คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ☆~: Unit 2 [rewrite]
“ดีใจที่ได้กลับมาจัง” ลีซอนเอ่ยขึ้น ขณะที่ทั้งสามสหายกำลังเดินอยู่ในย่านมยองดง เพื่อหาร้านทงคัตสึ ร้านข้าวญี่ปุ่นร้านประจำอยู่
เพราะมันเป็นสัญญาระหว่างฮานึลกับลีซอน (ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนขากินกันประจำ) ที่ทำสัญญาสาบานกันไว้ก่อนที่ลีซอนจะไปฝรั่งเศสว่า ก่อนไปต้องมากินข้าวที่ร้านทงคัทซึร้านนี้ด้วยกัน และหลังกลับมา เราต้องมากินข้าวกันอีก ทำให้ซอนโบที่ไม่สามารถจะเสนออะไรเพิ่มมาได้ เพราะมติเป็นเอกฉันท์ไปแล้วต้องยอมทำตามสัญญานี้ไปด้วย
“ที่โน้นข้าวมันแพง วันๆกินแต่บาแก็ต ครัวซองค์”
“ตอนนี้คงจะไม่กินไปอีกนานล่ะสิ” ซอนโบถาม ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วพลางหัวเราะคิกคัก
“ก็นะ
”
“แล้วร้านมันอยู่ตรงไหนกันแน่เนี่ย เดินวนกันมาหลายรอบแล้วนะ เฮ้อ
” ฮานึลถอนหายใจเนือยๆ “คราวก่อนก็หลง คราวนี้ก็ยังหลงอยู่ เอิ่ม
”
“เอาน่า เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ คราวก่อนก็เดินๆไปก็เจอเองไม่ใช่เหรอ”
“อื้อ”
แล้วทั้งสามก็ออกเดินกันต่อ จนกระทั่งผ่านที่ที่หนึ่งที่ทำให้เท้าของฮานึลหยุดเองโดยอัตโนมัติ
ร้านขายซีดี
“ขอดูแป๊บนึงได้ไหม นะ..” เด็กสาวส่งสายตาเว้าวอนไปให้ทั้งลีซอนและซอนโบ ทั้งสองคนสบตากันและพยักหน้า ก็รู้กันอยู่นี่นะ
“อืม
อัลบั้มพิเศษออกแล้วด้วย เท่าไหร่เหรอคะ”
“ซีดี 21,000 วอน ส่วนซีดีดีวีดี 30,000 วอน แผ่นนี้ของญี่ปุ่นน่ะฮานึล มันเลยแพงกว่าแผ่นที่ผลิตในเกาหลีน่ะ” คนขายที่จำหน้าฮานึลได้แล้วจากการมาซื้อซีดีที่นี่ประจำอธิบายให้ฟังถึงราคาที่สูงกว่าปกติ
“อืม
. งั้นหนูขอแผ่นนึงแล้วกันนะคะ เอาแบบซีดีธรรมดาก็พอค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ห่อใส่ถุงให้ก่อนนะ”
ระหว่างที่ยืนรอของอยู่นั้น สายตาก็กวาดตาดูซีดีบนแผงต่อไป ขณะที่ซอนโบก็ยืนมองดูอยู่เช่นกัน รายนี้ชอบเหมือนกัน แต่ไม่เคยซื้อ อาศัยโหลดฟังเอาอย่างเดียว ส่วนลีซอนไม่ต้องพูด รายนั้นไปยืนจ้องอยู่ฝั่งเพลงจากแผ่นดินอเมริกาแล้วเป็นที่เรียบร้อย
โปสเตอร์แปะอยู่เรียงรายเต็มผนังร้าน รวมทั้งเรื่องข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ทั้งคอนเสิร์ต มินิคอนเสิร์ต ตารางเดินสายโปรโมทอัลบั้มอย่างคร่าวๆ โบร์ชัวต่างๆ ดวงตากลมมองไปเรื่อย จนสายตาไปสะดุดอยู่กระดาษเรียบๆสีขาวใบหนึ่ง เธอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“เอ๊ะ! นี่มัน
.”
