ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SingtoKrist] รุ่นพี่ที่(ไม่)สนิท ss2

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 61





    ไม้ขนาดเหมาะมือ ฟาดเข้าที่แผ่นเหล็กกลมๆ จนเกิดเสียงดัง เปิดจังหวะเพลงได้อย่างสวยงาม ตามด้วยเสียงกีตาร์และเสียงเบส ก่อนที่จะมีเสียงร้องของนักร้องนำดังตามมาติดๆ





    พี่สิงครับ ถ้ามองไอ้คริสขนาดนั้น ไม่กินมันเข้าไปเลยล่ะครับ มองไม่วางตาเลยนะนั่น” เบียร์ที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้น



    เขาพอจะรู้ว่าคริสตีกลองได้ แต่ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้ แถมเวลาตอนตีคริสตั้งใจมาก มันดูมีเสน่ห์อย่างนึงนะ เขาชอบสีหน้า แววตาของเจ้าตัว ที่มีความมุ่งมั่น ไม่ว่าจะทำอะไรเล็กๆน้อยๆก็ตาม แล้วยิ่งทำในสิ่งที่เจ้าตัวชอบอยู่แล้ว คริสจะมีความตั้งใจเป็นพิเศษ




    สิงโตไม่ตอบคำถามของเบียร์ แต่กลับยิ้มรับนิดๆ จะว่าไปแล้ว สถานะของทั้งคู่ก็ยังไม่มั่นคง ถึงจะบอกรักตอนอยู่ทะเลแล้วก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าสถานะของทั้งสองคนจะเปลี่ยนไป เขาและคริสยังคงรักษาความสัมพันธ์เดิมเอาไว้ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินเรื่องราวกลับสู่ปกติ






    ทว่า มันก็ไม่ได้ปกติไปหมดซะทุกเรื่อง






    ที่เขาต้องมานั่งเฝ้าคนเป็นน้องซ้อมดนตรีเนี่ย ก็เพราะ ความหวง ล้วนๆ คริสเป็นคนเข้ากับคนได้ง่าย เฮฮา ก็เพราะแบบนี้แหละ เขาถึงต้องตามติดชนิดที่ว่า ปลาท่องโก๋เรียกพ่อ กันเลยทีเดียว แล้วยิ่งสถานะของทั้งคู่ไม่มั่นคงอีกนั้น มันเลยทำให้สิงโตเริ่มหวั่น กลัวว่าคนเป็นน้องจะเปลี่ยนใจ 




    แต่ก็เป็นตัวเขาเองนี่แหละที่ยังปากแข็ง ไม่ยอมขออีกฝ่ายเป็นแฟนซักที คริสเองก็ไม่อยากถาม ไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรมากนัก เพราะถึงแม้สิงโตจะไม่ยอมพูดออกมา แต่การกระทำของคนเป็นพี่นั้นชัดเจนมาก ทั้งดูแล เอาใจใส่คริส มากกว่าครั้งแรกๆที่เจอกันเสียอีก




    กินไรกันดีวะ” ฟลุ๊คพูดขึ้น หลังจากที่ซ้อมดนตรีกันเสร็จเรียบร้อย



    อยากกินเคเอฟซีว่ะ”



    โอ้ย ไอ้คริส มึงดูงบกูด้วย อยู่หอนะครับไม่ได้อยู่บ้าน” เบียร์ร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าคริสอยากกินเคเอฟซี



    ก็หารกันไงวะ เนี่ยพี่สิงโตก็อยู่ ตังค์ไม่พอยืมพี่สิงก่อนก็ได้ ใช่มั้ยพี่สิง” คริสหันไปหาสิงโตที่ยืนอยู่ข้างๆ เกาะกลุ่มอยู่กับเพื่อนๆเขาเช่นกัน



    ลืมรึไง ว่าแม่นัดกินข้าวที่บ้านน่ะ”



