางๆทั้งคู่ กล่าวกับองค์วาดาละที่ประทับบนบัลลังค์ในยาน พระองค์ทรงลุกจากเก้าอี้อย่างแช่มช้า เดินนำไปยังประตู พริบตาเดียวที่วรกายของพระองค์ผ่านพ้นประตูต้องแสงแดด เสียงของประชาชนและข้าราชบริพารที่มาเข้าฝ้ารอรับเสด็จ ก็เงียบกริบลงไปทันทีด้วยความเคารพและศรัทธา
            ผมสีขาวดุจหิมะที่คลอเคลียข้างบ่าขององค์วาดาละ ดูงดงามกลมกลืนไปกับสีผิวที่ขาวผ่องของพระองค์เหลือเกิน หูยาวแหลมเฉียงไปด้านหลังเล็กน้อยของพระองค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งชนเผ่าเอลฟ์ผู้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและทวยเทพมากที่สุด ดวงตาสีเงินของพระองค์ท่านที่จ้องมองไปยังข้างหน้าอย่างแน่วแน่มั่นคง ช่างสง่างามและทรงอำนาจยิ่งนัก แม้จะมีอายุมากกว่า573ปีแล้ว แต่ใบหน้าขององค์วาดาละกลับดูอ่อนเยาว์ประหนึ่งมาณพน้อยอายุ15-16ปี เท่านั้นเอง วินาทีที่องค์วาดาละเยื้องย่างลงถึงพื้นดิน ท่านก็ทรงตรัสแสดงความยินดีในการต้อนรับของอาณาจักรเซนทอเนีย
            \"ขอบใจทุกท่านมากที่มารอต้อนรับเรา ลุกขึ้นเถอะท่านทั้งหลาย(^_^)\"องค์วาดาละบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหล่าขุนนางและอัศวินที่คุกเข่าอยู่ก็พากันลุกขึ้นพร้อมกัน พาแกนซึ่งได้รับหน้าที่มาต้อนรับองค์วาดาละแทนองค์จักรพรรดิ กล่าวเชิญท่านเสด็จไปยังรถขบวนที่ตระเตรียมไว้แล้ว
            \"องค์จักรพรรดิน้อย ยังชอบอยู่ไม่ติดที่เช่นเดิมหรือท่านพาแกน(^_^) น่าเห็นใจจริงๆที่ท่านต้องลำบากอีกแล้ว\"องค์วาดาละพูดคุยอย่างเป็นกันเองขณะที่ทรงประทับอยู่บนรถขบวนที่พาแกนจัดไว้ให้ พาแกนพึ่งสังเกตเห็นว่า นอกจากหญิงสองคนที่คอยช่วยเหลือรับใช้องค์วาดาละเป็นการส่วนตัวแล้ว ยังมีชายผู้นึงติดตามขึ้นมาด้วย ดูจากใบหูที่ไม่แหลมยาวเฉกเช่นสตรีอีกสองคนที่ตามมาด้วย แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นชนเผ่ามนุษย์ แถมการแต่งกายของเขายังแตกต่างจากนักบวชคนอื่นๆ ตรงที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงขายาวสีดำแทนที่จะเป็นสีขาวล้วน มีเสื้อคลุมสำหรับนักบวชสีเมทัลลิคฟ้าสวมทับเอาไว้ ใส่แหวน2วงสีแดงและน้ำเงินอยู่ที่นิ้วชี้และนิ้วก้อยมือขวาตามลำดับ ผมสั้นสีดำสนิทยาวลงมาปิดบังบางส่วนของดวงตากลมใสสีดำภายใต้แว่นตาสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำให้เขาดูเคร่งขรึมอย่างน่าประหลาด องค์วาดาละรู้สึกถึงท่าทีแปลกใจของพาแกน จึงแนะนำตัวชายผู้ที่มากับเขาให้รู้จัก
            \"หนุ่มน้อยผู้นี้คือรองหัวหน้าหน่วยที่1ของแซคคราฟรอสนามว่าZellyka Masteringหรือท่านจะเรียกเขาว่าZellเฉยๆก็ได้ท่านพาแกน\"องค์วาดาละตรัสแล้วก็หันไปทางZellเป็นเชิงเตือนให้เขาผ่อนคลายท่าทีลงบ้าง Zellจึงยิ้มออกมาแล้วพูดกับพาแกนว่า
            \"ขอโทษทีนะลุง(^o^) พอดีฉันไม่ชินกับการนั่งพาหนะนานๆนะ มันมึนหัวยังไงไม่รู้ ก็เลยต้องเก็กหน้าข่มอาการเอาไว้นะ อุ๊บ!\"Zellยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆสองสามทีค่อยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พาแกนอดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมชายหนุ่มที่อายุไม่น่าจะเกิน18-19เช่นนี้ ถึงมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าที่1ของแซคคราฟรอส  กองกำลังนักบวชรักษาพระองค์ที่ว่ากันว่า ชำนาญการต่อสู้และศาสตร์แห่งการป้องกันเหนือกว่าเหล่าอัศวิน แห่งเซนทอเนียเสียอีก เพราะคัดเอาแต่ผู้ที่มีอัจฉริยะภาพในด้านต่างๆจากทหารนับแสนคนทั่วประเทศ ที่มีศรัทธาในศาสนาเมโทเฟียอย่างแรงกล้า มาขัดเกลาฝึกฝนจนแข็งแกร่งเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการคุ้มครององค์วาดาละจากภยันตรายต่างๆได้เทียบเท่าทหารทั้งกองพันด้วยตัวคนเดียว