~~~
“แล้วเธอจะไปไหมล่ะ” ลีซอนถาม จังหวะเดียวกันกับที่ตะเกียบของตัวเองกำลังหนีบหมูทอดเตรียมจะเอาเข้าปาก
“ไปสิ” ใบหน้าหวานตอบรับอย่างหนักแน่นและกระตือรือร้น “แต่เขาบอกว่า บัตรหนึ่งใบเข้างานได้สามคนนะ ซอนโบลองไปถามแม่ดูได้ไหมว่าไปได้รึเปล่า”
“อื้ม แต่ก็น่าจะได้แหละ” ซอนโบเงยหน้าจากชามข้าวใบโต สายตาที่ส่งออกมาบอกว่า ตัวเองจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะให้ได้ไป “ถ้าฟรี ไม่เสียตังค์ ความเป็นไปได้น่าจะมากกว่าครึ่ง”
“ส่วนอีกที่นึง
คือ ลีซอน”
“ง่า” ลีซอนถอนหายใจ พลางวางตะเกียบ “ก็รู้อยู่ว่าฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ แล้วถ้าฉันไป ฉันจะเลือกไปมีทกับใคร”
“เอาน่า ใครก็ได้ พี่โอซองก็ได้ นะๆๆ”
“ไม่เอาน่า ไปหาคนอื่นในบอร์ดเถอะ” คนโดนง้อไม่ยอมง่ายๆ ก่อนจะคว้าตะเกียบกับช้อนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“ลีซอน
” สองเสียงดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แถมท่าทางหน้าตาที่ทำก็เหมือนกันเด๊ะราวกับนัดกันมาแบบนี้ ทำให้เจ้าของชื่อได้แต่ปลงตก
ที่หายไปหนึ่งปีนี้ สองคนนี้ผลัดกันล้างสมองกันเองแล้วใช่ไหมเนี่ย
ไม่น่าปล่อยให้อยู่ด้วยกันเองเลย ให้ตายเถอะ
“เอ้าๆ ไปก็ไป เฮ้อ
” ลีซอนมองหน้ายิ้มแป้นที่ร่าเริงสุดชีวิตของฮานึลและหน้าที่ยิ้มหยีจนไม่เห็นตาของซอนโบแล้วต้องยอมแพ้
ประกาศที่ฮานึลเห็นที่ร้านขายซีดี บอกไว้ว่า ถ้าใครซื้ออัลบั้มพิเศษของบอยแบนด์วงโปรดของเธอและซอนโบ แล้วมีสิทธิ์ลุ้น Meet & Greet ศิลปินกลุ่มนี้ โดยวัดดวงกันในกล่องซีดี ว่าเปิดมาแล้วจะมีบัตรงานอยู่รึเปล่า
ท่าทางฮานึลจะดวงเฮงกับเรื่องแบบนี้จริงๆ
เปิดมาปุ๊บ บัตรสีทองสะท้อนเข้าหน้ากันเลยทีเดียว ลีซอนได้คิดขณะเคี้ยวข้าวพลางมองฮานึลนั่งวาดภาพจินตนาการว่า ไปงานแล้วจะทำอะไรบ้าง มีซอนโบร่วมวงดี๊ด๊าด้วย
~~~
ฮานึลคลิกเปิดหน้าต่างอีเมล ก่อนจะเห็นเมล์ค้างอยู่สามเมล เมลแรกเป็นเมลรับสมัครงานอะไรซักอย่างที่เธอลบทิ้งไปทันที เมลที่สองเป็นอีเมลโครงงานจากเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งเธอเป็นคนรวบรวม และเมลสุดท้าย นายพระอาทิตย์
From: sun_j05@XXX.com
To: la_lune.h@XXX.com
ถึงพระจันทร์สีขาวซีด
รับทราบครับผ๊ม!!! กระผม นายพระอาทิตย์แก้มแดงกลับมารายงานตัวแล้วครับ!!!