    เออ ช่ายยยย ... เห้ยพวกมึง โทษนะ กูมีนัดแล้วว่ะ ไว้คราวหน้าเนาะ” เมื่อคริสนึกได้ก็บอกเพื่อนๆทุกคน แต่กลายเป็นว่าเปิดทางให้เพื่อนๆแซวเขาง่ายขึ้น



    โอ้โห เดี๋ยวนี้ทิ้งเพื่อนนะครับคุณพีรวัส เอะอะๆก็มีนัดตลอด จะไปจู๋จี๋กันสองคนหรอคร้าบบ” โอพูดแซวเป็นคนแรก



    ไม่ใช่เว้ย กูมีนัดกับกินข้าวกับแม่พี่สิงต่างหาก” คริสอธิบาย แต่กว่าจะรู้ตัวก็ปล่อยไก่ไปเล้านึงเต็มๆ



    โว๊ะๆๆ ไปกินข้าวกับผู้ใหญ่ด้วย คุยกันเรื่องสินสอดหรอครับ แต่งเมื่อไหร่บอกกูด้วยนะ” ฟลุ๊คแซวสมทบ คริสกำลังจะอ้าปากเถียง เบียร์ก็แซวขึ้นมาซะก่อน



    โอ้ยมึง ระดับนี้แล้ว ไม่ต้องแต่งแล้ว อยู่กินกันไปเลย”



    นี่พวกมึง!!!” แม่งงงงงง



    พอๆเลยพวกมึง ไปแซวมันอยู่ได้ เออจะแต่งตอนไหนก็บอก เดี๋ยวเป็นพิธีกรในงานให้ .....ไปก่อนนะ พี่สิงโตสวัสดีครับ” เฟรมพูดขึ้น พร้อมกับหันไปไหว้ลารุ่นพี่คนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น คริสถึงกับอ้าปากค้าง



    ขนาดไอ้เฟรมยังแซวมึงเล้ยยไอ้คริส ภูมิใจซะนะ” โอเข้ามาตบบ่าเขาเบาๆสองสามที ก่อนจะไห้ลาสิงโตที่กำลังกลั้นขำอยู่



    อืม กลับกันดีๆล่ะ”



    “ครับ”



    ขำอะไร!! ไม่เคยจะช่วยกันเลย” คริสหันมาพูดกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าเพื่อนๆเดินลับสายตาไปแล้ว



    จะให้ช่วยอะไรล่ะ พูดไปเดี๋ยวก็หาว่าออกตัวแทนกันหรอก โดนแซวหนักกว่าเดิมอีกนะ”



    ก็ห้ามเฉยๆไม่ได้รึไง พี่เป็นรุ่นพี่ พวกมันก็น่าจะเกรงใจบ้างแหละ” มั้งนะ



    โห นี่ถ้าเกรงใจ เพื่อนคุณคงไม่แซวต่อหน้าผมหรอก”



    หึ่ย!!....แล้วเราต้องซื้ออะไรเข้าไปรึเปล่า”



    ไม่ต้องหรอก ป่านนี้แม่คงเตรียมไว้แล้วล่ะ”



    แล้วป๊ากับม๊าผมจะไปด้วยมั้ยเนี่ย”



    คงไปแหละ...ทำไม เกร็งรึไง”



    ก็แหงดิพี่ ผมไม่ได้เก่งเรื่องเข้าหาผู้ใหญ่แบบพี่ซักหน่อย ถึงจะมีป๊ากับม๊าก็เถอะ” คริสบอกพร้อมกับเดินนำไปที่รถ



    แต่แม่ผมก็เคยดูแลคุณนี่ จะกลัวอะไร” 



    ไม่ได้กลัว แต่แบบ...”



    แบบ...?”



