ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ทำเลร้าน 100%
เก๊ก
เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ 'ยุนโบมี' ทนายความสาวฝีปากกล้าเงยหน้าขึ้นจากโน๊ตบุ๊คพร้อมขยับแว่นขึ้น สายตามองไปเห็นเพื่อนรักของเธอที่เธอเข้ามาพร้อมฮัมเพลงอย่างมีความสุข
"อ้าวไอ้โบมกลับมาแล้วหรอ วันนี้กลับเร็วจังนะ" อึนจีเอ่ยทักก่อนจะนั่งลงตรงข้ามโบมี
"เร็วอะไรนี่มันทุ่มนึงแล้วนะแก แล้วไปไหนมาทำไมกลับช้า" โบมีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดุ
"ก็ไปหางานทำมานะสิ แล้วตอนนี้ฉันก็ได้งานแล้วนะเว้ยโคตรดีใจอ่ะ"
"จริงดิ่ดีใจด้วยแก แล้วงานอะไรอ่ะ"
"งานร้านอาหารที่กำลังเปิดใหม่อ่ะ พอดีฉันไปช่วยเจ้าของร้านเอาไว้ เค้าเลยชวนมาทำงานด้วย"
"เฮ้ย!!!ทำไมมันง่ายอย่างงี้ว่ะหรือมันจะหลอกแก"
"บ้าป่าวเค้าแต่งตัวออกจะดี ใช้รถหรู ลักษณะแบบลูกคนรวยอ่ะ"
"นั่นแหละ!!ลักษณะอย่างงี้พวกสิบแปดมงกุฎชอบอ้างกัน"
"แกก็....ฉันเชื่อนะว่าเค้าเป็นคนดี แล้วที่สำคัญอีกอย่างนะเค้าก็คิดว่าฉันผู้ชายด้วย"
"หา!!!!"
"ไอ้โบมฉันรู้ว่าแกห่วงฉันแต่แกไม่ต้องห่วงนะฉันดูแลตัวเองได้ อีกอย่างนะฉันเป็นแชมป์เทควันโดประจำปูซานตั้ง3สมัยซ้อนแหนะ ฉันดูแลตัวเองได้"
"อืมมดูแลตัวเองดีดีนะแก มีอะไรรีบบอกฉันเดี๋ยวเลยนะ"
"ครับผม" อึนจีทำหน้าตะเบ๊ะเหมือนทหารสร้างเสียงหัวเราะของเพื่อนสาวขึ้นมา
ลมหนาวโชยมาเป็นระยะส่งสัญณาณของฤดูหนาวที่จะมาในไม่ช้า อึนจีกระชับเสื้อคลุมของเธอเข้ากับตัว ก่อนเร่งเดินไปที่นัดหมายโดยเร็ว เมื่อวานเธอบอกเรื่องงานของเธอให้โบมีฟังที่จริงตามที่โบมีพูดก็ถูก งานอะไรจะรับเธอโดยไม่ถามประวัติหรือถามที่มาที่ไปของเธอเลย แต่เธอเองก็เชื่อมั่นตามสัญชาติญาณของเธอว่าเขาเป็นคนดีคงไม่หลอกเธออย่างที่คิดไว้
อึนจีเดินมาหยุดหน้าร้านพิซซ่าที่เธอกับเขานัดไว้เมื่อวาน เธอนั่งหน้าร้านก่อนหยิบแซนวิซที่เพื้อนรักเธอทำมาให้เมื่อเช้า ตอนนั้นเองมีเด็กชายคนนึงมองแซนวิซของเธออย่างหิวโหย
"หิวหรอ" เด็กชายคนนั้นพยักหน้า "อ่ะพี่ให้" อึนจียื่นแซนวิซให้เด็กคนนั้นก่อนที่เขาจะวิ่งหนีไป
หญิงสาวลุกขึ้นและเดินไปที่ริมฟุตบาต ทันใดนั้นเองท้องของเธอก็ร้องเสียงดัง "ใจเย็นลูก เดี๋ยวไม่นานก็เที่ยงแล้ว"
"ไงเป็นคนดีแต่ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นยังไง" เสียงทุ้มของชายยอลทำให้อึนจีมองไปทางด้านข้าง
"บอส!?"
