คุณหนูตัวร้ายกับคุณชายจอมเฮี๊ยบ - นิยาย คุณหนูตัวร้ายกับคุณชายจอมเฮี๊ยบ : Dek-D.com - Writer
×

    คุณหนูตัวร้ายกับคุณชายจอมเฮี๊ยบ

    ผู้เข้าชมรวม

    94

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    94

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ย. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     [ สวนสาธารณะ ]

    แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าและสายลมอ่อนๆที่พัดไสวไปมา ทำให้บริเวณสนามหญ้าเต็มไปด้วยใบไม้ที่ถูกลมพัดหล่นมาเกลื่อนกราด …..ฉันนั่งมองดูใบไม้ที่หล่นอยู่อย่างไร้ความหมาย สายตาเหม่อลอยไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทาง ในหัวก็คิดถึงแต่เรื่องราวเก่าๆที่ผ่านมานานแล้ว ทั้งๆที่มันเป็นความทรงจำที่มันไม่ดีแท้ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมลืมมันสักที หนำซ้ำฉันยังคงคิดถึงมันอยู่ทุกๆครั้งที่เดินมาผ่านหรือมานั่งเล่นที่สนามหญ้าในสวนสาธารณะแห่งนี้  ไม่รู้ว่าฉันนั่งเหม่อลอยไปนานแค่ไหน แต่พอรู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อฉันดังอยู่  “ ปริ๊น.. ”  ฉันสะดุ้งสุดตัวแล้วหันไปมองค้นหาเจ้าของเสียงทันที มันช่างเป็นเสียงที่คุ้นหูเหลือเกิน    “ เซน ”  ฉันพูดขึ้นเบาๆ มันเบาจนตัวของฉันก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเองที่พูดออกมา ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้พบกับเขาอีกครั้ง คนที่ฉันเคยคุ้นเคย คนที่ฉันเคยสนิทด้วย คนที่เคยคอยช่วยเหลือฉันมาตลอดในเวลาที่ฉันมีปัญหา  เขาคนนั้น คนที่เป็นรักครั้งแรกของฉัน เขา คือ แฟนเก่าของฉันนั่นเอง เขาเป็นกอดแรกของฉัน เป็นคนที่จับมือครั้งแรกของฉัน และเป็นคนที่ทิ้งฉันไป ฉันเจ็บมากที่รู้ว่ารักแรกของฉัน มันต้องจบลง เพียงเพราะ “ เราห่างกัน ”  เซนย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่นอย่างกะทันหัน ฉันเคยคิดว่าเขาจะรอฉัน เพราะเขาเคยสัญญาว่าจะรักฉันคนเดียว..ตลอดไปแต่สุดท้าย เขาก็มีคนอื่น  เขาทิ้งฉันไป “ เราเลิกกันเถอะปริ้น ผมอยากให้คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย ผมสัญญา ”  นี่เป็นคำพูดที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากของคนที่ฉันรัก  ทันใดนั้น เซนก็เอื้อมมือมาจับที่มือของฉัน เขาคุกเข่าลง พร้อมกับพูดคำว่า “ ปริ๊น ผมขอโทษที่ทิ้งคุณไป เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ ผมจะไม่ทิ้งคุณไปอีกแล้ว ผมสัญญา  ”  ความเจ็บปวดกลับมาตอกย้ำอีกครั้ง ความรู้สึกเดิมๆที่ไม่มีวันจางหายไปความทรงจำ มันยังคงเหมือนเดิม เขาทิ้งฉัน เขาปล่อยให้ฉันต้องจมปลักอยู่กับความทรงจำที่เจ็บปวด ฉันสะบัดมือเซนออก “ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน.. ไปให้พ้นฉันนะ!! คนใจร้าย!!ฉันเกลียดนาย!!ได้ยินมั้ย!! ฉันเกลียดนายยยยยย!!!!!!!!!!!! ………………………………………………………………………………………………………………

