ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องของเฟลย์เรีย
บทที่4:เรื่องของเฟลย์เรีย
............หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วFerrickก็ขอให้เฟลย์เรียพาเขาลงมาหาคุณลูดอร์ฟ ซึ่งเธอก็นำทางเขาลงมา ระหว่างที่เดินลงมาชั้นล่างนั้น Ferrickสังเกตดูสภาพต่างๆภายในบ้าน จากที่เห็นนั้นมันก็เหมือนๆกับคฤหาสน์ในฉากหนังฝรั่งที่เขาเคยดูเลย ต่างกันตรงที่ของประดับบางอย่างนั้นดูแปลกๆชอบกล เช่นกรอบรูปไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยม แต่เป็นวงกลมบ้าง 3เหลี่ยมบ้าง กับกระถางต้นไม้เล็กๆที่มีกลไกรดน้ำใส่ต้นไม้เองได้ ทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นแฟนตาซีของที่นี่ขึ้นมาอีก พอมาถึงชั้นล่างเขาก็เห็นคุณลูดอร์ฟใส่ชุดเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลผูกเนคไท มีเสื้อแขนสั้นสีดำทับอยู่อีกที สวมกางเกงสีเทา ยืนอยู่กลางบ้าน ใกล้กับบันไดวนที่เขากับเฟลย์เรียเดินลงมา
............\"อ้าว เป็นไงบ้างละครับ คุณFerrick\"ลูดอร์ฟทักทายเมื่อเห็นFerrick เขากำลังสั่งการให้คนงานย้ายข้าวของอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังจะจัดงานเลี้ยงฉลองหรืองานเลี้ยงอย่างงั้นละ Ferrickนึกทบทวนดูก่อนที่จะหมดสติ(ถ้าจำไม่ผิดคุณลูดอร์ฟพูดว่าจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณเรานี่ ถ้างั้นนี่ก็เป็นงานเลี้ยงขอบคุณเขางั้นหรือ)Ferrickคิด มองออกไปหน้าคฤหาสน์ที่เป็นสนามหญ้ากว้าง มีโต๊ะเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
............\"คุณลูดอร์ฟพอจะมีเวลาสักครู่มั้ยครับ คือผมมีเรื่องจะคุยด้วยนะครับเกี่ยวกับคุณเฟลย์เรียครับ\"Ferrickพูดเรียบๆ
............\"ได้สิครับ มานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกกันก่อนเถอะ\"ลูดอร์ฟชวนเขาไปที่ห้องอีกห้องนึงที่เปิดกว้างอยู่ทางขวามือ พอทั้งคู่เดินมาถึงห้องรับแขกที่มีโซฟาขนาดใหญ่อยู่4ตัว ลูดอร์ฟก็ชวนเขานั่งลง จากนั้นก็บอกเฟลย์เรียให้ไปช่วยงานในครัวก่อนแล้วก็หันกลับมาคุยกับเขา
............\"มีอะไรเกี่ยวกับเฟลย์เหรอครับ หรือว่าเธอทำอะไรให้คุณไม่พอใจ\" คุณลูดอร์ฟกล่าว
............\"ไม่ใช่ครับเธอดูแลผมได้ดีมากเลย แต่ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงยกเธอให้ผมละครับ\"Ferrickถาม
............\"ก็เพื่อเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยลูกสาวผมไว้ไงครับ\"คุณลูดอร์ฟตอบ
............\"ถ้างั้นผมขอรับแค่น้ำใจก็พอครับ คุณลูดอร์ฟบอกยกเลิกเรื่องให้เธอมารับใช้ผมเถอะครับ\"Ferrickพูดออกมาตรงๆ คุณลูดอร์ฟนิ่งไปอยู่สักพัก มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็พูดว่า
............\"อย่างที่ผมคิดไว้เลย คุณนี่เป็นคนดีจริงๆคุณคงจะไม่พอใจสินะครับ ที่อยู่ๆผมก็สั่งให้ผู้หญิงคนนึงไปเป็นทาสคอยรับใช้คุณ\"คุณลูดอร์ฟกล่าวอย่างรู้ทันความคิดเขา Ferrickถึงกับสะอึกไปแวบนึง ที่เขาพูดราวกับอ่านใจเขาได้ แต่ก็ดีที่จะได้พูดกันเข้าใจง่ายๆหน่อย
............\"ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่ดีใจนะครับ ที่ได้รับสาวใช้ดีๆแบบนี้คอยติดตาม แต่ว่าเฟลย์เรียอาจจะไม่เต็มใจก็ได้นะครับ ผมไม่รู้ว่าที่นี่จะคิดอย่างไรนะครับกับเรื่องแบบนี้ แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการที่จะให้ใครก็ตามมาเป็นทาสคนอื่นแบบนี้ครับ\"Ferrickบอกความรู้สึกของเขาออกไปตรงๆ คุณลูดอร์ฟได้ยินอย่างนั้นก็นั่งนิ่งสักพัก แล้วก็ลุกขึ้นเดินหันหน้าไปทางหน้าต่างกระจกแก้วขนาดใหญ่ ที่มองทะลุออกไปหน้าบ้าน แล้วก็พูดออกมาว่า
............\"ผมจะเล่าเรื่องของเฟลย์เรียให้ฟังละกันครับ\"ลูดอร์ฟกล่าว เขาเริ่มมีสีหน้าเศร้าลง
............\"เมื่อก่อนผมเคยมีภรรยาอยู่คนนึงเธอชื่อฟาร่าเรารักกันมากแม้ว่าฐานะของเราจะต่างกัน ผมเป็นทายาทของตระกูลโรแลนเดอร์แต่เธอเป็นสาวใช้ของตระกูล The Maidที่แม่ของผมจ้างมา ตระกูลของผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ผมแต่งงานกับสาวใช้ แม่ของผมจึงแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ของThe Maid และกีดกันเราสองคนออกจากกัน ตระกูลThe Maidเป็นองค์กรสาวใช้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศมูฟาซ่า องค์กรนี้มีมานานนับร้อยปีเป็นองค์กรที่จะเลี้ยงดูและฝึกฝนคนในตระกูลที่เป็นหญิงกับเด็กกำพร้าที่รวบรวมมา ให้เป็นสาวใช้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่จะทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด ขนาดสั่งให้ไปตายก็ต้องทำอย่างไม่มีลังเล ตระกูลThe Maidได้มาพาตัวเธอกลับไป แน่นอนผมพยายามขัดขวางเต็มที่ แต่อำนาจของตระกูลโรแลนเดอร์และTheMaidนั้นยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าเราจะหนีไปที่ไหนก็ตาม พวกเขาก็หาเราเจอได้ จนในที่สุดเธอก็ถูกจับตัวไป ตามกฎที่ห้ามสาวใช้ที่ถูกจ้างมีความรักและความรู้สึกต่อเจ้านายมากไปกว่าคนรับใช้ ถ้าฝ่าฝืนจะต้องถูกสังหาร ทำให้ผมเข้าใจว่าเธอตายแล้ว \"พอมาถึงตรงนี้ลูดอร์ฟเริ่มชะงัก ท่าทางเขาจะยังคงเสียใจอยู่มาก
............\"ผมเสียใจมากไม่ยอมกินไม่ยอมนอนและไม่รับรู้เรื่องราวใดๆอีก จนร่างกายถึงขีดจำกัดและใกล้จะตาย แม่ของผมจึงเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้ ท่านจึงล้มป่วยลงอย่างหนัก นั่นทำให้ผมได้สติ และกลับมากินอาหารอย่างเดิมเพื่อไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วง แต่อาการท่านก็ยังทรุดลงเรื่อยๆจนในที่สุดท่านก็เสียชีวิต แต่ก่อนที่ท่านจะตายท่านได้ขอร้องผมอยู่อย่างหนึ่งคือให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเตรียมไว้ให้
