ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฟริน ผู้ลอบสังหาร แห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 โชคชะตามาดัสลิขิต (ล้วนๆ) 50%

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 53


    href="file:///C:\Users\Dell\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\Users\Dell\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_themedata.thmx" /> href="file:///C:\Users\Dell\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_colorschememapping.xml" />

    ตอนที่ ๓ : โชคชะตามาดัสลิขิต

    ท่ามกลางสายลมและแสงแดด ม้าแก่ตัวโตวิ่งกุบกับมาพร้อมกับเกวียนหลังใหญ่ หมู่แมกไม้หนาทึบริมทางทำให้อากาศโดยรอบเย็นสบาย ผู้คนกระชุ่มกระชวยอารมณ์ดี บรรยากาศคงจะเป็นใจกว่านี้ ถ้าหากไม่คนหนุ่มหนึ่งเดียวในอาณาบริเวณที่นั่งหน้าหงิก ปล่อยออร่าอารมณ์เสียมาทำลายบรรยากาศเสียย่อยยับ

    เฟรินนั่งหลังขดหมดอาลัยตายอยากอยู่บนที่นั่งคนคุมเกวียน มือหนึ่งรวบเอาแส้ไว้ในมือ อีกมือก็ยกขึ้นเท้าคางอยากเซ็งๆ สองตาคู่คมจ้องไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย ไม่เกรงกลัวต่อสายลมและแสงอาทิตย์ ต่อให้ภูเขาไฟระเบิดหรือพายุทอนาโดบุกก็คงไม่คิดจะขยับกายใดๆ ให้เหนื่อยทั้งกายและใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว

    หากแต่จะเวรของกรรมหรือกรรมของเวรใดก็มิอาจทราบได้ มารร้ายสองตัวภายในเกวียนนั้นยังคงตามหลอกหลอนจนคนหล่ออยากฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอด คิ้วคมบนใบหน้าหวานนั้นขมวดเป็นปมเข้าหากันจนลามไปถึงรอยแผลเป็นสุดเก๋ใต้ตาซ้าย เกิดอาการเครียดขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อเสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ดังรอดออกมานอกเกวียน

    ดั่งคำสาปร้าย ไม่ว่าจะเอามือปิดหู ร้องเพลงกลบ ชวนม้าคุย ภาวนาต่อเทพยดาและซาตาน หรือแม้แต่การเอาผ้าอุดตามรูโหว่บนตัวเกวียนก็ไม่อาจหลีกหนีจากเสียงสยองสองเสียงนั้นได้ ที่ยิ่งย่ำแย่ยิ่งกว่านั้นคือการที่โวลุ่มของมันดังขึ้นเรื่อยๆ จนเสมือนว่ามารร้ายสองตัวนั้นกระโดดเข้ามานั่งหัวเราะอยู่ในหัวเขาเสียนี่

    ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ไอ้ที่คิดออกก็ทดลองจนตรัสรู้ว่ามันไม่ได้ผลหมดแล้ว ทางเลือกเดียวที่คนหล่อมีจึงเหลือแค่ปลงเท่านั้น

    หรือจะลองเอาหัวฟาดเกวียนให้มันตายกันไปข้างเลยดี?’

    เฟรินคิดอย่างเซ็งๆ สายตาหันไปจ้องตัวเกวียนที่ทำจากไม้นั้นแล้วก็คิดคำนวณความเสียหายอยู่ในใจ

    ไม่เอาดีกว่า ฟาดไปก็ไม่ตาย ยิ่งถ้าเกวียนเป็นรูขึ้นมามีหวังต้องนั่งอดหลับอดนอนซ่อมให้ท่านเจ้าหญิงกับพระราชาจอมงกข้างในนั้นอีก

    ว่าแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แก้กลุ้มเสียหนึ่งครา หวังจะให้ไมเกรนระบายออกมารูจมูกสักนิด ดวงตาคู่คมเหลือบกลับมาจ้องมองทางข้างหน้าอีกครั้งอย่างเหม่อลอย

    แล้วทันใดนั้นผู้หวังดีก็ปรากฏกายย่องมาทางด้านหลัง กลัวเจ้าลูกชายไม่ได้เจ็บตัวแล้วไม่หายเซ็ง จึงได้

    โป๊ก โอ๊ย

    เฟรินซู้ดปากน้ำตาเล็ด สองมือยกขึ้นกุมศีรษะ ไม่สนใจสายแส้ที่ตกลงไปอยู่ข้างตัวแม้สักนิด ปากก็ร้องโอดโอย หันไปว่าคนประทุษร้ายทันที

    เจ็บนะพ่อ!!!”

