ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : SM love รักพันธ์ร้ายของเจ้าแม่สายพันธ์บู๊

    ลำดับตอนที่ #6 : Ep.4 : นางมารร้าย!

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 53






    Ep.4 นางมารร้าย!

     

     



     

     

                    “.....ที่นี้...มันทีไหน..เฮ้ยยย!!?”น้ำเสียงงัวเงียของคนเพิ่งได้สติดังขึ้น ร่างโปร่งของเจ่าหนุ่มลูกครึ่งอิตาลี่ รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนจะล้มไปทั้งยืนเพราะว่าเขาพึ่งจะรู้สึกตัวว่ามีกุญแจล็อกข้อมือข้อเท้าเขาไว้อย่างแน่หนา เรียกได้ว่าล็อกกันที่สองอันชนิดไม่เกรงว่าจะเปลืองกุญแจกันเลยทีเดียว รอบข้างเขายังมีคนอื่นๆอีกทั้งวองโกเล่และคาวัลโล่แน่ ทุกคนอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีเพียงช่องลูกกรงเล็กๆพอให้เขาเห็นสิ่งที่อยู่ภายนอกได้ ร่างสูงรีบร้องเรียกวองโกเล่รุ่นที่สิบทันใด



                    “รุ่นที่สิบ! รุ่นที่สิบ!!”โกคุเทระตะเบ่งเสียงอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียกสึนะให้ตื่นขึ้นจกาการหลับใหล เสียงนั้นดักมาพอจะรบกวนประสานของทุกคนได้ จนทำให้ทุกคนได้สติฟื้นคืนมาก



                   
    “ที่นี้มันที่ไหนกัน
    !!?”ทุกคนต่างมีคำถามเดียวกัน ดีโน่ลูบหัวปอยๆด้วยความมึนงง โยที่มีโรมาริโอ้อยู่ข้างๆ



                   
    “ชิชิสะ?...ชิชิสะ
    ! ชิชิสะล่ะ!!!?”จากที่ตอนแรกเขาแค่เปรยเรียกด้วยความเบลอ ก่อนจะกลายเป็นเสียงตะโกน ร้องเรียกผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม ที่ไม่ได้อยู่ภายในห้องขังนี้ ดีโน่ร้อนรนเขาพยายามลุกขึ้นยืนโดยพยายามกระโดดแทนการเดินไปที่ช่องลูกกรงขนาดเล็กนั้น ก่อนที่จะเห็นร่างนึกเดินเข้ามาหาเขา




                   
    “ชิชิสะ
    !!”ดีโน่แทบจะกู่ร้องด้วยความดีใจ มองร่างบางของสาวเจ้าที่ก้าวเดินมาที่ห้องขังนี้อย่างช้าๆ.....และดูสงบเยือกเย็นจนน่าแปลกใจ จนดูไม่เหมือนคนที่จะมาช่วยพวกเขาหนีออกจากห้องขังนี้ อีกทั้งรังสีประหลาดที่แผ่ออกมาจากร่างบางนั้นทำเอาเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากด้วความระแวง




                   
    “ชิชิสะ....”ร่างสูงเอ่ยเรียกเธอด้วยน้ำเสียงค้อยพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา คิ้วเรียกขมวดเข้าหากันด้วยความขุ่นเคืองข้องใจ แววตาที่ฉายแววถึงความไม่คาดฝัน




                   
    “.....หวังว่าคงเดาออกน่ะ คาวัลโลเน่”ร่างบางเอ่ยเสียงเรียกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ดีโน้สะอึกกับชื่อเรียกที่เธอเรียกเขา มันช่างดูห่างเหินและไร้เยื่อใย จนไม่อยากจะเชื่อว่านั้นคือน้ำเสียงของคนที่เขามั่นใจว่าเป็นสหายของเขา




                   
    “เธอ.....หักหลังพวกเรางั้นหรอ?”ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง และน้ำเสียงัน้นดังพอที่จะทำให้โกคุเทระได้ยินมัน



                   
    “ว่าไงน่ะ
    !!?”เขาเป็นคนแรกที่ส่งเสียงโวยวายด้วยความโกธรา แลไม่คิดว่าจะมีใครกล้าหักหลังวองโกเล่แบบนี้มาก่อน แต่ด้วยเพราะเขายังต้องดูแลสึนะที่ยังคงมีอาการมึนงงจากฤทธิ์จากสลบ บวกกับแขนขาที่ไม่สะดวกทำให้เขาได้แต่ตะเบ่งเสีบเท่านั้น




                   
    “อย่างที่เห็น”ชิชิสะเอ่ยเสียงเรียกใส่ ก่อนจะขยับกรอบแว่นเรียวเบาๆ



                   
    “เธอกล้าดียังไงมาหักหลังพวกเราน่ะ
    ! นังมารร้าย!!”โกคุเทระตะโกนด่าผ่านลูกกรงอย่างเคียดแค้น แอบนึกสาบานไว้กับตัวเองว่าถ้าออกไปจากที่นี้ได้ เขาจะขอเป็นคนลงมือสังหารนางมาร้ายตนนี้เอง!



                   
    “คุณชิชิสะ
    ! นี้คุณกำลังล้อเล่นอะไรอยู่น่ะครับ!!?”สึนะเองก็ไม่อาจจะสามารถยอมรับได้ว่าคนที่คุณดีโน่ไว้ใจจะหักหลังพวกเขา แม้ว่าในวงการมาเฟียเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้แต่ว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้สึก ทำไมเพื่อเขาถึงรู้สึกว่าเชื่อใจเธอได้ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมันไม่ใช่การหลอกลวง ไม่ใช่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นแต่เป็น.....

     

     

     



    ตัวตนของเธอ...


     

     

     

                    “ฉันไม่ได้ล้อเล่นวองโกเล่! ฉันเอาจริง”ร่างบางเอ่ยเสียงตะหวาดก่อนจะกลับน้ำเสียงให้เป็นเหมือนเดิม หญิงสาวขยับแว่นอีกครั้งก่อนจะหันหลังให้กับลูกกรง เลือกที่จะไม่สบตากับคนพวกนั้น




                   
    “....คุณชิชิสะ”สึนะเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ โกคุเทระก็ได้แต่กัดฟันแน่เพราะตอนนี้พวกเขาทุกคนไม่อาจจะทำอะไรได้เลย




                   
    “เรื่องที่เธอเล่ามาทั้งหมด นั้นคงเป้นแค่เรื่องโกหกงั้นสิ?”ดีโน่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียก นัยน์ตาสีน้ำตาลทองที่ไม่อาจจะสบตาของคนที่หันหลังให้เขาในตอนนี้ได้ กำลังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และยังคงไม่อาจจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน



                   
    “....เออ... โกหกทั้งหมดนั้นแหละ”น้ำเสียงของหญิงสาวยังคงเรียกนิ่ง ดีโน่ค่อยก้มหน้าลงด้วยความสลด เพราะเขาเชื่อไม่ลงจริงๆ และไม่อยากจะเชื่อด้วย
    !



                   
    “เพราะอะไร ชิชิสะ เพราะอะไร
    !!!?”คนอารมณ์ดีอย่างร่างสูงผู้เป็นบอสแห่งคาวัลโลเน่ถึงกับระเบิดอารมณ์เกิดออกมา น้ำเสียงที่เขาตะเบ่งออกไปแทบจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนนี้ จนโรมาริโอ้รู้สึกห่วงใย



                   
    “หึ
    ! ถามมาได้....ก็เพราะเงินน่ะสิ ถ้าฉันจับพวกนายได้ฉันจะได้สิบล้าน....มันก็แค่นั้น”น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นอย่างไม่แกล้งใจ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เห้นหน้าเธอที่หันหลังให้ แต่ก็คงพอเดาได้ว่าเธอกำลังแสยะยิ้มอยู่แน่นอน



                   
    “นังมารร้าย
    !! ค่อยดูเถอะ ถ้าออกไปได้ ฉันจะฆ่าเธอเป็นคนแรกเลย!!”โกคุเทระแทบจะเดือดเป็นลาวานึกอยากจะฆ่าจริงๆ ยัยผู้หญิงร้ายกาจคนนี้นะ!



                   
    “ก็เอาสิ ถ้าออกมาได้ ฉันจะรออยู่ที่ชั้นบนสุด.......”น้ำเสียงของเธอช่างสงบนิ่งและไร้ความรู้สึกจนทุกคนต่างตัดใจ ไม่คิดจะยอมเชื่อใจหญิงสาวคนนี้อีกต่อไปแล้ว แม้มันจะยากและความจริงก็คือ เธอทรยศพวกเขา ดีโน่ขบกรามแน่นด้วยความขุ่นเคืองและแค้นใจอย่างถึงที่สุด มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเป็นมา



                   
    “....ฉันไปล่ะ”เธอเอ่ยก่อนจะก้าวฝีเท้าออกไป โดยทิ้งพวกเหล่าผู้ถูกหักหลังฝีเท้าที่เพียงไม่กี่ก้าวและกลับดูห่างไกลนัก ร่างสูงมองเผ่นหลังเล็กที่จากไปนั้นด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เจ็บปวดยิ่งนัก

     

     




    เจ็บอย่างถึงที่สุด...

     

     

     



                   
    “.....ขอโทษ”น้ำเสียงปริศนาที่ดังขึ้นแว่วหูเพียงชั่วเสี้ยวสินาที ร่างสูงถึงกับสะบัดเงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ มองแผ่นหลังเล็กที่จากไปนั้นด้วยอาการสงบนิ่ง น้ำเสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่มันช่างแสนเบาหวิวราวกับเสียงลมพัดผ่าน นั้นเพราะจิตใจของเขาในตอนนี้มันถูกหักหลังจนได้ยินเสียงแว่วไปเองหรือว่านั้นเป็นคำขอโทษของผู้หญิงคนนี้กันแน่น

     

     

     



    ชิชิสะ....เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?





