ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุพผาโปรยใต้จันทร์กระจ่าง

    ลำดับตอนที่ #1 : ชุนฮวาเฮียง

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 49


    ชุนฮวาเฮียง คือนามของข้า  มารดาข้าบอกว่า ข้าเกิดหน้าหนาว ท่ามกลางป่าเหมยบานสะพรั่งอันปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาด. ดอกเหมย.. อา.. ดอกเหมย  แม้ว่าอาจมีดอกไม้อื่นซึ่งสวยงามกว่า หอมกว่า แต่ไม่อาจเปรียบกับดอกเหมยโดยเด็ดขาด เนื่องด้วยมันมีธาตุทระนงในตัว ดอกเหมยนั้นจะบานก็ต่อเมื่อหิมะตกหนักยิ่งหนักยิ่งบานสะพรั่ง ยิ่งแดงฉานประหนึ่งโลหิตท่ามกลางหิมะ..โลหิตอันร้อนระอุ ... ดังนั้น คำว่า ฮวา ในชื่อข้าก็มีมาด้วยเหตุนี้เอง ข้าเองก็รักเหมยยิ่ง

    กลางหุบเขาในภาคเหนือคือบ้านข้า  แวดล้อมไปด้วยไปด้วยพี่ป้าน้าอา ญาติ ๆ ของข้าทุกคนล้วนมีวรยุทธ มีความสามารถ ฉลาดหลักแหลมปราดเปรื่อง .... ทุกคนล้วนป็นจอมกระบี่

    แต่ทุกคนกลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทำนาทำไร่ ไม่เคยออกนอกหุบเขา และ ...........ข้าด้วยเช่นกัน

    ตั้งแต่เด็กข้ามักรบเร้าอยากออกไปภายนอกหุบเขาของเรา เนื่องด้วยข้ามีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่านออกเขียนได้ตั้งแต่เด็ก ดังนั้นตำราในบ้านข้าล้วนถูกอ่านหมดสิ้น .... แน่นอนย่อมมีเรื่องราวเกี่ยวกับโลกภายนอก ข้าได้อ่านแล้วล้วนแต่เพิ่มความอยากออกไปสู่โลกภายนอกมากขึ้น .... ข้าอยากเห็นเมืองเหลือเกิน

    แต่มารดาข้าห้ามเด็ดขาด ท่านบอกว่า คนภายนอกล้วนน่ากลัวเจ้าเล่ห์เพทุบาย และ เกียจชังพวกเรา ข้าถามว่าเพราะเหตุใด มารดาข้าเล่าว่า " กาลก่อนบรรพบุรุษของพวกเราข้ามเทือกเขามาจากแดนตะวันตก  บุกเบิกดินแดนก่อตั้งรากฐานสร้างความมั่นคงชื่อว่า นิกายเทิดสุริยัน ก่อร่างเกิดอิทธิพลครอบคลุมแผ่นดิน แต่ชาวตงง้วนนั้นขี้อิจฉานัก ทั้งบรรดาสำนักต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย เห็นเราขยายเร็วเกินไปมิหนำซ้ำยังเห็นเราเป็นชนชาวต่างชาติ นับถือต่างศาสนา จึงดำเนินการตราหน้าเราว่าเป็นพรรคอสูร และ กวาดล้างพวกเรา ชนชาวเราป้องกันตัวย่อมต้องมีการบาดเจ็บล้มตาย กลับหาว่าเราฆ่าฟัน ครั้นผ่านมารุ่นทวดเจ้า เหตุการณ์ทวีความรุนแรประกอบกับตอนนั้นพวกเราขาดความระมัดระวังโดนวางยาพิษในงานลางวันเกิดของเจ้าครบขวบปี โดนล้อมตำหนัก กลุ่มสำนักต่าง ๆ นำโดย 7สำนักใหญ่ และ เส้าหลิน กับ บู๊ตึง เปิดฉากฆ่าฟันชนชาวเรา ทวด ปู่ และพ่อ ของเจ้านำชนชาวเราสละชีพเพื่อปกป้องพวกเราไว้ เหลือรอดกันมาก็น้อยนิด เดินทางหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาจนถึงหุบเขานี้ เริ่มต้นกันใหม่ดังนั้น มารดาจะบอกเจ้าอย่าออกไปภายนอกเลย อยู่ในนี้เจ้าก็มีความสุขดีมิใช่หรือ ต่อไปใช้ชีวิตอันเรียบง่ายกันกับครอบครัวของเจ้าเถอะ " .... ท่ามกลางสายตาอันปราณีของมารดาข้า ......... ข้าตอบไม่ได้ ............

    ทุกวันต่อมาของข้าก็เหมือนเดิมข้านอนแต่หัวค่ำตื่นมาตอนยามสองเริ่มเดินลมปราณตามที่ลุงข้าสอนไว้

    กลางวันก็ล่าสัตว์ทำไร่ไถนาตกเย็นก็ซ้อมกระบี่กับท่านอาเป็นเช่นนี้ทุกวันเรื่อยมา

    ท่านอาท่านลุงล้วนบอกว่า ข้ามีพรสวรรค์ในการฝึกกระบี่ ข้าก็คิดเช่นนั้นไม่เคยมีกระบวนท่าที่ข้าร่ายรำไม่ได้

    จนปัจจุบันข้าไม่สนใจกับกระบวนท่าต่างๆ อีกแล้ว ไม่ว่าร่ายรำอย่างไรก็เฉกเช่นเดียวกันมิใช่หรือ

    ข้ารู้ว่า ข้าไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนท่าต่าง ๆ อีกแล้ว ............

    ปีนี้ข้าอายุ 17 ปี มิไยว่าแม่ข้าจะพูดห่วงใยข้าว่าอย่างไร ท่าอาท่านลุงท่านป้าจะว่าอย่างไร ข้ายืนกรานว่า ข้าจะต้องออกไปหาประสบการณ์สักครั้ง ........ ข้าต้องออกไปแสวงหาชีวิตของข้า..................


    ปล. ถ้าชอบแนวภาษาโปรดให้กำลังใจด้วยครับ นี่เรื่องแรกของผม รับรองว่าอัพบ่อยมาก

                                                                                                                                  หนึ่งใบไม้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×