ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Great Dreams Land

    ลำดับตอนที่ #14 : จู่โจม

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 47


    บทที่14:จู่โจม



                หลังจากที่ทุกคนขนข้าวของลงมาแล้ว Mahoroก็พาทุกคนเข้าไปในโรงแรมที่มีป้ายชื่อสลักอักษรสีทองไว้ว่า\"หอจันทรา\"เป็นโรงแรมที่มีรูปแบบการก่อสร้างผสมผสานทั้งจีนและฝรั่ง มีโครงสร้างรูปทรงภายนอกเหมือนกับโรงเตี๊ยมขนาดมหึมาใหญ่พอๆกับห้างสรรพสินค้า แต่สร้างด้วยหินแกะสลักสไตล์โรมัน มีสีขาวสลับดำแบบสัญลักษณ์หยินหยางของลัทธิเต๋าสูงราวๆ5ชั้น เมื่อผ่านประตูที่เป็นบานพับไม้แต่เปิดได้เองโดยอัตโนมัติเข้ามา ก็มีพนักงานหญิงใส่ชุดจีน2คนออกมามาต้อนรับทันที



                \"ยินดีต้อนรับสู่หอจันทราเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าจะพักกันกี่ท่านค่ะ\"พนักงานทั้งสองถามเป็นเสียงเดียวกัน ตอนแรกMahoroบอกว่าทั้งหมดนี่ยกเว้นzaionicกับคินเพราะว่าพาเข้ามาในเมืองตามสัญญาแล้ว แต่zaionicบอกว่าคินเสียพลังไปมากจากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้อ่อนล้าอย่างหนัก ยังไงก็ขอให้พวกเขาพักด้วยหน่อยเถอะ แน่นอน คินจะแย้งว่าตนสบายดีแต่ก็โดนzaionicอุดปากไว้ แล้วแอบกระซิบเบาๆว่าให้เฉยๆไว้เถอะน่า Ferrickจึงได้ขอร้องอีกครั้งให้พวกZenithKeeperได้พักด้วยเถอะ ส่วนเรื่องค่าที่พักนั้นจะออกให้เอง Mahoroถึงยอมตามใจ



                \"ขอบใจมากๆนะ คุณFerrick คุณนี่เป็นคนดีอย่างที่คิดไว้จริงๆ(ToT)\"zaionicเข้ามากุมมือFerrickไว้พร้อมกับทำหน้าซาบซึ้งในบุญคุณ จนMahoroต้องมาจับคอเสื้อดึงออกไป แล้วให้เด็กยกกระเป๋า พาทั้งหมดไปที่ห้องพักชั้น2โดยไม่ต้องขึ้นลิฟท์ ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดไป Ferrickก็มองสำรวจรอบๆโรงแรมแห่งนี้ แม้ว่าจะตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่เป็นชนบท แต่สิ่งของที่ใช้ตบแต่ง ดูหรูหรามากจนไม่เข้ากันเลย Mahoroสังเกตเห็นท่าทางของFerrickก็พอจะเข้าใจเลยอธิบายว่า



                \"ถึงที่นี่จะถือว่าเป็นหมู่บ้านของชาวบาบาเรียก็จริง แต่เฉพาะหมู่บ้านนี้เท่านั้นที่ต่างออกไป เพราะมันเป็นเขตดูแลพิเศษที่องค์กรสันติภาพโลก(P.W.O=Peach Wold Organization)จัดตั้งขึ้น เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาสงครามกลางเมืองในประเทศนี้ หมู่บ้านฉางได้รับการคุ้มครองจากนาๆประเทศที่เป็นสมาชิกร่วมของP.W.O จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเจอพวกทหารชั่วๆอย่างที่ผ่านมาหรอก ยิ่งเป็นหอจันทราแห่งนี้ยิ่งมีความปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากมันเป็นโรงแรมที่ท่านทูตของประเทศหยางร่วมหุ้นกับขุนนางชั้นสูงของประเทศต่างๆ สร้างขึ้นเพื่อใช้รับรองแขกV.I.Pโดยเฉพาะ ทำให้ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายยอดเยี่ยมที่สุดแล้วในบาบาเรีย\"เมื่อMahoroพูดจบทุกคนก็เดินมาถึงชั้น2 ที่มีห้องพักติดหมายเลขต่างๆเรียงรายกันไป



