ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Great Dreams Land

    ลำดับตอนที่ #25 : เรื่องมากมายใน1วัน

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 47


    บทที่25:เรื่องมากมายใน1วัน



                ทางด้านเจนนี่ เมื่อFerrickกับKenได้ตามเมเช่ออกไปแล้ว เธอก็ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าที่ว่างอยู่เพราะมีนัดซ้อมร้องเพลงในตอนบ่าย พูดคุยทำความรู้จักกับSayoให้มากขึ้น เกี่ยวกับทักษะด้านดนตรีที่เธอมี ไม่เพียงแต่คนคู่นี้จะมีความชำนาญทางด้านดนตรีเหมือนกันเท่านั้น แม้แต่นิสัยใจคอและกิริยาท่าทาง ยังคล้ายคลึงกันราวกับพี่น้องอีกด้วย Keiเองก็ยังรู้สึกได้เลยถึงเรื่องนี้



                \"นกตัวนี้มีชื่อว่า\"เฟย์\"นะ เป็นนกที่คุณพ่อของเราให้ไว้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก นอกจากจะคอยปลุกเราในตอนเช้าๆแล้ว เฟย์ยังจดจำทิศทางในเมืองต่างๆได้ดีกว่าเราอีกนะ ที่เราหาที่นี้เจอก็เพราะความช่วยเหลือเฟย์นี้ละ(^o^)\"sayoแนะนำนกสีขาวที่อยู่กับเธอให้ทุกคนรู้จัก ดูเผินๆมันอาจจะเหมือนนกพิราบก็จริง แต่เมื่อสังเกตดูอย่างใกล้ชิดแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนเลย ถึงความแตกต่างหลายประการ ซึ่งมันก็ไม่แปลกใจนักเพราะสัตว์ต่างๆในGDLเกือบทุกชนิด ล้วนมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองต่างจากโลกแห่งความจริงอยู่แล้ว เธอมองดูทุกๆคนในบ้านก่อนที่จะไปสะดุดความสนใจที่มีเน่



                \"ว่าแต่ว่า น้องชื่ออะไรเหรอจ๊ะ(^_^)\"เธอถามมีเน่ เนื่องจากวันก่อนมีเน่ยังไม่ได้แนะนำตัวกับเธอ ทุกคนในบ้านพากันอึกอักไม่รู้จะบอกยังไงดี เพราะว่าฐานะของมีเน่ไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผย ทว่า มีเน่เองก็แก้ปัญหานี้ได้สมกับเป็นมืออาชีพในเซอินะ



                \"หนูชื่อมีเน่คะ ขอโทษด้วยนะค่ะ ที่เมื่อวานนี้หนูยังไม่ได้แนะนำตัว คือ...หนูพึ่งมาจากต่างเมืองนะคะ ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้มากนัก จึงไม่กล้าออกไปทักทายพี่สาวนะคะ\"มีเน่กล่าว เธอเปลี่ยนทั้งสำนวนการพูดที่เธอใช้ และอดีตของตัวเองได้อย่างหมดจด ทุกคนในบ้านนอกจากเฟลย์เรียและzaionicที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ต่างพากันแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่หาข้อแก้ตัวได้ Keiเลยถือโอกาสผสมโรงช่วยด้วย



                \"ใช่ครับ มีเน่เธอเป็นเด็กขี้อายนะครับ ตอนที่มาถึงที่นี้เป็นครั้งแรกเธอก็ไม่กล้าพูดคุยกับพวกเราเหมือนกันครับ\"Keiบอก ทำให้Sayoเชื่ออย่างสนิทใจเลยตามที่ทั้งคู่ได้กล่าวมา Sayoบอกมีเน่ว่าไม่ต้องกลัวเธอหรอก เพราะว่าตัวเธอเองก็มาจากต่างเมืองเหมือนกัน แรกๆก็ไม่คุ้นเคยกับเมืองนี้เช่นเดียวกับมีเน่นั้นแหละ แต่ถ้าเราลองพูดคุยกับทุกๆคนที่เข้ามาทักทายกับเราดู เราก็จะรู้ได้เองแหละว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มนุษย์ทุกคนก็ล้วนเหมือนญาติพี่น้องของกันและกัน



