ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My feeling

    ลำดับตอนที่ #1 : Begin

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 56


    ปังๆๆๆ  อยู่ดีๆฉันก็ได้ยินเสียงปึงปังมาจากในครัว ต้นเหตุคงมาจากแม่ผู้บังเกิดเกล้าของฉันเอง  สาเหตุน่ะหรอ คงต้องย้อนไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วล่ะมั้ง!!!

    10 นาทีที่แล้ว  ณ  ห้องรับประทานอาหาร   เวลา 18:20  น.

    หนูบอกแม่แล้วว่าหนูไม่อยากอยู่ที่นี่

    แต่แม่อยากให้ลูกมีอนาคตดีๆที่นี่นะ แม่สามารถฝากลูกเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆในสภา โรงพยาบาล หรือวงการบันเทิง ลูกจะได้ในสิ่งที่อยากได้ ขอแค่บอกแม่มาเท่านั้น

    แต่แม่คะ หนูอยากสร้างมันขึ้นด้วยสองมือ สองแขน  สองขา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่หนูทำได้ด้วยตัวเอง มันคืออนาคตของหนูนะคะ ขอหนูสร้างมันด้วยตัวเองเถอะค่ะ

    แต่แม่ไม่อยากให้ลูกลำบาก หรืออยู่ไกลหูไกลตาแม่นะ อีกอย่างลูกต้องแต่งงานกับแดเนียลเพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจเรานะลูก อย่าลืมสิ คุณตาท่านสั่งเสียก่อนที่ท่านจะสิ้นใจว่าอยากให้ตระกูลเราดองกับตระกูลของแดเนียล

    หนูขอย้ำเป็นครั้งที่แสนล้านนะคะว่า หนูไม่ได้รักแดลเนียล และจะไม่แต่งงานกับเค้าเด็ดขาด

    แล้วถ้าแม่ยอมให้หนูไปสร้างอนาคตของตนเองล่ะ ถ้าหนูทำสำเร็จ แม่จะไปยกเลิกงานแต่งของหนูกับแดลเนียลเอง แต่ถ้าไม่สำเร็จล่ะก็ ลูกต้องแต่งงานกับแดเนียล และยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่อยากให้เป็น และให้ทำ เข้าใจมั้ย

    ค่ะ แน่ใจนะคะว่าแม่จะไม่เสียใจถ้าตระกูลเราจะไม่ได้ผลประโยชน์จากแดลเนียล

    แม่ตัดสินใจดีแล้ว ลูกอย่ามาเสียใจภายหลังละกัน J

    ค่ะ แม่จะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เชื่อหนูสิ

    และนี่คือเดิมพันของเรา  เสียงปึงปังที่ได้ยินนี่ก็เป็นผลพวงมาจากอารมณ์แปรปวนเหมือนวัยทองของแม่ฉันเอง  ตอนนี้ฉันคงพล่ามอะไรมากไม่ได้เพราะฉันต้องรีบจัดกระเป๋าเพื่อไปทำตามฝันก่อน  ฮ่าๆๆๆ  หลังจากที่คุยกับพี่สาวที่เคยอยู่ข้างบ้านฉันแต่ตอนนี้เธอโกอินเตอร์เป็นถึงภรรยาของมหาเศรษฐีในต่างแดน  ฉันก็รีบจองตั๋ว และจองที่พักไว้พร้อม              ถึงฉันจะไม่อยากอยู่คนเดียวแต่ฉันก็ไม่กล้าไปพักบ้านพี่เบกกี้หรอก  เกรงใจ แค่เรื่องเข้ามหาวิทยาลัยลัยก็รบกวนพี่เขามากพอแล้ว แต่พี่เขาก็ยังอุตส่าห์ส่งแผนที่บ้านมาให้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือฉันต้องการความช่วยเหลือ น่าปราบปลื้มจริงๆ Y Y

    เช้าวันรุ่งขึ้น  ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  เวลา 7.55  น.

    นี่ค่ะลุง ไม่ต้องทอนนะคะ

                    ฉันนั่งแท็กซี่มาถึงนี่แพงมิใช่เล่น  สภาพฉันตอนนี้คงเหมือนอีเพิ้งถูกแร้งทึ้ง เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะตอนที่ฉันอยู่ในแท็กซี่ ฉันนอน  นอน นอน  แล้วก็นอนน่ะสิ  ก็คนมันง่วงอ่ะทำไงได้ ก็เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับมัวแต่ตื่นเต้นที่จะได้โลดโผนผจญภัยในต่างแดน  แฮะๆ  นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฉันเดินทางโดยไม่ต้องมีบอดีการ์ดมาคอยคุ้มกันให้  รู้สึกโล่งชะมัด ว่าแล้วฉันก็ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกสักหน่อย ฉันยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงนึง

    โย่ว หวัดดีที่หราก

    แดลเนียล”  อี๋ ใครเป็นที่รักนายกัน  แล้วมันตามมาได้ไงวะ อุตส่าห์หนีมาเงียบๆแล้วเชียว

