ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : SM love รักพันธ์ร้ายของเจ้าแม่สายพันธ์บู๊

    ลำดับตอนที่ #3 : EP.1 : ซิเอโล่แฟมิลี่

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 53





    EP.1 : ซิเอโล่แฟมิลี่


     

     

     

                    “งานเลี้ยงนี้คึกคักดีน่ะ”


                   
    “นั้นสิครับ”


                   
    “....แต่ว่าก็ต้องระวังตัวด้วยน่ะครับ ไม่รู้คนพวกนั้นจะตุกติกอะไรบ้าง”บทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสองดังขึ้นอย่างเงียบงันอยู่ติดกับระเบียงรอบนอก ร่างของของบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นบอสทั้งคู่

     

     

    ทั้งคาวัลโลเน่

     

    และวองโกเล่

     

     

    คนหนึ่งผู้ชายหนุ่มดูเกศาสีทองหยักศกเล็กน้อยตามฉบับของคนต่างชาติ เนตรสีน้ำตาแก่ดูนุ่มลึกและสุขุมสมกับวับย่างเข้า31 ดวงหน้าเรียวยาวหล่อเหลาที่มัดใจได้ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่

                    ส่วนอีกคนเป็นบุรุษที่ดูอบอุ่นไม่แพ้กัน เขาเป็นชาวญี่ปุ่น จึงดูตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ ทว่ากลับดูองอาจและนุ่มนวลไปในเวลาเดียวกัน ดวงหน้าหล่อเหลารับกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มสั้นระต้นคอและนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน แม้ออกจะติดน่ารักไปสักนิด แต่ก็ชวนให้สาวเจ้าต้องเหล่หางตามองอย่างช่วยไม่ได้

     

                    พวกเขาและเหล่าบอสพันธมิตรร่วม27 แฟมิลี่อยู่ร่วมกันน่ะที่แห่งนี้....เกาะส่วนตัวของบอสแห่งซิเอโล่แฟมิลี่ที่ได้ส่งบัตรเชิญมายังทางเหล่าพันธมิตรทั้งหลายเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรเนื่องในโอกาสการแต่งบั้งบอสคนที่เก้าของแฟมิลี่ ว่ากันว่าผู้ถูกเลือกแต่งตั้งนั้นเป็นบุตรชายคนเล็กของบอสคนเก่า เป็นคนที่พวกเค้าคาดว่า

     

     

     

    ชายคนนั้นเป็นคนที่เคยคิดจะลอบสังหารทั้งเขา....และสึนะ

     

     

                    “แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นก็คงจะแย่น่าดู”ดูโน่เปรยขึ้นเบาๆ


                   
    “ครับ”สึนะพยักหน้ารับ เพราะว่ากฎของการเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ทุกคนจะต้องฝากแหวน อาวุธและกล่องทั้งหมดไว้ที่พนักงานของซิเอโล่ซึ่งนั้นเท่ากับว่า ตอนเวลานี้พวกเขาไม่สามารถใช้อาวุธใดๆได้นอกจา กำปั้นนี้เท่านั้น


                   
    “แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างใช้กำปั้นมันก็อีกเรื่อง”สึนะเอ่ย ในตอนนี้เขาไม่ใช่เจ้าสึนะห่วยๆอีกแล้วน่ะ ต่อให้ยังมีนิสัยขี้กังวลอยู่บ้างแต่ไอ้เรื่องเตะต่อยเขาก็มีดีอยู่เยอะโข ส่วนฝ่ายดีโน่เองของแค่มีลูกน้องก็ไม่เสียท่าง่ายๆต่อให้ไม่มีแส้ก็ตามที่


                   
    “บอสครับ น้ำครับ”พูดถึงได้ไม่นาน ลูกน้องคนสนิทของดีโน่ก็ปรากฏกาย ชายวัยกลางคนที่คาดว่าน่าจะเกือบห้าสิบได้แล้ว ส่งยืนเครื่องดื่มสีแดงก่ำให้แก่บอสของตนเอง ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน ผู้พิทักษ์แห่งวายุก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับแก้วทรงสูงในมือที่บรรจุน้ำสีใสอมเหลืองจางๆเอาไว้


