ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วีรกรรมสุดป่วน ชาว6.5

    ลำดับตอนที่ #2 : เข้าค่ายลูกเสือ-ยุว(25-28 ธ.ค.)

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 50


                  ชาว 6.5 ได้ร่วมกันเข้าค่ายลูกเสือ ยุว  2 คืน 3 วัน (25-28) ที่ อ วังทอง เขาสมอแคลง

    ในวัน ที่ 27 ณ ยอดเขา เราได้อยู่แสด 2 มีทั้งหมด 25 ชีวิตโดยมีสมาชิกดังนี้ เรา (หัวหน้ายุว) ดุ๊ก(หัวหน้าลูกเสือ)

    โม ศร กานต์หรือเจษ จิโฟน  เกลว  และ อีกมากมาย หมู่เฮา ขึ้นมาที่ยอดเขาด้วย 2 เท้าของเรา กว่าจะมาถึงก็เล่นเอาซะขาลาก เรายิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย มาลุยอย่างนี้มันแปลกตงิดๆ เสียงของเราก็ได้ลอยกลับบ้านไปแล้วเรียบร้อย  และ การเข้าค่ายครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่า......น้ำมันสำคัญมากกก

              ไม่นานนักก็ถึงเวลาเดินลงเขา  พวกเราต้องผ่านป่าลงไปข้างล่าง ซึ่งเขาจะทำทางให้ แต่ก็ลำบากพอดูในการเดิน เพราะหินมันขวางทางเยอะมาก ไหนจะพื้นที่ไม่เรียบแถมมันยังเอียงๆอีกต่างหาก

    การจัดแถวเดินค่าย ครูให้ผู้หญิงสลับกับชาย  โดยคนที่อยู่ตรงหน้าเรา ดุ๊ก คนที่อยู่หลังเรา เล็ก(เป็นชาย ลักษณะตัวใหญ่และอ้วน ไม่สมกับชื่อ มีนิสัยที่......ปัญญาอ่อน)  เราเดินลงไปได้สักพัก อยู่ดีๆ กานต์ หรือ เจษก็วิ่งมาจากข้างหลัง  

    อ้าว เจษ มาไม ดุ๊กถามด้วยความสงสัย

    โห ก็ดูดิ ไอ้ตุ๊ดมานจับตูดเค้า เจษตอบอย่างสยองๆ และการสนทนาระหว่าง ดุ๊ก กับ เจษ ได้ทำให้เราหัวเราะออกมาบ้าง

      ในตอนนั้น ขณะที่ ห้องอื่นกำลังรอเพื่อนที่กำลังจะ ผ่าน? บริเวณที่ดูเหมือนกับให้เรา......ลื่นลงไป

    เพื่อนต่างห้องกำลังคุยกับดุ๊กอย่างเมามัน พร้อมคำหยาบอีกมากมายหลายชุด

    เฮ้ยๆ อย่าพูดคำหยาบกันสิว้า ที่นี่มันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย  ไอ้สั_” เจษพูดพร้อมพนมมือไหว้อย่างกวนๆ

    เหอะๆ อย่างกะแกไม่พูดคำหยาบงั้นแหละ ดุ๊กพูดเบาๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ

    ไม่นานนักเจษมันก็ลื่นล้ม!

    ว้าย ไอ้เหี้_!!” เจษอุทานเสียงดัง ก่อนจะเอามือปิดปากเหมือนกับจะตั้งใจ

    เหอะๆๆๆ ดุ๊กหัวเราะกับเพื่อนต่างห้อง

    และก็ถึงเวลาที่เราจะต้องลื่น? ลงไป  ในขณะที่เรากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาหินก้อนใดเป็นเสาหลักในการยึด

    เจษก็ยื่นมือมา เหมือนจะคิดว่า เราไม่กล้าลงวินาทีต่อมาเราก็ลื่นลงมา พร้อมกับฝุ่นอีกเป็นตัน!

    และเกือบตลอดทาง เจษมักจะมองเราแวบนึงตลอด ก่อนจะหันไปคุยกับดุ๊ก หรือไม่ก็หยอกล้อเรา

    จนเพื่อนๆแซวว่า แน่ะๆ ที่จริงไอ้เจษมันก็มาจู๋จี๋ กับเฟนี่เอง

    และเราก็ต้อง..... เข้าถ้ำค้างคาว  บอกได้เลยว่ามืดมาก 

    เฮ้ย! จับมือกันไว้นะ ดุ๊กออกคำสั่ง  พวกเราก็จับมือกันทันทีที่ดุ๊กออกคำสั่ง และผ่านทางแคบไปเรื่อยๆ

    เจษมันก็บอกทางเราตลอด จน กระทั่ง...

    ตรงนี้ ก้มหัวลงนะ ดุ๊กออกคำสั่งอีกครั้ง

    เฟ  ตรงนี้ก้มลงนะ......ไหวมั้ย เจษถามเบาๆ

    อื้อ ไหวๆ เราตอบ

    ก่อนจะมองไปที่เจษว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป  มันกลับหันมามองเรา ทั้งเราและเจษเลยมองหน้ากันเนิ่นนาน

    เพราะไอ้เจษมันไม่ไปซะที!!!