                \"งั้นในโอกาสที่ได้รู้จักกันเป็นครั้งแรก แถมมาจากต่างเมืองเหมือนกัน พี่สาวคนนี้จะเป่าขลุ่ยให้ฟังซักเพลงละกันนะ\"พูดจบ sayoก็ล้วงเอาขลุ่ยหยกขาวของเธอออกจากกระเป๋า แล้วเริ่มบรรเลงเพลงด้วยท่วงทำนองที่เชื่องช้าก่อน เสียงขลุ่ยที่แผ่วหวานไปทั่วทั้งบ้านทำให้ทุกคนที่ได้ยิน มีภาพๆนึงบังเกิดขึ้นในหัวโดยไม่ได้นัดหมาย ภาพของใบไม้ที่ล่องลอยไปตามกระแสลมผ่านแว่นแคว้นต่างๆดุจนกน้อยที่โผบิน ก่อนที่จังหวะดนตรีจะรวดเร็วขึ้น ดูคึกคักประดุจการเต้นรำของชนพื้นเมือง จนในห้วงสุดท้ายของเพลงที่กลับมาช้าลงเรื่อยๆ คล้ายกับแม่น้ำลำธารที่ไหลรินไปทั่วพิภพ อย่าว่าแต่เจนนี่ที่หลงใหลในดนตรีอยู่แล้ว จะเคลิบเคลิ้มเลย แม้แต่zaionicที่มีจิตใจหยาบกระด้างไม่นำพาต่อเรื่องพวกนี้ ก็ยังตกอยู่ในภวังค์แห่งเสียงเพลงราวกับถูกสะกดเลย จนเมื่อบทเพลงจบลง ทุกคนก็พากันนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรอยู่นานเหมือนกัน



                \"แปะๆๆๆๆ ว้าวๆ(^o^)bพี่sayo สุดยอดไปเลย เพลงนี้เพราะมากๆเลยครับ ถึงจะไม่มีคำร้องเหมือนเพลงที่พี่เจนนี่ร้องให้ผมฟังก็จริง แต่ก็รู้สึกถึงกระแสแห่งธรรมชาติได้เหมือนกันครับ เยี่ยมจริงๆเลยd_(>_<)_b\"คินชมsayo Keiก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกัน ว่าถ้าเจนนี่เป็นคนร้อง แล้วsayoบรรเลงเพลงร่วมกันทั้งคู่แล้ว มันจะเกิดท่วงทำนองที่สุดยอดซักแค่ไหนกันเชียว เจนนี่เองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เธอจึงขอร้องsayoให้มาเป็นเพื่อนช่วยซ้อมเพลงที่เธอจะต้องใช้ร้องในโบสถ์ ซึ่งSayoก็ยินดีที่จะช่วยเธอ เพราะเธอเองก็เคยได้ยินกิติศักดิ์ของนักร้องสาวผู้มีเสียงแห่งนางฟ้าอย่างเจนนี่เช่นกัน แต่คงจะไม่ใช่ตอนนี้เพราะsayoเอง นึกขึ้นมาได้ว่า เธอยังไม่ได้ไปลงทะเบียนสมัครเข้าเซรอสเลย



                \"เอาไว้ตอนเย็นละกันนะเจนนี่ เดี๋ยวเราขอตัวไปลงทะเบียนก่อน เพราะวันนี้เป็นสุดท้ายและที่ทางเซรอสเข้าเปิดรับสมัครนะจ๊ะ\"sayoกล่าว แล้วก็ขึ้นไปเตรียมเอกสารที่ใช้ในการสมัครบนห้อง ก่อนจะลงมาพร้อมกับนกของเธอ



                \"ถ้าไม่ว่าอะไรให้ผมไปเป็นเพื่อนละกันนะ พอดีมีธุระกับคนที่อยู่ในเซรอสน่ะ\"zaionicขอไปเซรอสกับsayoด้วย แท้จริงแล้วเขาไม่มีธุระอะไรที่นั้นหรอก หากแต่เป็นห่วงsayoที่จะไปสมัครคนเดียว จึงตั้งใจจะไปคุ้มครองเธอจากพวกผู้เข้าสอบหน้าเก่าหลายคนๆ ที่คอยดักซุ่มข่มขู่เด็กใหม่เพื่อลดจำนวนคู่แข่งลงตามธรรมเนียม เมื่อคินได้ยินว่าzaionicจะออกไปข้างนอก ก็เตรียมตัวจะไปด้วย ทว่า



