ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ความน่ากลัวของFullMaid
บทที่22:ความน่ากลัวของFullMaid
            สิ้นคำสั่งของผู้คุมกฏทั้ง3แห่งเซอินะ ชินก็ขว้างมีดสั้นติดระเบิดขนาดเล็กเข้าใส่มีเน่ เธอรู้ดีว่าต่อให้หลบพ้น มันก็จะมีการโจมตีระลอกที่2-3ตามมาอีก จึงหันไปคว้าเอาราวตากผ้า ที่เป็นท่อนเหล็กมาใช้ป้องกันตัว พร้อมกับร้องเตือนเฟลย์เรีย
            \"หลบเร็วพี่สาว!\" แต่ดูเหมือนมันจะช้าไปเสียแล้ว ผู้คุ้มกฏคนนึงอ้อมไปอยู่ด้านหลังของเฟลย์เรีย ในขณะที่อีก2สองคน ยืนนิ่งคุมเชิงไว้ยังไม่ลงมือ เพราะคิดว่าการสังหารสาวใช้คนนึงกับโยโฮที่บาดเจ็บ ลำพังชินกับผู้คุมกฏ1คนก็คงจะพอแล้ว ชั่วพริบตาก่อนที่มืออันแข็งแกร่งของผู้คุมกฏจะเอื้อมไปหักคอของเฟลย์เรีย มันก็วูบลงกับพื้น ราวกับหุ่นเชิดที่เชือกขาด
            \"ฮือ?\"ผู้คุมกฏที่เหลือครางออกมาพร้อมกัน ด้วยความงุนงงต่อสิ่งที่เห็น ทั้งสองแน่ใจว่าพวกของตนเข้าประชิดตัวสาวใช้หน้าหวานคนนี้โดยไม่ได้ถูกมีเน่จู่โจมอะไร แล้วเพราะเหตุใดจึงได้ร่วงลงไปเฉยๆ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ หรือว่า.. เหล่าผู้คุ้มกฏพากันชักอาวุธของตนออกมา คนนึงเป็นกรงจักรเหล็กที่มีใบมีดรูปวงแหวนสีดำสนิท คมวาว2อัน อีกคนเป็นเคียวที่พับไว้3ช่วง เมื่อปรับข้อต่อด้ามเข้าด้วยกัน มันก็มีความสูงพอๆกับผู้ที่ใช้มัน คมเคียวยาวโค้งส่งประกายที่น่าพรั่นพรึง สะท้อนเงาเฟลย์เรีย แล้วทั้งสองก็แยกกันล้อมเฟลย์เรีย ทั้งด้านหน้าและด้านหลังไว้
            \"เจ้าเป็นใครกัน\"ผู้คุ้มกฏถามเฟลย์เรีย เธอยังไม่ตอบ หันไปมองมีเน่ที่สู้กับชินอยู่ ตอนนี้ชินใช้ตะขอเหล็กมือคู่ ฟาดฟันหมายเด็ดชีพมีเน่ ซึ่งกำลังปัดป้องสุดชีวิตด้วยท่อนเหล็ก จังหวะการเคลื่อนไหวและกระบวนท่าของเธอ ส่อให้เห็นถึงฝีมือที่เหนือกว่าชินแม้จะบาดเจ็บอยู่สมกับที่เคยเป็นหัวหน้าหน่วย ทว่า ร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ย่อมไม่อาจฝืนสู้ได้นาน ในที่สุดมีเน่ก็พลาดถูกตะขอเกี่ยวดึงอาวุธออก
            \"ยอมตายซะดีๆเถอะน่ามีเน่ ฉันรับรองว่าจะไม่ทำให้เธอทรมาน มากนัก :) \"ชิน แสยะยิ้มด้วยความลำพอง แล้วเงื้อตะขอขึ้นสุดแขนเล็งไปที่คอของมีเน่ แต่อยู่ๆร่างกายเขาก็หมดแรงเอาดื้อๆ
            .\"อะอ๊ายอัน อำอายอึงเอ็นแอบอี๊?(อะไรกันทำไมถึงเป็นแบบนี้)\" ลิ้นที่เริ่มชาด้านของชิน ทำให้ออกเสียงไม่ชัด เกิดอะไรขึ้น? ชินคิด มีเน่ไม่มีอาวุธหรือระเบิดยาพิษอะไรนี่ ทำไมเขาถึงขยับไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆกัน ผู้คุมกฏ! ชินหันไปหาเหล่าผู้คุมกฏ  เพื่อหวังความช่วยเหลือ แต่ภาพที่เขาเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติไป ก็คือผู้คุมกฏทั้งสองกำลังล้อมเฟลย์เรียเอาไว้ และแผ่รังสีการต่อสู้ที่รุนแรงปะหนึ่งว่าเจอศัตรูที่ร้ายกาจ ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย?
            \"เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของเรานะ สาวน้อย\"ผู้คุมกฏถามเฟลย์เรียอีกครั้ง เธอเบนสายตาจากมีเน่ หันมาจ้องมองผู้คุมกฏ โค้งตัวเล็กน้อย แล้วแนะนำตัว
            \"ดิฉันชื่อเฟลย์เรีย เป็นMaidรับใช้ของท่านเจ้าบ้านหลังนี้ คุณชายFerricK LH Paradiseคะ\"เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีท่าทีร้อนรนต่อสถานะการณ์คับขันนี้เลย เหล่าผู้คุมกฏทั้งสองฉุกคิดขึ้นมาพร้อมกัน Maidงั้นรึ? สาวใช้ที่ทำแบบนี้กับพวกเขาได้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
            \"FullMaid! เจ้าคือFullMaidแห่งTheMaidงั้นรึ!\"ผู้คุมกฏกล่าว แล้วกระชับกระบวนท่าที่ถืออาวุธให้รัดกุมยิ่งขึ้น หากผู้หญิงคนนี้คือFullMaidจริงละก็ พวกเขาเป็นฝ่ายตกที่นั่งลำบากแล้ว
            \"คะ ดิฉันเป็นFullMaidของTheMaid พวกท่านคงจะเป็นหน่วยไล่ล่าของทางเซอินะสินะค่ะ ต้องขออภัยจริงๆคะ ที่ดิฉันคงส่งมอบคุณมีเน่คืนแก่พวกท่านมิได้ และไม่อาจปล่อยให้เธอได้รับอันตราย ด้วยเป็นคำสั่งของคุณชายคะ\"เฟลย์เรียกล่าว ผู้คุมกฏทั้งสองชั่งใจว่าจะเอาไงดี FullMaidเป็นตัวอันตราย ที่ทางเบื้องบนสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด แต่การจะล่าถอยโดยปล่อยคนทรยศไว้ ก็เป็นการเสื่อมเสียเกียรติเช่นกัน หลังจากคิดทบทวนไปมา ทั้งคู่ก็ตัดสินใจลงมือจู่โจมเฟลย์เรีย ด้วยมั่นใจว่า ถึงแม้FullMaidจะร้ายกาจเพียงใดก็ตาม คงไม่สามารถจะรับมือผู้คุมกฏถึง2คนได้แน่ ผู้คุมกฏที่อยู่ด้านหลังเฟลย์เรียจึงขวางกรงจักรใส่เธอ
            \"เฟี้ยวววว กริ๊ง\"เฟลย์เรียเบี่ยงตัวหลบได้อย่างง่ายดาย กรงจักรพุ่งเลยผ่านไปยังผู้คุมกฏที่อยู่อีกด้าน แต่นี้หาใช่การโจมตีที่หวังผลไม่ เมื่อกรงจักรเข้าถึงตัวผู้คุมกฏอีกคน เข้าก็ใช้เคียวเกี่ยวร่องกลางใบมีดกรงจักร เหวี่ยงใส่เฟลย์เรียอีกครั้ง พร้อมๆกับผู้คุมกฏที่ใช้จักรเป็นอาวุธ ปล่อยกรงจักรอันที่สองตามไปซ้ำ ป้องกันไม่ให้เฟลย์เรียหลบได้อีก
            \"ระวัง!\"มีเน่เห็นการโจมตีที่ไร้ช่องโหว่เช่นนี้ จึงคิดจะเข้าไปขวางเพื่อช่วยเฟลย์เรีย ทว่า การเคลื่อนไหวของเธอช้าเกินไป กรงจักรทั้งสอง บัดนี้อยู่ในการควบคุมของเฟลย์เรียแล้ว!
