ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Great Dreams Land

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่9:ออกเดินทางสู่เซนทอเนีย

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 47


    บทที่9:ออกเดินทางสู่เซนทอเนีย



    ............คุณลูดอร์ฟบอกกับทุกคนว่าจะเตรียมข้าวของทุกอย่างให้เรียบร้อย สัก10:00ก็พร้อมที่จะให้Ferrickเดินทางได้ทันที แต่ก่อนจะถึงช่วงนั้นคุณลูดอร์ฟก็ขอตัวเข้าไปในเมืองก่อนเพื่อไปเยี่ยมท่านสาธุคุณOiLและปรึกษาธุระบางเรื่อง Ferrickกับเฟลย์เรียมานั่งรอที่หน้าคฤหาสน์พร้อมสัมภาระเมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทางท่านก็กลับมาโดยรถม้า ทว่าคุณลูดอร์ฟไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเจนนี่และผู้ชายผิวขาวหน้าตาดีคนนึงมาด้วย ทั้ง2คนถือกระเป๋าใบใหญ่มาก เมื่อมาถึงเจนนี่ก็ทักทายFerrickทันที



    ............\"สวัสดีค่ะคุณFerrick คุณเฟลย์เรีย พอดีทางโบสถ์เซนท์จอร์นที่เซนทอเนียต้องการตัวนักร้องเพิ่มเพื่อเตรียมตัวต้อนรับการเสด็จมาขององค์วาดาละนะค่ะ คุณลูดอร์ฟจึงเมตตาดิฉันให้อาศัยรถไปด้วย หวังว่าคงจะไม่เป็นการรบกวนคุณFerrickนะคะ\"เจนนี่กล่าว



    ............\"ไม่หรอกครับ(^_^)ไปกันเยอะๆสนุกดีออกครับ\"Ferrickบอก แล้วคุณลูดอร์ฟก็แนะนำให้รู้จักกับชายที่มากับเจนนี่



    ............\"ฉันขอแนะนำให้รู้จักนะ นี่คือ\"Kazeyuki Kei\"เป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ที่โบสถ์เช่นเดียวกับเจนนี่ เจนนี่เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวคงจะไม่สะดวกนัก เขาเลยจะอาสาจะไปเป็นเพื่อนนะ\"พอคุณลูดอร์ฟพูดจบ Keiก็ทักทายทุกคนเช่นกัน



    ............\"เอ่อ ขอฝากตัวด้วยนะครับ ผมเป็นพี่เลี้ยงเด็กมาได้ไม่นานแต่ก็พอมีความรู้เรื่องงานบ้านในระดับนึง ถ้ามีเรื่องอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ใช้ผมได้เต็มที่เลยนะครับ \"Keiพูดเพียงสั้นๆเท่านั้น ท่าทางเขาจะเป็นคนขี้อายเอาการ สักพักรถที่ใช้เดินทางก็มาถึง ทั้งๆที่Ferrickก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าสิ่งของต่างๆในโลกGDLมันไม่ธรรมดา แต่ก็อดตกตะลึงกับสิ่งที่คุณลูดอร์ฟเรียกว่า\"รถ\"ไม่ได้อยู่ดี เพราะว่ามันมีลักษณะรูปทรงคล้ายปลาวาฬเป็นสีน้ำเงินยาวประมาณ6-7เมตรที่ด้านข้างมีช่องกระจกทรงสี่เหลี่ยมคางหมูติดกับประตูที่เปิดขึ้นทางด้านบนเหมือนปีกนก ตัวรถนั้นไม่มีล้อแต่ว่าลอยสูงจากพื้นประมาณครึ่งเมตร ด้านท้ายของรถต่อพ่วงกับกล่องเหล็กที่มีรูปทรงคล้ายตัวรถแต่เล็กกว่าเล็กน้อย พอรถแล่นมาถึงหน้าคฤหาสน์ก็ค่อยๆลอยลงมาติดพื้น แล้วก็มีชายตัวผอมสูงพอสมควร ไว้ผมยาวสีดำรวบผม สีผิวค่อนข้างขาว ใส่ชุดสีดำทั้งตัว เปิดประตูด้านหน้าของรถที่น่าจะเป็นห้องคนขับก้าวลงมายืนอยู่ข้างรถ คุณลูดอร์ฟหันมาอธิบายกับทุกคน