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฉันสะดุ้งสุดตัว และพบว่า ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่ใช่สนามหญ้าในสวนสาธารณะ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีลมพัด รวมทั้ง..ไม่มีเซนอยู่ด้วย.. ทั่วทั้งห้องมีเพียงบรรยากาศเย็นๆของแอร์และเสียงนาฬิกาปลุกที่ฉันตั้งเอาไว้เพื่อปลุกให้ตื่นไปโรงเรียนในตอนเช้า เท่านั้น “ ฝันบ้าอะไรเนี่ย! ฉันบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียพร้อมกับเอื้อมมือไปกดปิดเสียงของนาฬิกาปลุก ก๊อกๆๆๆๆๆ!! สียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้องของฉัน พร้อมกับเสียงของพี่หน่อยพี่เลี้ยงส่วนตัวของฉัน ดังขึ้นหน้าห้อง  “ คุณหนูคะ คุณท่านให้พี่มาตามคุณหนูค่ะ ท่านบอกว่า อีกเดี๋ยวจะได้เวลาไปโรงเรียนแล้วนะคะ  ”  “ ค่ะ ขอบคุณนะพี่หน่อย เดี๋ยวปริ๊นลงไปค่ะ ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะคะว่าเดี๋ยวปริ๊นไปค่ะ ” ฉันพูดขึ้น พร้อมกับก้าวเท้าลงจากเตียง หยิบรีโมทมาปิดแอร์ ก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อไปทำธุระส่วนตัว

    ………………………………………………………………………………………………………………

    ฉันชื่อ ธีระสา คณาวัฒจนะกุล อายุ 17 ปี เป็นลูกสาวคนเดียวของ ตระกูลคณาวัฒจนะกุล คุณพ่อของฉันท่านชื่อ พงษ์เพชร คณาวัฒจนะกุล ท่านทำงานเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ชื่อบริษัท คณาวัฒจนะกุล เป็นบริษัทที่เป็นการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ พ่อกับแม่ของฉันท่านแยกทางกัน ฉันจึงมาอยู่กับคุณพ่อเพียงสองคน ในตอนแรก บริษัทของเราไม่ได้โด่งดัง มีเงินมีชื่อเสียงเหมือนอย่างตอนนี้ เราเป็นเพียงแค่บริษัทที่ทำการค้าส่งออกสู่ตามประเทศทั่วไป ไม่ค่อยมีคนรู้จักชื่อบริษัทของเราเท่าไหร่นัก แต่เพราะคุณพ่อของฉันท่านเป็นคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการธุระกิจ ท่านจึงชักชวนบริษัทต่างๆมาร่วมลงทุนด้วย ทำให้บริษัทเราได้ขยายกิจการได้ใหญ่ขึ้น จนเป็นที่รู้จักกันในหลายๆประเทศทั่วโลก คุณพ่อของฉันท่านเป็นคนที่ใจดีแต่ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ ชอบโวยวายนิดๆ [ ย้ำ นิดๆนะคะ >.< ] ฉันชินกับการตามใจของคุณพ่อมากกว่า ดังนั้นเวลาที่ฉันถูกคนอื่นขัดใจ ฉันก็มักจะทำสีหน้าไม่พอใจอย่างมากแสดงให้เห็นทันที เอาง่ายๆเลยก็คือ ฉันป็นคนที่ชอบเอาแต่ใจนั่นเอง แต่ว่าก็ไม่เคยมีใครมาว่าฉันได้ เพราะพวกเขาเกรงใจคุณพ่อของฉัน ที่มีแต่คนนับหน้าถือตามากมายในวงการธุระกิจนั่นเอง [ หุ หุ ลูกคุณหนูก็อย่างนี้แหละ ทำอะไรก็ไม่เคยผิด ^[]^ ]  และด้วยรูปร่างที่เป๊ะเวอร์และบอบบาง หุ่นเล็กๆ ตาโตกลม ผมหยักศกสีดำสนิท ใบหน้ารูปไข่ ปากสีชมพูระรื่อ จมูกโด่ง ดูละม้ายคล้ายลูกครึ่งของฉัน ทำให้มีคนมากหน้าหลายตาสนใจในตัวของฉันเป็นส่วนใหญ่  [ ก็คนมันสวยนี่คะทำอะไรก็ดูดี นี่ฉันไม่หลงตัวเองเลยจริงๆนะเนี่ย555+ >.< ] แต่ว่าฉันก็ไม่เคยที่จะสนใจผู้ชายคนไหนเลย-แม้แต่คนเดียวเพราะว่า ฉันเคยมีคนที่ฉันรักมากๆอยู่คนหนึ่ง เขาชื่อเซน ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่ดี คิดว่าเขาเป็น-คนรักคนสุดท้าย จึงทุ่มเทความรักความใส่ใจให้จนหมดทั้งหัวใจ แต่สุดท้าย..ฉันก็คิดผิด ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นเพราะอะไรกันที่เราเลิกกัน ทั้งๆที่ฉันก็รักและดูแลเซนเป็นอย่างดีแท้ๆ ไม่รู้ว่าเพราะเซนย้ายไปเรียนที่อื่น เพราะเราห่างกัน หรือว่า เพราะเซนไม่มั่นคง หรือเซนไม่รักฉันแล้ว หรือเซนมีคนอื่น ฉันปวดหัวไปจนหมดแล้วกับการคิดหาคำตอบว่าแท้จริงแล้ว เราเลิกกันทำไม? และเราเลิกกัน เพราะอะไร? ฉันเจ็บปวดกับความทรงจำที่มีเคยมีกันและกันมานานพอสมควรกว่าที่จะทำใจและเกลียดเซนได้ในที่สุด!

