ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Dark Agent
บทที่10:Dark Agent
............รถA.G.Cแล่นออกมาจากตัวเมืองได้สักพักก็มาถึง ชายแดนประเทศบาบาเรียอย่างแท้จริงในช่วงเย็น อากาศเริ่มหนาวขึ้นมาก รอบๆบริเวณมีทั้งห้างร้านแผงลอยขายของเกะกะทั้ง2ฝั่งถนน ผู้คนแถวนี้ล้วนมีสีหน้าหมองคล้ำบ้างก็บาดเจ็บเต็มไปด้วยแผลร้องโอดโอย แต่งกายด้วยผ้าคลุมโทรมๆอยู่รวมกันอย่างแออัด พวกเขาคงจะเป็นคนที่ลี้ภัยมาจากบาบาเรียที่กำลังมีสงครามกลางเมืองแน่ๆ Ferrickคิด เขารู้เรื่องราวสงครามที่เกิดขึ้นในบาบาเรียระหว่างที่พูดคุยกับกับKeiในรถ ปากทางเข้าประเทศบาบาเรียมีด่านตรวจสอบคนเข้าเมือง Ferrickมองผ่านกระจกรถไปเห็นกำแพงสีเทาขนาดมหึมาสูงไม่ต่ำกว่า30เมตร ยาวครอบคลุมเป็นระยะทางไกลมาก บนกำแพงมีช่องเอาไว้สำหรับให้ทหารเดินตรวจตราเหมือนกำแพงเมืองจีน ทหารแต่ละคนมีหน้าตาเหมือนชาวจีนมากแต่งกายด้วยชุดเกราะที่เป็นโลหะชิ้นเล็กเย็บรวมกันแบบทหารจีนโบราณแต่ถือปืนที่มีรูปร่างยาวคล้ายทวนติดมีดแหลมคมที่ปลายปืนเอาไว้ มีประตูเข้าเมืองบานใหญ่ที่เลื่อนลงจมหายไปในพื้นได้อยู่ในกำแพง ที่Ferrickสนใจเป็นพิเศษก็คือหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนคนสูงราวๆ8-9เมตร มีสีเขียวเหมือนชุดทหารถือปืนกระบอกใหญ่ ยืนอยู่4ตัวตรงทางเข้าประตู ทำให้เขาแปลกใจมากที่เห็นของแบบนี้ในโลกที่น่าจะเป็นแฟนตาซี
............\"(อะไรกัน!มีกระทั่งหุ่นยนต์ด้วยเหรอ)เอ่อ Keiไอ้นั้นนะมันหุ่นยนต์จริงๆเหรอ\"FerrickถามKei หลังจากที่พูดคุยกันมานานจนสนิทกันKeiขอร้องว่าให้เรียกชื่อกันตรงๆและใช้คำพูดแบบเพื่อนกันดีกว่าเพื่อความสะดวก รวมทั้งเจนนี่ด้วย
............\"ใช่ ของจริงแน่นอน มันเรียกว่าArmorSuitเป็นอาวุธที่ทางแอนโทคอบเปอเรชั่น(บริษัทของตระกูลแอนโทเชียส)ส่งมาขายในบาบาเรียนะ เพราะว่าในประเทศบาบาเรียมีกำลังคนด้านจอมเวทย์อยู่น้อย จึงต้องหาอาวุธหนักแบบนี้มาใช้แทน\"Keiตอบ รถA.G.Cจอดตรงหน้าทางเข้า แล้วMahoroยื่นก็บัตรบางอย่างขนาดเล็กๆเท่าฝ่ามือ ไปให้ทหารคนนึงซึ่งน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่คนนั้นรับบัตรเอามาเสียบที่ปลอกแขนสีเงินมีหน้าจอกับปุ่มสีต่างๆซึ่งสวมอยู่แขนซ้าย สักพักก็พูดอะไรกับMahoroนิดหน่อยก่อนจะส่งบัตรคืนมาให้ แล้วMahoroก็เดินกลับมาที่รถ เป็นจังหวะเดียวกับที่เจนนี่เปิดประตูลงจากรถ
............\"มีอะไรเหรอ ถ้าจะเข้าห้องน้ำนะ รอให้เข้าเมืองก่อนดีกว่าแถวนี้ไม่ปลอดภัยหรอก\"Mahoroบอกห้วนๆก่อนFerrickกับKeiจะถามเจนนี่
............\"เปล่าค่ะ ขอเวลาสักครู่ให้ฉันรักษาผู้คนที่บาดเจ็บแถวนี้ก่อนนะคะ\"แล้วเจนนี่ก็รีบเดินไปยังกลุ่มคนที่บาดเจ็บ โดยที่FerrickกับKeiเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่กลางฝูงชนแล้วยกมือขึ้นประสานกลางอก หลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิ
............\"เราเคยได้ยินว่าเธอเป็นนักใช้มนต์เพลงด้านการรักษามาจากคุณลูดอร์ฟ มันเป็นOsหรือเวทย์มนต์ที่เธอฝึกฝนมาเหรอ\"FerrickกระซิบถามKeiเบาๆขณะที่เจนนี่ยังหลับตาอยู่
............\"ในกรณีของเจนนี่เป็นOsนะ มนต์เพลงที่ใช้รักษาทั่วๆไปนะอย่างเก่งก็ทำได้แค่เร่งพลังในการฟื้นฟูบาดแผลให้เร็วขึ้น ผิดกับพลังของเธอที่ท่านOiLเรียกว่าSong of Heavenมันสามารถรักษาได้ทันทีเหมือนกับเวทย์Healของนักบวชที่ใช้รักษาแผลให้คนๆเดียว แต่พลังของเธอรักษาเป็นกลุ่มได้เชียวนะ\"เมื่อKeiพูดจบ เจนนี่ก็ลืมตาขึ้นแล้วเริ่มร้องเพลงช้าๆ เสียงของเธอยังคงไพเราะเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว Ferrickรู้สึกถึงกระแสพลังที่อบอุ่นห่อหุ้มอยู่รอบๆตัวเขา พวกชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บบาดแผลเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่อยู่แถวนั้นทั้งหมดค่อยๆเดินมารวมกันรอบตัวเธอโดยไม่ได้นัดหมาย ผู้หญิงบางคนที่มีลูกร้องไห้ออกมาอย่างยินดี เมื่อลูกๆที่ป่วยหนักใกล้ตายเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น เจนนี่ร้องเพลงอยู่นานจนผู้คนที่บาดเจ็บหายกันจนหมด เธอถึงหยุดร้องแล้วฟุบลงไป ดีที่Ferrickคว้าตัวเธอไว้ทันก่อนที่เธอจะถึงพื้น เจนนี่หมดสติไปแล้ว