    โอ้ยยย คนอย่างพี่จะไปเข้าใจอะไรวะ....รีบๆปลดล็อครถสิ ผมหิวข้าว!” คริสหาคำแก้ตัวไม่ได้ ก็เลยไปลงกับรถแทน ก่อนที่คนเป็นพี่จะรู้ตัว ก็นะ แบบ...มันก็เขินๆ อายๆ บ้างนี่หว่า ตอนนั้นกับตอนนี้มันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ พี่สิงโตไม่เป็นเขานี่ ไม่เข้าใจหรอก




    แต่หารู้ไหมว่า สิงโตเองก็ตื่นเต้นพอสมควร เพราะไม่ใช่แค่ร่วมอาหารเย็นกับแม่ตัวเองอย่างเดียว พ่อแม่ของคริสก็มาด้วย แล้วเหตุผลที่แม่เขานัดทานข้าวเย็นก็คงไม่พ้นเรื่องของเขากับคริสแหละ ถึงสถานะจะยังไม่ชัดเจน แต่คนเป็นแม่ยังไงก็พอเดาออกอยู่บ้าง




    พี่สิง” คริสทำลายความเงียบในระหว่างขับรถกลับบ้าน



    ครับ ว่าไง”



    เมื่อไหร่ สถานะของเราจะมั่นคงซักทีอะ”



    ก็ไม่ได้อยากจะงอแงถามอะไรมากมาย รู้ดีอยู่เต็มอก ว่าการกระทำของพี่สิงชัดเจนอยู่แล้ว แต่บางที มันก็อดไม่ได้ที่จะถาม เขาอยากชัดเจนกว่านี้ อยากใช้สิทธิ์ให้มากกว่านี้ คนเป็นพี่หึงหวงเขาได้ แต่เขากลับทำอะไรไมได้เลย 




    สิงโตพอได้ยินคำถามน้องก็นิ่งไป เขาอยากให้แน่ใจกว่านี้ก่อน เพราะถ้าคบกันแล้ว มันไปไม่สวยจริงๆ คนที่เจ็บมากที่สุดก็เป็นเขาทั้งสองคนอยู่ดี




    เขาเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้แทนคำตอบ ให้เป็นคนที่อยู่ข้างกันแบบนี้ ก็ดีที่สุดแล้ว






    รออีกหน่อยนะคริส






    เมื่อไปถึงบ้านของสิงโต คริสก็พบพ่อแม่ตัวเองอยู่ที่นั่นแล้ว มื้อเย็นที่ถูกเตรียมไว้ก็เริ่มทยอยออกมา ให้คนที่เพิ่งกลับถึงบ้านได้ทานมื้อเย็นอย่างอร่อย




    คริสลูก ขึ้นปีสอง แม่อยากให้เราพักที่หอ" เมื่อทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ของคริสก็พูดเปิดประเด็นทันที จนเจ้าตัวถึงกับสำลักข้าว นึกว่าจะพูดเรื่องเขาสองตนซะอีก



    แค่กๆ...ได้ไงอะม๊า ผมไม่อยู่อะ จะอยู่บ้าน”



    อยู่บ้าน พี่สิงก็ต้องไปรับไปส่งเราอยู่ตลอด ลูกขึ้นปีสอง พี่สิงขึ้นปีสี่ เดี๋ยวพี่เค้าต้องฝึกงานอีกนะลูก ไม่ได้รับส่งตลอดเหมือนตอนนี้นะ” คนเป็นแม่เริ่มให้เหตุผล ที่ท่านต้องการให้ลูกชายของตนไปพักที่หอ ก็เพราะอยากให้ลูกชายตัวแสบทำอะไรๆด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพ่อแม่ หรือว่าพี่สิงอยู่ตลอด




    คริสมองหน้าสิงโตเพื่อขอความช่วยเหลือ เรื่องนี้แม่ของคริสได้ปรึกษากับสิงโตกับแม่เขาไว้แล้ว แล้วเขาก็เห็นด้วยที่จะให้คริสดูแลตัวเองบ้าง ถึงจะเป็นห่วงที่จะให้คริสอยู่คนเดียวก็เถอะ แต่มันก็ต้องฝึกไว้






    ก็ดีนะเวลาอยู่หอเขาจะได้ทำอะไรได้สะดวกๆหน่อย?? (หมายถึงงานนะ)