ฉันเข้าใจแล้วล่ะ จะพยายามนะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเธอจริงๆ ^^
ช่วงนี้ฉันก็วุ่นๆเรื่อยแหละ มีงานทุกวัน (แต่ก็ยังมีเวลามาเล่นคอมตอบเมลเธอเนี่ยแหละ ฮ่าๆๆ) ตอนนี้สถานการณ์ของฉันกับเพื่อนในกลุ่มมันแปลกๆไปน่ะ บางทีอาจเป็นเพราะเรามีความเห็นบางเรื่องไม่ตรงกัน คือฉันไม่มีอะไรหรอก แต่ในห้าคน สองคนคิดแบบนึง อีกสองคนคิดอีกแบบ ส่วนฉันน่ะ ออกแนวตกเป็นคนกลางซะมากกว่า
นั่นแหละ ที่ทำให้ลำบากใจ เฮ้อ
แต่ฉันว่า ทุกอย่างก็คงดีขึ้นเองแหละ มันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ พวกเขาไม่น่าจะคิดมากกันนักหรอก
ว้า~ ฉันต้องไปแล้วล่ะนะ ไว้คุยกันใหม่นะ ยัยพระจันทร์ขี้บ่น!
นายพระอาทิตย์แก้มแดง
พระอาทิตย์แก้มแดง
อย่างนี้สิ ค่อยเป็นพระอาทิตย์หน่อย
รอยยิ้มบางทาบบนริมฝีปาก ก่อนจะรีบตอบกลับไปตามวิสัยเดิมของเธอ
From: la_lune.h@XXX.com
To: sun_j05@XXX.com
นายพระอาทิตย์แก้มแดง
ในที่สุด พระอาทิตย์คนเดิมก็กลับมา ฮ่าๆๆๆ ดีใจจังที่นายกลับมา
ฉันดีใจที่นายคิดแบบนี้นะ นายต้องเชื่อมั่นล่ะว่า พวกนายห้าคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว (อย่างน้อยที่ฉันรู้ก็ตั้งแต่นายกับฉันคุยเมลกันมาล่ะ อาจจะก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ) เรื่องนิดหน่อยไม่มีทางทำอะไรพวกนายได้แน่ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายแล้ว นายไม่ต้องห่วงหรอกฉันว่า
เชื่อมั่นนะ ^^
(รู้มั้ย พวกนายทำให้ฉันนึกถึงใครบางคนชอบกลแฮะ แต่คงไม่ใช่อ่ะ เพราะคนที่ฉันนึกถึงไม่กวนอวัยวะเบื้องล่างเหมือนนายแน่ = =”)
วันนี้เพิ่งได้บัตรงานมีทวงที่ชอบมาฟรี >w< ดีใจจัง ฮ่าๆๆๆ ตื่นเต้นสุดๆอ่ะ
ไปทำโครงงานต่อล่ะจ้ะ พ่อพระอาทิตย์
พระจันทร์สีนวล (ขอโทษที แต่ฉันไม่ซีดย่ะ = =”)
~~~
ตาหวานมองไปมารอบตัวที่ตอนนี้บรรยากาศมันวุ่นวายมากถึงมากที่สุด สตาฟฟ์ของงานมีทออกมาจัดการตรวจความถูกต้องของบัตร พร้อมทั้งจัดกลุ่มให้ทุกคนในงานได้มีทกับเมนของตัวเองอย่างถูกต้อง
ตอนนี้ซอนโบแยกไปทางกลุ่มที่จะไปมีทกับพี่อินซากลุ่มเบ้อเริ่มที่มุมห้องด้านหนึ่งแล้ว ขณะที่ลีซอนก็ไปรวมที่กลุ่มของพี่โอซอง และเธอ
ก็อยู่ตรงกลุ่มของพี่ยงซู
สุดท้ายต่างคนก็ต่างแยกกันไปตามห้องมีทของสมาชิกนั้นๆ
ขอให้ลีซอนมีความอดทนมากพอ และไม่ระเบิดออกมาแล้วกันนะ เฮ้อ
ฮานึลได้แต่ภาวนา ขณะที่เดินตามสตาฟฟ์เข้าไปในห้องหนึ่ง
“ทางนี้ค่ะ ห้องนี้ห้องของชาง อินซานะคะ” เสียงหวานของสตาฟฟ์คนหนึ่งดังขึ้นหน้าขบวนแฟนคลับที่กำลังมุ่งหน้าไปหาพี่อินซา
จะได้เห็นพี่ใกล้ๆแล้วสินะ พี่จะเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนวล ใจดีแบบที่เราเคยคิดไว้รึเปล่านะ
