ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : darkslave
บทที่13:darkslave
            หลี่เว่ยและเฉินออกมาดูที่หน้าค่ายด้วยตาของตนเอง เซียงยืนอยู่ที่นั้นจริง ในสภาพก้มหน้านิ่ง เสื้อผ้ามีแต่รอยฉีกขาดและคราบเลือดที่แห้งสนิทแล้วเกาะเต็มตัว ทหารเกือบทั้งหมดยืนล้อมเอาไว้ เล็งปืนมาที่ตัวของเซียงพร้อมที่จะยิงหากมีการเคลื่อนไหว ทุกคนรอคำสั่งของหลี่เว่ยอยู่
            \"แกนี่มันโง่หรือบ้ากันแน่วะเซียง อุตสาห์รอดไปได้แท้ๆดันมารนหาที่ตายอีก\"หลี่เว่ยเยาะเย้ยเมื่อมาถึง เฉินแอบอยู่หลังๆของผู้พันหลี่เพราะไม่แน่ใจว่าเซียงมีจุดประสงค์อะไร
            \"จะมาแก้แค้นรึ แค้นที่ฉันฆ่าลูกน้องแก หรือว่าที่ฉันให้ความสุขกับผู้หญิงของแกกันล่ะ ฮะ ฮ่ะ:D \"หลี่เว่ยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อคิดว่าจะได้ทรมานให้เซียงให้ตายอย่างช้าๆเป็นการแก้เซ็ง ก่อนที่จะไปไล่ล่ากลุ่มของFerrick เซียงเงยหน้าขึ้นมาช้าๆแล้วจ้องมองไปยังหลี่เว่ย มันทำให้หลี่เว่ยแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง
            \"ทะ..ทำไมตาของแก เป็นแบบนั้นO_o!\"ผู้พันหลี่กล่าวด้วยความตกใจ ตาของเซียงทั้ง2ข้างกลายเป็นสีดำสนิท ราวกับความมืดมิดของราตรี พวกทหารที่ล้อมอยู่เริ่มแตกตื่นเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน เซียงพูดออกมาเบาๆแต่หนักแน่นว่า
            \"เหตุผลเดียวที่ฉันมาหาแก\"แล้วเดินมาทางหลี่เว่ย ทหารคนนึงที่กลัวสายตาของเซียง ยิงปืนไปใส่ที่หน้าอกของเขา เมื่อมีคนนึงยิงคนที่เหลือก็พากันระดมยิงตามเช่นกัน
            \"ปังๆๆๆๆๆๆๆ\"กระสุนทะลุผ่านตัวของเซียงจนพรุนไปหมด ร่างของเซียงกระเด็นไปตามแรงกระสุนก่อนที่จะลงไปนอนกองกับพื้นแน่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหวอีก หลี่เว่ยเห็นเซียงหมดสภาพเช่นนี้ก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย
            \"ถุย นึกว่าจะมีอะไร สุดท้ายแกก็แค่มาตายอย่างหมาขี้แพ้ตัวนึงเท่านั้น เฮ้ย พวกแกเอาศพมันไปทิ้งให้ไกลๆหน่อยละกัน แล้วเผาให้เรียบร้อยด้วยล่ะ ฉันไม่อยากให้มีกลิ่นเหม็นเน่าในค่ายของฉัน\"จากนั้นหลี่เว่ยก็หันหลังจะกลับไปที่พักของตน ทหารสองนายเดินไปที่ศพของเซียงแล้วหิ้วแขนทั้งสองข้างเพื่อจะลากศพไปจัดการ ทันใดนั้นเอง!
            \"ซ้วบ! อะ...อั่ก\"เซียงที่น่าจะตายไปแล้วแท้ๆลืมตาขึ้น ใช้มือของตนทะลวงเข้าไปที่หน้าอกของทหารผู้โชคร้ายทั้งสองง่ายๆเหมือนเจาะกระดาษ เลือดทะลักออกมาราวกับก๊อกน้ำแตกเพียงชั่วครู่ก็หายไปพร้อมกับร่างกายของทั้งคู่ที่ค่อยๆแห้งลงจนกลายสภาพเป็นมัมมี่แล้วแตกสลายลงกับพื้นเหลือเพียงฝุ่นผงสีดำและเสื้อผ้าเท่านั้น
            \"เหตผลเดียวที่ฉันกลับมา\"เซียงยืนขึ้นพูดต่อ บาดแผลบนร่างของเขาค่อยๆจางหายไป แขนของเซียงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนแขนเสื้อขาดออก ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเทาหยาบกร้าน นิ้วมือยืดยาวออกมากลายเป็นกรงเล็บที่แหลมคมราวกับมีดแล่เนื้อ
            \"คือการลากพวกแกไปสู่ความมืด\"เซียงกล่าว หลีเว่ยที่หันมาเพราะเสียงร้องของทหารรู้สึกตกใจและสยดสยองต่อสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมากสั่งทหารทุกคนโดยทันที
            .\"ปะ..ปีศาจ มันกลายเป็นปีศาจไปแล้ว ฆ่ามัน ฆ่ามันเดี๋ยวนี้\"สิ้นเสียงของหลีเว่ยทหารทุกคนก็ยิงปืนเข้าใส่เซียงอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง คราวนี้กระสุนหาได้ระคายผิวของเขาไม่ มันสะท้อนออกมาราวกับโดนโลหะ เซียงพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหาร ตวัดแขนเพียงครั้งเดียว ก็ฉีกร่างของทหารนับสิบคน เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วแตกสลายกลายเป็นฝุ่นไป ทุกครั้งที่เขาฆ่าทหารร่างกายของเขาจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยอย่างน่าสะพรึงกลัว ตัวของเขาใหญ่ขึ้น แข็งแรงมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าพวกทหารจะใช้อาวุธอะไรโจมตีเซียง มันก็แค่ถ่วงเวลาตายของตนเองให้ช้าขึ้นเท่านั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวดังไปทั่วทั้งค่าย  พริบตาเดียวทหารทั้งหมดนับพันคนก็ตายจนหมด เหลือแค่เสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้น หลี่เว่ยและเฉินที่วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายออกไปทางหลังค่าย ได้ยินเสียงล้มโค่นของต้นไม้ที่เกิดจากการตามล่าของเซียง
            \"แฮ่ก แฮ่ก นะ...หนี..หนี ไม่ทันแน่ครับท่านหลี ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมไอ้เซียงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้\"เฉินพูดขณะที่วิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง
หลีเว่ยมึนงงต่อเหตุการณ์ทั้งหมด เข้าไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าทำไมเซียงหัวหน้าหน่วยกบฏถึงกลายเป็นอสูรกายที่น่ากลัวแบบนี้ไปได้ แต่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือทำยังไงเขาถึงจะรอดได้ หลีเว่ยครุ่นคิดอยู่ครู่นึงแล้วก็นึกออก เขาดึงปืนพกออกจากเอวแล้วเล็งไปที่เฉินที่วิ่งตามมา
            \"ปัง! อ๊ากกกก.. ทะ ท่านหลี ทำไม\"เฉินกล่าว เขาถูกหลีเว่ยใช้ปืนพกยิงเข้าที่ขา จนล้มลงไปกับพื้น