                \"ฉันเปิดห้องไว้4ห้องใครจะพักกับใครก็เชิญ ส่วนฉันจะพักที่ห้องนี้\"Mahoroพูดแล้วชี้ไปที่ห้องที่ใกล้บันไดและลิฟท์มากที่สุด ก่อนจะยื่นกุญแจ3ดอกที่มีหมายเลขของห้องให้Ferrick



                \"ฉันจะลงไปทำธุระข้างล่าง ระหว่างนี้จะไปกินข้าวหรือซื้ออะไรภายในโรงแรมก็ตามใจ แต่ถ้าจำเป็นจะต้องออกจากที่นี่ ก็พาเจ้าสองคนนี้ไปด้วยละ\"Mahoroกล่าวพร้อมกับหิ้วคอเสื้อของzaionicกับคินที่ยืนอยู่ด้านหลังเหมือนเด็กเล็กๆยกมาวางไว้ตรงหน้า



                \"เผื่อได้ใช้ถือของ\"Mahoroบอก ถึงจะพูดเหมือนดูถูก2คนนี้ แต่ที่จริงเขาเริ่มไว้ใจได้แล้วว่าพวกเขามีฝีมือพอที่จะคุ้มครองทุกคนได้จริงๆหากมีปัญหาอะไรที่คาดไม่ถึง จากนั้นก็เดินลงบันไดไป



                \"ถ้างั้นzaionicกับคินพักด้วยกันนะครับ(^_^)\"Ferrickบอก แล้วยื่นกุญแจให้ทั้งสองคน ท่าทางzaionicจะดีใจมากคงเพราะไม่ได้อาบน้ำมานานแล้ว จึงรีบเปิดห้องเข้าไปทันที



                \"ส่วนผม..\"Ferrickพูดยังไม่ทันจบ เฟลย์เรียก็พูดขึ้นว่า



                \"จะพักกับเฟลย์เรีย ใช่มั้ยคะคุณชาย\"เล่นเอาทั้งเจนนี่กับKeiหน้าแดงขึ้นมาเลย



                \"ปะ เปล่าครับ ผมจะพักกับคุณKeiครับ ส่วนเฟลย์เรียก็พักกับเจนนี่จะดีกว่านะครับ\"Ferrickอธิบาย เฟลย์เรียมีสีหน้าสงสัยทันที



                \"ถ้าเช่นนั้นเฟลย์เรียจะดูแลคุณชายได้ยังไงละคะ\"เธอถาม Ferrickพยายามหาข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้นมากที่สุด โดยไม่ทำให้เธอคิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์



                \"ถ้าเจนนี่พักกับKeiคุง มันจะดูไม่ค่อยดีนะครับ อีกอย่างยังไงที่นี่ก็มีคนคอยบริการอยู่แล้วครับ ไม่ต้องลำบากเฟลย์เรียก็ได้\"Ferrickกล่าว แต่รู้สึกว่าจะยังทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ดี Ferrickจึงหางานให้เธอทำ



                \"เอางี้ละกันนะครับ เดี๋ยวเฟลย์เรียไปหาซื้อ เอ่อ..(เอาอะไรดีหว่า)พวก..ของกินมาเก็บไว้กับผมหน่อยนะครับ เพราะผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องราคาสินค้านะครับ\"Ferrickหาทางออกจนได้ เฟลย์เรียดีใจมาก แม้จะไม่มีใครดูสีหน้าเธอออก ยกเว้นFerrick



                \"ถ้างั้นผมขอตัวอาบน้ำสักครู่นะครับ ปะKei\"FerrickหันไปชวนKei จากนั้นก็มอบกุญแจห้องให้เฟลย์เรีย แล้วทั้งหมดก็พากันเข้าห้องที่เลือกเอาไว้...