     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++

     

     

                   

     

                    “...โถ่เอ้ย!! ประตูบ้าอะไรว่ะ!”เสียงสบถด่าดังขึ้นอยู่เป็นระยะๆในห้องขัง โดยเจ้าของน้ำเสียงนั้นก็คือโกคุเทระที่แม้จะใช้แขนขาไม่ได้ แต่ก็ใช่ลำตัวปะทะเข้ากับประตูเหล็กอย่างสุดชีวิตเพื่อเปิดมันออกหลังจากที่เขายอมนั่งนิ่งตามคำสั่งของรุ่นี่สิบมากว่าสองชั่วโมง จากที่เขาสำรวจอย่างคร่าวๆ ดูเหมือนว่าที่ที่พวกเขาถูกขังจะเป็นโกดังที่ไหนสักแห่งและไม่มีคนเฝ้าเสียด้วย ที่เป็นแบบนั้นคงเพราะเจ้าสปาด้ากลัวคนของตัวเองเสียงรู้จนพลาดถ้าให้พวกเขาหนีไปได้ กำแพงนี้ก็แข็งเสียงจนทำเอาปวดไหล่ไปหมด อย่างน้อยๆถ้าเอากุญแจมือพวกนี้ออกไปได้ ก็คงพอให้เรียวเฮใช่สุดยอดพลังหมัดนั้น ชกกำแพงนี้จนแตกได้




                   
    “ใจเย็นน่าโกคุเทระ”ยามาโมโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ แม้เขาจะฌป้นคนร่าเริงแต่เพิ่งจะโดนคนที่เขาเชื่อว่าเป็นเพื่อนหักหลัง แม้จะไม่สนิทแต่เขาก็เชื่อใจเหมือนกับทุกคน การถูกหักหลังแบบนี้ทำให้คนเช่นเขาแอบซึมได้เช่นกัน




                   
    “ฉันจะออกไปฆ่านังมารร้ายให้ได้
    !”คำตั้งมั่นของโกคุเทระดังขึ้นอย่างไม่ย้อท้อ เขาเอาไหล่กระแทกประตูอีกครั้ง แต่ผลยังคงเมหือนเดิมคือ ตัวเขากระดนอนกลับมาพร้อมกับหัวไหล่ที่ปวดหนึบ โดยที่ประตูเหล็กปานนั้นยังไร้รอยขีดขวนและพร้อมจะให้โกคุเทระกระแทกใส่ได้อีกเรื่อยๆ

     

     




    แกร๊ก
    !




     

     

                    เสียงประตูถูกเปิดออกอย่างหน้าประหลาด ทั้งเหล่าวองโกเล่และคาวัลโลเน่ต่างมองด้วยความหวาดระแวง ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับร่างของบุรุษชุดดำร่วมเกือบสิบคนที่รออยู่ด้านนอก โดยที่ทุกคนล้วนถืออาวุธเตรียมพร้อม สองในสามคนจากกลุ่มใหญ่ทั้งหมด เดินมาหาพวกเขาก่อนจะทำการปลดกุญแจที่ข้อเท้าให้พวกเขาทั้งหมด



                   
    “ตามผมมา บอสต้องการคุยกับพวกคุณ”หนึ่งในนั้นกล่าว ซึ่งเป็นชายหัวโล้นเกลี้ยงผิวสีแทนไว้เคราและใส่แวนดำ พวกเขายอมทำตามแต่โดยดีเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและบอสแห่งคาวัลโล่เน่และวองโกเล่อีกด้วย




                   
    พวกเขาทั้งหมดเดินไปตามเส้นทางที่ถูกคนชุดดำห้อมล้อม พวกเขามองไปรอบๆโกดังที่ว่า ซึ่งน่าจะเป็นโกดังล้าง ไร้ผู้คน มองจากหน้าต่างแล้วนี้มันน่าจะอยู่กลางป่าแน่นอน

      


                 
    “ไม่ต้องหาทางหนีหรอกครับ เพราะที่นี้ไม่ใช่เกาะเดียวกับที่พวกบอสจัดงานเลี้ยง ถ้าหากคิดหนีก็มีแต่ตายกับตาย”น้ำเสียงของชายหัวโล้นกล่าวทำเอาพวกเขาถึงกับสะอึกด้วยความตกตะลึง นั้นทำให้ชายหัวโล้นแว่นดำเดาความคิดออก



                   
    “พวกคุณหลับไปหนึ่งวันเต็มไปด้วยฤทธิ์”



                   
    “ว่าไงน่ะ
    !? แล้วเกมส์นั้นล่ะ?”โกคุเทระกล่าว?



                   
    “เป็นแค่เหยื่อล่อ ตอนนี้พวกนั้นทั้งหมดยกเว้นคาวับโลเน่และวองโกเล่แฟมิลี่ ได้กลายเป็นพันธมิตรและเบี้ยงล่างโดยสมบูรณ์ของซิเอโล่แฟมิลีแล้ว เพื่อต่อชีวิตของพวกเขา”ร่างสูงเอ่ยด้วยความสุภาพ ซึ่งนั้นเป็นการแสดงให้เห้นเลยว่าเป็นการบ่งบอกให้รู้กันเลยทีเดียวว่า แฟมิลี่ของพวกเขาเป็นเป้าหมายตั้งแต่แรก

     

     




    .......ก็เลยส่งนางมารร้ายคนนั้นเข้ามา
    !!

     

     

     



                   
    “พวกแกต้องการอะไรกันแน่
    !?”เรียวเฮเอ่ยด้วยความสงสัย มองชายร่างสูงใหญ่ไม่แพ้เขาที่ดูเหมือนว่าจะแอบแฝงความแข็งแกร่งไว้อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งมีแต่ลูกผู้ชายด้วยกันเท่านั้นที่รู้สึกได้




                   
    “ถามบอสดูเถอะครับ”ร่างสูงเอ่ย ก่อนที่คนจะเปิดประตูตรงหน้าออก นั้นทำให้เล่าวองโฏเล่และคาวัลโลเน่ถึงรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกตัวลงสู่ชั้นใต้ดินด้วยลิฟ  มีคนเพียงห้าคนเท่านั้นที่เข้าไปลิฟกับพวกเขา ก่อนที่ลิฟนั้นจะดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ยิ่งลึกลงไปพวกเขาก็ยิ่งจะเห็นแผ่นเหล็กมากขึ้น มากขึ้นจนกลายเป็นห้องกว้างพื้นที่สี่เหลี่ยมที่ประกอบไปด้วยกลองลังมากมายและอื่นๆที่ดูเหมือนจะเป็นการค้าผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะค้ามนุษย์ ยาเสพติด อาวุธและอื่นๆที่เป็นของนำเข้าและส่งออกหนีภาษีและการตรวจตรา




                   
    พวกเขาทั้งหมดถูกคุ้มด้วยเหล่าชายชุดดำอีกนับสิบคนอีกครั้งที่รอตอนรับพวกเขาอยู่ข้างล่าง ก่อนที่พวกเขาจะเดินผ่านเหล่ากล่องลังขนาดใหญ่ ก่อนจะเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆในฐานทัพใต้ดินแห่งนี้ จนในที่สุดพวกเขาก็มาหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่ง ก่อนที่ประตูเหล็กนั้นจะเปิดออก




                   
    “สปาด้า
    !!”เสียงงตะโกนของโกคุเทระดังขึ้นก่อนใครโดยที่เขาไม่คิดจะสนใจเหล่าเครื่องประดับวิจิตงามตาในห้องทำงานชั้นใต้ดินของสปาด้าเลยแม้แต่น้อย ร่างของจิ้งจอกเกศาสีน้ำตาลช็อกโกแล็ตที่กำลังนั่งจิบไวท์แดงชั้นเลิศบ่นเก้าอี้หนังหรูหราอย่างสบายอารมณ์ด้วยท่านั่งไขว้ห่าง




                   
    “อ้าว แขกพิเศษของผมมาแล้วสิน่ะครับ
    ! เชิญนั่งก่อนสิครับ”น้ำเสียงของสปาด้าช่างดูร่าริงสดใสแต่ก็ให้ความรู้สึกผะอืดผะอมเช่นเดียวกัน ทุกคนมองด้วยความหวาดระแวงไม่ไว้ใจ ก่อนที่โกคุเทระจัดตัดสินใจเป้นคนออกหน้าประทะคารมเอง




                   
    “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีสปาด้า!! ฉันจะฆ่าคนอย่างแกข้อหาที่คิดจะปอมร้ายรุ่นที่สิบ”โกคุเทระกล่าวด้วยความเคยีดแค้น และท่าทีหุนหันของเขาทำให้ชายชุดดำร่วมสิบกว่าคนหันกรับอกอื่นไปที่เขาเป็นเป้าหมายเดียว จนทำให้โกคุเทระชะงักและเงียบปากลง เพราะขืนทำอะไรมากกว่านี้ คนที่พรุนก็คือเขานี้แหละ



                   
    “คุณต้องการอะไร คุณสปาด้า?”สึนะรวบรวมความกล้าก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยคแววตาที่มั่นคงไม่หวั่นไหวและไม่ขลาดกลัว สปาด้ามองคนเอเชียผู้หาญกล้าอย่างสึนะด้วยความนึกชื่นชมในความกล้า แม้จะตัวเล็กแต่ก็มีฝีมือร้ายกาจที่เขาจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว แต่นั้นก้ตือเมื่อมีถุงมือล่ะก็น่ะ.....



                   
    “งั้นก็เชิญนั่งก่อนสิครับ”สปาด้าเอ่ย สึนะมองอย่างชั่งใจก่อนที่จะตัดสินใจนั่งลงที่โซฟารับแขก ทำให้ทุกคนทำตามอย่างช่วยไม่ได้ ร่วมกระทั้งโกคุเทระที่สุดท้ายก็หลุดออจากเป้าเล่งปืนของพวกชายชุดดำพวกนั้น สปาด้าดีดนิ้วครั้งหนึ่งก่อนที่เหล่าพวกชายชุดดำจะรุมเขามาปลดกุญแจข้อมือให้ ซึ่งัน้นแสดงให้เห้นว่าสปาด้ามั่นใจกว่าแผนการของเขาจะสำเร้จอย่างแน่นอน



                   
    “คุณต้องการอะไร?”ดีโน่เอ่ยถามซ้ำแทนสึนะ



                   
    “ครองโลก ทั้งโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลัง”เจ้าของเนตรสีครามเล็กเรียวราวกับจิ้งจอกเอ่ยพลางจิบไวน์เองอย่างอารมณ์ดี ผิดกับสีหน้าของคนอื่นๆที่ออกจะอึ้งไปกับความต้องการที่ยิ่งใหญ่นี้




                   
    “เพราะแบบนั้นถึงต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่งสิน่ะ”ดีโน่เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




                   
    “นั้นมันก็จริงน่ะครับแต่ว่า คนที่ผมอยากได้มาเป็นพวกจริงๆก็คือพวกคุณ”ร่างสูงกล่าว เนตรสีครามเพ็งมองร่างของคนตรงหน้าทั้งสองก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา




                   
    “ถ้าได้กำลังของพวกคุณที่เหลือมันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่มันจะติดอยู่ตรงที่ว่าพวกคุณมันเป็นมาเฟียนอกคอก.....เป็นสีขาวในโลกเบื้องหลัง เรื่องที่ผมกำลังจะทำคงทำให้พวกคุณเข้าขัดขวางอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้มีแฟมิลี่พันธิมิตรมากแค่ไหน แต่เมื่อได้ยินชื่อวองโกเล่และวัลโลเน่ก็คงเสียขวัญจนทำทำแผนผมลวนไปหมดแน่”สปาด้ากล่าวพลางมองเหล่าจุดด่างในโลกมาเฟียอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้ม



                   
    “เพราะฉะนั้นมาเป็นพันธมิตรกับผมเถอะน่ะครับ”ร่างสูงเอ่ยด้วยรอยยิ้มมองเหล่าจุดด่างพวกนี้ด้วยจิตสังหารที่พยายามกดดันพวกเขา




                   
    “...ถ้าผมปฏิเสธล่ะ?”สึนะเอ่ยถามด้วยใบหน้าอาบเหงื่อ ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเมื่อสินเสียงชักกระบอกปืนเตรียมปล่อยลูกตะกั่วได้ทุกเมื่อถูกเล็งมาที่เหล่าสหายของพวกเขา




                   
    “ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็คงต้องขอจัดการกับเพื่อนของคุณที่ล่ะคนที่ล่ะคนแล้วกันน่ะครับเพราะคนใจอ่อนอย่างคุณน่ะ คงทนไม่ได้สิน่ะครับ แต่ว่าถ้าสมมุติผมฆ่าคนพวกนี้จนหมด เหลือแต่พวกคุณที่เป็นบอสแต่คุณก็ยังปฏิเสธอ แม้จะเสียดายแต่ผมก็เลือกที่จะฆ่าพวกคุณซะ ทีนี้ก็จะไม่มีใครมาขว้างผมได้อีก”คำขู่บังคับที่ปิดทางหนีที่ไหร่ของพวกเขา สึนะเหงื่ออาบใบหน้า กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดละแวง กังวลใจและห่วงใยเหล่าพวกพ้องที่กลายเป็นตัวประกัน เพราะแบบนี้เองสิน่ะถึงได้ไม่จับขังแยกกัน แต่จับขังด้วยกันเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเพื่อบังคับพวกเขา ไม่ว่าจะทางเลือกอันไหนก็ยอดแย่ด้วยกันทั้งนั้น

     

     

     

     


    จะทำยังไงดี? จะทำยังไงดี
    !!?