ในใจของซอนโบตอนนี้มันทั้งสับสน ทั้งตื่นเต้นและยังแอบหวาดเสียวนิดๆกับการที่จะได้คุยกับเมนของตัวเองเป็นครั้งแรก
ภายในห้องที่สตาฟฟ์นำขบวนแฟนคลับเข้ามา เป็นห้องขนาดกลางๆที่ไม่ใหญ่มากนัก ผนังห้องทาสีชมพูอมส้ม บนพื้นห้องปูด้วยพื้นพรมผืนหนานุ่ม สีขาวสะอาด และวางเบาะนั่งพื้นสีเขียวอ่อน ภายในห้องสว่างไสวด้วยแสงไฟสีนุ่มนวล ด้านหน้าห้องมีโทรทัศน์ LCD คอมพิวเตอร์ ชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อมๆเตรียมไว้เผื่อต้องใช้ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเสียงเพลง Canon in D เบาๆ บรรยากาศดูน่าสบายที่สุด
“ขอให้ทุกคนเลือกที่นั่งกันได้ตามสบายเลยนะคะ ขอเวลาอินซาเตรียมตัวอีกซักครู่ แล้วเขาจะออกมาพบกับทุกๆคนค่ะ” สตาฟฟ์สาวใจดียิ้มให้ทุกคน แล้วพูดต่อ “มีน้ำชา กาแฟ โกโก้บริการอยู่ด้านหลังพร้อมกับของว่างนะคะ ใครต้องการอะไร บริการตัวเองได้เลยตามสะดวกค่ะ”
ซอนโบเพิ่งตระหนักได้ถึงความจริงข้อหนึ่งที่ว่า ใครก็ตามที่เมนพี่อินซาเหมือนกันกับเธอ มักจะเป็นคนใจดี นิสัยน่ารักกันทั้งนั้น เพราะเธอยังไม่ทันเดินไปที่โต๊ะของว่างด้านหลัง พี่สาวคนหนึ่งก็เดินยิ้มพร้อมกับส่งโกโก้แก้วหนึ่งพร้อมกับเค้กหน้าตาน่ากินสุดๆชิ้นหนึ่งมาให้เธอแล้ว
“น้องมางานนี้คนเดียวเหรอคะ” พี่สาวใจดีร่างท้วมถามอย่างอารมณ์ดี
“หนูมากับเพื่อนน่ะค่ะ แต่ว่าเพื่อนหนูเมนพี่ยงซู ส่วนอีกคนที่ตามมาเฉยๆก็ไปมีทกับพี่โอซอง” เด็กสาวตอบกลับอย่างสุภาพขณะที่นั่งกินเค้กอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
“อื้ม พี่ก็เหมือนกันล่ะ งั้นเรานั่งด้วยกันไปก่อนล่ะกันนะ”
“คะ”
ทุกๆคนในห้องนั่งคุย กินขนม จิบน้ำชา กาแฟ โกโก้กันอยู่ได้ประมาณ 15 นาที ประตูบานหนึ่งใกล้ๆชุดโฮมเธียเตอร์หน้าห้องก็ค่อยๆเปิดออก
เสียงในห้องตอนนี้ เงียบสนิทราวกับถูกลมพัดหายเข้าไปในป่าช้า คนที่ทุกคนรอคอยเดินเข้ามาอย่างสงบ พลางส่งยิ้มที่ใจดีและอบอุ่นตามแบบฉบับให้ทุกคนที่ดูเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์
“เอ่อ สวัสดีครับ” ชางอินซามองทุกคนอย่างคาดหวังว่าจะมีใครพูดอะไรตอบเขาบ้าง แต่ดูเหมือนทุกคนจะยังคงตั้งสติไม่ได้
“อ่า สวัสดีค่ะพี่อินซา” เสียงใสของใครบางคนตอบขึ้นมาก่อน ซอนโบหน้าแดงจัด แต่เธอก็กลัวพี่อินซาจะรู้สึกไม่มั่นใจไปมากกว่านี้จึงส่งเสียงตอบกลับไปเป็นคนแรก
“สวัสดีจ้ะ อินซา” เสียงอื่นดังเซ็งแซ่ตอบกลับมา อินซายิ้มอย่างโล่งอก
นึกว่ามีทติ้งครั้งแรกนี้ จะไม่มีใครพูดกับเขาซะแล้ว
ว่าแต่ เสียงแรกที่ตอบเขาขึ้นมาก่อนน่ะ ใครกันนะ
~~~
“
Or how my heart breaks
I will be right here waiting for you...”