                ที่ชั้นล่าง มีแขกมากมายลงมานั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะซึ่งจัดไว้ให้เป็นพิเศษ แต่มีอยู่เพียง3คนที่นั่งจิบน้ำชาอยู่เฉยๆ ไม่สนใจสั่งอาหารอย่างอื่น เหมือนกับจะรอคอยอะไรบางอย่าง จนMahoroเดินผ่านมา 1ในนั้นถึงทักขึ้นอย่างอารมณ์ดีทั้งๆที่นั่งหันหลังให้ว่า



                \"ว่าไงละคุณMahoro\"แล้วจึงหันหน้ามาทางMahoro เขาเป็นชายที่มีผมสั้น ใส่ชุดคลุมสีดำคล้ายMahoroแต่มีรูปกางเขนสีขาวกลับด้านอยู่ที่หน้าอก สวมแว่นสีดำ Mahoroตกใจอย่างมากที่เห็นชายผู้นี้อยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา



                \"แกมาทำอะไรที่นี่Hikaru\"Mahoroถาม แล้วเริ่มสังเกตคนที่นั่งอยู่ด้วยอีก2คน คนนึงเป็นผู้หญิงที่เขารู้จักดี เช่นกัน เธองดงามไม่แพ้เฟลย์เรีย มีดวงตาสีเขียวส่องประกายสว่างดุจตาแมว ผมยาวสีทองถักเปียครึ่งหลัง สวมรัดเกล้าสีทองฝังอัญมณีสีแดงเม็ดใหญ่ ใช้ผ้าสีขาวบิดช่วงปาก ผิวขาวนวลสวมชุดสีขาวบางคลุมทั้งตัว อีกคนเป็นชายที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มีแผลเป็นเล็กๆที่หางตาขวา  ดวงตาทั้งคู่มีสองสีแบบคิน ต่างกันตรงที่ข้างนึงเป็นสีทองแดง ส่วนอีกข้างเป็นสีดำเช่นเดียวกับสีผมของเขาที่ยาวถึงกลางหลัง สวมเสื้อโค้ทยาวสีเลือดหมู แม้ทั้งหมดจะนั่งอยู่นิ่งๆ แต่ก็แผ่รังสีอำมหิตออกมาเมื่อเมื่อเห็นMahoro



                \"แหม อย่าทำเสียงดุแบบนั้นสิ ฉันก็แค่มาทำงานหาเลี้ยงปากท้องเหมือนกับนายนั้นแหละนะ(^_^)\"Hikaruบอก



                \"คงไม่เหมือนหรอก เพราะฉันไม่ได้รับจ้างฆ่าคน เป้าหมายของนายเป็นใคร\"Mahoroถาม ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดว่า



                \"คุณMahoroก็น่าจะรู้นี่คะ ว่าเรื่องแบบนี้มีใครที่ไหนเขาจะบอกกัน แต่ว่า\"เธอลุกขึ้นกระแซะเข้าหาMahoro วางมือบนหน้าอกของเขาอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนจะชิดหน้าของMahoro กระซิบอย่างแผ่วเบาว่า



                \"ถ้าคืนนี้เราอยู่ด้วยกันสักคืน ฉันอาจจะเผลอบอกก็ได้นะคะ\"แล้วยิ้มยั่วอย่างมีเสน่ห์ Mahoroปัดมือเธอออกด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจ ก่อนจะบอกว่า



                \"ไม่ละ ฉันยังไม่อยากตื่นขึ้นมาเป็นศพหรอกนะรีเวียร์\"Mahoroปฏิเสธ รีเวียร์ลูบแขนทำท่าเจ็บ แล้วนั่งลงแบบงอนๆทำให้ชายที่มีตาสองสีลุกขึ้นอย่างไม่พอใจทันทีเพื่อจะเล่นงานMahoro พร้อมกับพูดว่า



                \"แกบังอาจเสียมารยาทกับคุณรีเวียร์เหรอ\"แต่ก็ถูกHikaruห้ามไว้ก่อน



                \"อย่าอาเบล เรามาทำงานนะ\"Hikaruกล่าวด้วยเสียงเข้ม แม้จะไม่ค่อยพอใจนัก แต่อาเบลก็ยอมนั่งลงแต่โดยดีก่อนที่HikaruจะพูดกับMahoroต่อว่า



                \"อย่างที่รีเวียร์บอกนั่นแหละ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายหรอก อย่าไปสนใจเลย\"Hikaruบอก แต่Mahoroยังสงสัยอยู่ดี



                \"นายกับพวกจะไปฆ่าใครมันก็เรื่องของนาย แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือ เป้าหมายเป็นคนที่ฉันให้ความคุ้มครองอยู่หรือไม่ เพราะถ้าใช่ ฉันคงต้องเก็บพวกแกทั้งหมดเดี๋ยวนี้ละ\"Mahoroพูดจบ ก็ขยับมือลงมาไว้ข้างตัว ในลักษณะที่พร้อมจะชักดาบและปืนในฉับพลัน แต่Hikaruก็เบรคไว้ก่อน