"ก็ใช่นะสิ คิดว่าเป็นเอ๊กซ์โซหรือไง" ชานยอลพูดพร้อมยักคิ้วไปมา ให้ตายสิ!หลงตัวเองชะมัด
#ต่อ
"บอสมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ" อึนจีกล่าว
"ก็ตั้งแต่เด็กผู้ชายคนนึงให้ของแก่อีกคนโดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเองไง" อึนจีหน้ามุ่ยพร้อมก้มหน้า ชานยอลนิ่มก่อนหยิบแซนวิซในถุงให้อึนจี "อ่ะคุณพ่อพระ กินซะเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งซะก่อน"
"ขอบคุณฮะ" อึนจีหยิบแซนวิซในมือของชานหนุ่ม ก่อนลงมือกินด้วยความหิวพอดี
"ไป!ฉันจอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามอ่ะ" ชานยอลหันไปบอกอึนจี แต่ทว่าร่างเล็กตรงกับกัดแซนวิซอย่างไม่แคร์คนรอบข้าง ชานยอลส่ายหน้าไปมาก่อนจับมือร่างเล็กตรงหน้าทันที
"ฮะบอส" อึนจีตกใจเพราะจู่ก็โดนจับมือซะงั้น
"ข้ามถนนกันจะได้ไปที่ร้าน" ชานยอลจูงร่างเล็กข้ามถนน อึนจีอึ้งเล็กน้อยในชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนจับมือเธอเลย ยกเว้นแต่ป๊าของเธอคนเดียว ใจดวงน้อยเต้นรัวราวกับกลอง 'โอ้ยยยแกเป็นอะไรไปเนี่ยไอ้จี'
"ถึงแล้ว" ชานยอลหันกับมามองร่างเล็กที่ตามเขามาซึ่งตอนนี้แก้มของร่างเล็กได้แดงขึ้นลามไปถึงบริเวณหู "เฮ้ย!ทำไมนายหน้าแดงอย่างงี้อ่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า"
"ปะ..เปล่าฮะ สงสัยหนาวอ่ะฮะเลือดเลยสูบฉีดดี" อึนจียิ้มแหยะๆๆๆ เกือบไปแล้วไอ้จีเอ้ยย
"งั้นขึ้นรถกัน ฉันจะพาไปร้าน" ชานยอลอ้อมไปทางคนขับก่อนลงนั่งลงอึนจีจึงรีบเปิดประตูและนั่งลงไป
รถยนต์หรูเลี้ยวเข้ามาในซอยแห่งนึง ซึ่งรอบข้างแทบจะไม่มีรถวิ่งผ่านสักคัน รวมไปถึงตึกน้อยใหญ่ที่ตั้งตระหง่าเรียงไปก็แทบจะเป็นตึกร้างเกินครึ่ง นี่มันทำเลที่ตั้งร้านหรือทำเลที่ตั้งสุสานกันแน่!!
"ถึงแล้ว!!นี่แหละร้านอาหารของเรา" อึนจีมองตึกที่สภาพถือว่าดีกว่าตึกทั้งหมดบนถนน ตึกสีไข่ไก่สองชั้นหน้าร้านประดับไปด้วยกระถางต้นไม้ที่บัดนี้ต้นไม้ได้เหี่ยวแห้งไปตามกาลเวลา ประตูบานเลื่อนของร้านที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกาะจนแทบมองไม่เห็นข้างใน
"ที่นี่หรอฮะ...น่ากลัวชะมัด" อึนจีพูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
"ที่นี่แหละ พอดีเป็นตึกเก่าของพ่อฉัน ท่านเปิดร้านกาแฟแล้วเจ๊งฉันเลยขอตึกมา"
"เจ๊ง!!!"