ทันทีที่จบโน้ตสุดท้าย ทุกคนในห้องต่างปรบมือกันเสียงดังสนั่น ฮานึลเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ปรบมือเสียงดังที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
ใครจะไปคิดล่ะว่า ตัวเองจะมีโอกาสมานั่งฟังพี่ยงซูเล่นเปียโนกับร้องเพลงให้ฟังใกล้ๆแบบนี้
เมื่อเข้ามาในห้อง ทุกคนพบกับยงซูที่นั่งรออยู่กับเปียโนสีขาว ทุกคนพร้อมใจกันนั่งลงบนเบาะนุ่มที่วางไว้ทั่วพื้นห้องด้วยความสงบ ราวกับนัดคิวกันไว้ ยงซูค่อยๆเริ่มต้นบรรเลงเพลง Right here waiting for you พร้อมกับบรรจงร้องให้ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ
“ขอบคุณครับ สวัสดีทุกคนด้วยนะครับ” ยงซูหันมายิ้มสดใสให้กับทุกคนในห้อง “ขอบคุณทุกคนที่มาพบกันในวันนี้นะครับ เอิ่ม
ผมก็พูดอะไรไม่ค่อยเก่งด้วยสิ ไม่รู้ว่า มีทติ้งของเราจะเริ่มด้วยอะไรดีเน๊อะ มีใครสนใจเสนออะไรไหมครับ”
“พี่ว่า ยงซูให้ทุกคนแนะนำตัวทีละคนดีไหมจ๊ะ” พี่สาวตุ้ยนุ้ยน่ารักเสนอความคิดเห็นแรกขึ้นมาก่อน ทุกคนพยักหน้ารับ “นี่ก็มีประมาณ 20 คน ไม่น่าจะนานมาก ยงซูจะได้รู้จักทุกๆคนด้วยไง”
“ดีครับ งั้นเริ่มที่พี่ก่อนเลยล่ะกันนะครับ”
พี่สาวยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วแนะนำตัวกันไปทีละคนๆ
จนในที่สุด
“ลี ฮานึลค่ะ อายุ 18 ปี เรียนอยู่ปีสองค่ะ ยินดีที่รู้จักกับทุกคนนะคะ” ฮานึลแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มที่สดใส พลางโค้งให้กับทุกคน และเธอมองไปที่คิมยงซู เขาก็ยิ้มกลับมา แต่สีหน้าของเขาดูแปลกๆ
อืม บางทีมันอาจจะแนะนำกันมาหลายคนแล้วก็ได้ เอ แต่เขาก็ไม่ได้ทำหน้าแบบนี้กับคนที่แล้วนี่นา
เด็กสาวได้แต่นั่งคิดเองคนเดียวอย่างงุนงง ขณะที่รอให้คนอื่นแนะนำตัวต่อไปจนเสร็จ
“เรามาเริ่มเล่นเกมกันดีกว่านะครับ วันนี้ผมเตรียมเกมมาให้ทุกคนเล่นด้วยล่ะ” ยงซูพูดขึ้นอย่างร่าเริง “ถ้าใครชนะในเกมนี้ ผมเตรียมของรางวัลพิเศษมาให้ด้วยล่ะครับ เป็นเกมที่ไม่มีอะไรยากมากมาย อาศัยความสามารถล้วนๆ ก่อนอื่นขอให้ทุกคนจับคู่กันด้วยครับ”
ฮานึลยืนรอ ว่าเธอคงจะเหลือใครซักคน แล้วก็เหลือจริงๆ พี่สาวคนที่เสนอเรื่องแนะนำตัวนั้นแหละ รู้สึกว่าจะชื่อ พี่อึนมี
“น้องฮานึลใช่มั้ยจ๊ะ ยังไงเราคู่กันแล้วกันเนอะ เพราะเพื่อนพี่ที่มาด้วยกัน เขาเมนพี่อินซาน่ะจ้ะ”