    ผมเห็นด้วยนะครับ คริสจะได้ฝึกอยู่คนเดียวให้เป็น ช่วยเหลือตัวเองได้” คริสเบิกตากว้าง เมื่อได้ยินที่พี่สิงโตพูด



    พี่สิง!! หึ่ย...ทำไมทุกคนถึงอยากให้ผมอยู่คนเดียวจัง ทุกวันนี้ก็เหมือนกับอยู่คนเดียวนี่”



    คริส” สิงโตพูดเสียงต่ำ เมื่อเห็นว่าคริสพูดจาไม่ดี



    ผมพูดจริงอะ”



    เอาล่ะๆ...ที่แม่อยากให้ลูกไปอยู่หอก็เพื่อตัวลูกเองนะคริส ลูกจะได้หัดทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ผู้ใหญ่เขาเห็นจะได้ปลื้ม”



    ผู้ใหญ่หรอครับ ม๊าหมายความว่าไงอะ”



    ไม่ได้หมายความว่าอะไร ยังไงทั้งนั้นแหละ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะคริส” พ่อของคริสพูดตัดบท เจ้าตัวทำหน้ายู่ ไม่อยากจะนึกถึงตอนอยู่หอคนเดียว แถมยังไกลกับพี่สิงอีกด้วย



    ก็ได้ครับ” แต่ก็ต้องจำใจยอม



    เดี๋ยวน้าจะให้สิงไปช่วยเก็บของนะลูก” แม่ของสิงโตที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น 



    ครับ ขอบคุณครับ” คริสพูดจบก็เอาแต่นั่งเงียบจนกระทั่งจบมื้อเย็น 



    เป็นอะไร” สิงโตถือวิสาสะนั่งลงข้างๆคริส ที่พวกเขาเคยนั่งกันตอนหลังคริสเล่นดนตรีที่โรงเรียนเก่าเสร็จ เขายังจำน้ำตาของอีกฝ่ายได้ดี แล้วตอนนี้เขาก็กลัวว่าคนเป็นน้องจะคิดมากจนอาจจะทำให้เกิดบ่อน้ำตาแตกอีกครั้งเพราะถูกขัดใจก็เป็นได้



    เปล่าครับ” คริสตอบนิ่งๆ พลางมองภายในบ้านของตัวเอง ห่างจากบ้านตัวเองมากสุดก็แค่ไปเข้าค่ายตอนมัธยมกับไปจีนเท่านั้น ไม่เคยไปอยู่ที่ไหนนานๆ สักที เขาเป็นคนติดบ้าน ชอบอยู่ที่บ้าน เวลานัดเพื่อนมาทำรายงานแต่ละที ก็ให้มาทำที่บ้าน จนเพื่อนๆโอดโอยกันเป็นแทบๆเพราะบ้านไกล






    ก็นะ อย่างที่เขาว่ากัน อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายใจเท่าที่บ้าน






    แล้วยิ่งตอนเช้าตื่นมาเจอพ่อแม่ ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ไม่มีที่ไหนดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่อาทิตย์หน้า เขาต้องย้ายไปอยู่หอคนเดียว จะปลอดภัย หรืออบอุ่นแบบนี้รึเปล่าก็ไม่รู้




    สัมผัสบนเส้นผมเบาๆ ทำให้คริสหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังส่งรอยยิ้มมาให้เขา พี่สิงโตคงสังเกตเห็นนั่นแหละว่าเขารู้สึกยังไง ก็เลยอยากปลอบคนที่ไม่เคยห่างบ้านอย่างเขาให้สบายใจขึ้น




    “คิดมากเรื่องหอสินะ”



    “ก็นิดนึงครับ”



    “ผมก็เคยอยู่หอนะ ตอนปีหนึ่งน่ะ”



    “พี่อยู่ได้หรอ”



    “ตอนแรกก็ไม่ได้นะ มันไม่สะดวกเท่าอยู่ที่บ้าน แต่พออยู่ไปนานๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น สนุกดีออก ได้วิ่งหนีผีทุกคืน”