    ……………………………………………………

    บทที่ 1 สมาชิกใหม่

    ฉันเดินหิ้วกระเป๋านักเรียนเดินไปตามถนนในหัวก็ครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปี่อยจนดูน่ารำคาญและเซ็งที่สุด “ เฮ้อ!! ฉันถอนหายใจเสียงดัง และหยุดคิดเรื่องไร้สาระต่างๆโดยการเปลี่ยนมาร้องเพลงเบาๆแทน ..ไม่นานนักฉันก็เดินทางมาถึงโรงเรียน ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียน อัครวิทยาคาร อยู่ ม.5/A โรงเรียนของฉันจะแบ่งห้องเหมือนเกรดของมหาวิทยาลัย คือ แยกเป็นห้อง A B และ F เด็กที่เรียนเก่งก็จะอยู่ห้องA เก่งรองลงมาก็ห้องBและที่ไม่เก่งเลยก็ห้องF ฉันเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างขยันและหัวดีพอสมควรจึงเข้ามาอยู่ห้องAได้อย่างไม่ยากนัก และฉันเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะป็อปปูล่าในโรงเรียนนี้เสียด้วย แต่ส่วนใหญ่จะมีแต่พวกบรรดาพวกสาวๆมากกว่าที่กรี๊ดกร๊าดเวลาที่เห็นฉันเดินผ่าน หลายคนคิดว่าฉันชอบเพศเดียวกันเพราะว่าฉันไม่ค่อยสุงสิงกับผู้ชายเท่าไหร่นัก มันเป็นแบบนี้หลังจากที่ฉันถูกหักออกจากเซนรักแรกของฉัน มันทำให้ฉันไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายอีกเลย  โรงเรียนของฉันมีอาคารอยู่สามอาคารเรียน[และทุกอาคารสูงหกชั้น]  คือ  อาคารอัครวิทยา1 อาคารอัครวิทยา2 และอาคารอัครวิทยา3 ตั้งเรียงกันอยู่เป็นแนวนอนกลางพื้นบริเวณกว้าง ห้องประจำของฉันอยู่ที่อาคารอัครวิทยา2 เป็นอาคารหลังกลางที่มีอาคารอัครวิทยา1อยู่ด้านซ้ายมือและอาคารอัครวิทยา2อยู่ทางขวามือ ฉันเดินขึ้นบันไดเพื่อที่จะไปที่ห้องเรียนที่ชั้น2 ฉันเดินขึ้นบันไดผ่านชั้น1มาแล้วกำลังจะเดินเลี้ยวขึ้นชั้น2 ทันใดนั้น!!!เฮ้ยยย!!!!!!!!!!!  อร๊ายยย!!!!!!!!!! ฉันร้องเสียงหลง จู่ๆก็มีใครไม่รู้วิ่งมาชนฉันอย่างแรง ทำให้ฉันที่ไม่ทันตั้งตัวอยู่หล่นลงมาจากบันไดทันที!! รวมทั้งคนที่ชนฉันก็หล่นลงมาด้วย โอ๊ย!!นี่!!คุณ!!ฉันพลักร่างของคนที่ชนฉันลงมาออกจากตัว กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายแตะจมูกของฉันอย่างแรง จนฉันรู้สึกมึนหัว ฉันมองหน้าของคนที่ชนฉันด้วยความรู้สึกโมโห เขาเป็นเด็กผู้ชาย น่าจะอยู่รุ่นเดียวกับฉันไม่ก็รุ่นพี่ของฉันปีนึง เขาเป็นคนที่ผิวขาว ใบหน้าคม คิ้วเข้ม ปากสีชมพูระรื่อ และมีตาสีดำสนิท ดูแล้วเหมือนกับดารา-ในทีวีแม็กกาซีนเลยล่ะ ฉันว่าเขาต้องเป็นนักเรียนใหม่แน่ๆเพราะฉันไม่คุ้นกับเครื่องแบบนักเรียนที่เขาแต่งอยู่ นี่คุณ!!