เพื่อที่ท่านจะได้จากไปอย่างหมดห่วง ผมจำเป็นต้องตกลง และผู้หญิงที่ผมแต่งงานด้วยก็คือแม่ของลูน่านั่นเอง\"ลูดอร์ฟหยุดอีกครั้งเมื่อเห็นFerrickอยากจะถามอะไร
............\"เอ่อ แล้วคุณนายอยู่ที่ไหนหรือครับตอนนี้\"Ferrickถามเพราะตั้งแต่มาที่นี่เขายังไม่เห็นเธอเลย คุณลูดอร์ฟหันกลับไปมองที่รูปผู้หญิง2คนที่อยู่เหนือเตาผิง รูปซ้ายนั้นเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาสวยงามมากผมยาวถึงเอวสีชมพูเหมือนลูน่าแต่ว่ามีดวงตาสีดำใส สวมใส่ชุดของชนชั้นสูงในยุโรป ส่วนรูปด้านขวาเป็นรูปผู้หญิงที่สวยไม่แพ้กับรูปแรกเลย มีผมสีทองสั้นดวงตาสีฟ้าครามเหมือนเฟลย์เรีย แต่ใส่ชุดMaidที่ต่างกัน แล้วกล่าวว่า
............\"รูปซ้ายนั่นเป็นรูปของเธอเรล่า เธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนลูน่าเกิดแล้วละ\"คุณลูดอร์ฟตอบเรียบๆ แต่รู้สึกได้ถึงความเศร้าเช่นกัน
............\"ขอโทษครับ\"Ferrickกล่าวเพราะรู้สึกผิดที่ถามเรื่องที่ไม่สมควรออกไป
............\"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องมันนานมาแล้ว เรล่าเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ตั้งแต่เสียฟาร่าไป ฉันกลายเป็นคนเย็นชาไม่สนใจความรู้สึกของใคร และคิดว่าจะไม่รักใครอีก ทว่าเธอก็ละลายน้ำแข็งในใจฉันได้ เธอเป็นคนสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก แต่ก็ชอบทำตัวร่าเริงตลอดเวลา แม้ว่าฉันจะทำไม่ดีต่อเธอยังไงเธอก็ยังรักฉัน และคอยดูแลฉันอยู่ตลอดนานนับสิบปี จนในที่สุดฉันก็รักเธอและมีลูกด้วยกันนั้นก็คือลูน่า\"คุณลูดอร์ฟละสายตาจากภาพหันมาจ้องมองFerrickแล้วเล่าต่อ
............\"ฉันพยายามเลี้ยงดูลูน่าให้ดี และคอยสืบข่าวเกี่ยวตระกูลTheMaidเรื่อยมา ด้วยความหวังว่าอาจจะมีเรื่องของฟาร่าอยู่บ้าง จนในที่สุด เมื่อ8ปีก่อน หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ตระกูลTheMaidล่มสลายฉันก็ได้ข่าวจากวงในมาว่า ตระกูลTheMaidไม่ได้ประหารเธอทันทีที่พาเธอไป เพราะว่าเธอตั้งท้องอยู่ คุณเข้าใจมั้ยFerrick เธอมีลูกกับผม TheMaidรอให้เธอคลอดก่อนเพื่อที่จะเก็บเด็กไว้ใช้งาน เด็กที่เกิดมามีชื่อว่าเฟลย์เรีย\"ลูดอร์ฟหยุดพัก เมื่อเห็นท่าทางตกใจของFerrick
............\"เฟลย์เรียเป็นลูกสาวของคุณลูดอร์ฟอย่างงั้นเหรอ!:shock:\"Ferrickกล่าว เข้ายิ่งงงเข้าไปใหญ่ว่าทำไมลูดอร์ฟถึงยกลูกสาวตัวเองให้เขา
............\"ใช่เธอเป็นลูกสาวของผม เป็นพี่สาวของลูน่า ตอนที่ผมรู้เรื่องนี้ ผมรีบบึ่งไปที่ชายแดนของมูฟาซ่าทันที ในที่สุดผมก็ได้กับเธอ รวมกับสาวใช้คนอื่นๆที่ผู้บริหารของTheMaidพาหลบหนีมาและจะนำไปขาย ผมซื้อตัวเธอออกมา แล้วพากลับมาบ้านด้วยความหวังว่าครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้ากันซะที ทว่า เฟลย์ถูกฝึกฝนและปลูกฝังความคิดให้เป็นสาวใช้อย่างสมบูรณ์แบบเหนือกว่าคนในตระกูลTheMaidคนอื่นๆ เธอไม่เข้าใจว่าอะไรคือลูกสาว อะไรคือครอบครัว เธอคิดว่าตนเองเป็นเพียงสาวใช้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าผมจะอธิบายอย่างไรเธอก็ไม่ยอมรับรู้หรือเข้าใจเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ผมพูดอะไรกับเธอก็จะรับรู้ว่าเป็นเพียงคำสั่งของเจ้านาย และเรียกผมว่านายท่านอยู่ตลอดเวลา นั้นทำให้ผมเศร้าใจมากที่ไม่สามารถจะเลี้ยงลูกสาวด้วยวิธีการของคนที่เป็นพ่อได้ \" ลูดอร์ฟพูดออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์แล้วพูดต่อ
............\"นี่แหละเป็นสาเหตุที่ผมอยากยกเฟลย์ให้กับคุณ\"ลูดอร์ฟสารภาพออกมา
............\"ทำไมครับ\"Ferrickยังไม่เข้าใจอยู่ดี
............\"ปกติตระกูลTheMaidจะมอบแหวนMaidRingให้ในกรณีที่ซื้อตัวMaidคนนั้นมาเลย ไม่ใช่จ้างชั่วคราวเหมือนฟาร่า แหวนวงนี้มีไว้เพื่อที่จะสลักชื่อเจ้านายที่แท้จริงของMaidคนนั้น ที่ผ่านมาฉันเก็บแหวนวงนั้นเอาไว้และตั้งใจว่าจะไม่สลักชื่อใครลงไปเด็ดขาด แต่เวลายิ่งผ่านไป ถึงเฟลย์จะแสดงท่าทางปกติอย่างไรตามที่ถูกฝึกมา แต่ฉันก็สังเกตได้ว่าเธอมีอาการไม่สบายใจและถามอยู่บ่อยๆว่าตัวเองมีเจ้านายหรือยัง เพราะสำหรับMaidที่ถูกซื้อตัวมา การไร้ซึ่งเจ้านายที่แท้จริงก่อนอายุ20จะหมายความว่าเป็นMaidที่ไร้ประโยชน์ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ และจะต้องกำจัดตัวเองซะ ฉันพยายามที่จะบอกว่ามันไม่จำเป็นหรอกที่เธอจะต้องมีเจ้านาย แต่เธอยืนกรานว่าถ้าไม่มีเจ้านายจริงๆ เธอก็สมควรตาย มันทำให้ฉันเป็นกังวลมาก จนได้พบเธอ\"ลูดอร์ฟมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อพูดถึงตรงนี้ Ferrickพอจะเข้าใจสาเหตุที่เขายกเฟลย์เรียให้แล้ว แต่ก็ยังติดใจบางอย่างอยู่
............\"ทำไมต้องเป็นผมด้วยละครับ เฟลย์เรียเองเป็นคนดีและสวยด้วยใครๆก็คงอยากจะได้เธอมาคอยรับใช้ทั้งนั้นแหละครับ\"Ferrickสงสัย
............\"ที่ฉันยกเฟลย์ให้เธอ ไม่ใช่แค่เพราะอยากตอบแทนที่เธอช่วยลูกสาวฉันเท่านั้น แต่เพราะว่าเธอเป็นคนดีนะสิ\"ลูดอร์ฟตอบ แล้วก็พูดต่อ