"ใช่เจ๊ง!ไปเถอะรุ่นน้องฉันรออยู่" ชานยอลพูดก่อนเปิดประตูรถลงไป
"โห!!อัปมงคลตั้งแต่ทำเลร้านเลย" อึนจีสบถออกมาเสียงดัง
"เร็วๆอึนจี" อึนจีได้ยินอย่างงั้นจึงรีบเปิดประตูลงรถไป
#ต่อ
ร่างบางก้าวเข้าไปในร้านที่ภายในไม่แตกต่างจากข้างนอกสักเท่าไหร่ โต๊ะไม้หลากสีถูกวางกองหลังร้าน พื้นกระเบื้องมีบางส่วนหลุดออกตามกาลเวลา ส่วนผนังสีร่อนออกเกือบหมด อึนจีเดินมาหยุดหลังจากที่ชายร่างสูงข้างหน้าหยุด ทั้งสองมองไปทางชายร่างสูงผิวคล้ำอีกคนที่กำลังเคลียร์พื้นที่อยู่ แววตาขี้เล่นของชายผิวคล้ำหันมาสะดุดกับทั้งสอง
"อ้าวพี่มาแล้วหรอ นึกว่าจะปล่อยผมคนเดียวซะแล้ว" 'จงอิน'กล่าวขึ้น
"ฉันไม่ทิ้งแกหรอกหน่า เพราะแกต้องใช้หนี้ฉันอีกบาน" ชานยอลพูดพลางยักคิ้วไปมา ก่อนหน้านี้ ชานยอลได้ช่วยใช้หนี้ให้จงอินจากพวกแก็งค์มาเฟีย ทำให้จงอินต้องเฟดตัวมาเป็นทาสในเรือนเบี้ยเพื่อใช้หนี้คืนชานยอล
"เออจงอินนี่อึนจีผู้ช่วยฉัน อึนจีนี่จงอินรุ่นน้องฉันสมัยมัธยม" ชานยอลกล่าวเอ่ยแนะนำกันและกัน ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะพยักหัวเป็นเชิงเคารพกัน "เอาล่ะไหนๆก็ครบล่ะ เรามาเคลียร์ร้านกันต่อดีกว่า จงอินมีส่วนไหนจะเพิ่มเติมไหม"
"ร้านนี้สภาพยังดีอยู่30% เราต้องทาสีใหม่แล้วก็ทำพื้นใหม่เล็กน้อย ส่วนครัวหรือพวกระเบียงข้างร้านทำความสะอาดแล้วก็ตกแต่งอีกสักหน่อยก็โอเคแล้วพี่" จงอินกล่าวตามวิชาของสถาปนิกตามที่ได้ร่ำเรียนมา ชานยอลพยักหน้าก่อนช่วยลงมือกันทำร้าน
Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของอึนจีดังขึ้นก่อนที่จะขอตัวบอสของเธอออกไปคุยข้างนอก เธอมองเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก่อนรับสายทันที
"ไงมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยอีกล่ะ" อึนจีกล่าวกับอีกฝ่าย
[พี่จีก็!!ไม่คิดมองน้องในแง่ดีเลยเนอะ] เสียงทุ้มของอีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้เธอหงุดหงิดเล็กน้อย
"ก็ทุกครั้งที่แกโทรมาไม่ใช่น้าเฮอีสั่ง ก็มีเรื่องจะให้ช่วย มีอะไรก็ว่ามาไอ้ 'เซฮุน' " อึนจีตอบลูกพี่ลูกน้องของเธอ เซฮุนเป็นลูกชายของน้าสาวของเธอ ตอนที่เธอเด็กๆเซฮุนมักจะมาเยี่ยมบ่อยๆ แต่หลังจากที่น้าสาวของเธอย้ายหลักแหล่งไปอยู่ที่คยองกี เธอจึงไม่ค่อยได้ติดต่อเขามากนัก
[งั้นตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ ผมของไปอยู่กับพี่ได้ไหม] ดวงตาของอึนจีเบิกกว้าง ให้ตายเถอะมาขอในสิ่งที่ฉันเอาตัวไม่รอดเลยนะแก!!!