ทำไมไม่รู้จักดูป้ายบ้างยะว่าเขาไม่ให้วิ่งบนอาคารเรียนน่ะ เห็นป้ายมั้ย!!แล้วนี่อะไรเนี่ย!!ไอ้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้เนี่ยยยย!!!! ฉันโวยวายเสียงดังลั่นพร้อมกับเอามืออุดจมูกกันกลิ่นน้ำหอมทันทีที่พูดจบ นายคนที่ชนฉันลุกขึ้นยืนและปัดเสื้อผ้าพร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เป็นห่วง  ขอโทษครับ!!ผมไม่ทันมองว่ามีคนเดินขึ้นมา เอ่อผมชื่อชาป์นะครับ..T^T พูดด้วยเสียงที่สำนึกผิดพร้อมกับยื่นมือมาให้ฉันจับเพื่อที่จะให้ฉันลุกขึ้น ฉันปัดมือของชาป์ออกทันทีพร้อมกับลุกขึ้นจ้องหน้าชาป์อย่างจงใจพร้อมกับยิ้มให้ “ไม่เป็นไรหรอกคุณ ก็คุณน่ะ จะรีบไปหาพ่อออออออ ของคุณไม่ใช่เหรอ”  ฉันลากเสียงคำว่าพ่อยาวๆเพื่อจงใจด่าอย่างสุภาพ ( ตายแล้วนี่ฉันด่าคนที่พึ่งเจอกันแค่ครั้งแรกเลยนะเนี่ย เหอ เหอ ^^! ) “นี่คุณ!! ก็ผมบอกแล้วไงล่ะว่าไม่ได้ตั้งใจๆน่ะ หรือว่า..คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง..อืม..ผมก็พูดเป็นแต่ภาษาไทยซะด้วยสิ ขอโทษนะครับ ไว้ผมจะเรียนภาษาต่างดาวมาพูดกับคุณก็แล้วกัน ผมไปล่ะ” พูดจบชายหนุ่มก้เดินจากไปปล่อยให้ฉันยืนอึ้งอยู่คนเดียว “ห่ะ!ห่ะ!นาย นายนี่มันนนน!!!!!!!!!!!!” ฉันโวยวายทันทีที่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังถูกด่าอยู่ “โธ่โว้ยย!!!!!!!!!นี่มันวันบ้าอะไรวะเนี่ยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!” ฉันโวยวายเสียงดังแล้วจึงรีบเดินเพื่อไปที่ห้องเรียนทันที วันนี้มันช่างเป็นวันที่แย่ที่สุดของฉันเสียจริงๆ แค่มาเรียนวันแรกก็ถูกด่าเอาเสียแล้ว แล้ววันนี้ฉันจะเจออะไรอีกบ้างก็ไม่รู้ T^T ฉันบ่นพึมพำพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องเรียน ละเนื่องจากชั้นที่ฉันเรียนอยู่เป็นชั้นสองของอาคาร ฉันจึงเลือกที่จะนั่งริมหน้าต่างเพื่อที่จะได้สามารถมองเห็นวิวด้านล่างของอาคาร และอย่างน้อยๆลมที่พัดผ่านหน้าต่างห้องมามันก็จะได้ช่วยให้ใจของฉันเย็นขึ้น