            \"มาแล้วเหรอ\"Zellพึมพำเบาๆคนเดียว ดูเหมือนท่าทางเซื่องซึมจากอาการเมารถจะหายไปหมดสิ้น เมื่อเขามองขึ้นไปยังยอดตึกแห่งนึงที่ห่างจากขบวนรถไปถึง1340เมตร ซึ่งมีชายชุดโค้ทสีดำตัดกับลายกางเขนคว่ำสีขาว จ้องมองดูรถที่องค์วาดาละนั่งอยู่เช่นกันบนชั้นดาดฟ้า
            \"รู้ตัวด้วยรึ? ไม่เบานี่(^_^)\"บุรุษผู้ยืนอยู่บนดาดฟ้ากล่าวพร้อมกับแสยะยิ้ม แล้วเล็งปืนลูกโม่สีเงินไปยังเป้าหมาย เขาก็คือHikaru  Evoluzioneนักฆ่าผู้ไร้พลาดนั้นเอง
           
                จบบทที่27
            \"นี้มันที่ไหนกันอีกละ-_-\" Ferrick กล่าวออกมาเป็นประโยคแรกหลังจากที่ลืมตาขึ้น แล้วมองไปรอบๆตัว เขาคาดหวังว่าตัวเองจะกลับมาอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเขาที่โลกแห่งความจริง หลังจากได้ฝึกซ้อมดาบจนดึกกับKenในGDLแล้ว ทว่า ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเป็นเนินสูงต่ำคล้ายกับบริเวณยอดเขาที่ไหนสักแห่ง Ferrickลองทดสอบหยิกแก้มตัวเอง ก็พบว่ามันหาได้มีความรู้สึกอะไรมั้ย เขาจึงเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้เขาคงกำลังจะฝันอยู่แน่ๆ ฝันทั้งๆที่อยู่ในโลกแห่งความฝัน
            .\"ต้องเรียกว่าฝันซ้อนฝันสินะ จะว่าไปตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ในGDLได้ ก็ไม่เคยฝันแบบปกติซักที กำลังสงสัยอยู่เลยว่าจะสามารถฝันโดยหลักของการเอาความทรงจำมาผสมปนเปกันได้หรือเปล่า ดูท่าเราจะได้คำตอบแล้วสินะ\"Ferrickเดินไปเรื่อยๆตัดผ่านทุ่งดอกไม้ไปอย่างไร้จุดหมาย สักพักเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างกลางทุ่งดอกไม้
            \"เอ๊ะ! นั่นมันคนนี่\"ภาพที่เขามองเห็นจากระยะไกลก็คือ ชายหญิงคู่นึงกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน จากตำแหน่งที่Ferrickยืนอยู่คือด้านหลังของคนที่น่าจะเป็นผู้ชายจากการสังเกตทรงผม และเครื่องแต่งกายของเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัดกับกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินซีดๆ นั่งเหยียดขาหันหน้าไปคุยกับผู้หญิงผมยาวสีฟ้าที่มองไม่เห็นหน้า เพราะระยะห่างที่มากเกินไป และยังถูกบังด้วยตัวของฝ่ายชาย Ferrickจึงคิดจะเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ ทว่าชั่วพริบตาเดียวที่เขาก้าวขาไปทางคนทั้งสอง ทิวทัศน์รอบๆตัวก็พลันเปลี่ยนแปลงไปทันที  มันแดงฉานไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วทุกหย่อมหญ้าดุจนรกภูมิ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงคงเหลือแต่ความมืดที่ว่างเปล่า สิ่งที่Ferrickมองเห็นท่ามกลางความมืดนี้ มีเพียงแค่สตรีผมฟ้าที่เอามือปิดหน้าของตนนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้น
            \"ได้โปรดช่วยเขาด้วยเถิดดดดดด....(T_T)\"เธอกล่าววิงวอน Ferrickจำน้ำเสียงของเธอได้ดี เขาเคยได้เสียงนี้มาแล้วในวันที่มาเยือนGDLเป็นครั้งแรก
            \"zaine! เธอคือzaineใช่มั้ย? อยากให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ\"Ferrickถามเธอพร้อมๆกับเดินเข้าไปแตะต้องตัวเธอ ทันทีที่มือเขาสัมผัสบ่าของzaine ร่างของเธอก็จางหายไปราวหมอกควัน คงเหลือแต่เสียงที่ดังก้องไปมาในความมืดเป็นประโยคสุดท้ายว่า
            \"อย่าให้ความโศกเศร้าครอบงำเขาไปมากกว่านี้เลยยยยย.... \"Ferrickวิ่งไปทางต้นเสียงที่ห่างไกลออกเรื่อยๆแม้จะมองไม่เห็นตัวเธอ พยายามจะเรียกให้zaineหยุดก่อน แล้วแสงสว่างก็เจิดจ้าขึ้นมาขับไล่ความมืดทั้งปวงให้หายไป...