"บ้าไปล่ะไอ้ฮุน!!! แกจะย้ายมาทำไม ถึงแกย้ายมาปูซานน้าฮันอีก็ตามมาเจออยู่แล้ว"
[ใครบอกผมจะไปอยู่กับลุงพูจีที่ปูซาน ผมจะมาอยู่กับพี่ที่โซลต่างหาก] บร่ะะไอ้เด็กนี่รู้ได้ไงฟร่ะว่าอยู่โซล
"ใครอยู่โซลไม่มี๊ ฉันอยู่ที่ปูซานกับพ่อต่างหากแกมั่วแล้ว" อึนจีพยายามพูดอย่างไม่เป็นพิรุธเท่าไหร่ ให้ตายสิ!!!ไอ้จีเอ้ยย
[โกหก!!ผมโทรไปที่บ้านพี่ แม่บ้านบอกพี่หนีออกจากบ้าน ผมเลยเปิดแอปเช็คสัญณาณโทรศัพท์พี่ มันบอกพี่อยู่ที่โซลอ่ะ] โห!!!!เก่งไปแล้วนะอิฮุนนน
"แกอย่ามาเล๊ย ไม่ใช่แค่ลำบาแกนะ ลำบากฉันด้วย" อึนจีพยายามหว่านล้อมลูกพี่ลูกน้องของตน
[ไม่เป็นไรพี่ผมอยู่ได้สบายบรือสะดือโบ่]
"แต่ฉันไม่ให้แกอยู่ แล้วจะโทรให้น้าฮันอีจัดการแกด้วย" อึนจีพูดอย่างเสียงแข็ง
[งั้นผมจะบอกลุงพูจีว่าพี่อยู่ที่โซล เอาไงดีครับพี่สาว จะให้ผมอยู่ดีดีหรือจะให้ลุงพูจีลากกลับปูซาน] อึนจีพยายามกลั้นอารมณ์ ตอนนี้เธอถือว่าเป็นแต้มต่อเซฮุนอยู่ ถ้าเกิดพลาดเท่ากับชีวิตเธอจบทันที
"เออๆ ก็ได้แต่แกมาต้องทำตัวดีดีรู้ไหม เพราะฉันอยู่ห้องเพื่อน ที่สำคัญห้ามสร้างเรื่องด้วย ไม่งั้นฉันจะส่งแกกลับคยองกี" อึนจีกล่าว ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ไอ้เด็กฮุนจนได้ ช่างเถอะให้มันอยู่สักพักพอพ่อเลิกล้มที่จะให้แต่งงานค่อยถีบหัวส่งมันกลับคยองกีก็ได้
[งั้นหกโมงมารับผมที่สถานี้รถไฟนะครับ รักพี่จีที่สุด จุ๊บ~] เสียงโทรศัพท์ตัดไปจากคำหวานเลี่ยนที่น้องชายเธอพูด สร้างภาระอีกแล้วไอ้จีเอ้ย......
................................
คุยกันสักกะนิด
กว่าจะผลักดันตอนนี้ครบ100% เล่นเอาแย่เหมือนกัน ตอนนี้เป็นไงบ้าง เปิดตัวพ่อคาสโนว่ากับน้องชายสุดกวนของจงอิน เชียร์ใครเป็นพิเศษเอ่ยยย เอาไว้คราวหน้าจะพาที่เหลือมาให้ครบ ฝากติดต่ามด้วยนะ
เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ 'ยุนโบมี' ทนายความสาวฝีปากกล้าเงยหน้าขึ้นจากโน๊ตบุ๊คพร้อมขยับแว่นขึ้น สายตามองไปเห็นเพื่อนรักของเธอที่เธอเข้ามาพร้อมฮัมเพลงอย่างมีความสุข
"อ้าวไอ้โบมกลับมาแล้วหรอ วันนี้กลับเร็วจังนะ" อึนจีเอ่ยทักก่อนจะนั่งลงตรงข้ามโบมี
"เร็วอะไรนี่มันทุ่มนึงแล้วนะแก แล้วไปไหนมาทำไมกลับช้า" โบมีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดุ
"ก็ไปหางานทำมานะสิ แล้วตอนนี้ฉันก็ได้งานแล้วนะเว้ยโคตรดีใจอ่ะ"
"จริงดิ่ดีใจด้วยแก แล้วงานอะไรอ่ะ"
"งานร้านอาหารที่กำลังเปิดใหม่อ่ะ พอดีฉันไปช่วยเจ้าของร้านเอาไว้ เค้าเลยชวนมาทำงานด้วย"
"เฮ้ย!!!ทำไมมันง่ายอย่างงี้ว่ะหรือมันจะหลอกแก"
"บ้าป่าวเค้าแต่งตัวออกจะดี ใช้รถหรู ลักษณะแบบลูกคนรวยอ่ะ"
"นั่นแหละ!!ลักษณะอย่างงี้พวกสิบแปดมงกุฎชอบอ้างกัน"
"แกก็....ฉันเชื่อนะว่าเค้าเป็นคนดี แล้วที่สำคัญอีกอย่างนะเค้าก็คิดว่าฉันผู้ชายด้วย"
"หา!!!!"