                   
    “ขอบคุณน่ะโกคุเทระคุง”เจ้าหนุ่มยิ้มตอบผู้เป็นเพื่อนสนิท ก่อนจะจิ้มไวน์ขาวในแก้วเพียงพอประมาณ จะว่าไปว่ามาเขาก็ได้เปรียบเรื่องอาวุธอยู่อย่างหนึ่ง.....ก็โกคุเทระน่ะเอาไดนาไมค์ใส่ไว้รอบตัวชนิดที่แบบว่าขนาดโดนอีกฝ่ายคนตัวจนพรุนแล้ว สุดท้ายพอเข้ามาในงานได้ เจ้าตัวยังมากระซิบยิ้มเยาะแอบหยิบไดนาไมค์จากที่ซ่อนที่ไหนก็ไม่รู้มาให้เขาดูอีก

     

     

     

    ไปเป็นนักมายากลถ้าจะเวิร์คดีน่ะ โกคุเทระคุง= =

     

     

     

                    “งั้นฉันขอลองเดินไปสำรวจดูรอบๆหน่อยน่ะ”ร่างสูงเอ่ยก่อนจะขอตัวไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท พวกเขาเดินไปดูงานรอบๆ ภายในงานมีทั้งกลิ่นอาหาร กลิ่นเครื่องดื่ม กลิ่นน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นของซิก้าเป้นบ้างจุด เขาไม่ค่อยจะชอบเสียซะเท่าไหร่ มันดูวุ่นวายยังไงชอบกล....แต่มันก็สนุกดีน่ะ


                   
    ร่างสูงเดินพบปะคนกับรู้จักในงานบ้าง เจอคนสนิทบ้าง แต่เขาก็เลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆมากว่าคุยแจคิดอยู่กับใครสักคน บ้างครั้งเขาชำเหลือกสายตามองเหล่าหญิงสาวที่แอบหันมามองเขาด้วยสายตาที่ปรารถนาในตัวเขาอย่างผิดไม่อยู่ และคนอย่างเขาก็เพียงแค่ยิ้มสุภาพส่งต่อเท่านั้น ก่อนที่เขาจะไปสะดุดสายตาอยู่ที่คนคนหนึ่ง

     

     

     

    .....เคียวยะ!!?

     

     

    ไม่สิ.....นั้นไม่ใช่เคียวยะ ก็เคียวยะไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงนิน่า



     

     

                    สิ่งที่ทำให้เขาสะดุดคือใบหน้าของคนคนหนึ่งคล้ายกับใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ร่างบางแต่ดูปราดเปรียวในชุดสูทที่ดูแปลกตา กำลังดื่มเครื่องดื่มสีแดงกำเหมือนเขา โดยที่ร่างนั้นยืนพิงพนังอยู่คนเดียวเงียบๆดูห่างไกล

     

     



    ปลีตัวอยู่อย่างโดดเดียวแต่องอาจ.....นั้นก็เหมือน


    หน้าบอกบุญไม่รับและดูสุขุมในเวลาเดียวกัน.....นั้นก็เหมือน


    จมูกโงเชิดดูหยิ่งทะนง.......นั้นก็เหมือน


    เกศาและเนตรสีดำขลับ......นั้นก็เหมือน


     

     

    เส้นผมบางสั้นระต้นคอที่มีจุดผิดเพียงปอยผมหน้าข้างซ้ายที่เลี้ยงไว้ยาว จะว่าไปก็ไม่ใช่ว่าเหมือนหรอก....แต่ว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนว่าจะใช่ อีกทั้งใบหน้านั้นก็ไม่ได้ดูเหมือนเคียวยะในตอนนี้....แต่เมหือนกับตอนเด็กเสียมากกว่า