............\"ที่ผ่านมามีขุนนางและพวกเศรษฐีมากมาย ต่างพากันมาขอตัวเฟลย์กันมากมาย ส่วนนึงเพราะความงามของเธอ อีกส่วนนึงก็ต้องการจะเกี่ยวดองกับฉันเพื่อหวังทรัพย์สมบัติ ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่มีใครจริงใจต่อเฟลย์เลยแม้แต่น้อย แต่เธอไม่ใช่ เธอต่างจากคนพวกนั้น ลูน่าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังอย่างละเอียดแล้ว ผมเข้าใจ ว่าคุณไม่ใช่พวกนักดาบหรือพวกอัศวินและไม่มีความสามารถในการต่อสู้อะไรเลย ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้นคุณก็ยังช่วยลูกสาวผมไว้อย่างไม่ห่วงชีวิตตัวคุณเอง นั้นทำให้ผมประทับใจมาก ที่ผมเรียกคุณว่าผู้กล้านะผมพูดไม่ผิดหรอก คุณเหมาะสมกับคำๆนี้แล้ว\"ลูดอร์ฟกล่าวชมเชยเขา
............\"คุณไม่ระแวงสงสัยผมเลยหรือครับว่าที่ผมช่วยลูน่าไว้ มันอาจจะเป็นแผนเพื่อที่จะใกล้ชิดคุณก็ได้นะครับ\"Ferrickถาม นั้นทำให้คุณลูดอร์ฟหัวเราะออกมาเบาๆแล้วกล่าวว่า
............\"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอคงจะรับตัวเฟลย์ไปโดยที่ไม่มาทักท้วงอย่างนี้ ฉันบอกตรงๆเลยนะอย่าหาว่าฉันเป็นคนแปลกเลย ฉันรู้สึกถูกชะตากับเธออย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะว่าฉันอยู่มานานจนแยกแยะนิสัยใจคอของคนได้ ถึงรู้สึกได้เลยว่าคนอย่างเธอนะเป็นคนดีจริงๆ สัญชาตญาณของฉันนะมันบอกว่าคนแบบเธอนี่แหละจะช่วยเฟลย์ได้ และทำให้เธอมีความสุขได้จริงๆ จงเชื่อมั่นในตัวเองเถอะคุณFerrick \"คุณลูดอร์ฟเผยความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อFerrickออกมา นั่นทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจมาก ที่มีคนคนเชื่อมั่นในตัวเขามากขนากนี้ แต่Ferrickก็ยังมีความกังวลใจอยู่อย่างนึง
............\"แต่ว่าผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยนะครับ ผมอาจเลี้ยงดูเธอไม่ได้ดีเหมือนที่นี่ อันที่จริงผมไม่ใช่คนในโลกนี้ด้วยซ้ำ\"Ferrickอธิบาย แล้วก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขาให้ลูดอร์ฟฟัง ตั้งแต่เขามาที่นี่และเรื่องที่เขาเป็นOUT MEN คุณลูดอร์ฟนั่งฟังอย่างตั้งใจ พอเขาเล่าจบ ลูดอร์ฟก็ยิ้มออกมา
............\"นึกว่าอะไร ฉันเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องเป็นOUT MENตั้งแต่ได้ยินเรื่องที่เธอสามารถหายตัวได้ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าต้องการเงินเดี๋ยวฉันจะแนะนำฝากงานให้ คนที่มีความแข็งแกร่งแบบเธอเป็นนักดาบหรืออัศวินได้สบายๆเลย หรือจะให้ฉันยกทรัพย์สินทั้งหมดของฉันให้เธอครึ่งนึงดีมั้ย\"คุณลูดอร์ฟพูดอย่างอารมณ์ดี แต่ทำให้Ferrickสะดุ้งเลย
............\"ง่า ขอแค่งานก็พอแล้วครับ เรื่องทรัพย์สมบัตินะไม่ต้องหรอกครับ\"Ferrickกล่าว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรวยนะ แต่เขารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับเงินทองที่ได้มาง่ายๆเพราะมันมักจะหายไปง่ายๆเช่นกัน
............\"ตกลงเดี๋ยวฉันจะจัดการให้ เอาเป็นว่าเธอช่วยดูแลเฟลย์ให้ดีละกันนะ เธอไม่ค่อยชินกับการแสดงออกทางอารมณ์ก็จริง แต่เธอเองก็ยังมีความรู้สึกความเสียใจยินดีอยู่ อย่าทำให้เธอเสียใจละ ไม่งั้นฉันเองก็คงต้องทำเรื่องที่ไม่ดีมากๆกับเธอแน่:lol:\"ลูดอร์ฟพูดอย่างอารมณ์ดีเหมือนล้อเล่น แต่มือที่ตบบ่าเขาเบาๆตอนที่พูดนั้น ทำให้Ferrickรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ชายคนนี้คงจะรักลูกสาวตัวเองมากจริงๆแหะ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเล็กๆใสแจ้วมาจากทางประตูห้องรับแขก
............\"พี่Ferrickค่ะ\"ลูน่านั้นเอง เธอร้องออกมาพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดเขาอย่างดีใจ จนทำให้Ferrickเกือบตกจากโซฟา แล้วก็พูดต่อว่า
............\"พี่Ferrickหายดีแล้วหรือค่ะ ดีจังเลย พี่กริฟนี่เก่งจริงๆรักษาแค่แป๊ปเดียว พี่Ferrickก็หายแล้ว\"ลูน่าดีใจมากที่เห็นเขาไม่เป็นไร คุณลูดอร์ฟเห็นลูน่ากอดFerrickซะแน่นเลย ก็เลยปรามลูน่า
............\"ลูน่าอย่าทำรุนแรงกับพี่เขาแบบนั้นสิ Ferrickพึ่งจะลุกมาได้ไม่นานเอง\"คุณลูดอร์ฟกล่าว ลูน่าก็เลยปล่อยมือออกมา แต่ก็ยังซบFerrickอยู่
............\"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณลูดอร์ฟ ผมเองก็สบายดีแล้วครับ\"Ferrickไอออกมาเบาๆสงสัยการพุ่งเข้าชาร์จของลูน่าคงทำให้เขาจุกนิดๆ ลูน่าก็จ้องมองเขาตาใสแป๋วแล้วก็บอกว่า
............\"ถ้างั้นมาดูรอบๆบ้านกับลูน่านะคะพี่ชาย เดี๋ยวลูน่าจะพาไปดูที่จัดงานเลี้ยงคืนนี้คะ มีทั้งเค้กฉลองวันเกิดของคุณพ่อ กับของขวัญตั้งมากมายที่แขกเอามาให้ด้วย ของๆพี่ชายก็มีนะคะพวกชาวบ้านที่ชื่นชอบในความกล้าหาญของพี่ชายเอามาให้ก็มีคะ แล้วพี่กริฟละคะ\"ลูน่าหันไปดูรอบๆ
............\"พี่กริฟเขามีธุระนะที่เซนทอเนีย ก็เลยขอตัวไปกลับแล้วละจ๊ะ \"Ferrickตอบ
............\"ท่านกริฟเขาไปแล้วรึ เห็นมาบอกผมไว้เหมือนกันว่าถ้ารักษาคุณแล้วเขาก็จะไปทำธุระต่อ แต่ไม่นึกว่าจะไปเร็วแบบนี้ ผมนึกว่าจะหลังงานเลี้ยงซะอีก ผมยังไม่ทันได้ตอบแทนอะไรเขาเลย\"คุณลูดอร์ฟเพิ่งรู้เรื่องที่ท่านกริฟจากไป ท่าทางเขาคงเสียดายที่ยังไม่ได้ตอบแทนเรื่องที่ช่วยลูน่าและFerrickไว้
............\"ไม่ต้องเสียใจหรอกครับคุณลูดอร์ฟ  ถึงผมจะพึ่งพบท่านกริฟได้ไม่นานแต่ก็เข้าใจอยู่อย่างนึงว่า ท่านกริฟนะช่วยคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรจริงๆครับ นับเป็นยอดคนๆนึงเลยทีเดียว\"Ferrickกล่าวแทนความรู้สึกท่านกริฟ
............\"เหมือนพี่ชายใช่มั้ยคะ พี่ชายเองก็เสี่ยงชีวิตช่วยลูน่าไว้เหมือนกัน มาเถอะคะไปดูรอบๆบ้านกับลูน่านะ\"ลูน่าพูดพร้อมกับดึงตัวเขาไป Ferrickเลยต้องตามใจเธอ  พอFerrickกับลูน่าออกไปแล้วคุณลูดอร์ฟก็พูดขึ้นมาเหมือนกับจะรำพึงกับตัวเองว่า
............\"ฝากเฟลย์ด้วยนะ Ferrick\"แล้วเขาก็หันไปมองรูปทั้ง2อีกครั้ง...