............\"ทำไมเป็นอย่างนี้ละO_o\"Ferrickถาม ตอนนี้เขาอุ้มเจนนี่ไว้แล้วรีบพาเธอกลับมาที่รถ พวกชาวบ้านต่างคุกเข่าลงขอบคุณเธอที่หมดสติไปแล้ว ทั้งน้ำตาว่า
............\"โอ้ ขอบคุณมากท่านนักบุญ ขอบคุณมากT_T\"พอFerrickพามาถึงรถKeiก็เล่าให้ฟังเรื่องข้อเสียของOSเธอ
............\"ถ้าใช้S.O.Hแล้วมันจะดึงพลังเวทย์ในตัวเธอไปตามปริมาณของการรักษา ปกติก็แค่หน้ามืดนิดหน่อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้พลังนาน
ขนาดนี้ เจนนี่ได้ยินฉันหรือเปล่า\"Keiมีท่าทีกังวลไม่แพ้Ferrick Mahoroเดินไปค้นของในห้องคนขับสักพักก็เดินมาหาพวกเขา แล้วยื่นขวดแก้วเล็กๆมีน้ำสีฟ้ามาให้
............\"เอานี้ให้เธอดื่มก่อน มันเป็นน้ำยาสำหรับเติมพลังเวทย์ในร่างกายให้เป็นปกติ\"Mahoroบอก Ferrickรีบรับมาและเอาให้เจนนี่ดื่ม แต่เธอยังหมดสติอยู่จึงกลืนน้ำยาลงไปไม่ได้
............\"แย่แล้ว!เธอดื่มไม่ได้เลย ทำไงดี\"Ferrickยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น เฟลย์เรียนึกอะไรออกจึงพูดว่า
............\"ไม่เป็นไรคะคุณชาย เฟลย์เรียมีวิธีอยู่คะ\"แล้วเธอก็หยิบขวดน้ำยามาดื่มแล้วอมไว้ ก่อนที่จะประกบริมฝีปากกับเจนนี่เพื่อให้เธอกลืนได้
............\"(อุ๊!O_oต้องทำแบบนี้เลยรึ)\"Ferrickคิด แต่มันก็ได้ผล ไม่นานอาการของเจนนี่ก็ดีขึ้นเธอเริ่มได้สติและลืมตามองทุกคนที่เป็นห่วงเธออยู่แล้วเธอก็หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนเบาๆ ก่อนจะขอโทษจากนั้นก็ถามถึงกลุ่มคนที่เธอรักษา
...........\"แฮะ แฮะ(^_^\") ขอโทษทีนะคะที่ทำให้เป็นห่วง ไม่นึกว่าว่าจะใช้พลังไปเยอะขนาดนี้ แล้วคนที่บาดเจ็บละ หายกันหมดหรือยัง\"พอพูดจบก็ไอออกมานิดหน่อย
............\"ทุกคนหายกันหมดแล้วละ แถมยังขอบคุณเจนนี่อีกด้วยนะ\"Keiตอบ Mahoroเห็นเจนนี่ค่อยยังชั่วขึ้นก็โล่งใจ แต่ยังเก็บท่าทางเอาไว้ บอกกับทุกคนว่า
............\"ถ้าเป็นปกติดีแล้วก็จะออกเดินทางต่อละ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้อีกนะ\"พูดจบก็ปิดประตูรถเดินไปขึ้นห้องคนขับแล้วขับเข้าประตูเมืองบาบาเรียไป...
............A.G.Cแล่นมาเรื่อยๆตามถนนที่เป็นลูกรัง ภูมิประเทศโดยรอบของบาบาเรียเป็นป่ารกทึบ อยู่ทั้ง2ข้างทางเหมือนกับป่าที่Ferrickเข้ามาในGDLเป็นครั้งแรก ไม่มีบ้านของผู้คนให้เห็นเลยหลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้ว เนื่องจากFerrickไม่มีนาฬิกา แต่ก็พอจะกะเวลาตอนนี้ได้คร่าวๆจากความมืดว่าน่าจะประมาณ1ทุ่มเศษๆ  อากาศหนาวเย็นขึ้นมาก ทุกคนในห้องโดยสารห่มผ้าห่มหนาๆที่มีเก็บไว้ใต้เบาะ ตอนนี้เปิดไฟที่อยู่บนเพดานในรถให้แสงสว่างไว้เล็กน้อย เจนนี่ยังคงหลับอยู่บนตักเฟลย์เรียด้วยความเพลีย หลังจากที่เธอบอกกับทุกคนให้สบายใจเรื่องที่ตัวเองใช้OSมากไป KeiกับFerrickไม่ได้พูดอะไรกันอีก เพราะไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเจนนี่  ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังมาจากที่ไกลๆหลายครั้ง
............\"(อะไรนะ! เขารบกันใกล้ๆแถวนี้รึ)\"Ferrickคิด เป็นจังหวะเดียวกับที่Mahoroพูดผ่านไมค์เสียงไม่ดังมากนักมายังด้านหลัง
............\"ไม่ต้องตกใจไปหรอก ระยะการสู้รบห่างจากที่นี้ไป4-5กิโลเมตร และA.G.Cคันนี้มีระบบEnergyShield(โล่พลังงาน)ที่กันได้กระทั่งปืนใหญ่พิสัยไกล ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร อีกแค่14กิโลเมตรก็จะถึงที่พักที่มีการคุ้มกันหนาแน่นแล้ว\"จากนั้นเขาก็ปิดเสียง แล้วขับต่อไปจนถึงที่พักที่เขาว่า..