            \"เป็นไปไม่ได้!\"ผู้คุมกฏที่ใช้กรงจักร พูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง พริบตาเดียวก่อนที่กรงจักรจะหั่นร่างกายของเฟลย์เรียออกเป็นชิ้นๆ เธอได้ดึงเอาพลองเหล็กร้อยโซ่ในเสื้อออกมาประกอบ รับกรงจักรทั้งสองที่พุ่งเข้ามาด้วยวิธีการเดียวกับที่ผู้คุมกฏใช้ คือสอดปลายทั้งสองเข้าไปตรงร่องกลางใบมีด แล้วควงมันหมุนไปมาพร้อมกับพลองเหล็กอย่างรวดเร็ว!  ด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว
            \"(บ้าน่า กว่าที่ฉันจะอ่านการเคลื่อนไหวของกรงจักรที่พุ่งเข้ามา แล้วใช้เคียวรับไว้ได้แบบนี้ ต้องฝึกเกือบ7ปีทีเดียว ถ้าไม่ใช่เราสองคนที่รู้จังหวะของกันและกันดี ไม่มีทางแม้แต่จะปัดมันได้แน่ ทำไมผู้หญิงอายุแค่นี้ถึงถึงรับมันได้ง่ายๆ ราวกับของเด็กเล่นแบบนี้)\"ผู้คุมกฏที่ใช้เคียวคิด ตอนนี้ เขาตระหนักแล้วถึงความน่ากลัวของFullMaid และรู้ตัวว่าตนเองไม่มีทางชนะแน่ จึงคิดจะล่าถอยก่อนเพื่อไปตั้งหลัก แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขา ที่คิดเช่นเดียวกันนี้ ไม่มีโอกาสจะหนีได้แล้ว
            \"ทำไม....\"ผู้คุมกฏที่ใช้จักร กล่าวออกมาเป็นคำสุดท้าย แล้วล้มลงกับพื้นหมดสติตามอีก3คนไป ประกายแสงจากมือซ้ายที่ว่างอยู่ของเฟลย์เรีย เผยปริศนาที่ทำให้ทั้งสามหลับไหลไปแล้ว มันคือเข็มนั่นเอง! เข็มเล่มเล็กๆชนิดเดียวกับที่ใช้ทำให้มีเน่สงบเมื่อตอนเช้า มันปักเข้าไปยังตำแหน่งที่แตกต่างกับที่มีเน่โดน ทว่า ผลของมันล้วนเหมือนกันคือ ทำลายความสามารถในการเคลื่อนไหวและการควบคุมร่างกายลงอย่างเฉียบพลัน
ผู้คุมกฏที่ใช้เคียวตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เมื่อสายไปแล้ว เพราะเขาเองก็โดนเข้าเช่นกัน อันที่จริง เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่คู่หูที่ใช้จักรของเขา ร่วงลงไปแล้ว และเตรียมพร้อมใช้เคียวป้องกันตัวเองเต็มที่ แต่เพราะเฟลย์เรีย ขว้างกรงจักรที่หมุนอยู่ในปลายพลองทั้งสองมาใส่เขา ทำให้จำเป็นต้องใช้เคียวปัดมันออก จนเกิดช่องโหว่ให้เธอเล่นงานได้
            \"ร้ายกาจ\"ผู้คุมกฏคนสุดท้ายที่ยังมีสติ พูดกับเฟลย์เรียด้วยใจจริง เขาประเมินความแข็งแกร่งของเธอน้อยเกินไป แล้วความรับรู้ทั้งหมดของเขาก็ดับวูบไป มีเน่เดินเข้ามาข้างๆเฟลย์เรีย มองหน่วยไล่ล่าที่นอนกองอยู่รอบๆ เธอรู้อยู่ว่าเฟลย์เรียมีฝีมือแต่นึกไม่ถึงว่า จะถึงขั้นนี้
            \"ยอดไปเลยพี่สาว ใช้เข็มจู่โจมพวกมันตอนไหนบ้างเนี่ย ฉันดูไม่ออกเลย\" มีเน่ถามเฟลย์เรียด้วยความงุนงง  การโจมตีด้วยเข็มครั้งสุดท้ายเธอพอจะมองออกอยู่ แต่สามคนแรกนั้น เธอนึกไม่ออกเลยว่า โดนเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เฟลย์เรียเดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้แต่ร่วงลงมาเพราะมีเน่เอาราวเหล็กมาใช้แขวนกลับขึ้นไป แล้วปัดฝุ่นออกเล็กน้อย เพราะพื้นดาดฟ้าไม่ได้สกปรกมากมายอะไร ตอบมีเน่ด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า
            \"โยโฮที่ชื่อว่าชินถูกเข็มเป็นคนแรกคะ ตั้งแต่ตอนที่โดดลงมาจากเครื่องร่อน เพราะการป้องกันของเขาอ่อนกว่าผู้คุมกฏทั้งสามที่มาด้วย โดยที่ดิฉันเว้นระยะของอาการที่จะเกิดขึ้นให้ช้าหน่อย เพื่อไม่ให้อีกสามคนรู้ตัว อันที่จริงถ้าเขาไม่รีบร้อนขยับตัวมากๆ เขาจะสลบเป็นคนสุดท้าย คนที่สองก็คือผู้คุมกฏที่ใช้มือเปล่ากับดิฉัน การระวังป้องกันที่ดูเข็มแข็งในตอนแรก หย่อนหยานลงเพราะความประมาท คิดว่าดิฉันเป็นสาวใช้ธรรมดาทั่วไป ทำให้เป็นการง่ายที่จะดีดเข็มออกจากมือไปหยุดการเคลื่อนไหวโดยทันที คนที่สามก็คือผู้คุมกฏที่ใช้จักร หลังจากที่เขาปล่อยอาวุธของตน ออกมาหมดแล้ว ก็มั่นใจว่าดิฉันไม่รอดแน่ จึงไม่ได้ระวังตัว และคนสุดท้ายอย่างที่คุณมีเน่รู้ ก็คือผู้คุมกฏที่ใช้เคียวท่านนี้ เขารู้ตัวเรื่องอาวุธและวิธีที่ดิฉันใช้ จากการจู่โจมใส่คนที่สามของดิฉัน และระวังตัวเต็มที่ ดิฉันจึงใช้กรงจักรที่หมุนไว้ ขว้างใส่เขา บังคับให้เผยจุดอ่อน จึงจัดการกับเขาได้ค่ะ\"เฟลย์เรียอธิบาย แล้วพวกลากหน่วยไล่ล่าทั้งหมด มานอนเรียงกันไว้ มีเน่หยิบมีดของชิน เดินไปหาเขา หมายจะเชือดคอให้ตายซะแต่เฟลย์เรียห้ามเธอไว้ก่อน
            \"ดิฉันก็คิดว่าควรจะปิดปากพวกเขาทั้งหมดซะ เพื่อไม่ให้แพร่งพรายเรื่องที่คุณมีเน่อยู่ที่นี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอคำสั่งของคุณFerrickก่อนคะ เพราะนายท่านคนก่อน เคยสอนดิฉันไว้ว่า ไม่ควรจะฆ่าคนโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม ถึงมันจะขัดกับสิ่งที่TheMaidสอนดิฉันมา แต่ก็จำเป็นที่จะต้องตามค่ะ เพื่อความสบายใจของท่าน แต่คุณชายFerrickจะว่าเช่นไรนั้น คงต้องรอถามความเห็นท่านก่อนคะ\"นายท่านคนก่อนที่ว่า ก็คือคุณลูดอร์ฟนั้นเอง ถึงมีเน่จะไม่เห็นด้วย ที่จะปล่อยคนพวกนี้ไว้นานๆ แต่ก็ไม่กล้าขัดเฟลย์เรีย หลังจากที่เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้แล้ว