            \"เดี๋ยวก่อน! พลั่ก..โอ๊ย!(>o<)\"Ferrickร่วงลงมาจากเตียงนอน กระแทกพื้นอย่างจัง เพราะการถลาตัวยื่นมือไปไขว้คว้าอะไรบางอย่าง เขาหันไปดูรอบๆตัวก็พบว่าตอนนี้ตนเอง กลับมายังห้องนอนในโลกแห่งความจริงตามเดิมแล้ว Ferrickเอามือกุมที่สีข้างเบาๆ ความเจ็บปวดก็พุ่งจี๊ดขึ้นมาทำให้ตาสว่างหายจากอาการงัวเงียโดยสิ้นเชิง เขาลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อกี้
            \"ความฝัน? ทำไมเราถึงฝันถึงผู้หญิงคนนี้อีกนะ เราไม่เคยเจอใครที่มีหน้าตาแบบนั้นเลยนี่ ไม่สิ นั้นไม่สำคัญหรอก เธอต้องการให้เราช่วยอะไรกันแน่? \"เขา\"ที่ว่าเป็นใครกัน? แล้วจะให้ช่วยยังไงละ?\"Ferrickนั่งครุ่นคิดได้ไม่นาน เสียงของแม่เขาเตือนให้รีบตื่นได้แล้วก็ดังมาจากชั้นล่าง Ferrickจึงต้องเก็บความสงสัยนี้ไว้ก่อน แล้วรีบจัดการตัวเอง เพื่อที่จะไปโรงเรียนให้ทันเวลา...
 
            แม้วันนี้Ferrickจะรีบมาโรงเรียนเพื่อเอาเรื่องที่เขาฝันมาปรึกษากับKen  แต่เมื่อมาถึงเขาจึงนึกขึ้นได้ในช่วงที่เข้าแถวตอนเช้าว่า วันนี้Kenก็ยังคงลาหยุดอยู่อีก1วัน จากการลากิจไปเยี่ยมญาติที่ป่วยในต่างจังหวัด Ferrickจึงได้แต่นั่งคิดทบทวนถึงเหตุการณ์นี้เพียงผู้เดียว จวบจนถึงเวลาที่จะได้กลับมายังGDLอีกครั้งนึง...
            เมื่อกลับมายังGDLแล้ว แทนที่Ferrickจะเอาความฝันที่ตนได้ประสบมาไปบอกKen เขากลับตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เพียงลำพัง เพราะมาคิดๆดูแล้ว แค่ความฝันประหลาดๆนี้มันคงไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรได้  ถึงเล่าไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ว่าแล้วก็ลงไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า เพราะอากาศวันนี้หนาวเย็นเหลือเกิน Ferrickคิด
            \"เสียงขลุ่ยนี่? เอ..ใครกันถึงเป่าขลุ่ยได้เพราะแบบนี้ เฟลย์เรียหรือว่าเจนนี่กันแน่นะ\"Ferrickรำพึงออกมาด้วยความสงสัยขณะที่แช่อยู่ในบ่อน้ำแร่ เขาไม่ทราบว่ามันเป็นเพลงที่Sayoบรรเลงซักซ้อมในยามเช้า เนื่องจากตัวเขาได้ออกไปบ้านเมเช่กับKenเมื่อวาน จึงไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงพรสวรรค์ในดนตรีของเธอ บทเพลงจากขลุ่ยบรรเลงอยู่ไม่นานก็เงียบหายไป สักพักKenกับKeiและzaionicก็พากันทยอยลงมาอาบน้ำแร่ด้วย นี้นับเป็นครั้งแรกเลยที่ผู้ชายในบ้านเกือบทุกคนยกเว้นคิน เข้ามาแช่น้ำแร่พร้อมๆกัน ชายหนุ่มทั้ง4คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องต่างๆจนหลงลืมไปว่า อาจจะมีใครต้องการใช้ห้องน้ำนี้อีกก็เป็นได้