............\"นี่นะเหรอครับที่พักที่มีการคุ้มกันดี\"Keiพูดเป็นคนแรกที่ลงมาจากรถ ที่ๆเขามองเห็นด้วยแสงไฟจากสปอตไลท์บนรถ น่าจะเคยเป็นบ้านพักหรืออะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้มันมีสภาพเป็นแค่กองหินพังๆ กับเศษไม้ไหม้ๆมานานแล้วเท่านั้น Ferrickเองไม่เคยไปในสนามรบก็ยังรู้ได้ว่า นี้ต้องเกิดจากการโจมตีด้วยอาวุธสงครามแน่ๆ Mahoroคงจะไม่พอใจแน่ที่บ้านพักซึ่งเขาคิดว่าน่าจะปลอดภัยอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่เขายังเก็บอาการได้ดีเช่นเคย ก่อนที่จะบอกทุกคนว่า
............\"เราคงต้องกางเต็นท์พักแทนแล้ว\"Mahoroกล่าวแค่นี้ แล้วก็เดินไปที่รถ Ferrickค้านขึ้นมาทันที
............\"เดี๋ยวก่อนนะครับ ถ้าผมไม่สับสนอะไรแถวนี้มีการสู้รบอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าไงเราไปหาที่พักเอาข้างหน้าจะไม่ดีกว่าหรือครับ\"Ferrickกล่าว ลำพังเขากับKeiไม่เท่าไหร่หรอก ฉุกเฉินขึ้นมาใช้Osของตัวเองเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคือเจนนี่ที่หลับอยู่กับเฟลย์เรียมากกว่า
............\"ฉันรู้ว่ามีการรบอยู่แถวนี้ จึงบอกว่าเราควรสร้างเต็นท์พักแถวนี้จะดีกว่า หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เราที่สุดตอนนี้คือหมู่บ้านฉางอยู่ไกลจากที่นี้ไป146กิโลเมตร กว่าเราจะไปถึงอาจโดนลูกหลงของอาวุธที่ระดมยิงใส่กันอยู่ และเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมอนสเตอร์ที่หากินกลางคืน ถึงรถA.G.Cจะมีเกราะดีแค่ไหนถ้าถูกโจมตีขณะเคลื่อนที่อยู่ละก็ พลังป้องกันจะตกไป20-30%เลยทีเดียว ดังนั้นการหาภูมิประเทศดีๆแถวนี้ตั้งเต๊นท์พักจึงปลอดภัยที่สุดแล้ว เชื่อใจในการคุ้มครองของMahoroผู้นี้เถอะ\"Mahoroพูดอย่างสุภาพเป็นครั้งแรก Ferrickนั้นพึ่งจะเจอกับชายผู้นี้ยังไม่ทันข้ามวัน กลับรู้สึกเชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างบอกไม่ถูก Keiก็รู้สึกแบบเดียวกันทั้ง2จึงไม่คัดค้านอีก และขึ้นรถไปโดยดี Mahoroขับพาพวกเขาผ่านซากที่พักเข้าไปในป่าลึกพอสมควรจนเจอที่ราบที่เหมาะสมจึงจอดยาน และปรับโหมดเปลี่ยนเป็นเต็นท์ รถA.G.Cขยายโครงเหล็กแผ่ออกไปด้านข้างเป็นรูปโดม และมีขนาดใหญ่ขึ้นจนมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว10เมตรสูง3เมตร กลายเป็นบ้านเล็กๆหลังนึงไปเลยทีเดียว แสงสว่างจากหลอดไฟภายในA.G.Cเพิ่มมากขึ้น แม้แต่เบาะที่เจนนี่นอนอยู่ก็ยังปรับโครงสร้างอย่างช้าๆให้เป็นเตียงได้ด้วย Ferrickอดทึ่งไม่ได้กับเทคโนโลยี่ที่ล้ำยุคขนาดนี้
............\"อาหารการกินไม่ต้องเป็นห่วง ที่ตู้สัมภาระมีสำรองไว้เยอะเหลือเฟือ\"Mahoroบอกแล้วเดินไปที่ผนังด้านนึงซึ่งเคยเป็นหลังรถ กดปุ่มที่เป็นรูปฝ่ามือ ผนังก็เลื่อนลงเป็นช่องเล็กๆแล้วเขาก็หอบเอาถุงอาหารสำเร็จรูป เช่น แซนวิช เบอร์เกอร์ฯลฯและขวดน้ำผลไม้มาวางไว้ตรงหน้าพวกเขา ก่อนจะนั่งลงกิน FerrickและKeiเริ่มหิวเหมือนกันจึงลงมือกินด้วยพร้อมทั้งชวนเฟลย์เรียที่ดูแลเจนนี่อยู่มากินเช่นกัน
............\"แหม ใจร้ายจังเลยนะคะ กินข้าวก็ไม่ปลุกเราเลย\"เจนนี่ลืมตาขึ้น พูดหยอกเล่นเสียงอ่อยๆ ทุกคนดีใจมากที่เธอฟื้นแล้ว
............\"เจนนี่ เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ย\"Keiถามเป็นคนแรกด้วยความห่วงใย
............\"ค่อยยังชั่วขึ้นยังเจนนี่\"Ferrickถามด้วย เจนนี่ค่อยๆลุกขึ้นจากตักเฟลย์เรียยืนขึ้นบนเตียง ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
............\"ไม่เป็นไรแล้วละ ขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วงจ๊ะ เราปกติดีแล้ว ดูสิ\"เจนนี่บอก แล้วพยายามชูไม้ชูมือขึ้นเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนสบายดี แต่มันทำให้เจนนี่หน้ามืดจนเอนลงไปอีก Keiต้องไปพยุงตัวเธอไว้ก่อนจะล้มไปอีก
............\"ไม่ไหวก็อย่าฝืนสิ\"Keiเอ็ดเธอเบาๆ แล้วประคองเธอลงมานั่งข้างเตียงเพื่อกินข้าวกับทุกคน หลังจากกินเสร็จและเก็บกวาดกันหมดแล้ว Mahoroก็ขอตัวออกไปตรวจตราข้างนอกก่อน แล้วเดินไปที่ประตูที่เคยเป็นแบบยกขึ้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบเลื่อนไปด้านข้าง พร้อมกับอาวุธที่เอามาจากห้องคนขับเป็นดาบอีก2เล่มเหน็บไว้เอวทั้ง2ข้าง และปืน2กระบอกใส่ไว้ในเสื้อ โดยสั่งห้ามทุกคนออกมาข้างนอกเด็ดขาดและไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายเพราะตอนนี้A.G.Cเปิดโล่พลังงานไว้แล้วจะเปิดจากด้านนอกได้ต้องใช้รหัส จากนั้นเขาก็กดเปิดประตูเดินออกไป
............\"คุณMahoroนี่เป็นคนดีจริงๆนะคะ ทั้งๆที่เจนนี่ก่อเรื่องโดยพลการแล้วแท้ๆก็ยังให้ยารักษากับเจนนี่\"เจนนี่กล่าวอย่างชื่นชม
............\"เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วนี่ที่ต้องคุ้มครองพวกเรา เราว่าเจนนี่อย่าพึ่งเชื่อใจเขาง่ายๆจะดีกว่านะ ตอนนี้เธอนอนพักผ่อนก่อนเถอะ\"Keiบอก เขายังไม่ค่อยชอบนิสัยของMahoroที่ดูหยิ่งๆเท่าไหร่นัก ผิดกับFerrickที่เริ่มรู้สึกแบบเดียวกับเจนนี่ ว่าโดยเนื้อแท้แล้วMahoroไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เมื่อลองนึกถึงการกระทำของเขาไม่นับการพูดจา ก็จัดได้ว่าเป็นคนที่ดีมากคนนึง แต่เขาไม่อยากจะโต้แย้งกับKeiนักจึงไม่ได้พูดอะไร ทุกคนพากันเข้านอนโดยเจนนี่นอนกับเฟลย์เรีย KeiกับFerrickนอนด้วยกันเหลือเตียงไว้อีก1อันสำหรับMahoroเมื่อเขากลับมา.....