"ไอ้โบมฉันรู้ว่าแกห่วงฉันแต่แกไม่ต้องห่วงนะฉันดูแลตัวเองได้ อีกอย่างนะฉันเป็นแชมป์เทควันโดประจำปูซานตั้ง3สมัยซ้อนแหนะ ฉันดูแลตัวเองได้"
"อืมมดูแลตัวเองดีดีนะแก มีอะไรรีบบอกฉันเดี๋ยวเลยนะ"
"ครับผม" อึนจีทำหน้าตะเบ๊ะเหมือนทหารสร้างเสียงหัวเราะของเพื่อนสาวขึ้นมา
ลมหนาวโชยมาเป็นระยะส่งสัญณาณของฤดูหนาวที่จะมาในไม่ช้า อึนจีกระชับเสื้อคลุมของเธอเข้ากับตัว ก่อนเร่งเดินไปที่นัดหมายโดยเร็ว เมื่อวานเธอบอกเรื่องงานของเธอให้โบมีฟังที่จริงตามที่โบมีพูดก็ถูก งานอะไรจะรับเธอโดยไม่ถามประวัติหรือถามที่มาที่ไปของเธอเลย แต่เธอเองก็เชื่อมั่นตามสัญชาติญาณของเธอว่าเขาเป็นคนดีคงไม่หลอกเธออย่างที่คิดไว้
อึนจีเดินมาหยุดหน้าร้านพิซซ่าที่เธอกับเขานัดไว้เมื่อวาน เธอนั่งหน้าร้านก่อนหยิบแซนวิซที่เพื้อนรักเธอทำมาให้เมื่อเช้า ตอนนั้นเองมีเด็กชายคนนึงมองแซนวิซของเธออย่างหิวโหย
"หิวหรอ" เด็กชายคนนั้นพยักหน้า "อ่ะพี่ให้" อึนจียื่นแซนวิซให้เด็กคนนั้นก่อนที่เขาจะวิ่งหนีไป
หญิงสาวลุกขึ้นและเดินไปที่ริมฟุตบาต ทันใดนั้นเองท้องของเธอก็ร้องเสียงดัง "ใจเย็นลูก เดี๋ยวไม่นานก็เที่ยงแล้ว"
"ไงเป็นคนดีแต่ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นยังไง" เสียงทุ้มของชายยอลทำให้อึนจีมองไปทางด้านข้าง
"บอส!?"
"ก็ใช่นะสิ คิดว่าเป็นเอ๊กซ์โซหรือไง" ชานยอลพูดพร้อมยักคิ้วไปมา ให้ตายสิ!หลงตัวเองชะมัด
#ต่อ
"บอสมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ" อึนจีกล่าว
"ก็ตั้งแต่เด็กผู้ชายคนนึงให้ของแก่อีกคนโดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเองไง" อึนจีหน้ามุ่ยพร้อมก้มหน้า ชานยอลนิ่มก่อนหยิบแซนวิซในถุงให้อึนจี "อ่ะคุณพ่อพระ กินซะเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งซะก่อน"
"ขอบคุณฮะ" อึนจีหยิบแซนวิซในมือของชานหนุ่ม ก่อนลงมือกินด้วยความหิวพอดี
"ไป!ฉันจอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามอ่ะ" ชานยอลหันไปบอกอึนจี แต่ทว่าร่างเล็กตรงกับกัดแซนวิซอย่างไม่แคร์คนรอบข้าง ชานยอลส่ายหน้าไปมาก่อนจับมือร่างเล็กตรงหน้าทันที
"ฮะบอส" อึนจีตกใจเพราะจู่ก็โดนจับมือซะงั้น
"ข้ามถนนกันจะได้ไปที่ร้าน" ชานยอลจูงร่างเล็กข้ามถนน อึนจีอึ้งเล็กน้อยในชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนจับมือเธอเลย ยกเว้นแต่ป๊าของเธอคนเดียว ใจดวงน้อยเต้นรัวราวกับกลอง 'โอ้ยยยแกเป็นอะไรไปเนี่ยไอ้จี'
"ถึงแล้ว" ชานยอลหันกับมามองร่างเล็กที่ตามเขามาซึ่งตอนนี้แก้มของร่างเล็กได้แดงขึ้นลามไปถึงบริเวณหู "เฮ้ย!ทำไมนายหน้าแดงอย่างงี้อ่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า"
"ปะ..เปล่าฮะ สงสัยหนาวอ่ะฮะเลือดเลยสูบฉีดดี" อึนจียิ้มแหยะๆๆๆ เกือบไปแล้วไอ้จีเอ้ยย
"งั้นขึ้นรถกัน ฉันจะพาไปร้าน" ชานยอลอ้อมไปทางคนขับก่อนลงนั่งลงอึนจีจึงรีบเปิดประตูและนั่งลงไป
รถยนต์หรูเลี้ยวเข้ามาในซอยแห่งนึง ซึ่งรอบข้างแทบจะไม่มีรถวิ่งผ่านสักคัน รวมไปถึงตึกน้อยใหญ่ที่ตั้งตระหง่าเรียงไปก็แทบจะเป็นตึกร้างเกินครึ่ง นี่มันทำเลที่ตั้งร้านหรือทำเลที่ตั้งสุสานกันแน่!!