            \"ว่าแต่ พวกเราลงมาใช้บ่อน้ำแร่พร้อมๆกันหมดแบบนี้ ถ้าเกิดมีผู้หญิงเข้ามาเพราะไม่รู้ว่ามีผู้ชายใช้อยู่ จะทำยังไงดีละครับ\"Ferrickเริ่มกังวลในเรื่องนี้ เพราะแต่ปกติเขาและKenมักจะลงมาอาบกันก่อนเป็นกลุ่มแรก ตามมาด้วยKeiที่ตื่นช้ากว่านิดหน่อย แล้วจึงขึ้นจากบ่อพร้อมๆกันทั้งสามคนนับเป็นกลุ่มที่หนึ่ง ถัดมาจึงเป็นเจนนี่และเฟลย์เรียที่เริ่มพามีเน่มาอาบน้ำด้วยแล้วเมื่อวานแทนการเช็ดตัวหลังจากที่แผลของเธอหายสนิท เป็นกลุ่มที่สอง ส่วนzaionicกับคินนั้นมักจะนั่งรอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อให้เสร็จเสียก่อน จึงค่อยมาอาบน้ำในช่วงเช้าเป็นกลุ่มสุดท้าย ทำให้ทั้งสองคนนี้กลายเป็นยามไปโดยอัตโนมัติ ที่คอยเตือนเจนนี่หรือเฟลย์เรียว่ายังมีกลุ่มผู้ชายอาบน้ำอยู่  ทว่าวันนี้ zaionicกลับลงมาอาบน้ำพร้อมพวกเขา
แล้วใครจะเป็นคนคอยเตือนพวกผู้หญิงกันละ? คินเหรอ
            \"เจ้านั้นนะยังไม่ตื่นเลยFerrick แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จะมีผู้หญิงหลงเข้ามาหรอก เพราะKenได้เขียนคำเตือนใส่กระดาษแผ่นใหญ่ๆ แปะเอาไว้ที่หน้าห้องน้ำแล้วละ ติดเทปกาวอย่างดีไม่มีหลุดแน่นอน(^///^)~ \"zaionicบอก สาเหตุที่วันนี้เขาอาบน้ำเร็วนัก เนื่องมาจากอากาศที่ทวีความหนาวเย็นมากขึ้นเพราะลมมรสุมที่ริ่มแปรปรวนในช่วงนี้ ทำให้ทนรอกินข้าวไม่ไหวต้องลงมาแช่น้ำร้อนๆให้ร่างกายอบอุ่นเสียก่อน เมื่อได้ยินzaionicยืนยันถึงมาตรการของความปลอดภัยเช่นนั้นแล้ว Ferrickจึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่หากเขามีตาทิพย์มองทะลุออกไปข้างนอกได้แล้วละก็ Ferrickคงต้องรีบออกไปจากห้องน้ำนี้แน่นอน
            \"คุณzaionicหายไปไหนกันน้า???\\(\'-\' \\)\\( \' - \' )/(/ \'-\')/\"คินบ่น  หลังจากที่ตื่นนอนแล้วลงมาชั้นล่าง เขาเดินไปดูที่ห้องครัวก็เห็นแค่เฟลย์เรีย เจนนี่และก็มีเน่กำลังช่วยกันเตรียมอาหารเช้าอยู่ คินจึงได้ลองไปดูที่ห้องน้ำ แล้วเขาก็พบกับแผ่นกระดาษขนาดใหญ่เขียนตัวอักษรอะไรบางอย่างติดเอาไว้หน้าห้องน้ำซะสูง(สำหรับคิน) คินเลยดึงกระดาษแผ่นนั้นออกจากประตูมาอ่านดูก็พบข้อความว่า
            \"ขณะนี้ในห้องน้ำมีFerrick Ken Kei zaionic กำลังอาบน้ำกันอยู่ อ๋อ...คุณziaonicอยู่ในห้องน้ำนี้เอง เข้าใจแล้วครับงั้นเดี๋ยวผมเข้าไปอาบด้วยดีกว่า(^o^)\"คินกล่าวแล้วก็ขยับจะถอดเสื้อผ้าออก แต่เสียงเรียกของเจนนี่ที่ดังมาจากห้องครัวก็ระงับการกระทำทั้งปวงของเขาลงทันที
            \"คินนน มาลองชิมเสต็กเนื้อสูตรใหม่ที่พี่ลองทำดูมั้ยจ๊ะ\"เจนนี่เรียกคินด้วยเสียงเบาๆ แต่สำหรับคินแล้ว คำว่าเสต็กเนื้อมันดังกึกก้องในหัวราวกับพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเลยทีเดียว ทำให้ความคิดที่จะตามไปอาบน้ำกับzaionicยกเลิกโดยฉับพลัน และรีบวิ่งไปยังห้องครัวโดยไม่สนใจแม้กระทั่งว่า ป้ายกระดาษที่เขาดึงออกมาโดยไม่ติดกลับเข้าไปแผ่นนี้ จะถูกกระแสลมที่พัดผ่านมาทางหน้าบ้าน นำพาให้หลุดลอยหายไปไหน!