    “บอสครับ”โรมาริโอ้ที่รู้สึกถึงอาการแปลกของผู้เป้นบอสที่หันไปมองหญิงสาวปริศนาในชุสูทแปลกตาคนนั้นอยู่นาน


                   
    “เหมือนคุณฮิบาริมากเลยน่ะครับ”โรมาริโอ้ออกความเห็น เพราะมันเหมือนกันมากอย่างช่วยไม่ได้ทั้งหน้าตา นิสัย และบรรยากาศรอบตัว ให้ความรู้สึกคล้ายๆกันมาก

     

     



    .....คงไม่ใช่ว่าเคียวยะแต่งหญิงมาเพื่อหลอกตาคนพวกนี้หรอกน่ะ
    = =;;;(ดูมันคิด= =;;)

     


     

                    และดูเหมือนสาวเจ้าจะรู้สึกได้ถึงสายตาของใครบางคนที่จับจ้องมายังเธอ สาวเจ้าตะวัดสายตาเหี้ยมใส่จนดูโน่กับโรมาริโอ้ถึงกับสะดุ้ง

     

     

     


    โหดเหมือนกันด้วย
    ^ ^;;;



     

     

                    ร่างสูงแค่นยิ้มแบบเหงือกแห้งให้สาวเจ้า ก่อนที่เธอคนหน้าจะก้มหน้าลงจิบแก้วไวน์ของตัวเองต่อไป บรรยากาศที่ทำให้ไม่มีผู้ใดเฉียดเข้าใจ เนตรสีนิลกาฬอันว่างเปล่าและไม่สนใจสิ่งใด แต่ทว่าน่าแปลก

     

     

     


    .....มันจะดึงดูดได้อย่างประหลาด

     


     

                    “สวัสดิ์ดีครับ คุณคาวัลโลเน่”ทว่าน้ำเสียงทักทายปริศนาก็ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มรีบหันไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว


                   
    “ใช่จริงๆด้วยสิน่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักผม สปาด้า คาเน่ ซิเอโล่ครับ”เสียงสุภาพของบุรุษเนตรคมดังขึ้น ชายคนนั้นเป็นบุรุษร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีครีมอ่อนดูดี เส้นผมสีช็อกโกแล็ตถูกหวีเรียบแสกข้างอย่างสุภาพและดุหน้ามอง เนตรสีครามที่คมเรียวตี่มากซะจนแทบจะมองไม่เห็นสีนัยน์ตาเอ่ยทักทายแขกผู้มีเกียรติอย่างเป็นมิตร

     

     



    นี้แหละเจ้าภาพงาน.......จิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์แห่งท้อง


     

     

                    “ยินดีเช่นกันครับ ผมดีโน่ คาวัลโลเน่”


                   
    “ครับผมรู้ คุณเป็นคนที่ผมอยากพบมานานมาแล้วครับ”ร่างโปร่งเอ่ยพลางเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกให้แก่ดีโน่ ร่างสูงมองมันอย่างไม่ไว้วางใจ แต่ก็ไม่แสดงอาการ และเลือกที่จะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายไปเสียแทน


                   
    “งั้นหรอครับ เป็นเกียรติมาเลยทีเดียว”


                   
    “ครับ ก็คุณเป็นคนดังนี้ครับ เมื่อครู่ผมก็เพิ่งไปคุยกับวองโกเล่มา ทั้งคุณทั้งเขาต่างเป็นต้นแบบของผมเลยล่ะครับ”ร่างโปร่งกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง


     
                   “งั้นหรอครับ”ร่างสูงยิ้มตอบกลับ ก่อนที่เขาจะเผลอชำเหลือกสายตาไปที่ระเบียงอย่างลืมตัว

     

     



     

    ไม่อยู่แล้วแฮะ....



     

     

                    “ครับ โอ๊ะ! ได้เวลาแล้ว ผมขอตัวน่ะครับ”ร่างโปร่งกล่าวก่อนจะโค้งคำนับอีกฝ่ายงามๆและรีบเดินจากไป ดีโน่และโรมาริโอ้มองแผ่นหลังของชายผู้นั้นไปจนลับตา


                   
    “ดูไม่เหมือนกับข่าวลือเลยน่ะครับ บอส”โรมาริโอ้กล่าว ดีโน่พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้อยู่ดี

     


     

     

    คิ้วเขากระตุกแปลกๆ ยังกับจะบอกว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ....

    ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงดี.......


     

     

     

     

     

     

     

    พรึบ!!!!?

     

     

     

     

                    เพียงไม่ถึงสิบห้านาทีที่เจ้าของร่างโปร่งนั้นหายไป ไฟในห้องงานเลี้ยงก็ดังลงเสียดื้อๆ ทุกคนต่างอยู่ในอาการงงงวย ก่อนที่จะมีแสงไฟจากสปอร์ตไลท์ปรากฏขึ้นและชี้ไปกลุ่มคณะกลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่กลางงาน


                   
    “หึ?”ทุกคนต่างงงงวยและอยู่ในอาการตื่นเต้นสนใจ เพราะกลุ่มคนที่ยืนอยู่กลางสปอร์ตไลท์นั้นดูมีการแต่งตัวที่แปลกตาและมีอะไรที่หลายๆอย่างที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนในงานทุกคน


                   
    “อะไรกัน? คณะละครสัตว์รึไง?”ดีโน่สงเสียงเบาๆพลางมองดูการแสดงที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเพลิดเพลิน ทว่าคนพวกนั้นก็เป็นคณะละครสัตว์ที่สัตว์กล่องและพวกเขาก็จุดไฟที่แหวนได้ ซึ่งมันก็ดูน่าตื่นตาและน่าสนใจไปอีกแบบ


                   
    อย่างเช่นการให้นางแอ่นวายุ ทั้งสองตัวบินวอนไปรอบๆงานทำให้เกิดละอองสีแดงจรัสกระจายไปเกาะตามตัวของผู้ร่วมงานซึ่งมันช่างดูสวยงามวิบวับและหรูหรา เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าแขกนัก หรือการที่ตัวนากพิรุณสามตัวต่อตัวกันก่อนที่มันจะหมุนเป็นทอนาโด และมีแสงสีฟ้าเป็นริ้วออกมาจากการหมุน แสงนั้นวิ่งผ่านร่างของผู้คนมากมาย ซึ่งมันยิ่งทำให้ทุกคนตื่นตามากขึ้น เพราะมันก็ไม่ตากจากแสงไฟที่อยู่ในลูกไปดิสโก้มากนัก


                   
    ต่อไปก็เป็นตัวนิ่มเมฆาที่มีแค่ตัวเดียว และมันก็ม้วนตัวเองจนกลมเหมือนลูกบอล ก่อนที่พวกนั้นจะกระโดดขนสูงและวิ่งที่โคมไฟระย่าก่อนที่มีนจะแยกตัวอีกเป็นห้าตัวจนวิ่งวนรอบเพดานเป็นรูปต่างๆ โดยที่มีแสงจากไฟกับเครื่องชนทำให้มองเห็นพวกมันได้ชัด และแสงไฟสีม่วงจากไฟดับเครื่องชนก็ทำให้คริสตัลจากโคมไฟระยะเบ่งกระกายระยิบตาสุดตะกานตาจนเหล่าผู้คนต้องปรบมือกันใหม่


                   
    “สุดยอด
    !


                   
    “เอาอีก
    !”เสียงของเหล่ามาเฟียที่ดุจะตื่นตาไม่น้อยกบการฝึกสัตว์กล่อง ดีโน่ก็ไม่ต่างกัน และปรบมือไปกับการแสดงของคนพวกนั้นทว่า


                   
    “เฮือกกก
    !?”ในตอนนั้นเองที่ดีโน่รู้สึกผิดแปลก ร่างกายที่หนักอึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แขนขาไร้เรี่ยวแรงจนเข้าประครองต้นเองไม่ได้ ไม่ใช่แค่นั้นแม้กระทั้งคนรอบกายที่เขาพอจะสังเกตให้ได้จากความมืดนั้น ต่างก็มีอาการแบบเดียวกับเขา ร่างการของเขามันเจ็บแสบไปทั่ว สติที่เริ่มครองไม่อยู่ พร้อมกับที่พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะแปลกๆของเหล่าคนณะละครสัตว์พวกนั้น