............พอFerrickได้ออกมาเดินดูรอบๆบ้านกับลูน่า เขาก็รู้สึกได้เลยว่าคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตกว่าที่เห็นจากภายในมาก มันมีอยู่เพียง3ชั้นเท่านั้น แต่ความกว้างของบ้าน ทำให้เขานึกถึงห้างสรรพสินค้าขึ้นมาเลยจริงๆเพราะเขากับลูน่าต้องใช้เวลานานเอาการในการเดินกว่าจะครบด้านนึง รอบๆบ้านนั้นสนามทุ่งหญ้ากว้างมากจนเขาเห็นรั้วและบ้านหลังอื่นๆมีขนาดเล็กนิดเดียว มีต้นไม้ขนาดใหญ่มากมายที่หน้าตาแปลกๆปลูกเรียงรายอยู่รวมกันบริเวณขอบรั้ว บนสนามหญ้านั้นมีโต๊ะแกะสลักอย่างสวยงามสีขาวถูกจัดอยู่นับร้อยโต๊ะ มีลานน้ำพุที่มีรูปร่างคล้ายๆกับนกที่มีหน้าเป็นหญิงสาวเทน้ำออกจากคนโทที่อยู่บนบ่าด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากๆอีกหลายอย่างที่Ferrickไม่เคยเห็นอยู่เต็มไปหมด ระหว่างที่ลูน่าจูงมือเขาเดินไปดูของต่างๆอยู่นั้น ก็มีก้อนหินลอยมาจากที่ไหนไม่รู้ลอยมากระทบหัวเขาจากด้านหลัง(อีกแล้ว-_-)พร้อมกับเสียงที่แสดงความไม่พอใจมากๆว่า
............\"ถือสิทธิ์อะไรมาจับมือลูน่าของฉันนะ เจ้าบ้า\"ทำให้Ferrickต้องหันกลับไปดู ก็พบคนที่ปาหัวเขายืนอยู่ ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายอายุท่าทางจะไล่เลี่ยกับลูน่า แต่งชุดกั๊กสีดำคลุมเสื้อเชื้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำสวมรองเท้าหนังสีดำมันวาว ถือก้อนหินขนาดเล็กอยู่ในมืออีก2-3ก้อนท่าทางพร้อมที่จะขวางใส่เขาอีก ข้างๆเด็กคนนั้นมีผู้ที่ลำบึ้กสูงเกือบ2เมตรสวมชุดสูทสีดำใส่แว่นตากันแดด สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ยืนอยู่อย่างสงบ
                                                      จบบทที่4
เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับGDL(อ่านหรือไม่อ่านก็ได้ครับ):เรื่องของยุคสมัยและตระกูลThemaid
............เวลาปัจจุบันในของGDLตอนนี้คือปีคอติเรียสที่2763 ซึ่งยุคคอติเรียสนี้เริ่มต้นใช้นับตั้งแต่4มหาอำนาจของเผ่าพันธุ์หลักๆที่กุมอำนาจในโลกGDLได้แก่ เผ่ามนุษย์ เผ่าอสูร เผ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ เผ่าวารี ได้ร่วมกันตกลงยอมรับสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างเผ่าพันธุ์และหยุดทำสงครามต่อกันโดยสิ้นเชิง และเพื่อเป็นสัญญาณว่านับแต่นี้ไปจะเป็นยุคสมัยที่ทุกเผ่าพันธุ์จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจึงได้ร่วมกันตั้งชื่อยุคใหม่นี้ว่าคอติเรียสที่มีความหมายในภาษาของชนเผ่าภูตว่า\"สันติสุขอันยังยืน\"ขึ้น โดยการนับเวลาของปีคอติเรียสก็เหมือนกับโลกเราที่ปีนึงมี12เดือน365วันยกเว้นปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี29วัน
............ตระกูลTheMaidถูกก่อตั้งขึ้นในปีคอติเรียสที่2547(216ปีก่อน)โดยสตรีคนนึงที่นามว่า มาเจนด้า เอเรน จากบันทึกเก่าแก่พบว่าแต่เดิมนางเป็นสาวใช้ของตระกูลอัศวินแห่งนึง และได้รักกับบุตรชายทายาทตระกูล ทั้งสองมีกำหนดจะแต่งงานด้วยกัน ทว่าฝ่ายชายจำเป็นจะต้องออกไปรบในสงครามปราบกลุ่มกองทัพกบฎของฝ่ายอสูรที่ต่อต้านสนธิสัญญาสันติภาพก่อน สงครามในครั้งนั้นฝ่ายมนุษย์และกองทัพจักวรรดิอสูรเป็นฝ่ายชนะ แต่ชายคนรักของมาเจนด้าหาได้มีชีวิตกลับมาไม่ ด้วยความเสียใจที่ตนเองไม่สามารถอยู่เคียงข้างหรือช่วยเหลือคนที่ตนรักได้เลย ทำให้มาเจนด้าได้ใช้ทรัพย์สมบัติที่คนรักได้ทิ้งไว้ให้ ก่อตั้งองค์กรTheMaidขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างสาวใช้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่จะคอยรับใช้เจ้านายไม่ว่าเป็นที่ไหนขึ้นมา โดยการรวบรวมเด็กกำพร้าที่เป็นหญิงมาฝึกฝนตั้งแต่การทำงานบ้านทำอาหารและความสามารถต่างๆของสาวใช้ จนไปถึงวิชาการต่อสู้และการใช้อาวุธต่างๆเทียบเท่านักรบเลยทีเดียว โดยสาวใช้ที่ผ่านการฝึกฝนทุกอย่างจนสำเร็จจะจัดเป็นสาวใช้ระดับFullMaid ในขณะที่สาวใช้ที่ไม่ผ่านการฝึกการต่อสู้จะเป็นเพียงระดับMaidเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปTheMaidก็เป็นองค์กรที่มีอิทธิพลในระดับต้นๆของโลกเลยทีเดียวเพราะสาวใช้ของTheMaidนั้นล้วนมีอยู่ทั่ว223ประเทศของเผ่ามนุษย์ และยังแทรกซึมไปถึงชนเผ่าอื่นๆอีกด้วย ทำให้TheMaidล่วงรู้และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและความลับต่างๆของบุคคลสำคัญแต่ละประเทศได้จากเครือข่ายสาวใช้เหล่านี้ การล่มสลายของTheMaidเมื่อ8ปีก่อนดูผิวเผินเป็นเพราะเกิดจากการก่อรัฐประหารขึ้นในประเทศมูฟาซ่า แต่จริงๆแล้วนั้นสาเหตุมาจากการขัดแย้งภายในของกลุ่มผู้บริหารTheMaid และองค์กรTheMaidนั้นหาได้ล่มสลายจริงๆไม่ หากเพียงแค่แตกแยกและเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบขององค์กรอื่นๆเพื่อรอวันฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง
............หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วFerrickก็ขอให้เฟลย์เรียพาเขาลงมาหาคุณลูดอร์ฟ ซึ่งเธอก็นำทางเขาลงมา ระหว่างที่เดินลงมาชั้นล่างนั้น Ferrickสังเกตดูสภาพต่างๆภายในบ้าน จากที่เห็นนั้นมันก็เหมือนๆกับคฤหาสน์ในฉากหนังฝรั่งที่เขาเคยดูเลย ต่างกันตรงที่ของประดับบางอย่างนั้นดูแปลกๆชอบกล เช่นกรอบรูปไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยม แต่เป็นวงกลมบ้าง 3เหลี่ยมบ้าง กับกระถางต้นไม้เล็กๆที่มีกลไกรดน้ำใส่ต้นไม้เองได้ ทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นแฟนตาซีของที่นี่ขึ้นมาอีก พอมาถึงชั้นล่างเขาก็เห็นคุณลูดอร์ฟใส่ชุดเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลผูกเนคไท มีเสื้อแขนสั้นสีดำทับอยู่อีกที สวมกางเกงสีเทา ยืนอยู่กลางบ้าน ใกล้กับบันไดวนที่เขากับเฟลย์เรียเดินลงมา