            เมื่อFerrickและKenกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเฟลย์เรีย ก็อดจะเป็นห่วงทั้งสองคนไม่ได้ แม้เฟลย์เรียจะบอกว่า มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตามที และพากันคิดว่าจะจัดการกับหน่วยไล่ล่ากลุ่มนี้ อย่างไรดี
            \"ฆ่ามันทิ้งเถอะพี่ชาย ไม่เช่นนั้น พวกมันอาจจะหาทางแจ้งให้เซอินะคนอื่นๆรู้ก็ได้ ว่าที่บ้านหลังนี้ให้การหลบซ่อนฉัน จะคุมขังพวกมันไว้ตลอดก็ใช่ที\"มีเน่กล่าว ตอนนี้พวกหน่วยไล่ล่าทั้งหมด ถูกฝังเข็มเอาไว้ยังไม่ได้สติ เฟลย์เรียก็สนับสนุนข้อเสนอของมีเน่ด้วย เพราะเป็นวิธีการปลอดภัยที่สุดแล้วที่จะทำให้พวกมันแพร่งพรายเรื่องของที่นี้ไม่ได้ แต่Ferrickกลับคิดว่า
            \"เราเอาพวกนี้ส่งทางการไม่ดีกว่าเหรอ? เฟลย์เรีย ผมไม่ชอบการเข่นฆ่ากันเลย ถึงคนกลุ่มนี้จะไม่ใช่คนดีก็เถอะ\"Ferrickกล่าว เพราะไม่อยากให้เฟลย์เรียกับมีเน่ฆ่าคน มีเน่จะแย้งว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนพวกนี้จะไม่หาทางส่งข่าวให้องค์กรรู้ ต่อให้อยู่ในความดูแลของทางการก็ตาม เพราะคนของเซอินะ มีแทรกซึมอยู่ทุกหนแห่ง ทว่า เฟลย์เรียกลับหาทางออกที่ดีต่อทุกคนได้
            \"งั้นให้เฟลย์เรีย ลบความทรงจำของพวกเขาละกันดีมั้ยคะ\"เธอเสนอวิธีใหม่ Ferrickแปลกใจว่า เรื่องนี้สามารถทำได้ด้วยเหรอ
            \"ได้คะ ถ้าใช้สารเคมีที่จะทำลายหน่วยความจำในช่วงเวลานึงที่เฟลย์เรียมี ทาเข็มแล้วฝังเข้าไปในจุดๆนึงที่สมอง มันจะลบความทรงจำทุกอย่างภายในวันสองวันนี้ได้อย่างหมดจด ชนิดที่ว่าต่อให้ใช้การสะกดจิตหรือยามาช่วย ก็ดึงความทรงจำกลับมาไม่ได้คะ\"เธอบอก Ferrickตกลงให้ใช้วิธีนี้ดีกว่า ลบความจำของพวกเขาซะแล้วค่อยเอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไกลๆ
            \"แล้วเราจะเอาไปทิ้งที่ไหน ดีละ\"Kenถาม ฉับพลันก็มีผู้ให้คำตอบ มาจากทางด้านหลังของเขา
            \"ป่าทางตอนใต้ของเซนเทียไง เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเองเถอะ\"ผู้ที่ตอบก็คือzaionicนั่นเอง เขากลับมาพร้อมกับคินได้สักครู่แล้ว หลังจากตระเวณหางานอยู่นาน แต่ก็คว้าน้ำเหลว ที่ไม่รีบเข้าไปในบ้านเพราะอยากจะลองฟังความเห็นของFerrickดูก่อน ว่าเป็นยังไง เมื่อได้ยินว่าเขาไม่เห็นด้วย ที่จะฆ่าหน่วยไล่ล่า ก็อดที่จะชอบในนิสัยใจคอของFerrickมากขึ้นไม่ได้ ที่เลือกจะใช้วิธียุ่งยากรักษาชีวิตของคนไว้ แทนที่จะเลือกวิธีสะดวกๆอย่างฆ่าพวกมันทิ้งซะ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงก็เป็นคนเหมือนกัน ถึงจะเป็นคนเลวก็เถอะ ผิดกับOutMenในโลกนี้หลายคน ที่มักจะมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิตในโลกนี้ เพราะคิดว่าเป็นแค่ชีวิตในความฝันเท่านั้น ทั้งที่ทุกชีวิตในโลกนี้ล้วนมีอยู่จริงในอีกห้วงมิติหนึ่ง
            \"ทำไมต้องเป็นป่าทางตอนใต้หรือครับ?\"Ferrickอยากทราบในเหตุผลที่zaionicเลือกสถานที่แห่งนี้ zaionicยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ตอบสั้นๆแค่ว่า
            \"เพราะที่นั่น มีคนที่เซอินะไม่กล้ายุ่งด้วยนะสิ\"แล้วzaionicก็พาคินตามเฟลย์เรีย ไปแบกพวกเซอินะที่หลับอยู่ในห้องเก็บของออกมา เฟลย์เรียดึงเข็มที่ฝังไว้ออก แล้วก็ล้วงเอาขวดน้ำยาสีเขียวๆ ขนาดเท่านิ้วโป้งออกมาจากเสื้อ เธอเอาเข็มหย่อนลงไปในขวด ให้น้ำยาสีเขียวใสเกาะพอประมาณ แล้วฝังลงไปยังท้ายทอยของหน่วยไล่ล่าทีละคนๆ จนครบ จากนั้นรอสักพัก จึงค่อยถอนออก
            \"เสร็จแล้วคะ อีกสัก4ชั่วโมงพวกเขาก็จะได้สติ แต่จะจำเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย\"เฟลย์เรียกล่าว zaionicกับคินช่วยกันเอาผ้ามาห่อตัวพวกมันไว้กันคนเห็น แล้วแบกทั้ง4คนไป FerrickกับKenอาสาจะช่วยด้วย แต่zaionicบอกว่าไปกันเยอะๆจะผิดสังเกต เขากับคินแค่2คนก็แบกกันได้สบายๆอยู่แล้ว อีกเหตุผลนึงก็คือ พวกเขาเคยทำงานรับจ้างจิปาถะหลายอย่างในเมืองนี้ การแบกของหนักๆไปมานะ ชาวบ้านแถวนี้เขาเห็นกันจนชินแล้วละ
            \"ถ้าไงก็ช่วยเตรียมของอร่อยๆไว้รอด้วยละกันนะ\"zaionicกล่าว Kenเลยนึกถึงเรื่องที่เจนนี่สั่งไว้ได้ บอกคินว่าให้รีบกลับมากินขนมปังอบซอสสูตรพิเศษไซร์ยักษ์ ที่เจนนี่ทำไว้ละกัน คินได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งทันทีO=(O_o)=O
            \"เย้ๆ\\(^o^)/ คุณzaionicคร้าบบบบ เรารีบเอาพวกนี้ไปทิ้งกันเถอะครับ จะได้กลับมากินขนมปังของพี่เจนนี่กัน ยะฮู้\"พูดจบคินก็แบกเซอินะใส่บ่า3คน วิ่งฉิวตัวปลิวไปอย่างรวดเร็วราวกับถือลูกโป่ง zaionicจึงรีบแบกอีกคนที่เหลือวิ่งตามไป เพราะยังไม่ได้บอกตำแหน่งที่แน่นอนกับคินเลย
            เฟลย์เรียเตรียมกับข้าวและอาหารไว้เรียบร้อยรอการกลับมาของzaionicกับคิน โดยมีFerrickเป็นลูกมือช่วยด้วย เพราะอยากศึกษาวิธีการทำอาหารไว้บ้าง เนื่องจากเขาเองกำลังจะได้ทำงานในร้านอาหารแล้ว มีเน่อยากจะขอช่วยบ้าง แต่Ferrickห้ามไว้เพราะเธอยังบาดเจ็บอยู่ แถมแผลยังปริเพราะการต่อสู้ในช่วงบ่าย เวลาผ่านไป40นาที zaionicและคินก็กลับมาถึง
