ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การมาเยือน
ตุบ!
นี่คือเสียงแรกที่ได้ยิน
สวบ!
และนี่คือเสียงต่อมา
“อูยย....ยยยยย”
เสียงของเซเรเน่ย์ดังขึ้น
‘เอ๊ะ! ที่นี่ที่ไหนเนี่ย...แล้วทำไมเรามาอยู่บนต้นไม้ได้ล่ะเนี่ย แล้วเรย์หายไปไหนหว่า’เซเรเน่ย์คิด
เมื่อเซเรเน่ย์คิดได้ดังนั้นจึงกระโดดลงมาจากต้นไม้
‘หือ....ทำไมมันนิ่มๆหว่า’เซเรเน่ย์คิด
พอมองลงไป เซเรเน่ย์ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เรย์!!!!!”
แต่เรย์ก็คงยังไม่ตื่น เพราะแรงจากการที่เซเรเน่ย์กระโดดลงมาทับเรย์ด้วยความไม่ได้ตั้งใจนั้น จากที่เริ่มรู้สึกตัวแล้ว กลับสลบไปอีกรอบ...
‘ท่าทางแขนจะหัก เข้าเฝือกไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยตามคนมาช่วยแบกเจ้าเรย์’เซเรเน่ย์คิดได้ดังนั้น จึงจัดการใส่เฝือกให้เรย์ แล้วไปตามคนมาช่วย
‘แล้วเราจะไปตามคนมาช่วยที่ไหนกันละเนี่ย...เอ๊ะ!! นั่นปราสาทนี่นา...ลองไปดูดีกว่า’ แล้วเซเรเน่ย์ก็วิ่งไปที่ปราสาท
ภายในปราสาท เด็กสาวผมเงิน ที่มีนัยน์ตาสีน้ำเงิน ก็เข้าไปสะกิดแขนเสื้อของชายคนหนึ่ง
แล้วชายผู้นั้นก็หันมาพร้อมกับพูดว่า
“โอ๊ย!! อะไรอีกล่ะทีนี้ คนกำลังจะไปหาเรนอนอยู่แล้วเชียว” เสียงพูดจากชายผู้ที่มีผมสีดำ นัยน์ตาสีม่วง ใช่แล้ว...เขาคือ คิล ฟีลมัส นั่นเอง
แต่พอคิลหันมาก็ถึงกับอึ้ง เพราะคนที่สะกิดเขาเมื่อกี๊นี้ เป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ที่มีผมสีเงิน และนัยน์ตาสีน้ำเงิน
‘เป็นญาติกะไอ้คาโลป่าววะเนี่ย’คิลคิด
แต่ไม่ทันที่คิลจะพูดอะไร เด็กสาวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“คือ..เพื่อนของชั้นกำลังแย่ ตอนนี้หมดสติอยู่ ไปช่วยแบกหน่อยได้มั๊ยคะ”หญิงสาวที่มีเรือนผมสีเงินเอ่ยขึ้น
“....ได้สิ...แต่ขอชั้นไปตามเพื่อนก่อนนะ..เดี๋ยวมา เธอรออยู่ตรงนี้แหละ”
คิลบอกกับเด็กสาว ก่อนจะวิ่งไปยังห้องของตัวเองกับเพื่อนๆอีก 2 คน
เซเรเน่ย์จึงทำได้แค่รอให้คิลกลับมา
เมื่อคิลไปถึงห้อง ก็พบคาโลนั่งอ่านหนังสืออยู่ ส่วนเจ้าตัวยุ่งเฟริน กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง(ย้ำ!! นอนเล่น)
พอคิลไปถึงก็รีบพูดขึ้นว่า
“คาโล เฟริน มีคนขอความช่วยเหลือ มาด้วยกันหน่อย”คิลพูดขึ้น
คาโลละสายตาจากหนังสือมามองหน้าคิลแล้วพูดขึ้น
“ใครเป็นอะไร...คิล” คาโลถาม ด้วยเสียงเย็นๆ
“นั่นสิคิล ทำไมต้องวิ่งมาด้วยอ่ะ” เสียงของเจ้าตัวยุ่งถาม
“ไม่รู้สิ...พวกนายจะมารึเปล่าก็แล้วแต่ ฉันไม่บังคับ” พูดเสร็จคิลก็วิ่งไป
2 บุคคลที่เหลืออยู่ในห้องก็มองตามอย่างงงๆ แล้วก็วิ่งตามไป
“เฮ้!! เธอ..ฉันพาเพื่อนมาแล้ว ทีนี้เธอพาพวกฉันไปหาเพื่อนของเธอได้แล้ว”
แต่ก่อนที่เด็กสาวจะวิ่งออกไป เฟรินกับคาโลก็วิ่งตามมาทัน พอเจ้าตัวยุ่งเห็นเซเรเน่ย์ก็อุทานด้วยความตกใจ
“เฮ้ย!! คาโล ญาตินายป่าววะเนี่ย” เสียงเจ้าตัวยุ่งลอยมา
ทางด้านเซเรเน่ย์ เมื่อเห็นคาโลก็คิดว่า
‘ญาติทางไหนของเราป่าวเนี่ย’
“รีบตามมาก่อนเถอะค่ะ” เซเรเน่ย์พูดขึ้น แล้วก็วิ่งไป ปล่อยให้ เฟริน คิล และ คาโล วิ่งตามกันมาเอง
เมื่อเธอไปถึงก็หยุดอยู่ใต้ต้นไม้ที่เรย์นอนอยู่ และรอให้ทั้งสามมาถึง และเมื่อทั้งสามมาถึงก็พบกับ เด็กชายอีกคนหนึ่งที่ นอนอยู่กับพื้นหญ้า และใส่เฝือก...