                ฝ่ายคนลงมือไม่มีแม้ท่าทางสำนึกผิด อย่างเดียวที่ทำคือยกมือตัวเองสะบัดไปสะบัดมา บ่นพึมพำสรรเสริญความแข็งของหัวผู้ร่วมสายเลือด

                ก็ตีให้เจ็บไงวะ!!”

    เพียงแต่ข้าเจ็บกว่า มาดัสคิดในใจ รู้หรอกไอท่าทางเจ็บปวดจะเป็นจะตายนั่นมันก็แค่การสำออย

    เกวียนน่ะ ขับให้มันเร็วๆ ไม่เป็นรึไงวะ แส้มีก็หัดใช้เสียบ้าง หวดมัน ฟาดมันเข้าไปซี่ม้าน่ะ ปล่อยให้มันเดินทอดน่องสะบัดตูดสะบัดหางกันอยู่ได้ เดี๋ยวก็ไม่ทันการกันพอดี

    ฝ่ายคนถูกว่าไม่สนใจ ก็ตั้งใจนี่หว่า สายสิดีเค้าชอบ

    มาดัสเห็นท่าทางไม่สนใจของคนเป็นลูกก็คิ้วกระตุกมือกระตุก ลงมือฟาดลงบนกระหม่อมงามๆ คนกวนโอ๊ยอีกคราอย่างลืมไปว่าฝ่ายที่เจ็บตัวเมื่อคราวก่อนนั้นมันใคร

    โชคดีของคนเฒ่าไม่เจียมตัว เฟรินรู้ทันก้มหัวหลบอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้คนแก่กว่าหวดลมวืดใหญ่ ฝ่ามืออรหันร์หมดสิทธิสำแดงเดช ลอยค้างอยู่กลางอากาศ

                มาดัสเริ่มหน้าแดง ทั้งโกรธทั้งขายหน้า เลี้ยงมันมากับมือแท้ๆ ดันกลายเป็นเขาเองที่ถูกมันเอามาล้อเล่นเหมือนเป็ดยางตัวน้อยในอ่างอาบน้ำใบใหญ่

                ดูมัน หันมายักคิ้วหลิ่วตาผิวปากวี๊ดวิ้วใส่อีก แบบนี้คนหล่อกว่ายอมไม่ได้!!’

              ม้ามันก็เจ็บเหมือนกันนี่พ่อ ตีไปฟาดไปมันก็มีแผลเป็นหนอง แล้วถ้ามันเป็นแผลเป็นขึ้นมานะ มันจะมีหน้าไปเป็นเจ้าสาวใครได้ ก้นมันก็เหมือนกับก้นพ่อน่ะแหละ ทั้งใหญ่ ทั้งยาน เพียงแต่ม้ามันมีแมลงวันตัวเป็นๆ ตอมตูด ส่วนของพ่อน่ะ แมลงวันมันตอมไม่ไหวเลยมาขี้ประทับรอยไว้เฉยๆ ไง

              เอ็งพูดเรื่องอะไรของเอ็ง

                ไม่ต้องแอ๊บบ๊องเลยพ่อ แน่ะแน๊ววว เฟรินซะอย่าง จะขี้แมลงวันบนก้นป๋าหรือจะจำนวนเส้นผมก่อนร่วงจนล้านของป๋ามีกี่เส้นเฟรินสำรวจจดเก็บไว้หมดแล้ว

              คนเป็นพ่อฟังไปก็คิ้วกระตุก เอาก้นงามๆ ของเขาไปเทียบกับไอม้าแก่ไม่พอ ยังเอาเรื่องหัวเขามาเล่นอีก

                หรือพ่ออยากทดลองว่าก้นใครหนากว่ากัน รำลึกความหลังกันหน่อยมั้ย

              มาดัสที่กำลังถลกแขนเสื้อขึ้นสูงต้องรีบเปลี่ยนท่าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัล

                พ่อเลยเจ้าเฟริน ลำรึกไปเองคนเดียวเถอะ ข้าก็ไม่ได้พูดอะไรจริงจังนัก ชวนคุยน่ะรู้จักมั่งม๊ายยย!!”

