ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารยธรรมตะวันตกสมัยโบราณ

    ลำดับตอนที่ #4 : อารยธรรมกรีก

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 53


    อารยธรรมกรีก

    ปัจจัยทางภูมิศาสตร์กับการตั้งถิ่นฐาน


               กรีกในสมัยโบราณอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของยุโรปภาคใต้ ประกอบด้วยดินแดนกรีกบนผืนแผ่นดินหมู่เกาะต่างๆในทะเลเอเจียน หรือฝั่งตะวันตกของเอเชียไมเนอร์  ซึ่งนิยมเรียกว่านครรัฐไอโอเนียน  แบ่งออกเป็นภาคใหญ่ๆ ได้ 3 ภาค
     

    สภาพภูมิประเทศ
    ภูเขา

    ประเทศกรีกเต็มไปด้วยภูเขา ซึ่งแบ่งออกเป็นที่ราบในหุบเขาเล็ก แยกออกจากกันมากมาย ภูเขาเป็นอุปสรรคสำคัญในการติดต่อคมนาคมระหว่างคนที่อาศัยตามที่ราบในหุบเขาดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านตามหุบเขาเหล่านี้จึงมักปกครองตนเองเป็นอิสระต่อกัน พวกที่อาศัยอยู่ตามเกาะต่างๆ ในทะเลเอเจียนก็มีลักษณะแยกกันอยู่เช่นเดียวกัน

                สภาพพื้นดิน

    สภาพพื้นดินส่วนใหญ่ของกรีกขาดความอุดมสมบูรณ์ มีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์อยู่บ้าง แต่ก็เป็นทุ่งหญ้าที่เหมาะแก่การเลี้ยงแพะและแกะเท่านั้น ไม่เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์จำพวกวัวควายหรือม้า บริเวณที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของกรีก ได้แก่ที่ราบระหว่างหุบเขา

    แม่น้ำ

    แม่น้ำในกรีกเป็นแม่น้ำสายสั้นๆ ไหลเชี่ยวในฤดูที่มีฝนตกมาก กระแสน้ำจะพัดพาเอาดินอุดมตามเชิงเขาไป ส่วนในฤดูแล้งน้ำไม่มีการถ่ายเท แม่น้ำจึงกลายเป็นแหล่งเพาะยุง เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น ระดับการครองชีพในกรีก จึงค่อนข้างต่ำ แต่ก็ได้ปรับปรุงการมีชีวิตที่ขาดแคลนได้เป็นอย่างดีและได้สร้างสมอารยธรรมอยู่บนรากฐานของเศรษฐกิจที่มั่นคงพอสมควร

    ทะเล 
           

    ทะเลกรีกจัดเป็นประเทศที่มีความสะดวกสบายในทางออกทะเล ส่วนใหญ่ของแผ่นดินมีลักษณะคล้ายแหลมยื่นไปในทะเล และส่วนที่ลึกเข้าไปในแผ่นดินไม่ไกลจากทะเลมากนัก ชายฝั่งทะเลก็มักเว้าๆ แหว่งๆ ใช้สำหรับจอดเรือกำบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี และบรรดาเกาะในทะเล      เอเจียนก็เป็นเครื่องส่งเสริมให้ชาวกรีกแล่นเรือออกไปได้ไกล ไปสู่เอเซียไมเนอร์และดินแดนตะวันออก

     

     

    อารยธรรมกรีกก่อนประวัติศาสตร์

    อารยธรรมกรีกเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว ทางตอนใต้ของแหลมอิตาลี โบราณเรียกว่า ไอโอเนีย มีศูนย์กลางสำคัญที่นครรัฐเอเธนส์ และนครรัฐสปาร์ตา

    นครรัฐเอเธนส์ เจริญด้านการปกครอง รวมทั้งปรัชญา ส่วนนครรัฐสปาร์ตาเป็นรัฐทหารในรูปเผด็จการ แข็งแกร่งและเกรียงไกร

    อารยธรรมกรีกสมัยประวัติศาสตร์

    Minoan (1450 BC-2800 BC)

    อารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดเรียกว่า อารยธรรมไมนวน(Minoan) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะครีต มีวังสำคัญ คือ วังนอสซัส

    อารยธรรม Minoan นั้นได้ล่มสลายในศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล โดยอาจเป็นเพราะการเกิดTsunami และการรุกรานจากผู้อพยพทางตอนเหนือ (ชาวMycenian)

     Mycenaean(1100 BC–1600BC)

    เป็นเมืองที่เก่งทางด้านการรบ การค้าขาย และมีความสามารถในการทำทอง เช่น สร้อย เครื่องประดับต่างๆ เป็นต้น เชื่อกันว่าสาเหตุของการล่มสลายของไมซีเนียน เนื่องจากการทำสงครามกับกรุง Troy เป็นเวลานาน ทำให้อ่อนกำลังลง หรือถูกรุกรานจากเมืองทางตอนเหนือ

                            Homer(750 BC-1100BC)