            \"โทษทีนะเฉิน แต่แกช่วยเป็นเหยื่อถ่วงเวลาให้ฉันหน่อยละกัน\"หลีเว่ยบอกอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็รีบหนีไปไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเฉิน และเสียงคำรามของเซียง หลีเว่ยหนีอยู่นานจนกระทั่งเริ่มหมดแรงจึงได้นั่งพักใต้ต้นไม้ชั่วคราว เขามองสำรวจไปทั่วป่า ตอนนี้ทั้งป่าเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงร้องของแมลง ทำให้หลี่เว่ยดีใจเพราะคิดว่าตัวเองหนีพ้นแล้ว แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิด เมื่อมีบางอย่างตกลงมาจากฟ้ากระแทกพื้นดังสนั่นตรงหน้าเขา แรงสะเทือนทำให้ปืนที่ถืออยู่หล่นกระเด็นไป
            \"ว่า-ยัง-ไง-ผู้-พัน-หลี่\"เซียงนั่นเอง เขาออกเสียงได้ไม่ชัด เพราะโครงหน้าที่เปลี่ยนไป หลังจากที่สังหารคนนับพัน ตอนนี้เซียงสูงใหญ่กว่า4เมตร เสื้อผ้าปริขาดจนหมดเหลือแค่กางเกง มีแขนงอกออกมาเพิ่มอีก2ข้างกลางหลัง ใบหน้าของเขายื่นยาวออกมาเหมือนหมาป่า ซี่ฟันอันแหลมคมเรียงรายกันอยู่เต็มปาก ผมยาวลงมาถึงกลางหลังเหยียดตรงเช่นเดียวกับขนเม่น ดวงตาที่มืดสนิทจ้องมองมายังหลี่เว่ยด้วยความชิงชังอย่างไร้ขอบเขต
            \"ฮือ ฮือ (ToT)ยะ.ยะ..อย่าฆ่าฉันเลยนะเซียง ไว้ชีวิตฉันเถอะ\"หลี่เว่ยร้องไห้ขอชีวิต พร้อมๆกับถอยหลังไปทีละนิด เพื่อที่จะหยิบปืนที่หล่นไปเมื้อกี้ เซียงย่างสามขุมเข้าหาหลีเว่ยช้าๆ
            \"ฉันขอโทษเรื่องผู้หญิงของแก อะ..เอางี้มั้ยถ้าแกอยากได้ผู้หญิงละก็ เดี๋ยวฉันไปหาในเมืองมาให้ แกอยากได้กี่คนฉันจะหาให้\"หลี่เว่ยพยายามต่อรองให้เซียงไว้ชีวิตตน แต่มันทำให้เซียงยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีกและพุ่งเข้าหาหลี่เว่ย เป็นจังหวะเดียวกับที่หลี่เว่ยหยิบปืนได้ จึงยิงมันใส่เซียง ทว่า มันไร้ผล
            \"คว้าก! อ๊ากกกก\"เสียงร้องโหยหวนของหลี่เว่ยดังลั่นไปทั่วป่า เมื้อแขนที่ถือปืนถูกฉีกออกด้วยกรงเล็บของเซียงราวกับฉีกแขนตุ๊กตาผ้า เซียงใช้แขนอีก3ข้างจับแขนขาของหลี่เว่ยยกตัวขึ้นกลางอากาศ แล้วดึงมันออกทีละข้าง ทีละข้าง อย่างช้าๆ จนเหลือแค่ตัว ก่อนที่จะปล่อยลงพื้น แล้วใช้ฟันกัดกระชากเครื่องในออกมาจนหมด หลี่เว่ยได้รับทั้งความเจ็บปวดและความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนชั่วชีวิตของเขา แล้วก็จบชีวิตชั่วๆลงด้วยการถูกกระทืบจนแตกกระจายเป็นแค่กองเลือดเละๆ สลายหายไปเป็นฝุ่นสีดำ เซียงได้แก้แค้นสำเร็จแล้วแม้จะต้องแลกกับความเป็นมนุษย์ของเขา แต่มันยังไม่จบแค่นี้
            \"ยัง-ไม่พอ-ยัง-ต้องการ-อีก..... ฮู่มมมม!\"เซียงบ่นพึมพัมออกมาอย่างไร้สติ ก่อนที่จะคำรามออกมา แล้ววิ่งไปอย่างไร้ทิศทางด้วยความบ้าคลั่ง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
            \"ว้าว คุณเซียงนี่ทำงานได้ดีกว่าที่คิดไว้อีกนะครับเนี่ย แบบนี้เดือนนี้คงได้ยอดตามที่ต้องการแน่(^_^)\"ryuseiกล่าวอย่างสบายใจ เขายืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้ไม่ไกลจากที่ๆเซียงฆ่าหลี่เว่ย มองผลงานของตนด้วยความยินดียินดี ก่อนที่จะหายไปในเงามืดเช่นเคย....
            \"ทำไมถึงรีบร้อนหนีออกมากันว่ะMahoro ถ้านายให้ฉันยืมดาบของนายสักเล่ม ฉันใช้เวลาในการฆ่าไอ้พวกเลวนั้นทั้งค่ายไม่เกิน15นาทีแน่\"Zaionicบ่นออกมาด้วยความโมโหที่Mahoroรีบร้อนออกมาจากค่ายเกินไป ตอนนี้เขาแยกกับพวกFerrickมานั่งอยู่ในห้องคนขับกับMahoro
            \"อย่างแรกเลยนะ ความปลอดภัยของผู้ว่าจ้างต้องมาก่อน ฉันมั่นใจว่าจัดการพวกมันได้หมดเหมือนกัน แต่ไม่มั่นใจว่าจะคุ้มครองพวกเขาไปพร้อมๆกันได้ อย่างที่สอง ฉันเองก็ยังต้องการมาหากินในบาบาเรียอีกอยู่ ไม่อยากจะผิดใจกับรัฐบาลของประเทศนี้แม้ว่าจะป็นเรื่องเล็กๆเช่นสังหารทหารนอกรีตสักกลุ่มหนึ่ง เพราะมันจะทำให้รัฐบาลเสียภาพพจน์ที่อุตสาห์สร้างขึ้นมา ยังไงฉันก็ยังมีเส้นสายในประเทศนี้อยู่ เดี๋ยวจะลองติดต่อท่านนายพลฟงให้จัดการพวกมันให้ ว่าแต่นายไปอ่านอดีตอะไรของพวกมันเข้าละ ถึงยัวะหนักแบบนี้\"Mahoroถาม ความโกรธแค้นของzaionicดูจะมีมากกว่าเรื่องของเจนนี่กับเฟลย์เรีย
            \"อย่างที่นายรู้Osของฉันคือความสามารถที่เรียกกันว่าไซโครเมททรี่ สามารถรับรู้ถึงอดีตของสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่สัมผัสได้ แต่ของฉันพิเศษหน่อยตรงที่สามารถใช้วิชาหรือความรู้พิเศษของเจ้าของวัตถุที่สัมผัสได้ชั่วคราว เช่น ใช้วิชาดาบของนายได้ถ้าได้จับดาบของนาย\"Zaionicอธิบาย
            \"ใช่ แล้วไง\"Mahoroยอมรับ
            \"ตอนที่ฉันสัมผัสไอ้ทหารที่ชื่อว่าเฉินนะ อดีตที่บัดซบของไหลเขามาในหัวฉันอย่างชัดเจนเลย มันกับผู้พันของมันฆ่าทหารฝ่ายปฎิวัติด้วยวิธีการที่ต่ำช้า ไม่เพียงแค่นั้น มันยังข่มขืนคนรักของหัวหน้าหน่วยนั้นที่เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยเลย แล้วฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม นายเข้าใจมั้ยMahoro การรับรู้ของฉันมันต่างจากการดูทีวีนะ ความรู้สึกเจ็บปวด เคียดแค้น หวาดกลัว โศกเศร้า สิ้นหวังของคนที่มันฆ่าและสัมผัสตัวมัน หลั่งไหลเข้ามาในตัวฉันเหมือนกับฉันโดนด้วยตัวเอง แล้วจะไม่ให้ฉันโมโหได้ยังไงกัน\"zaionicเล่าถึงสาเหตุที่ไม่อยากปล่อยพวกมันไป Mahoroเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงบอกว่า