“ค่ะพี่” เด็กสาวยิ้มรับ “ไม่รู้พี่ยงซูเขาจะเตรียมอะไรไว้ให้เราเล่นนะคะพี่”
“อื้อ นั่นสิ”
“เอาล่ะครับ เกมนี้เป็นเกมวิบาก โดยที่เราจะเริ่มที่การตอบคำถามเกี่ยวกับวงของผม และตัวผม ท้ายสุดก็เป็นการร้องเพลงตามที่ผมกำหนดให้นะครับ โดยระหว่างนั้น ผมจะนั่งหันหลัง ไม่หันมามองว่าคนที่ตอบคำถามหรือร้องเพลงว่าคนๆนั้นเป็นใคร ผมจะชูป้าย ‘ถูก’ ‘ผิด’ หรือ ป้ายตัวเลขคะแนนที่จะเต็มสิบขึ้นอย่างเดียวนะครับ”
“อืม เข้าใจล่ะ แต่พี่ไม่เก่งเรื่องร้องเพลงเลยน่ะสิ น้องฮานึล หนูพอไหวไหม”
“จะพยายามนะคะ” เด็กสาวยิ้มอย่างไม่แน่ใจนัก “ทำให้เต็มที่ที่สุดแล้วกันค่ะพี่อึนมี”
~~~
“หลังจากที่เราๆแนะนำตัวและรู้จักกันบ้างแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงของกิจกรรมการมีทครั้งนี้นะครับ ของผมก็ไม่ได้เตรียมอะไรมามากมายนะครับ แต่ผมเตรียมโชว์ร้องเพลงกับเต้นมาให้ทุกคนได้ดูกัน ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ” อินซาโค้งให้ทุกคน ก่อนจะมีสตาฟฟ์มาช่วยจัดการเรื่องโฮมเธียเตอร์
เสียงเพลงหลายๆเพลงดังขึ้น อินซาที่ได้รับดีกรีว่าเป็นนักเต้นประจำวงอยู่แล้ว เคลื่อนไหวอย่างแข็งแรงและมั่นคง เขาพยายามอย่างเต็มที่ในทุกๆเพลง แฟนคลับที่นั่งดูอยู่ลุ้นเป็นกำลังใจให้กันใหญ่
“อินซาสู้ๆ” ทุกคนต่างช่วยกันปรบมือให้เข้ากับจังหวะ ร่างสูงดำเนินการแสดงของเขาต่อไป จนกระทั่งหมดในช่วงของการเต้น เขาจึงโค้งตัวให้ทุกคน เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงและรู้งาน
“ใกล้จะหมดเวลาแล้วนะครับ ต่อไปเป็นเพลงที่ผมอยากจะมอบให้ทุกๆคน ขอบคุณทุกคนจริงๆครับ ที่ยังสนับสนุนตัวผม และพวกเราทุกคนตลอดมา หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกนะครับ”
เสียงเมโลดี้นุ่มๆค่อยๆดังขึ้น เสียงทุ้มค่อยๆดังขึ้นทีละนิด
Thanks for your love
ซอนโบนั่งยิ้มและดื่มด่ำกับเพลงที่เธอเข้าใจว่า เขาต้องการจะส่งความหมายอะไรให้กับทุกคนในห้องนี้
ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้กันเสมอ
ขอบคุณที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาหรืออุปสรรคอะไรกับพวกเขา ทุกคนก็ยังยืนอยู่เคียงข้างพวกเขาทุกคนเสมอ
จนกระทั่งเมโลดี้สุดท้าย งานนี้ก็จะจบลงแล้วสินะ
“ขอบคุณทุกๆคนมากนะครับ เดี๋ยวผมจะอยู่ตรงทางออก คอยจัดการเรื่องลายเซ็น ถ่ายรูป และก็ งานนี้ มีเอ่อ