            \"เรียบร้อย เท่านี้พวกเซอินะก็ตามร่องรอยมีเน่ไม่เจอแล้ว แถมเผลอๆ พวกมันอาจเจอตอเข้าด้วย หึ หึ หึ :D \"zaionicพูดประโยคสุดท้ายเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง เสียงท้องร้องของคินเริ่มดังโครกครากอย่างน่ากลัว Ferrickจึงเอาขนมปังที่เจนนี่ทำไว้ มาเข้าเตาอุ่นสักครู่แล้วส่งให้คิน เขาขอบคุณแล้วรับไปจัดการอย่างรวดเร็ว
            \"ไม่รอกินข้าวเย็นก่อนเหรอคิน เดี๋ยวดึกๆจะหิวอีกนะ(^_^\")\"Ferrickถามคินที่ยัดขนมปังเข้าไปพรวดเดียวเกือบครึ่ง คินตอบทั้งที่ยังมีขนมอยู่เต็มปากว่า
            \"ไอเอ็นไออั๊บ อมอินไออีกอู๊อั๊บ(ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้อีกอยู่ครับ)\"แล้วก็ก้มลงตั้งอกตั้งใจกินต่อ อึดใจเดียวขนมปังก้อนใหญ่ ขนาด1x1.25ฟุต ก็อันตธานหายไปราวกับเล่นกล กระนั้นคินก็ยังคงร่วมรับประทานอาหารเย็นกับทุกคนได้เป็นปกติอย่างน่าอัศจรรย์ใจ มีเน่เองได้ลงมานั่งกินอาหารร่วมโต๊ะกับทุกๆคน ก็รู้สึกขัดๆแปลกๆ ที่ไม่มีคนคอยควบคุมเวลากิน เหมือนอยู่ในองค์กร หรือห้ามพูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจ Ferrickสังเกตท่าทางของเธอ จึงลองชวนคุยดูบ้าง
            \"ยังเจ็บแผลอยู่มั้ยละมีเน่\"Ferrickถามด้วยความเป็นห่วง มีเน่เข้าใจว่าFerrickคงอยากให้ตนรีบหายเร็วๆ จะได้ไปให้พ้นจากบ้านนี้สักที
            \"ไม่เป็นไรแล้วละพี่ชาย แผลที่ปริ พี่สาวก็จัดการเย็บให้ใหม่แล้ว ไม่กี่วันฉันก็หายแล้วละ พี่ชายไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะรีบออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนมากไปกว่านี้\"มีเน่กล่าว ด้วยสีหน้าเศร้าๆ ถึงจะยังรู้จักทุกคนในบ้านนี้ไม่ทันข้ามวัน แต่เธอก็เริ่มจะผูกพันกับที่นี้แล้วโดยไม่รู้ตัว Ferrickเห็นมีเน่เข้าใจผิดว่าตนจะไล่เธอไปจึงรีบอธิบาย
            \"ไม่ใช่นะ พี่ไม่ได้อยากจะให้มีเน่ออกไปเร็วๆ แต่พี่กลัวว่าแผลของมีเน่จะเป็นอันตรายต่างหาก ถึงมีเน่จะหายแล้วก็เถอะ ถ้ายังไม่มีที่ไป จะอยู่กับพวกเราต่อไปก็ได้นะ\"Ferrickกล่าว ความรู้สึกอบอุ่นวาบขึ้นมาที่หน้าอกของมีเน่ทันที ที่ได้ยินคำพูดของFerrick
            \"(นี้มันความรู้สึกอะไรกัน?)\" มีเน่คิด เธอรู้สึกคุ้นเคยบรรยากาศนี้ดี แต่นึกไม่ออกว่าเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ มันเป็นความรู้สึกที่เธอโหยหาอย่างบอกไม่ถูก
            .\"อยู่ที่นี้เถอะครับคุณมีเน่(^_^) อยู่ด้วยกานเยอะๆสนุกดีออก อ่ะนี้ครับ กินเข้าไปเยอะๆครับ จะได้หายไวๆ\"คินบอกพร้อมกับตักเนื้อย่างส่งให้มีเน่  Kenกับzaionicเองที่ไม่เห็นด้วยแต่แรก ก็เปลี่ยนใจอยากให้เธออยู่ด้วยแล้ว หลังจากที่ได้พูดคุยกัน และเห็นนิสัยใจคอของเธอ มีเน่พูดอะไรไม่ออก ก้มหน้ากล่าวแค่สั้นๆว่า
            \"ขอบคุณมากคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ\"(T-T)
            หลังจากกินอาหารกันอิ่มหมดแล้ว เฟลย์เรียก็พามีเน่กลับห้อง zaionicกับคินและKenพากันไปอาบน้ำ ที่บ่อน้ำแร่ ส่วนFerrickขอตัวไปเดินเล่นที่หน้าบ้านก่อนเป็นการย่อยอาหาร บรรยากาศยามค่ำคืนที่มีซากุระโปรยปรายเช่นนี้ เขาไม่มีวันจะได้เห็นแน่ในประเทศไทย จึงไม่แปลกอะไรที่Ferrickจะขอชื่นชมกับมันนานๆซักหน่อย จนกว่าจะได้เวลากลับอีกครั้งในคืนนี้ ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเงาตะคุ่มๆของใครบางคน เดินขึ้นมาจากบันได เจนนี่เหรอ? เป็นไปไม่ได้แน่ Keiไม่มีทางปล่อยเธอให้กลับมาคนเดียวเป็นอันขาด ถ้างั้นนี้เป็นใครกัน หรือว่า จะเป็นเซอินะ! Ferrickเริ่มระวังตัว ถอยกลับเข้ามาที่หน้าประตูยืนดูเงาที่ขึ้นพ้นบันได เดินตรงมาที่บ้านช้าๆพร้อมกับถืออะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่คล้ายกระเป๋า แสงสว่างจากบ้านช่วยให้เงาที่เดินเข้ามานั้น ชัดขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นแล้วว่า  เป็นผู้หญิงผิวขาว ผมยาวสีน้ำตาลอ่อน มีดวงตาที่สดใสไม่ผิดอะไรกับดวงดาวในท้องฟ้ายามนี้ ใส่ชุดสีขาวบริสุทธ์ดุจขนของ นกพิราบสีขาวตัวเล็กๆที่เกาะไหล่ของเธออยู่ มือทั้งสองข้างของเธอลากกระเป๋าใบใหญ่มีลูกเลื่อนแบบเดียวกับที่เห็นตามสนามบิน ท่าทางเธอดีใจมากที่เห็นFerrick รีบแนะนำตัวทันที
            \"สวัสดีคะคุณผู้ดูแลหอ ฉันกำลังหาที่พักอาศัยเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนที่เซรอสค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี้พอจะมีห้องว่างให้เช่ามั้ยคะ\"แล้วเธอก็ยิ้มออกมาได้อย่างงดงามที่สุด เท่าที่Ferrickเคยเห็นมา
                    จบบทที่22