                .\"นายรออยู่นี้ละกันคิน ฉันไปไม่นานหรอก อีกอย่างเจนนี่เองคงจะทำขนมอะไรให้นายกินอีกแน่ๆ\"zaionicบอกคิน จากเหตุการณ์ที่หน่วยไล่ล่าบุกมาเมื่อวานทำให้เขาไม่กล้าประมาทอีก จึงเจตนาจะทิ้งคินไว้ เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยของที่นี้ แม้จะมั่นใจในฝีมือของเฟลย์เรียอยู่แล้วก็ตาม คินเองตอนแรกก็อิดออดไม่อยากแยกจากzaionic แต่เมื่อได้ยินว่าเจนนี่อาจจะทำอะไรให้เขากินอีก เรื่องอื่นๆเขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว...



               ---------------------------------------  ----------------------- ------- ------- -------- ------------ --- - - ------------- -------------- ---- -



                \"ตกลงนายจะให้เมเช่มาอยู่กับเราจริงๆเหรอFerrick\"  KenถามFerrick ขณะที่ทั้งคู่กำลังทำงานเช็คสินค้า และขนของอยู่ด้านหลังร้านแองกลอร่า  หลังจากที่ทั้งสามคนได้ไปยังบ้านของเมเช่และพบว่ามันกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว Ferrickก็ตัดสินใจชวนเธอมาอยู่ด้วย ซึ่งเมเช่ก็ดีใจมากจนกระโดดเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงFerrickโดยทันที ถ้าไม่ติดว่าKenช่วยรีบแยกเธอออกไปแล้วละก็ เธอคงจะจูบFerrickเป็นการขอบคุณไปแล้วแน่ๆ จากนั้นทั้งสามก็แวะมาที่ร้านแองกลอร่า เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่Ferrickได้ทำงานที่นี้ และเมเช่เองก็เก็บสมบัติของเธอไว้ที่ร้านนี้ไม่น้อยเหมือนกัน Ferrickทำงานได้ดีและคล่องแคล่วมาก สมกับที่เขาได้ศึกษางานในร้านมาจากวันก่อนแล้ว บวกกับประสบการณ์ที่เคยทำงานในร้านอาหารมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า Ferrickจะช่วยให้ความวุ่นวายในร้านลดลงไปมาก ราวกับมีพนักงานประจำที่คุ้นเคยกันดี มาช่วยเหลือเลยทีเดียว



                \"ก็ช่วยไม่ได้นี้นา เธอเองก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวคนเดียว จะปล่อยไปได้ยังไงกันเล่า\"Ferrickตอบ Kenทำท่าขนลุกขนพองทันทีเมื่อได้ยินที่Ferrickพูด



                \"เด็กผู้หญิง(O_o\")! ถ้ายัยนั้นเป็นเด็กผู้หญิงแล้วละก็ ออร์คก็คงเป็นแค่สัตว์เลี้ยงน่ารักๆประจำบ้านนะสิ นายไม่เห็นที่เธอทำกับฉันเมื่อเช้าเหรอ ถึงเจนนี่จะช่วยรักษาให้แล้วก็เถอะ ความรู้สึกที่ขากรรไกรแตกหัก ฟันโยกคลอนหมดทั้งปาก ยังติดตรึงในความทรงจำของฉันอยู่เลย(T_T) ตอนนั้นนะ ฉันนึกว่าจะต้องตายไปจริงๆซะแล้ว\"Kenกล่าว Ferrickแอบขำในใจเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า แหงละสภาพของKenที่โดนเมเช่ซ้อมเอาๆนั้น มันน่าสงสารก็จริง แต่หน้าตาท่าทางของKenตอนที่ดิ้นรนหนีสุดชีวิต มันเหมือนกับสามีที่ถูกภรรยาจับได้ว่านอกใจไม่ผิดเพี้ยนเลยนะสิ(^_^)