              คนแก่กว่าทำเสียงสูงเป็นที่ขำขันของเฟริน หากแต่มาดัสไม่ตลกด้วย ก็ไอ้ความหลังที่ว่ามันสวยงามเสียตรงไหน ในเมื่อเจ้าตัวแสบมันทั้งดื้อ ทั้งแสบ แถมยังอารมณ์ชอบเล่นพิเรนทร์ของมันก็ไม่ได้น้อยตามขนาดตัวของมันเลย มีเท่าใดก็มีเท่านั้นจนโตตัวเท่าควายเนี่ยล่ะ ตอนนั้นก่ะอีแค่มันเดินมาเห็นเขาฝึกม้าใหม่ หัดให้มันลากเกวียนแล้วม้ามันดื้อเลบต้องฟาดกันหน่อยมันดันมาโมโห ทั้งด่าทั้งว่าเขาว่ารังแกสัตว์ แล้วพอเขาทำนิ่ง ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่สนใจมัน มันดันปรี๊ดแตก กระโดดขึ้นขี่หลัง คว้าเอาแส้มาฟาดเอาๆ เป็นที่สะใจของไอม้าดื้อตัวนั้นไปเสียฉิบ

    แค่นึกแผลเก่าก็กำเริบแล้ว

    ไม่ต้องมาชวนคุยเลยพ่อ ไม่มีอารมณ์ วัยรุ่นเซ็ง!!”

    เฟรินที่กำลังหัวเราะอาการแอบเอามือลูบก้นตัวเองของพ่ออยู่นั้นก็เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในอารมณ์ไหน รีบเปลี่ยนเป็นท่าทีหมดอาลัยตายอยากอีกครั้งทันที

    บ๊ะ!! ไอลูกตัวนี้มันแค้นฝังลึกจริงๆ แค่นี้ก็อารมณ์เสียไปได้

    เป็นพ่อพ่อไม่อารมณ์เสียรึไง โดนแบบนั้นน่ะ..แบบนั้น…”

    เฟรินรีบโวยวาย น้ำตาลูกผู้ชายแทบเล็ด ทำไม ทำม๊ายยย คนที่ทั้งหล่อทั้งอัจฉริยะสมบูรณ์แบบ แบบเดอะเกรดเฟรินคนนี้ถึงตกหลุมพรางหัวขโมยหัวล้านแบบคนเป็นพ่อได้ ทำม๊ายยยย!!!

    ………………………………………………..

    ………………………………………….

    ………………………………….

    ………………………….

    …………………..

    ……………

    ……..

    .

    ย้อนเวลา 3 อาทิตย์

     หลังจากเฟรินและมาดัสตกลงเจรจาการค้ากันเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ก็เก็บกวาดเอาตัวหมากกลับมาตั้งประจำตำแหน่งเตรียมตัวเริ่มเกมกันใหม่อีกครั้ง ส่วนเฟลิโอน่าน่ะหรอ เดินด๊อกแด๊กไปลากเอาทั้งฟูก ทั้งหมอนมาวางแหมะอยู่ข้างๆ สังเวียนเดือดศึกสายเลือดตั้งแต่กล่าวประโยคสูบเลือดสูบเนื้อและสูบเหรียญของคนเป็นพี่ไปนานแล้ว

    กติกาอย่างที่ตกลงกันไว้ ถ้าพี่ชายชนะคุณพ่อต้องจ่ายหนี้ที่พนันไว้เมื่อรอบที่แล้ว เงินทั้งหมดอันน้อยนิดที่พ่อมี เวลาพักร้อนไว้นอนตีไขมันที่เพิ่มพูนเพราะไม่ทำอะไรหนึ่งเดือน อีกอย่าง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะพี่ก็จะได้รับมีดโกโรโกโสอันแสนภูมิใจของตระกูลเราครอบครองเฟลิโอน่ากล่าวด้วยความร่าเริงหลังจากหามุมสงบเหมาะแก่การถ้ำมอง…..เฝ้ามองการแข่งขันเป็นที่สำเร็จ หารู้ไม่ว่าวาจาไร้เดียงสาของตนนั้นมันสั่นสะเทือนเชือดเฉือนคนเป็นพ่อผู้แสนจะยาจกและผู้นำตระกูลแสนโกโรโกโสคนปัจจุบันขนาดไหน หรือไม่เจ้าตัวก็รู้อยู่เต็มอกแต่ตั้งใจซะอย่างใครจะทำไม

    เมื่อหญิงสาวส่งยิ้มหวานประจบประแจงคนเป็นพ่อให้หายอาการน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาของตนเองพอเป็นพิธีเรียบร้อยก็หันไปทางเฟรินเพื่อเริ่มงานพิเศษของตนต่อไป

    ส่วนถ้าคุณพ่อชนะ หนี้ทั้งหมดก็ถือว่าเจ๊ากันไป นอกจากนี้พี่เฟรินก็ต้องไปทำงานพิเศษแล้วแต่จะสั่งของคุณพ่ออีกงานด้วย ตกลงกันมั้ยเอ่ยถามสัญญาปากเปล่าไม่พอ สาวน้อยยังยื่นมือมาเหนือกระดานแล้วหดนิ้วทั้งสี่ไว้จนเหลือแค่นิ้วก้อยเป็นสัญญานว่าเจ้าตัวต้องการทำสัญญาน้องก้อยไว้เพื่อความแน่นหนา เพราะเป็นที่รู้กันว่าใครผิดสัญญาเมื่อไหร่มีงอน!!