    ............\"อันที่จริงฉันก็คิดจะให้พวกเธอเดินทางด้วยยานบินไปเลย แต่ช่วงนี้ตามเส้นทางลงใต้ที่พวกเธอจะไปเซนทอเนียนั้น มีกลุ่มมังกรป่าออกอาละวาดอยู่นะ มันชอบเล่นงานวัตถุที่บินได้บนท้องฟ้ามาก ฉันจึงคิดว่าควรใช้รถ A.G.C(ย่อมาจากAntiGravity Craft ที่แปลว่ายานต่อต้านแรงโน้มถ่วง)แทน ถึงมันจะบินได้ไม่สูงนัก แต่ก็เร็วกว่ารถธรรมดามาก และเพื่อความไม่ประมาทฉันจึงจ้างนักคุ้มกันฝีมือดีชื่อว่า\"Mahoro\"มาช่วยขับรถและคุ้มครองพวกเธอด้วย\"ลูดอร์ฟแนะนำตัวชายที่ลงมาจากรถ เขาทำสีหน้าเรียบๆไม่แสดงอารมณ์มองดูนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายแล้วพูดขึ้นว่า



    ............\"ได้เวลาเดินทางแล้ว รีบๆขนของขึ้นรถเถอะ\"จากนั้นก็กลับขึ้นรถไป ทุกคนจึงช่วยกันขนสัมภาระต่างๆขึ้นรถพ่วงด้านหลังไว้ แล้วพากันขึ้นรถหมด เหลือแต่Ferrickและเฟลย์เรียที่ยังยืนอยู่กับคุณลูดอร์ฟอยู่



    ............\"ผมขอบคุณท่านมากจริงๆครับที่ช่วยเหลือดูแลผมทุกอย่าง ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านยังไงดี\"Ferrickกล่าวอย่างซาบซึ้งบุญคุณ



    ............\"ไม่ต้องหรอก ฉันสิต้องเป็นฝ่ายขอบใจเธอมากกว่าที่ช่วยชีวิตลูน่า และรับปากว่าจะดูแลเฟลย์เรียให้รู้จักความสุขที่แท้จริง ช่วยดูแลเธอด้วยนะFerrick\"คุณลูดอร์ฟบอก



    ............\"ครับ\"Ferrickตอบ เฟลย์เรียไม่เข้าใจความหมายของคำพูดลูดอร์ฟก็จริง เธอก็รู้สึกถึงความอ่อนโยนความอบอุ่นในคำพูดนั้นอย่างบอกไม่ถูก ลูน่าที่ยืนอยู่หลังคุณลูดอร์ฟก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้



    ............\"พี่Ferrickกับพี่เฟลย์เรียกลับมาเร็วๆนะคะ\"ลูน่าพูดแล้วยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา



    ............\"ไม่ต้องร้องไห้หรอกลูน่า พี่กับเฟลย์เรียจะไปไม่นาน พี่สัญญาจ๊ะ\"Ferrickปลอบลูน่าพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ จากนั้นก็ไปขึ้นรถ ภายในรถนั้นกว้างมากมีที่นั่งแบบยาวคล้ายโซฟาอยู่3ตำแหน่ง คือด้านที่ติดกับคนขับ ด้านหลัง และติดขอบตรงทางขวา  โดยเว้นที่ว่างตรงกลางรถเอาไว้โล่งๆ เหมือนกับห้องๆนึงเลยทีเดียว Ferrickและเฟลย์เรียนั่งด้านติดขอบขวา ส่วนKeiนั่งอยู่กับเจนนี่ด้านหลัง เมื่อขึ้นมาหมดแล้วรถก็เริ่มเดินทาง โดยลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยแล้วพุ่งออกไป ภาพที่มองผ่านหน้าต่างนั้น ผ่านไปอย่างรวดเร็วแสดงให้เห็นความเร็วของรถ Ferrickมองดูอยู่สักพักก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมรถที่บินได้ไวขนาดนี้เวลาเลี้ยวโค้งหรือชลอความเร็วลงกลับไม่รู้สึกถึงแรงเหวี่ยงแรงกระแทกเลย เฟลย์เรียจึงอธิบายว่าA.G.Cนั้นเป็นรถที่มีระบบพลังงานที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ในระดับนึง เวลาที่เลี้ยวหรือหยุดนั้นจะปรับระดับแรงเฉื่อยให้คงที่ได้เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกสบาย Ferrickได้ฟังอย่างนั้นก็สบายใจขึ้น เพราะปกติเขาเป็นคนที่นั่งรถนานๆได้ไม่ทนนัก(พูดง่ายๆคือพวกชอบเมารถนั้นเอง)แต่ถ้าเป็นแบบที่เฟลย์เรียบอกละก็จะไปไกลแค่ไหนก็สบาย  เขาจึงนั่งชมวิวทิวทัศน์รอบๆได้อย่างไม่ต้องกังวล เมื่อเวลาผ่านไปสักพักFerrickก็เริ่มสังเกตเห็นว่าเจนนี่ไม่ค่อยพูดจามีท่าทางเศร้าๆเขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า



    ............\"มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าครับ คุณเจนนี่\"เธอจึงตอบว่า



    ............\"ไม่หรอกคะ ฉันเพียงแต่เห็นลูน่าแล้วคิดถึงพวกเด็กๆที่อยู่โบสถ์เท่านั้นเองคะ\"แล้วKeiจึงอธิบายให้ฟัง



    ............\"ที่โบสถ์ของเรารับเลี้ยงเด็กกำพร้านะครับ ถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่อยากออกมาจากโบสถ์ในตอนนี้ เพราะว่าช่วงนี้จำนวนพี่เลี้ยงเด็ก ลดน้อยลงไปมากนะครับ แล้วเด็กๆหลายคนก็ติดเจนนี่กันทั้งนั้น เธอเลยเป็นห่วงนะครับ\"Ferrickก็เลยพูดให้เธอสบายใจขึ้นว่า



    ............\"ทำใจให้สบายเถอะครับคุณเจนนี่(^_^) พวกเด็กๆต้องเข้าใจแน่ครับว่าคุณเจนนี่จำเป็นต้องมาธุระ ถึงผมเองจะไม่เคยเจอเด็กที่คุณเจนนี่เลี้ยง แต่ก็มั่นใจได้ว่าพวกเขาต้องเป็นเด็กดีแน่นอนครับ เพราะคนที่เลี้ยงพวกเขามาคือคุณเจนนี่เองนี่ครับ\"พอได้ยินดังนั้น เจนนี่เองก็รู้สึกสบายใจขึ้น



    ............\"จริงสิคะ พวกเด็กๆนะเข้มแข็งมาก แม้แต่ตอนที่ดิฉันไม่สบาย พวกเขาช่วยกันหาสมุนไพรมารักษาฉันจนได้ ฉันไม่ควรเป็นห่วงเรื่องพวกเขามากเกินไปนัก ขอบคุณมากคะคุณFerrick(^_^)\"เจนนี่ขอบคุณที่Ferrickช่วยพูดให้เธอสบายใจขึ้น จากนั้นเธอก็เริ่มพูดคุยได้เป็นปกติ Ferrickถามเธอเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น เธอมาเป็นนักร้องของโบสถ์ได้ยังไง พวกเด็กที่เธอเลี้ยงมีใครบ้าง เรื่อยเปื่อยไปจน กระทั่งเขาได้รู้ว่าเธอเองก็เป็นOutmenเช่นกัน แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือKeiก็เป็นOutmenด้วย เจนนี่เล่าว่าตัวเธอเองในโลกจริงก็เป็นเด็กกำพร้าเช่นกัน ชื่อจริงว่าเจนจิราเป็นบุตรบุญธรรมของซิสเตอร์ท่านนึงในไทย เธอล็อกอินเข้ามาในนี้ได้ตั้งแต่2ปีก่อนตอนอายุ14 และได้มาพบท่านสาธุคุณOiLโดยบังเอิญ ขณะจะถูกพวกนักเลงในเมืองหลอกไปขาย แม้ท่านจะเป็นบาทหลวงแต่ก็เก่งเรื่องต่อสู้มากแค่แป๊ปเดียวก็อัดพวกนักเลงเหล่านั้นซะกระเจิง เนื่องจากที่บ้านเธอเป็นโบสถ์อยู่แล้วเธอจึงยินดีมากที่จะได้อยู่ช่วยเหลือท่านOiLดูแลเด็กๆ และทำงานต่างๆเป็นการตอบแทนท่าน และพบว่าตัวเองในGDLมีความสามารถในการร้องเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม จึงเข้าร่วมเป็นนักร้องประจำโบสถ์