    “อร๊ายยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!ปริ๊นนนนน!!มาตั้งแต่ตอนไหนอ่ะ!!แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะเปิดเทอมวันแรกน่ะ” เสียงกรี๊ดกร๊าดของที่คุ้นหูดังขึ้นหน้าห้องเรียนทำให้ฉันหันไปมองเจ้าของเสียง  ฮารุ นั่นเอง เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่ตอน ม.4แล้วเรามักไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเพราะบ้านของฮารุอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันเท่าไหร่นัก เธอเป็นลูกของนักธุรกิจคนหนึ่งเหมือนกัน ผมของฮารุเป็นสีน้ำตาลยาวสยายถึงกลางหลัง ตาโต ผิวขาว ปากนิดจมูกหน่อยดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลยล่ะ ฮารุเดินมาที่โต๊ะเรียนของฉันก่อนจะนั่ลงที่เก้าอี้ด้านข้าง “ปริ๊นจ๋านี่ๆรู้หรือยังจ้ะว่าลูกของท่านผอ.จะมาเรียนที่โรงเรียนของเราน่ะ” อารุเล่าด้วยความตื่นเต้น “ไม่รู้!! ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดจนฮารุแปลกใจ “เป็นอะไรน่ะปริ๊น มีใครทำอะไรเธอหรือเปล่า”ฮารุถามฉันด้วยน้ำเสียงกังวล ฉันหันหน้าหนีฮารุทันที “ก็เมื่อเช้าน่ะสิฮารุแย่ที่สุดเลยอ่ะมีคนเดินมาชนฉันที่ตรงบันไดชั้น1ฉันเลยด่ามันไปอ่ะแล้วไอ้บ้านั่นมันก็ด่าฉันคืนด้วยล่ะ!! ผู้ชายอะไรไร้มารยาท!!แถมตัวงี้นะมีแต่กลิ่นน้ำหอม สงสัยจะไม่ได้อาบน้ำมาโรงเรียน แล้วเมื่อคืนนี้นะฮารุ ฉันยังฝันถึงเซนอีกอ่ะแย่ที่สุดเลย!! ฉันพูดแกมๆกระแทกเสียง “แล้วเธอด่าหมอนั่นว่าอะไรเหรอ คนที่เขาชนเธอน่ะ” “ ไม่มีอะไรหรอกช่างมันเหอะฮารุ ” “ จ้าๆเอางั้นก้ได้เขาคงมาใหม่ยังไม่รู้จักเธอและก็คงไม่รู้ว่าเธอน่ะเป็นคนเด่นคนดังของที่นี่ ” “ อืมก็อาจจะใช่นะไอ้ฉันมันก็ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเสียด้วยสิ โดยเฉพาะ..ผู้ชาย  ” ฉันพูดพร้อมกับเน้นเสียงน้อยๆทำให้คิ้วของฉันดูขมวดขึ้น มันดูตลกจนฮารุต้องหัวเราะออกมา “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” “ อะไรกันเล่า!! ฮารุก็ ” ฉันพูดแกมดุฮารุ.  ทันใดนั้นคุณครูอารียาก็เข้ามาในห้องเรียนของเราละสั่งให้พวกเรานั่งที่เก้าอี้ของตนเองอย่างรีบร้อน พอพวกเรานั่งที่ตำแหน่งของตนเองเรียบร้อยแล้วคุณครูอารียาก็เดินมายืนที่ตรงกลางหน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งหยิบกล่องกระดาษสีเทาขึ้นมาวางบนโต๊ะเรียน ในกล่องใบนั้น มีกะดาษม้วนเล็กๆอยู่เต็มไปหมด “ เอาจ้ะนักเรียนทุกคน วันนี้ เราจะมีสมาชิกใหม่มาร่วมเรียนกับพวกเราหนึ่งคนนะจ้ะ แล้ววันนี้ครูก็จะจัดคู่บัดดี้ให้กับนักเรียนทุกคนด้วยนะจ้ะ เอาล่ะจับฉลากรายชื่อที่อยู่ในกล่องได้เลยจ้า ” พวกเพื่อนๆต่างให้ความสนใจเดินมาจับฉลากรายชื่อกัน  แต่พวกเพื่อนๆก็ไม่เคยค้านที่จะเปลี่ยนคู่ของตนเองเลย