    หมา ทาม อ่า ราย ที่ หนี”  เอิ่ม  เมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ยเนี่ย นายนั่นกำลังบอกว่าฉันเป็นหมาหรอ ม่ายยยนะ หน้าฉันเหมือนตรงไหนกัน  ว่าแล้วฉันก็หยิบกระจกขึ้นมาดูเงาตัวเอง  แงงง ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง 

    ขอเวลา 3 นาที นะฉันหันหลังและรีบจัดผมเผ้า เสื้อผ้าให้ดูดีกว่านี้  เรียบร้อยละ  มีอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันมีเวลาให้นายไม่มากนะ

    คือ ป๋ม ป๋มรากคูน  ราวมาแต่งงานกันหมาย

    ม่ายยยย ฉันพึ่งสิบแปดเองนะ ฉันยังมีอนาคตอีกไกล นายอย่ามายุ่งกับชั้นดีกว่า

    ป๋ม จา ดู แล คูน เอ๋งนายนั่นพูดพลางเอามือมาจับก้นฉัน  ม่ายยยยน้า  ฉันไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้หรอก แต่โชคก็เข้าข้างฉัน  ฉันเห็น รปพ. สองคนตรงนั้น 

    ปล่อยนะ  ช่วยด้วยค่ะ รปพๆ  ผู้ชายคนนี้ลวนลามฉันค่ะ ช่วยทีรปพ. สองคนนั้นเข้ามาจับตัวแดลเนียล แล้วพาออกไป โดยที่นายนั่นยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ

    เล่นกับใครไม่เล่น ให้รู้ซะบ้างว่าคนอย่างอันนา ไม่ได้ง่ายนะ และได้ยากมาก บอกได้คำเดียวว่าฉันจะจดชื่อหมอนี่ลงบัญชีดำอย่างแน่นอน ฉันจะล้างแค้นม๊านนนนนนน

                    ตอนนี้ฉันอยู่ระหว่างการรอเปลี่ยนเครื่อง  ที่โซล เกาหลีใต้ มีเวลาเหลืออีก 10 ชั่วโมงระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง  ฉันนั่งอยู่ที่เดิมมา 2 ชม.ละ  งั้นก็เหลืออีก 8 ชม. ฉันคงต้องหาอะไรทำแล้วล่ะ นั่งจนเมื่อยก้นไปหมดแล้ว และฉันก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะไปเดินซื้อของที่ดิวตี้ฟรีท่าจะดีกว่า  ฉันเดินจนทั่วแล้ว นี่พึ่งผ่านไปชั่วโมงเดียวเอง เริ่มหิวแล้วอ่ะ  ฉันควรหาอะไรกินผลาญเวลา ฉันสั่งอาหารและนั่งกินที่ร้านเบอร์เกอร์คิง จะว่าไปที่นี่ก็มีฝรั่งเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ข้างหน้าโต๊ะฉันมีคู่ชายหญิงซึ่งน่าจะรุ่นเดียวกับฉันกำลังป้อนอาหารให้กัน  เชอะ รักกันซะจริ๊งง  ส่วนโต๊ะข้างๆก็มีชายสวมฮูดสีแดงกับผู้ชายท่าทางภูมิฐานนั่งอยู่  อยากรู้จริงๆจะสวมฮูดคลุมหัวทำไมกัน แถมยังมีผ้าปิดปากอีกต่างหาก หรือหมอนี่จะเป็นวัณโรคกันเนี่ยยยย ถึงป้องกันซะขนาดนี้  หมอนั่นเริ่มหันมามองฉันแล้วอ่ะ หรือเค้าจะรู้ว่าฉันกำลังด่าเขากันนะ

    “Hey ! you”  หมอนั่นพูดกับฉันหรอ ตายๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ทำไมยังมองอยู่อ่ะ

    “me?ฉันพูดพลางชี้ไปที่ตัวเอง ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันคงทำหน้าเอ๋อ เหรอหลา มากแน่ๆ

    “ Yep” ฮ่ะ? นี่พูดกับฉันจริงๆหรอ

    “Can I help you?

    “Thanks a lot. I think I should that my self but you should help yourself now.” หมอนี่พูดพลางใช้นิ้วชี้ไปที่กางเกงฉัน เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันมองไปที่  เป้ากางเกง  เฮ้ยยยย ช็อคค่ะ ฉันลืมรูดซิบกางเกง ให้ตายสินี่ฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปไหนมาไหนทั้งอย่างนี้หรือเนี่ย ฉันรีบรูดซิบแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะกล่าวว่า

    “ Thank you very much”  แล้วรีบเดินออกจากร้านโดยไม่หันกลับไปมอง สายตาขบขันของนายนั่นอีก ฮึ่ย ขายหน้าชะมัด และตอนนี้ฉันก็กลับมานั่งที่เดิมอีกแล้ว - - นั่งแหง่ววมา 3 ชม.ละ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันคิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารเลยสักนิด ทำไงดี ทำไงดี๊  ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งเกาหัวเหมือนอีบ้า  สายตาก็หันไปเห็นฮูดสีแดง  - - อ๊ากกกก ทำไมฉันถึงหนีมันไม่พ้นซักทีนะ มันจะดีมากเลยถ้านายนั่นไม่หันมาเห็นฉันและเดินมานั่งข้างๆกันแบบนี้  แกล้งหลับดีมั้ย?   ครอก!!!