            \"ผมว่าพวกเราแช่อยู่นานแล้วนะครับคุณzaionic ถ้าไงเรารีบขึ้นกันเถอะครับ\"Ferrickชวนให้ทุกคนขึ้นจากบ่อน้ำแร่ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ แต่ดูเหมือนว่าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ อีก3คนที่เหลือจะยังไม่อยากรีบร้อนอาบเสร็จเร็วนัก เพราะกะเวลาได้คร่าวๆแล้วว่าอีกนานพอดูกว่าที่อาหารเช้าจะเสร็จ พวกเฟลย์เรียจึงจะมาอาบน้ำกัน
            \"ใจเย็นๆน่าFerrick หนาวๆแบบนี้จะรีบร้อนออกไปทำไมกัน แช่อยู่สักพักจนใกล้ได้เวลาอาหารค่อยออกไปก็ได้น้า\"zaionicพูดออกมาเป็นควันไอด้วยความร้อนของน้ำ จริงอยู่ต่อให้ไม่ติดป้ายกระดาษไว้เฟลย์เรีย เจนนี่ มีเน่ ก็พอจะรู้ธรรมเนียมที่จะส่งเสียงเรียกดูก่อนว่ามีคนอยู่ในบ่อแน้ำแร่หรือไม่ จึงค่อยเข้ามา หากแต่zaionicคงลืมไปแล้วว่า บัดนี้มีสมาชิกใหม่ในบ้าน2คนที่เพิ่งเข้ามาเป็นผู้หญิงและทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด
            \"โห เจ๋งจริงๆ บ่อน้ำแร่น่าอาบจังเลย ถ้าเมื่อวานฉันไม่เหนื่อยจนหลับไปก่อนละก็ ฉันต้องรีบเข้ามาแช่แน่ๆเลย\\(>_<)/ เนอะ Sayo\"เจ้าของเสียงแปร๋นๆ ที่กล่าวประโยคนี้เดินพรวดพราดผ่านประตูเลื่อนเข้ามาในห้องน้ำโดยไม่ได้สังเกตอะไรเลยถึงความผิดปกติที่น้ำในบ่อกระเพื่อมอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดจากการดำหลบลงไปใต้น้ำของบุรุษ4คน
            \"(ยัยเมเช่เข้ามาได้ไงฟ่ะ!(O_o\") ไม่เห็นป้ายที่ฉันติดไว้หรือไงกัน)\"Kenคิด แล้วสะกิดคนอื่นๆที่กำลังตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก ให้ค่อยๆคลานใต้น้ำตามเขาไปหลังโขดหินอันนึงที่กว้างพอจะให้พวกเขาโผล่หัวขึ้นมาหายใจและพูดคุยกันได้
            \"ไหนนายบอกว่าติดป้ายเตือนไว้แล้วไงKen(OwO)\"FerrickกระซิบคุยเบาๆกับKen แต่น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง Kenยืนยันว่าตนติดไว้แล้วแน่ๆ แถมยังแปะด้วยเทปกาวซ้ำไปซ้ำมาอย่างแน่นหนา ไม่มีทางหลุดได้เด็ดขาด หากไม่มีใครมือบอนไปดึงออก
            \"คุณเมเช่เดินระวังๆนะคะ(^_^) เดี๋ยวจะลื่นเอาได้ เมื่อคืนฉันก็เกือบล้มเหมือนกันคะ\"Sayoกล่าวเตือนเมเช่ ตอนนี้ทั้งคู่มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆปิดบังร่างกายเอาไว้เท่านั้น  เสียงของการปลดผ้าออกและล้างตัวด้วยน้ำและฟอกสบู่ สร้างความทรมานให้กับชายหนุ่มทั้ง4ที่แอบอยู่จริงๆ
            \"ผิวของเธอนี้เนียนดีจังเลยนะSayo ใช้ครีมบำรุงอะไรหรือเปล่าละ\"เมเช่ถามSayo จากเสียงที่ได้ยินแม้จะมองไม่เห็นตัวของพวกเธอ Ferrickก็พอจะจินตนาการภาพการถูหลังได้ชัดเจนราวกับตาเห็น ตอนนี้เขาไม่ปราถนาอะไรอีกแล้วในชีวิตนอกจากการหลบออกจากห้องนี้ไปโดยเร็วที่สุด ก่อนที่สองสาวจะรู้ตัวถึงการมีอยู่ของผู้ชาย4คนในนี้