พวกเขาต่างพอใจกับการที่ได่คู่บัดดี้กันทั้งนั้น “ ปริ๊นๆๆๆๆๆๆๆ!!!!! ฉันได้คู่บัดดี้กับโทอิชิคุงล่ะ!!!!!! ” ฮารุส่งเสียงตื่นเต้นพร้อมกับกระโดดไปมาทั่วห้อง โทอิชิคุง เป็นลูกชายของคุณครู ฮิราอิชิ โทเบะเอะ คุณครูสอนภาษาญี่ปุ่นของโรงเรียนเรา โทอิชิคุงเป็นคนที่ป๊อปไม่แพ้ฉัน เขาดูหล่อ เข้ม เป็นชายในฝันของใครหลายๆคนเลยล่ะ ฉันมองดูฮารุที่เดินไปหาโทอิชิคุง พวกเขาดูมีความสุข เพราะต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดี ฉันก้มลงมองดูม้วนกระดาษในมือของตัวเอง ภาวนาให้เป็นเด็กผู้หญิง แต่ว่าฉันเองก็ไม่ได้หวังอะไรมากมายแค่อยากให้คู่บัดดี้เป็นผู้หญิงมากกว่า “ นวมินทร์ ” ฉันอ่านชื่อในกระดาษเบาๆ เป็นผู้ชายห้องของเราแน่เหรอเพราะว่าฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย คุณครูอารียาเห็นฉันยืนนิ่งไป ก็ส่งยิ้มมาให้ “ เอาล่ะเด็กๆ ครูว่าพวกเธอต่างก้มีคู่บัดดี้กันแล้ว ในกล่องใบนี้จะมีชื่อของนักเรียนใหม่อยู่คนหนึ่งนะจ้ะ ซึ่ง ธีระสาก็ได้หยิบชื่อของนักเรียนใหม่ของห้องเรามาแล้วด้วย ดังนั้น คู่ของธีระสาก็คือนักเรียนใหม่นั่นเองจ้ะ ” “ หืออออ!!! ”  o.O” ฉันอุทานขึ้นมา “ นี่ๆชื่ออะไรเหรอปริ๊น ” พวกเพื่อนๆในห้องต่างก็รุมถามชื่อของสมาชิกใหม่จากกระดาษในมือของฉัน “ นวมินทร์ ” ฉันอ่านชื่อเบาๆ “ ต้องเป็นคนหล่อมากแน่เลยล่ะ ” “ ถ้าหล่อนะ ฉันจะจีบเลยแหละ ” สาวๆในห้องเรียนต่างก็เพ้อฝันถึงเจ้าของชื่อที่เป็นนักเรียนใหม่ “ เอาล่ะจ้ะนักเรียน ครูว่า พวกเราคงอยากจะรู้จักอยากเห็นหน้าของนักเรียนใหม่เราแล้วนะจ้ะ เอาล่ะ เข้ามาเลยจ้ะ นวมินทร์ ” ครูอารียาพูดพร้อมกับ หันหน้าไปทางประตูห้องเรียน  พวกเราเองต่างก็ให้ความสนใจกับประตูหน้าห้องเรียนเป็นอย่างดี เพราะทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่หน้าประตูกันเป็นส่วนใหญ่ ฉันเองก็อยากเห็นหน้าคู่บัดดี้ของตัวเองเหมือนกัน จึงมองดูหน้าประตูอยู่ห่างๆ ฉันอยากได้คู่บัดดี้ที่ตามใจฉันและก็เชื่อฟังฉันที่สำคัญ เขาต้องเป็นคนที่ดูดีด้วยล่ะ ทันใดนั้นสมาชิกใหม่ของห้องเรียนก็ก้าวมายืนที่ตรงหน้าห้อง พอฉันเห็นหน้าสมาชิกใหม่ที่เป็นคู่บัดดี้ของตัวเองเท่านั้น ฝันของฉันก็สลายไปในพริบตา เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้อง คือ!!!! ชาป์ คนที่ชนฉันที่บันไดเมื่อเช้านี้ เขาคือนายตัวเหม็นที่ฉันเกลียดนั่นเอง!!!!!! “เฮ้ยยยยยย!!!!!!!!!!!! OoO!’’  ฉันกับหมอนั่นร้องลั่นห้องด้วยความตกใจทันทีที่สายตาของเราประสานกันอย่างบังเอิญ และฉันก็คิดว่าเขาเองก็คงตกใจไม่แพ้กันที่เห็นฉันยืนอยู่ในห้องนี้  “นาย!!ไอ้บ้า!!ไอ้โรคจิต!! นายตัวเหม็น!!!”  “ คุณ!!!ยัยป๊อปปูล่าปากดี!!ยัยโทรโข่ง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น