    ............\"แล้วKeiละเข้ามาในนี้ตอนไหนเหรอ\"FerrickถามKeiบ้าง



    ............\"ผมเองเป็นคนญี่ปุ่นเข้ามาในGDLได้3ปีเศษๆแล้วละครับ แรกๆก็งงเหมือนกันว่าเป็นความฝันหรือเปล่า จนเข้ามาได้2-3ครั้งถึงเข้าใจว่าที่นี่เป็นอีกมิตินึงจริงๆ ตอนผมเข้ามาก็ไปโผล่แถวๆหน้าผาแห่งนึงที่กำลังจะถล่มเพื่อสร้างเขื่อน วิ่งหนีออกมาแทบไม่ทัน พอเข้ามาในเมืองก็โดนพวกนักเวทย์อันธพาลหาเรื่องเอาอีกและทำร้ายด้วยเวทย์ นั้นทำให้ผมได้ความสามารถพิเศษที่มารู้ภายหลังว่าคือOsในการสะท้อนการโจมตีทุกรูปแบบกลับไปเป็น2เท่า โดยแลกกับการเสียประสาทสัมผัสทั้ง5ไปชั่วคราว ครั้งละ1อย่างต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง ทำให้ผมสะท้อนการโจมตีด้วยเวทย์กลับไปสู่นักเวทย์คนนั้นได้ ช่วงแรกผมก็ทำงานก่อสร้างอยู่สักพักจนได้ไปรับงานซ่อมแซมโบสถ์ที่เจนนี่อยู่ จึงย้ายมาสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็กแทนนะครับ(^_^)\"Keiตอบ Ferrickสงสัยเรื่องที่Keiเป็นคนญี่ปุ่นจึงถามต่อว่า



    ............\"คุณKeiเป็นคนญี่ปุ่นเหรอครับ ทำไมถึงพูดภาษาไทยได้คล่องจัง ใช้เวลาหัดนานมั้ยครับ\"Ferrickกล่าว



    ............\"คุณFerrickคงจะเข้ามาไม่นานใช่มั้ยครับถึงไม่ทราบว่าOutmenอย่างพวกเราเป็นกลางทางภาษา พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือตอนนี้ผมเองก็ได้ยินคุณFerrickและทุกคนพูดภาษาญี่ปุ่นอยู่อย่างชัดเจน รวมไปถึงตัวอักษรต่างๆที่ผมเห็นก็เป็นตัวอักษรญี่ปุ่นเช่นกันครับ เว้นแต่มันจะเป็นศัพท์เฉพาะบางอย่างเช่นชื่อหรือสัญลักษณ์เราถึงจะเห็นเหมือนกัน ผมมารู้เรื่องนี้ก็ตอนที่ได้รู้จักกับเจนนี่นั้นแหละครับ\"Keiอธิบาย Ferrickก็หายสงสัยทันที ว่าทำไมที่แล้วๆมาถึงได้ยินและเห็นแต่ตัวอักษรภาษาไทย จากนั้นทั้งหมดก็คุยเรื่องต่างๆเกี่ยวกับโลกในความจริงยกเว้นแต่เฟลย์เรียที่รับฟังอย่างเดียวจะพูดบ้างก็เวลาที่มีใครถามอะไรเท่านั้นกัน จนใกล้เที่ยงรถก็มาจอดอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนึงMahoroเดินมาบอกให้ทุกคนลงไปกินข้าวก่อนจะได้รีบเดินทางต่อ จากนั้นก็เดินเข้าไปในร้าน ทุกคนจึงเดินตามเข้าไปกัน ร้านอาหารนี้มีลักษณะเป็นร้านอาหารจีนสองชั้นแบบโรงเตี๊ยมที่เคยเห็นในหนังจีนบ่อยๆ แม้แต่เด็กเสริฟก็แต่งชุดแบบเสี่ยวเอ้อเช่นกัน มีแขกเข้ามากินเยอะเอาการอยู่ พอทุกคนหาที่นั่งร่วมกันได้ยกเว้นMahoroที่แยกไปนั่งต่างหาก ก็มีคนมาเสริฟน้ำและเอาเมนูมาให้เลือกอาหารFerrickก็นึกอะไรบางอย่างออกและมีท่าทางกังวลทันที