     

     

     


                   
    “ว่าไงครับ? ระหว่างเพื่อนรอดแล้วอนาคตของผมสดใสกับเพื่อนตายคุณตายแล้วอนาคตของผมยิ่งสดใส เอาอันไหนดีล่ะครับ?”วองโกเล่รุ่นที่สิบได้แต่นึกด่ากับทางเลือกที่ไม่ว่าทางไหนก็แย่พอกัน ตอนนี้มีแต่ต้องตอบตกลงไปก่อน แล้วค่อยหาทางจัดการที่หลัง สึน่ะ



                   
    “อ่ะจริงสิครับ ผมคุณต้องเซ็นสัญญานี้ด้วย มันเป็นสัญญาของวินดีเซ่ ถ้ามีแฟมิลี่ใดที่คิดหักหลังผม ตามเงื่อนไขสัญญานี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกน้ำวินดีเซ่น่ะครับ”ราวกับถูกอ่านความคิดออก ดีโน่และสึนะถึงกับสะอึกทีคนคนนี้อ่านความคิดของพวกเขาทัน ช่างเจ้าเล่ห์สมกับที่ได้ฉายาว่าเป็นจิ้งจอกแห่งนภาเลยจริงๆ



                   
    “ฉันมีข้อเสนอ
    !!”อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงห้าวที่พวกเขายังคงจำได้ ทำให้พวกเขารีบหันไปมองต้นเสียงไม่เว้นกระทั้งสปาด้า เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาให้ห้องดังขึ้น ร่างบางของหญิงสาวที่ได้รับฉายาจากโกคุเทระว่าเป็นนางมารร้ายปรากฏขึ้น




                   
    “ฉันว่าข้อสัญญาของเรามันจบลงไปแล้วน่า....คุณพี่สาว”สปาด้าเลยด้วยรอยยิ้ม แต่ก็เป็นรอยยิ้มเสแสร้งไม่น่าไว้ใจ ชิชิสะเองก็ตอบรับรอยยิ้มแบบนั้นด้วยรอยยิ้มเหี้ยม ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงที่โซฟาเดี่ยวและยกขาขึ้นนั่งไขว้ห้างกอดอกอย่างมาดมั่น โดยที่มีสายตาจิกแทงอาฆาตแรงจากโกคุเทระ และสายตาจากเพื่อนๆคนอื่นที่มองมาทางเธอ



                   
    “มันยังไม่จบจนกว่าแกจะจ่ายเงินฉัน สปาด้า”เธอเอ่ย ก่อนที่จะทำให้สปาด้าหลุดหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้



                   
    “หึหึหึ ถ้าอยากได้เพิ่มฉันก็จะให้ เพราะเธอทำให้แผนการของฉันสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว”สปาด้าเอ่ยก่อนจะฉีกยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้า ที่ยังคงนั่งนิ่งไม่สะทกสะท้านกับสาตาของเหล่าคนนี่เธอหักหลังเลยแม้แต่น้อย ทว่าดีโน่กลับไม่ใช่เพราะเขารู้สึกได้ว่า มันไม่เหมือนกับชิชิสะที่เขารู้จัก เธอที่เขาพบในตอนแรกช่างดูโดดเดียวและสันโดษ แต่เธอในตอนนี้กลับดูหยิ่งยโสและร้ายกาจยิ่งนัก ยังกับเป็นคนล่ะคน




                   
    “ไอ้เรื่องจะเพิ่มเงินก็ดี แต่ว่าน่ะสปาด้า ฉันมีเกมส์สนุกๆแก้เซ็งให้เจ้าพวกนี้มันเล่น ถือซะว่าเป็นการให้เวลาคิดกับพวกนี้ พวกมันจะได้ไม่เครียดมากนักเผลอๆเดี๋ยวฆ่าตัวตายขึ้นมาจะเสียของ”เสียงของหญิงสาวดังขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ เธอยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะฉีกยิ้มออกมา



                   
    “น่าสนุกดีนิ เกมส์อะไรล่ะ?”สปาด้าเอ่ยพลางมองหญิงสาวร่างบางด้วยความสนใจ



                   
    “วิ่งไล่จับ”เธอเอ่ยพลางเอียงคอน้อยๆก่อนจะสลับขาไขว้ห่าง



                   
    “กฎง่ายๆ ภายในหนึ่งชั่วโมงให้พวกแกวิ่งจับไล่จับฉันให้ได้ก็แค่นั้น และตลอดเกมส์ทุกคนในแฟมิลี่ซิเอโล่ทั้งหมดจะต้องขัดขวางอย่าให้เจ้าพวกนี้จับฉันได้ ซึ่งตัวฉันจะไม่ใช่อาวุธ จะจับเป็นจับตายก็ได้ แล้วก็พวกนายถ้าเกิดระหว่างเล่มเกมส์มีคนที่รอดเพียงหนึ่งคนก็ถือว่าแพ้ ถ้าบอสคนใดคนหนึ่งของพวกนายตายก็ถือว่าแพ้เช่นเดียวกัน แล้วก็ที่สำคัญที่สุด ระหว่างเล่นเกมส์พวกนายห้ามมายุ่งกับสปาด้าเป็นอันขาด และห้ามหนีไปจากที่นี้สุดเขตมีเพียงโกดังร้างชั้นบนเท่านั้น ไม่งั้นจะถือว่าผิดกฎและพวกเราจะสังหารพวกแกทันที”ข้อเสนอที่ทำให้สปาด้าหัเราะดังลั่นด้วยความชอบใจ เป็นกฎที่เผินอาจจะยุติธรรม แต่เอาเข้าจริงๆเหล่ามาเฟียสีขาวนั้นแหละที่เสียเปรียบที่สุด




                   
    “ถ้าพวกนายชนะ พวกนายจะได้กลับคืนสู่แฟมิลี่อย่าปลอดภัย และถ้าทางเราเล่นตุกติกอะไรฉันยินดีที่จะเป็นโล่ให้และสาบานว่าหากฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะขอติดตามพวกนายไปตลอดชีวิตโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่ทว่า หากพวกนายแพ้ขึ้นมา นอกจากพวกนายจะต้องสาบานตนว่าจะเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ของซิเอโล่แล้ว พวกนายทุกคนจะต้องถูกควักลูกตาออกมาคนล่ะข้างเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงความพ่ายแพ้ของพวกนาย และทั้งคาบัสโลเน่แฟมิลี่และวองโกเล่แฟมิลี่จะต้องถูกเปลี่ยนชื่อทั้งหมดเป็น ซิเอโล่แฟมิลี่.....ในฐานะลูกน้องของสปาด้า”ทุกคนถึงกับอึ้งไปกับเกมส์ร่างบางตรงหน้า สปาด้าเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชอบใจมาก อย่างมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ใช้เงินจะเปลี่ยนหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นคนทรยศแห่งแฟมิลี่ จะกลายมาเป็นอาวุธร้ายและดาวราชสีห์ที่ยืนผงาดอยู่บนท้องนภาเพื่อเขา.....เพื่อซิเอโล่แฟมิลี่




                   
    “เอาเปรียบกันเห็นๆเลยนิหว่า
    !”โกคุเทระวีนแตก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะติดอยู่ตรงที่ปากกระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่หัวของเขา




                   
    “ถ้าไม่เล่นก็ไม่ได้เป็นไร เพราะยังไงซะคนที่จะเป็นหรือตายก็พวกนาย ไม่ใช่ฉัน”ร่างบางยักไหล่อย่างไม่ยีระ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและใช้หางตาชำเหลือกมองทุกคนที่อยู่ที่นั้น ก่อนเธอจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งนั้นทำให้พวกเขาวิตกคิดขึ้นมาได้ เพราะนี้ราวกับเป็นโอกาสหนีอีกหนทางหนึ่ง แม้จะเสี่ยงแต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีโอกาส อีกอย่างแหวนกับวองโกเล่ของสำคัญแบบนั้นพวกเขาไม่มีทางทิ้งมันไว้ที่นี้แน่นอน ต้องหาให้เจอแล้วรีบไปจากที่นี้



                   
    “.....ตกลงครับ พวกเราจะเล่น”ในที่สุดคำตอบที่ดังขึ้นจากริมฝีปากของวองโกเล่รุ่นที่สิบก็ดังขึ้น ดีโน่ส่งยิ้มยินยอมกับการตัดสินใจของสึนะ ทุกคนเองก็เห็นด้วย ทำให้ปากกระบอกปืนทุกอันทุกวางลง ทำให้พวกเขาโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง




                   
    “ตัดสินใจได้ดีนิ
    ! แล้วก็น่ะเพื่อความสนุกไม่ให้มันดูขี้โกงไปนิด จะไม่มีการดูกล่องวงจรปิดเพื่อรายงานที่อยู่ของพวกนาย คนที่จะดูได้มีเพียงสปาด้าเท่านั้นซึ่งจะค่อยจับตาดูพวกแกเผื่อเวลาพวกแกเล่นตุกติกหรือคิดหนีอ่ะน่ะ เอาล่ะหลังจากนี้ฉันจะออกไปก่อนห้านาที แล้วหลังจากนั้นพวกนายค่อยออกจากห้องนี้เพื่อตามหาฉัน แล้วอีกห้านาทีต่อมาทุกคนในแฟมิลี่ถึงจะทำการขัดขวางพวกนาย ตกลงตามนี้น่ะ”หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่ อาวุธปืนจะถูกส่งยืนให้กับเหล่าผู้เล่นเกมส์คนล่ะกระบอก