    “ห๊ะ มีด้วยอ่อ”



    “มีดิ” คริสลุกพรวดทันทีที่สิงโตพูดจบ



    “โห ถ้างั้นผมไปบอกม๊าดีกว่า ว่าผมไม่อยู่หอแล้ว”



    “เดี๋ยวๆๆ นั่งก่อน พูดเล่นเฉยๆน่า” สิงโตคว้าตัวคริสไว้ แล้วดันตัวน้องให้กลับไปนั่งเหมือนเดิม คริสขมวดคิ้วมอง



    “มันไม่มีหรอกผีน่ะ ที่บอกว่า สนุก ก็คือได้ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ได้รู้จักสังคมใหม่ๆ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ต้องรอให้ใครสั่งว่าต้องทำแบบนี้ๆ เราอยากทำอะไรก็ทำ แต่เราต้องคิดดีๆ ว่าอันไหนสมควรทำรึเปล่า มันทำให้เราโตขึ้นด้วยซ้ำ พอเราช่วยเหลือตัวเองได้ ทำอะไรได้ ถึงเวลาทำงาน เราก็จะอยู่ได้สบายๆ ไม่ต้องพึ่งพ่อกับแม่เลยซักนิด”



    “แล้วมันสนุกตรงไหนเนี่ย” คริสบ่นอุบ เท่าที่ฟังพี่สิงพูดมา ไม่เห็นว่ามันจะสนุกตรงไหนเลย



    “สนุกสิ ถ้าเราคิดว่าสนุก มันก็สนุก ถ้าคิดว่าไม่สนุก มันก็ไม่สนุก”



    “ตรรกะไหนของพี่วะเนี่ย” คริสถามยิ้มๆ ตอนนี้เขาก็ใจชื้นขึ้นมานิดๆ อย่างน้อยก็ไม่มีผีอย่างที่พี่สิงโตว่า แต่เหตุผลที่คนเป็นพี่บอกก็ทำให้หนักใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน



    “เอาน่า อยู่ๆไป เดี๋ยวก็ชินเองแหละ”


    -ต่อ-



    “ผมไม่ใช่พี่ซักหน่อยหนิ” คริสก้มมองเท้าตัวเองที่เตะต้นหญ้าไปมา




    “เดี๋ยวไปหาบ่อยๆ โอเคมั้ย”




    “พูดแล้วนะ”




    “ครับ สัญญาเลย” สิงโตพูดจบก็เงียบไปปล่อยให้น้องได้เตรียมใจอยู่เงียบๆ แต่ตัวเองก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ





    “พี่สิง” คริสเงยหน้าขึ้น เรียกสิงโตเสียงอ่อน




    “หื้ม?




    “เมื่อไหร่พี่จะเลิกแทนตัวเองว่าผมซักทีอะ...มันทำให้ผมรู้สึกว่า ดูห่างเหิน” ประโยคสุดท้ายคริสพูดเสียงเบาหวิว ยิ่งสถานะทั้งคู่ไม่ชัดเจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การพูดเรียกแทนตัวเองว่าผมกับคุณมันเลยทำให้ดูยิ่งห่างเหิน เหมือนคนเพิ่งรู้จักกัน





    “ก็บอกแล้วไง มันชินแล้วน่ะ” ไม่ใช่ว่าคริสไม่เคยพูดขอ แต่เป็นเขาเองต่างหากที่ไม่ยอมทำตาม ส่วนหนึ่งมาจากตอนที่ไม่ค่อยชอบหน้าตั้งแต่ตอนแรกที่เห็น พอรู้จักกัน สนิทกันจริงๆ มันก็กลายเป็นคำพูดติดปากไปแล้ว ตอนนี้เขาก็พยายามไม่แทนตัวเองว่าผมในประโยค เพื่อที่จะง่ายต่อการเปลี่ยนคำ แต่ก็ใช่ว่ามันจะได้ผล