............\"อ้าว เป็นไงบ้างละครับ คุณFerrick\"ลูดอร์ฟทักทายเมื่อเห็นFerrick เขากำลังสั่งการให้คนงานย้ายข้าวของอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังจะจัดงานเลี้ยงฉลองหรืองานเลี้ยงอย่างงั้นละ Ferrickนึกทบทวนดูก่อนที่จะหมดสติ(ถ้าจำไม่ผิดคุณลูดอร์ฟพูดว่าจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณเรานี่ ถ้างั้นนี่ก็เป็นงานเลี้ยงขอบคุณเขางั้นหรือ)Ferrickคิด มองออกไปหน้าคฤหาสน์ที่เป็นสนามหญ้ากว้าง มีโต๊ะเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
............\"คุณลูดอร์ฟพอจะมีเวลาสักครู่มั้ยครับ คือผมมีเรื่องจะคุยด้วยนะครับเกี่ยวกับคุณเฟลย์เรียครับ\"Ferrickพูดเรียบๆ
............\"ได้สิครับ มานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกกันก่อนเถอะ\"ลูดอร์ฟชวนเขาไปที่ห้องอีกห้องนึงที่เปิดกว้างอยู่ทางขวามือ พอทั้งคู่เดินมาถึงห้องรับแขกที่มีโซฟาขนาดใหญ่อยู่4ตัว ลูดอร์ฟก็ชวนเขานั่งลง จากนั้นก็บอกเฟลย์เรียให้ไปช่วยงานในครัวก่อนแล้วก็หันกลับมาคุยกับเขา
............\"มีอะไรเกี่ยวกับเฟลย์เหรอครับ หรือว่าเธอทำอะไรให้คุณไม่พอใจ\" คุณลูดอร์ฟกล่าว
............\"ไม่ใช่ครับเธอดูแลผมได้ดีมากเลย แต่ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงยกเธอให้ผมละครับ\"Ferrickถาม
............\"ก็เพื่อเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยลูกสาวผมไว้ไงครับ\"คุณลูดอร์ฟตอบ
............\"ถ้างั้นผมขอรับแค่น้ำใจก็พอครับ คุณลูดอร์ฟบอกยกเลิกเรื่องให้เธอมารับใช้ผมเถอะครับ\"Ferrickพูดออกมาตรงๆ คุณลูดอร์ฟนิ่งไปอยู่สักพัก มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็พูดว่า
............\"อย่างที่ผมคิดไว้เลย คุณนี่เป็นคนดีจริงๆคุณคงจะไม่พอใจสินะครับ ที่อยู่ๆผมก็สั่งให้ผู้หญิงคนนึงไปเป็นทาสคอยรับใช้คุณ\"คุณลูดอร์ฟกล่าวอย่างรู้ทันความคิดเขา Ferrickถึงกับสะอึกไปแวบนึง ที่เขาพูดราวกับอ่านใจเขาได้ แต่ก็ดีที่จะได้พูดกันเข้าใจง่ายๆหน่อย
............\"ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่ดีใจนะครับ ที่ได้รับสาวใช้ดีๆแบบนี้คอยติดตาม แต่ว่าเฟลย์เรียอาจจะไม่เต็มใจก็ได้นะครับ ผมไม่รู้ว่าที่นี่จะคิดอย่างไรนะครับกับเรื่องแบบนี้ แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการที่จะให้ใครก็ตามมาเป็นทาสคนอื่นแบบนี้ครับ\"Ferrickบอกความรู้สึกของเขาออกไปตรงๆ คุณลูดอร์ฟได้ยินอย่างนั้นก็นั่งนิ่งสักพัก แล้วก็ลุกขึ้นเดินหันหน้าไปทางหน้าต่างกระจกแก้วขนาดใหญ่ ที่มองทะลุออกไปหน้าบ้าน แล้วก็พูดออกมาว่า
............\"ผมจะเล่าเรื่องของเฟลย์เรียให้ฟังละกันครับ\"ลูดอร์ฟกล่าว เขาเริ่มมีสีหน้าเศร้าลง
............\"เมื่อก่อนผมเคยมีภรรยาอยู่คนนึงเธอชื่อฟาร่าเรารักกันมากแม้ว่าฐานะของเราจะต่างกัน ผมเป็นทายาทของตระกูลโรแลนเดอร์แต่เธอเป็นสาวใช้ของตระกูล The Maidที่แม่ของผมจ้างมา ตระกูลของผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ผมแต่งงานกับสาวใช้ แม่ของผมจึงแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ของThe Maid และกีดกันเราสองคนออกจากกัน ตระกูลThe Maidเป็นองค์กรสาวใช้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศมูฟาซ่า องค์กรนี้มีมานานนับร้อยปีเป็นองค์กรที่จะเลี้ยงดูและฝึกฝนคนในตระกูลที่เป็นหญิงกับเด็กกำพร้าที่รวบรวมมา ให้เป็นสาวใช้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่จะทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด ขนาดสั่งให้ไปตายก็ต้องทำอย่างไม่มีลังเล ตระกูลThe Maidได้มาพาตัวเธอกลับไป แน่นอนผมพยายามขัดขวางเต็มที่ แต่อำนาจของตระกูลโรแลนเดอร์และTheMaidนั้นยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าเราจะหนีไปที่ไหนก็ตาม พวกเขาก็หาเราเจอได้ จนในที่สุดเธอก็ถูกจับตัวไป ตามกฎที่ห้ามสาวใช้ที่ถูกจ้างมีความรักและความรู้สึกต่อเจ้านายมากไปกว่าคนรับใช้ ถ้าฝ่าฝืนจะต้องถูกสังหาร ทำให้ผมเข้าใจว่าเธอตายแล้ว \"พอมาถึงตรงนี้ลูดอร์ฟเริ่มชะงัก ท่าทางเขาจะยังคงเสียใจอยู่มาก
............\"ผมเสียใจมากไม่ยอมกินไม่ยอมนอนและไม่รับรู้เรื่องราวใดๆอีก จนร่างกายถึงขีดจำกัดและใกล้จะตาย แม่ของผมจึงเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้ ท่านจึงล้มป่วยลงอย่างหนัก นั่นทำให้ผมได้สติ และกลับมากินอาหารอย่างเดิมเพื่อไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วง แต่อาการท่านก็ยังทรุดลงเรื่อยๆจนในที่สุดท่านก็เสียชีวิต แต่ก่อนที่ท่านจะตายท่านได้ขอร้องผมอยู่อย่างหนึ่งคือให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเตรียมไว้ให้
เพื่อที่ท่านจะได้จากไปอย่างหมดห่วง ผมจำเป็นต้องตกลง และผู้หญิงที่ผมแต่งงานด้วยก็คือแม่ของลูน่านั่นเอง\"ลูดอร์ฟหยุดอีกครั้งเมื่อเห็นFerrickอยากจะถามอะไร