                   
    “งั้นฉันจะนั่งรอฟังผลอยู่ที่ห้องนี้แล้วกันคุณพี่สาว งั้นก็เริ่มเกมส์ได้
    !”สปาด้าให้สัญญา ชิชิสะเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีสบายๆทั้งๆที่ตัวเอง ทุกคนมองแผ่นหลังของหญิงสาวด้วยความมุ่งมั่น เจ้าของเนตรสีน้ำตาลทองมองกระบอกปืนในมือของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรไปเองรึเปล่าแต่ว่า นี้มันเหมือนกับว่าเธอ

     

     

     



    กำลังช่วยพวกเขาอยู่


     

     

     

                    “ระหว่างที่เล่นเกมส์ก็คิดดีๆน่ะครับ ข้อเสนอของผม เพราะถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากฆ่าพวกคุณหรอกน่ะครับ”สปาด้าเอ่ย ทุกคนกระชับกระบอกปืนในมือไว้แน่นเตรียมพร้อมที่จะออกวิ่งเสมอ และในจิตใจของพวกเขาต่างก็มีเป้าหมายอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นจนกระทั้งในที่สุดเวลาห้านาทีก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนเขารู้สึกเหมือนมันผ่านไปแล้วร่วมชั่วโมง




                   
    “ครบห้านาทีแล้วครับ”สปาด้าเอ่ยบอกเหล่ามาเฟียสีขาว พวกเขาทั้งหมดรีบลุกขึ้นยืนและออกวิ่งไปทันใด แต่พวกเขาก็ต้องพบปัญหาเรื่องเส้นทาง ทางถูกแยกออกเป็นสองทาง ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่าชิชิสะไปทางไหน




                   
    “เท่าที่ฉันสังเกต ที่นี้มีทั้งหมดสี่ชั้น ตอนนี้พวกเราอยู่ชนที่สี่ พวกนายสำรวจชั้นนี้กับชั้นสาม ฉันจะไปสำรวจชั้นสองกับที่โกดังเอง”ดีโน่สั่งการอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจัง พวกเขาแยกกันเป็นสองกลุ่มโดยไม่มีการลังเล เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงวินาทีฉุกเฉินเป็นแน่




                   
    “ครับ
    !”ทุกคนรีบแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว ดีโน่ โรมาริโอ้และยามาโมโตะรีบวิ่งตรงไปยังลิฟอีกตัวที่อยู่ภายในตัวอาคาร แต่ว่าลิฟนั้นไปได้สูงสุดแค่ชั้นสอง ไม่เหมือนกับลิฟตัวนอกที่เป็นทางขึ้นไปยังโกดัง




                   
    ชั้นที่พวกเขาต้องสำรวจในตอนนี้เรียกได้ว่าแค่เห็นก็ถึงกับอยากจะกระอักเลือด เพราะมันมีห้องและทางแยกอยู่เยอะมาก ไม่ใช่แค่นั้นแม้แค่คนชุดดำเองก็เดินป้วนเปี้ยนอยู่มากด้วยเช่นกัน
    ยังกับว่าชั้นนี้มีขอสำคัญถูกเก็บเอาไว้อย่างนั้นแหละ ดีโน่และพยายาโมโตะมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้กันราวกับว่าพวกเขากำลังมีความคิดที่ตรงกัน พวกเขารีบไปซ่อนตัวอยู่ตรงมุมเลี้ยวหลังกำแพงก่อนจะดักตีหัวชายชุดดำที่เดินผ่านสองคน พวกเขารีบซับเปลี่ยนเสื้อผ้ากับคนพวกนั้น ก่อนจะออกไปปะบนกับคนพวกนั้นอย่างแนบเนียนที่สุด




                   
    พวกเขาเดินไปตามทางเดินตลอดทางมีคนชุดดำมองเขาด้วยความสงสัย แต่เพราะด้วยความเป็นมืออาชีพทำให้พวกเขาสามารถแนบเนียนกลมกลืนกับคนพวกนั้นได้ก่อนที่พวกเขาจะสังเกตเห็นประตูเพียงบานเดียวที่มีคนยืนเฝ้าซ้ายขวานิ่งไม่ไปไหน ไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่มักจะเดินอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่พวกเขาจะต้องรีบเบรกเท้าแทบควันขึ้นรีบวิ่งมาหลบอยู่หลังมุมทางเลี้ยวก่อนจะพากันชะเง้อหน้ามองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า




                   
    ร่างของบุคคลที่พวกเขากำลังตามหา หญิงสาวร่างบางในชุดสูทแปลกตาที่พวกเขาเห็นตอนที่เจอกันในวันแรก เธอเดินออกมาจากห้องนั้นด้วยสีหน้าเรียก คิดว่านั้นคงจะเป็นห้องส่วนตัวของเธอ เธอส่งสายตาเฉียบขาดไปยังเหล่าคนชุดดำที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง



                   
    “เฝ้าให้ดีล่ะ”เธอสั่งการเสียงเรียบ แน่นอนว่าเสียงนั้นดังพอที่จะให้เหล่าผู้บุกรุกได้ยิน นั้นยิ่งทำให้เหล่าผู้ปลอมแปลงตนทั้งสามคนสงสัยเป็นอย่างมาก ของที่อยู่ภายในห้องนั้นคืออะไรกันแน่? แต่ว่านี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนั้นพวกเขาทั้งสามคนน่าจะตามชิชิสะไปซะมากกว่าแต่ว่า



                   
    “เดี๋ยวก่อน ยามาโมโตะ”ดีโน่กระซิบบอกกับร่างสูงที่กำลังจะเดินเนียนตามหลังหญิงสาวคนนั้นไป แต่ว่ากลับถูกดีโน่รั้งไว้




                   
    “มีอะไรหรือครับบอส?”ร่างของโรมาริโอ้กล่าวถามด้วยความสงสัย เพราะเขาเองก็เป้นอีกคนที่กำลังเดินเนียนตามไป




                   
    “ห้องนั้นน่ะ ฉันว่ามันเป็นไปได้ที่จะเก็บแหวนกับอาวุธกล่องของพวกเราไว้น่ะ”ดีโน่เอ่ยวิเคราะห์อย่างผู้มากประสบการณ์ นั้นทำให้พวกเขาฉุดนึกได้ จริงสิ เพราะพวกเขาถูกจับมาโดนสปาด้านั้นย่อมทำให้พวกเราคิดว่าอาวุธและแหวนของพวกเขาต้องอยู่ติดตัวกับสปาด้า คงไม่คิดว่าจะถูกกับไว้กับเธอคนนี้ เพราะเรื่องราวที่ผ่านมาทำให้แทบทุกคนมีความรู้สึกนึกแค้นหญิงสาวคนนั้น จนอาจจะลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปและพุ่งเป้าไปยังการกับตัวเธอเพียงอย่างเดียว หรือไม่อาจจะเป็นกลลวงให้พวกเขาวิ่งเข้าหาสปาด้าเพื่อตามหาจนกลายเป็นตกหลุมพลางไปก็ได้



                   
    “นั้นสิน่ะ”โรมาริโอ้พยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสามคนตกลงกันว่าจะบุกเข้าไปให้ห้องนั้นโดยวางแผ่นจะจัดการกับกล่องวงจนปิดกันเพื่อสปาด้าเล่นทุกตุกติกรายงานสถานะของพวกเขา ทั้งสองตัวในรัศมีที่มองเห็นพวกเขาและอยู่ใกล้ประตู โดยให้คนแม่นปืนอย่างโรมาริโอ้ยิงตัวกล่อง ส่วนสองคนที่เหลือยามาโมโตะและดีโน่จะจัดการเอง

     

     

     

    ปังๆ!! ผัวะๆๆ!!!

     

     

     

                    เพียงชั่วอึดใจพวกเขาก็รีบคนย้ายคนสลบเข้าไปในห้องพร้อมกับโรมาริโอ้ เป้นจังหวะเดียวกับที่พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากกำลังวิ่งมาทางนี้ สองหนุ่มยามาโมโตะและดีโน่รีบใส่แอ๊คติ่งนอนลงกับทำเหมือนกับคนพึ่งถูกอัด



                   
    “เฮ้ยเกิดอะไรขึ้น
    !!?”หนึ่งในคนชุดดำที่วิ่งมาทางนี้กลับกับทั้งสองคนที่พยายามใส่แอ๊คติ่งคนเจ็บอย่างเต็มที่ ก่อนที่เขาจะรีบทำสีหน้าโวยวาย เป้นจังหวะเดียวกับที่ยามาดมโตะทำเหมือนว่าตัวเองพึ่งจะได้สติหลังจกาที่ถูกอัดอย่างแรง ดีโน่ก้ตามน้ำ รีบเข้าไปพยุงอีกฝ่าย ยิ่งดูเหมือนคนเจ็บเข้าไปใหญ่




                   
    “พะๆ พวกวองโกเล่
    !! มันได้ของไปแล้ว มันหนีไปทางทางนั้น!!”ดีโน่ถูกด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนเพราะผึงถูกอัดมา ทั้งๆที่ความจริงมันใช้ซะที่ไหน ชี้นิ้วมั่ว สีหน้าของคนพวกนั้นดูจะตกใจไม่น้อยที่ด้วย ยิ่งทำให้ดีโน่ฟันธงได้เลยว่าของในห้องต้องเป็นแหวนและอาวุธกล่องอย่างแน่นอน!




                   
    “ซวย
    ! ถ้าพวกนั้นได้แหวนกับกล่องไปต่อให้พวกเราก็เอาไม่อยู่แน่!”พวกนั้นกระวนกระวายใจรีบใส่เกียร์วิ่งอย่างรวดเร็วโดนไม่คิดจนสนใจคนเจ็บหรือจำเป็นสังเกตเรื่องกล้องวงจรที่แตกหรือแม้กระทั้งคนเฝ้าที่เขาไม่ค่อยจะคุ้นน่าเสียเท่าไหร่



                   
    เมื่อไปกันจนหมด ดีโน่อาสาเข้าไปดูโรมาริโอ้ในห้อง โยที่ยามาโมโตะเป็นคนยืนดูราดราวไว้ให้



                   
    “เป็นไงบ้างโรมาริโอ้
    !?”