Free Hug ให้ทุกคนด้วยครับ ขอให้ทุกคนเก็บข้าวของ เตรียมตัวกันได้เลยนะครับ”
ทุกคนกรี๊ดกันดังสนั่นหวั่นไหว มี Free Hug จากชาง อินซาสำหรับทั้งยี่สิบคนในห้องนี้
“มากันเถอะจ้ะ” พี่สาวใจดียิ้มให้ซอนโบ เด็กสาวลุกขึ้นตามอย่างว่าง่าย พลางหยิบกระเป๋าสะพายลายคีย์เปียโนของตัวเองขึ้นมา
“นี่ครับ ลายเซ็น ขอบคุณมากนะครับ ที่มางานนี้” เขาที่ใจดีและอบอุ่น ยืนอยู่ตรงนั้น อีกไม่กี่ก้าว จะถึงแล้วสินะ
“ขอฉันถ่ายรูปพี่หน่อยนะคะ” เสียงใสเอ่ยปาก ก่อนหยิบกล้องถ่ายรูปตัวเก่งออกมา
“ถ่ายคู่กับพี่ไหมครับ” อินซาถามอย่างสุภาพ
“เอ่อ ก็ดีค่ะ แต่ว่าใครจะเป็นคน
”
“เดี๋ยวพี่ถ่ายให้ก็ได้จ้ะ” พี่สาวใจดีเอื้อมมือมารับกล้อง ก่อนจะจัดแจงเซ็ตที่ให้ทั้งสองคนยืนใกล้ๆกัน
ทำไมใจมันเต้นได้ขนาดนี้นะซอนโบ หน้าจะแดงเป็นกวนอูมั้ยเนี่ย
.
“เอาล่ะครับ เรียบร้อยแล้วนะ อื้ม น้องชื่ออะไรเหรอครับ” ร่างสูงหันมาคุยกับเด็กสาวอีกครั้งเมื่อถ่ายรูปเสร็จ
“ชื่อ ชื่อซอนโบค่ะ ซิมซอนโบ”
“ลำแสงแห่งความบริสุทธิ์งั้นเหรอ ชื่อน้องดีจังเลยนะครับ”
“ค่ะ” ซอนโบได้แต่หน้าแดงแปร๊ด พลางก้มหน้าหงุดๆ อินซาหัวเราะลงลูกคอเบาๆ ก่อนจะจัดการเซ็นชื่อบนรูปแล้วยื่นมันให้กับเธอ
“อืม ซอนโบจะยอมให้พี่กอดไหมเนี่ย หน้าแดงขนาดนี้” มือใหญ่ขยี้ผมเธอเบาๆอย่างเอ็นดู แบบเดียวกันกับที่เธอชอบทำกับฮานึลเด๊ะๆ
“ง่า ค่ะ เหอะๆๆ” ซอนโบก้มหน้านิ่ง ยังไงเธอก็ยังไม่กล้าสบตากับพี่อินซาอยู่ดี แล้วเธอก็รับรู้ได้ถึงอ้อมแขนที่แข็งแรงที่โอบรอบเธอไว้อย่างอบอุ่น และที่สำคัญ มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
“ขอบคุณที่มาวันนี้นะครับ ไว้เราเจอกันอีกนะ”
“ค่ะ” ซอนโบก้มหัวให้อินซา ก่อนจะคว้าเอากล่องของขวัญที่อยู่ในกระเป๋าสะพายมาให้อินซา มันเป็นคุกกี้ไวท์ช็อกโกแลตชิพ ก่อนหน้าที่เธอจะมา ลีซอนเพิ่งจะเทรนด์ให้เธอทำมาสดๆร้อนๆ
“อันนี้ ฉันทำมาให้พี่ค่ะ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่อินซา”
“ครับ ขอบคุณมากนะ ขอบคุณซอนโบด้วยนะ ที่ตอบรับพี่เป็นคนแรกตอนเริ่มงาน”
เขาจำได้
“ค่ะ ไปก่อนนะคะ”
ซอนโบรีบเดินจ้ำหนีไปพร้อมกับใบหน้าที่แดงอย่างน่ากลัว อินซาได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง
เลือดจะมีไปเลี้ยงส่วนอื่นในร่างกายไหมนั้น
?