            \"เอาเถอะ ถ้านายอยากฆ่าพวกมันจริงๆ ไว้วันหลังค่อยกลับมาจัดการเอาเองละกัน แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของพวกที่อยู่ข้างหลังต้องมาก่อน เข้าใจใช่มั้ย\"Mahoroบอก ทำให้ให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของZaionicสงบลง ก่อนที่จะถามอะไรบางอย่างที่เขาสงสัย
            \"เจ้าเด็กที่ชื่อว่าคินนะ มันเป็นใครกัน พลังเวทย์ของมันมหาศาลและมีลักษณะประหลาดผิดกับมนุษย์ นายไปได้มันมาเป็นพวกยังไงกัน\"Mahoroถาม
            \"อย่าเรียกว่าได้มาเป็นพวกเลย ต้องพูดว่าได้มารับเลี้ยงต่างหาก\"zaionicตอบสั้นๆ แล้วมองดูที่ดาบที่อยู่ในฝักโค้งยาวของตน สร้างความสงสัยให้แก่Mahoroมากขึ้น Zaionicจึงเล่าเรื่องที่เขาพบกับคินให้ฟัง
            \"หลังจากงานครั้งสุดท้ายที่ฉันทำกับนายเมื้อ5ปีก่อน ฉันก็แยกไปทำงานรับจ้างอิสระเดินทางไปทั่วโลก มีอยู่ครั้งนึงที่ฉันหลงป่าแถวๆประเทศมาไคร ใน ทวีปลูเซีย ระหว่างที่ฉันเดินหาทางออกอยู่นั้นเอง ก็ได้ยินเสียงระเบิดเสียงดังกึกก้องราวกับแผ่นดินจะถล่มและมองเห็นลำแสงสีฟ้าหลายสายพุ่งจากพื้นสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า อยู่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่ประมาณ4-5กิโลเมตร พลังเวทย์มหาศาลที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วป่าจนทำให้ฉันขนลุกและกลัวจนไม่สามารถขยับได้ สักพักก็มีเสียงการวิ่งอย่างรวดเร็วของอะไรสักอย่างที่มีน้ำหนักมาก ดังตึงตังมาทางฉัน ต้นไม้หนาที่ขวางทางสิ่งนั้นอยู่ล้มครืนลงอย่างกับต้นหญ้า จนมันมายืนอยู่ต่อหน้าฉันนี่แหละ\"Zaionicเล่า พร้อมกับนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อตอนนั้น
            \"แล้วไงต่อ มันคืออะไรเหรอ\"Mahoroถามด้วยควมสนใจ
            \"มันก็คือเดรโกเทเรส ชนเผ่าที่พวกเราขนานนามว่า มังกรเทพยังไงล่ะ เผ่าพันธุ์ที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วในพื้นพิภพนี้ ถึงจะถูกเรียกว่ามังกรก็เถอะ แต่จะเอาเดรโกเทเรสไปเปรียบเทียบกับไอ้กิ้งก่ายักษ์ที่รู้จักแต่บินกับพ่นไฟนะ มันก็เหมือนเอามนุษย์ไปเปรียบกับลิงนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นพลังกาย พลังเวทย์ หรือแม้แต่สติปัญญา เผ่าเดรโกเทเรสก็ล้วนเหนือกว่าทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยที่รักสงบและให้ความสำคัญกับธรรมชาติ บวกกับปัญหามีลูกยากละก็ เผ่าพันธุ์ที่ปกครองโลกนี้ก็คงเป็นพวกเขาไม่ใช่มนุษย์หรอก ปกติพวกนี้จะใช้อาคมผนึกร่างกายไว้ให้อยู่ในสภาพคล้ายมนุษย์เพื่อไม่ให้พลังที่มีมากมายของตนทำร้ายธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ฉันเห็นนะอยู่ในร่างจริง สูงตั้ง10เมตร มีหน้าตาคล้ายมังกรสมคำร่ำลือ ยืนด้วยขาหลังทั้งสองข้าง ผิวกายแข็งเป็นชั้นซ้อนกันราวกับชุดเกราะสีม่วง แขนซ้ายขาดและมีบาดแผลเต็มตัวไปหมดจนเลือดสีทองไหลท่วมตัว ดวงตาข้างขวาปิดสนิทมีเลือดหยดซึมออกมา มือขวาของเขาถือเด็กคนนึงไว้ในมือนั่นก็คือเจ้าคินนั้นเอง\"zaionicเล่ามาถึงตอนนี้ภาพเหตุการณ์ในอดีตก็ลอยเข้ามาในหัวของเขา..
            \"เจ้าเป็นใคร\"เสียงพูดทุ้มต่ำที่หนักแน่นและทรงพลังของเดรโกเทเรสตนนั้นถามzaionic พลังเวทย์อันแก่กล้ากดดันให้zaionicต้องพูดด้วยความนอบน้อม
            \"ผะ..ผมคือนักรับจ้างอิสระทั่วไปครับ\"zaionicตอบ เดรโกเทเรสมองเขาอยู่ชั่วครู่เหมือนจะพิจารณา ดวงตาสีทองมองตาของzaionicราวกับจะทะลุเข้าไปในใจของเขา แล้วก็ยื่นคินที่หมดสติและมีแผลฉกรรจ์เต็มตัวมาวางไว้ต่อหน้าZaionic
            \"ข้าคือดราเจเน่ขุนพลของอาณาจักรโครเดีย ทหารของข้าล้วนสิ้นชีพหมดแล้วด้วยฝีมือของ\"มัน\"เพียงผู้เดียว ตอนนี้ข้าต้องยับยั้ง\"มัน\"ไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นทุกชีวิตในโลกนี้จะย่อยยับในไม่ช้า ข้าขอฝากให้เจ้าช่วยดูแลชายผู้นี้ด้วยเจ้ามนุษย์ ส่วนค่าจ้างก็คือสิ่งนี้\"ดราเจเน่ดึงเขี้ยวของตนที่เป็นสีแดงใสออกมาแล้วยื่นให้zaionic แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่zaionicก็รับมันมา
            \"ชายคนนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาแต่มีความกล้าหาญที่น่านับถือ ข้าไม่อาจปล่อยให้เขาตายได้จึงถ่ายโลหิตของข้าให้แก่เขา มันจะช่วยฟื้นฟูบาดแผลและเพิ่มพลังอย่างมหาศาล และยังได้ฝังดวงตาของข้าชดเชยกับที่เขาเสียไป เพื่อที่จะให้เขาสามารถควบคุมพลังในร่างกายของตัวเองได้ ยังไงก็ตามอาจมีบางครั้งที่เขาคุมพลังของชนเผ่าเราเอาไว้ไม่อยู่ และคลุ้มคลั่งได้ เจ้าจงคอยช่วยเหลือเขาด้วย ในเวลานั้น\"สิ้นคำขอร้องของดราเจเน่ ก็มีกระแสรัศมีพลังเวทย์ที่รุนแรงและมืดมิดแผ่พุ่งมาทางพวกเขา zaionicรู้สึกทรมานแทบจะขาดใจตายเมื่อถูกบีบคั้นด้วยพลังนั้น
            \"มันมาแล้วรึ พวกเจ้าจงรีบไปเถอะ\"ดราเจเน่พูดจบ ก็ขยับมือเป็นสัญลักษณ์มนตรา สร้างเกราะทรงกลมสีแดงใสเต็มไปด้วยอักขระเวทย์ล้อมทั้งคินและzaionicเอาไว้ แล้วหยิบขึ้นมาขว้างไปด้วยพลังทั้งหมดที่ตนมี พริบตาเดียวมันก็ลอยไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร แล้วหล่นลงใกล้ตัวเมืองแห่งนึงโดยที่ทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ดราเจเน่จะหันไปรวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดพ่นลำแสงสีฟ้าไปยัง\"มัน\"...