                \"ใจเย็นก่อนน่า ถ้าหมายถึงคนที่นายพามาเมื่อสักครู่ละก็ ไม่ใช่แน่นอนฉันรับรองได้ ไม่งั้นฉันก็คงไม่มาทักนายอย่างนี้หรอกน่า\"Hikaruยืนยัน Mahoroจ้องมองตาของเขาเหมือนจะดูให้แน่ใจว่าเขาโกหกหรือไม่ จนมั่นใจว่ามันน่าจะเป็นความจริง จึงผ่อนคลายท่าทีลง แล้วถามถึงจุดประสงค์ที่เรียกเขา



                \"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่อยากทักทายเพื่อนเก่าเท่านั้นเอง อีกอย่างก็อยากจะเตือนนายไว้เฉยๆว่า ไม่ควรจะเข้ามายุ่งกับการทำงานของฉันในเมืองนี้นะ เพราะฉันคงลำบากใจแน่ๆ ถ้าต้องฆ่าเพื่อนสนิทของตนเอง(^_^)\"Hikaruพูดง่ายๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม



                \"เพื่อนเหรอ ฉันจำได้ว่าฉันตัดขาดกับแกแล้ว ตั้งแต่ที่แกทรยศฉันกับZaionicเมื่อ5ปีก่อน\"Mahoroบอก ความโกรธเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้



                \"งานชิ้นสุดท้ายที่เราทำด้วยกันทั้ง3คนนะเหรอ เรื่องเก่าๆสมัยยังเด็กแบบนั้นนายจะจดจำไปทำไมกัน\"Hikaruกล่าว Mahoroหมดความอดทนจะจัดการเขาซะ แต่Hikaruรู้ทันเตือนว่า



                \"อย่าดีกว่าน่า ถ้านายจะลงมือกับฉันจริงๆละก็ ไม่ว่าผลแพ้ชนะจะเป็นยังไงพวกแขกที่นั่งอยู่แถวนี้ จะกลายเป็นแค่เศษเนื้อเศษเลือดในพริบตาเลยนะ(^_^)\"Mahoroถึงกับชะงักไปทันที ก่อนที่จะระงับอารมณ์ไว้ แล้วพูดช้าๆว่า



                \"นายจะฆ่าใครก็ช่าง แต่ถ้าทำให้ฉันรู้หรือเห็นละก็ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่\"ก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงแรม อาเบลถามทันที



                \"ฆ่ามันทิ้งดีมั้ย Hikaru\"Hikaruยกมือเชิงห้ามไว้ รีเวียร์ถามทันที



                \"อยู่ๆไปทักเขาทำไมละ มืออาชีพนะ เขาจะทำงานกันอย่างเงียบๆไม่ใช่เหรอ\"Hikaruหันมาทำท่าครุ่นคิด แล้วตอบว่า



                \"นั่นสินะ คงเพราะไม่ได้เจอหน้ามานานแล้วละมั้ง อีกอย่าง\"Hikaruจิบชาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วยืนขึ้น ทั้งสองคนก็ยืนขึ้นตามเช่นกัน



                \"พวกเราก็ทำงานเสร็จแล้วนี่\"จากนั้นทั้งสามก็เดินออกจากโรงแรมไป ที่ห้องพิเศษสำหรับแขกVIPที่ชั้น5 มีชายผมหยิกดำในเสื้อสูท นอนตายอยู่บนเตียง ด้วยแผลกระสุนปืนนัดเดียวที่หน้าผาก รอบๆเตียงมีศพของบอดี้การ์ดถูกฟันกระจัดกระจายเลือดนองเต็มพื้นห้อง...



                Mahoroเดินออกมาจากโรงแรมปั๊บ ก็วิ่งอ้อมไปทางด้างหลังโรงแรม และควักเอาอุปกรณ์คล้ายๆกับหูฟังเล็กๆเสียบเข้าที่หูตัวเองแล้วกดปุ่มตัวเลขสีฟ้าที่ติดเอาไว้ ก็มีเสียงหวานๆของผู้หญิงดังออกมาทันที



                \"ศูนย์ดูแลพิเศษแห่งP.W.Oแห่งเมืองฉางค่ะ ไม่ทราบจะติดต่อเรื่องอะไรคะ\"Mahoroตอบไปทันที