"ถึงแล้ว!!นี่แหละร้านอาหารของเรา" อึนจีมองตึกที่สภาพถือว่าดีกว่าตึกทั้งหมดบนถนน ตึกสีไข่ไก่สองชั้นหน้าร้านประดับไปด้วยกระถางต้นไม้ที่บัดนี้ต้นไม้ได้เหี่ยวแห้งไปตามกาลเวลา ประตูบานเลื่อนของร้านที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกาะจนแทบมองไม่เห็นข้างใน
"ที่นี่หรอฮะ...น่ากลัวชะมัด" อึนจีพูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
"ที่นี่แหละ พอดีเป็นตึกเก่าของพ่อฉัน ท่านเปิดร้านกาแฟแล้วเจ๊งฉันเลยขอตึกมา"
"เจ๊ง!!!"
"ใช่เจ๊ง!ไปเถอะรุ่นน้องฉันรออยู่" ชานยอลพูดก่อนเปิดประตูรถลงไป
"โห!!อัปมงคลตั้งแต่ทำเลร้านเลย" อึนจีสบถออกมาเสียงดัง
"เร็วๆอึนจี" อึนจีได้ยินอย่างงั้นจึงรีบเปิดประตูลงรถไป
#ต่อ
ร่างบางก้าวเข้าไปในร้านที่ภายในไม่แตกต่างจากข้างนอกสักเท่าไหร่ โต๊ะไม้หลากสีถูกวางกองหลังร้าน พื้นกระเบื้องมีบางส่วนหลุดออกตามกาลเวลา ส่วนผนังสีร่อนออกเกือบหมด อึนจีเดินมาหยุดหลังจากที่ชายร่างสูงข้างหน้าหยุด ทั้งสองมองไปทางชายร่างสูงผิวคล้ำอีกคนที่กำลังเคลียร์พื้นที่อยู่ แววตาขี้เล่นของชายผิวคล้ำหันมาสะดุดกับทั้งสอง
"อ้าวพี่มาแล้วหรอ นึกว่าจะปล่อยผมคนเดียวซะแล้ว" 'จงอิน'กล่าวขึ้น
"ฉันไม่ทิ้งแกหรอกหน่า เพราะแกต้องใช้หนี้ฉันอีกบาน" ชานยอลพูดพลางยักคิ้วไปมา ก่อนหน้านี้ ชานยอลได้ช่วยใช้หนี้ให้จงอินจากพวกแก็งค์มาเฟีย ทำให้จงอินต้องเฟดตัวมาเป็นทาสในเรือนเบี้ยเพื่อใช้หนี้คืนชานยอล
"เออจงอินนี่อึนจีผู้ช่วยฉัน อึนจีนี่จงอินรุ่นน้องฉันสมัยมัธยม" ชานยอลกล่าวเอ่ยแนะนำกันและกัน ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะพยักหัวเป็นเชิงเคารพกัน "เอาล่ะไหนๆก็ครบล่ะ เรามาเคลียร์ร้านกันต่อดีกว่า จงอินมีส่วนไหนจะเพิ่มเติมไหม"
"ร้านนี้สภาพยังดีอยู่30% เราต้องทาสีใหม่แล้วก็ทำพื้นใหม่เล็กน้อย ส่วนครัวหรือพวกระเบียงข้างร้านทำความสะอาดแล้วก็ตกแต่งอีกสักหน่อยก็โอเคแล้วพี่" จงอินกล่าวตามวิชาของสถาปนิกตามที่ได้ร่ำเรียนมา ชานยอลพยักหน้าก่อนช่วยลงมือกันทำร้าน
Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของอึนจีดังขึ้นก่อนที่จะขอตัวบอสของเธอออกไปคุยข้างนอก เธอมองเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก่อนรับสายทันที
"ไงมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยอีกล่ะ" อึนจีกล่าวกับอีกฝ่าย
[พี่จีก็!!ไม่คิดมองน้องในแง่ดีเลยเนอะ] เสียงทุ้มของอีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้เธอหงุดหงิดเล็กน้อย
"ก็ทุกครั้งที่แกโทรมาไม่ใช่น้าเฮอีสั่ง ก็มีเรื่องจะให้ช่วย มีอะไรก็ว่ามาไอ้ 'เซฮุน' " อึนจีตอบลูกพี่ลูกน้องของเธอ เซฮุนเป็นลูกชายของน้าสาวของเธอ ตอนที่เธอเด็กๆเซฮุนมักจะมาเยี่ยมบ่อยๆ แต่หลังจากที่น้าสาวของเธอย้ายหลักแหล่งไปอยู่ที่คยองกี เธอจึงไม่ค่อยได้ติดต่อเขามากนัก
[งั้นตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ ผมของไปอยู่กับพี่ได้ไหม] ดวงตาของอึนจีเบิกกว้าง ให้ตายเถอะมาขอในสิ่งที่ฉันเอาตัวไม่รอดเลยนะแก!!!