............ห่างออกไปราว7กิโลเมตรจากที่พักของพวกFerrickมีชายหนุ่มคนนึงกำลังจะตาย เขาถูกยิงถึง13นัดเขาที่แขนขาและลำตัว ชายผู้นี้เป็นหัวหน้าหน่วยทหารหน่วยนึงของฝ่ายปฏิวัติที่ต่อต้านการปกครองอันไม่เป็นธรรมของรัฐบาลบาบาเรีย เขาถูกทรยศโดยลูกน้องที่เขาไว้ใจที่สุดแลกกับเงินเพียงน้อยนิด  หน่วยของเขาถูกทำลาย ทหารใต้บังคับบัญชาที่เชื่อมั่นในตัวเขาถูกฆ่าตายจนหมด แม้แต่คนรักของเขาที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ก็ถูกพวกทหารรัฐบาลข่มขืนแล้วฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เขาเองถูกพวกมันยิงจนตกมาที่ใต้หน้าผาแห่งนี้ และถูกเข้าใจว่าตายแล้วจึงไม่สนใจค้นหา ทว่าเขายังอยู่แต่คงอีกไม่นาน เลือดของเขาไหลออกมามากมายจนไม่น่าเชื่อว่าทำไมเขายังคงมีชีวิตได้ ความแค้น และชิงชังเท่านั้นละมั้งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเขาเอาไว้
............\"(ไม่ฉันยังตายไม่ได้ ฉันต้องการล้างแค้น พวกมันต้องชดใช้)\"ชายผู้นี้คิด ทั้งที่ขยับร่างกายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย นอนรอคอยความตายอย่างสิ้นหวัง
............\"(ใครก็ได้ พระเจ้า ไม่สิ ปีศาจร้ายก็ได้ ช่วยให้ฉันได้แก้แค้นพวกมันที)\"ชายคนนี้ภาวนา เหมือนกับบางอย่างจะรับรู้ มีคนที่พันหน้าด้วยผ้าพันแผลผมยาวสีเขียวตาสีแดง ใส่ผ้าคลุมแบบเสื้อกราวด์ของหมอแต่เป็นสีดำสนิท สวมหมวกที่เป็นสีดำเช่นกัน ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆเขาจากเงามืดแสยะยิ้มแล้วพูดเรียบๆว่า
............\"น่าสงสารจังเลยนะครับ ถูกเพื่อนทรยศ พวกพ้องตายหมด แถมคนรักยังถูกฆ่าแบบโหดเหี้ยมด้วย แย่จริงๆเลยนะครับ\"ผู้ที่โผล่มาจากความมืดกล่าว
............\"(ใคร! โผล่มาจากที่ไหนกัน ทำไมรู้เรื่องที่เกิดกับเรา)\"ชายที่ใกล้ตายสงสัย เหมือนกับว่ามันจะอ่านความคิดเขาออก คนลึกลับนั้นรีบแนะนำตัวทันที
............\"โอ๊ะ เสียมารยาทจริงๆเลยผมเนี่ย(^_^) ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย ผมชื่อRyusei Hellmaniaเป็นDarkAgent(ตัวแทนแห่งความมืด)หมายเลข7ครับคุณเซียง\"Ryuseiแนะนำตัวกับชายใกล้ตายที่รู้ว่าชื่อเซียง พร้อมกับยื่นนามบัตรที่เป็นการ์ดสีดำมีอักษรสีเงินสลักไว้มาต่อหน้าเซียง แต่เซียงไร้เรี่ยวแรงที่จะรับและไม่สนใจด้วย Ryuseiจึงเก็บมาไว้ในเสื้อตามเดิม ก่อนจะพูดว่า
............\"มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมคิดว่าคุณคงจะยังไม่อยากตายใช่มั้ยครับ ทั้งที่ยังไม่ได้แก้แค้น(^_^)\"Ryuseiถาม
............\"(ใช่ฉันยังไม่อยากตาย)\"เซียงคิดแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะเลือดทะลักเต็มคอหอยของเขาแล้ว
............\"ผมมีข้อเสนอดีๆจะมอบให้ครับ ผมสามารถจะทำให้คุณมีชีวิตต่อไปได้สักพักและมีพลังเพียงพอที่ให้คุณล้างแค้นได้สนใจมั้ยครับ\"Ryuseiกล่าว
............\"(ถ้ามันทำได้จริงๆแล้วละก็แม้แต่วิญญาณฉันก็ขอมอบให้)\"เซียงพูดในใจ ราวกับอ่านใจได้อีกครั้งRyuseiหยิบเอาผลึกสีม่วงทรงแหลมขนาดเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อยมาวางไว้บนมือ แล้วคุกเข่าลงยื่นมันมาต่อหน้าเซียง
............\"ถ้าสนใจละก็ จับมือข้างนี้ของผมไว้แล้วพูดว่า\"ข้าขอมอบทุกสิ่งที่เป็นของข้าแก่ผู้เป็นตัวแทนแห่งความมืด\"จากนั้นคุณก็จะกลายเป็นDarkSlave(ทาสแห่งความมืด)ที่มีอำนาจจะลงทัณฑ์พวกมันได้ทั้งหมด\"Ryuseiบอก เซียงไม่รู้ว่าDarkAgentคือใคร DarkSlaveคืออะไร แต่เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างในคำพูดของชายผู้นี้ว่านี่เป็นความจริง เซียงจึงไม่ลังเลใจที่จะรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายจับมือที่วางผลึกนั้นไว้ กระอักเลือดออกมาแล้วพูดว่า
............\"ขะ..ข้าขอมอบทุกสิ่งที่เป็นของข้า แก่ผู้เป็นตัวแทนแห่งความมืด\"แล้วผลึกนั้นก็เคลื่อนไหวเหมือนสิ่งมีชีวิตทะลุผ่านฝ่ามือของเซียงวิ่งผ่านเส้นเลือดเข้าไปสู่หัวใจ ทำให้ร่างกายของเซียงเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว พลังอันมหาศาลเอ่อล้นไปทั่วร่าง Ryuseiยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วบอกว่า
............\"ขอบคุณที่ใช้บริการ ขอให้สนุกกับการล้างแค้นนะครับ(^_^) \"Ryoseiกล่าว ก่อนจะหายไปในเงามืดอย่างเงียบเชียบ...