............\"เอ่อ แล้วคุณนายอยู่ที่ไหนหรือครับตอนนี้\"Ferrickถามเพราะตั้งแต่มาที่นี่เขายังไม่เห็นเธอเลย คุณลูดอร์ฟหันกลับไปมองที่รูปผู้หญิง2คนที่อยู่เหนือเตาผิง รูปซ้ายนั้นเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาสวยงามมากผมยาวถึงเอวสีชมพูเหมือนลูน่าแต่ว่ามีดวงตาสีดำใส สวมใส่ชุดของชนชั้นสูงในยุโรป ส่วนรูปด้านขวาเป็นรูปผู้หญิงที่สวยไม่แพ้กับรูปแรกเลย มีผมสีทองสั้นดวงตาสีฟ้าครามเหมือนเฟลย์เรีย แต่ใส่ชุดMaidที่ต่างกัน แล้วกล่าวว่า
............\"รูปซ้ายนั่นเป็นรูปของเธอเรล่า เธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนลูน่าเกิดแล้วละ\"คุณลูดอร์ฟตอบเรียบๆ แต่รู้สึกได้ถึงความเศร้าเช่นกัน
............\"ขอโทษครับ\"Ferrickกล่าวเพราะรู้สึกผิดที่ถามเรื่องที่ไม่สมควรออกไป
............\"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องมันนานมาแล้ว เรล่าเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ตั้งแต่เสียฟาร่าไป ฉันกลายเป็นคนเย็นชาไม่สนใจความรู้สึกของใคร และคิดว่าจะไม่รักใครอีก ทว่าเธอก็ละลายน้ำแข็งในใจฉันได้ เธอเป็นคนสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก แต่ก็ชอบทำตัวร่าเริงตลอดเวลา แม้ว่าฉันจะทำไม่ดีต่อเธอยังไงเธอก็ยังรักฉัน และคอยดูแลฉันอยู่ตลอดนานนับสิบปี จนในที่สุดฉันก็รักเธอและมีลูกด้วยกันนั้นก็คือลูน่า\"คุณลูดอร์ฟละสายตาจากภาพหันมาจ้องมองFerrickแล้วเล่าต่อ
............\"ฉันพยายามเลี้ยงดูลูน่าให้ดี และคอยสืบข่าวเกี่ยวตระกูลTheMaidเรื่อยมา ด้วยความหวังว่าอาจจะมีเรื่องของฟาร่าอยู่บ้าง จนในที่สุด เมื่อ8ปีก่อน หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ตระกูลTheMaidล่มสลายฉันก็ได้ข่าวจากวงในมาว่า ตระกูลTheMaidไม่ได้ประหารเธอทันทีที่พาเธอไป เพราะว่าเธอตั้งท้องอยู่ คุณเข้าใจมั้ยFerrick เธอมีลูกกับผม TheMaidรอให้เธอคลอดก่อนเพื่อที่จะเก็บเด็กไว้ใช้งาน เด็กที่เกิดมามีชื่อว่าเฟลย์เรีย\"ลูดอร์ฟหยุดพัก เมื่อเห็นท่าทางตกใจของFerrick
............\"เฟลย์เรียเป็นลูกสาวของคุณลูดอร์ฟอย่างงั้นเหรอ!:shock:\"Ferrickกล่าว เข้ายิ่งงงเข้าไปใหญ่ว่าทำไมลูดอร์ฟถึงยกลูกสาวตัวเองให้เขา
............\"ใช่เธอเป็นลูกสาวของผม เป็นพี่สาวของลูน่า ตอนที่ผมรู้เรื่องนี้ ผมรีบบึ่งไปที่ชายแดนของมูฟาซ่าทันที ในที่สุดผมก็ได้กับเธอ รวมกับสาวใช้คนอื่นๆที่ผู้บริหารของTheMaidพาหลบหนีมาและจะนำไปขาย ผมซื้อตัวเธอออกมา แล้วพากลับมาบ้านด้วยความหวังว่าครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้ากันซะที ทว่า เฟลย์ถูกฝึกฝนและปลูกฝังความคิดให้เป็นสาวใช้อย่างสมบูรณ์แบบเหนือกว่าคนในตระกูลTheMaidคนอื่นๆ เธอไม่เข้าใจว่าอะไรคือลูกสาว อะไรคือครอบครัว เธอคิดว่าตนเองเป็นเพียงสาวใช้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าผมจะอธิบายอย่างไรเธอก็ไม่ยอมรับรู้หรือเข้าใจเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ผมพูดอะไรกับเธอก็จะรับรู้ว่าเป็นเพียงคำสั่งของเจ้านาย และเรียกผมว่านายท่านอยู่ตลอดเวลา นั้นทำให้ผมเศร้าใจมากที่ไม่สามารถจะเลี้ยงลูกสาวด้วยวิธีการของคนที่เป็นพ่อได้ \" ลูดอร์ฟพูดออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์แล้วพูดต่อ
............\"นี่แหละเป็นสาเหตุที่ผมอยากยกเฟลย์ให้กับคุณ\"ลูดอร์ฟสารภาพออกมา
............\"ทำไมครับ\"Ferrickยังไม่เข้าใจอยู่ดี
............\"ปกติตระกูลTheMaidจะมอบแหวนMaidRingให้ในกรณีที่ซื้อตัวMaidคนนั้นมาเลย ไม่ใช่จ้างชั่วคราวเหมือนฟาร่า แหวนวงนี้มีไว้เพื่อที่จะสลักชื่อเจ้านายที่แท้จริงของMaidคนนั้น ที่ผ่านมาฉันเก็บแหวนวงนั้นเอาไว้และตั้งใจว่าจะไม่สลักชื่อใครลงไปเด็ดขาด แต่เวลายิ่งผ่านไป ถึงเฟลย์จะแสดงท่าทางปกติอย่างไรตามที่ถูกฝึกมา แต่ฉันก็สังเกตได้ว่าเธอมีอาการไม่สบายใจและถามอยู่บ่อยๆว่าตัวเองมีเจ้านายหรือยัง เพราะสำหรับMaidที่ถูกซื้อตัวมา การไร้ซึ่งเจ้านายที่แท้จริงก่อนอายุ20จะหมายความว่าเป็นMaidที่ไร้ประโยชน์ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ และจะต้องกำจัดตัวเองซะ ฉันพยายามที่จะบอกว่ามันไม่จำเป็นหรอกที่เธอจะต้องมีเจ้านาย แต่เธอยืนกรานว่าถ้าไม่มีเจ้านายจริงๆ เธอก็สมควรตาย มันทำให้ฉันเป็นกังวลมาก จนได้พบเธอ\"ลูดอร์ฟมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อพูดถึงตรงนี้ Ferrickพอจะเข้าใจสาเหตุที่เขายกเฟลย์เรียให้แล้ว แต่ก็ยังติดใจบางอย่างอยู่
............\"ทำไมต้องเป็นผมด้วยละครับ เฟลย์เรียเองเป็นคนดีและสวยด้วยใครๆก็คงอยากจะได้เธอมาคอยรับใช้ทั้งนั้นแหละครับ\"Ferrickสงสัย
............\"ที่ฉันยกเฟลย์ให้เธอ ไม่ใช่แค่เพราะอยากตอบแทนที่เธอช่วยลูกสาวฉันเท่านั้น แต่เพราะว่าเธอเป็นคนดีนะสิ\"ลูดอร์ฟตอบ แล้วก็พูดต่อ
............\"ที่ผ่านมามีขุนนางและพวกเศรษฐีมากมาย ต่างพากันมาขอตัวเฟลย์กันมากมาย ส่วนนึงเพราะความงามของเธอ อีกส่วนนึงก็ต้องการจะเกี่ยวดองกับฉันเพื่อหวังทรัพย์สมบัติ ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่มีใครจริงใจต่อเฟลย์เลยแม้แต่น้อย แต่เธอไม่ใช่ เธอต่างจากคนพวกนั้น ลูน่าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังอย่างละเอียดแล้ว ผมเข้าใจ ว่าคุณไม่ใช่พวกนักดาบหรือพวกอัศวินและไม่มีความสามารถในการต่อสู้อะไรเลย ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้นคุณก็ยังช่วยลูกสาวผมไว้อย่างไม่ห่วงชีวิตตัวคุณเอง นั้นทำให้ผมประทับใจมาก ที่ผมเรียกคุณว่าผู้กล้านะผมพูดไม่ผิดหรอก คุณเหมาะสมกับคำๆนี้แล้ว\"ลูดอร์ฟกล่าวชมเชยเขา
