คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ปะทะ
สามสหายค่อยๆพยุงกันไปที่ใต้ต้นไทร เมื่อถึงม้านั่ง ปลายและฝันก็พยุงขวัญนั่งลง โดยมีสายตาสามคู่ของใครบางคนมองอยู่
“เป็นอะไรมากมั๊ยขวัญ”ปลายถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรเท่าไหร่หรอกน่า แค่หน้ามืดนิดหน่อยเอง”ขวัญตอบเรียบๆแม้ในใจครุ่นคิดอย่างหนัก
“ดีแล้ว นั่งตรงนี้ซักพักนึงเถอะ”ฝันแนะนำ
“ไม่ได้”เสียงลึกลับดังขึ้น
“ใครหนะ”ปลายหันไปร้องถาม
“เจ้าของที่”เสียงลึกลับนั้นตอบง่ายๆ
“อะไรนะ เจ้าที่เหรอ”ขวัญทวนคำงงๆ
“อย่าสนใจเลยน่า”ฝันบอก
“ปลาย ฝัน เธอเชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้ามั๊ย”ขวัญเปรยเบาๆ
“ไม่รู้สิ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อซักเท่าไหร่เลยนะ”ฝันตอบอย่างครุ่นคิด
“นั่นสินะ ทำไมหละขวัญ”ปลายเริ่มต้นอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมอยู่ๆขวัญถึงทรุดไปอย่างงั้น”ฝันเริ่มต้น
“ขวัญก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ตอนที่ใครคนนึงออกมาจากเวที ขวัญรู้สึกว่าอยู่ๆฟ้ามันก็มืดไปหมด ฝนก็ตก แต่ขวัญกลับไม่เปียกเลยทั้งๆที่ยืนกลางแจ้ง แล้วขวัญก็เห็น เห็นถ้ำมืดๆอยู่ข้างหน้า แล้วมันก็หายไป ขวัญได้ยินเสียงประกาศเข้าแถวแว่วๆ แล้วขวัญก็เห็นเป็นผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดโบราณ มีดอกกล้วยไม้ปักบนผม ยืนหันหลังให้ขวัญ ข้างหน้าเป็นปราสาทงดงาม แล้วทุกอย่างมันก็หายไป”
ขวัญอธิบายพร้อมพยายามนึกถึงภาพลึกลับที่ได้เห็นมา
คนที่ได้ฟังเงียบไป แล้วทุกคนที่ได้ฟังก็รู้สึกว่าโลกมืดไปอีกครั้ง แล้ว.........
ปราสาทโบราณก็ปรากฏเบื้องหน้า มีเจ้านครลึกลับประทับบนบัลลังก์ทอง มีธิดาน้อยซุกซนอยู่ 4 พระองค์....
“พระนาง หยุดเถิดเพคะ”เสียงอ่อนล้าปนชราภาพดังขึ้นเบาๆ แล้วทุกคนก็ชะงัก โลกสว่างสดใสขึ้นมาอีกครั้ง สามสหายกระพริบตางงๆ สายตาลึกลับสามคู่ก็เปลี่ยนแววจากแข็งกร้าวเป็นงุนงงเช่นกัน
แต่อีกมุมหนึ่ง สาวงามสง่านางหนึ่ง ใบหน้าของเธอสวยหวาน แต่กลับมีดวงตาสีเข้มที่คมดุ ซึ่งบัดนี้ ดวงตาคู่นั้นฉายแววไม่พอใจ คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากัน ก่อนที่ปากแดงงดงามจะขยับแล้วพูดว่า
“บุศราคัม เจ้าขวางข้าทำไม”
บุคคลที่ถูกกล่าวถึงยังคงยืนสงบ แม้ดวงตาสีเหลืองเข้มจะดูหวาดกลัว ร่างชรายังยืนนิ่งเพราะไม้เท้าที่ค้ำร่างอยู่
“อย่าทรงทำเยี่ยงนี้เลยพระนาง”เสียงเครือๆดังขึ้นด้วยความอ่อนล้า
“ทำไม ข้าจะทำ ข้ารับพระบัญชาจากพระบิดามาแล้ว ข้าจำต้องทำ”เสียงหวานทรงอำนาจดังขึ้น
“มิใช่พระนางต้องการแก้แค้นพระขนิษฐาหรือเพคะ”เสียงชราขัดขึ้น