    “แล้วยิ่งอยู่ห่างกันแบบนี้ ผมกลัว...ความรู้สึกเราจะเปลี่ยนไป” สิงโตหันมาสบตากับคริส จับมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายมากุมไว้





    “ขอโทษที่ไม่เคยชัดเจนซักที แต่คริสมั่นใจได้เลยนะ ต่อให้เราห่างกันมาแค่ไหน...ความรู้สึกที่มีให้คริสก็ยังเหมือนเดิม” แววตาที่แน่วแน่ส่งผ่านให้อีกฝ่ายได้รับรู้ คริสยิ้มรับ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ





    “จริงๆนะ”




    “จริงๆ นี่จำไม่ได้หรอ ว่าคนอย่าง....พี่ ไม่เคยโกหก” สิงโตแทนตัวเองว่าพี่ ทำให้คริสยิ้มกว้างกว่าเดิม ไม่อยากจะพูดว่าตอนที่พี่สิงแทนตัวเองว่าพี่แล้วมันดูดีชะมัด มันก็จะเขินๆอยู่นิดหน่อยอะนะ





    “ป่ะ เข้าบ้านได้แล้ว.... แล้วก็อย่าคิดมาก”




    “ครับ ผมจะพยายาม”





    “แทนตัวเองว่าคริสสิครับ” คริสเบิกตากว้าง สายหัวดุกดิกจนสิงโตหัวเราะออกมา




    “ไม่เอาอะ แล้วก็อย่าบังคับด้วย”





    “ครับๆๆ เข้าบ้านได้แล้ว ฝันดีนะคริส”




    “ฝันดีครับ”
    .
    .
    .
    .
    .






    “คริสครับ ตื่นได้แล้ว”





    “อื้อ ขอนอนต่ออีกแปปนึงนะ” เจ้าของชื่อพูดเสียงงัวเงีย ก่อนจะคว้าหมอนอีกใบมาอุดหูไว้ ทำให้คนปลุกถึงกับหัวเราะนิดๆ






    ขนาดฝึกให้ตื่นเช้าแล้วนะ




    “ตื่นเร็ว เดี๋ยวสาย” คนปลุกคว้าหมอนที่คนขี้เซาหยิบมาบังหูตัวเองออก แต่สุดท้ายก็โดนดึงกลับมาเหมือนเดิม




    “ไม่สาย วันนี้หยุด” เสียงอู้อี้ใต้หมอนทำให้คนปลุกแปลกใจ




    “หยุดที่ไหนล่ะ หลงวันป้ะเนี่ย ลุกได้แล้ว”




    “อื้อออ ไม่ลุกจะนอน อย่ายุ่ง” สิงโตถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากคิดอะไรดีๆออก







    เขาโน้มตัวลงยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย รอให้คนเป็นน้องนิ่งสนิท ถึงจะได้ดึงหมอนที่ปิดหูเมื่อกี้นี้ออก




    “เพิ่งจะได้หลับสินะ” เขากระซิบเบาๆ พลางลูบเปลือกตาที่ปิดสนิท





    “จะคิดมากอะไรขนาดนั้น” เขาพูด พร้อมกับเปลี่ยนไปลูบผมคนเป็นน้องไปมา จากที่คิดว่าจะโน้มตัวกะจะได้ฟัดแก้มเล่นๆให้อีกคนตื่น แต่พอเห็นสภาพขอบตาที่คล้ำแล้ว ก็ต้องหยุดความคิดนั้นไป ปล่อยให้อีกฝ่ายได้นอนต่อ





    “ฝันดีอีกรอบนะคริส” สิงโตกระซิบที่ข้างหู ก่อนจะเดินออกจากห้องไป







    คริสรู้สึกตัวตอนสิบเอ็ดโมง เขานั่งอึนซักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุด เขาเหลือบดูนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ อย่างน้อยก็ทันเรียนภาคบ่ายแหละวะ