............\"คุณไม่ระแวงสงสัยผมเลยหรือครับว่าที่ผมช่วยลูน่าไว้ มันอาจจะเป็นแผนเพื่อที่จะใกล้ชิดคุณก็ได้นะครับ\"Ferrickถาม นั้นทำให้คุณลูดอร์ฟหัวเราะออกมาเบาๆแล้วกล่าวว่า
............\"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอคงจะรับตัวเฟลย์ไปโดยที่ไม่มาทักท้วงอย่างนี้ ฉันบอกตรงๆเลยนะอย่าหาว่าฉันเป็นคนแปลกเลย ฉันรู้สึกถูกชะตากับเธออย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะว่าฉันอยู่มานานจนแยกแยะนิสัยใจคอของคนได้ ถึงรู้สึกได้เลยว่าคนอย่างเธอนะเป็นคนดีจริงๆ สัญชาตญาณของฉันนะมันบอกว่าคนแบบเธอนี่แหละจะช่วยเฟลย์ได้ และทำให้เธอมีความสุขได้จริงๆ จงเชื่อมั่นในตัวเองเถอะคุณFerrick \"คุณลูดอร์ฟเผยความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อFerrickออกมา นั่นทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจมาก ที่มีคนคนเชื่อมั่นในตัวเขามากขนากนี้ แต่Ferrickก็ยังมีความกังวลใจอยู่อย่างนึง
............\"แต่ว่าผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยนะครับ ผมอาจเลี้ยงดูเธอไม่ได้ดีเหมือนที่นี่ อันที่จริงผมไม่ใช่คนในโลกนี้ด้วยซ้ำ\"Ferrickอธิบาย แล้วก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขาให้ลูดอร์ฟฟัง ตั้งแต่เขามาที่นี่และเรื่องที่เขาเป็นOUT MEN คุณลูดอร์ฟนั่งฟังอย่างตั้งใจ พอเขาเล่าจบ ลูดอร์ฟก็ยิ้มออกมา
............\"นึกว่าอะไร ฉันเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องเป็นOUT MENตั้งแต่ได้ยินเรื่องที่เธอสามารถหายตัวได้ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าต้องการเงินเดี๋ยวฉันจะแนะนำฝากงานให้ คนที่มีความแข็งแกร่งแบบเธอเป็นนักดาบหรืออัศวินได้สบายๆเลย หรือจะให้ฉันยกทรัพย์สินทั้งหมดของฉันให้เธอครึ่งนึงดีมั้ย\"คุณลูดอร์ฟพูดอย่างอารมณ์ดี แต่ทำให้Ferrickสะดุ้งเลย
............\"ง่า ขอแค่งานก็พอแล้วครับ เรื่องทรัพย์สมบัตินะไม่ต้องหรอกครับ\"Ferrickกล่าว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรวยนะ แต่เขารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับเงินทองที่ได้มาง่ายๆเพราะมันมักจะหายไปง่ายๆเช่นกัน
............\"ตกลงเดี๋ยวฉันจะจัดการให้ เอาเป็นว่าเธอช่วยดูแลเฟลย์ให้ดีละกันนะ เธอไม่ค่อยชินกับการแสดงออกทางอารมณ์ก็จริง แต่เธอเองก็ยังมีความรู้สึกความเสียใจยินดีอยู่ อย่าทำให้เธอเสียใจละ ไม่งั้นฉันเองก็คงต้องทำเรื่องที่ไม่ดีมากๆกับเธอแน่:lol:\"ลูดอร์ฟพูดอย่างอารมณ์ดีเหมือนล้อเล่น แต่มือที่ตบบ่าเขาเบาๆตอนที่พูดนั้น ทำให้Ferrickรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ชายคนนี้คงจะรักลูกสาวตัวเองมากจริงๆแหะ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเล็กๆใสแจ้วมาจากทางประตูห้องรับแขก
............\"พี่Ferrickค่ะ\"ลูน่านั้นเอง เธอร้องออกมาพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดเขาอย่างดีใจ จนทำให้Ferrickเกือบตกจากโซฟา แล้วก็พูดต่อว่า
............\"พี่Ferrickหายดีแล้วหรือค่ะ ดีจังเลย พี่กริฟนี่เก่งจริงๆรักษาแค่แป๊ปเดียว พี่Ferrickก็หายแล้ว\"ลูน่าดีใจมากที่เห็นเขาไม่เป็นไร คุณลูดอร์ฟเห็นลูน่ากอดFerrickซะแน่นเลย ก็เลยปรามลูน่า
............\"ลูน่าอย่าทำรุนแรงกับพี่เขาแบบนั้นสิ Ferrickพึ่งจะลุกมาได้ไม่นานเอง\"คุณลูดอร์ฟกล่าว ลูน่าก็เลยปล่อยมือออกมา แต่ก็ยังซบFerrickอยู่
............\"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณลูดอร์ฟ ผมเองก็สบายดีแล้วครับ\"Ferrickไอออกมาเบาๆสงสัยการพุ่งเข้าชาร์จของลูน่าคงทำให้เขาจุกนิดๆ ลูน่าก็จ้องมองเขาตาใสแป๋วแล้วก็บอกว่า
............\"ถ้างั้นมาดูรอบๆบ้านกับลูน่านะคะพี่ชาย เดี๋ยวลูน่าจะพาไปดูที่จัดงานเลี้ยงคืนนี้คะ มีทั้งเค้กฉลองวันเกิดของคุณพ่อ กับของขวัญตั้งมากมายที่แขกเอามาให้ด้วย ของๆพี่ชายก็มีนะคะพวกชาวบ้านที่ชื่นชอบในความกล้าหาญของพี่ชายเอามาให้ก็มีคะ แล้วพี่กริฟละคะ\"ลูน่าหันไปดูรอบๆ
............\"พี่กริฟเขามีธุระนะที่เซนทอเนีย ก็เลยขอตัวไปกลับแล้วละจ๊ะ \"Ferrickตอบ
............\"ท่านกริฟเขาไปแล้วรึ เห็นมาบอกผมไว้เหมือนกันว่าถ้ารักษาคุณแล้วเขาก็จะไปทำธุระต่อ แต่ไม่นึกว่าจะไปเร็วแบบนี้ ผมนึกว่าจะหลังงานเลี้ยงซะอีก ผมยังไม่ทันได้ตอบแทนอะไรเขาเลย\"คุณลูดอร์ฟเพิ่งรู้เรื่องที่ท่านกริฟจากไป ท่าทางเขาคงเสียดายที่ยังไม่ได้ตอบแทนเรื่องที่ช่วยลูน่าและFerrickไว้
............\"ไม่ต้องเสียใจหรอกครับคุณลูดอร์ฟ  ถึงผมจะพึ่งพบท่านกริฟได้ไม่นานแต่ก็เข้าใจอยู่อย่างนึงว่า ท่านกริฟนะช่วยคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรจริงๆครับ นับเป็นยอดคนๆนึงเลยทีเดียว\"Ferrickกล่าวแทนความรู้สึกท่านกริฟ
............\"เหมือนพี่ชายใช่มั้ยคะ พี่ชายเองก็เสี่ยงชีวิตช่วยลูน่าไว้เหมือนกัน มาเถอะคะไปดูรอบๆบ้านกับลูน่านะ\"ลูน่าพูดพร้อมกับดึงตัวเขาไป Ferrickเลยต้องตามใจเธอ  พอFerrickกับลูน่าออกไปแล้วคุณลูดอร์ฟก็พูดขึ้นมาเหมือนกับจะรำพึงกับตัวเองว่า
............\"ฝากเฟลย์ด้วยนะ Ferrick\"แล้วเขาก็หันไปมองรูปทั้ง2อีกครั้ง...