            \"นายบอกว่าเดรโกเทเรสตัวนั้นชื่อว่าดราเจเน่เหรอ หรือว่าเขาคือหัวหน้าหน่วยทหารกองร้อยที่7แห่งโครเดียที่หายสาบสูญไปพร้อมลูกน้องทั้งหมด เป็นคดีลึกลับที่โด่งดังไปทั่วเมื่อ5ปีก่อน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ว่าพวกเขาหายไปไหน นายได้เห็นหัวหน้ากองร้อยนั่นเป็นครั้งสุดท้ายงั้นเหรอ!\"Mahoroตกใจที่zaionicมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปริศนาที่เป็นตำนาน zaionicเล่าต่อทันที
            \"ใช่ หลังจากนั้นฉันถึงรู้ข่าววงในมาว่า หน่วยทหารนั้นได้รับคำสั่งให้มาทำภารกิจลับๆบางอย่างในมาไคร เรื่องของภารกิจนั้นช่างหัวมันเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือ\"มัน\"ที่ดราเจเน่บอกคืออะไรกันแน่ มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดในโลกนี้ที่จะฆ่าเดรโกเทเรสทั้งกองร้อยได้ด้วยอยู่งั้นเหรอ แค่เดรโกเทเรสที่เป็นพลเมืองธรรมดาๆตัวเดียวก็ทำลายประเทศเล็กๆได้ทั้งประเทศอยู่แล้ว แต่นี้เป็นหน่วยทหารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกลุ่มท็อปของโครเดียทั้งหน่วย กลับถูกทำให้หายไปง่ายๆในชั่วเวลาอึดใจเดียว นี้เป็นสิ่งที่คาใจฉันมาตลอด\"zaionicบอกความลับที่เก็บไว้มานานแก่Mahoro ดูผิวเผินเหมือนคนทั้งคู่ไม่ถูกกัน แต่จริงๆแล้วMahoroก็เป็นคนที่zaionicไว้วางใจได้มากที่สุด
            \"แล้วเจ้าคินนั้นไม่ได้บอกนายเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น\"mahoroถาม zaionicส่ายหน้า แล้วกล่าวว่า
            \"เมื่อคินได้สติ นอกจากวิชาหมัดที่ร้ายกาจของเขาแล้วความทรงจำอย่างอื่นหายไปจนหมด เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคินถึงมีลักษณะนิสัยเหมือนเด็ก เพราะสำหรับหมอนั่นแล้ว ชีวิตเริ่มต้นขึ้นใหม่เมื่อ5ปีก่อน ฉันก็เลยตั้งชื่อ นามสกุล และอายุ ให้หมอนั้นว่าคิน ดราก็อตที่มีความหมายว่าผู้ได้รับการคุ้มครองจากมังกร และพาเขาทำงานรับจ้างอิสระด้วยกันเดินทางไปทั่วโลก เผื่อว่าความทรงจำของเขาจะกลับมา\"เมื่อzaionicเล่าจบ เขาก็ดึงดาบของเขาออกจากฝักมาให้Mahoroดู มันเป็นดาบสีแดงโปร่งใสงดงามราวกับทับทิมเลยทีเดียว
            \"นี่คือเขี้ยวของดราเจเน่ ที่ฉันนำไปให้พวกเอลฟ์ดัดแปลงให้เป็นดาบ เขี้ยวของดราโกเทเรสมีพลังพิเศษที่จะทำให้บาดแผลของสิ่งมีชีวิตที่ถูกกัดไม่สามารถหายได้ด้วยพลังเวทย์ มันจึงเป็นของล้ำค่าที่มีราคาสูงมากในตลาดมืด เพราะว่าเผ่าเดรโกเทเรสนั้นจะไม่ยอมมอบเขี้ยวให้ใครเด็ดขาดจนกว่าจะตาย ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีของตนเองและเผ่าพันธุ์ การที่เขามอบให้ฉันคงเพราะได้เตรียมใจไว้แล้ว และเชื่อมั่นในตัวฉัน นักรับจ้างเร่ร่อนที่พึ่งเห็นหน้าแค่อึดใจเดียว ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยรู้สึกติดค้างใครมากเท่านี้มาก่อน ไม่ว่ายังฉันก็ต้องดูแลหมอนั่นให้ได้\"zaionicพูดด้วยความหนักแน่นประหนึ่งให้สัตย์สาบานไว้กับตัวเอง แล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก...
            ที่ด้านหลังรถเจนนี่ไม่สบายใจที่เป็นต้นเหตุให้ทุกคนมีอันตราย ขอโทษทุกๆคนในรถที่ตัวเธอน่าจะรีบเข้าไปคุยกับผู้พันหลี่ ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
            \"ขอโทษทุกคนจริงๆนะคะ เพราะเราเองแท้ๆ เกือบทำให้ทุกคนบาดเจ็บซะแล้ว(T_T) ถ้าเรารีบเข้าไปหาท่านผู้พันแล้วละก็ ท่านก็คงไม่โมโหและสั่งยิงพวกเราหรอก\"เจนนี่พูดด้วยความรู้สึกผิด แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์จริงๆของหลี่เว่ย ที่อยากจะพบเธอกับเฟลย์เรียแค่2คน
            \"เจนนี่ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ นี่ไม่ใช่ความผิดของเจนนี่ ไอ้พวกนั้นมันคิดไม่ดีอยู่แล้วครับ\"Ferrickกล่าว
            \"จริงด้วย เรื่องชั่วช้าแบบนั้นเรายอมไม่ได้อยู่แล้ว\"Keiสนับสนุน ทำให้เจนนี่ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
            \"ชั่วช้า? ผู้พันหลี่แค่มีเรื่องจะสอบถามเรากับคุณเฟลย์เรียเฉยๆนี่คะ\"เจนนี่สงสัย ความซื่อของเธอทำให้ทั้งFerrickและKeiปวดหัว ไม่รู้จะอธิบายยังไง(-_-\")
            \"เอาเป็นว่าพวกเขาเจตนาจะทำ\"บางอย่าง\"ที่ไม่ดีต่อทั้งเจนนี่และเฟลย์เรียแน่นอนครับ ถึงได้รีบร้อนทำร้ายพวกเรา ที่สำคัญพวกเราก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนี่ครับ เจนนี่ทำใจให้สบายเถอะ\"Ferrickหาคำพูดที่จะทำให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดมาอธิบาย ถึงจะยังไม่รู้เรื่องนัก แต่เจนนี่ก็เริ่มเชื่อที่Ferrickบอก ว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ดีจริงๆ
            \"สงสารพวกทหารกลุ่มนั้นจังเลยนะคะ ถูกระเบิดแรงขนาดนั้นจะเป็นอะไรรึเปล่า\"เธอยังรู้สึกห่วงคนที่คิดจะทำร้ายเธออยู่เมื้อกี้
            \"ม่ายเป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้อัดเต็มแรงอ่ะ พวกน้าๆกลุ่มนั้นได้นอนพักรักษาสักเดือนเศษๆก็คงจะหายแล้วละครับ(^_^)\"คินบอกเพื่อให้เจนนี่สบายใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่รถแล่นมาถึงหมู่บ้านแห่งนึง ที่มีสิ่งก่อสร้างแบบจีนโบราณสลับกับตึกแบบยุโรปเต็มไปหมด mahoroพูดผ่านไมค์บอกทุกคนว่า
            \"ที่นี่คือหมู่บ้านฉาง วันนี้เราจะพักกันที่นี้ ให้ทุกคนเตรียมขนย้ายข้าวส่วนตัวลงได้แล้ว\"จากนั้นก็จอดยานA.G.C.ไว้ที่หน้าโรงแรมในหมู่บ้าน
           
                    จบบทที่13
เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆในGDLครับ
            เผ่าเดรโกเทเรส เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก เนื่องด้วยปัญหาของการมีทายาทได้ยาก กล่าวคือในชั่วอายุขัยเฉลี่ย1000ปีอาจจะมีลูกได้แค่1-2คน ทำให้แม้จะเป็นชนเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ก็มีอิทธิพลน้อยกว่าชนเผ่ามนุษย์ ประเทศโครเดียของชนเผ่านี้ตั้งอยู่ในเกาะทางตอนใต้ของทวีปลูเซีย มีการติดต่อค้าขายกับมนุษย์เล็กน้อย ส่วนมากจะด้านเป็นโลหะชนิดพิเศษและสมุนไพรที่หายาก ปกติเดรโกเทเรสจะชอบจำแลงร่างกายอยู่ในสภาพมนุษย์เพื่อลดพลังในตัวไว้เพื่อไม่ให้ก่ออันตรายแก่ชนเผ่าอื่นๆโดยไม่ได้ตั้งใจเวลาออกมานอกประเทศ เว้นแต่จะมีเหตุผลให้ต้องต่อสู้จึงจะกลายเป็นร่างจริง
            ประเทศมาไครเป็นประเทศเล็กๆ แต่ว่ามีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานมาก มีความภาคภูมิใจในเทคโนโลยี่ด้านการค้นคว้าศาสตร์เล่นแร่แปลธาตุ ที่จะสร้างโลหะมนตราหรือยาที่มีคุณภาพสูงได้ดีเป็นอันดับหนึ่งในโลก ด้วยเหตุที่ชาวเมืองมีคติความเชื่อและวิถีชีวิตที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติเช่นเดียวกับเดรโกเทเรสจึงเป็นประเทศของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อโครเดียมากที่สุด
            หลี่เว่ยและเฉินออกมาดูที่หน้าค่ายด้วยตาของตนเอง เซียงยืนอยู่ที่นั้นจริง ในสภาพก้มหน้านิ่ง เสื้อผ้ามีแต่รอยฉีกขาดและคราบเลือดที่แห้งสนิทแล้วเกาะเต็มตัว ทหารเกือบทั้งหมดยืนล้อมเอาไว้ เล็งปืนมาที่ตัวของเซียงพร้อมที่จะยิงหากมีการเคลื่อนไหว ทุกคนรอคำสั่งของหลี่เว่ยอยู่
            \"แกนี่มันโง่หรือบ้ากันแน่วะเซียง อุตสาห์รอดไปได้แท้ๆดันมารนหาที่ตายอีก\"หลี่เว่ยเยาะเย้ยเมื่อมาถึง เฉินแอบอยู่หลังๆของผู้พันหลี่เพราะไม่แน่ใจว่าเซียงมีจุดประสงค์อะไร
            \"จะมาแก้แค้นรึ แค้นที่ฉันฆ่าลูกน้องแก หรือว่าที่ฉันให้ความสุขกับผู้หญิงของแกกันล่ะ ฮะ ฮ่ะ:D \"หลี่เว่ยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อคิดว่าจะได้ทรมานให้เซียงให้ตายอย่างช้าๆเป็นการแก้เซ็ง ก่อนที่จะไปไล่ล่ากลุ่มของFerrick เซียงเงยหน้าขึ้นมาช้าๆแล้วจ้องมองไปยังหลี่เว่ย มันทำให้หลี่เว่ยแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง
            \"ทะ..ทำไมตาของแก เป็นแบบนั้นO_o!\"ผู้พันหลี่กล่าวด้วยความตกใจ ตาของเซียงทั้ง2ข้างกลายเป็นสีดำสนิท ราวกับความมืดมิดของราตรี พวกทหารที่ล้อมอยู่เริ่มแตกตื่นเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน เซียงพูดออกมาเบาๆแต่หนักแน่นว่า
            \"เหตุผลเดียวที่ฉันมาหาแก\"แล้วเดินมาทางหลี่เว่ย ทหารคนนึงที่กลัวสายตาของเซียง ยิงปืนไปใส่ที่หน้าอกของเขา เมื่อมีคนนึงยิงคนที่เหลือก็พากันระดมยิงตามเช่นกัน
            \"ปังๆๆๆๆๆๆๆ\"กระสุนทะลุผ่านตัวของเซียงจนพรุนไปหมด ร่างของเซียงกระเด็นไปตามแรงกระสุนก่อนที่จะลงไปนอนกองกับพื้นแน่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหวอีก หลี่เว่ยเห็นเซียงหมดสภาพเช่นนี้ก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย
            \"ถุย นึกว่าจะมีอะไร สุดท้ายแกก็แค่มาตายอย่างหมาขี้แพ้ตัวนึงเท่านั้น เฮ้ย พวกแกเอาศพมันไปทิ้งให้ไกลๆหน่อยละกัน แล้วเผาให้เรียบร้อยด้วยล่ะ ฉันไม่อยากให้มีกลิ่นเหม็นเน่าในค่ายของฉัน\"จากนั้นหลี่เว่ยก็หันหลังจะกลับไปที่พักของตน ทหารสองนายเดินไปที่ศพของเซียงแล้วหิ้วแขนทั้งสองข้างเพื่อจะลากศพไปจัดการ ทันใดนั้นเอง!
            \"ซ้วบ! อะ...อั่ก\"เซียงที่น่าจะตายไปแล้วแท้ๆลืมตาขึ้น ใช้มือของตนทะลวงเข้าไปที่หน้าอกของทหารผู้โชคร้ายทั้งสองง่ายๆเหมือนเจาะกระดาษ เลือดทะลักออกมาราวกับก๊อกน้ำแตกเพียงชั่วครู่ก็หายไปพร้อมกับร่างกายของทั้งคู่ที่ค่อยๆแห้งลงจนกลายสภาพเป็นมัมมี่แล้วแตกสลายลงกับพื้นเหลือเพียงฝุ่นผงสีดำและเสื้อผ้าเท่านั้น
            \"เหตผลเดียวที่ฉันกลับมา\"เซียงยืนขึ้นพูดต่อ บาดแผลบนร่างของเขาค่อยๆจางหายไป แขนของเซียงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนแขนเสื้อขาดออก ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเทาหยาบกร้าน นิ้วมือยืดยาวออกมากลายเป็นกรงเล็บที่แหลมคมราวกับมีดแล่เนื้อ
            \"คือการลากพวกแกไปสู่ความมืด\"เซียงกล่าว หลีเว่ยที่หันมาเพราะเสียงร้องของทหารรู้สึกตกใจและสยดสยองต่อสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมากสั่งทหารทุกคนโดยทันที
            .\"ปะ..ปีศาจ มันกลายเป็นปีศาจไปแล้ว ฆ่ามัน ฆ่ามันเดี๋ยวนี้\"สิ้นเสียงของหลีเว่ยทหารทุกคนก็ยิงปืนเข้าใส่เซียงอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง คราวนี้กระสุนหาได้ระคายผิวของเขาไม่ มันสะท้อนออกมาราวกับโดนโลหะ เซียงพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหาร ตวัดแขนเพียงครั้งเดียว ก็ฉีกร่างของทหารนับสิบคน เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วแตกสลายกลายเป็นฝุ่นไป ทุกครั้งที่เขาฆ่าทหารร่างกายของเขาจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยอย่างน่าสะพรึงกลัว ตัวของเขาใหญ่ขึ้น แข็งแรงมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าพวกทหารจะใช้อาวุธอะไรโจมตีเซียง มันก็แค่ถ่วงเวลาตายของตนเองให้ช้าขึ้นเท่านั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวดังไปทั่วทั้งค่าย  พริบตาเดียวทหารทั้งหมดนับพันคนก็ตายจนหมด เหลือแค่เสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้น หลี่เว่ยและเฉินที่วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายออกไปทางหลังค่าย ได้ยินเสียงล้มโค่นของต้นไม้ที่เกิดจากการตามล่าของเซียง