                          จบบทที่10
............รถA.G.Cแล่นออกมาจากตัวเมืองได้สักพักก็มาถึง ชายแดนประเทศบาบาเรียอย่างแท้จริงในช่วงเย็น อากาศเริ่มหนาวขึ้นมาก รอบๆบริเวณมีทั้งห้างร้านแผงลอยขายของเกะกะทั้ง2ฝั่งถนน ผู้คนแถวนี้ล้วนมีสีหน้าหมองคล้ำบ้างก็บาดเจ็บเต็มไปด้วยแผลร้องโอดโอย แต่งกายด้วยผ้าคลุมโทรมๆอยู่รวมกันอย่างแออัด พวกเขาคงจะเป็นคนที่ลี้ภัยมาจากบาบาเรียที่กำลังมีสงครามกลางเมืองแน่ๆ Ferrickคิด เขารู้เรื่องราวสงครามที่เกิดขึ้นในบาบาเรียระหว่างที่พูดคุยกับกับKeiในรถ ปากทางเข้าประเทศบาบาเรียมีด่านตรวจสอบคนเข้าเมือง Ferrickมองผ่านกระจกรถไปเห็นกำแพงสีเทาขนาดมหึมาสูงไม่ต่ำกว่า30เมตร ยาวครอบคลุมเป็นระยะทางไกลมาก บนกำแพงมีช่องเอาไว้สำหรับให้ทหารเดินตรวจตราเหมือนกำแพงเมืองจีน ทหารแต่ละคนมีหน้าตาเหมือนชาวจีนมากแต่งกายด้วยชุดเกราะที่เป็นโลหะชิ้นเล็กเย็บรวมกันแบบทหารจีนโบราณแต่ถือปืนที่มีรูปร่างยาวคล้ายทวนติดมีดแหลมคมที่ปลายปืนเอาไว้ มีประตูเข้าเมืองบานใหญ่ที่เลื่อนลงจมหายไปในพื้นได้อยู่ในกำแพง ที่Ferrickสนใจเป็นพิเศษก็คือหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนคนสูงราวๆ8-9เมตร มีสีเขียวเหมือนชุดทหารถือปืนกระบอกใหญ่ ยืนอยู่4ตัวตรงทางเข้าประตู ทำให้เขาแปลกใจมากที่เห็นของแบบนี้ในโลกที่น่าจะเป็นแฟนตาซี
............\"(อะไรกัน!มีกระทั่งหุ่นยนต์ด้วยเหรอ)เอ่อ Keiไอ้นั้นนะมันหุ่นยนต์จริงๆเหรอ\"FerrickถามKei หลังจากที่พูดคุยกันมานานจนสนิทกันKeiขอร้องว่าให้เรียกชื่อกันตรงๆและใช้คำพูดแบบเพื่อนกันดีกว่าเพื่อความสะดวก รวมทั้งเจนนี่ด้วย
............\"ใช่ ของจริงแน่นอน มันเรียกว่าArmorSuitเป็นอาวุธที่ทางแอนโทคอบเปอเรชั่น(บริษัทของตระกูลแอนโทเชียส)ส่งมาขายในบาบาเรียนะ เพราะว่าในประเทศบาบาเรียมีกำลังคนด้านจอมเวทย์อยู่น้อย จึงต้องหาอาวุธหนักแบบนี้มาใช้แทน\"Keiตอบ รถA.G.Cจอดตรงหน้าทางเข้า แล้วMahoroยื่นก็บัตรบางอย่างขนาดเล็กๆเท่าฝ่ามือ ไปให้ทหารคนนึงซึ่งน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่คนนั้นรับบัตรเอามาเสียบที่ปลอกแขนสีเงินมีหน้าจอกับปุ่มสีต่างๆซึ่งสวมอยู่แขนซ้าย สักพักก็พูดอะไรกับMahoroนิดหน่อยก่อนจะส่งบัตรคืนมาให้ แล้วMahoroก็เดินกลับมาที่รถ เป็นจังหวะเดียวกับที่เจนนี่เปิดประตูลงจากรถ
............\"มีอะไรเหรอ ถ้าจะเข้าห้องน้ำนะ รอให้เข้าเมืองก่อนดีกว่าแถวนี้ไม่ปลอดภัยหรอก\"Mahoroบอกห้วนๆก่อนFerrickกับKeiจะถามเจนนี่
............\"เปล่าค่ะ ขอเวลาสักครู่ให้ฉันรักษาผู้คนที่บาดเจ็บแถวนี้ก่อนนะคะ\"แล้วเจนนี่ก็รีบเดินไปยังกลุ่มคนที่บาดเจ็บ โดยที่FerrickกับKeiเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะหยุดอยู่กลางฝูงชนแล้วยกมือขึ้นประสานกลางอก หลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิ
............\"เราเคยได้ยินว่าเธอเป็นนักใช้มนต์เพลงด้านการรักษามาจากคุณลูดอร์ฟ มันเป็นOsหรือเวทย์มนต์ที่เธอฝึกฝนมาเหรอ\"FerrickกระซิบถามKeiเบาๆขณะที่เจนนี่ยังหลับตาอยู่
............\"ในกรณีของเจนนี่เป็นOsนะ มนต์เพลงที่ใช้รักษาทั่วๆไปนะอย่างเก่งก็ทำได้แค่เร่งพลังในการฟื้นฟูบาดแผลให้เร็วขึ้น ผิดกับพลังของเธอที่ท่านOiLเรียกว่าSong of Heavenมันสามารถรักษาได้ทันทีเหมือนกับเวทย์Healของนักบวชที่ใช้รักษาแผลให้คนๆเดียว แต่พลังของเธอรักษาเป็นกลุ่มได้เชียวนะ\"เมื่อKeiพูดจบ เจนนี่ก็ลืมตาขึ้นแล้วเริ่มร้องเพลงช้าๆ เสียงของเธอยังคงไพเราะเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว Ferrickรู้สึกถึงกระแสพลังที่อบอุ่นห่อหุ้มอยู่รอบๆตัวเขา พวกชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บบาดแผลเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่อยู่แถวนั้นทั้งหมดค่อยๆเดินมารวมกันรอบตัวเธอโดยไม่ได้นัดหมาย ผู้หญิงบางคนที่มีลูกร้องไห้ออกมาอย่างยินดี เมื่อลูกๆที่ป่วยหนักใกล้ตายเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น เจนนี่ร้องเพลงอยู่นานจนผู้คนที่บาดเจ็บหายกันจนหมด เธอถึงหยุดร้องแล้วฟุบลงไป ดีที่Ferrickคว้าตัวเธอไว้ทันก่อนที่เธอจะถึงพื้น เจนนี่หมดสติไปแล้ว