พอคาโลมาถึง ก็หยุดมองก่อนสักแปป ก่อนที่จะเข้าไปรักษาแขนให้เรย์ เมื่อรักษาเสร็จแล้ว เรย์ก็ยังคงไม่ตื่น เพราะร่างกายยังไม่ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และสิ่งนั้นเองที่ทำให้ทั้งสามตัดสินใจว่า จะให้ไปนอนพักที่ป้อมก่อน เมื่อฟื้นแล้วค่อยว่ากัน
“แล้วใครจะแบกล่ะ” เฟรินถาม
คาโลเรอะ ไม่มีทาง แถมแค่นั้นยังไม่พอ ยังส่งสายตาประมาณว่า เฟรินของฉัน ชายอื่นห้ามยุ่ง แล้วก็จ้องไปที่คิล ในที่สุดคิลก็บ่นว่า
“เฮ้อ...ในที่สุดคงต้องเป็นฉัน(อีกแล้ว)”
คิลจึงทำหน้าที่แบกเรย์ไปยังห้องนอนของเหล่าหัวหน้าป้อมอัศวิน
พอไปถึง..คิลก็จัดการวางเรย์ไว้ที่เตียง ส่วนคาโลก็ล็อกประตูห้อง และสำหรับเด็กสาวหน้าใหม่ ใช้เวทย์กลบเสียง...
พอทุกคนทำหน้าที่เสร็จ เจ้าตัวยุ่งก็ยิงคำถามเข้าไป
“เธอเป็นญาติของคาโลป่ะ”
“คาโล?? ใครค่ะ”เซเรเน่ย์ตอบไปเพราะไม่รู้ว่าใครคือคาโล
ส่วนคาโลที่นิ่งเงียบมานาน ก็เอ่ยปากพูด สั้นๆ ได้ใจความ...
“เธอเป็นใคร” คาโลถาม
“เอ๋! ฉันหรือ ฉันชื่อเซเรเน่ย์นะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เซเรเน่ย์ตอบพร้อมกับแนะนำตนเองไปในตัว
“ส่วนฉัน...คิล ฟีลมัส เรียกคิลเฉยๆก็ได้นะ” คิลเอ่ยแนะนำตัวบ้าง
“ส่วนฉัน...เฟริ...เฟลิโอน่า เกรเดเวล ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” ที่เธอต้องเปลี่ยนคำพูดนั้น เพราะว่า ท่านเจ้าชายคาโล ได้ส่งนัยน์ตาดุมาให้
“คาโล วาเนบลี” คาโลกล่าว
“ส่วนหมอนี่ชื่อ....” ไม่ทันที่เซเรเน่ย์จะพูดจบ เสียงใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมา
“เรย์..” เรย์นั่นเอง หลังจากที่หมดสติมานาน ก็ฟื้นขึ้นมา
“อืม...ฟื้นแล้วก็ดี ได้พูดคุยกันด้วยว่า พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน” ชายผู้มีนัยน์ตาสีม่วงเอ่ย
“ก็...จำได้ว่าตอนนั้นพวกเราออกมาเดินในตลาด แล้วระหว่างทางกลับ ก็รู้สึกจะเจอพายุหมุนลูกนึง มันแรงมากเลยอ่ะ มันเลยพัดเรามา พอรู้สึกตัว ฉันก็มาอยู่บนต้นไม้” เซเรเน่ย์กล่าว
“ส่วนผม..รู้สึกตัวอีกทีก็..อยู่ในห้องนี้แล้ว” เรย์เอ่ยบ้าง
“ตอนนี้คงยังแก้ปัญหาไม่ได้...ต้องรอเวลาไปก่อน แล้วเรื่องที่พักล่ะ..”
คิลกล่าว
“นั่นหล่ะ..ปัญหา รุ่นพี่ไม่ให้คนนอกเข้าป้อมโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าตัวยุ่งเอ่ยบ้าง
นี่คือเสียงแรกที่ได้ยิน
สวบ!