            สิ้นคำสั่งของผู้คุมกฏทั้ง3แห่งเซอินะ ชินก็ขว้างมีดสั้นติดระเบิดขนาดเล็กเข้าใส่มีเน่ เธอรู้ดีว่าต่อให้หลบพ้น มันก็จะมีการโจมตีระลอกที่2-3ตามมาอีก จึงหันไปคว้าเอาราวตากผ้า ที่เป็นท่อนเหล็กมาใช้ป้องกันตัว พร้อมกับร้องเตือนเฟลย์เรีย
            \"หลบเร็วพี่สาว!\" แต่ดูเหมือนมันจะช้าไปเสียแล้ว ผู้คุ้มกฏคนนึงอ้อมไปอยู่ด้านหลังของเฟลย์เรีย ในขณะที่อีก2สองคน ยืนนิ่งคุมเชิงไว้ยังไม่ลงมือ เพราะคิดว่าการสังหารสาวใช้คนนึงกับโยโฮที่บาดเจ็บ ลำพังชินกับผู้คุมกฏ1คนก็คงจะพอแล้ว ชั่วพริบตาก่อนที่มืออันแข็งแกร่งของผู้คุมกฏจะเอื้อมไปหักคอของเฟลย์เรีย มันก็วูบลงกับพื้น ราวกับหุ่นเชิดที่เชือกขาด
            \"ฮือ?\"ผู้คุมกฏที่เหลือครางออกมาพร้อมกัน ด้วยความงุนงงต่อสิ่งที่เห็น ทั้งสองแน่ใจว่าพวกของตนเข้าประชิดตัวสาวใช้หน้าหวานคนนี้โดยไม่ได้ถูกมีเน่จู่โจมอะไร แล้วเพราะเหตุใดจึงได้ร่วงลงไปเฉยๆ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ หรือว่า.. เหล่าผู้คุ้มกฏพากันชักอาวุธของตนออกมา คนนึงเป็นกรงจักรเหล็กที่มีใบมีดรูปวงแหวนสีดำสนิท คมวาว2อัน อีกคนเป็นเคียวที่พับไว้3ช่วง เมื่อปรับข้อต่อด้ามเข้าด้วยกัน มันก็มีความสูงพอๆกับผู้ที่ใช้มัน คมเคียวยาวโค้งส่งประกายที่น่าพรั่นพรึง สะท้อนเงาเฟลย์เรีย แล้วทั้งสองก็แยกกันล้อมเฟลย์เรีย ทั้งด้านหน้าและด้านหลังไว้
            \"เจ้าเป็นใครกัน\"ผู้คุ้มกฏถามเฟลย์เรีย เธอยังไม่ตอบ หันไปมองมีเน่ที่สู้กับชินอยู่ ตอนนี้ชินใช้ตะขอเหล็กมือคู่ ฟาดฟันหมายเด็ดชีพมีเน่ ซึ่งกำลังปัดป้องสุดชีวิตด้วยท่อนเหล็ก จังหวะการเคลื่อนไหวและกระบวนท่าของเธอ ส่อให้เห็นถึงฝีมือที่เหนือกว่าชินแม้จะบาดเจ็บอยู่สมกับที่เคยเป็นหัวหน้าหน่วย ทว่า ร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ย่อมไม่อาจฝืนสู้ได้นาน ในที่สุดมีเน่ก็พลาดถูกตะขอเกี่ยวดึงอาวุธออก
            \"ยอมตายซะดีๆเถอะน่ามีเน่ ฉันรับรองว่าจะไม่ทำให้เธอทรมาน มากนัก :) \"ชิน แสยะยิ้มด้วยความลำพอง แล้วเงื้อตะขอขึ้นสุดแขนเล็งไปที่คอของมีเน่ แต่อยู่ๆร่างกายเขาก็หมดแรงเอาดื้อๆ
            .\"อะอ๊ายอัน อำอายอึงเอ็นแอบอี๊?(อะไรกันทำไมถึงเป็นแบบนี้)\" ลิ้นที่เริ่มชาด้านของชิน ทำให้ออกเสียงไม่ชัด เกิดอะไรขึ้น? ชินคิด มีเน่ไม่มีอาวุธหรือระเบิดยาพิษอะไรนี่ ทำไมเขาถึงขยับไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆกัน ผู้คุมกฏ! ชินหันไปหาเหล่าผู้คุมกฏ  เพื่อหวังความช่วยเหลือ แต่ภาพที่เขาเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติไป ก็คือผู้คุมกฏทั้งสองกำลังล้อมเฟลย์เรียเอาไว้ และแผ่รังสีการต่อสู้ที่รุนแรงปะหนึ่งว่าเจอศัตรูที่ร้ายกาจ ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย?
            \"เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของเรานะ สาวน้อย\"ผู้คุมกฏถามเฟลย์เรียอีกครั้ง เธอเบนสายตาจากมีเน่ หันมาจ้องมองผู้คุมกฏ โค้งตัวเล็กน้อย แล้วแนะนำตัว
            \"ดิฉันชื่อเฟลย์เรีย เป็นMaidรับใช้ของท่านเจ้าบ้านหลังนี้ คุณชายFerricK LH Paradiseคะ\"เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีท่าทีร้อนรนต่อสถานะการณ์คับขันนี้เลย เหล่าผู้คุมกฏทั้งสองฉุกคิดขึ้นมาพร้อมกัน Maidงั้นรึ? สาวใช้ที่ทำแบบนี้กับพวกเขาได้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
            \"FullMaid! เจ้าคือFullMaidแห่งTheMaidงั้นรึ!\"ผู้คุมกฏกล่าว แล้วกระชับกระบวนท่าที่ถืออาวุธให้รัดกุมยิ่งขึ้น หากผู้หญิงคนนี้คือFullMaidจริงละก็ พวกเขาเป็นฝ่ายตกที่นั่งลำบากแล้ว
            \"คะ ดิฉันเป็นFullMaidของTheMaid พวกท่านคงจะเป็นหน่วยไล่ล่าของทางเซอินะสินะค่ะ ต้องขออภัยจริงๆคะ ที่ดิฉันคงส่งมอบคุณมีเน่คืนแก่พวกท่านมิได้ และไม่อาจปล่อยให้เธอได้รับอันตราย ด้วยเป็นคำสั่งของคุณชายคะ\"เฟลย์เรียกล่าว ผู้คุมกฏทั้งสองชั่งใจว่าจะเอาไงดี FullMaidเป็นตัวอันตราย ที่ทางเบื้องบนสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด แต่การจะล่าถอยโดยปล่อยคนทรยศไว้ ก็เป็นการเสื่อมเสียเกียรติเช่นกัน หลังจากคิดทบทวนไปมา ทั้งคู่ก็ตัดสินใจลงมือจู่โจมเฟลย์เรีย ด้วยมั่นใจว่า ถึงแม้FullMaidจะร้ายกาจเพียงใดก็ตาม คงไม่สามารถจะรับมือผู้คุมกฏถึง2คนได้แน่ ผู้คุมกฏที่อยู่ด้านหลังเฟลย์เรียจึงขวางกรงจักรใส่เธอ
            \"เฟี้ยวววว กริ๊ง\"เฟลย์เรียเบี่ยงตัวหลบได้อย่างง่ายดาย กรงจักรพุ่งเลยผ่านไปยังผู้คุมกฏที่อยู่อีกด้าน แต่นี้หาใช่การโจมตีที่หวังผลไม่ เมื่อกรงจักรเข้าถึงตัวผู้คุมกฏอีกคน เข้าก็ใช้เคียวเกี่ยวร่องกลางใบมีดกรงจักร เหวี่ยงใส่เฟลย์เรียอีกครั้ง พร้อมๆกับผู้คุมกฏที่ใช้จักรเป็นอาวุธ ปล่อยกรงจักรอันที่สองตามไปซ้ำ ป้องกันไม่ให้เฟลย์เรียหลบได้อีก
            \"ระวัง!\"มีเน่เห็นการโจมตีที่ไร้ช่องโหว่เช่นนี้ จึงคิดจะเข้าไปขวางเพื่อช่วยเฟลย์เรีย ทว่า การเคลื่อนไหวของเธอช้าเกินไป กรงจักรทั้งสอง บัดนี้อยู่ในการควบคุมของเฟลย์เรียแล้ว!