    ก่อนเจษจะค่อยๆออกไปพร้อมกับเรา และเพื่อนๆอีกเป็นพวง

    ข้างหน้าเราคือ.....ลักษณะคล้ายๆน้ำตก ตอนที่ไม่มีน้ำ ลองนึกภาพดู หินก็เยอะ ทางขรุขระ พอที่จะทำให้ก้นบวม ไม่ก็กางเกงขาดได้ ถ้าลื่นลงมา

    ตุบ!

    อีฟ(หญิง สูงๆ ใหญ่ๆ ห้าวๆ) ล้มลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน

    เฮ้ย เป็นอะไรเปล่า เพื่อนๆต่างถามด้วยความเป็นห่วง

    ทั้งตัวกวนๆอย่าง เจษ ยังถาม   ภาพนี้ ทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า นี่สินะ.....ความเป็นเพื่อน

    ถึงแม้ อีฟจะไล่เตะเจษเกือบทุกวัน แต่เจษก็ยังเป็นห่วงเพื่อน และถึงแม้คนที่ดูเกเรยังเป็นห่วงเพื่อนทำให้เรารู้ว่าความเป็นเพื่อน.....มันยิ่งใหญ่กว่าที่คิด

    อีฟ...ไปไหวมั้ย เราพยายามเค้นเสียงออกมา ถึงแม้ มันจะไม่ดีอย่างเดิมก็เถอะ

    อีฟพยักหน้า ก่อนเราจะออกเดินอีกครั้ง

    และเราก็ออกเดินไปเรื่อยๆ จนเห็นลูกศรสีแดงที่ชี้ขึ้นไป 

    สงสัยคงให้เราขึ้นไป เจษพูดกวนๆ

    บ้าสิ!!” ใครเนี่ยแหละพูดพร้อมกับตบหัวเจษ

    ก่อนจะเดินไปอีกครั้ง  พวกคนที่อยู่สี ชมพู 2 ประมาณ 2-3 วิ่งนำเราไปทั้งๆที่อยู่หลังเรา

    และปรากฏว่า.....

    เฮ้ย! ทางตัน 1 ในสีชมพู พูดขึ้น สิ่งที่เราคิดได้ตอนนี้คือ.....

    ครูครับ/ค่ะ ช่วยด้วย ครับ/ค่ะ!” พวกเราตะโกนกันเสียงดัง ทั้งๆ ที่รู้ว่า ครูอยู่ไกลมาก

    ครูสมหมายคะ!” ไหมตะโกน( ตาหวานๆ อวบๆ เพื่อนมักว่าไหมว่า พะยูน)

    เรายืนนิ่งๆไม่ได้ร่วมตะโกนขอความช่วยเหลือ  แต่กำลังคิดหาทาง ก่อนเราจะรู้สึกถึงเท้าที่สั่นน้อยๆ  เราก้มลงมองว่าทำไมมันสั่น....

    เบบี๋ ไม่ต้องกังวลหรอกนะ เจษมันเรียกเราว่า เบบี๋!! และมันก็เข้าใจผิดเต็มๆ เราไม่ยืนกลุ้ม แต่เราแค่สงสัยว่าทำไมเท้าเราถึงสั่น

    สักพัก ครู พล ก็เดินลงมา และนำทางเราไปถึงค่าย พอเราเดินออกมาถึงถนน ครูสมหมายก็เดินออกมา

    ที่จริงเด็กๆต้องขึ้นไปก่อน...แต่นี่เดินตัดมา เลยหาทางไม่เจอ ครูสมหมายพูด

    เมื่อเราฟังที่ครูพูด เรานึกออกแล้ว ว่าทำไมถึงได้หลง ที่จริง เจษชี้ทางถูก แต่เพื่อนไม่เชื่อเลยเดินตรงไป เราก็นึกว่าแปลกๆเหมือนกัน ทั้งๆที่น่าจะเขียนลูกศรไว้ที่ด้านขวาของหิน แต่ดันเขียนไว้ด้านซ้ายของหิน.... เรานึก แต่ไม่ได้พูดออกไป
    เหอะๆ ทั้งๆที่เรียกครูสมหมาย แต่ครูพลดันมาแทน ไหมพูดกลั้วหัวเราะ
    ก่อนเราจะเดินกลับเข้าค่าย อย่างอ่อนล้า

            ในวันที่ 28 หรือ วันนี้ เราขึ้นรถที่พร้อมที่จะบรรทุก? เราไปยังโรงสร้างมิตรภาพ  โรงฝึกนิสัย หรือ โรงเรียน

    ในขณะที่รอเพื่อนขึ้น  เราเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ถ้ำค้างคาวให้โซฟัง โซยิ้มบางๆ

    เราว่า คนเจ้าชู้มักโรแมนติกเนาะ เราพูดหลังจากเล่าเสร็จ

    สงสัยมันโปรยเสน่ห์เฟล่ะม้างงง โซออกความคิดเห็น

    เหอะ! เราไม่หลงเสน่ห์ของเจษหรอกน่า เราพูดอย่างมั่นใจ

    ก่อนเราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×