                   
    “อย่างที่บอสบอก แหวนแล้วก็อาวุธกล่องของพวกเราอยู่ที่นี้จริงๆ”โรมาริโอ้กล่าวด้วยความยินดีพลางยืนกระเป๋าหนังที่ใส่กล่องอาวุธทั้งหมดและแหวนเอาไว้ โดยที่อาวุธแยกชิ้นใหญ่อย่างดาบของยามาโมโตะและแส้ของดีโน่ก็ถูกเก็บซ่อนไว้ที่นี้ ดีโน่พยักหน้ารับด้วยความยินดีก่อนที่พวกเขาจะรีบออกจากห้องนั้น ยามาโมโตะเมื่อเห็นทุกอย่างเป็นได้ส่วน ทั้งเขาและดีโน่ต่างรีบแจกแจงแหวนให้กับตัวพวกเขาเอง ก่อนจะรีบเผ่นตรงไปยังทางลิฟ เพราะที่ดีโน่ชี้บอกทางก็ใช้ว่าจะชี้มั่วแต่เขาชี้ไปอีกทางที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟเพื่อเปิดทางหนีต่างหาก



                   
    แต่ว่าจังหวะนั้นเองที่พวกเขาร่างบางเดินเข้าไปในลิฟนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เธอมองเห้นพวกเขาพอดี รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏที่ใบหน้าของหญิงสาว พร้อมกับบานประตูที่กำลังปิดลงอย่างช้าๆสู้กับแรงขาของคนทั้งสารทมี่กำลังวิ่งตรงมาทางนี้



                   
    “ชิชิสะ
    !!!”ดีโดน่ตะโกนเรียกเธอ แม้มันจะไร้ความหมายแต่มันก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง หญิงสาวหลับตาลงพร้อมกับการเอ่ยวาจาหนึ่งแต่เสียงนั้นมันเบามากเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟปิดลงและเคลื่อนตัวขึ้นสู่ชั้นบนสุด ดีโน่ได่เพียงแต่อ่านริมฝีปากของเธอเท่านั้น



                   
    ฉันรอนายอยู่น่ะ ดีโน่ร่างสูงของคนทั้งสามยืนนิ่งด้วยอาการหอบเพราะมึนงงและไม่เข้าใจกับคำพูดของเธอเมื่อครู่ รอเขางั้นหรอ?




                   
    “ไปทางบันไดเถอะ ว่าลิฟจะลงมาถึงพวกนั้นคงเจอเราก่อนแน่”ยามาโมโตะเอ่ยพวกเขาทั้งสามพยักหน้ารีบหาทางบันไดหนีไฟ แต่ว่าก่อนหน้านั้น



                   
    “แยกกันเป็นสองกลุ่มเถอะครับ ผมจะเอาแหวนไปให้พวกสึนะ ส่วนคุณดีโน่กับโรมาริโอ้ตามผู้หญิงคนนั้นไปเถอะครับ”เจ้าของริ้วแผลที่คางกล่าว ดีโน่นิ่งเพียงครู่ก่อนจะพยักหน้ารับตามข้อเสนอของยามาโมโตะ ต้องมีคนถ่วงเวลาเธอไว้จนกว่าพวกสึนะจะมา ถึงตอนนั้นพวกเขาก็รีบหาทางเผ่นทันที




                   
    กลุ่มของคนทั้งสามแยกกันเป็นสองกลุ่ม ดีโน่วิ่งขึ้นส่วนยามาโมโตะวิ่งลง แยกย้ายไปตามเป้าหมายของตัวเองแต่ว่ามันก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยน่า



                   
    “เฮ้ย
    !”ดีโน่เผลออุทานด้วยความตกใจเมื่อมีคนชุดดำวิ่งขึ้นชั้นบนก่อนหน้าเขาแล้ว แถมพวกนั้นยังได้ยินเสียงดีโน่อีกต่างหาก ทำให้พวกนั้นแน่ใจว่านั้นไม่ใช่พวกเดียวกับตนแน่ แถมแส้ที่ถืออยู่ในมือก็บอกยี่ห้อได้เป็นอย่างดี




                   
    “นั้นคาวัลโลเน่ ฆ่ามัน
    !!!!”ทุกคนต่างพร้อมใจกันจะเปิดกล่องอาวุธของตัวเอง แต่ก็ต้องเสียงทาดีโน่ เพราะบันใดที่พวกนั้นยืนอยู่มันแคบ จะเรียกอาวุธกล่องออกมาในที่แคบๆแบบนี้คงใช้การได้ยาก ส่วนเขาที่มันอยู่ในมืออยู่แล้วก็รีบฟาดจัดการให้มันจบๆ ต่อให้มันเป้นแส้ที่มันต้องการพื้นที่ในการเหวี่ยงฟาดแต่ ดีโน่(ที่มีโรมาริโอ้อยู่ด้วย)ซะอย่าง การหวดแส้ในที่แคบแบบนี้มันจิ๊บๆ

     

     



     

    เพี้ยะๆๆๆๆๆ!!!!


     



     

                    “อ๊ากกกกกกก!!!”พวกนั้นต่างร้องเสียงหลงเพราะถูกแส้ของดีโน่เข้าอย่างแรง ส่งผลให้บางคนหลุดออกจากราวกับบันไดจนตกลงไปข้างล่าง ซึ่งมันก็มีอยู่หลายคนที่เป็นเช่นนั้น ดีโน่ได้จังหวะเหมาะรีบวิ่งข้ามคนพวกนั้นพร้อมกับโรมาริโอ้




                   
    แต่มันก็ยังเป็นการยากอยู่ดี เพราะมันเป็นบันไดวน! นี้กล่าวพวกเขาจะวิ่งไปถึงชัดบนสุดจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันเนี่ย!!?




                   
    แต่ด้วยความอดทนอดกลั้นในที่สุดดีโน่ก็วิ่งมาจนถึงกระตูที่อยู่บนชั้นบนสุดจนได้ เขาเปิดประตูออกไปอย่างแรงด้วยความเหงื่อ และมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง ที่นี้คือโกดังจริงที่พวกเขาถูกจับตัวมา ซึ่งเป็นในอีกมุมมองที่เขาได้เห็น โกดังนี้มีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ห้องที่ขังพวกเขาไว้ก็อยู่รีบสุดไกลจากประตูทางออก ส่วนลิฟที่พวกเขาลงไปนั้นกลับอยู่ใกล้ประตูโดยที่พวกเขานั้นไม่ทันสั่งเกต และในตอนนั้นเองที่เขาก็ได้เห็นเธอคนนั้นอีกครั้ง




                   
    หญิงสาวหนึ่งคนที่เขาเชื่อมั่นมาตลอดในคำพูดของเธอ แม้จะพบกันได้ไม่นานแต่เขาก็รู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกมีความสุกทุกครั้งที่เขาได้สบดวงตาสีนิลคู่นั้น ร่างบางที่เขาพยายามจะไขว้ค้าเพื่อเค้นถามความจริงนั้นเธอยืนกอดอยู่หน้าประตูทางออก โดยที่ในมือก็ถืออาวุธคู่ใจของเธอไว้ สีหน้านั้นช่างนิ่งเรียกและสงบเยือกเย็น เนตรสีนิลชำเหลือกมองเขาที่เดินออกมาจากประตูหนีไฟด้วยใบหน้าเรียกและยากจะอ่านความคิค ก่อนที่เธอจะหลบสายตาและยืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับยามเฝ้าประตู ซึ่งนั้นบ่งบอกให้ดีโน่รู้ว่าเธอจะไม่บุกก่อน ดีโน่มองเธอด้วยความสับสนไม่เข้าใจ เขามีหลายๆคำถามอยากจะถามเธอ จนไม่มีแรงจูงใจมากพอจะให้เขาสู้

     

     

     



    เพราะคนตรงหน้าคือเธอ เขาถึงไม่อยากสู้
    !

     

     

                   

                    “ชิชิสะ...”ร่างสูงเอ่ยเรียกเธอเสียงเรียบมันช่างดูคาดหวังและมีอะไรแอบแฝงมากมายนัก โรมริโอ้ไม่อาจจะเข้าไปแทรกแทรงทั้งสองได้ จึงได้สินใจยืนดูอยู่ห่างๆ ร่างสูงค่อยเดินเข้าหาเธออย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะสะดุ้งกับน้ำเสียงเยือกเย็นที่เอ่ยขัดขึ้น




                   
    “ถ้านายไม่บุก...ฉันจะบุกล่ะน่ะ
    !!!”น้ำเสียงของหญิงสาวดังขึ้นจริงจัง ก่อนที่เธอจะยกไม้เท้าของเธอขึ้นและฟาดใส่ดีโน่ทั้งๆที่เขาอยู่ไกลเกินระยะของไม้เท้า แต่ว่า ทันทีที่เธอเหวี่ยงไม้เท้าออกไป ลูกเหล็กกลมที่ปลายไม้เท้าก็หลุดออกตามแรงเหวี่ยงและพุ่งตรงไปยังร่างของดีโน่




                   
    “เว้ย
    !!”ดีโน่ร้องเสียงหลงอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนจะรีบเบี่ยงตัวหลบ เพราะไอ้ลูกเหล็กขนาดนั้นมันไม่ต่างจากกระสุนปืนใหญ่เลย! แถมความเร็วก็ยัง....

     

     

     



    โครมมมมมมมมม
    !!!!

     



     

     

                    เหมือนปืนใหญ่จริงๆเป๊ะ!!

     

     



                   
    ดีโน่ถึงกัหน้าซีดผีดกลืนน้ำลายลงคออย่างช้าๆมองตำแหน่งที่ลูกเหล็กไปกระทบด้วยความสยอง ฝุ่นกระจายคลุ้งไปทั่วแสงถึงความรุนแรงที่สั่นสะเทือนจนทำฝุ่นปลิวว่อนไปทั่ว แถมมันยังฝังตัวแน่นอยู่ในเนื้อปูนแข็งๆนั้นอีกด้วย




                   
    “อ๊ากก
    !!”เพราะมั่วแต่อึง หญิงสาวใช้ช่วงที่อีกฝ่ายเผลอกระแทกไม้พลองเหล็กใส่ท้องของดีโน่อย่างแรง ก่อนที่เธอจะวาดลวดลายฟาดพลองใช้หัวของดีโน่อย่างไม่อ้อมแรงก่อนจะใช้พลองเหล็กนั้นเสยคางจนดีโน่ตัวลอย ก่อนที่สุดท้ายร่างนั้นจะถูกหญิงสาวฟาดใส่อีกครั้งราวกับกำลังตีลูกเบสบอลจนร่างสูงนั้นกระเด็นไปชนเข้ากับผนังปูนอย่างแรง

     

     




    ช่างเป็นท่าคอมโบที่ไม่ปราณีเลยจริงๆ



     

     

     

                    “บอส!”โรมาริโอ้เรียกอีกฝ่ายด้วคยวามตกใจเมื่อถูกจู่โจมใส่อย่างไม่ทันตั้งตัว

    “แค๊กๆๆ!”ดีโน่สงสัยไอท่ามกลางหลังม่านฝุ่นด้วยความจุกและปวดระบมไปทั่วร่างกาย เขาไม่คิดเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะมีแรงมากขนาดนี้ ก็ว่าอยู่หรอกยกไอ้ลูกเหล็กใหญ่ขนาดนั้นไปมาได้ แต่ที่สำคัญคือ เธออัดเขาแบบไม่ยั้ง ราวกับตัดเยื่อใยจนขาดสะบั้นแล้ว




                   
    “อย่ามาสำออยดีโน่ ลุกขึ้น
    !!”น้ำเสียงก้าวร้าวและดุดันของหญิงสาวดังขึ้น ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ศรีษะ เขาเลือดออก ร่างสูงมองเลือดของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้วยความคับแค้นใจ

     

     




    คับแค้นใจที่ตัวเองไม่เข้าใจอะไรเลย
    ! เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ดีโน่ คาวัลโลเน่

     

    เธอคนนั้น.....เป็นศัตรูน่ะ!!!