และนี่คือเสียงต่อมา
“อูยย....ยยยยย”
เสียงของเซเรเน่ย์ดังขึ้น
‘เอ๊ะ! ที่นี่ที่ไหนเนี่ย...แล้วทำไมเรามาอยู่บนต้นไม้ได้ล่ะเนี่ย แล้วเรย์หายไปไหนหว่า’เซเรเน่ย์คิด
เมื่อเซเรเน่ย์คิดได้ดังนั้นจึงกระโดดลงมาจากต้นไม้
‘หือ....ทำไมมันนิ่มๆหว่า’เซเรเน่ย์คิด
พอมองลงไป เซเรเน่ย์ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เรย์!!!!!”
แต่เรย์ก็คงยังไม่ตื่น เพราะแรงจากการที่เซเรเน่ย์กระโดดลงมาทับเรย์ด้วยความไม่ได้ตั้งใจนั้น จากที่เริ่มรู้สึกตัวแล้ว กลับสลบไปอีกรอบ...
‘ท่าทางแขนจะหัก เข้าเฝือกไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยตามคนมาช่วยแบกเจ้าเรย์’เซเรเน่ย์คิดได้ดังนั้น จึงจัดการใส่เฝือกให้เรย์ แล้วไปตามคนมาช่วย
‘แล้วเราจะไปตามคนมาช่วยที่ไหนกันละเนี่ย...เอ๊ะ!! นั่นปราสาทนี่นา...ลองไปดูดีกว่า’ แล้วเซเรเน่ย์ก็วิ่งไปที่ปราสาท
ภายในปราสาท เด็กสาวผมเงิน ที่มีนัยน์ตาสีน้ำเงิน ก็เข้าไปสะกิดแขนเสื้อของชายคนหนึ่ง
แล้วชายผู้นั้นก็หันมาพร้อมกับพูดว่า
“โอ๊ย!! อะไรอีกล่ะทีนี้ คนกำลังจะไปหาเรนอนอยู่แล้วเชียว” เสียงพูดจากชายผู้ที่มีผมสีดำ นัยน์ตาสีม่วง ใช่แล้ว...เขาคือ คิล ฟีลมัส นั่นเอง
แต่พอคิลหันมาก็ถึงกับอึ้ง เพราะคนที่สะกิดเขาเมื่อกี๊นี้ เป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ที่มีผมสีเงิน และนัยน์ตาสีน้ำเงิน
‘เป็นญาติกะไอ้คาโลป่าววะเนี่ย’คิลคิด
แต่ไม่ทันที่คิลจะพูดอะไร เด็กสาวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“คือ..เพื่อนของชั้นกำลังแย่ ตอนนี้หมดสติอยู่ ไปช่วยแบกหน่อยได้มั๊ยคะ”หญิงสาวที่มีเรือนผมสีเงินเอ่ยขึ้น
“....ได้สิ...แต่ขอชั้นไปตามเพื่อนก่อนนะ..เดี๋ยวมา เธอรออยู่ตรงนี้แหละ”
คิลบอกกับเด็กสาว ก่อนจะวิ่งไปยังห้องของตัวเองกับเพื่อนๆอีก 2 คน
เซเรเน่ย์จึงทำได้แค่รอให้คิลกลับมา
เมื่อคิลไปถึงห้อง ก็พบคาโลนั่งอ่านหนังสืออยู่ ส่วนเจ้าตัวยุ่งเฟริน กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง(ย้ำ!! นอนเล่น)
พอคิลไปถึงก็รีบพูดขึ้นว่า
“คาโล เฟริน มีคนขอความช่วยเหลือ มาด้วยกันหน่อย”คิลพูดขึ้น
คาโลละสายตาจากหนังสือมามองหน้าคิลแล้วพูดขึ้น
“ใครเป็นอะไร...คิล” คาโลถาม ด้วยเสียงเย็นๆ
“นั่นสิคิล ทำไมต้องวิ่งมาด้วยอ่ะ” เสียงของเจ้าตัวยุ่งถาม
“ไม่รู้สิ...พวกนายจะมารึเปล่าก็แล้วแต่ ฉันไม่บังคับ” พูดเสร็จคิลก็วิ่งไป
2 บุคคลที่เหลืออยู่ในห้องก็มองตามอย่างงงๆ แล้วก็วิ่งตามไป
“เฮ้!! เธอ..ฉันพาเพื่อนมาแล้ว ทีนี้เธอพาพวกฉันไปหาเพื่อนของเธอได้แล้ว”
แต่ก่อนที่เด็กสาวจะวิ่งออกไป เฟรินกับคาโลก็วิ่งตามมาทัน พอเจ้าตัวยุ่งเห็นเซเรเน่ย์ก็อุทานด้วยความตกใจ
“เฮ้ย!! คาโล ญาตินายป่าววะเนี่ย” เสียงเจ้าตัวยุ่งลอยมา
ทางด้านเซเรเน่ย์ เมื่อเห็นคาโลก็คิดว่า
‘ญาติทางไหนของเราป่าวเนี่ย’
“รีบตามมาก่อนเถอะค่ะ” เซเรเน่ย์พูดขึ้น แล้วก็วิ่งไป ปล่อยให้ เฟริน คิล และ คาโล วิ่งตามกันมาเอง
เมื่อเธอไปถึงก็หยุดอยู่ใต้ต้นไม้ที่เรย์นอนอยู่ และรอให้ทั้งสามมาถึง และเมื่อทั้งสามมาถึงก็พบกับ เด็กชายอีกคนหนึ่งที่ นอนอยู่กับพื้นหญ้า และใส่เฝือก...