            \"เป็นไปไม่ได้!\"ผู้คุมกฏที่ใช้กรงจักร พูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง พริบตาเดียวก่อนที่กรงจักรจะหั่นร่างกายของเฟลย์เรียออกเป็นชิ้นๆ เธอได้ดึงเอาพลองเหล็กร้อยโซ่ในเสื้อออกมาประกอบ รับกรงจักรทั้งสองที่พุ่งเข้ามาด้วยวิธีการเดียวกับที่ผู้คุมกฏใช้ คือสอดปลายทั้งสองเข้าไปตรงร่องกลางใบมีด แล้วควงมันหมุนไปมาพร้อมกับพลองเหล็กอย่างรวดเร็ว!  ด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว
            \"(บ้าน่า กว่าที่ฉันจะอ่านการเคลื่อนไหวของกรงจักรที่พุ่งเข้ามา แล้วใช้เคียวรับไว้ได้แบบนี้ ต้องฝึกเกือบ7ปีทีเดียว ถ้าไม่ใช่เราสองคนที่รู้จังหวะของกันและกันดี ไม่มีทางแม้แต่จะปัดมันได้แน่ ทำไมผู้หญิงอายุแค่นี้ถึงถึงรับมันได้ง่ายๆ ราวกับของเด็กเล่นแบบนี้)\"ผู้คุมกฏที่ใช้เคียวคิด ตอนนี้ เขาตระหนักแล้วถึงความน่ากลัวของFullMaid และรู้ตัวว่าตนเองไม่มีทางชนะแน่ จึงคิดจะล่าถอยก่อนเพื่อไปตั้งหลัก แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขา ที่คิดเช่นเดียวกันนี้ ไม่มีโอกาสจะหนีได้แล้ว
            \"ทำไม....\"ผู้คุมกฏที่ใช้จักร กล่าวออกมาเป็นคำสุดท้าย แล้วล้มลงกับพื้นหมดสติตามอีก3คนไป ประกายแสงจากมือซ้ายที่ว่างอยู่ของเฟลย์เรีย เผยปริศนาที่ทำให้ทั้งสามหลับไหลไปแล้ว มันคือเข็มนั่นเอง! เข็มเล่มเล็กๆชนิดเดียวกับที่ใช้ทำให้มีเน่สงบเมื่อตอนเช้า มันปักเข้าไปยังตำแหน่งที่แตกต่างกับที่มีเน่โดน ทว่า ผลของมันล้วนเหมือนกันคือ ทำลายความสามารถในการเคลื่อนไหวและการควบคุมร่างกายลงอย่างเฉียบพลัน
ผู้คุมกฏที่ใช้เคียวตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เมื่อสายไปแล้ว เพราะเขาเองก็โดนเข้าเช่นกัน อันที่จริง เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่คู่หูที่ใช้จักรของเขา ร่วงลงไปแล้ว และเตรียมพร้อมใช้เคียวป้องกันตัวเองเต็มที่ แต่เพราะเฟลย์เรีย ขว้างกรงจักรที่หมุนอยู่ในปลายพลองทั้งสองมาใส่เขา ทำให้จำเป็นต้องใช้เคียวปัดมันออก จนเกิดช่องโหว่ให้เธอเล่นงานได้
            \"ร้ายกาจ\"ผู้คุมกฏคนสุดท้ายที่ยังมีสติ พูดกับเฟลย์เรียด้วยใจจริง เขาประเมินความแข็งแกร่งของเธอน้อยเกินไป แล้วความรับรู้ทั้งหมดของเขาก็ดับวูบไป มีเน่เดินเข้ามาข้างๆเฟลย์เรีย มองหน่วยไล่ล่าที่นอนกองอยู่รอบๆ เธอรู้อยู่ว่าเฟลย์เรียมีฝีมือแต่นึกไม่ถึงว่า จะถึงขั้นนี้
            \"ยอดไปเลยพี่สาว ใช้เข็มจู่โจมพวกมันตอนไหนบ้างเนี่ย ฉันดูไม่ออกเลย\" มีเน่ถามเฟลย์เรียด้วยความงุนงง  การโจมตีด้วยเข็มครั้งสุดท้ายเธอพอจะมองออกอยู่ แต่สามคนแรกนั้น เธอนึกไม่ออกเลยว่า โดนเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เฟลย์เรียเดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้แต่ร่วงลงมาเพราะมีเน่เอาราวเหล็กมาใช้แขวนกลับขึ้นไป แล้วปัดฝุ่นออกเล็กน้อย เพราะพื้นดาดฟ้าไม่ได้สกปรกมากมายอะไร ตอบมีเน่ด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า
            \"โยโฮที่ชื่อว่าชินถูกเข็มเป็นคนแรกคะ ตั้งแต่ตอนที่โดดลงมาจากเครื่องร่อน เพราะการป้องกันของเขาอ่อนกว่าผู้คุมกฏทั้งสามที่มาด้วย โดยที่ดิฉันเว้นระยะของอาการที่จะเกิดขึ้นให้ช้าหน่อย เพื่อไม่ให้อีกสามคนรู้ตัว อันที่จริงถ้าเขาไม่รีบร้อนขยับตัวมากๆ เขาจะสลบเป็นคนสุดท้าย คนที่สองก็คือผู้คุมกฏที่ใช้มือเปล่ากับดิฉัน การระวังป้องกันที่ดูเข็มแข็งในตอนแรก หย่อนหยานลงเพราะความประมาท คิดว่าดิฉันเป็นสาวใช้ธรรมดาทั่วไป ทำให้เป็นการง่ายที่จะดีดเข็มออกจากมือไปหยุดการเคลื่อนไหวโดยทันที คนที่สามก็คือผู้คุมกฏที่ใช้จักร หลังจากที่เขาปล่อยอาวุธของตน ออกมาหมดแล้ว ก็มั่นใจว่าดิฉันไม่รอดแน่ จึงไม่ได้ระวังตัว และคนสุดท้ายอย่างที่คุณมีเน่รู้ ก็คือผู้คุมกฏที่ใช้เคียวท่านนี้ เขารู้ตัวเรื่องอาวุธและวิธีที่ดิฉันใช้ จากการจู่โจมใส่คนที่สามของดิฉัน และระวังตัวเต็มที่ ดิฉันจึงใช้กรงจักรที่หมุนไว้ ขว้างใส่เขา บังคับให้เผยจุดอ่อน จึงจัดการกับเขาได้ค่ะ\"เฟลย์เรียอธิบาย แล้วพวกลากหน่วยไล่ล่าทั้งหมด มานอนเรียงกันไว้ มีเน่หยิบมีดของชิน เดินไปหาเขา หมายจะเชือดคอให้ตายซะแต่เฟลย์เรียห้ามเธอไว้ก่อน
            \"ดิฉันก็คิดว่าควรจะปิดปากพวกเขาทั้งหมดซะ เพื่อไม่ให้แพร่งพรายเรื่องที่คุณมีเน่อยู่ที่นี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอคำสั่งของคุณFerrickก่อนคะ เพราะนายท่านคนก่อน เคยสอนดิฉันไว้ว่า ไม่ควรจะฆ่าคนโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม ถึงมันจะขัดกับสิ่งที่TheMaidสอนดิฉันมา แต่ก็จำเป็นที่จะต้องตามค่ะ เพื่อความสบายใจของท่าน แต่คุณชายFerrickจะว่าเช่นไรนั้น คงต้องรอถามความเห็นท่านก่อนคะ\"นายท่านคนก่อนที่ว่า ก็คือคุณลูดอร์ฟนั้นเอง ถึงมีเน่จะไม่เห็นด้วย ที่จะปล่อยคนพวกนี้ไว้นานๆ แต่ก็ไม่กล้าขัดเฟลย์เรีย หลังจากที่เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้แล้ว