                \"ว่ายังไงจ๊ะหนุ่มๆ กำลังนินทาใครอยู่เอ่ย\"เสียงของคนที่กำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้ ดังมาจากประตูโกดัง ช่างอายุยืนจริงแหะๆ Kenคิด แล้วอดเสียวสันหลังไม่ได้ว่าเธอจะได้ยินมั้ยนะ ถึงเรื่องที่พูดกันเมื่อสักครู่นี้ ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก Kenก็หลบไปหลังของFerrickโดยเร็วไว เมเช่ถือถาดใส่อาหารมา3-4อย่างเข้ามาด้วย เธอชวนFerrickเสียงอ่อนเสียงหวานให้มากินร่วมกัน



                \"มากินข้าวกันเถอะFerrick เราขอให้คุณบาย่าทำให้เป็นพิเศษเชียวนะ(^_^)\"เมเช่หมายถึงพ่อครัวที่รับผิดชอบเรื่องอาหารในร้าน ซึ่งเป็นกุ๊กที่เก่งมากๆ จนทำให้ร้านแองกลอร่า ติดอันดับ1ใน7ร้านอาหารชวนชิมของเมืองเซนเทียเลยทีเดียว Kenถอนหายใจออกมาเฮือกนึง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเมเช่ไม่ได้ยินที่เขาพูดกับFerrickเมื่อกี้ หลังจากที่เมเช่จัดอาหารบนโต๊ะกินข้าวของพนักงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็กินข้าวร่วมกันโดยที่Kenแยกออกไปนั่งแทะขนมปังแข็งๆ อยู่คนเดียว



                \"อ้าว? ทำไมไม่มากินด้วยกันละKen\"Ferrickถาม แต่Kenส่ายหน้าปฏิเสธเพราะรู้ดีว่าเมเช่ยังยัวะเขาอยู่แน่ๆ



                \"คนเห็นแก่ตัว ทิ้งคนอื่นได้ง่ายๆแบบนั้นอย่าไปสนใจเลยFerrick\"เมเช่เหน็บKen ก่อนที่จะตักอาหารยื่นให้Ferrick Ferrickเห็นใจKenจริงๆแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรดี คงต้องให้เวลาเท่านั้นแหละ ที่จะช่วยบรรเทาความแค้นของเมเช่ลงได้ ว่าแล้วทั้งสามก็รีบๆกินอาหารให้เสร็จ เพื่อจะได้ทำงานต่อ เพราะแขกเริ่มทยอยมากันมากขึ้น ในช่วงเที่ยงนี้...





        ___________ ___ _ ________ _____ _____ __ _ __ ______ ___ ______ __ ________ ____ ______





                \"ว้าวๆ น่ากินจังเลยครับ ขนมเค้กก้อนนี้สวยดีนะครับ พี่เจนนี่(^o^)\"คินร้องออกมาด้วยความดีใจ ที่ได้กินของอร่อยๆฝีมือเจนนี่อีกแล้ว ขนมเค้กสีสันสวยงามทำจากช็อคโกแลตแต่งหน้าด้วยลูกกวาดที่เธอซื้อมาจากเมื่อวาน ดูท่าจะถูกใจคินไม่น้อยเลย เพราะปกติคินจะเป็นคนกินมูมมามก็จริง แต่เมื่อเจนนี่ตัดแบ่งไว้ให้เขาเป็นคำๆ คินเองก็ไม่รังเกียจเลยที่จะค่อยๆละเลียดลิ้มลองความอร่อยของขนมอย่างช้าๆดูบ้าง เจนนี่นั่งมองดูคินกินขนมที่เธอทำอย่างมีความสุขเช่นกัน นับวันเธอก็ยิ่งผูกพันกับคินมากขึ้นเลยๆ จนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นน้องชายที่น่ารักคนนึงเลยทีเดียว



                \"(น่ารักจริงๆเลยคินนี่(>_<) กินซะแก้มตุ้ยเชียว อยากจับแก้มนิ่มๆนั่นจังเลย)\"เจนนี่คิด ว่าแล้วก็จะลองจับดูซะหน่อย แต่Keiก็เข้ามาเตือนเธอถึงเรื่องสำคัญซะก่อน