“บังอาจนัก อย่ามาใช้นิสัยสู่รู้กับข้า เจ้ากับข้าเป็นแค่ทาสกับนางพญา เจ้ามิอาจขวางข้าได้”
ว่าพลางหันไปมองคนกลุ่มเดิม
“และเจ้าก็จะไม่มีวันรอดพ้นไปจากน้ำมือของข้า บัว มัทนา ชบา ขนิษฐาทรยศ”สิ้นเสียง ร่างชราเบื้องหลังก็ทรุดลง
มือเรียวของสาวงามยกขึ้นอีกครั้ง
“ครูภัสดา”เสียงเรียบดังขึ้น มืองามลดลงในทันใด ร่างหญิงชรารีบลุกขึ้นแล้วผลุบหายไปอย่างรวดเร็วผิดวัย
“เอ่อ นี่ใกล้เวลาแล้วคะ เชิญครูที่หน้าเวทีด้วยคะ”
“คะครูเกตน์นิภา”ผู้ที่ชื่อภัสดาตอบ แล้วเดินตามครูวัยกลางคนไป แต่ยังไม่วายเหลือบมองกลุ่มนักเรียนที่หมายปอง แล้วหันมาเหลือบมองหญิงชราที่บัดนี้หลบอยู่หลังต้นไม้ ดวงหน้างามเหยียดรอยยิ้มเหี้ยม
“หม่อมชั้นขออภัยเพคะ พระแม่เจ้า ที่มิอาจปกป้องพระธิดาของพระองค์จากพระนางได้”บุศราคัมรำพึงพลางแหงนหน้ามองบนฟ้า น้ำตาไหลจากดวงตาสีเหลืองเข้ม
ทันใด สร้อยคอประดับพลอยสีเหลืองบิดประสานกับทองคำที่คอของหญิงชราก็สว่างวาบขึ้น และดูเหมือนหญิงชราจะดีใจราวกับรู้ความหมาย
“ขอบพระทัยเพคะ หม่อมชั้นจะพยายามให้ถึงที่สุด”
ดวงตาหญิงชราเป็นประกายเพียงชั่ววูบ ก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อเห็นภัสดายืนมองเป้าหมายอย่างสมใจ
เมื่อหันไปก็พบว่า เด็กสาวทั้งสามกำลังมีเรื่องกับคนที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของที่
“เฮ้ย พวกเธอหนะ ทำอะไรไร้สาระที่โต๊ะนี้ รู้มั๊ยว่านี่มันที่ประจำของพวกชั้น”เสียงห้าวลึกดังขึ้นทำเอาสามสหายสะดุ้ง เมื่อหันไปก็พบเด็กหนุ่มสามคนยืนประจัญหน้าเรียงหน้ากระดาน
“ไม่รู้ เธอไม่ได้เขียนชื่อแปะไว้ที่โต๊ะนี้นี่”ฝันต่อปากต่อคำ เฮ้อ เธอต้องมีเรื่องกับคน 2 กลุ่มในวันเดียว แล้วชีวิตเธอที่นี่จะมีความสุขบ้างมั๊ย
“ปากดีนักนะเธอ”ชายคนข้างขวาว่าขึ้นมาบ้าง
“ปากดีก็ดีกว่าปากเสียอย่างพวกเธอก็แล้วกัน”ปลายเริ่มรุกเมื่อเห็นเพื่อนเริ่ม
“หนอย พวกเธอ...”บุคคลที่สามทางด้านซ้ายพูดแล้วชะงักเมื่อเห็นใครบางคน และคนๆนั้นก็ชะงักไปเช่นกัน
“ไอทอมแต๋วหลุด”
“ไอตุ๊ดหลังวัด”
“เฮ้ย แกรู้จักพวกมันด้วยเหรอวะไอปอง”เสียงของคนตรงกลางที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำดังขึ้นอย่างแปลกใจ
“เธอรู้จักพวกนี้ด้วยเหรอฝัน”ขวัญถามอย่างแปลกใจเช่นกัน
“ไม่รู้จักหรอก รู้จักแค่ไอตุ๊ดหลังวัดนี่คนเดียวแหละ มันเป็นคนข้างบ้านฝัน”ฝันกล่าวห้วนๆ พลางจ้องคู่ปรับอย่างแค้นๆ
“เฮ้ยไอฝัน แกเรียกชั้นให้มันดีๆหน่อยนะเว่ย มาตุ๊ดเติ๊ดเดี๋ยวจะโดนเตะ”ปองรีบเถียง
“ทำไม กลัวชั้นบอกให้เพื่อนแกรู้หรือไงว่าที่จริงแกมันก็เป็นแค่ไอลูกแหง่ติดแม่5555”ฝันเยาะเย้ย
“หนอยไอทอม แล้วแกกลัวว่าชั้นจะบอกเพื่อนแกรึไงว่าแกเป็นไอลูกแม่ไม่รัก”ปองโต้กลับ
“หนอยไอตุ๊ด มามีเรื่องกันเลยมั๊ยหะ”ฝันท้า