    ............\"แย่แล้ว! :shock: ผมไม่มีเงินของโลกนี้ติดตัวเลยครับ\"Ferrickอุทานออกมา ที่แล้วมาไม่มีเรื่องที่ทำให้เขาต้องใช้เงินจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้



    ............\"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณชาย คุณลูดอร์ฟได้ฝากเงินเข้าธนาคารเป็นบัญชีของคุณชายไว้ส่วนนึงแล้วและให้เฟลย์เรียพกติดตัวไว้เพื่อคุณชายราวๆ35โทเชี่ยนคะ\"เฟลย์เรียบอก แต่เข้าก็ยังงงอยู่ดีว่ามันเป็นมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ ผิดกับKeiที่สำลักน้ำที่ดื่มอยู่แล้วพูดว่า



    ............\"ติดตัวตั้ง35โทเชี่ยนเชียวหรือครับ มันไม่มากไปเหรอครับ อาจทำหายได้นะครับ\"FerrickจึงถามKeiว่าจำนวนเงินเท่านี้มันมีค่าประมาณเท่าไหร่ของโลกจริง เขาจึงหยิบเมนูให้Ferrickดูแล้วอธิบาย



    ............\"ค่าเงินเยนกับเงินบาทต่างกัน ผมจะแสดงให้เขาใจง่ายๆละกันครับ ลองดูที่หมวดอาหารจานเดียวตรงนี้นะครับ ส่วนใหญ่จะมีราคาที่2-3ฮัน หน่วยเงินของที่นี่10พา=1ฮัน,100ฮัน=1เคเซ ,10เคเซ=1โทเชี่ยน ,100โทเชี่ยน=1มิวเลอร์ คุณFerrickลองคำนวนคร่าวๆดูละกันครับว่าประมาณเท่าไหร่ของค่าเงินไทย\"Ferrickคิดอยู่สักครู่เจนนี่ก็ตอบออกมาแทน



    ............\"ประมาณ3แสน5หมื่นบาทของเงินไทยนะคะ\"เจนนี่บอก ทำเอาFerrickเกือบตกจากเก้าอี้ทันที



    ............\"(ตั้ง3แสน5เชียวเหรอ)เอ่อ คุณลูดอร์ฟให้เงินไว้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เฟลย์เรีย\"Ferrickถาม



    ............\"คุณลูดอร์ฟบอกว่าไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆระหว่างเดินทางนะคะ เงินในบัญชีของคุณชายมีเยอะมากกว่านี้อีกนะคะ คุณชายไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหารหรอกคะ\"เฟลย์เรียบอกเรียบๆ Ferrickจึงกล้าสั่งอาหารมากิน แต่ก็ยังกินแค่อาหารจานเดียวราคาถูกอยู่ดี เมื่อกินกันอิ่มหมดแล้วMahoroจึงบอกให้ทุกคนกลับไปขึ้นรถ ขณะนั้นเองมีชาย3คนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆซึ่งได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ เดินตามพวกเขาออกมา ทุกคนยกเว้นFerrickขึ้นไปรอบนรถก่อน ส่วนFerrickนั้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่ เมื่อออกมาก็เจอกับชายหน้าเหี้ยมที่พกดาบเหน็บไว้ข้างเอวทั้ง3คนที่แอบรออยู่หน้าห้องน้ำ