            \"(บ้าเอ๊ย! รอบด้านดันมีแต่ผนังบังไว้หมด จะมองเห็นก็แต่ท้องฟ้าด้านบน แบบนี้ก็ใช้Osวาร์ปหนีไม่ได้นะสิ)\"Ferrickพยายามใช้สมองหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันล่อแหลมนี้ให้ได้ ขณะนั้นเองเสียงของการล้างตัวของเมเช่กับSayoก็เงียบไป ตามมาด้วยเสียงการก้าวลงมาในบ่อน้ำแร่
            \"อ้า...สบายตัวจังเลย อากาศหนาวๆแบบนี้มันต้องบ่อน้ำแร่นี้แหละ\"เมเช่ครางออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวหาใดเปรียบ  Keiเริ่มหมดความอดทนต่อสภาวะการณ์แบบนี้แล้ว เขาปรึกษากับKenว่าควรทำอย่างไรดี ถึงจะหนีออกไปได้โดยที่เมเช่กับSayoไม่รู้ตัว
            \"ยากกกก เมเช่มีประสาทสัมผัสดีพอๆกับสัตว์ป่า อย่าว่าแต่จะย่องหลบไปได้เลย แม้แต่การซ่อนตัวอยู่นิ่งๆแบบนี้ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะพ้นความรับรู้ของเธอไปได้หรือเปล่า ถ้าขืนโผล่หัวออกไปตอนนี้ นายก็เลือกเอาละกันระหว่างถูกแช่แข็งแล้วทุบจนแตก กับโดนไฟเผาจนมอดไหม้ไปนะ(T_T)\"พอKenพูดจบ ก็เหมือนกับจะยืนยันในสิ่งที่เขาบอก เมื่อzaionicจามออกมาพร้อมกับปิดปากเพื่อเก็บเสียง แต่เมเช่ก็ไหวตัวทันต่อสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นได้ทันที
            \"ใครนะ!\"เมเช่รู้ตัวแล้วว่ามีใครสักคนหลบอยู่หลังโขดหินไม่ไกลจากตัวเธอนัก เธอรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนวินาทีนี้ Osที่มีประโยชน์ในบรรดา\"ผู้หลบซ่อน\"ทั้ง4คนนี้ คงมีแต่Osในการวิเคราะห์และจัดการปัญหาของKenเพียงคนเดียวเท่านั้น Kenมองไปยังรอบตัวเอาข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับรู้มาคำนวนหาทางออก แล้วเขาก็พบคำตอบ
            \"Ferrick! เราต้องใช้Osของนายพาเราหนีไปแล้ว\"Kenกล่าว Ferrickสงสัยว่าจะหนีไปได้อย่างไรในเมื่อมีแต่ท้องฟ้าเท่านั้นที่เปิดกว้าง ขืนมองท้องฟ้าแล้วใช้Osวาร์ปไปละก็ คงได้ไปโผล่นอกอวกาศแหงมๆเลย
            \"จะไปยากอะไรกัน ก็สร้างจุดมองขึ้นมาสิ\"Kenบอกแล้วล้วงเอาผ้าเช็ดตัวออกมาปั้นเป็นก้อน
            \"ฉันจะขว้างมันไปที่ขอบพ้นราวกั้นตรงนั้น พอมันร่วงลงมาใกล้จะลับตา นายก็วาร์ปโดยเล็งไปที่ผ้า แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะหลบออกไปได้โดยที่เมเช่หรือSayoมองไม่เห็น เข้าใจแล้วนะ 1 2 3 ฟึ่บ!\"Kenขว้างผ้าขนหนูไปอย่างแม่นยำข้ามผนังไป พอมันลอยต่ำลงใกล้พ้นขอบไม้ที่เป็นราวกั้นบังไว้ Ferrickก็แตะตัวทุกคนแล้วกระพริบตาวาร์ปไปทันทีที่ผ้า!
            \"เอ๊ะ! แปลกแหะ ฉันว่าฉันได้ยินเสียงคนจามอยู่ตรงนี้นะ หรือว่าฉันหูฝาดไปเอง?\"เมเช่งุนงงเมื่อเธอมาถึงยังหลังโขดหิน ก็พบว่าไม่มีใครอยู่เลยอย่างที่เธอสงสัย Sayoบอกว่าเธอคงเข้าใจผิดไปเองมั้ง เพราะในบ้านมีคนอยู่มาก เสียงอาจจะดังมาจากข้างนอกก็เป็นได้ เมเช่พาซื่อไม่ติดใจอะไรอีก กลับมานั่งแช่น้ำต่ออย่างสบายอารมณ์...