    ว่าแต่...ใครจะไปส่ง






    คิดแล้วก็หัวเสีย ไม่น่าคิดมากจนนอนไม่หลับ ยิ่งพอเข้ามาในห้องนอนตัวเองแล้วก็อดใจหายไม่ได้ เตียงที่เคยนอน ผ้าห่มที่เคยใช้ คอมพิวเตอร์ที่เคยใช้เล่นเกม ถ้าจะขนไปหอก็คงจะยากเกินไป แล้วอีกอย่างแค่ไปอยู่หอ ไม่ใช่ย้ายบ้าน ไม่จำเป็นต้องขนไปขนาดนั้น เดี๋ยววันว่างๆก็มาที่บ้านได้ ยังไงของก็อยู่เกือบครบ ถึงจะบอกแบบนี้ก็เถอะ แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี






    “เห้อออออ” เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดมากออกไป ถึงจะได้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว





    “ม๊า ป๊าอยู่ไหนอะ” พอลงมาจากห้องก็เจอแม่ของเขานั่งอ่านหนังสืออยู่ แม่เงยหน้าขึ้นมา แล้วชี้ไปยังห้องดนตรีที่ตัวเขาชอบไปขลุกอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร





    “ป๊าไปส่งที่มอหน่อยดิ” พอเขาเข้ามาในห้องก็พุ่งไปหาคนเป็นพ่อทันที





    ระหว่างทางที่ไปมหาลัย สองพ่อลูกได้แต่นั่งเงียบ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะถามอะไรมากมาย แต่ก็ไม่กล้า ไม่ใช่ว่ากลัวพ่อเขาจะว่า ทว่า กลัวคำตอบที่จะได้ยินมากกว่า





    “ถอนหายใจเป็นคนแก่ไปได้” เขาสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆพ่อของเขาก็พูดออกมาส่วนบนของฟอร์ม





    “ไม่ได้แก่ซะหน่อยเหอะ”





    “คิดมากเรื่องหอรึไง” ราวกับว่าพ่อของเขามานั่งในอยู่ในใจ อะไรจะแม่นยำขนาดนั้น





    “ก็นิดหน่อยครับ”





    “ป๊าอยากให้เราหัดอยู่คนเดียวบ้าง บ้านเราไปต่างประเทศออกบ่อย จะให้คนอื่นมาดูแลเรา ป๊าก็เกรงใจ ยิ่งบ่อยๆเข้า ป๊ารู้สึกว่ามันไม่ควร”





    “แล้วทำไมต้องไปอยู่หอด้วยอะ” ยังไงพี่สิงโตก็ตามไปดูแลอยู่ดีนั่นแหละ






    ประโยคหลังเขาได้แต่พูดในใจ ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรืออยู่หอ ยังไงพี่สิงโตก็ต้องตามไปอยู่ดี แล้วยิ่งไม่มีผู้ใหญ่แบบนี้ด้วย...หึหึ






    “ก็อย่างที่แม่แกบอกนั่นแหละ”





    “โห่ป๊าอะ”





    “เอาตรงๆนะคริส ป๊ายังไม่อยากให้เราคบกับสิงโต”



    !!!!


    ............................TBC..........................



    ตัดฉับ 5555 ไม่ทอล์คฮะ สั้นๆง่ายๆ เรามาแล้วววว มาสั้นด้วยนะ ด่าได้แต่อย่าแรง555555 คอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะฮับ








    ทอล์ค : กลับมาแล้วว ขอโตดที่ทิ้งไว้นานเกินไป เราทำงานทุกวันเลยไม่มีเวลาเลย ครั้งนี้เรากลับมาแค่50% เพราะเราคิดไว้แล้วว่าจะอัพอาทิตย์ละสองครั้ง(ถ้าทำได้55555) พร้อมกับเปิดเรื่องใหม่อีก 1เรื่อง และรีไรท์สภาวะหัวใจล้มเหลวใหม่



    ปล. Fernntny คนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนเป็น Konklom (ก้อนกลม) ติดตามได้ที่เพจเดิมเลยค่ะ รักทุกคน❤

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×