............\"ทำไมเป็นอย่างนี้ละO_o\"Ferrickถาม ตอนนี้เขาอุ้มเจนนี่ไว้แล้วรีบพาเธอกลับมาที่รถ พวกชาวบ้านต่างคุกเข่าลงขอบคุณเธอที่หมดสติไปแล้ว ทั้งน้ำตาว่า
............\"โอ้ ขอบคุณมากท่านนักบุญ ขอบคุณมากT_T\"พอFerrickพามาถึงรถKeiก็เล่าให้ฟังเรื่องข้อเสียของOSเธอ
............\"ถ้าใช้S.O.Hแล้วมันจะดึงพลังเวทย์ในตัวเธอไปตามปริมาณของการรักษา ปกติก็แค่หน้ามืดนิดหน่อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้พลังนาน
ขนาดนี้ เจนนี่ได้ยินฉันหรือเปล่า\"Keiมีท่าทีกังวลไม่แพ้Ferrick Mahoroเดินไปค้นของในห้องคนขับสักพักก็เดินมาหาพวกเขา แล้วยื่นขวดแก้วเล็กๆมีน้ำสีฟ้ามาให้
............\"เอานี้ให้เธอดื่มก่อน มันเป็นน้ำยาสำหรับเติมพลังเวทย์ในร่างกายให้เป็นปกติ\"Mahoroบอก Ferrickรีบรับมาและเอาให้เจนนี่ดื่ม แต่เธอยังหมดสติอยู่จึงกลืนน้ำยาลงไปไม่ได้
............\"แย่แล้ว!เธอดื่มไม่ได้เลย ทำไงดี\"Ferrickยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น เฟลย์เรียนึกอะไรออกจึงพูดว่า
............\"ไม่เป็นไรคะคุณชาย เฟลย์เรียมีวิธีอยู่คะ\"แล้วเธอก็หยิบขวดน้ำยามาดื่มแล้วอมไว้ ก่อนที่จะประกบริมฝีปากกับเจนนี่เพื่อให้เธอกลืนได้
............\"(อุ๊!O_oต้องทำแบบนี้เลยรึ)\"Ferrickคิด แต่มันก็ได้ผล ไม่นานอาการของเจนนี่ก็ดีขึ้นเธอเริ่มได้สติและลืมตามองทุกคนที่เป็นห่วงเธออยู่แล้วเธอก็หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนเบาๆ ก่อนจะขอโทษจากนั้นก็ถามถึงกลุ่มคนที่เธอรักษา
...........\"แฮะ แฮะ(^_^\") ขอโทษทีนะคะที่ทำให้เป็นห่วง ไม่นึกว่าว่าจะใช้พลังไปเยอะขนาดนี้ แล้วคนที่บาดเจ็บละ หายกันหมดหรือยัง\"พอพูดจบก็ไอออกมานิดหน่อย
............\"ทุกคนหายกันหมดแล้วละ แถมยังขอบคุณเจนนี่อีกด้วยนะ\"Keiตอบ Mahoroเห็นเจนนี่ค่อยยังชั่วขึ้นก็โล่งใจ แต่ยังเก็บท่าทางเอาไว้ บอกกับทุกคนว่า
............\"ถ้าเป็นปกติดีแล้วก็จะออกเดินทางต่อละ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้อีกนะ\"พูดจบก็ปิดประตูรถเดินไปขึ้นห้องคนขับแล้วขับเข้าประตูเมืองบาบาเรียไป...
............A.G.Cแล่นมาเรื่อยๆตามถนนที่เป็นลูกรัง ภูมิประเทศโดยรอบของบาบาเรียเป็นป่ารกทึบ อยู่ทั้ง2ข้างทางเหมือนกับป่าที่Ferrickเข้ามาในGDLเป็นครั้งแรก ไม่มีบ้านของผู้คนให้เห็นเลยหลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้ว เนื่องจากFerrickไม่มีนาฬิกา แต่ก็พอจะกะเวลาตอนนี้ได้คร่าวๆจากความมืดว่าน่าจะประมาณ1ทุ่มเศษๆ  อากาศหนาวเย็นขึ้นมาก ทุกคนในห้องโดยสารห่มผ้าห่มหนาๆที่มีเก็บไว้ใต้เบาะ ตอนนี้เปิดไฟที่อยู่บนเพดานในรถให้แสงสว่างไว้เล็กน้อย เจนนี่ยังคงหลับอยู่บนตักเฟลย์เรียด้วยความเพลีย หลังจากที่เธอบอกกับทุกคนให้สบายใจเรื่องที่ตัวเองใช้OSมากไป KeiกับFerrickไม่ได้พูดอะไรกันอีก เพราะไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเจนนี่  ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังมาจากที่ไกลๆหลายครั้ง
............\"(อะไรนะ! เขารบกันใกล้ๆแถวนี้รึ)\"Ferrickคิด เป็นจังหวะเดียวกับที่Mahoroพูดผ่านไมค์เสียงไม่ดังมากนักมายังด้านหลัง
............\"ไม่ต้องตกใจไปหรอก ระยะการสู้รบห่างจากที่นี้ไป4-5กิโลเมตร และA.G.Cคันนี้มีระบบEnergyShield(โล่พลังงาน)ที่กันได้กระทั่งปืนใหญ่พิสัยไกล ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร อีกแค่14กิโลเมตรก็จะถึงที่พักที่มีการคุ้มกันหนาแน่นแล้ว\"จากนั้นเขาก็ปิดเสียง แล้วขับต่อไปจนถึงที่พักที่เขาว่า..