~~~
“เราได้ที่สองล่ะน้องฮานึล” พี่อึนมียิ้ม ขณะที่เดินเข้ามาหาเด็กสาวซึ่งตอนนี้กำลังเก็บข้าวของอยู่
“จริงเหรอคะพี่”
“ใช่แล้วจ้ะ คะแนนเราห่างจากที่สามแค่ 1.5 คะแนนเอง พาร์ทคำถามน่ะ แต่ที่ทำให้เราไปได้ไกลขึ้นก็เพราะน้องฮานึลช่วยร้องเพลงให้นั้นแหละ”
ใบหน้าหวานเริ่มมีเลือดขึ้นหน้า ยงซูกำหนดให้แต่ละทีมร้องเพลงให้เขามาหนึ่งเพลง และเพลงที่เธอเลือกไปร้องก็คือ All I need ซึ่งความหมายของมันบอกเกี่ยวกับสิ่งเดียวที่ผู้หญิงต้องการ คือให้ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายสบายดี และยังอยู่ดี อีกฝ่ายไม่ต้องมอบอะไรตอบแทนเธอ แค่ขอให้เธอได้รักเขาก็เพียงพอ
เพลงนี้ทำนองใสๆสบายๆ แล้วยิ่งรวมเข้ากับเสียงหวานที่กำลังเหมาะของฮานึล แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะคะแนนที่ยงซูยกให้ คือ 10 คะแนนเต็ม
“ของรางวัลของเราคือ หมวกเบสบอลของยงซูน่ะ น้องฮานึลอยากได้สีขาวหรือสีดำเหรอจ๊ะ”
“พี่อึนมีเลือกเถอะค่ะ ฮานึลเอาใบไหนก็ได้ค่ะ”
“งั้นเหรอ งั้นพี่เอาสีดำแล้วกัน น้องฮานึลเอาสีขาวไปนะ”
“ค่ะพี่” เด็กสาวหันไปยิ้มให้เพื่อนร่วมทีม เอาจริงๆถ้าเธอไม่ได้พี่อึนมีมาช่วยพาร์ทตอบคำถาม เธอเองก็คงแย่ไปแล้วเหมือนกัน
ไม่คิดเลยว่าคำถามเกี่ยวกับพี่ยงซูมันจะโหดหินได้ขนาดนี้
“เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่เราต้องจากกันแล้วสิเน๊อะ เดี๋ยวผมจะให้ลายเซ็นกับถ่ายรูปกับทุกคนนะครับ ใครที่ได้รับรางวัลอะไรยังไงเดี๋ยวผมจะให้พร้อมๆกันกับลายเซ็นเลยนะครับ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้มากนะครับ”
ผู้ได้รับรางวัล ทยอยกันเข้าไปรับรางวัลจากยงซูทีละคน ฮานึลเดินตามหลังพี่อึนมีไป
“ฮานึล” ยงซูใส่หมวกแก็ปสีขาวใบโปรดของเขาลงบนศีรษะเล็กของเด็กสาว โดยที่เขาได้เซ็นเอาไว้ใต้ปีกหมวกให้เรียบร้อยแล้ว “หมวกใบนี้เข้ากับเธอดีนะ หวังว่าจะได้ใช้มันบ่อยๆนะ”
“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มให้เขา ยงซูยิ้มตอบ พร้อมกับส่งซองสีน้ำตาลมาให้
“ในนี้ การ์ดกับรูปพร้อมลายเซ็น พี่เพิ่งเซ็นให้เมื่อกี้นี้แหละ แล้วไว้เจอกันอีกนะ ฮานึล”
“ค่ะ ขอบคุณพี่มากนะคะ ฉันดีใจกับการได้คุยกับพี่ครั้งแรกแบบนี้มากเลย หวังว่าเราจะได้คุยกันแบบนี้อีกนะคะ” เด็กสาวโค้งตัวให้เขา ก่อนจะเดินออกไปหาซอนโบกับลีซอนที่คงจะรออยู่ด้านนอกแล้ว
ยงซูมองตามร่างบางที่เดินออกไป เขาถอนหายใจออกมา
แต่ฉันคิดว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกน่ะสิ
ไม่คิดเลยว่ายัยเกะกะที่สนามบินจะพูดดีๆแบบนี้ก็เป็น
ความคิดเห็น