            ด้านFerrickหลังจากที่พาทุกคนหลบออกมาได้ในสภาพกึ่งเปลือยแล้ว ก็พากันวิ่งอ้อมกลับเข้ามาทางหน้าบ้าน แล้วแต่งตัวให้เรียบร้อยทำเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น zaionicเห็นป้ายกระดาษที่หล่นอยู่บนพื้นเขาจึงใช้Os ไซโครเมทรี่ของเขา\"อ่าน\"ดูว่ามันหลุดออกได้ยังไงแล้วเขาก็พบคำตอบ
            \"เจ้าคินนนนนน\\(OwO)/\"zaionicคำรามออกมาด้วยความแค้น ตั้งปณิธานไว้เลยว่า ถ้าวันนี้มีโอกาสเมื่อไหร่แล้วละก็ เขาจะต้องกระทืบเจ้าคินสักพลั่ก2พลั่กฐานที่ทำให้ต้องกลายเป็นพวกถ้ำมองไปโดยไม่เจตนาให้จงได้ แต่หลังจากที่Ferrickและคนอื่นๆได้รู้ถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดจากปากของzaionic ก็พากันเกลี่ยกล่อมขอร้องให้ยกโทษให้คินเถอะ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เจตนาจะกลั่นแกล้งอะไรพวกเรา
            \"ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องทุกอย่างมันก็เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าพวกเราลืมๆมันไปซะเถอะ อย่าไปเอามาถือเป็นอารมณ์เลยไหนๆก็ไหนแล้ว(^_^)\"Ferrickบอก zaionicฮึดฮัดไม่พอใจอยู่สักพัก พอได้กินข้าวจนท้องอิ่ม ก็คลายโทสะลงไปได้หน่อย
            หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว FerrickกับKenก็พากันฝึกซ้อมวิชาดาบด้วยกัน จนถึงเวลาไปทำงานค่อยออกไปพร้อมกับเมเช่ เจนนี่กับKeiก็ไปที่โบสถ์ ส่วนคินกับzaionicก็ไปหางานรับจ้างเล็กๆน้อยๆทำเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าอาหารที่บ้าน ในขณะที่เฟลย์เรียช่วยกันทำความสะอาดและดูแลบ้านกับมีเน่ ทุกอย่างดำเนินหมุนเวียนเปลี่ยนไปเช่นนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน จนในที่สุดก็มาถึงวันที่องค์วาดาละเสด็จมายังเซนเทีย...
        ---- --- - - - - ------------ - -------- --- --------- --- - - - ------ -- ------------------------ ---------------------------
            กองพันอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งเซนทอเนีย ได้มาเตรียมการอารักขาองค์วาดาละ ณ สนามบินแอร์เซนทอ พร้อมคณะขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายสิบคนที่มาร่วมต้อนรับพระองค์ท่าน และสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอยู่รอบๆสนามบิน ในตำแหน่งที่ทหารหลวงจัดไว้ให้ ทันทีที่เรือบินอากาศส่วนพระองค์\"แกรนแอคครอส\" ซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬารราวกับเอามหาปราสาทไปลอยไว้บนท้องฟ้า รูปร่างทรงรีแบนที่คล้ายกับหยดน้ำตบแต่งไปด้วยสัญลักษณ์ทางศาสนาของเมโทเฟีย ส่องแสงสีทองอร่ามสว่างสไหวไปทั่วทั้งสนามบิน แกรนแอคครอสลดเพดานบินลงจนใกล้ชิดพื้นก็กางสนามพลังป้องกันการโจมตีทั้งทางอาวุธและเวทย์มนต์เป็นอาณาเขต30เมตรล้อมรอบยานเอาไว้ แล้วจึงยื่นแท่นบันไดลาดลงมาติดกับพื้น ฉับพลัน เหล่านักบวชรักษาพระองค์ \"แซคคราฟรอส\" ก็ก้าวออกมาจากประตูยานเข้าแถวยืนเรียงรายข้างบันไดทั้งสองฟาก เพื่อคุ้มครององค์วาดาละอีกชั้นนึง
            \"เชิญเสด็จเถอะพะยะค่ะพระองค์ท่าน\"สตรีที่สวมชุดนักบวชขาวล้วนผุดผ่อง2คน ปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วยผ้าบางๆทั้งคู่ กล่าวกับองค์วาดาละที่ประทับบนบัลลังค์ในยาน พระองค์ทรงลุกจากเก้าอี้อย่างแช่มช้า เดินนำไปยังประตู พริบตาเดียวที่วรกายของพระองค์ผ่านพ้นประตูต้องแสงแดด เสียงของประชาชนและข้าราชบริพารที่มาเข้าฝ้ารอรับเสด็จ ก็เงียบกริบลงไปทันทีด้วยความเคารพและศรัทธา