............พอFerrickได้ออกมาเดินดูรอบๆบ้านกับลูน่า เขาก็รู้สึกได้เลยว่าคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตกว่าที่เห็นจากภายในมาก มันมีอยู่เพียง3ชั้นเท่านั้น แต่ความกว้างของบ้าน ทำให้เขานึกถึงห้างสรรพสินค้าขึ้นมาเลยจริงๆเพราะเขากับลูน่าต้องใช้เวลานานเอาการในการเดินกว่าจะครบด้านนึง รอบๆบ้านนั้นสนามทุ่งหญ้ากว้างมากจนเขาเห็นรั้วและบ้านหลังอื่นๆมีขนาดเล็กนิดเดียว มีต้นไม้ขนาดใหญ่มากมายที่หน้าตาแปลกๆปลูกเรียงรายอยู่รวมกันบริเวณขอบรั้ว บนสนามหญ้านั้นมีโต๊ะแกะสลักอย่างสวยงามสีขาวถูกจัดอยู่นับร้อยโต๊ะ มีลานน้ำพุที่มีรูปร่างคล้ายๆกับนกที่มีหน้าเป็นหญิงสาวเทน้ำออกจากคนโทที่อยู่บนบ่าด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากๆอีกหลายอย่างที่Ferrickไม่เคยเห็นอยู่เต็มไปหมด ระหว่างที่ลูน่าจูงมือเขาเดินไปดูของต่างๆอยู่นั้น ก็มีก้อนหินลอยมาจากที่ไหนไม่รู้ลอยมากระทบหัวเขาจากด้านหลัง(อีกแล้ว-_-)พร้อมกับเสียงที่แสดงความไม่พอใจมากๆว่า
............\"ถือสิทธิ์อะไรมาจับมือลูน่าของฉันนะ เจ้าบ้า\"ทำให้Ferrickต้องหันกลับไปดู ก็พบคนที่ปาหัวเขายืนอยู่ ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายอายุท่าทางจะไล่เลี่ยกับลูน่า แต่งชุดกั๊กสีดำคลุมเสื้อเชื้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำสวมรองเท้าหนังสีดำมันวาว ถือก้อนหินขนาดเล็กอยู่ในมืออีก2-3ก้อนท่าทางพร้อมที่จะขวางใส่เขาอีก ข้างๆเด็กคนนั้นมีผู้ที่ลำบึ้กสูงเกือบ2เมตรสวมชุดสูทสีดำใส่แว่นตากันแดด สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ยืนอยู่อย่างสงบ
                                                      จบบทที่4
เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับGDL(อ่านหรือไม่อ่านก็ได้ครับ):เรื่องของยุคสมัยและตระกูลThemaid
............เวลาปัจจุบันในของGDLตอนนี้คือปีคอติเรียสที่2763 ซึ่งยุคคอติเรียสนี้เริ่มต้นใช้นับตั้งแต่4มหาอำนาจของเผ่าพันธุ์หลักๆที่กุมอำนาจในโลกGDLได้แก่ เผ่ามนุษย์ เผ่าอสูร เผ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ เผ่าวารี ได้ร่วมกันตกลงยอมรับสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างเผ่าพันธุ์และหยุดทำสงครามต่อกันโดยสิ้นเชิง และเพื่อเป็นสัญญาณว่านับแต่นี้ไปจะเป็นยุคสมัยที่ทุกเผ่าพันธุ์จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจึงได้ร่วมกันตั้งชื่อยุคใหม่นี้ว่าคอติเรียสที่มีความหมายในภาษาของชนเผ่าภูตว่า\"สันติสุขอันยังยืน\"ขึ้น โดยการนับเวลาของปีคอติเรียสก็เหมือนกับโลกเราที่ปีนึงมี12เดือน365วันยกเว้นปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี29วัน
............ตระกูลTheMaidถูกก่อตั้งขึ้นในปีคอติเรียสที่2547(216ปีก่อน)โดยสตรีคนนึงที่นามว่า มาเจนด้า เอเรน จากบันทึกเก่าแก่พบว่าแต่เดิมนางเป็นสาวใช้ของตระกูลอัศวินแห่งนึง และได้รักกับบุตรชายทายาทตระกูล ทั้งสองมีกำหนดจะแต่งงานด้วยกัน ทว่าฝ่ายชายจำเป็นจะต้องออกไปรบในสงครามปราบกลุ่มกองทัพกบฎของฝ่ายอสูรที่ต่อต้านสนธิสัญญาสันติภาพก่อน สงครามในครั้งนั้นฝ่ายมนุษย์และกองทัพจักวรรดิอสูรเป็นฝ่ายชนะ แต่ชายคนรักของมาเจนด้าหาได้มีชีวิตกลับมาไม่ ด้วยความเสียใจที่ตนเองไม่สามารถอยู่เคียงข้างหรือช่วยเหลือคนที่ตนรักได้เลย ทำให้มาเจนด้าได้ใช้ทรัพย์สมบัติที่คนรักได้ทิ้งไว้ให้ ก่อตั้งองค์กรTheMaidขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างสาวใช้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่จะคอยรับใช้เจ้านายไม่ว่าเป็นที่ไหนขึ้นมา โดยการรวบรวมเด็กกำพร้าที่เป็นหญิงมาฝึกฝนตั้งแต่การทำงานบ้านทำอาหารและความสามารถต่างๆของสาวใช้ จนไปถึงวิชาการต่อสู้และการใช้อาวุธต่างๆเทียบเท่านักรบเลยทีเดียว โดยสาวใช้ที่ผ่านการฝึกฝนทุกอย่างจนสำเร็จจะจัดเป็นสาวใช้ระดับFullMaid ในขณะที่สาวใช้ที่ไม่ผ่านการฝึกการต่อสู้จะเป็นเพียงระดับMaidเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปTheMaidก็เป็นองค์กรที่มีอิทธิพลในระดับต้นๆของโลกเลยทีเดียวเพราะสาวใช้ของTheMaidนั้นล้วนมีอยู่ทั่ว223ประเทศของเผ่ามนุษย์ และยังแทรกซึมไปถึงชนเผ่าอื่นๆอีกด้วย ทำให้TheMaidล่วงรู้และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและความลับต่างๆของบุคคลสำคัญแต่ละประเทศได้จากเครือข่ายสาวใช้เหล่านี้ การล่มสลายของTheMaidเมื่อ8ปีก่อนดูผิวเผินเป็นเพราะเกิดจากการก่อรัฐประหารขึ้นในประเทศมูฟาซ่า แต่จริงๆแล้วนั้นสาเหตุมาจากการขัดแย้งภายในของกลุ่มผู้บริหารTheMaid และองค์กรTheMaidนั้นหาได้ล่มสลายจริงๆไม่ หากเพียงแค่แตกแยกและเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบขององค์กรอื่นๆเพื่อรอวันฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น