     

     

                    “ย๊าก!”ใจสู้ที่กลับมาอีกครั้ง ดีโน่จุดไฟดับเครื่องชนที่แส้ก่อนจะฟาดใส่หญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ลีงเล แต่ว่าเธอคนั้นก็ไม่มีฝีมือเพียงพื้นๆหรือมีดีแค่เรื่องแรงเท่านั้น แม้กระทั้งความเร็วก็ใช้ย่อย เธอหลบแส้ของดีโน่ก่อนจะเข้ากระชิดตัวอย่างรวดเร็วด้วยการสืบเท้า ทว่าดีโน่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าสะบัดแส้อย่างรวดเร็วเป็นแนวนอน หญิงหลบโดยสัญญาณชาติญาณกระโดดขึ้นสูงหนีแส้ แต่เพราะแส้เป็นอาวุธที่ว่องไว้และเปลี่ยนทิศทางการโจมตีได้อย่างคาดไม่ถึง ทำให้ดีโน่สามารถกระตุกแส้และฟาดใส่หญิงสาวทว่าในตอนนั้นเองที่ถูกยกมือขึ้นก่อนจะใช้แหวนธาตุอัสนีสร้างเกราะขึ้น และด้วยแรงฟาดทำให้ร่างของเธอกระเด็นออกไปแต้ไม่ได้รับบาดเจ็บ




                   
    !!”ในตอนนั้นเองหญิงสาวจุดไฟหนึ่งให้แหวนทั้งสี่วงที่เธอสวมใส่ แหวนพิรุณถูกจุดประกายไฟขึ้น ด้วยผลของแหวนนั้นทำให้ไฟดับเครื่องชนที่แส้ของดีโน่อ่อนแรงลงเป็นอย่างมาก ซึ่งหากอีกฝ่ายบุกขึ้นมาโดยใช้ไฟดับเครื่องชนแส้นี้คงต้านไว้ไม่อยู่แน่



                   
    และเป็นอีกครั้งที่หญิงสาวจุดไฟดับเครื่องชนแต่คราวนี้เป็นธาตุอรุณ ก่อนที่เธอจะทำการเปิดกล่องนั้น



                   
    “ไลก้า เดสน์วูฟล์
    !!”ชื่อเรียกของหมาป่าอรุณถูกขานพร้อมกับร่างใหญ่โตของมันที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ดีโน่มองสีหน้าเรียกไร้อารมณ์และความอาลัยราวกับว่าพวกเขาทั้งคู่คือศัตรูกันมาแต่ช้านาน ไม่ใช่เพื่อนไม่ใช่สหายอย่างที่เขาคิด......เพียงคนเดียว



                   
    “สครูเดอเรียส
    !”เพราะไม่อาหลีกเลี่ยงได้ดีโน่เรียกม้านภาออกมาประจันหน้ากับหมาป่าอรุณ




                   
    “อินดูเมนติ ดิโอ
    !”คำสั่งต่อมาหมาป่าอรุณรุกหน้าวิ่งตรงไปหาร่างของดีโน่พร้อมกับร่างของมันที่อาบไปด้วยไฟธาตุอรุณ พร้อมกันนั้นที่ดีโน่ก็ปล่อยคำสั่งออกไป




                   
    เปกาซัส ซูเปอร์ เซวโต โวเลนเต้!”ม้านภาสี่เท้างอกปีกออกมาก่อนจะบินตรงเข้าหาไลก้า ปีกไฟที่สยายออกบินโฉบผ่านร่างของไลก้า แต่ว่าหมาป่าอรุณไม่ยอมล่ามือ มันอ้าปากกัดแผงคอของสครูเดอเรียส

     

     



    ฮี่
    !!!!!!!!!!


     

     

                    เคี้ยวของหมาป่าจัดจมลงไปที่คอของม้าตัวนั้น พร้อมกันนั้นไฟจากปีกของสครูเดอเรียสก็รุนแรงมากซะจนสัตว์ทั้งสองไม่สามารถทนต่อการโจมตีของทั้งคู่ใด ทำให้พวกมันกลับคืนสู่กล่อง




                   
    “ใช้ได้นิ”หญิงสาวเอ่ย




                   
    “....”ดีโน่ไม่เออออไปกับเธอและทำสีหน้าจริงจังตั้งสมาธิอยู่กับการต่อสู้ เมื่อครู่สัตว์ทั้งสองต่างฝ่ายต่างใช้พลังเต็มที่ ม้านภาใช้พลังทั้งหมดเพื่อเผาศัตรูให้มอดไหม้ ส่วนไลก้า เดสน์วูฟล์นั้นก็ใช้พลังทั้งหมดในการฟื้นฟูร่างกายสู้กับไฟนั้น


                    ทั้งคู่เข้าปะทะกันอีกครั้ง ครั้งนี้ดีโน่มีสมาธิกับการต่อสู้มากขึ้น ไม่มีท่าทีว่าจะพลาดท่าให้ชิชิสะเลยสักนิด ทางฝ่ายหญิงสาวเองก็ทุ้มสุดกำลังเพื่อต่อสู้กับชายคนนี้ ต่างฝ่ายต่างงัดเทคนิคของตัวเองมาใช้อย่างสุดฤทธิ์สุดกำลัง เรียกได้ไม่มีการยอมกันเลย



                   
    “คุณดีโน่
    !”เสียงของสึนะดังขึ้นจากหน้าประตูทางหนี แต่เจ้าตัวอย่างไม่หันไปมองเพราะเขากำลังใช้ท่าเซวโต โวเลนเต้ เวลอนเช่ โคม ลันเช่ เขาฟาดแส้อายไฟนภาด้วยความเร็วสูงจนดูราวกับว่ามีแส้นั้นอยู่นับๆสิบเส้น หญิงสาวเคลื่อนตัวหลบพร้อมกับใช้พลองเหล็กขึ้นกันในจังหวะที่เธอหลบไม่ทัน ทุกคนมองการต่อสู้ของทั้งสองพลางกลืนน้ำลาย ทั้งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วนั้น ทั้งการโจมตีที่รวดเร็วนั้นก็ด้วย ดูกันจนตัวลุ้นกันเลยทีเดียว แต่นั้นก็ใช้ว่าพวกเขาควรจะทำเช่นนั้น เพราะพวกเขาต้อยค่อยกำจัดคนที่วิ่งตามหลังพวกเขา ไม่ใช่แค่นั้น มีคนอีกจำนวนมากที่ขึ้นมาทางลิฟ สึนะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มจัดการกับคนที่ไล่ตามพวกเขาจนกว่าการต่อสู้ของดีโน่และชิชิสะจะสิ้นสุดลง



                   
    “อ๊ากกกก
    !!”ในที่สุดชิชิสะก็พลาดถ้า โนแส้ของดีโน่ไปเป้นจำนวนมากก่อนจะกระเด็น จนร่างบางลงไปกลิ้งกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ เธอได้รอยแดงและรอยไหม้ตามแขนขา หัวคิ้วมีเลื้อดซิบ ใบหน้าคลุกฝุ่น หญิงสาวรู้สึกถึงรสเลือดในปากเพราะแส้ฟาดโดนริมฝีปาก ที่แก้มมีริ้วแดง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวดและหอบจากการต่อสู้ ก่อนจะพยุงร่างของตัวเองหมายจะทำการต่อสู้ต่อแต่ว่า




                   
    !!?”เธอกลับนอนนิ่งและเริ่มขวดตัวอย่างช้าๆ โดยที่เธอใช้มือข้างหนึ่งกดที่สีข้างของตัวเองไว้แน่ ดีโน่มองเธอด้วยความสงสัยอย่างผิดปกติ เขาเองก็ยืนหอบและอยากจะจบการต่อสู้นี้เต็มทนเพราะเขาก็โดนเออัดใส่เยอะเอาเลือด เลือดอาบหัวมาหลายต่อหลายรอบจนเขาชักจะเวียนเขา เขาในตอนนี้แค่ต้องการให้ชิชิสะแพ้ และต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ เพื่อตอบความสงสัยของเขาเท่านั้น




                   
    “หรือว่า
    !?”ไม่ว่าจะเพราะลืมตัวหรืออะไร ร่างสูงไม่คิดอะไรอย่างอื่น เขารีบวิ่งตรงไปยังร่างที่พยายามจะลุกขึ้นยืน โดยที่เบื้องล่างเต็มไปด้วยกองโลหิตที่ไหลออกมาจากตัวของหญิงสาว เสื้อสีขาวถูกย้อมไปด้วยสีเลือด ดีโน่รีบวิ่งมาหาเธอมหายจะช่วย




                   
    “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ
    !”หญิงสาวกดเสียงต่ำกัดฟันพูด แต่ร่างกายเธอตอนนี้แค่ยืนก็ยากอยู่แล้วไม่มีทางที่เธอจะลุกขึ้นยืนมาต่อสู้กับเขาได้อีกต่อไปแล้ว



                   
    “แต่เธอ
    !”ดีโน่กำลังจะเถียงแต่ว่าเขาก็มองเห็นเนตรแข็งกร้าวของเธอภายใต้กรอบแว่นนั้น หญิงสาวค่อยพลิกตัวแผนอนเหงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอากาศเข้าไปด้วยความหอบ แต่นั้นก้ทำให้แหวนหลุดจากใบหน้าของเธอ


    “ฉันแพ้แล้วดีโน่......”น้ำเสียงของเธอดังขึ้นครั้งอย่างอ่อนแรง บาดแผลที่เปิดฉีกได้ทำการเรียกเลือดจากร่างของเธอเป็นไปจำนวนมาก โดยที่รอบตัวของพวกเขาเกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างกองทัพซิเอโล่และเหล่าวองโกเล่เพียงไม่กี่คนที่ยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการต่อสู้ของดีโน่และชิชิสะ




                   
    “ฉันดีใจน่ะที่ได้เจอนาย....แต่คงไม่ได้พบกันอีกแล้วล่ะ”ดวงใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นทันใดที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของหญิงสาว รอยยิ้มปรากฏบนหน้าเธอน้อยๆ ก่อนที่เธอจะหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ดีโน่ไม่อาจจะเข้าใจใดๆที่หญิงสาวเอ่ยมาได้ เขารีบประคองร่างของเธอขึ้นไว้ในอ้อมแขนโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเลอะคราบโลหิตมากมายเพียงใด



                   
    “เธอหมายความว่ายังไง เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นยังไงกันแน่
    !!?”น้ำเสียงของดีโน่ดังขึ้นด้วยความสับสนงุนงง และหวาดกลัว หวาดกลัวว่าชีวิตของหญิงสาวตรงหน้าจะหายไป




                   
    “.......หึ”เสียงหัวเราะในลำคอของหญิงสาวดังขึ้นอย่างเงียบงันก่อนที่ร่างกายของเธอจะแน่นิ่งไปภายในห้อมแขนของเขา




                   
    “ชิชิสะ
    !!!!?”