............\"นี่นะเหรอครับที่พักที่มีการคุ้มกันดี\"Keiพูดเป็นคนแรกที่ลงมาจากรถ ที่ๆเขามองเห็นด้วยแสงไฟจากสปอตไลท์บนรถ น่าจะเคยเป็นบ้านพักหรืออะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้มันมีสภาพเป็นแค่กองหินพังๆ กับเศษไม้ไหม้ๆมานานแล้วเท่านั้น Ferrickเองไม่เคยไปในสนามรบก็ยังรู้ได้ว่า นี้ต้องเกิดจากการโจมตีด้วยอาวุธสงครามแน่ๆ Mahoroคงจะไม่พอใจแน่ที่บ้านพักซึ่งเขาคิดว่าน่าจะปลอดภัยอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่เขายังเก็บอาการได้ดีเช่นเคย ก่อนที่จะบอกทุกคนว่า
............\"เราคงต้องกางเต็นท์พักแทนแล้ว\"Mahoroกล่าวแค่นี้ แล้วก็เดินไปที่รถ Ferrickค้านขึ้นมาทันที
............\"เดี๋ยวก่อนนะครับ ถ้าผมไม่สับสนอะไรแถวนี้มีการสู้รบอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าไงเราไปหาที่พักเอาข้างหน้าจะไม่ดีกว่าหรือครับ\"Ferrickกล่าว ลำพังเขากับKeiไม่เท่าไหร่หรอก ฉุกเฉินขึ้นมาใช้Osของตัวเองเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคือเจนนี่ที่หลับอยู่กับเฟลย์เรียมากกว่า
............\"ฉันรู้ว่ามีการรบอยู่แถวนี้ จึงบอกว่าเราควรสร้างเต็นท์พักแถวนี้จะดีกว่า หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เราที่สุดตอนนี้คือหมู่บ้านฉางอยู่ไกลจากที่นี้ไป146กิโลเมตร กว่าเราจะไปถึงอาจโดนลูกหลงของอาวุธที่ระดมยิงใส่กันอยู่ และเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมอนสเตอร์ที่หากินกลางคืน ถึงรถA.G.Cจะมีเกราะดีแค่ไหนถ้าถูกโจมตีขณะเคลื่อนที่อยู่ละก็ พลังป้องกันจะตกไป20-30%เลยทีเดียว ดังนั้นการหาภูมิประเทศดีๆแถวนี้ตั้งเต๊นท์พักจึงปลอดภัยที่สุดแล้ว เชื่อใจในการคุ้มครองของMahoroผู้นี้เถอะ\"Mahoroพูดอย่างสุภาพเป็นครั้งแรก Ferrickนั้นพึ่งจะเจอกับชายผู้นี้ยังไม่ทันข้ามวัน กลับรู้สึกเชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างบอกไม่ถูก Keiก็รู้สึกแบบเดียวกันทั้ง2จึงไม่คัดค้านอีก และขึ้นรถไปโดยดี Mahoroขับพาพวกเขาผ่านซากที่พักเข้าไปในป่าลึกพอสมควรจนเจอที่ราบที่เหมาะสมจึงจอดยาน และปรับโหมดเปลี่ยนเป็นเต็นท์ รถA.G.Cขยายโครงเหล็กแผ่ออกไปด้านข้างเป็นรูปโดม และมีขนาดใหญ่ขึ้นจนมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว10เมตรสูง3เมตร กลายเป็นบ้านเล็กๆหลังนึงไปเลยทีเดียว แสงสว่างจากหลอดไฟภายในA.G.Cเพิ่มมากขึ้น แม้แต่เบาะที่เจนนี่นอนอยู่ก็ยังปรับโครงสร้างอย่างช้าๆให้เป็นเตียงได้ด้วย Ferrickอดทึ่งไม่ได้กับเทคโนโลยี่ที่ล้ำยุคขนาดนี้
............\"อาหารการกินไม่ต้องเป็นห่วง ที่ตู้สัมภาระมีสำรองไว้เยอะเหลือเฟือ\"Mahoroบอกแล้วเดินไปที่ผนังด้านนึงซึ่งเคยเป็นหลังรถ กดปุ่มที่เป็นรูปฝ่ามือ ผนังก็เลื่อนลงเป็นช่องเล็กๆแล้วเขาก็หอบเอาถุงอาหารสำเร็จรูป เช่น แซนวิช เบอร์เกอร์ฯลฯและขวดน้ำผลไม้มาวางไว้ตรงหน้าพวกเขา ก่อนจะนั่งลงกิน FerrickและKeiเริ่มหิวเหมือนกันจึงลงมือกินด้วยพร้อมทั้งชวนเฟลย์เรียที่ดูแลเจนนี่อยู่มากินเช่นกัน
............\"แหม ใจร้ายจังเลยนะคะ กินข้าวก็ไม่ปลุกเราเลย\"เจนนี่ลืมตาขึ้น พูดหยอกเล่นเสียงอ่อยๆ ทุกคนดีใจมากที่เธอฟื้นแล้ว
............\"เจนนี่ เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ย\"Keiถามเป็นคนแรกด้วยความห่วงใย
............\"ค่อยยังชั่วขึ้นยังเจนนี่\"Ferrickถามด้วย เจนนี่ค่อยๆลุกขึ้นจากตักเฟลย์เรียยืนขึ้นบนเตียง ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
............\"ไม่เป็นไรแล้วละ ขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วงจ๊ะ เราปกติดีแล้ว ดูสิ\"เจนนี่บอก แล้วพยายามชูไม้ชูมือขึ้นเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนสบายดี แต่มันทำให้เจนนี่หน้ามืดจนเอนลงไปอีก Keiต้องไปพยุงตัวเธอไว้ก่อนจะล้มไปอีก
............\"ไม่ไหวก็อย่าฝืนสิ\"Keiเอ็ดเธอเบาๆ แล้วประคองเธอลงมานั่งข้างเตียงเพื่อกินข้าวกับทุกคน หลังจากกินเสร็จและเก็บกวาดกันหมดแล้ว Mahoroก็ขอตัวออกไปตรวจตราข้างนอกก่อน แล้วเดินไปที่ประตูที่เคยเป็นแบบยกขึ้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบเลื่อนไปด้านข้าง พร้อมกับอาวุธที่เอามาจากห้องคนขับเป็นดาบอีก2เล่มเหน็บไว้เอวทั้ง2ข้าง และปืน2กระบอกใส่ไว้ในเสื้อ โดยสั่งห้ามทุกคนออกมาข้างนอกเด็ดขาดและไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายเพราะตอนนี้A.G.Cเปิดโล่พลังงานไว้แล้วจะเปิดจากด้านนอกได้ต้องใช้รหัส จากนั้นเขาก็กดเปิดประตูเดินออกไป
............\"คุณMahoroนี่เป็นคนดีจริงๆนะคะ ทั้งๆที่เจนนี่ก่อเรื่องโดยพลการแล้วแท้ๆก็ยังให้ยารักษากับเจนนี่\"เจนนี่กล่าวอย่างชื่นชม
............\"เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วนี่ที่ต้องคุ้มครองพวกเรา เราว่าเจนนี่อย่าพึ่งเชื่อใจเขาง่ายๆจะดีกว่านะ ตอนนี้เธอนอนพักผ่อนก่อนเถอะ\"Keiบอก เขายังไม่ค่อยชอบนิสัยของMahoroที่ดูหยิ่งๆเท่าไหร่นัก ผิดกับFerrickที่เริ่มรู้สึกแบบเดียวกับเจนนี่ ว่าโดยเนื้อแท้แล้วMahoroไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เมื่อลองนึกถึงการกระทำของเขาไม่นับการพูดจา ก็จัดได้ว่าเป็นคนที่ดีมากคนนึง แต่เขาไม่อยากจะโต้แย้งกับKeiนักจึงไม่ได้พูดอะไร ทุกคนพากันเข้านอนโดยเจนนี่นอนกับเฟลย์เรีย KeiกับFerrickนอนด้วยกันเหลือเตียงไว้อีก1อันสำหรับMahoroเมื่อเขากลับมา.....