    ............\"ว่าไงน้องชาย ได้ยินว่ามีเงินตั้ง35โทเชี่ยนเชียวรึ ขอยืมมาใช้สักหน่อยสิ:)\"1ใน3คนนั้นบอก



    ............\"(บ๊ะ ไอ้คนจำพวกนี้ที่ไหนๆมันก็มีแหะ)เสียใจด้วยนะครับ เงินไม่ได้อยู่กับผมหรอกครับ แต่ถ้าพวกคุณอยากได้ผมว่าไปหางานทำเอาจะดีกว่านะครับ:D\"Ferrickตอบแล้วกะจะวาร์ปหนี แต่ก็โดนฟาดด้วยสันดาบเขาที่ท้ายทอยก่อนจนล้มโดย1ในนั้นที่เดินอ้อมมาทางด้านหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัว



    ............\"ขอดีๆไม่ให้มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ เฮ้ยรีบค้นตัวมันเร็ว\"Ferrickเองยังไม่ได้หมดสติและไม่เจ็บอะไรมากนักเพราะความแข็งแกร่งทางร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นเมื่ออยู่ในGDL พยายามจะลุกขึ้นขัดขืน แต่ทันใดนั้นเองพวกมันทั้ง3คนก็กระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำเสียงดังก่อนร่วงลงกระแทกพื้น Ferrickเงยหน้าขึ้นก็เห็นMahoroยืนอยู่



    ............\"ก็บอกแล้วไงว่าให้รีบขึ้นไปบนรถ แถวนี้มันชายแดนของประเทศบาบาเรีย พวกทหารสถุลที่ไม่มีทางหากินมันรอเหยื่อแบบนี้อยู่ คราวหน้าก็ระวังหน่อยละ\"Mahoroพูดพร้อมกับยื่นมือมาดึงเขาขึ้น พวก3ตัวนั้นยังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาชักดาบวิ่งเข้ามาหา แต่Mahoroก็ชักดาบที่เก็บอยู่ในเสื้อออกมา ชี้ไปทางคนที่วิ่งเขามา ทำให้มันชงักอยู่ครู่นึงก่อนจะหัวเราะออกมา



    ............\"ฮะ ฮ่ะ แกจะบ้าเหรอ เอาดาบเล่มแค่นั้นมาขู่ฉัน แกบ้าหรือโง่กันแน่ว่ะ\"ชายคนนั้นกล่าว จริงอย่างที่เขาพูด แม้ว่าด้ามดาบของMahoroจะเป็นแบบดาบญี่ปุ่นยาวเกือบ1ฟุต แต่ตัวดาบนั้นสั้นแค่1-2นิ้วเท่านั้นดูแล้วไม่น่าจะทำอันตรายอะไรได้เลย ทว่า ทั้งFerrickและมันก็ต้องสำนึกว่าคิดผิด เมื่อMahoroแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะที่ดาบของเขาจะ...



    ............\"ฉึก!\"เสียงของคมดาบที่ปักลงไปบนผนังห้องน้ำ เฉียดคอของชายที่หัวเราะเมื่อสักครู่ไปแค่นิดเดียว ตัวดาบที่เคยสั้นนิดเดียวกลับยืดยาวออกไปเกือบ3เมตรทำให้ตอนนี้คมดาบอยู่ในระยะที่จะฟันพวกนั้นได้หมด ทั้ง3คนหน้าซีดลงทันใด 1ในนั้นพูดออกมาว่า



    ............\"ดาบยืดได้! หรือว่า หมอนี้คือMahoro The Bladeนักรับจ้างอิสระที่มีชื่อที่สุดของทางเหนือ\"แล้วถอยกรูดไปยืนรวมกันทันที