     

     

    ปัง!!!!



     

     

     

                    เสียงปืนดังขึ้นจนทำให้ทุกสรรพสิ่งเงียบงันและจบลง เสียงนั้นมันดังมาจากร่างสูงของชายที่พวกเขาทุกคนอยากจะฆ่ามากที่สุด ร่างสูงเดินอย่างผ่าเผยพร้อมกับปืนหนึ่งกระบอกในมือที่บ่งบอกว่าเขาเป็นเจ้าของเสียงปืนเมื่อครู่ ทำให้ทุกการต่อสู้จบลง รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าที่ดูแล้วน่าหมั่นไส้ ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชิชิสะ เขามองร่างที่แน่นิ่งไม่ไหวติ่งของเธอภายในอ้อมแขนของคาวัลโลเน่ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา ดีโน่มองการกระทำของชายที่ได้ชื่อว่าเป้นน้อยชายของชิชิสะด้วยความเดือดดาล ท่ามกลางสายตาของวองโกเล่ที่มองชิชิสะด้วยความหลากหลายความรู้สึกรู้สึกดีและรู้สึกแย่ๆแล้วแต่นิสัยของแต่ล่ะคน




                   
    “ทำไมแกถึงยังยิ้มอย่างนั้นอยู่อีก
    !!? นี้มันพี่สาวแกน่ะ!”ดีโน่ตะโกนถามชายตรงหน้าด้วยความเดือดดาล เขาโอบกอดร่างของหญิงสาวไว้แน่น




                   
    “หึ
    ! ฉันไม่เคยมองนังนี้เป็นพี่สาว! ฉันไม่เคยมีพี่สาวน่ารังเกียจแบบยัยนี้!!”คำพูดวาจาอันแสนน่ารังเกียจหลุดออกมาจากริมฝีปากของร่างสูง เจ้าจิ้งจอกแห่งนภาเผ่ยความชั่วร้ายออกมา ดีโน่ขบกรามแน่นไม่เข้าใจ จ้องมองสปาด้าก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์



                   
    “ทำไม?”




                   
    “หึ
    ! เพราะมันคือมารผจญของฉัน ฉันรึอุตสาห์วางแผนสังหารตาแก่ซิเอโล่ แต่ยัยบ้านี้ก็ยังมาขัดขวางเอาตัวไอ้ตาแก่ไปซ่อน!! แถมยังเอาแหวนซิเอโล่ไปอีก หึ! แค่นั้นยังไม่พอ หลังจากที่โผล่หน้ามาอีกที่ยัยนี้ก็โผล่ออกมาพร้อมพินัยกรรมให้มันเป้นคนสืบทอดคนต่อไป แผนที่ฉันวางไว้เลยย้อยยับหมด”




                   
    “แต่รู้ไหมนังนี้มันโง่
    ! มีอำนาจอยู่ในมือกลับโยนให้ไอ้วิกเตอร์! ไม่ยอมเป็นบอสแต่กลับยอมเป็นผู้พิพากษาที่ออกคำสั่งใดๆไม่ได้! แล้วไงเจ้านั้นก็ถูกฉันฆ่า ฉันเลยถือสิทธิ์ขึ้นเป็นบอสคนต่อไป แต่ก็น่ะ ตราบใดที่ไม่มีแหวนฉันก็ยังไม่ได้เป็นบอสเต็มตัว ยัยบ้านี้ก็ไม่ยอมมอบแหวนให้ฉันสักที ฉันลยหลอกยัยนี้ไปว่าคนที่ฆ่าวิกเตอร์ก็คือวองโกเล่! แล้วมันก็เชื่อ ยอมร่วมมือกับฉันล่อให้พวกแกไปติดกับ!! แถมยังขอร้องให้ฉันพูดเออออไปตามน้ำเวลาที่ยัยนั้นพยายมทำตัวให้เหมือว่ามันเลวเพื่อให้พวกแกตัดใจจากมัน ดุสิ คนดีเสียเหลือเกิด ยัยหน้าด้าน!”น้ำเสียงของสปาด้าดังขึ้นอย่างบ้าครั้งด้วยความน่ารังเกียจ สึนะตัวสั่นเทาด้วยความโกรธแม้ชิชิสะจะทรยศแต่ว่าในส่วนลึกเขายังเชื่อใจเธอและรู้สึกรังเกียจคนที่ฆ่าได้แม้กระทั้งพี่น้องของตัวเอง ดีโน่เองก็เก็บกักโทสะของตัวเองไว้ เพราะมันใกล้จะระเบิดออกมาเต็มทน





                   
    “แถมตอนนี้ฉันก็ได้แหวนซิเอโล่มาแล้ว ยัยนี้ก็ไร้ประโยชน์”น้ำเสียงเย้ยหยันน่ารังเกียจของจิ้งจอกนภายิ่งทำให้ดีโน่ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ชำเหลือกมองแหวนนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ

     

     

     



    ชิชิสะ......




     

     

                    “แกก็เหมือนกัน ท่านสปาด้า”น้ำเสียงปริศนาดังขึ้น ทำให้ทุกคนงงงวย ไม่เว้นกระทั้งสปาด้าที่ก็งงงวยไม่แพ้กันก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ถึงปากกระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่ศรีษะของเขา





                   
    “นี้นายคิดจะทำอะไร มัลโก้”สปาด้าเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอย่างสงสัย ที่อยู่ๆก็หันปากกระบอกปืนมาทางเขา




                   
    “แล้วแกคิดว่าฉันกำลังทำอะไร?”ชายผมทองที่ชื่อมัลโก้กล่าว เขาขยับแหวนกลมของตัวเองเพียงน้อยก่อนจะใช้นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองเจ้าจิ้งจอกแห่งนภาที่เป็นนายเหลือหัวของเขา



                   
    “นี้ๆ มัลโก้ นี้แกเพี้ยนรึเปล่าที่หันปืนมาทางฉัน แกไม่เห็นหรอฉันมีลูกน้อยเป็นสิบ คิดว่าแกคนเดียวจะทำอะไรได้?”สปาด้าเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆไม่คิดมากใช้หางตามองชายวัยกลางคนที่เป็นอดีตคนสนิทของตาแก่ซิเอโล่




                   
    “ก็แค่อาจจะ”น้ำเสียงของมัลโก้เอ่ยด้วยคำกำกวน สปาด้าเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนจะสังเกตเห็นทุกสายตาที่จับจ้องมาทางเขา ทุกปากกระบอกปืนของคนในชุดดำหันมาทาง.....เขา
    !?



                   
    “นะ นี้พวกแก
    !!?”สปาด้าถึงกับตัวสั้นด้วยความตื่นตกใจ ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความงุนงง มองทุกสีหน้าของเหล่าลูกน้อยนับร้อยในโกดัง ไม่มีใครสักคนที่ไม่ยกปากกระบอกปืนมาทางเขา เหล่าวองโกเล่ค่อยๆถอยออกนอกวงด้วยความงุนงง แต่ก็เป็นการดีสำหรับพวกเขา




                   
    “นี้พวกแกเป็นบ้าไปแล้วรึยังไง
    !!? ฉันเป็นบอสน่ะ!?”สปาด้ากระวนกระวายด้วยอาการประหม่า รีบโชว์แหวนซิเอโล่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีเหล่าสมาชิกทุกคนล่วนแต่พักดีต่อซิเอโล่แฟมิลี่อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าเจ้านายจะทำอะไรก็ย่อมไม่ผิดสิ!




                   
    “คิดว่านั้นเป็นของจริงงั้นรึ สปาด้า?”น้ำเสียงที่พวกเขาทั้งหมดนึกว่าจะไม่ได้ยินเสียงแล้ว ดังขึ้น เสียงที่สปาด้าแสนชิงชัง เขาหันไปมองตนเสียงด้วยความตื่นตะลึง




                   
    หญิงสาวที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว กับนั่งยิมเยาะสะใจภายในอ้อมแขนของม้าพยศ เธอหอบอย่างแรงเพราะอาการเสียเลือดแต่เธอก็ยังคงครองสติเอาได้ได้




                   
    “นี้แก ยังไม่ตายอีกเรอะ
    !!?”สปาด้าโกรธจนตัวสั่น นี้เขาถูกผู้หญิงคนนี้หลอกงั้นรึ!?”




                   
    “ใช่ ต้องขอบใจเจ้านี้ล่ะ”เธอเอ่ยพลางใช้ดวงตาเหลือกมองดีโน่ เพราะเขากอดเธอไว้ ทำให้สปาด้าไม่รับรุ้ว่าเธอกำลังใช้แหวนรักษาบาดแผลอยู่ ด้วยคุณสมบัติของธาตุอรุณในกระกระตุ้นเกล็ดเลือดผิดแผล และใช้คุณสมบัติของธาตุเมฆาเพิ่มเลือดให้กับตัวเอง ทำให้เธอยังครองสติได้




                   
    “ที่แกพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง
    !!?”สปาด้าแถมอยากจะกระถือยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ให้ได้ เขาวิ่งตรงหรี่หมายจะกระทืบร่างของนั่งผู้หญิงอวดดีคนนี้ ดีโน่รีบกระชากอ้อมกอดแน่นซ่อนร่างเธอไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่จะถูกสปาด้ากระทืบ แต่ว่าสปาด้ากลับถูกชายชุดดำคนหนึ่งเข้ามารั้งตัวไว้




                   
    “ปล่อย ปล่อยฉันน่ะ ฉันจะไปฆ่ามัน
    !!!”สปาด้าหงุดหงิดหนักเมื่อมีคนเข้ามาขวาง



                   
    “แหวนของจริงก็คือสิ่งนี้ สปาด้า”สิ่งที่หญิงสาวเอ่ยยิ่งทำให้สปาด้างุนงงหนัก เพราะยิ่งที่หญิงสาวโชว์ให้เขาดูมันคือแหวนสีใสที่เหมือนแก้วที่อยู่ที่นี้วกลางข้างซ้ายของหญิงสาว



                   
    “ฉันไม่เชื่อ
    ! แหวนที่เจ้าแก่นั้นใส่ไม่ใช่แบบนี้นิ!