    แน่นอนล่ะว่าไม่มีใครกล้าหือขอต่อลองเปลี่ยนมาสาบานฟ้าดินกันสักคน นิ้วก้อยน้อยๆ ของทั้งสามจึงได้โผล่มาเกี่ยวกระหวัดรัดกันอยู่เหนือกระดานหมากรุกด้วยความรักใคร่ แล้วจากนั้นการแข่งขันก็เริ่มขึ้น….อย่างน่าเบื่อ

    เพราะทั่งคู่ล้วนเป็นจ้าวแห่งหมากรุก เรียกได้ว่าตูดโบ๋เบ๋กันเมื่อไหร่เป็นต้องไปเที่ยวสัญจรท้าพนันหมากรุกเรียกตังค์เข้ากระเป๋าทุกทีไป ยิ่งเห็นกันมาตั้งแต่เกิดแทบจะด้วยกันเกือบตลอดเวลา แม้มาดัสจะมิได้ถ่ายทอดชั้นเชิงกลศาสตร์ด้านหมากรุกแก่คนเป็นลูกชายโดยตรง แต่การที่เวลาว่างมันมากเกินไปเลยต้องหันมาจับม้าหน้าหงิกโขกกระดานเล่นนั้น ก็ทำให้อ่านความคิดและแผนการของฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน คนรู้แกวแบบเฟลิโอน่านั้นจึงเตรียมทั้งหนังสือ ทั้งตุ๊กตา หมอนข้างและผ้าห่ม สิ่งอำนวยความสะดวกมาอย่างเต็มพิกัด คุณเธอคว้าตำราว่าด้วยเรื่องการเป็นแม่ศรีเรือนที่เหมาะสมกับคุณสวามีขึ้นมาจ้องจนจบไปห้าบท เงยหน้าขึ้นมาสังเกตการณ์ตามแบบกรรมการที่ดี พบม้าหน้าหงิกของฝ่ายมาดัสกำลังเขมือบตัวหมากทหารชั้นเลวของเฟริน เห็นไม่มีการโกงให้ตื่นเต้นกันแม้สักเล็กน้อยจึงได้ก้มหน้าลงหมกตัวเข้าสู่โลกแห่งแม่ศรีเรือนอีกครั้ง

                เวลาผ่านไป สาวน้อยผู้เป็นกรรมการอ่านตำราจบไปอีกห้าบท เฟรินและมาดัสก็ยังคงขยับตัวหมากทำเสียงต๊อกๆ ต่อไป แม้ความถี่จะช้าลงเรื่อยๆ สันนิฐานว่าฝีมือความเก่งกาจของฝ่ายตรงข้ามนั้นเริ่มจะสำแดงเดช ข่มเอาความขี้โอ่หลงตัวเองของสองหนุ่มลงจนรู้ตัวและหันมาใช้ความคิดกับไหวพริบเชือดเฉือนกันแทน

              แม้ชั้นเชิงการขยับหมากหลอก หรือล่อให้มาตกหลุมของสองผู้เข้าแข่งขันจะมากมายและเหนือล้ำเพียงไร แต่ยังไง๊ ยังไงกรรมการตัวน้อยคนนี้ก็ทนอยู่ด้วยไม่ได้จริงๆ นะ ก็ดูเอาเถิดกว่าจะตัดสินเดินหมากกันแต่ละทีต้องเดาความคิดกันเป็นสิบรอบ บางทีตัดสินใจยกมือจะขยับหมากแล้วเกิดไม่มั่นใจ ยกเลยขึ้นไปเสยผมก็มี ส่วนตัวผู้สูงวัยที่ไม่มีอะไรให้เสยน่ะเหรอ จะไม่มีอะไรบนศรีษะให้เสย แต่การที่กลัวเสียภาพพจน์ขนาดหนักเลยต้องยกมือขึ้นมาจัดหัวคิ้ว เสริมความหล่อบนใบหน้าแทน

                ยิ่งดูยิ่งกลุ้ม ยิ่งดูยิ่งจิตตก เคาะกันไปอีกสองต๊อกเฟลิโอน่าก็ทนไม่ไหว ลุกพรวดขึ้นรวดเร็วแล้วหมุนตัวมุ่งหน้าออกจากเกวียนคันโตไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้สองหนุ่มหมกมุ่นกับกระดานสีขาวสลับดำของตัวเองกันต่อไป

                เฮ้ย ไอเจ้าเฟริน ตาเมื่อกี้ไม่นับว้อย!!!”

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×