            ผมสีขาวดุจหิมะที่คลอเคลียข้างบ่าขององค์วาดาละ ดูงดงามกลมกลืนไปกับสีผิวที่ขาวผ่องของพระองค์เหลือเกิน หูยาวแหลมเฉียงไปด้านหลังเล็กน้อยของพระองค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งชนเผ่าเอลฟ์ผู้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและทวยเทพมากที่สุด ดวงตาสีเงินของพระองค์ท่านที่จ้องมองไปยังข้างหน้าอย่างแน่วแน่มั่นคง ช่างสง่างามและทรงอำนาจยิ่งนัก แม้จะมีอายุมากกว่า573ปีแล้ว แต่ใบหน้าขององค์วาดาละกลับดูอ่อนเยาว์ประหนึ่งมาณพน้อยอายุ15-16ปี เท่านั้นเอง วินาทีที่องค์วาดาละเยื้องย่างลงถึงพื้นดิน ท่านก็ทรงตรัสแสดงความยินดีในการต้อนรับของอาณาจักรเซนทอเนีย
            \"ขอบใจทุกท่านมากที่มารอต้อนรับเรา ลุกขึ้นเถอะท่านทั้งหลาย(^_^)\"องค์วาดาละบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหล่าขุนนางและอัศวินที่คุกเข่าอยู่ก็พากันลุกขึ้นพร้อมกัน พาแกนซึ่งได้รับหน้าที่มาต้อนรับองค์วาดาละแทนองค์จักรพรรดิ กล่าวเชิญท่านเสด็จไปยังรถขบวนที่ตระเตรียมไว้แล้ว
            \"องค์จักรพรรดิน้อย ยังชอบอยู่ไม่ติดที่เช่นเดิมหรือท่านพาแกน(^_^) น่าเห็นใจจริงๆที่ท่านต้องลำบากอีกแล้ว\"องค์วาดาละพูดคุยอย่างเป็นกันเองขณะที่ทรงประทับอยู่บนรถขบวนที่พาแกนจัดไว้ให้ พาแกนพึ่งสังเกตเห็นว่า นอกจากหญิงสองคนที่คอยช่วยเหลือรับใช้องค์วาดาละเป็นการส่วนตัวแล้ว ยังมีชายผู้นึงติดตามขึ้นมาด้วย ดูจากใบหูที่ไม่แหลมยาวเฉกเช่นสตรีอีกสองคนที่ตามมาด้วย แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นชนเผ่ามนุษย์ แถมการแต่งกายของเขายังแตกต่างจากนักบวชคนอื่นๆ ตรงที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงขายาวสีดำแทนที่จะเป็นสีขาวล้วน มีเสื้อคลุมสำหรับนักบวชสีเมทัลลิคฟ้าสวมทับเอาไว้ ใส่แหวน2วงสีแดงและน้ำเงินอยู่ที่นิ้วชี้และนิ้วก้อยมือขวาตามลำดับ ผมสั้นสีดำสนิทยาวลงมาปิดบังบางส่วนของดวงตากลมใสสีดำภายใต้แว่นตาสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำให้เขาดูเคร่งขรึมอย่างน่าประหลาด องค์วาดาละรู้สึกถึงท่าทีแปลกใจของพาแกน จึงแนะนำตัวชายผู้ที่มากับเขาให้รู้จัก
            \"หนุ่มน้อยผู้นี้คือรองหัวหน้าหน่วยที่1ของแซคคราฟรอสนามว่าZellyka Masteringหรือท่านจะเรียกเขาว่าZellเฉยๆก็ได้ท่านพาแกน\"องค์วาดาละตรัสแล้วก็หันไปทางZellเป็นเชิงเตือนให้เขาผ่อนคลายท่าทีลงบ้าง Zellจึงยิ้มออกมาแล้วพูดกับพาแกนว่า
            \"ขอโทษทีนะลุง(^o^) พอดีฉันไม่ชินกับการนั่งพาหนะนานๆนะ มันมึนหัวยังไงไม่รู้ ก็เลยต้องเก็กหน้าข่มอาการเอาไว้นะ อุ๊บ!\"Zellยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆสองสามทีค่อยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พาแกนอดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมชายหนุ่มที่อายุไม่น่าจะเกิน18-19เช่นนี้ ถึงมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าที่1ของแซคคราฟรอส  กองกำลังนักบวชรักษาพระองค์ที่ว่ากันว่า ชำนาญการต่อสู้และศาสตร์แห่งการป้องกันเหนือกว่าเหล่าอัศวิน แห่งเซนทอเนียเสียอีก เพราะคัดเอาแต่ผู้ที่มีอัจฉริยะภาพในด้านต่างๆจากทหารนับแสนคนทั่วประเทศ ที่มีศรัทธาในศาสนาเมโทเฟียอย่างแรงกล้า มาขัดเกลาฝึกฝนจนแข็งแกร่งเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการคุ้มครององค์วาดาละจากภยันตรายต่างๆได้เทียบเท่าทหารทั้งกองพันด้วยตัวคนเดียว
            \"มาแล้วเหรอ\"Zellพึมพำเบาๆคนเดียว ดูเหมือนท่าทางเซื่องซึมจากอาการเมารถจะหายไปหมดสิ้น เมื่อเขามองขึ้นไปยังยอดตึกแห่งนึงที่ห่างจากขบวนรถไปถึง1340เมตร ซึ่งมีชายชุดโค้ทสีดำตัดกับลายกางเขนคว่ำสีขาว จ้องมองดูรถที่องค์วาดาละนั่งอยู่เช่นกันบนชั้นดาดฟ้า
            \"รู้ตัวด้วยรึ? ไม่เบานี่(^_^)\"บุรุษผู้ยืนอยู่บนดาดฟ้ากล่าวพร้อมกับแสยะยิ้ม แล้วเล็งปืนลูกโม่สีเงินไปยังเป้าหมาย เขาก็คือHikaru  Evoluzioneนักฆ่าผู้ไร้พลาดนั้นเอง
           
                จบบทที่27
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น