            เมื่อFerrickและKenกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเฟลย์เรีย ก็อดจะเป็นห่วงทั้งสองคนไม่ได้ แม้เฟลย์เรียจะบอกว่า มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตามที และพากันคิดว่าจะจัดการกับหน่วยไล่ล่ากลุ่มนี้ อย่างไรดี
            \"ฆ่ามันทิ้งเถอะพี่ชาย ไม่เช่นนั้น พวกมันอาจจะหาทางแจ้งให้เซอินะคนอื่นๆรู้ก็ได้ ว่าที่บ้านหลังนี้ให้การหลบซ่อนฉัน จะคุมขังพวกมันไว้ตลอดก็ใช่ที\"มีเน่กล่าว ตอนนี้พวกหน่วยไล่ล่าทั้งหมด ถูกฝังเข็มเอาไว้ยังไม่ได้สติ เฟลย์เรียก็สนับสนุนข้อเสนอของมีเน่ด้วย เพราะเป็นวิธีการปลอดภัยที่สุดแล้วที่จะทำให้พวกมันแพร่งพรายเรื่องของที่นี้ไม่ได้ แต่Ferrickกลับคิดว่า
            \"เราเอาพวกนี้ส่งทางการไม่ดีกว่าเหรอ? เฟลย์เรีย ผมไม่ชอบการเข่นฆ่ากันเลย ถึงคนกลุ่มนี้จะไม่ใช่คนดีก็เถอะ\"Ferrickกล่าว เพราะไม่อยากให้เฟลย์เรียกับมีเน่ฆ่าคน มีเน่จะแย้งว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนพวกนี้จะไม่หาทางส่งข่าวให้องค์กรรู้ ต่อให้อยู่ในความดูแลของทางการก็ตาม เพราะคนของเซอินะ มีแทรกซึมอยู่ทุกหนแห่ง ทว่า เฟลย์เรียกลับหาทางออกที่ดีต่อทุกคนได้
            \"งั้นให้เฟลย์เรีย ลบความทรงจำของพวกเขาละกันดีมั้ยคะ\"เธอเสนอวิธีใหม่ Ferrickแปลกใจว่า เรื่องนี้สามารถทำได้ด้วยเหรอ
            \"ได้คะ ถ้าใช้สารเคมีที่จะทำลายหน่วยความจำในช่วงเวลานึงที่เฟลย์เรียมี ทาเข็มแล้วฝังเข้าไปในจุดๆนึงที่สมอง มันจะลบความทรงจำทุกอย่างภายในวันสองวันนี้ได้อย่างหมดจด ชนิดที่ว่าต่อให้ใช้การสะกดจิตหรือยามาช่วย ก็ดึงความทรงจำกลับมาไม่ได้คะ\"เธอบอก Ferrickตกลงให้ใช้วิธีนี้ดีกว่า ลบความจำของพวกเขาซะแล้วค่อยเอาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ไกลๆ
            \"แล้วเราจะเอาไปทิ้งที่ไหน ดีละ\"Kenถาม ฉับพลันก็มีผู้ให้คำตอบ มาจากทางด้านหลังของเขา
            \"ป่าทางตอนใต้ของเซนเทียไง เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเองเถอะ\"ผู้ที่ตอบก็คือzaionicนั่นเอง เขากลับมาพร้อมกับคินได้สักครู่แล้ว หลังจากตระเวณหางานอยู่นาน แต่ก็คว้าน้ำเหลว ที่ไม่รีบเข้าไปในบ้านเพราะอยากจะลองฟังความเห็นของFerrickดูก่อน ว่าเป็นยังไง เมื่อได้ยินว่าเขาไม่เห็นด้วย ที่จะฆ่าหน่วยไล่ล่า ก็อดที่จะชอบในนิสัยใจคอของFerrickมากขึ้นไม่ได้ ที่เลือกจะใช้วิธียุ่งยากรักษาชีวิตของคนไว้ แทนที่จะเลือกวิธีสะดวกๆอย่างฆ่าพวกมันทิ้งซะ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงก็เป็นคนเหมือนกัน ถึงจะเป็นคนเลวก็เถอะ ผิดกับOutMenในโลกนี้หลายคน ที่มักจะมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิตในโลกนี้ เพราะคิดว่าเป็นแค่ชีวิตในความฝันเท่านั้น ทั้งที่ทุกชีวิตในโลกนี้ล้วนมีอยู่จริงในอีกห้วงมิติหนึ่ง
            \"ทำไมต้องเป็นป่าทางตอนใต้หรือครับ?\"Ferrickอยากทราบในเหตุผลที่zaionicเลือกสถานที่แห่งนี้ zaionicยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ตอบสั้นๆแค่ว่า
            \"เพราะที่นั่น มีคนที่เซอินะไม่กล้ายุ่งด้วยนะสิ\"แล้วzaionicก็พาคินตามเฟลย์เรีย ไปแบกพวกเซอินะที่หลับอยู่ในห้องเก็บของออกมา เฟลย์เรียดึงเข็มที่ฝังไว้ออก แล้วก็ล้วงเอาขวดน้ำยาสีเขียวๆ ขนาดเท่านิ้วโป้งออกมาจากเสื้อ เธอเอาเข็มหย่อนลงไปในขวด ให้น้ำยาสีเขียวใสเกาะพอประมาณ แล้วฝังลงไปยังท้ายทอยของหน่วยไล่ล่าทีละคนๆ จนครบ จากนั้นรอสักพัก จึงค่อยถอนออก
            \"เสร็จแล้วคะ อีกสัก4ชั่วโมงพวกเขาก็จะได้สติ แต่จะจำเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย\"เฟลย์เรียกล่าว zaionicกับคินช่วยกันเอาผ้ามาห่อตัวพวกมันไว้กันคนเห็น แล้วแบกทั้ง4คนไป FerrickกับKenอาสาจะช่วยด้วย แต่zaionicบอกว่าไปกันเยอะๆจะผิดสังเกต เขากับคินแค่2คนก็แบกกันได้สบายๆอยู่แล้ว อีกเหตุผลนึงก็คือ พวกเขาเคยทำงานรับจ้างจิปาถะหลายอย่างในเมืองนี้ การแบกของหนักๆไปมานะ ชาวบ้านแถวนี้เขาเห็นกันจนชินแล้วละ
            \"ถ้าไงก็ช่วยเตรียมของอร่อยๆไว้รอด้วยละกันนะ\"zaionicกล่าว Kenเลยนึกถึงเรื่องที่เจนนี่สั่งไว้ได้ บอกคินว่าให้รีบกลับมากินขนมปังอบซอสสูตรพิเศษไซร์ยักษ์ ที่เจนนี่ทำไว้ละกัน คินได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งทันทีO=(O_o)=O
            \"เย้ๆ\\(^o^)/ คุณzaionicคร้าบบบบ เรารีบเอาพวกนี้ไปทิ้งกันเถอะครับ จะได้กลับมากินขนมปังของพี่เจนนี่กัน ยะฮู้\"พูดจบคินก็แบกเซอินะใส่บ่า3คน วิ่งฉิวตัวปลิวไปอย่างรวดเร็วราวกับถือลูกโป่ง zaionicจึงรีบแบกอีกคนที่เหลือวิ่งตามไป เพราะยังไม่ได้บอกตำแหน่งที่แน่นอนกับคินเลย