“แกก็มาดิ เคยกลัวเหรอ”เมื่อปองรับคำท้าปุ๊บ ฝันก็กระโดดเข้าบีบคอคู่ปรับทันที ปองได้แต่ดิ้น แล้วก็มีมือหนึ่งมาดึงฝันออกไปจากปอง
“เฮ้ย อย่ารุมดิวะ”ขวัญเห็นเพื่อนโดนรุมก็รีบกระโดดเข้าช่วยเพื่อนโดยกระชากผมผู้นำกลุ่มออกมาทันที ปลายและอีกหนึ่งหนุ่มเห็นก็รีบเข้าช่วยอีกแรง จนเกิดการตะลุมบอนกันระหว่างสามหนุ่มและสามสาว ในที่สุด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”เสียงผู้นำกลุ่มชายตวาด ทำเอาทุกคนชะงัก เมื่อหันไปทางเจ้าของเสียงก็ต้องตะลึง
เมื่อขวัญถูกชายหนุ่มจับตัวไว้ พลางล็อกคอขวัญไว้จนเด็กสาวดิ้นรนหายใจ
“แก ปล่อยเพื่อนชั้นนะ”ปลายตวาดลั่น
“เรื่องอะไรจะปล่อยให้โง่ พวกเธออุตส่าห์มาให้ชั้นแกล้งเอง ชั้นกำลังเซ็ง มาให้ชั้นสนุกแบบนี้ ชั้นไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก”ชายคนนั้นยังล็อกตัวขวัญไว้แน่นเหมือนเดิม
“เฮ้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”ขวัญเริ่มโวยวาย
“ไม่”เด็กหนุ่มยังคงยืนกราน ขวัญจึงดิ้นรนมากขึ้นโดยที่คนอื่นได้แต่มองอย่างจนปัญญาที่จะช่วย เพราะอีกสองสาวหาทางไม่ได้ แต่อีกสองหนุ่มรู้ดีว่าเวลาเพื่อนคิดจะทำอะไรก็ไม่มีใครขวางได้
พลันมีสิ่งหนึ่งตกกระทบพื้น เมื่อขวัญก้มลงมองก็ต้องชะงักไป
สร้อยเงินเส้นบางประดับด้วยเพชรสีฟ้าตกอยู่เบื้องหน้า ทำเอาขวัญตะลึงเมื่อนึกถึงสร้อยเส้นนึงที่เหมือนแบบนี้
“พ่อ สร้อยใครคะ สวยจังเลย”
“อ๋อ เจ้านายพ่อเค้าให้พ่อมาแก้แบบหนะลูก”
“เจ้านายพ่อ เค้าใส่สร้อยแบบนี้ด้วยเหรอคะ”
“เปล่าหรอกขวัญ เจ้านายพ่อเค้าทำให้ลูกชายของเค้าใส่หนะ”
“แล้วหน้าตาเป็นไงบ้างอะคะพ่อ อายุเท่าไหร่”
“อายุสิบห้า หน้าตาก็ดี ถามทำไมละหึขวัญ”
“เปล่าหรอกคะ ขวัญแค่อยากรู้จักเพื่อนใหม่ๆบ้าง แม่เค้ายิ่งว่าขวัญอยู่ว่าไม่มีใครอยากคบ”
“อย่าคิดมากนะลูก ลูกอายุแค่สิบสาม มีเวลาหาเพื่อนเยอะแยะไป”
“พ่อ ลูกเจ้านายพ่อมีเมลมั๊ยคะ ขวัญขอหน่อยสิ”
“อย่านะลูก พ่อขอ อย่ายุ่งกับลูกเจ้านายพ่อ อย่ายุ่งกับคนตระกูลนี้ ถ้าไม่อยากให้พ่อตกงาน”
“ทำไมอะพ่อ”
“อย่าเซ้าซี้ ไม่งั้นพ่อโกรธ จำไว้นะขวัญ อย่าคิดยุ่งกับคุณป่านเพชร คุณแพรพลอย นิรภัยธานี ไม่งั้นพ่อโกรธขวัญจริงๆ”
“นาย”ขวัญพึมพำเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต
“อะไร อยากรู้ชื่อชั้นนักหรือไง เอางี้ ถ้าเธอทายชื่อชั้นได้ ชั้นจะปล่อยเธอ”ชายหนุ่มยังคงคึกคะนองโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของหญิงสาว
“ป่านเพชร”ขวัญพึมพำเบาๆ
“อะไรนะ”
“นายป่านเพชร นิรภัยธานี พอใจรึยัง ปล่อยชั้นได้แล้ว”ขวัญไม่พูดเปล่ายังผลักคนข้างหลังและรีบลากเพื่อนทั้งสองของตนเดินไปทันที
“เดี๋ยว ยังไปไม่ได้”ป่านเพชรเรียกไว้