                   
    “เพราะแหวนนั้นเป็นแหวนดังเดิมยังไงล่ะ”




                   
    “หา?”สปาด้าก็ยังคงงงงวยต่อไป มัลโก้เห้นสีหน้าของหญิงสาวที่ยังเหนื่อยล้าเกินไป มัลโฏ้ตัดสินใจเป็นคนเล่าทุกอย่างแทน



                   
    “แหวนดังเดิมของซิเอโล่คือคริสตัลริง เป็นแหวนเพียงวงเดียวบนโลกใบนี้ที่สามารถสร้างคุณสมบัติและรูปแบบเฉพาะตัวได้เอง โดยดูดซับจิตใจและธาตุในตัวของคนคนนั้น แต่ว่ามันจะดูดซับจิตใจของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นซิเอโล่อย่างแท้จริงเท่านั้น หากเป็นคนอื่นจะไม่สามารถสวมใส่แหวนได้”มัลโก้เอ่ยอย่างดุดันเพื่อเตือนสติของคนหลงตัวเองอย่างสปาด้า




                   
    “แล้วแม่นั้นมันเป็นซิเอโล่ที่แท้จริงตรงไหนตรงไหน
    !? มันเป็นแค่เด็กที่ตาแก่นั้นเก็บมาเลี้ยงไม่มีสายเลือดอันสูงทรงของซิเอโล่เลยสักนิด!! แล้วทำไมมันถึงได้ครอบครองแหวนเล่า!!?”สปาด้าเดือดดานพยายามดิดให้หลุดจากการจับกุมก่อนจะต้องหน้าหันเพราะถูกมัลโก้ตบหน้าเอา




                   
    “แหวนวงนั้นไม่จำเป็นต้องสืบทอดทางสายเลือดเหมือนวองโกเล่ แต่มันคือจิตใจต่างหาก นภาคือผู้โอบอุ้มทุกสรรพสิ่ง คือผู้ปกป้องไม่ใช่ปกป้องเพื่อผลประโยชน์แต่ปกป้องด้วยรัก ซึ่งมันไม่ใช่แกสปาด้า แกมีแต่ความละโมบและกระหายในอำนาจ ทั้งยังสังหารทั้งพ่อแล้วพี่ชายแท้ๆของตัวเองได้ลงคออย่างเลือดเย็น กับแกที่เป็นแบบนั้น แหวนไม่มีวันตอบรับแกหรอกสปาด้า




                   
    “แกโกหก
    !!




                   
    “งั้นจะพิสูจน์ไหมล่ะ สปาด้า”มัลโก้กล่าวก่อนที่ร่างสูงจะหันไปมองหญิงสาวผู้สวมแหวน เธอถอนหายใจน้อยๆก่อนจะหลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิ เพียงไม่กี่อึดใจก็ปรากฏแสงสีส้อมอ่อนและหัวแหวนขึ้น ก่อนที่แหวนนั้นจะกลายเป็นโลหะ โดยที่มีอัญมณีสีส้มสดอยู่ตรงกลาง



                   
    “แหวนกำลังเปลี่ยนรูปร่าง”โกคุเทระเอ่ยด้วยความตื่นตะลึงไม่แพ้คนอื่น จนกระทั้งแสงจากแหวนหายไป เผยให้เห็นแหวนที่สปาด้าไม่เคยเห็นแต่ก็คล้ายกับอันที่พ่อของเขาใส่อยู่




                   
    “ย๊ากกกก
    !!!”สปาด้าสติแตก ทันทีที่เขาเห็นแหวนนั้น เขาดิ้นสุดฤทธิ์ก่อนจะวิ่งจู่โจมเข้าหาหญิงสาว โดยที่ชิชิสะกลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขารีบคว้ามือของเธออย่างแรงก่อนจะจับที่แหวนเมื่อจะเอามันออกมาจากนิ้วของเธอทว่า ทันทีที่เขาแตะต้องแหวนนั้น เขาก็ต้องรีบปล่อยมือเพราะต้องของร้อน มือของเขาค่อยๆปรากฏลูกไฟสีส้มเพลิง และมันก็ค่อยเผามือของเขาอย่างช้าๆ




                   
    “อ๊ากกกกกกก
    !!!”สปาด้ากู่ร้องด้วยความทรมาณ จากมือเริ่มลามมาที่แขน สปาด้ากลิ้งคลุกฝุ่นไปมาเพื่อที่จะดับไฟ ทว่า มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น




                   
    “ช่วยด้วย
    !!! ใครก็ได้ดับไฟที!!!!”สปาด้าน้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดทรมาณอย่างน่าสมเพช ทว่าในสายตาของเหล่าลูกน้องทั้งหลายกลับไม่ใช่ เพราะพวกเขาผูกพันกับบอสคนก่อน ซึ่งก้คือพอของสปาด้าเป้นอันมาก ทันทีที่พวกเขารู้ความจริงความแค้นก็ฝังแน่นในอก แต่ด้วยกฎของซิเอโล่ พวกเขาไม่มีสิทธิ์สปาด้า แม้ว่าเจ้านั้นจะฆ่าคนเป็นผักปลา เอาพวกเขาไปตายฟรีๆกับสิ่ทงี่เป็นความบรรเทิงของเขานั้น การถูกเผาเผาตายในครั้งีน้ก็สามารถกับความทุกทรมานสำหรับทุกคนได้รับแล้ว




                   
    “ช่วยด้วยยยยยยยย
    !!!!”สปาด้าร้องกู่วิงสะเปะสะปะหมายจะหาคนช่วย ตอนนี้ไฟได้ลามไปทั่วตัวของเขาแล้ว สปาด้าดิ้นอย่างทรมานอย่างถึงที่สุด ชิชิสะมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยหลากหลายความรู้สึก ก่อนที่เธอจะหันหน้าไปทางเอาฝังใบหน้าของตัวเองลงบนไหลากว้างของคนที่โอบกอดร่างของเธอ ดีโน่นั่งนิ่งก่อนที่จะลูบศรีษะของเธออย่างปลอบประโลม อ้อมแขนแกร่งยิ่งกระชับเธอไว้แน่นด้วยความห่วงใย


                    “ในฐานะของคนสนิทของแกสปาด้า ฉันจะช่วยแกเอง”ม้ลโก้เอยพร้อมกับปากกระบอกปืนที่หันไปทางสปาด้า

     

     

     

    ปัง!!       

     


     

     

     

                    ร่างของสปาด้าแน่นิ่งไปทันใดพร้อมกับเปลวไฟที่ยังคงเผาไหม้ร่างนั้น โดยที่พวกเขาไม่ได้กลิ่นของเนื้อไหม้หรือว่าควันไฟ จนกระทั้งร่างของสปาด้าถูกเผาจนสลายเหลือเพียงแต่เถ้าธุลี




                   
    “....ลาก่อนสปาด้า”น้ำเสียงของชิชิสะเบาหวิว เธอมองเศษเถ้าธุลีที่ปลีบหายไปตามสายลมนั้นด้วยใบหน้าเรียกแต่เนตรสีขี้ดถ้าก็แทบแฝงด้วยความหมองหม่น




                   
    “บอส ปลอดภัยน่ะครับ”มัลโก้เอ่ยกับหญิงสาวพลางคุกเขาร่างข้างร่างของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนปนห่วงใย ทำให้ดีโน่นึกงุนงง นี้ตกลงทั้งสองคนร่วมมือกันงั้นรึ?




                   
    “ฉันบอกนายไปกี่ครั้งแล้วมัลโก้ อย่าเรียกฉันแบบนั้น”หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบแกมรำคาญนิดๆที่คนสนิทยังคงทำเหมือนเธอเป็นหัวหน้าอยู่เสมอๆ




                   
    “ไม่ได้หรอกครับ ซิเอโล่เหลือคุณเพียงคนคนเดียวแล้ว”มัลโก้เอ่ยอย่างคาดหวัง พร้อมกันนั้นแหวนซิเอโล่ก็กลับคืนสภาพเป็นสภาพเดิม




                   
    “ใครว่าล่ะ”เธอเอย่ทั้งรอยยิ้ม ในตอนนั้นเองที่พวกเขาได้ยินเสียงฮีลีคอปเตอร์ ลงจอดใกล้ๆโกดัง มีคนบางส่วนรีบวิ่งออกไปดูก่อนที่ทุกคนจะต้องตกตะลึงกับบุคคลที่กำลังเดินลงจากฮีลีคอปเตอร์




                   
    “บอส
    ! ท่านวิกเตอร์!”สองชื่อที่เหล่าแฟมิลี่คิดว่าได้ตายไปแล้ว กลับมาปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา ชายแก่ร่างท้วมในชุดสูทสีขีมาลายทางดูใจดีเดินถือไม้เท้าเข้ามาในโกดัง พร้อมกับร่างสูงของบุรุษผู้หล่อเหลา ชายคนนั้นมีโครงหน้าใกล้เคียงสปาด้า แต่ตาดูโตกว่าและมองดูอ่อนโยนไร้พิษสงกว่ามาก


                    “นี้มันหมายความว่าไงกันครับ?”มัลโก้งงงวยสุดๆก่อนจะหันไปมองหญิงสาว เธอพยายามลุกขึ้นยืน ดีโน่ก็รีบพยุกเธอขึ้นตามใจสั่ง สึนะแหละคนอื่นๆรีบมาร่วมตัวกับดีโน่ก่อนจะหันไปมองบอสรุ่นที่แปดที่น่าจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่อาทิตย์ก่อน




                   
    “คนที่สปาด้าฆ่าเป็นแค่อาวุธกล่องของพี่น่ะ ตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่าใครเป็นส่งนักฆ่าไปลอบสังหารท่านพ่อ ก็เลยเอาท่านพ่อไปซ่อนแล้วแกล้งบอกว่าท่านตายแล้วยกให้ตำแหน่งบอสให้กับฉันที่เป็นตัวปลอม อันที่จริงตอนนั้นก็แอบมาอยู่กับท่านพ่อแล้ว แล้วพี่ก็ค่อยจับตาดูว่ามีใครประสงคืร้ายกับฉันผ่านอาวุธกล่อง จนกระทั้งรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของสปาด้านั้นแหละ”ชายหนุ่มที่ชื่อวิกเตอร์อธิบายก่อนจะค่อยๆสลดแม้เขาคิดจะฆ่าวิกเตอร์และสปาด้าก็คือพี่ชายแท้ๆของเขา จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกอาลัยกับอีกฝ่าย




                   
    “ไม่ต้องห่วงน่ะครับพี่ ผมจะรับช่วงต่อจากพ่อเอง พี่ไม่ต้องห่วงอะไรผมอีกแล้วล่ะ”วิกเตอร์เอ่ยด้วยความยินดี มองพี่สาวที่บาดเจ็บหนักตรงหน้า คนที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเขาแล้วก็พอ ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้มีสายเลือดร่วมกันเลยแท้ๆ



                   
    “ดีแล้วล่ะ อย่าทำตัวเหมือนเจ้าสปาด้าก็แล้วกัน”หญิงสาว แม้นึกเอ้นดูอยากจะลูบหัวอีกฝ่าย แต่มือของเธอในตอนนี้เปื้อนเลือด จึงได้เพียงส่งยิ้มได้ความเอ็นดูเท่านั้น




                   
    “ผมต้องขอบคุณพวกคุณจริงๆที่ช่วยเหลือพี่สาวของผมมาจนถึงตอนนี้ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแฟมิลี่ของพวกเรา
    !”เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังขึ้นอย่างปิติยินดี ที่บอสของพวกเขาและว่าที่บอสยังคงมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางเสียงกึกก้อง สติของหญิงสาวก็ค่อยๆดับไป...

     

     





    +++++++++++++++++

    เก็บตก!



    เดสน์วูฟล์ (Dawn Wolf) = หมาป่าอรุณ



    อินดูเมนติ ดิโอ (indumenti dio) = อาภรณ์ของพระเจ้า
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×