            เฟลย์เรียเตรียมกับข้าวและอาหารไว้เรียบร้อยรอการกลับมาของzaionicกับคิน โดยมีFerrickเป็นลูกมือช่วยด้วย เพราะอยากศึกษาวิธีการทำอาหารไว้บ้าง เนื่องจากเขาเองกำลังจะได้ทำงานในร้านอาหารแล้ว มีเน่อยากจะขอช่วยบ้าง แต่Ferrickห้ามไว้เพราะเธอยังบาดเจ็บอยู่ แถมแผลยังปริเพราะการต่อสู้ในช่วงบ่าย เวลาผ่านไป40นาที zaionicและคินก็กลับมาถึง
            \"เรียบร้อย เท่านี้พวกเซอินะก็ตามร่องรอยมีเน่ไม่เจอแล้ว แถมเผลอๆ พวกมันอาจเจอตอเข้าด้วย หึ หึ หึ :D \"zaionicพูดประโยคสุดท้ายเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง เสียงท้องร้องของคินเริ่มดังโครกครากอย่างน่ากลัว Ferrickจึงเอาขนมปังที่เจนนี่ทำไว้ มาเข้าเตาอุ่นสักครู่แล้วส่งให้คิน เขาขอบคุณแล้วรับไปจัดการอย่างรวดเร็ว
            \"ไม่รอกินข้าวเย็นก่อนเหรอคิน เดี๋ยวดึกๆจะหิวอีกนะ(^_^\")\"Ferrickถามคินที่ยัดขนมปังเข้าไปพรวดเดียวเกือบครึ่ง คินตอบทั้งที่ยังมีขนมอยู่เต็มปากว่า
            \"ไอเอ็นไออั๊บ อมอินไออีกอู๊อั๊บ(ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้อีกอยู่ครับ)\"แล้วก็ก้มลงตั้งอกตั้งใจกินต่อ อึดใจเดียวขนมปังก้อนใหญ่ ขนาด1x1.25ฟุต ก็อันตธานหายไปราวกับเล่นกล กระนั้นคินก็ยังคงร่วมรับประทานอาหารเย็นกับทุกคนได้เป็นปกติอย่างน่าอัศจรรย์ใจ มีเน่เองได้ลงมานั่งกินอาหารร่วมโต๊ะกับทุกๆคน ก็รู้สึกขัดๆแปลกๆ ที่ไม่มีคนคอยควบคุมเวลากิน เหมือนอยู่ในองค์กร หรือห้ามพูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจ Ferrickสังเกตท่าทางของเธอ จึงลองชวนคุยดูบ้าง
            \"ยังเจ็บแผลอยู่มั้ยละมีเน่\"Ferrickถามด้วยความเป็นห่วง มีเน่เข้าใจว่าFerrickคงอยากให้ตนรีบหายเร็วๆ จะได้ไปให้พ้นจากบ้านนี้สักที
            \"ไม่เป็นไรแล้วละพี่ชาย แผลที่ปริ พี่สาวก็จัดการเย็บให้ใหม่แล้ว ไม่กี่วันฉันก็หายแล้วละ พี่ชายไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะรีบออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนมากไปกว่านี้\"มีเน่กล่าว ด้วยสีหน้าเศร้าๆ ถึงจะยังรู้จักทุกคนในบ้านนี้ไม่ทันข้ามวัน แต่เธอก็เริ่มจะผูกพันกับที่นี้แล้วโดยไม่รู้ตัว Ferrickเห็นมีเน่เข้าใจผิดว่าตนจะไล่เธอไปจึงรีบอธิบาย
            \"ไม่ใช่นะ พี่ไม่ได้อยากจะให้มีเน่ออกไปเร็วๆ แต่พี่กลัวว่าแผลของมีเน่จะเป็นอันตรายต่างหาก ถึงมีเน่จะหายแล้วก็เถอะ ถ้ายังไม่มีที่ไป จะอยู่กับพวกเราต่อไปก็ได้นะ\"Ferrickกล่าว ความรู้สึกอบอุ่นวาบขึ้นมาที่หน้าอกของมีเน่ทันที ที่ได้ยินคำพูดของFerrick
            \"(นี้มันความรู้สึกอะไรกัน?)\" มีเน่คิด เธอรู้สึกคุ้นเคยบรรยากาศนี้ดี แต่นึกไม่ออกว่าเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ มันเป็นความรู้สึกที่เธอโหยหาอย่างบอกไม่ถูก
            .\"อยู่ที่นี้เถอะครับคุณมีเน่(^_^) อยู่ด้วยกานเยอะๆสนุกดีออก อ่ะนี้ครับ กินเข้าไปเยอะๆครับ จะได้หายไวๆ\"คินบอกพร้อมกับตักเนื้อย่างส่งให้มีเน่  Kenกับzaionicเองที่ไม่เห็นด้วยแต่แรก ก็เปลี่ยนใจอยากให้เธออยู่ด้วยแล้ว หลังจากที่ได้พูดคุยกัน และเห็นนิสัยใจคอของเธอ มีเน่พูดอะไรไม่ออก ก้มหน้ากล่าวแค่สั้นๆว่า
            \"ขอบคุณมากคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ\"(T-T)
            หลังจากกินอาหารกันอิ่มหมดแล้ว เฟลย์เรียก็พามีเน่กลับห้อง zaionicกับคินและKenพากันไปอาบน้ำ ที่บ่อน้ำแร่ ส่วนFerrickขอตัวไปเดินเล่นที่หน้าบ้านก่อนเป็นการย่อยอาหาร บรรยากาศยามค่ำคืนที่มีซากุระโปรยปรายเช่นนี้ เขาไม่มีวันจะได้เห็นแน่ในประเทศไทย จึงไม่แปลกอะไรที่Ferrickจะขอชื่นชมกับมันนานๆซักหน่อย จนกว่าจะได้เวลากลับอีกครั้งในคืนนี้ ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเงาตะคุ่มๆของใครบางคน เดินขึ้นมาจากบันได เจนนี่เหรอ? เป็นไปไม่ได้แน่ Keiไม่มีทางปล่อยเธอให้กลับมาคนเดียวเป็นอันขาด ถ้างั้นนี้เป็นใครกัน หรือว่า จะเป็นเซอินะ! Ferrickเริ่มระวังตัว ถอยกลับเข้ามาที่หน้าประตูยืนดูเงาที่ขึ้นพ้นบันได เดินตรงมาที่บ้านช้าๆพร้อมกับถืออะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่คล้ายกระเป๋า แสงสว่างจากบ้านช่วยให้เงาที่เดินเข้ามานั้น ชัดขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นแล้วว่า  เป็นผู้หญิงผิวขาว ผมยาวสีน้ำตาลอ่อน มีดวงตาที่สดใสไม่ผิดอะไรกับดวงดาวในท้องฟ้ายามนี้ ใส่ชุดสีขาวบริสุทธ์ดุจขนของ นกพิราบสีขาวตัวเล็กๆที่เกาะไหล่ของเธออยู่ มือทั้งสองข้างของเธอลากกระเป๋าใบใหญ่มีลูกเลื่อนแบบเดียวกับที่เห็นตามสนามบิน ท่าทางเธอดีใจมากที่เห็นFerrick รีบแนะนำตัวทันที
            \"สวัสดีคะคุณผู้ดูแลหอ ฉันกำลังหาที่พักอาศัยเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนที่เซรอสค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี้พอจะมีห้องว่างให้เช่ามั้ยคะ\"แล้วเธอก็ยิ้มออกมาได้อย่างงดงามที่สุด เท่าที่Ferrickเคยเห็นมา
                    จบบทที่22
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น