                เนื่องจากการรบที่กินระยะเวลายาวนานอีกทั้งยังถูกบุกรุกจากชนกลุ่มทางด้านเหนือทำให้การพัฒนาถดถอยลง แต่ในยุคนี้เกิดมหากาพย์เรื่องอิเลียด(เรื่องเกี่ยวกับการรบระหว่าง Mycenie กับTroy) และ โอดิสซีย์ (เรื่องราวของโอเดซุส วีรบุรุษผู้ช่วยรบกับ Troy)  ซึ่งประพันธ์โดยกวีตาบอดนามว่า Homer มหากาพย์สองเรื่องนี้สอนให้เห็นคุณค่าของวีรบุรุษ ยกย่องความกล้าหาญและซื่อสัตย์

    มรดกของอารยธรรมกรีก

    สถาปัตยกรรม
     

                             กรีกในยุคคลาสสิก จะให้ความสำคัญเรื่องเทพเจ้า ชาวกรีกจะนับถือธรรมชาติเพราะเชื่อว่ามีพลังลึกลับที่สามารถให้คุณและโทษได้ วิหารที่กรีกสร้างนิยมสร้างบนเนินดินหรือภูเขาเล็กๆ มีชื่อเรียกว่า อะครอโพลิส วิหารที่สำคัญ ได้แก่ วิหารพาร์เธนอน ในนครเอเธนส์ ตัวอาคารสร้างด้วยหินอ่อน หลังคาหน้าจั่วมีเสาหินเรียงราย โครงสร้างได้สัดส่วนและสมดุล จึงได้รับการยกย่องอย่างมาก

    ประติมากรรม

                งานประติมากรรมจะสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะธรรมชาติอย่างแท้จริง ในสมัยคลาสสิกกรีกสร้างงานประติมากรรมภาพเปลือก รสนิยมของชาวกรีกเริ่มเปลี่ยนไปในสมัยเฮอเลนิสติก ศิลปินจะสร้างงานประติมากรรมจากสภาพมนุษย์ที่เป็นจริง ประติมากรรมในยุคหลังของกรีกมักแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ยาก ความทรมาน ความเจ็บปวด และความชราของมนุษย์

     

    จิตรกรรม

                งานจิตรกรรมยุดแรกๆส่วนใหญ่จะเป็นงานจิตรกรรมบนภาชนะของใช้ต่างๆที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผา ภาพที่นิยมวาดในตอนแรกมักเป็นรูปสัตว์ แต่ต่อมาได้มีการวาดภาพคนลงไป นิยมใช้สีแดงเป็นพื้น และวาดรูปคนเป็นสีดำ ต่อมาในยุคคลาสสิกรูปที่วาดก็พัฒนาเป็นรูปเถาเครือไม้  และรูปจากมหากาพย์ของโฮเมอร์ ลวดลายมีความสวยงามกลมกลืนและประณีตเป็นอย่างยิ่ง ในยุคเฮลเลนิสติก กรีกได้ค้นพบเทคนิคใหม่ในการวาดภาพประดับฝาผนังโดยใช้หินหรือกระเบื้องสีมาประดับ เรียกว่า โมเสก ซึ่งมีความคงทนถาวร ภาพโมเสกนี้ได้รับความนิยมมากและได้ถ่ายทอดต่อไปยังจักรวรรดิโรมัน

     

    นาฏกรรม

                การละครของกรีกจะใช้ประกอบพิธีกรรมบูชาเทพเจ้าไดโอนิสัส (เทพแห่งพืชผล) การแสดงละครนี้จะแพร่หลายอย่างมากในยุคคลาสสิก จนในที่สุดก็พัฒนาเป็นละครประเภทโศกนาฏกรรม และสุขนาฏกรรม การละครของกรีกนี้นับว่าเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่กรีกได้มอบให้แก่ชาวโลก และยังคงมีอิทธิพลสำคัญต่อวงการละครตะวันตกในปัจจุบัน

    วรรณกรรม

                มหากาพย์ อิเลียด และโอดิสซีย์ของมหากวีโฮเมอร์ ได้รับการยกย่องในแง่ของโครงเรื่อง ความไพเราะ จินตนาการ ตลอดจนอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม งานประพันธ์นี้ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของวิชาปรัชญาและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้กรีกยังได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการวางรากฐานให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย

    คณิตศาสตร์

                นักคณิตศาสตร์เด่นของกรีก ได้แก่ ปิทาโกรัสแห่งซามอส ผู้คิดค้นทฤษฎีปิทาโกรัส และยูคลิคแห่งอะเล็กซานเดรีย ผู้คิดเรขาคณิตแบบยูคลิด

    การแพทย์

                ฮิปโปคราตีส ได้รับการยกย่องเป็น บิดาแห่งการแพทย์มีความเชื่อว่าโรคทุกชนิดเกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่พระเจ้าลงโทษ และเฮโรฟิลัสแห่งแคลซีดอน เป็นคนแรกที่ตัดชิ้นส่วนของมนุษย์เพื่อศึกษา และพบว่าสมองเป็นศูนย์กลางของระบบประสาท ได้รับการยกย่องเป็น บิดาแห่งกายวิภาคศาสตร์


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×