............ห่างออกไปราว7กิโลเมตรจากที่พักของพวกFerrickมีชายหนุ่มคนนึงกำลังจะตาย เขาถูกยิงถึง13นัดเขาที่แขนขาและลำตัว ชายผู้นี้เป็นหัวหน้าหน่วยทหารหน่วยนึงของฝ่ายปฏิวัติที่ต่อต้านการปกครองอันไม่เป็นธรรมของรัฐบาลบาบาเรีย เขาถูกทรยศโดยลูกน้องที่เขาไว้ใจที่สุดแลกกับเงินเพียงน้อยนิด  หน่วยของเขาถูกทำลาย ทหารใต้บังคับบัญชาที่เชื่อมั่นในตัวเขาถูกฆ่าตายจนหมด แม้แต่คนรักของเขาที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ก็ถูกพวกทหารรัฐบาลข่มขืนแล้วฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เขาเองถูกพวกมันยิงจนตกมาที่ใต้หน้าผาแห่งนี้ และถูกเข้าใจว่าตายแล้วจึงไม่สนใจค้นหา ทว่าเขายังอยู่แต่คงอีกไม่นาน เลือดของเขาไหลออกมามากมายจนไม่น่าเชื่อว่าทำไมเขายังคงมีชีวิตได้ ความแค้น และชิงชังเท่านั้นละมั้งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเขาเอาไว้
............\"(ไม่ฉันยังตายไม่ได้ ฉันต้องการล้างแค้น พวกมันต้องชดใช้)\"ชายผู้นี้คิด ทั้งที่ขยับร่างกายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย นอนรอคอยความตายอย่างสิ้นหวัง
............\"(ใครก็ได้ พระเจ้า ไม่สิ ปีศาจร้ายก็ได้ ช่วยให้ฉันได้แก้แค้นพวกมันที)\"ชายคนนี้ภาวนา เหมือนกับบางอย่างจะรับรู้ มีคนที่พันหน้าด้วยผ้าพันแผลผมยาวสีเขียวตาสีแดง ใส่ผ้าคลุมแบบเสื้อกราวด์ของหมอแต่เป็นสีดำสนิท สวมหมวกที่เป็นสีดำเช่นกัน ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆเขาจากเงามืดแสยะยิ้มแล้วพูดเรียบๆว่า
............\"น่าสงสารจังเลยนะครับ ถูกเพื่อนทรยศ พวกพ้องตายหมด แถมคนรักยังถูกฆ่าแบบโหดเหี้ยมด้วย แย่จริงๆเลยนะครับ\"ผู้ที่โผล่มาจากความมืดกล่าว
............\"(ใคร! โผล่มาจากที่ไหนกัน ทำไมรู้เรื่องที่เกิดกับเรา)\"ชายที่ใกล้ตายสงสัย เหมือนกับว่ามันจะอ่านความคิดเขาออก คนลึกลับนั้นรีบแนะนำตัวทันที
............\"โอ๊ะ เสียมารยาทจริงๆเลยผมเนี่ย(^_^) ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย ผมชื่อRyusei Hellmaniaเป็นDarkAgent(ตัวแทนแห่งความมืด)หมายเลข7ครับคุณเซียง\"Ryuseiแนะนำตัวกับชายใกล้ตายที่รู้ว่าชื่อเซียง พร้อมกับยื่นนามบัตรที่เป็นการ์ดสีดำมีอักษรสีเงินสลักไว้มาต่อหน้าเซียง แต่เซียงไร้เรี่ยวแรงที่จะรับและไม่สนใจด้วย Ryuseiจึงเก็บมาไว้ในเสื้อตามเดิม ก่อนจะพูดว่า
............\"มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมคิดว่าคุณคงจะยังไม่อยากตายใช่มั้ยครับ ทั้งที่ยังไม่ได้แก้แค้น(^_^)\"Ryuseiถาม
............\"(ใช่ฉันยังไม่อยากตาย)\"เซียงคิดแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะเลือดทะลักเต็มคอหอยของเขาแล้ว
............\"ผมมีข้อเสนอดีๆจะมอบให้ครับ ผมสามารถจะทำให้คุณมีชีวิตต่อไปได้สักพักและมีพลังเพียงพอที่ให้คุณล้างแค้นได้สนใจมั้ยครับ\"Ryuseiกล่าว
............\"(ถ้ามันทำได้จริงๆแล้วละก็แม้แต่วิญญาณฉันก็ขอมอบให้)\"เซียงพูดในใจ ราวกับอ่านใจได้อีกครั้งRyuseiหยิบเอาผลึกสีม่วงทรงแหลมขนาดเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อยมาวางไว้บนมือ แล้วคุกเข่าลงยื่นมันมาต่อหน้าเซียง
............\"ถ้าสนใจละก็ จับมือข้างนี้ของผมไว้แล้วพูดว่า\"ข้าขอมอบทุกสิ่งที่เป็นของข้าแก่ผู้เป็นตัวแทนแห่งความมืด\"จากนั้นคุณก็จะกลายเป็นDarkSlave(ทาสแห่งความมืด)ที่มีอำนาจจะลงทัณฑ์พวกมันได้ทั้งหมด\"Ryuseiบอก เซียงไม่รู้ว่าDarkAgentคือใคร DarkSlaveคืออะไร แต่เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างในคำพูดของชายผู้นี้ว่านี่เป็นความจริง เซียงจึงไม่ลังเลใจที่จะรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายจับมือที่วางผลึกนั้นไว้ กระอักเลือดออกมาแล้วพูดว่า
............\"ขะ..ข้าขอมอบทุกสิ่งที่เป็นของข้า แก่ผู้เป็นตัวแทนแห่งความมืด\"แล้วผลึกนั้นก็เคลื่อนไหวเหมือนสิ่งมีชีวิตทะลุผ่านฝ่ามือของเซียงวิ่งผ่านเส้นเลือดเข้าไปสู่หัวใจ ทำให้ร่างกายของเซียงเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว พลังอันมหาศาลเอ่อล้นไปทั่วร่าง Ryuseiยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วบอกว่า
............\"ขอบคุณที่ใช้บริการ ขอให้สนุกกับการล้างแค้นนะครับ(^_^) \"Ryoseiกล่าว ก่อนจะหายไปในเงามืดอย่างเงียบเชียบ...
                          จบบทที่10
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น