            \"แฮ่ก แฮ่ก นะ...หนี..หนี ไม่ทันแน่ครับท่านหลี ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมไอ้เซียงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้\"เฉินพูดขณะที่วิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง
หลีเว่ยมึนงงต่อเหตุการณ์ทั้งหมด เข้าไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าทำไมเซียงหัวหน้าหน่วยกบฏถึงกลายเป็นอสูรกายที่น่ากลัวแบบนี้ไปได้ แต่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือทำยังไงเขาถึงจะรอดได้ หลีเว่ยครุ่นคิดอยู่ครู่นึงแล้วก็นึกออก เขาดึงปืนพกออกจากเอวแล้วเล็งไปที่เฉินที่วิ่งตามมา
            \"ปัง! อ๊ากกกก.. ทะ ท่านหลี ทำไม\"เฉินกล่าว เขาถูกหลีเว่ยใช้ปืนพกยิงเข้าที่ขา จนล้มลงไปกับพื้น
            \"โทษทีนะเฉิน แต่แกช่วยเป็นเหยื่อถ่วงเวลาให้ฉันหน่อยละกัน\"หลีเว่ยบอกอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็รีบหนีไปไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเฉิน และเสียงคำรามของเซียง หลีเว่ยหนีอยู่นานจนกระทั่งเริ่มหมดแรงจึงได้นั่งพักใต้ต้นไม้ชั่วคราว เขามองสำรวจไปทั่วป่า ตอนนี้ทั้งป่าเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงร้องของแมลง ทำให้หลี่เว่ยดีใจเพราะคิดว่าตัวเองหนีพ้นแล้ว แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิด เมื่อมีบางอย่างตกลงมาจากฟ้ากระแทกพื้นดังสนั่นตรงหน้าเขา แรงสะเทือนทำให้ปืนที่ถืออยู่หล่นกระเด็นไป
            \"ว่า-ยัง-ไง-ผู้-พัน-หลี่\"เซียงนั่นเอง เขาออกเสียงได้ไม่ชัด เพราะโครงหน้าที่เปลี่ยนไป หลังจากที่สังหารคนนับพัน ตอนนี้เซียงสูงใหญ่กว่า4เมตร เสื้อผ้าปริขาดจนหมดเหลือแค่กางเกง มีแขนงอกออกมาเพิ่มอีก2ข้างกลางหลัง ใบหน้าของเขายื่นยาวออกมาเหมือนหมาป่า ซี่ฟันอันแหลมคมเรียงรายกันอยู่เต็มปาก ผมยาวลงมาถึงกลางหลังเหยียดตรงเช่นเดียวกับขนเม่น ดวงตาที่มืดสนิทจ้องมองมายังหลี่เว่ยด้วยความชิงชังอย่างไร้ขอบเขต
            \"ฮือ ฮือ (ToT)ยะ.ยะ..อย่าฆ่าฉันเลยนะเซียง ไว้ชีวิตฉันเถอะ\"หลี่เว่ยร้องไห้ขอชีวิต พร้อมๆกับถอยหลังไปทีละนิด เพื่อที่จะหยิบปืนที่หล่นไปเมื้อกี้ เซียงย่างสามขุมเข้าหาหลีเว่ยช้าๆ
            \"ฉันขอโทษเรื่องผู้หญิงของแก อะ..เอางี้มั้ยถ้าแกอยากได้ผู้หญิงละก็ เดี๋ยวฉันไปหาในเมืองมาให้ แกอยากได้กี่คนฉันจะหาให้\"หลี่เว่ยพยายามต่อรองให้เซียงไว้ชีวิตตน แต่มันทำให้เซียงยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีกและพุ่งเข้าหาหลี่เว่ย เป็นจังหวะเดียวกับที่หลี่เว่ยหยิบปืนได้ จึงยิงมันใส่เซียง ทว่า มันไร้ผล
            \"คว้าก! อ๊ากกกก\"เสียงร้องโหยหวนของหลี่เว่ยดังลั่นไปทั่วป่า เมื้อแขนที่ถือปืนถูกฉีกออกด้วยกรงเล็บของเซียงราวกับฉีกแขนตุ๊กตาผ้า เซียงใช้แขนอีก3ข้างจับแขนขาของหลี่เว่ยยกตัวขึ้นกลางอากาศ แล้วดึงมันออกทีละข้าง ทีละข้าง อย่างช้าๆ จนเหลือแค่ตัว ก่อนที่จะปล่อยลงพื้น แล้วใช้ฟันกัดกระชากเครื่องในออกมาจนหมด หลี่เว่ยได้รับทั้งความเจ็บปวดและความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนชั่วชีวิตของเขา แล้วก็จบชีวิตชั่วๆลงด้วยการถูกกระทืบจนแตกกระจายเป็นแค่กองเลือดเละๆ สลายหายไปเป็นฝุ่นสีดำ เซียงได้แก้แค้นสำเร็จแล้วแม้จะต้องแลกกับความเป็นมนุษย์ของเขา แต่มันยังไม่จบแค่นี้
            \"ยัง-ไม่พอ-ยัง-ต้องการ-อีก..... ฮู่มมมม!\"เซียงบ่นพึมพัมออกมาอย่างไร้สติ ก่อนที่จะคำรามออกมา แล้ววิ่งไปอย่างไร้ทิศทางด้วยความบ้าคลั่ง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
            \"ว้าว คุณเซียงนี่ทำงานได้ดีกว่าที่คิดไว้อีกนะครับเนี่ย แบบนี้เดือนนี้คงได้ยอดตามที่ต้องการแน่(^_^)\"ryuseiกล่าวอย่างสบายใจ เขายืนอยู่ในเงามืดของต้นไม้ไม่ไกลจากที่ๆเซียงฆ่าหลี่เว่ย มองผลงานของตนด้วยความยินดียินดี ก่อนที่จะหายไปในเงามืดเช่นเคย....
            \"ทำไมถึงรีบร้อนหนีออกมากันว่ะMahoro ถ้านายให้ฉันยืมดาบของนายสักเล่ม ฉันใช้เวลาในการฆ่าไอ้พวกเลวนั้นทั้งค่ายไม่เกิน15นาทีแน่\"Zaionicบ่นออกมาด้วยความโมโหที่Mahoroรีบร้อนออกมาจากค่ายเกินไป ตอนนี้เขาแยกกับพวกFerrickมานั่งอยู่ในห้องคนขับกับMahoro
            \"อย่างแรกเลยนะ ความปลอดภัยของผู้ว่าจ้างต้องมาก่อน ฉันมั่นใจว่าจัดการพวกมันได้หมดเหมือนกัน แต่ไม่มั่นใจว่าจะคุ้มครองพวกเขาไปพร้อมๆกันได้ อย่างที่สอง ฉันเองก็ยังต้องการมาหากินในบาบาเรียอีกอยู่ ไม่อยากจะผิดใจกับรัฐบาลของประเทศนี้แม้ว่าจะป็นเรื่องเล็กๆเช่นสังหารทหารนอกรีตสักกลุ่มหนึ่ง เพราะมันจะทำให้รัฐบาลเสียภาพพจน์ที่อุตสาห์สร้างขึ้นมา ยังไงฉันก็ยังมีเส้นสายในประเทศนี้อยู่ เดี๋ยวจะลองติดต่อท่านนายพลฟงให้จัดการพวกมันให้ ว่าแต่นายไปอ่านอดีตอะไรของพวกมันเข้าละ ถึงยัวะหนักแบบนี้\"Mahoroถาม ความโกรธแค้นของzaionicดูจะมีมากกว่าเรื่องของเจนนี่กับเฟลย์เรีย
            \"อย่างที่นายรู้Osของฉันคือความสามารถที่เรียกกันว่าไซโครเมททรี่ สามารถรับรู้ถึงอดีตของสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่สัมผัสได้ แต่ของฉันพิเศษหน่อยตรงที่สามารถใช้วิชาหรือความรู้พิเศษของเจ้าของวัตถุที่สัมผัสได้ชั่วคราว เช่น ใช้วิชาดาบของนายได้ถ้าได้จับดาบของนาย\"Zaionicอธิบาย
            \"ใช่ แล้วไง\"Mahoroยอมรับ
            \"ตอนที่ฉันสัมผัสไอ้ทหารที่ชื่อว่าเฉินนะ อดีตที่บัดซบของไหลเขามาในหัวฉันอย่างชัดเจนเลย มันกับผู้พันของมันฆ่าทหารฝ่ายปฎิวัติด้วยวิธีการที่ต่ำช้า ไม่เพียงแค่นั้น มันยังข่มขืนคนรักของหัวหน้าหน่วยนั้นที่เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยเลย แล้วฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม นายเข้าใจมั้ยMahoro การรับรู้ของฉันมันต่างจากการดูทีวีนะ ความรู้สึกเจ็บปวด เคียดแค้น หวาดกลัว โศกเศร้า สิ้นหวังของคนที่มันฆ่าและสัมผัสตัวมัน หลั่งไหลเข้ามาในตัวฉันเหมือนกับฉันโดนด้วยตัวเอง แล้วจะไม่ให้ฉันโมโหได้ยังไงกัน\"zaionicเล่าถึงสาเหตุที่ไม่อยากปล่อยพวกมันไป Mahoroเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงบอกว่า