“เฮ้ยป่าน แกสัญญากะเค้าไว้แล้วว่าแกจะปล่อยแกก็ต้องปล่อย”บุคคลอีกคนทักท้วง
“อย่ามายุ่งกับชั้นไอต้น”ป่านเพชรพูดพลางเดินเข้าไปหาสามสาว “บอกมาก่อนว่าเธอรู้ชื่อชั้นได้ยังไง”
“อย่ามายุ่ง ชั้นไม่บอก”ขวัญยังคงพูดต่อแม้สายตาจะเริ่มกลัว
“ขวัญเป็นอะไร”ฝันถามเมื่อเห็นสายตาเพื่อน
“บอกมาเดี๋ยวนี้”ป่านเพชรขู่พลางชักมีดขึ้นมาจ่อขวัญ ปลายตกใจเลยผลักขวัญออกไปให้พ้นทาง ขวัญจึงล้มลงไปบนพื้น
“โอ๊ย”ขวัญร้องลั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”เสียงทรงอำนาจดังขึ้น เมื่อทุกคนหันไปก็พบใบหน้าเคร่งของครูเกตน์นิภา อาจารย์ฝ่ายปกครอง และใบหน้าหวานของครูภัสดาที่จ้องแต่เด็กสาว
“พวกเธอทำอะไรกัน ป่านเพชร ศกุนิชญ์ วงศรัณย์ ไพทยา พิมพ์ธิดา พัลลภา อธิบายมาซิ”เสียงเข้มงวดดังขึ้นอีกระลอก ทำเอาสามสาวรวมทั้งนายปองสะดุ้ง แต่ป่านและต้นกลับมีสีหน้าเรียบเฉย แต่แตกต่างกันที่แววตาเพราะแววตาของต้นดูหวาดๆ แต่แววตาของป่านกลับเฉยชาปน
ท้าทาย
“ไม่มีไรฮะ’จารย์ พวกผมแค่ทำความรู้จักกับเด็กใหม่เท่านั้น”ป่านยังคงพูดกวนๆท้าทาย ทำให้ครูสองคนมีปฏิกิริยาที่ต่างไป ครูวัยกลางคนเริ่มโมโห แต่ครูสาวกลับเบือนหน้าไปมองหนุ่มเจ้าของเสียงเมื่อครู่
ดวงตาสีดำสนิทจ้องกลับมาอย่างท้าทาย แต่ดวงตาคู่นั้นกลับให้ความคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าชวนให้ใจระทึก มิผิดแผกกับในอดีต
ท่านกลับมาหาข้าแล้ว สหัสธีรราช
ท่านกลับมาพร้อมกับพวกขนิษฐาทรยศของข้า
และอนุชาทั้งหมดของท่าน
ขอบคุณสวรรค์
ขอบคุณที่ท่านเปิดโอกาสให้ข้าได้ทำตามบัญชาของพระบิดา
และขอบคุณ
ที่ท่านทำให้ข้าได้แก้แค้น
“ครูภัสคะ จะเอายังไงดีคะ”ครูเกตน์นิภาหันไปหาครูสาวที่ตอนนี้ยืนนิ่ง
“ครูภัสคะ”ครูเกตน์นิภาเรียกซ้ำ ครูสาวสะดุ้ง
“คะ ดิฉันว่า ให้เด็กสามคนนี้ไปทำแผลก่อนเถอะคะ ส่วนเด็กผู้ชาย ครูเกตน์นิภาจัดการตามสมควรเถอะคะ”ภัสดาตอบหลังจากเรียกวิญญาณของครูกลับมา แม้พูดไปแต่ใจกลับอยากให้เค้ามาอยู่ใกล้ๆ
“ได้คะ เธอพาเพื่อนเธอไปห้องพยาบาลซะ”ครูเกตน์นิภาสั่ง
“ไม่ต้องหรอกคะ ห้องพยาบาลอยู่ตั้งตึกด้านใต้ ห่างจากนี่ตั้งมาก ไปบ้านพักดิฉันดีกว่าคะ ดิฉันมียาสมุนไพรดี จะให้ป้าบุศแกทำแผลให้คะ”ภัสดารีบแย้ง
“ตามใจครูภัสเถอะคะ ส่วยพวกเธอสามคนตามชั้นมา”ครูเกตน์นิภาสั่งแล้วเดินนำไป ป่านเดินตามไปอย่างเซ็งๆโดยเพื่อนร่วมแก๊งของเค้าเดินตาม
“ไปกันเถอะบั..เอ๊ย ไพทยา พิมพ์ธิดา พัลลภา”
“คะครู”
ช่างเหมาะเจาะจริงๆ โถ่ สวรรค์ เหตุใดจึงส่งเนื้อเข้าปากเสือเยี่ยงนี้เล่า
เสียงลึกลับที่ไม่มีใครได้ยินดังขึ้น เพราะมันเป็นเสียงในใจของคนที่ไม่มีใครเห็น
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
ความคิดเห็น