    “Hey” เอาอีกแล้ว มันเอาอีกแล้ว ต่อไปฉันจะแปลเป็นภาษาไทยละกัน จะได้เข้าใจง่ายขึ้นว่าฝรั่งพวกนี้ต้องการจะสื่อสารอะไรกันแน่

    อะไร

    เราเจอกันอีกแล้วนะ

    เราคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ เพราะเครื่องบินฉันกำลังจะออกในไม่กี่ชม.นี้แล้ว” - - ขณะที่ฉันกำลังพูดทำไม หมอนี่ต้องหันซ้ายหันขวาอยู่นั่นนะ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย - - เชอะ  แล้วผ้าปิดปากเนี่ยเมื่อไหร่จะเอาออกซักที  รกหูรกตาชะมัด-*-  หลังจากที่ฉันพูดจบ นายคนนี้ก็หันหน้ามาหาฉันแล้วทำตาโตเท่าไข่ห่าน  ก่อนจะถอดเสื้อ  ฮะ เฮ้ยยย  อัศจอ รอ หัน  ใครรู้ช่วยบอกทีหมอนี่กำลังทำอาร๊ายยย

    เฮ้ นายถอดเสื้อทำมะ  อ๊ะ  อื้อ  อื้อยังพูดไม่ทันจบ นายฝรั่งบ้านี้ก็เปิดผ้าปิดปากออกและโยนมันออกไปด้านหลังเก้าอี้ แล้วก็จะ จะจูบ อ๊ายยยย กล้าดียังไงมาทำกับช้านแบบนี้  อื้อๆๆฉันประท้วงด้วยการทุบตี แต่หมอนี่รวบมือฉันไว้ หมอนี่ถอนริมฝีปากออก ทำให้ฉันได้เห็นหน้าเขาชัดๆ โอ้ บ๊ะ  หล่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ไม่ ไม่ไ ม่เธอกำลังคิดอะไรของเธออันนา สติ สติกลับมา ปัญญาจะได้เกิด

    “o_o นะ นาย นายทำ อะ อาย(นายทำอะไร)ก่อนที่ฉันจะตะโกนให้ขายหน้าไปกว่านี้หมอนั่นก็เอามือมาปิดปากฉัน

    ชู่ว์  เงียบๆก่อน ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะหลบใครบางคน เธอช่วยดูให้หน่อยว่าผู้หญิงที่ใส่เกาะอกสีดำไปหรือยัง ช่วยฉันที ได้โปรด”  ฉันจำใจต้องสงบปากสงบคำไว้ก่อน คนเดือดร้อนมาก็อยากช่วยหรอกนะ แต่ทำไมต้องทำกับฉันแบบเน้ -*-

    เธอกำลังเดินมาทางนี้

    อะไรนะ

    หยุด! อย่าคิดว่าจะทำแบบเมื่อกี้อีกเชียวนะ

    แล้วจะให้ทำยังไง -*-

    ฉันเคลียร์เอง” 

    อั๊ก  โอ้ที่รัก ฉันรักคุณจริงๆเลยฉันพูดจบก็ดึงตัวหมอนั่นเข้ามากอดล็อกคอแบบเต็มที่ เพราะฉะนั้นเสียงอั๊กที่เกิดขึ้นเป็นเสียงของหมอนี่  สมน้ำหน้า โดนซะบ้างจะได้ไม่คิดมาลวนลามฉันอีก ขณะเดียวกันฉันก็มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น เธอเดินตรงมาทางเรา  เธออยู่ใกล้กับเราแค่เมตรเดียวเท่านั้น

    ขอโทษนะคะ พวกคุณเห็นผู้ชายสวมฮูดแดงผ่านมาทางนี้บ้างมั้ยคะ

    “-v- ขอโทษจริงๆนะคะพวกเราไม่เห็นหรอกค่ะ ใช่มั้ยคะที่รัก

    ครับแหมดัดเสียงซะแนบเนียนเชียว -*- พอพูดจบผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกไป แต่เราต้องกอดกันซักพักจนเธอเดินลับไป ฉันถึงคลายอ้อมกอดออก

    เธอไปแล้ว

    “-v- ขอบใจนะที่ช่วยฉัน  แล้วก็ขอโทษที่... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้   แต่ ฉันคิดไม่ออกมันฉุกระหุกเกินไป หวังว่าเธอจะไม่โกรธJ

    โกรธ  มาก  หวังว่าคงไม่ได้เจอกันอีก บาย”  ฉันพูดตอกหน้าหมอนี่ และคิดจริงๆว่าเราคงจะไม่เจอกันอีก ลาก่อนตลอดชาติ ไอ้คนเฮงซวย ( ถึงหน้าตาจะหล่อ แต่ฉันก็ไม่ให้อภัยหรอกนะยะ)  ก่อนจะเดินสะบัดตูดไปขึ้นเครื่อง

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×