พอคาโลมาถึง ก็หยุดมองก่อนสักแปป ก่อนที่จะเข้าไปรักษาแขนให้เรย์ เมื่อรักษาเสร็จแล้ว เรย์ก็ยังคงไม่ตื่น เพราะร่างกายยังไม่ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และสิ่งนั้นเองที่ทำให้ทั้งสามตัดสินใจว่า จะให้ไปนอนพักที่ป้อมก่อน เมื่อฟื้นแล้วค่อยว่ากัน
“แล้วใครจะแบกล่ะ” เฟรินถาม
คาโลเรอะ ไม่มีทาง แถมแค่นั้นยังไม่พอ ยังส่งสายตาประมาณว่า เฟรินของฉัน ชายอื่นห้ามยุ่ง แล้วก็จ้องไปที่คิล ในที่สุดคิลก็บ่นว่า
“เฮ้อ...ในที่สุดคงต้องเป็นฉัน(อีกแล้ว)”
คิลจึงทำหน้าที่แบกเรย์ไปยังห้องนอนของเหล่าหัวหน้าป้อมอัศวิน
พอไปถึง..คิลก็จัดการวางเรย์ไว้ที่เตียง ส่วนคาโลก็ล็อกประตูห้อง และสำหรับเด็กสาวหน้าใหม่ ใช้เวทย์กลบเสียง...
พอทุกคนทำหน้าที่เสร็จ เจ้าตัวยุ่งก็ยิงคำถามเข้าไป
“เธอเป็นญาติของคาโลป่ะ”
“คาโล?? ใครค่ะ”เซเรเน่ย์ตอบไปเพราะไม่รู้ว่าใครคือคาโล
ส่วนคาโลที่นิ่งเงียบมานาน ก็เอ่ยปากพูด สั้นๆ ได้ใจความ...
“เธอเป็นใคร” คาโลถาม
“เอ๋! ฉันหรือ ฉันชื่อเซเรเน่ย์นะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เซเรเน่ย์ตอบพร้อมกับแนะนำตนเองไปในตัว
“ส่วนฉัน...คิล ฟีลมัส เรียกคิลเฉยๆก็ได้นะ” คิลเอ่ยแนะนำตัวบ้าง
“ส่วนฉัน...เฟริ...เฟลิโอน่า เกรเดเวล ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” ที่เธอต้องเปลี่ยนคำพูดนั้น เพราะว่า ท่านเจ้าชายคาโล ได้ส่งนัยน์ตาดุมาให้
“คาโล วาเนบลี” คาโลกล่าว
“ส่วนหมอนี่ชื่อ....” ไม่ทันที่เซเรเน่ย์จะพูดจบ เสียงใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมา
“เรย์..” เรย์นั่นเอง หลังจากที่หมดสติมานาน ก็ฟื้นขึ้นมา
“อืม...ฟื้นแล้วก็ดี ได้พูดคุยกันด้วยว่า พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน” ชายผู้มีนัยน์ตาสีม่วงเอ่ย
“ก็...จำได้ว่าตอนนั้นพวกเราออกมาเดินในตลาด แล้วระหว่างทางกลับ ก็รู้สึกจะเจอพายุหมุนลูกนึง มันแรงมากเลยอ่ะ มันเลยพัดเรามา พอรู้สึกตัว ฉันก็มาอยู่บนต้นไม้” เซเรเน่ย์กล่าว
“ส่วนผม..รู้สึกตัวอีกทีก็..อยู่ในห้องนี้แล้ว” เรย์เอ่ยบ้าง
“ตอนนี้คงยังแก้ปัญหาไม่ได้...ต้องรอเวลาไปก่อน แล้วเรื่องที่พักล่ะ..”
คิลกล่าว
“นั่นหล่ะ..ปัญหา รุ่นพี่ไม่ให้คนนอกเข้าป้อมโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าตัวยุ่งเอ่ยบ้าง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น