    ............\"ไสหัวไปซะ ก่อนที่ฉันหงุดหงิดมากกว่านี้\"Mahoroบอก พวกมันรีบวิ่งหนีไปโดยไม่มองกลับมาเลย ดาบของMahoroหดสั้นลงจนแทบไม่เห็นคมก่อนที่เขาจะเก็บใส่เสื้อโค้ทสีดำของเขา แล้วพูดว่า



    ............\"รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวจะถึงที่หมายช้ากว่ากำหนด\"จากนั้นก็เดินนำFerrickไป Ferrickตามออกมาขึ้นรถโดยไม่ได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื้อกี้เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงโดยเฉพาะเฟลย์เรีย แล้วรถก็เริ่มออกเดินทางต่ออีกครั้ง ขณะนั้นเองก็มีชายใส่แว่นดำ ผมยาวถึงขาเป็นสีทองเงางาม ใส่ชุดโค้ทสีดำและมีกระบองสีดำพาดหลังอยู่ ยืนอยู่บนหอคอยสูงแบบจีนไม่ไกลจากพวกFerrickมากนัก จ้องมองมายังรถของพวกเขาที่แล่นออกไปแล้วพูดเบาๆเหมือนกับจะรำพึงกับตัวเองว่า



    ............\"ในที่สุดก็เจอจนได้\"จากนั้นก็กระโดดตามไปห่างๆด้วยความเร็วไม่แพ้วิชาตัวเบาของท่านกริฟ



                        จบบทที่9



                                                   เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆในGDLจ้าาา

    ............เรื่องของมาตราเงิน หน่วยเงินที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้ คือหน่วยเงินสากลที่ตกลงใช้ร่วมกันในประเทศของชนเผ่ามนุษย์ทั้งหมด ซึ่งเปรียบเทียบกับค่าเงินบาทให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายๆดังนี้

                                                                           10พา=1ฮัน(10บาท)

                         100ฮัน=1เคเซ(1พัน)    

                                                                         10เคเซ=1โทเชี่ยน(1หมื่น)

                                    100โทเชี่ยน=1มิวเลอร์(1ล้าน)

                                                                 50มิวเลอร์=1โบล(50ล้าน)

                                      5โบล=1เลเจน(250ล้าน)

                                   4เลเจน=1เมเนี่ยม(1000ล้าน)



    ............มีเพียงหลักพาและฮันเท่านั้นที่เป็นเหรียญเงิน สูงกว่านั้นขึ้นไปจะเป็นธนบัตรหมด(ธนบัตรมีสูงสุดที่หลักโทเชี่ยนเท่านั้น)

    *หมายเหตุ*เพื่อนๆไม่ต้องสนใจจำหน่วยเงินก็ได้ครับเพราะต่อไปถ้ามีการกล่าวถึงจำนวนเงิน ผมจะมีวงเล็บเปรียบเทียบกับเงินบาทเอาไว้ด้วยเพื่อความสะดวกในการอ่านครับ ที่ลงหน่วยเงินเอาไว้ก็เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหานะครับ



    ............รายละเอียดของประเทศบาบาเรีย[/bตั้งอยู่ทางตอนใต้ติดกับประเทศเฮเทลที่ลูดอร์ฟอยู่ ]เป็นประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอยู่ไม่น้อย เนื่องด้วยระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสที่ให้อำนาจกับทางทหารมากเกินไป จึงมีการต่อต้านจากกลุ่มกบฏที่ก่อตั้งขึ้นโดยประชาชนที่ฝักใฝ่ระบอบประชาธิปไตย ทำให้มีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง กว่า37%ของประชากรเป็นชาวหยาง(คล้ายกับชาวจีนของโลกเรา)ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่นี่เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว จึงทำให้มีวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างต่างๆคล้ายอาณาจักรหยางเป็นอย่างมาก ตระกูลแอนโทเชียสเองก็ร่ำรวยมาจากการค้าอาวุธให้ประเทศแห่งนี้ด้วย สินค้าส่งออกของประเทศนี้โดยรวมส่วนใหญ่เป็นผลิตผลด้านเกษตรกรรม เช่น ข้าว แป้งสาลี เป็นต้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×