            \"เอาเถอะ ถ้านายอยากฆ่าพวกมันจริงๆ ไว้วันหลังค่อยกลับมาจัดการเอาเองละกัน แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของพวกที่อยู่ข้างหลังต้องมาก่อน เข้าใจใช่มั้ย\"Mahoroบอก ทำให้ให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของZaionicสงบลง ก่อนที่จะถามอะไรบางอย่างที่เขาสงสัย
            \"เจ้าเด็กที่ชื่อว่าคินนะ มันเป็นใครกัน พลังเวทย์ของมันมหาศาลและมีลักษณะประหลาดผิดกับมนุษย์ นายไปได้มันมาเป็นพวกยังไงกัน\"Mahoroถาม
            \"อย่าเรียกว่าได้มาเป็นพวกเลย ต้องพูดว่าได้มารับเลี้ยงต่างหาก\"zaionicตอบสั้นๆ แล้วมองดูที่ดาบที่อยู่ในฝักโค้งยาวของตน สร้างความสงสัยให้แก่Mahoroมากขึ้น Zaionicจึงเล่าเรื่องที่เขาพบกับคินให้ฟัง
            \"หลังจากงานครั้งสุดท้ายที่ฉันทำกับนายเมื้อ5ปีก่อน ฉันก็แยกไปทำงานรับจ้างอิสระเดินทางไปทั่วโลก มีอยู่ครั้งนึงที่ฉันหลงป่าแถวๆประเทศมาไคร ใน ทวีปลูเซีย ระหว่างที่ฉันเดินหาทางออกอยู่นั้นเอง ก็ได้ยินเสียงระเบิดเสียงดังกึกก้องราวกับแผ่นดินจะถล่มและมองเห็นลำแสงสีฟ้าหลายสายพุ่งจากพื้นสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า อยู่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่ประมาณ4-5กิโลเมตร พลังเวทย์มหาศาลที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วป่าจนทำให้ฉันขนลุกและกลัวจนไม่สามารถขยับได้ สักพักก็มีเสียงการวิ่งอย่างรวดเร็วของอะไรสักอย่างที่มีน้ำหนักมาก ดังตึงตังมาทางฉัน ต้นไม้หนาที่ขวางทางสิ่งนั้นอยู่ล้มครืนลงอย่างกับต้นหญ้า จนมันมายืนอยู่ต่อหน้าฉันนี่แหละ\"Zaionicเล่า พร้อมกับนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อตอนนั้น
            \"แล้วไงต่อ มันคืออะไรเหรอ\"Mahoroถามด้วยควมสนใจ
            \"มันก็คือเดรโกเทเรส ชนเผ่าที่พวกเราขนานนามว่า มังกรเทพยังไงล่ะ เผ่าพันธุ์ที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วในพื้นพิภพนี้ ถึงจะถูกเรียกว่ามังกรก็เถอะ แต่จะเอาเดรโกเทเรสไปเปรียบเทียบกับไอ้กิ้งก่ายักษ์ที่รู้จักแต่บินกับพ่นไฟนะ มันก็เหมือนเอามนุษย์ไปเปรียบกับลิงนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นพลังกาย พลังเวทย์ หรือแม้แต่สติปัญญา เผ่าเดรโกเทเรสก็ล้วนเหนือกว่าทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยที่รักสงบและให้ความสำคัญกับธรรมชาติ บวกกับปัญหามีลูกยากละก็ เผ่าพันธุ์ที่ปกครองโลกนี้ก็คงเป็นพวกเขาไม่ใช่มนุษย์หรอก ปกติพวกนี้จะใช้อาคมผนึกร่างกายไว้ให้อยู่ในสภาพคล้ายมนุษย์เพื่อไม่ให้พลังที่มีมากมายของตนทำร้ายธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ฉันเห็นนะอยู่ในร่างจริง สูงตั้ง10เมตร มีหน้าตาคล้ายมังกรสมคำร่ำลือ ยืนด้วยขาหลังทั้งสองข้าง ผิวกายแข็งเป็นชั้นซ้อนกันราวกับชุดเกราะสีม่วง แขนซ้ายขาดและมีบาดแผลเต็มตัวไปหมดจนเลือดสีทองไหลท่วมตัว ดวงตาข้างขวาปิดสนิทมีเลือดหยดซึมออกมา มือขวาของเขาถือเด็กคนนึงไว้ในมือนั่นก็คือเจ้าคินนั้นเอง\"zaionicเล่ามาถึงตอนนี้ภาพเหตุการณ์ในอดีตก็ลอยเข้ามาในหัวของเขา..
            \"เจ้าเป็นใคร\"เสียงพูดทุ้มต่ำที่หนักแน่นและทรงพลังของเดรโกเทเรสตนนั้นถามzaionic พลังเวทย์อันแก่กล้ากดดันให้zaionicต้องพูดด้วยความนอบน้อม
            \"ผะ..ผมคือนักรับจ้างอิสระทั่วไปครับ\"zaionicตอบ เดรโกเทเรสมองเขาอยู่ชั่วครู่เหมือนจะพิจารณา ดวงตาสีทองมองตาของzaionicราวกับจะทะลุเข้าไปในใจของเขา แล้วก็ยื่นคินที่หมดสติและมีแผลฉกรรจ์เต็มตัวมาวางไว้ต่อหน้าZaionic
            \"ข้าคือดราเจเน่ขุนพลของอาณาจักรโครเดีย ทหารของข้าล้วนสิ้นชีพหมดแล้วด้วยฝีมือของ\"มัน\"เพียงผู้เดียว ตอนนี้ข้าต้องยับยั้ง\"มัน\"ไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นทุกชีวิตในโลกนี้จะย่อยยับในไม่ช้า ข้าขอฝากให้เจ้าช่วยดูแลชายผู้นี้ด้วยเจ้ามนุษย์ ส่วนค่าจ้างก็คือสิ่งนี้\"ดราเจเน่ดึงเขี้ยวของตนที่เป็นสีแดงใสออกมาแล้วยื่นให้zaionic แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่zaionicก็รับมันมา
            \"ชายคนนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาแต่มีความกล้าหาญที่น่านับถือ ข้าไม่อาจปล่อยให้เขาตายได้จึงถ่ายโลหิตของข้าให้แก่เขา มันจะช่วยฟื้นฟูบาดแผลและเพิ่มพลังอย่างมหาศาล และยังได้ฝังดวงตาของข้าชดเชยกับที่เขาเสียไป เพื่อที่จะให้เขาสามารถควบคุมพลังในร่างกายของตัวเองได้ ยังไงก็ตามอาจมีบางครั้งที่เขาคุมพลังของชนเผ่าเราเอาไว้ไม่อยู่ และคลุ้มคลั่งได้ เจ้าจงคอยช่วยเหลือเขาด้วย ในเวลานั้น\"สิ้นคำขอร้องของดราเจเน่ ก็มีกระแสรัศมีพลังเวทย์ที่รุนแรงและมืดมิดแผ่พุ่งมาทางพวกเขา zaionicรู้สึกทรมานแทบจะขาดใจตายเมื่อถูกบีบคั้นด้วยพลังนั้น
            \"มันมาแล้วรึ พวกเจ้าจงรีบไปเถอะ\"ดราเจเน่พูดจบ ก็ขยับมือเป็นสัญลักษณ์มนตรา สร้างเกราะทรงกลมสีแดงใสเต็มไปด้วยอักขระเวทย์ล้อมทั้งคินและzaionicเอาไว้ แล้วหยิบขึ้นมาขว้างไปด้วยพลังทั้งหมดที่ตนมี พริบตาเดียวมันก็ลอยไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร แล้วหล่นลงใกล้ตัวเมืองแห่งนึงโดยที่ทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ดราเจเน่จะหันไปรวบรวมพลังเวทย์ทั้งหมดพ่นลำแสงสีฟ้าไปยัง\"มัน\"...