"บ้าไปล่ะไอ้ฮุน!!! แกจะย้ายมาทำไม ถึงแกย้ายมาปูซานน้าฮันอีก็ตามมาเจออยู่แล้ว"
[ใครบอกผมจะไปอยู่กับลุงพูจีที่ปูซาน ผมจะมาอยู่กับพี่ที่โซลต่างหาก] บร่ะะไอ้เด็กนี่รู้ได้ไงฟร่ะว่าอยู่โซล
"ใครอยู่โซลไม่มี๊ ฉันอยู่ที่ปูซานกับพ่อต่างหากแกมั่วแล้ว" อึนจีพยายามพูดอย่างไม่เป็นพิรุธเท่าไหร่ ให้ตายสิ!!!ไอ้จีเอ้ยย
[โกหก!!ผมโทรไปที่บ้านพี่ แม่บ้านบอกพี่หนีออกจากบ้าน ผมเลยเปิดแอปเช็คสัญณาณโทรศัพท์พี่ มันบอกพี่อยู่ที่โซลอ่ะ] โห!!!!เก่งไปแล้วนะอิฮุนนน
"แกอย่ามาเล๊ย ไม่ใช่แค่ลำบาแกนะ ลำบากฉันด้วย" อึนจีพยายามหว่านล้อมลูกพี่ลูกน้องของตน
[ไม่เป็นไรพี่ผมอยู่ได้สบายบรือสะดือโบ่]
"แต่ฉันไม่ให้แกอยู่ แล้วจะโทรให้น้าฮันอีจัดการแกด้วย" อึนจีพูดอย่างเสียงแข็ง
[งั้นผมจะบอกลุงพูจีว่าพี่อยู่ที่โซล เอาไงดีครับพี่สาว จะให้ผมอยู่ดีดีหรือจะให้ลุงพูจีลากกลับปูซาน] อึนจีพยายามกลั้นอารมณ์ ตอนนี้เธอถือว่าเป็นแต้มต่อเซฮุนอยู่ ถ้าเกิดพลาดเท่ากับชีวิตเธอจบทันที
"เออๆ ก็ได้แต่แกมาต้องทำตัวดีดีรู้ไหม เพราะฉันอยู่ห้องเพื่อน ที่สำคัญห้ามสร้างเรื่องด้วย ไม่งั้นฉันจะส่งแกกลับคยองกี" อึนจีกล่าว ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ไอ้เด็กฮุนจนได้ ช่างเถอะให้มันอยู่สักพักพอพ่อเลิกล้มที่จะให้แต่งงานค่อยถีบหัวส่งมันกลับคยองกีก็ได้
[งั้นหกโมงมารับผมที่สถานี้รถไฟนะครับ รักพี่จีที่สุด จุ๊บ~] เสียงโทรศัพท์ตัดไปจากคำหวานเลี่ยนที่น้องชายเธอพูด สร้างภาระอีกแล้วไอ้จีเอ้ย......
................................
คุยกันสักกะนิด
กว่าจะผลักดันตอนนี้ครบ100% เล่นเอาแย่เหมือนกัน ตอนนี้เป็นไงบ้าง เปิดตัวพ่อคาสโนว่ากับน้องชายสุดกวนของจงอิน เชียร์ใครเป็นพิเศษเอ่ยยย เอาไว้คราวหน้าจะพาที่เหลือมาให้ครบ ฝากติดต่ามด้วยนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น