                \"ไปกันเถอะเจนนี่ ใกล้จะได้เวลาซ้อมช่วงบ่ายแล้วนะ ได้ยินมาว่าวันนี้จะมีกลุ่มขุนนางมาดูการฝึกซ้อมด้วย ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะไม่ทันนะ\"Keiบอก เจนนี่นึกขึ้นมาได้เหมือนกันว่าเธอเสียเวลาไปมากแล้วจากการทำของว่างให้คิน เธอจึงรีบแต่งตัวแล้วตามKeiไป แต่ก่อนจะไปยังสั่งกำชับให้คินแปรงฟันให้ดีด้วยหลังการกินของหวาน และอย่าไปรบกวนเฟลย์เรียกับมีเน่ที่ช่วยกันทำความสะอาดบ้านอยู่ละ จากนั้นเธอจึงออกไปพร้อมKei



                \"แผลคงใกล้หายแล้วสินะคะ\"เฟลย์เรียเอ่ยขึ้น ขณะที่เธอกำลังถูพื้นห้องในชั้นสองอยู่ข้างๆ มีเน่ที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูตู้โต๊ะเฟอร์นิเจอร์ด้วยท่วงท่าที่คล่องแคล่ว แทบไม่เหลืออาการบาดเจ็บให้เห็นแล้ว มีเน่ได้ยินเฟลย์เรียกล่าวเช่นนั้น เธอจึงลองเหยี่ยดเกร็งแขนขาดู ก็พบว่าความเจ็บปวดมีไม่มากแล้ว หลังจากที่เมื่อเช้าเฟลย์เรียได้ตัดไหมที่เย็บแผลออก แล้วขอให้เจนนี่ช่วยใช้เวทย์Healรักษาจนปากแผลปิดสนิท



                \"จริงด้วยสิ! แค่ไม่กี่วันเอง ฝีมือการรักษาของพี่เฟลย์เรียนี่เยี่ยมๆจริงเลยนะ(^_^)\"มีเน่ชมเฟลย์เรีย เฟลย์เรียไม่แสดงอารมณ์ยินดียินร้ายแต่อย่างไร  บอกเธอว่า



                \"ถ้าจะชมเชย ควรขอบคุณ คุณเจนนี่ดีกว่าคะ ที่ช่วยHealให้จนบาดแผลปิดสนิท ลำพังดิฉันเองแค่กำจัดพิษที่เกิดจากอาวุธและช่วยเย็บห้ามเลือดให้ชั่วคราวเท่านั้นเอง\"เฟลย์เรียกล่าวอย่างถ่อมตน



                \"ไม่หรอกพี่เฟลย์เรีย ถ้าพี่ไม่สลายพิษออกก่อน ต่อให้เวทย์อะไรก็รักษาไม่หายหรอก ยิ่งถ้าเลือดยังไหลโกรกๆอยู่ละก็ ฉันคงตายตั้งแต่เมื่อคืนนั้นไปแล้วละ\"มีเน่ยังยกย่องเฟลย์เรียอยู่ดี สักครู่เธอก็หน้าเจื่อนลงเมื่อคิดได้ว่า



                \"ถ้างั้นฉันควรจะได้เวลาไปจากที่นี้แล้วสินะ\"เธอพูดออกมาเบาๆ เหมือนจะรำพึงกับตัวเอง แต่เฟลย์เรียก็ทำให้เธอสดชื่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยคำพูดแค่ประโยคเดียว



                \"คงไม่ได้หรอกคะคุณมีเน่ เพราะคุณชายบอกคุณไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าคุณจะไปจากบ้านนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีที่หมายใหม่เท่านั้น หากคุณยังไม่มีที่จะไปแล้วละก็ ดิฉันคงต้องขอให้คุณอยู่ที่นี้ตามคำสั่งของคุณชายแล้วละคะ\"เฟลย์เรียบอกเธอไปตามหน้าที่ ไม่ได้ตั้งใจจะปลอบโยนใดๆทั้งนั้น แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอ จะทำให้มีเน่มีความสุขขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ที่เธอมี\"ที่อยู่\"เป็นของตัวเธอเองแล้ว...