                   
    “ที่นี้ก็เสร็จแล้วสิน่ะ งานของเรา”หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างพึงพอใจ โดยที่คนภายในงานบางคนหมดสติไปแล้ว แต่ยังมีส่วนมากที่พยายามฝืนสังหาร และต้องการรับรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างพยายามลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนบนผิวหนังช่างทรมานเสียจนอยากจะส่งเสียงร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด


                   
    “จับพวกมันทั้งหมดไปไว้ที่คุกใต้ดิน
    !”ดีโน่ได้ยินเสียงตะโกนจากที่ไหนสักแห่ง แต่มันแย่มกาที่จะบอกว่าเขาในตอนนี้ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เลยแม้แต่น้อย


                   
    หรือเพราะผลจากแสงสีของสัตว์กล่องพวกนั้น
    !?


                   
    ร่างสูงนึกสบถด่าตัวเองในใจที่ไม่เข้าใจกลลวงของอีกฝ่าย การแสดงก็แค่ตัวล่อ ที่จริงแล้วคนพวกนี้จงใจให้สัตว์กล่องแผ่ไฟดับเครื่องชนออกมาในรูปแบบต่างๆเพื่อทำให้เกิดผลในภายหลัง พิรุณเพื่อระงับ และวายุเพื่อใช้ความเจ็บปวดจากไฟวายุเพื่อไม่ให้คนในงานไม่มีสมาธิมาคิดถึงเรื่องทางหนีที่ไล่ มีแต่จะพยายามหาตัวต้นต่อเท่านั้น
    !

     

     


    บ้าที่สุด
    !!

     

     

     

                    “อะไรกัน แปบเดียวโผล่หางออกมาแล้วรึไง?”น้ำเสียงเรียบเย็นยะเยียบดังขึ้นท่ามกลางความสับสน เหล่าผู้ก่อการร้ายต่างมึนงงและไม่อาจจะรู้ได้ว่าเจ้าของต้นเสียงอยู่ที่ใด ความมืดกลายเป็นคมดาบหันเข้าทำร้ายพวกเขาแล้ว!

     

     




    อะหู้!!!!!!!!

     

     


                   
    เสียงเห่าหอนของสัตว์สี่เท้าดังขึ้น เหล่าผู้คนที่ยังสบสันไม่อาจจะรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พวกเขารับรู้ได้ทันทีถึงความเจ็บปวดที่น้อยลง แต่ว่าด้วยผลของธาตุพิรุณยังทำให้พวกเขาขยับกายไม่ได้อยู่ดี

     
                  
     “รีบไปเปิดไฟ เร็ว
    !!”หนึ่งในคนของคณะละครสัตว์ร้องดังขึ้นสั่งให้คนใต้บังคับบัญชาการรีบวิ่งไปเปิดไฟ ทว่าสายไปเสียแล้ว เหล่าคณะละครสัตว์เห็นเงาตะคุมอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่รางนั้นจะเข้าสู่เขตที่มีสปอร์นไลท์ ไฟสปอร์ตไลท์ก็ดับเอาเสียดื้อๆพร้อมกับเสียงเหมือนกระจกแตก

     
                  
    “จะเล่นให้ตาย.....”

     
                  
    “อ๊ากกกกก
    !!!!





    ___________________________________________
    เก็บตก

    ซิเอโล่ =Cielo เป็นภาษาอิตาลี่แปลก นภา....

    ชะอ้าว! =0= แฟมิลี่นภากลายเป็นตัวร้ายไปซะแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย!!?
    (ชื่อแฟมิลี่ออกจะตัวเอ้ก ตัวเอก= =)




    เม้น+โหวดเยอะๆน่า เหมี่ยวขอ!^[]^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×