                \"ขอติดต่อเจ้าหน้าที่พิเศษรหัส6304 โค้ดเนม Mahoro มีเหตุฉุกเฉินระดับ2\"สักพักก็มีการติดต่อกลับมา เปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชายเสียงแหบพร่า ท่าทางมีอายุมาก



                \"Mahoroเหรอ นี่ฉันActนะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น!\"น้ำเสียงของเขาตกใจ เหมือนกับจะรู้ว่าการที่Mahoroติดต่อมาแบบนี้ย่อมต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่นอน



                \"ท่านActเองเหรอ ในหอจันทราตอนนี้คาดว่าน่าจะมีคนถูกฆ่าแล้ว คิดว่าคงต้องเป็นแขกระดับVIPแน่นอน รีบส่งคนมาตรวจสอบเร็วเข้า ส่วนเรื่องรายละเอียดเดี๋ยวผมจะบอกคนของท่านเอง\"พูดจบMahoroก็วิ่งมาถึงประตูหลังของโรงแรม มันปิดสนิท และมีทหารยาม2คนเฝ้าเอาไว้ ทั้งคู่ไม่ใช่ชาวบาบาเรีย แต่เป็นนักเวทย์มนต์ถือคทาไม้สีดำขลับ ในชุดผ้าคลุมเรียบๆสีน้ำเงิน กับนักดาบที่แต่งชุดเหมือนกันยืนอยู่ในลักษณะเตรียมพร้อมต่อการบุกรุก เมื่อเห็นMahoroมุ่งตรงเข้ามา ก็สอบถามทันทีว่าเป็นใคร Mahoroไม่พูดอะไรเพียงแค่เอาบัตรสีขาวรูปทรง8เหลี่ยมไม่มีอักษรอันใดยื่นให้พวกนั้นดู ก็ยอมเปิดทางให้เข้าไปโดยดี และรับคำสั่งของเขาทันที



                \"มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ คุณMahoro\"นักเวทย์คนนึงที่เดินตามเข้ามาข้างในถาม ในขณะที่อีกคนยังคงเฝ้าประตูหลังอยู่



                \"มีอาชญากรระดับSอยู่ในนี้ มันคงจะสังหารใครสักคนในนี้ไปแล้วแน่ๆ และน่าจะเป็นแขกระดับVIP\"Mahoroบอก



                \"ไม่น่าเป็นไปได้O_o! ทางเรามีระบบป้องกันที่แน่นหนาเฝ้าดูทุกจุดในนี้ โดยเฉพาะชั้นของแขกVIP ถ้ามันเกิดขึ้นจริง พวกเราต้องรู้แน่ครับ\"พอเขาพูดจบ ก็มีพนักงานของโรงแรมหลายคนเดินเข้ามาหา แท้จริงแล้วพวกเขาทุกคนล้วนเป็นทั้งนักรบและนักเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่งซึ่งถูกยืมตัวมาจากประเทศต่างๆ เพื่อมาคอยดูแลเขตปกครองพิเศษแห่งนี้  1ในนั้นรายงานขึ้นมาทันที



                .\"คุณMahoroใช่มั้ยครับ ผมเป็นหัวหน้าผู้ดูแลที่นี้ชื่อว่าเอเทส ทางเราได้รับการติดต่อจากท่านActแล้วครับ มีผู้ถูกสังหารอยู่จริงๆที่ชั้น5 ส่วนเรื่องที่เขาเป็นใครนั้นผมคงต้องขอปิดเป็นความลับ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับ\"เอเทสกล่าว Mahoroยกมือขึ้นพูดแค่ว่า



                .\"ไม่เป็นไรผมเข้าใจ การรักษาความลับในภารกิจเป็นหน้าที่ของพวกคุณ ผมแค่มาแจ้งให้ทราบเท่านั้นเอง ว่าคนร้ายก็คือHikaruและพรรคพวกของเขา\"Mahoroบอก เมื่อเอเทสได้ยินชื่อนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก



                .\"Hikaru! นักฆ่าที่ได้รับฉายาว่าDeathMaster(ผู้ควบคุมความตาย)นั่นนะเหรอ ทำไมคุณถึงรู้ได้\"เอเทสอยากทราบเหตุผลที่Mahoroรู้ตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว



                .\"เพราะมันพึ่งทักผมเมื้อกี้นี้เอง\"แล้วเขาก็เล่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ แบบคร่าวๆให้เอเทสฟัง เอเทสจึงรีบสั่งคนของตนให้ไปปิดล้อมและค้นหาตัวHikaruโดยเร็วที่สุดโดยต้องระวังไม่ให้แขกทราบ Mahoroบอกว่าการปิดล้อมและเพิ่มการป้องกันนั้นจำเป็นอยู่ แต่เรื่องที่จะหาตัวHikaruนั้นไม่จำเป็นอีกแล้ว



                \"มันเป็นOutmenที่มีความสามารถที่เรียกว่าWarpPoin มันสามารถสร้างจุดที่จะเปิดประตูมิติเคลื่อนย้ายไปมาได้ตามใจชอบ3จุด ขอเพียงว่ามันเคยมา\"save\"สถานที่เอาไว้ด้วยตัวเอง ป่านนี้มันคงจะหนีไปไกลแล้ว ผมขอถามหน่อยนะว่าก่อนหน้านี้ มีแขกที่มาพักในห้องนั้นใช้ชื่อที่มีอักษรUอยู่หรือเปล่า\"Mahoroถาม เจ้าหน้าที่หญิง1ในนั้นเอาแฟ้มบันทึกการเข้าพักมาเปิดดูแล้วตอบว่า



                \"มีค่ะ เป็นผู้ชายคนเดียว และมาพักอยู่แค่วันเดียวชื่อว่าอุรากิค่ะ\"เธอกล่าว Mahoroมั่นใจได้เต็มที่แล้วว่านี่เป็นฝีมือของHikaruแน่นอน



                \"อุรากิ>>Uraki>>Urakih=Hikaru ยังชอบใช้วิธีเปลี่ยนชื่อแบบง่ายๆเหมือนเดิมนะ\"Mahoroกล่าว จากนั้นเขาก็ให้ข้อมูลต่างๆแก่เอเทสตามที่เขาอยากรู้ แล้วจึงขอตัวไปหาพวกFerrickก่อน หลังเขาไปมีเจ้าหน้าที่บางคนถามเอเทสว่าMahoroเป็นใครกัน เอเทสจึงตอบว่า



                \"เขาเป็นคนที่ท่านนายพลActรัฐมนตรีกระทรวงศาสตร์ต่อสู้แห่งเซนทอเนียให้ความไว้วางใจมากที่สุด จนถึงกับให้\"WhiteCard\"ป้ายแสดงอำนาจแทนตัวของท่านที่มีเพียงผู้มีพลังเวทย์เท่านั้นที่จะอ่านอักษรในนั้นออกได้เอาไว้ เจ้ารู้เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว\"จากนั้นทั้งหมดก็แยกย้ายไปตรวจสอบคดีในครั้งนี้...



                Mahoroกลับมาที่ห้องของพวกFerrickเพื่อดูว่าทั้งหมดปลอดภัยดีมั้ย เขาก็ถูกFerrickสอบถามว่ามีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะเมื้อกี้มีพนักงานโรงแรมมาขอตรวจสอบในห้อง โดยอ้างว่ามีเหตุชำรุดของอุปกรณ์ แต่ก็ตรวจหมดทุกห้องทั้งชั้น เขาไม่คิดว่าจะมีอุปกรณ์อะไรที่เสียได้พร้อมๆกันทั้งชั้นแบบนี้ Mahoroอดแปลกใจไม่ได้ว่าคนธรรมดาอย่างFerrickทำไมถึงสังเกตสถานการณ์ได้ดีแบบนี้ จึงบอกFerrickไปแค่ว่าหอจันทราแห่งนี้มีเกิดปัญหาเกี่ยวกับแขกที่มาพักบางคนเท่านั้น และไม่ต้องไปกังวลอะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง จากนั้นจึงลงไปข้างล่างเพื่อไปหาท่านนายพลActที่พักอยู่ในอาคารของPWO ณ ใจกลางเมือง..