            _____ ___ _ _ _____________ __________ __________ ______ _______ ____



                \"ตามที่พวกแกเล่ามา สรุปแล้วก็คือ เบื้องบนของเซอินะจัดให้พวกเจ้าทั้ง4คนเป็นหน่วยไล่ล่า ออกตามหาตัวคนทรยศที่ชื่อมีเน่สินะ   แล้วอยู่ๆทั้งหมดก็มารู้สึกตัวอีกทีในป่าแห่งนี้ โดยที่จำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อยงั้นรึ\" ราเซนกล่าวสรุปตามที่เขาเข้าใจ หลังจากสอบสวนไอ้พวกชุดดำสี่ตัวที่บังอาจมาไล่จับสัตว์เลี้ยงของเขา ตอนนี้เซอินะทั้ง4คน ยังคงถูกผลึกน้ำแข็งห่อหุ้มร่างกายเอาไว้อยู่ โดยที่การเกาะกินของผลึกได้ชะงักลงแล้วแค่ต้นคอ พวกมันทั้งสี่ถูกแบกมายังหน้าบ้านของราเซน โดย\"ชิกิงามิ\"(ภูตที่เกิดจากพลังอาคมของผู้สำเร็จศาสตร์แห่งองเมียว สร้างขึ้นจากยันต์มีรูปร่างหน้าแตกต่างกันไปตามแต่ผู้ใช้ต้องการ) ที่มีรูปร่างคล้ายเสือเขี้ยวดาบสีทองแดงแต่มีแผงคอเหมือนราชสีห์4ตัว เป็นผู้ขนมาด้วยวิธีการคาบไว้ในปาก เมื่อมองดูขนาดร่างกายที่ใหญ่โตพอๆ กับม้าเทศของพวกมัน ก็ทำให้เซอินะทั้ง4อดคิดไม่ได้ว่าหากราเซนสั่งให้พวกมันขย้ำตนแล้วละก็ แค่คำเดียวคงจะไม่พอขี้ฟันของมันแน่ๆ



                \"(จากคลื่นความคิดของพวกนี้ ที่อ่านได้จากดวงตา ไม่ส่อแววถึงคำโป้ปดมดเท็จเลยแม้แต่น้อย ดูท่าทั้งหมดคงจะถูกลบความทรงจำเป็นแน่ ที่พวกมันประสงค์จะจับตัวเนโกะหลังจากฟื้นคืนสติขึ้นมา ก็เพื่อจะสอบสวนว่าทำไมถึงตนเองถึงมาอยู่ที่นี้ได้สินะ เหตุผลน่าเห็นใจก็จริงแต่การกระทำ ช่างบัดซบสิ้นดี เนโกะเป็นแค่เด็กซนๆเท่านั้นเอง ถ้าอยากจะรู้อะไรจากเธอถามดูดีๆก็ได้ไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังเลย ถึงแม้จะเป็นคนในโลกมืด มันก็น่าจะมีหัวคิดกว่านี้ เห็นทีว่างๆ คงต้องแวะไปเยี่ยมไอ้พวกอาวุโสทั้ง7ซะหน่อยแล้ว ว่าอบบรมลูกน้องยังไงกัน)\"ราเซนยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด สำหรับเขาแล้วการที่พวกนี้จะถูกลบความทรงจำเพราะรู้อะไร แล้วทำไมจึงถูกนำมาทิ้งที่ป่าด้านหลังบ้านของเขานั้น มันไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของพวกมันที่ทำกับเนโกะ ซึ่งไม่น่าให้อภัยเลย ถึงจะปล่อยกลับไปเฉยๆไม่ได้แต่จะฆ่ามันทิ้งซะก็กระไรอยู่ ว่าแล้วราเซนก็ชี้ดาบไปยังหน่วยไล่ล่าแห่งเซอินะทั้ง4คน ฉับพลันผลึกที่พันธนาการพวกมันเอาไว้ ก็ละลายกลายเป็นน้ำเคลื่อนไหวราวกับสิ่งมีชีวิต กลับเข้ามารวมที่คมดาบของเขา ก่อนที่ดาบน้ำแข็งจะแปรสภาพเป็นดาบโลหะสีเงินวาวเช่นเดิม