            \"นายบอกว่าเดรโกเทเรสตัวนั้นชื่อว่าดราเจเน่เหรอ หรือว่าเขาคือหัวหน้าหน่วยทหารกองร้อยที่7แห่งโครเดียที่หายสาบสูญไปพร้อมลูกน้องทั้งหมด เป็นคดีลึกลับที่โด่งดังไปทั่วเมื่อ5ปีก่อน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ว่าพวกเขาหายไปไหน นายได้เห็นหัวหน้ากองร้อยนั่นเป็นครั้งสุดท้ายงั้นเหรอ!\"Mahoroตกใจที่zaionicมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปริศนาที่เป็นตำนาน zaionicเล่าต่อทันที
            \"ใช่ หลังจากนั้นฉันถึงรู้ข่าววงในมาว่า หน่วยทหารนั้นได้รับคำสั่งให้มาทำภารกิจลับๆบางอย่างในมาไคร เรื่องของภารกิจนั้นช่างหัวมันเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือ\"มัน\"ที่ดราเจเน่บอกคืออะไรกันแน่ มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดในโลกนี้ที่จะฆ่าเดรโกเทเรสทั้งกองร้อยได้ด้วยอยู่งั้นเหรอ แค่เดรโกเทเรสที่เป็นพลเมืองธรรมดาๆตัวเดียวก็ทำลายประเทศเล็กๆได้ทั้งประเทศอยู่แล้ว แต่นี้เป็นหน่วยทหารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกลุ่มท็อปของโครเดียทั้งหน่วย กลับถูกทำให้หายไปง่ายๆในชั่วเวลาอึดใจเดียว นี้เป็นสิ่งที่คาใจฉันมาตลอด\"zaionicบอกความลับที่เก็บไว้มานานแก่Mahoro ดูผิวเผินเหมือนคนทั้งคู่ไม่ถูกกัน แต่จริงๆแล้วMahoroก็เป็นคนที่zaionicไว้วางใจได้มากที่สุด
            \"แล้วเจ้าคินนั้นไม่ได้บอกนายเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น\"mahoroถาม zaionicส่ายหน้า แล้วกล่าวว่า
            \"เมื่อคินได้สติ นอกจากวิชาหมัดที่ร้ายกาจของเขาแล้วความทรงจำอย่างอื่นหายไปจนหมด เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคินถึงมีลักษณะนิสัยเหมือนเด็ก เพราะสำหรับหมอนั่นแล้ว ชีวิตเริ่มต้นขึ้นใหม่เมื่อ5ปีก่อน ฉันก็เลยตั้งชื่อ นามสกุล และอายุ ให้หมอนั้นว่าคิน ดราก็อตที่มีความหมายว่าผู้ได้รับการคุ้มครองจากมังกร และพาเขาทำงานรับจ้างอิสระด้วยกันเดินทางไปทั่วโลก เผื่อว่าความทรงจำของเขาจะกลับมา\"เมื่อzaionicเล่าจบ เขาก็ดึงดาบของเขาออกจากฝักมาให้Mahoroดู มันเป็นดาบสีแดงโปร่งใสงดงามราวกับทับทิมเลยทีเดียว
            \"นี่คือเขี้ยวของดราเจเน่ ที่ฉันนำไปให้พวกเอลฟ์ดัดแปลงให้เป็นดาบ เขี้ยวของดราโกเทเรสมีพลังพิเศษที่จะทำให้บาดแผลของสิ่งมีชีวิตที่ถูกกัดไม่สามารถหายได้ด้วยพลังเวทย์ มันจึงเป็นของล้ำค่าที่มีราคาสูงมากในตลาดมืด เพราะว่าเผ่าเดรโกเทเรสนั้นจะไม่ยอมมอบเขี้ยวให้ใครเด็ดขาดจนกว่าจะตาย ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีของตนเองและเผ่าพันธุ์ การที่เขามอบให้ฉันคงเพราะได้เตรียมใจไว้แล้ว และเชื่อมั่นในตัวฉัน นักรับจ้างเร่ร่อนที่พึ่งเห็นหน้าแค่อึดใจเดียว ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยรู้สึกติดค้างใครมากเท่านี้มาก่อน ไม่ว่ายังฉันก็ต้องดูแลหมอนั่นให้ได้\"zaionicพูดด้วยความหนักแน่นประหนึ่งให้สัตย์สาบานไว้กับตัวเอง แล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก...
            ที่ด้านหลังรถเจนนี่ไม่สบายใจที่เป็นต้นเหตุให้ทุกคนมีอันตราย ขอโทษทุกๆคนในรถที่ตัวเธอน่าจะรีบเข้าไปคุยกับผู้พันหลี่ ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
            \"ขอโทษทุกคนจริงๆนะคะ เพราะเราเองแท้ๆ เกือบทำให้ทุกคนบาดเจ็บซะแล้ว(T_T) ถ้าเรารีบเข้าไปหาท่านผู้พันแล้วละก็ ท่านก็คงไม่โมโหและสั่งยิงพวกเราหรอก\"เจนนี่พูดด้วยความรู้สึกผิด แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์จริงๆของหลี่เว่ย ที่อยากจะพบเธอกับเฟลย์เรียแค่2คน
            \"เจนนี่ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ นี่ไม่ใช่ความผิดของเจนนี่ ไอ้พวกนั้นมันคิดไม่ดีอยู่แล้วครับ\"Ferrickกล่าว
            \"จริงด้วย เรื่องชั่วช้าแบบนั้นเรายอมไม่ได้อยู่แล้ว\"Keiสนับสนุน ทำให้เจนนี่ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
            \"ชั่วช้า? ผู้พันหลี่แค่มีเรื่องจะสอบถามเรากับคุณเฟลย์เรียเฉยๆนี่คะ\"เจนนี่สงสัย ความซื่อของเธอทำให้ทั้งFerrickและKeiปวดหัว ไม่รู้จะอธิบายยังไง(-_-\")
            \"เอาเป็นว่าพวกเขาเจตนาจะทำ\"บางอย่าง\"ที่ไม่ดีต่อทั้งเจนนี่และเฟลย์เรียแน่นอนครับ ถึงได้รีบร้อนทำร้ายพวกเรา ที่สำคัญพวกเราก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนี่ครับ เจนนี่ทำใจให้สบายเถอะ\"Ferrickหาคำพูดที่จะทำให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดมาอธิบาย ถึงจะยังไม่รู้เรื่องนัก แต่เจนนี่ก็เริ่มเชื่อที่Ferrickบอก ว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ดีจริงๆ
            \"สงสารพวกทหารกลุ่มนั้นจังเลยนะคะ ถูกระเบิดแรงขนาดนั้นจะเป็นอะไรรึเปล่า\"เธอยังรู้สึกห่วงคนที่คิดจะทำร้ายเธออยู่เมื้อกี้
            \"ม่ายเป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้อัดเต็มแรงอ่ะ พวกน้าๆกลุ่มนั้นได้นอนพักรักษาสักเดือนเศษๆก็คงจะหายแล้วละครับ(^_^)\"คินบอกเพื่อให้เจนนี่สบายใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่รถแล่นมาถึงหมู่บ้านแห่งนึง ที่มีสิ่งก่อสร้างแบบจีนโบราณสลับกับตึกแบบยุโรปเต็มไปหมด mahoroพูดผ่านไมค์บอกทุกคนว่า
            \"ที่นี่คือหมู่บ้านฉาง วันนี้เราจะพักกันที่นี้ ให้ทุกคนเตรียมขนย้ายข้าวส่วนตัวลงได้แล้ว\"จากนั้นก็จอดยานA.G.C.ไว้ที่หน้าโรงแรมในหมู่บ้าน
           
                    จบบทที่13
เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆในGDLครับ
            เผ่าเดรโกเทเรส เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก เนื่องด้วยปัญหาของการมีทายาทได้ยาก กล่าวคือในชั่วอายุขัยเฉลี่ย1000ปีอาจจะมีลูกได้แค่1-2คน ทำให้แม้จะเป็นชนเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ก็มีอิทธิพลน้อยกว่าชนเผ่ามนุษย์ ประเทศโครเดียของชนเผ่านี้ตั้งอยู่ในเกาะทางตอนใต้ของทวีปลูเซีย มีการติดต่อค้าขายกับมนุษย์เล็กน้อย ส่วนมากจะด้านเป็นโลหะชนิดพิเศษและสมุนไพรที่หายาก ปกติเดรโกเทเรสจะชอบจำแลงร่างกายอยู่ในสภาพมนุษย์เพื่อลดพลังในตัวไว้เพื่อไม่ให้ก่ออันตรายแก่ชนเผ่าอื่นๆโดยไม่ได้ตั้งใจเวลาออกมานอกประเทศ เว้นแต่จะมีเหตุผลให้ต้องต่อสู้จึงจะกลายเป็นร่างจริง
            ประเทศมาไครเป็นประเทศเล็กๆ แต่ว่ามีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานมาก มีความภาคภูมิใจในเทคโนโลยี่ด้านการค้นคว้าศาสตร์เล่นแร่แปลธาตุ ที่จะสร้างโลหะมนตราหรือยาที่มีคุณภาพสูงได้ดีเป็นอันดับหนึ่งในโลก ด้วยเหตุที่ชาวเมืองมีคติความเชื่อและวิถีชีวิตที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติเช่นเดียวกับเดรโกเทเรสจึงเป็นประเทศของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อโครเดียมากที่สุด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น