                เมื่อFerrickได้รับการยืนยันจากMahoroแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับตนเอง เขาจึงชวนเฟลย์เรียและทุกคนไปซื้อของข้างนอกกัน ก่อนจะออกจากโรงแรมที่หน้าทางเข้ามีพนักงานต้อนรับมายืนอยู่5คน ต่างจากตอนมาที่มีแค่2คน แม้จะสงสัยแต่Ferrickก็คิดว่าคงจะเป็นแค่การ ผลัดเปลี่ยนเวรกันธรรมดา ภายในเมืองฉางที่ตอนนี้เริ่มจะค่ำแล้ว แสงไฟสีสดสวยที่ติดตั้งไว้ที่ต่างๆสว่างขึ้นอย่างสวยงาม จนแทบไม่น่าเชื่อว่า ที่นี่ยังเป็นประเทศบาบาเรียที่มีแต่สงครามอย่างที่ผ่านมา ทั้งหมดเดินดูตัวเมืองไปเรื่อยๆจนมาถึงที่ร้านขายของแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลนักจากโรงแรม



                \"จะซื้อของที่นี่มั้ยคะคุณชาย\"เฟลย์เรียถาม มองผ่านกระจกจากนอกร้านเข้า ก็เห็นสินค้าต่างๆจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ทุกคนจึงพากันเข้าไปซื้อของในนี้ ทั้งคินทั้งzaionicมุ่งตรงไปยังแผนกอาหารเป็นจุดแรกทันที แต่ก็ต้องชะงักก่อนที่จะหยิบอะไร เพราะนึกได้ว่าไม่มีเงินเนื่องจากกระเป๋าสัมภาระหล่นหายไปหมดตอนหลงป่า(T_T) จึงพากันนั่งลงอย่างสลด เจนนี่อดสงสารคินไม่ได้ก็เลยบอกว่าจะเลี้ยงเองเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยทุกคนไว้จากกระสุน ทั้งสองคนถึงกลับมาร่าเริงอีกครั้งและเลือกหยิบอาหารได้ตามใจชอบ Ferrickไม่รู้ว่าอาหารอะไรเป็นอะไรจึงให้เฟลย์เรียช่วยเลือกให้ทั้งหมด ก่อนที่ทุกคนจะมาจ่ายตังค์ที่เคาร์เตอร์ เจนนี่มีปัญหานิดหน่อย เนื่องจากมีเงินไม่พอที่จะจ่ายให้คินกับzaionicเพราะทั้งคู่เล่นเหมามาเกือบครึ่งร้าน FerrickกับKeiจึงออกเงินช่วย แล้วทุกคนก็พากันออกมาจากร้านเพื่อกลับไปที่โรงแรม..



                \"เย้ๆ ที่นี่ผมจะได้กินให้อิ่มเต็มที่ได้ซะที(^_^)\"คินพูดด้วยความดีใจยิ้มแก้มปริ ขณะถือถุงใส่อาหารที่ใหญ่กว่าตัวเองเกือบ3เท่า



                \"นี่ ที่ผ่านมาเรานะยังกินไม่อิ่มอีกเหรอ\"เจนนี่ถาม เธอไม่สนใจเรื่องอายุของคินเท่าไหร่นัก เพราะยังไงๆก็รู้สึกว่าคินเหมือนเด็กมากกว่า จึงใช้คำพูดแบบผู้ใหญ่พูดกับเด็ก



                \"ครับผม ตอนอยู่ในป่า ผมกลัวว่าคุณzaionicจะกินไม่อิ่มก็เลยแค่ชิมๆเท่านั้นเองครับ\"คินตอบ



                \"(ไอ้การกินที่เหมือนเอาของยัดใส่กระสอบนั่นเรียกว่าชิมรึ-_-)\"ทั้งKeiและFerrickคิดเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ใกล้ๆกับที่Ferrickยืนอยู่ ควันไฟพลุ่งพลวยขึ้นท้องฟ้าจากจุดที่มีเสียงนั้น พร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวกอย่างตื่นกลัวของชาวบ้านดังมาเป็นทอดๆ จนมีชายคนนึงวิ่งออกมาจากมุมตึกในสภาพโชกเลือดเต็มตัว กล่าวด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวว่า



                \"แย่แล้ว! ใครก็ได้ไปตามเจ้าหน้าที่มาเร็ว มีปีศาจที่มี4แขน อาละวาด มัน..คว้าก!\"ไม่ทันขาดคำ ปีศาจตัวนั้นก็กระโดดมาขย้ำเขาต่อหน้าต่อตาFerrick ก่อนที่จะจ้องดวงตาอันมืดมิดของมันมาที่เขา ใช่แล้ว มันคือDarkSlaveนั่นเอง!  

                

                                      จบบทที่14

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×