                \"เห็นแก่ที่พวกแกทำตามหน้าที ฉันจะละเว้นโทษตายให้สักครั้ง แต่ว่า..\"ราเซนพูดยังไม่จบเขาก็ตวัดดาบไปทางชิน ฉับพลันดาบโลหะ ก็เปลี่ยนเป็นแส้เพลิงสีแดงฉาน ตัดแขนข้างที่ชินเคยใช้จับล็อกของเนโกะ จนขาดกระจุยออกจากตัว แขนที่ถูกตัดออกมาถูกเปลวไฟสลายเป็นขี้เถ้าก่อนที่จะร่วงหล่นถึงพื้นซะด้วยซ้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า มันจะทรมานถึงเพียงไหนที่ต้องเสียแขนไปด้วยแส้เพลิง ความเจ็บปวดจากไฟที่ลุกไหม้บนหัวไหล่ของชิน ทำให้เขาลงไปกลิ้งกับพื้นร้องโหยหวนอย่างน่าสมเพช



                \"สำหรับแกที่บังอาจคิดทำร้ายของๆฉัน ชดใช้มาด้วยแขนข้างนึงก็แล้วกัน ไสหัวไปได้แล้ว\"ราเซนบอก เหล่าผู้คุมกฏที่เหลือใช้มนตราระงับความเจ็บปวดที่แผลของชินไว้ แล้วรีบพาเขากระโดดหนีไปโดยไม่กล้าหันหลังกลับมาอีก...



        _____ ___ _ __ __ _ _ _______ __ ___ _______ __ _____ _________ ________ ___    _    ___ _



                ระหว่างที่เจนนี่และKeiกำลังเดินทางไปที่โบสถ์นั้น เจนนี่ได้แวะซื้อขนมหวานตามข้างทางเช่นเดิม เพื่อเอาไปแจกให้กับนักร้องในโบสถ์ เพราะจากการพูดคุยกับพวกเขา ทำให้เธอรู้ว่านักร้องบางคนก็เป็นซิสเตอร์ที่เดินทางมาจากโบสถ์จนๆต่างเมือง  จึงไม่ค่อยมีเงินติดตัวมามากนัก ทำให้ต้องอาศัยกินนอนอยู่ที่โบสถ์ ดังนั้นอย่างน้อย เพื่อเป็นการช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีในการที่ต้องจากบ้านเกิดของตัวเองมา เธอจึงอยากเลี้ยงของหวานให้กับพวกเขาบ้าง ซึ่งขนมที่เธอซื้อก็เป็นพวกเค้กผลไม้และขนมปังไส้ต่างๆ ห่อใส่ถุงใบเบ้อเร่อ3ถุง จนKeiต้องมาถือช่วยด้วย



                \"(ยังเป็นคนใจดีไม่เปลี่ยนเลยน้าเจนนี่ เงินจำนวนนี้ถ้าฉันจำไม่ผิด ได้ยินว่าเธอเก็บสะสมเอาไว้ตัดเสื้อผ้าชุดใหม่แทนชุดเก่าที่เริ่มปะเย็บไม่ไหวแล้วแท้ๆ แต่พอเห็นคนลำบากเข้าหน่อย ก็ควักออกมาใช้โดยไม่ลังเลทันที แบบนี้สิเธอถึงต้องลำบากอยู่เรื่อย)\" Keiคิด ว่าแล้วเขาก็ตัดสินใจจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ๆให้เธอเอง ถ้ามีเวลาว่างในช่วงเย็นนี้ เพราะเขาเห็นเจนนี่ไปยืนจดๆจ้องๆ มองดูชุดซิสเตอร์ชุดนึงในร้านเสื้อผ้าที่ติดกับร้านขายขนม ก่อนจะมองดูเงินในกระเป๋าแล้วส่ายหน้าไปมา



                \"ดูสิKei ถนนเส้นนี้ตบแต่งซะสวยเชียว\"เจนนี่ชี้ไปที่ถนนสายหลักของเมืองเซนเทีย ที่ทอดยาวไปยังพระราชวังเรเมน่อสและโบสถ์เซนท์จอร์น  สองข้างทางถูกประดับไปด้วยกระดิ่งที่เป็นเครื่องหมายของศาสนาเมโทเฟีย หลากสีสันสวยงามเป็นอย่างมาก สมแล้วกับที่เป็นเส้นทางของขบวนรถองค์วาดาละ ซึ่งจะเสด็จจากพระราชวังมายังโบสถ์เพื่อให้ศีลให้พรแด่ศาสนิกชนที่มาร่วมพิธี\"ธรรมพิสุทธิ์\"อันเป็นการตั้งจิตอธิฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้โลกนี้มีแต่สันติสุข ที่องค์ประมุขแห่งศาสนักจักรแห่งเมโทเฟียจะกระทำทุกๆ4ปี  แม้ในวันนี้การประดับประดาจะยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยเหมือนกัน ที่ผ่านมายังเส้นทางสายนี้จะหยุดมุงดูกันอย่างเนืองแน่น ทำให้เจนนี่ที่ถือถุงขนมซองใหญ่อยู่ไม่ทันระวัง ถูกคนที่แทรกถอยออกมาจากฝูงชน กระแทกเข้าด้านข้างจนเธอเสียการทรงตัวจะหกล้ม แต่ก็มีผู้ชายคนนึงจับตัวเธอและถุงขนมเอาไว้ได้ก่อนด้วยความว่องไว



                \"อุ๊ย! ขะ..ขอบคุณมากคะ\"เจนนี่กล่าวขอบคุณชายผู้นั้น เขายิ้มออกมานิดนึง บอกกับเธอว่า



                \"ไม่เป็นไรหรอกครับ(^_^) หอบของพะรุงพะรังแบบนี้ ต้องระวังหน่อยนะครับ ผู้คนแถวนี้ไม่ค่อยสนใจซะด้วยว่าใครเป็นใคร\"หนุ่มผมสั้นผู้นั้นเตือนเธอ ก่อนที่จะเดินจากไป Keiเดินเข้ามาถามเจนนี่ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอตอบเขาว่าไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่



                \"ผู้ชายคนเมื่อกี้ เขาดูเศร้ายังไงไม่รู้นะ\"เจนนี่บอก เธอรู้สึกไปเองหรือเปล่านะ ที่เห็นดวงตาของคนๆนี้ เหมือนเด็กที่กำลังร้องไห้...



                ชายคนที่ช่วยเจนนี่ไว้เมื่อสักครู่นี้ เดินแยกห่างออกมาจากถนนเข้าไปในตรอกเล็กๆ ลึกเพียงไม่กี่สิบเมตร ก็มีชายอีกคนเดินเข้ามาทักทายเขาจากประตูหลังของตึกแถวนั้น



                \"คุณHikaruไม่จำเป็นต้องออกมาสำรวจสถานที่เองก็ได้นี้ครับ ให้ผมหรือคุณรีเวียร์ไปทำแทนก็ได้ เกิดเจ้าพวกอัศวินมาเห็นเข้า มันจะเสียเวลากำจัดศพโดยใช่เหตุนะครับ\"ชายผู้มีตาสองสีคล้ายคินกล่าว เขาก็คืออาเบล แม็คกลาส1ในทีมนักฆ่าที่Hikaruตั้งขึ้น



    ...........\"อยู่แต่ในห้องมันเบื่อนะ ก็เลยออกมาเดินเล่นเท่านั้นเอง เมื่อกี้ฉันเจอผู้หญิงที่น่าสนใจด้วยนะ\"Hikaruเปลี่ยนเรื่องพูด ทั้งสองคนเดินตีคู่กันไปเรื่อยๆตามตรอกซอยนั้น



                \"น่าสนใจ ยังไงหรือครับ?\"อาเบลสงสัย เขารู้ดีว่าHikaruไม่ใช่คนที่จะพูดถึงผู้หญิงง่ายๆโดยไม่มีเหตุผลเด็ดขาด ต่อให้เธอผู้นั้นจะงดงามสักแค่ไหนก็ตาม



                \"เธอคล้ายกับน้องสาวของฉันนะ คล้ายมากๆเลยน่ะ\"Hikaruตอบ แล้วแตะบ่าอาเบล พริบตาเดียวร่างของทั้งคู่ ก็หายไปราวกับหมอกควัน...





                        จบบทที่25

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×